ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fierce #ดื้อมั้ยล่ะ ไม่ดื้อก็ไม่ดุ [BTS X YOU]-END-

    ลำดับตอนที่ #3 : #ดื้อมั้ยล่ะไม่ดื้อก็ไม่ดุ 03 | ก็เพื่อนไงไม่ใช่ผัว [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 64


    คำเตือนตัวโตๆ: ฟิคเรื่องนี้เป็นเนื้อหาแบบฟีลกู้ด มีดราม่าปะปน และฉากเรท บวกคำหยาบ พระเอกเป็นสายชิล ส่วนนางเอกเป็นสายเก็บกวาด กรุณาใช้จักรยานในการอ่านเป็นอย่างสูง ข่อมค้าบ


    #ดื้อมั้ยล่ะไม่ดื้อก็ไม่ดุ 03 | ก็เพื่อนไงไม่ใช่ผัว

    Jimin aesthetics. | Park Jimin Amino

    -ก็เพื่อนไงไม่ใช่ผัว-


    *ยังไม่ได้แก้คำผิด


         กว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสาม กว่ากิกิจะอ้วกหมดและนอนได้ก็ปาไปสามชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงและผมเพิ่งไปส่งงานอาจารย์ที่มหาลัยมาเมื่อกี้ แต่ผมก็ไม่ลืมซื้อโจ๊กมาฝากคนเมาเมื่อคืนด้วย ทันทีที่ประตูเปิดออกและผมเดินเข้าไปหาคนเมาเมื่อคืนในห้องนอน ตอนนี้กิกิคงจะตื่นนอนแล้ว และก็จริงด้วยกิกิตื่นแล้ว แถมยังนั่งกอดถังขยะอยู่ที่พื้นข้างๆเตียงนอนของผมอีก

         “ไหวมั้ยกิ”

         ผมถามพร้อมกับวางโจ๊กลงบนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนที่จะเดินไปหาคนเมาที่ตอนนี้กลายมาเป็นคนแฮงค์ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินไปถึงตัวกิกิ มือบางก็ยกขึ้นมาห้ามผมไม่ให้เข้าใกล้ สภาพกิกิตอนนี้ดูไม่ได้เลยสักนิด เส้นผมที่เคยเรียบสวยตอนนี้ฟูฟ่อง ร่างบางสมส่วนก็ถูกห่อด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ เมื่อคืนผมไม่ได้เช็ดตัวให้กิกิเพราะผมกลัวว่าเธอจะไม่โอเค เพราะแค่เมื่อวานตอนกิกิเมาผมก็โดนด่าเละแล้ว ถ้าเกิดว่าผมเช็ดตัวให้มันอีก มีหวังคราวนี้ชะตาผมได้ขาดแน่ เพราะกิหวงเนื้อหวงตัวมากอย่างกับอะไร

         “แฮงค์หนักอ่ะดิ มากินโจ๊ก ซื้อโจ้กมาฝาก”

         “กูอ้วกแตกขนาดนี้เอาอะไรมาแดกโจ๊กได้อีก ไปไกลๆเลย!

         “ไรว๊า”

         “กูเหม็นน้ำหอมมึงไอ้ปาร์ค!

         ผมหยุดฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปเอาโจ๊กไปให้ใก้ลๆ แล้วถอยหลังกลับไปที่หน้าทีวีแทนเพื่อเว้นระยะห่าง ผมเข้าใจว่าคนมันแฮงค์มันจะคลื่นไส้ต่างๆนาๆ ได้กลิ่นเหม็นก็ไม่ได้ กลิ่นหอมก็ไม่ได้ผมเข้าใจ ผมเลยไม่อยากเข้าไปกวน แต่สภาพกิกิแม่งไม่น่ารอด ถ้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องกิกิสักอย่าง มันก็ไม่มีวันหายแฮงค์หรอก

         “ไปหาหมอมั้ย”

         “อย่ามายุ่งกับกู”

         “เธอ”

         “อย่ามายุ่ง!

         เอา มีวีน เออ นี่เมาหรือแพ้ท้อง “กูขอโทษ”

         “ไม่ต้องมายุ่ง!

         “กูว่าแล้วว่ามึงโกรธกู เมื่อคืนมึงด่ากูยับ”

         “อย่ามายุ่งกับกู!

         พรึ่บ โครม!

         หมอนใบโตเฉียดหูผมไปนิดเดียวก่อนที่มันจะกระเด็นไปโดนแจกันหน้าทีวีล้ม จากนั้นผมเลยยอมแพ้ที่จะชวนกิกิคุย เพราะเธอคงจะไม่อยากคุยกับผมตอนนี้ ผมเลยปิดประตูห้องนอนแล้วออกมานั่งหน้าทีวีที่เดิมเงียบๆถึงแม้ว่าจะเป็นห่วงกิกิมาก็ตาม ผมอยากพาเธอไปหาหมอให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอคงไม่อยากให้ผมเข้าใกล้เธอ ผมเลยหยิบผ้าขนหนูแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแทน กิกิบ่นผมเรื่องน้ำหอมบ่อยมาก แต่ผมชอบกลิ่นนี้นี่หว่า ถ้ากิกิไม่ชอบก็แค่ซื้อกลิ่นที่กิกิชอบมาดิวะ เอ้อ ผมละไม่เข้าใจ

         แกร็ก

         เสร็จแล้วผมจึงออกมาจากห้องน้ำ โดยที่มีผ้าเช็ดผมพาดอยู่ที่คอ ผมใส่แค่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นธรรมดา เพราะวันนี้ไม่มีเรียนแต่ก็ต้องไปส่งงาน ผมเลยชิลได้ จากนั้นจึงเข้าครัวไปชงเกลือแร่ที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อเมื่อกี้ให้กิกิ ผมไม่กล้าเข้าไปในห้องนอนโดยตรง ผมเพียงแค่เปิดประตูแง้มๆแล้วแอบสอดส่องสายตามองดูอีกคนในห้องนอนแทน

         กิกิคงไม่เหม็นผมแล้วแหละ เพราะผมอาบน้ำแล้วผมก็ไม่ได้ฉีดน้ำหอมที่กิกิไม่ชอบแล้วด้วย เอาเป็นว่าตัวผมไม่มีกลิ่นอะไรเลยในตอนนี้นอกจากกลิ่นสบู่อ่อนๆ

         “เกลือแร่ ชงมาให้”

         ผมคุกเข่าลงกับพื้นแล้วแง้มประตูให้กว้างอีกหน่อยก่อนที่จะค่อยๆเลื่อนถาดที่มีเกลือแร่อยู่บนนั้นเข้าไปในห้อง โดยที่ผมไม่ได้สอดตัวเองเข้าไปในห้องนอน ผมได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆจากคนในห้อง เป็นผลให้ผมต้องชะเง้อหน้ามองอีกคนเพิ่มขึ้น กิกินอนเอนหลังพิงเตียงนอนเงยหน้ามองเพดานห้อง ถ้าให้ผมเดา กิกิคงจะลุกไม่ไหว ดังนั้นผมเลยฮึดเฮือกสุดท้ายค่อยๆคลานเข่าเข้าไปในห้องและหยิบแก้วเกลือแร่ไปให้กิกิถึงตัวด้วยตัวเอง

         “ไหวมั้ย”

         สภาพกิกิดูอิดโดรยมาก โคตรน่าสงสาร แต่ก็น่าตี ใครบอกให้ดื่มเยอะ ผมบอกแล้วว่าถ้าเครียดเรื่องอะไรก็แค่ให้บอกผม โกรธผมก็บอกผมได้เลยว่าเรื่องอะไร ผมจะแก้ไขให้ “ทีหลังโกรธให้บอก จะด่าก็ได้”

         “หุบปากไปเลย”

         “ไม่พาไปอีกแล้วนะ เมาแล้วดุฉิบหาย”

         ถึงผมจะบ่นถึงกิกิจะด่าผม แต่ผมก็ยังยกแก้วเกลือแร่ป้อนให้กิกิดื่ม กว่าจะดีขึ้นคงจะเป็นพรุ่งนี้ ยังไงซะวันนี้กิกิคงจะต้องทรมานไปเป็นวัน

         “พักผ่อนไป เดี๋ยวชงมาให้อีก”

         “อือ”

         พอกิกิเอ่ยตกลง ผมเลยออกมาจากห้องเพราะไม่อยากรบกวนอีกคนนาน โดยที่ไม่ลืมหยิบถาดที่พื้นออกมาด้วย จากนั้นก็เอาถาดไปไว้ที่ครัวก่อนที่จะไปหยิบโจ๊กที่ซื้อมาแช่ตู้เย็นไว้ ตอนนี้คนเมาคงจะยังกินอะไรไม่ได้ เอาไว้สักช่วงบ่ายค่อยอุ่นให้ใหม่แล้วกัน

         [ปิด บทบรรยาย : จีมิน ปาร์ค]


         [บทบรรยาย : กิกิ อิสรินทร์]

         16’34 PM

         เพราะเฮิร์ทเมื่อคืนเลยบุกหนัก ฉันเองก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะแฮงค์หนักขนาดนี้ทั้งๆที่ดื่มมาตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันไม่เคยแฮงค์เลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันกลับแฮงค์หนักถึงแม้กระทั่งข้าวต้มก็ยังหยอดไม่ได้ ให้ตายก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่าเมื่อคืนฉันทำอะไรลงไปบ้าง ฉันจำไม่ได้เลยสักนิด แม้กระทั่งตอนขึ้นรถกลับฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าฉันขึ้นรถกลับยังไง ขายหน้าฉิบ

         แกร็ก

         บานประตูถูกเปิดออกโดยคนคนเดิมที่มาเสิร์ฟเกลือแร่ให้เมื่อนึ่งชั่วโมงก่อน ความจริงตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้ว เพราะมีจีมินคอยดูแล แต่ก็ยังมีอาการแสบท้องอยู่หน่อยเพราะท้องว่าง ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยจนกระทั่งตอนนี้เพราะฉันกินอะไรไม่ได้ แค่ได้กลิ่นน้ำยาปรับอากาศก็ยังจะอ้วกเลย

         “แก้วสุดท้ายละ วันนี้กินได้แค่สี่ซอง”

         “อือ”

         แก้วเกลือแร่ถูกยื่นมาให้ฉัน ฉันจึงได้รับมันไว้ในมือแล้วจิบๆเอา ยังดีที่ไม่ปวดหัวเหมือนเมื่อตอนกลางวัน ไม่งั้นฉันคงจะได้กลิ้งอยู่ที่พื้นแล้วร้องไห้ออกมาอย่างโหยหวนก็ได้

         “ดีขึ้นบ้างยัง กินโจ๊กได้มั้ยจะไปอุ่นให้”

         “อือ”

         ฉันครางในลำคอตอบออกไปแค่นั้น เพราะฉันไม่มีแรงจะพูดอย่างอื่นได้เยอะๆอีก หมดแรง แค่ลุกนั่งยังเหนื่อย นี่ถ้าไม่มีจีมินคอยเอามาเสิร์ฟ ฉันคงเฉาตายคาเตียงไปแล้วแน่ๆ

         แกร็ก

         บานประตูถูกเปิดอีกครั้งหลังจากที่จีมินบอกว่าจะไปอุ่นโจ๊กให้ ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นธรรมดาเดินกลับเข้ามาพร้อมถาดกับชามโจ๊กอุ่นๆอย่างระมัดระวัง นี่แหละเหตุผลที่ฉันไม่ยอมเลื่อนขั้นกับจีมินสักที เพราะอย่างแรกจีมินใส่ใจเพื่อนมากกว่าแฟน และอย่างที่สองจีมินไม่อินกับความรักฉันเลยต้องเลือกเป็นเพื่อนกับมันแทน

         “นั่งดีๆ เดี๋ยวเค้าป้อนเอง”

         “อยู่กันสองคน ไม่เห็นต้องมาพูดเพราะ อย่าทำกูเข้าใจผิด”

         ฉันบ่น เพราะการกระทำของจีมินมันไม่เหมือนเพื่อนทำให้กันเลยสักนิด ฉันไม่ชอบเวลาที่มันเรียกฉันว่าเธอแล้วแทนตัวเองว่าเค้า โคตรกระดากปาก ตลก

         “ทำไมอ่ะ เพื่อนกันพูดกันเพราะๆผิดตรงไหน” มันเถียง

         “เอาไว้ไปพูดกับเมียมึงในอนาคตเถอะ กูขอ มึงเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่ผัวกู อย่ามา”

         “งั้นหายแล้วดิถ้างั้น”

         “เออ เอามากินเอง”

         ฉันเกือบจะแย้งชามโจ๊กมาตักกินด้วยตัวเองแล้ว แต่ทว่าอีกคนเร็วกว่า จีมินเบี่ยงชามโจ๊กไปทางอื่นและร่างสูงที่เพิ่งทรุดตัวนั่งลงบนเตียงเมื่อครู่ก็รีบเด้งตัวลุกออกไปทันทีทำเอาฉันงง มึงจะไปไหนก่อน สรุปกูจะได้กินมั้ยโจ๊ก

         “ถ้างั้นออกไปกินข้าวข้างนอกกับกู” นั่นไง กูว่าละ

         “ไม่ไป กูเหนื่อย”

         “ไปกับเค้าเหอะน๊ากิกิคนสวยนะๆๆๆ”

         “กูไม่ไหวปาร์ค มึงดูสภาพกูดิ๊!

         “ถ้างั้นกูไปกินกับออมสองคนนะ”

         “....”

         พอได้ยินชื่อออมปุ๊บฉันก็หยุดชะงักในทันที ฉันรู้ว่าในตอนนี้สีหน้าฉันแสดงออกว่าไม่พอใจออกไปชัดเจนแน่ๆ มันถึงได้พูดว่า “นั่นไง ก็เพราะว่ารู้นั่นแหละว่ามึงจะไม่พอใจกูเลยชวนมึงไปด้วย”

         คนที่ชื่อออมที่ว่าคือผู้หญิงที่มันจูบลงสตอรี่เมื่อวาน พูดแล้วแม่งโมโหฉิบหาย หยิบอ้วกในถังขยะสาดแม่งซะเลยดีมั้ย เหอะ มารยาทดีจริงนะ มาชวนกูไปโดยที่ไม่เช็คสภาพกูเลยสักนิด ขอบคุณมาก แต่ไม่ต้องไอ้เวร !

     50%


         “จะไปไหนก็เรื่องของมึงเถอะ ไม่ต้องยุ่งกับกู”


         “เออ ถ้างั้นกูไปนะ กูวางโจ๊กไว้ตรงนี้ ถ้าจะกลับกุญแจอยู่หน้าทีวี” เออ ไอ้ควาย


         ว่าจบมันก็หันหลังออกไปจากห้องจริงๆ ฉันรู้ดีว่าจีมินมันเป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อยอะไร แตกต่างจากฉัน ที่ชอบทำหน้าดุๆให้มันเอือมระอาในตอนที่รู้สึกไม่พอใจ ฉันไม่ได้อยากแสดงความเป็นเจ้าของกับจีมินตั้งแต่แรก และฉันก็ไม่เคยอยากแสดงด้วย ฉันเลยต้องทำตัวดุๆและน่ารำคาญมันจะได้เอือมฉันแล้วเกลียดฉันไปซะ เพราะนี่คือทางออกที่ดีที่สุด ดูแล้วยังไงซะฉันก็เป็นคนเสียเปรียบ เสียเปรียบตั้งแต่แรก เพราะมันเป็นคนดีแล้วก็แซ่บขนาดนั้นใครบ้างล่ะอยู่กับมันแล้วไม่ชอบ


         สุดท้ายฉันก็ไม่ได้กินโจ๊กที่จีมินซื้อไว้ให้ ฉันเลือกที่จะทิ้งโจ๊กไว้อย่างนั้นแล้วกลับหอแทน ฉันออกมาโบกแท็กซี่ด้วยสภาพที่ดูก็รู้เลยว่าเมื่อคืนไปไหนมา ฉันแฮงค์หนักมากจนตอนนี้ก็ยังแทบจะเดินไม่ไหว แต่ทว่าวันนี้ทั้งวันยังไม่มีอะไรตกถึงท้องฉันเลยสักอย่างนอกจากเกลือแร่ ฉันเลยต้องแวะที่ร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวตรงเซเว่นใกล้ๆกับหอฉันก่อน


         ชามหมี่เกี๊ยวที่มีเส้นหมี่เหลืองกับเกี๊ยวสี่ชิ้นถูกวางตรงหน้าฉันหลังจากที่ฉันนั่งอิดโรยรอมาเกือบสามนาที ฉันรีบตักน้ำซุปหอมๆซดเข้าปากในทันทีโดยที่ไม่ปรุง พอได้ลิ้มรสอุ่นๆของน้ำซุปแล้วมันกลับทำให้อาการพะอืดพะอมหายไปซะดื้อๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่หายไปเลยทีเดียวก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ


         ตอนนี้เป็นช่วงสองทุ่มกว่าๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนกำลังเดินว่อนหาอะไรกินกันเป็นอาหารเย็น ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ฉันเคยได้ใช่ชีวิตสันโดษด้วยตัวคนเดียวมาตั้งหลายเดือนและฉันก็มีความสุขกับชีวิตแบบนั้นของฉันมากๆ จนกระทั่งมาเจอจีมินนี่แหละ ชีวิตของฉันมันกลับตาลปัตรพลิกผันไปหมด


         จากที่เคยอยู่คนเดียว จะกินก็ได้ จะไม่กินก็ได้ จะทำอะไรก็ไม่ต้องรอใคร ไม่มีเรื่องปวดหัวเข้ามาในชีวิต แต่พอมีจีมินเข้ามาในชีวิตกลับทำให้ฉันสูญเสียความเป็นตัวเองไปมากโข ฉันสูญเสียความเข้มแข็ง และความเด็ดขาดไปเยอะมากตั้งแต่เจอมัน


         ฉันเคยสัญญาว่าจะไม่ชอบใครอีกเพราะฉันรู้ดีว่าตัวฉันเองไม่เหมาะกับความรัก แต่สุดท้ายฉันก็แพ้ทางจีมินและหลงรักมันไปแบบโง่ๆ แต่จะทำอะไรได้ต่อจากนี้ ก็แค่ปลง ปล่อยให้มันไปจูบกับใครก็ได้ ปล่อยให้มันไปเอากับใครก็ได้โดยที่ฉันไม่มีสิทธิ์ห้าม ฉันต้องอยู่ในที่ของตัวเองและเด็ดขาด เพราะถ้าหากว่าวันไหนฉันเผลอแสดงอาการหึงหวงออกไปล่ะก็


         วันนั้น=ฉันกับจีมินจะแตกแยกไม่มีชิ้นดี


         กึก


         “??”


         ในระหว่างที่ฉันมัวแต่นั่งชื่นชมภาพอันแสนสุขในยามค่ำคืนและคิดถึงอดีตเก่าๆของตัวเองอยู่นั้น จู่ๆก็มีกล่องน้ำผลไม้กล่องหนึ่งวางตรงหน้าพร้อมกับหมี่เกี๊ยวอีกชาม พอฉันเงยหน้ามองฉันถึงได้รู้ว่าเป็นร่างสูงของเพื่อนต่างคณะของจีมิน แทฮยอง


         เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดธรรมดาแต่ราคาแพงกับกางเกงบอล ดูก็รู้ว่าคงจะไปเตะบอลมา สีหน้าของเขาเรียบเฉยในขณะที่มานั่งลงและโซ๊ยหมี่เกี๊ยวเงียบๆ โดยที่มีแค่ฉันที่งงเป็นไก่ตาแตก หมอนี่ทำฉันช็อกมากที่อยู่ๆมานั่งกับฉันตรงนี้


         เป็นบ้าแหละดูออก


         “โต๊ะอื่นว่างเยอะแยะ ทำไมไม่นั่ง”


         นี่เป็นประโยคแรกที่ฉันพูดกับแทฮยอง ฉันเคยบอกไปแล้วว่าเราไม่เคยคุยกันสักคำ ถึงแม้ว่าเราจะเจอกันบ่อยก็ตาม พอฉันพูด รายนั้นก็ขมวดคิ้วไปพร้อมกับตักเกี๊ยวชิ้นพอดีคำเข้าปาก จากนั้นเขาถึงได้เหลือบมองดูรอบๆไปมา


         ก็มันเหลือโต๊ะว่างเยอะแยะจริงๆ แต่ทำไมเขาถึงมานั่งโต๊ะฉัน


         “ทำไมอ่ะ โต๊ะทุกตัวเป็นของแม่เธอเหรอ?”


         ฉันถึงขั้นอ้าปากค้าง เพราะช็อกมากที่คนไม่เคยคุยกันสักครั้งกลับเปิดประเด็นแรกโดยการพูดถึงแม่ฉัน โคตรรอเมซิ่ง


         “อืม”


         เพราะฉันเหนื่อยที่จะพูดต่อ และฉันเริ่มรู้สึกพะอืดพะอมจะอาเจียนออกมาอีกครั้ง ฉันกะว่าจะใช้ชีวิตคนเดียวดีๆสักวัน ก็มาพังอีกแล้ว คิดแล้วก็รีบกินรีบเสร็จ ฉันตักหมี่เกี๊ยวในชามที่ไม่ได้ปรุงเข้าปากโดยที่ไม่ได้ละเลียดชิมรสชาติหอมๆของมันเหมือนอย่างตอนแรก


         เพราะฉันรู้แค่ว่าฉันจะต้องออกไปจากตรงนี้ และกลับหอให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้


         “ดื่มนี่สิ”


         “?”


         ฉันเงยหน้าขึ้นจากที่แทบจะจุ่มหน้าลงไปในชาม แทฮยองเอ่ยออกมาเบาๆหลังจากนั้นพร้อมกับดันน้ำผลไม้กล่องนั้นมาให้ฉัน พอฉันเงยหน้า ฉันถึงได้รู้ว่าเขากินเสร็จแล้ว เขากินเสร็จเร็วกว่าฉันอีก คิดจะหนีฉันไปหรือไง ฉันไม่ได้อยากให้เขามานั่งด้วยสักหน่อย


         “ไม่เห็นต้องงง เมื่อคืนเธอหนักนี่ ดื่มนี่หายแฮงค์เร็วกว่า”


         แทฮยองเอ่ยอีกรอบทำเอาฉันงง สมองก็พยายามหวนคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน ในตอนที่ฉันดื่มหนักก็มีแค่จองกุกกับแทฮยองที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน แต่ว่าฉันดันเมาจนภาพตัดเลยไม่รู้ว่าเขาจะเห็นฉันทำอะไรไม่ดีใส่หรือเปล่า


         “เมื่อคืนเราไม่ได้ทำอะไรให้นายไม่ดีใช่ป่ะ”


         “มี”


         “หา!” ว่าแล้วไม่มีผิด นอกจากด่าจีมินแล้ว ฉันด่าเขาด้วยแน่ๆตอนเมา บ้าเอ้ย ต่อไปฉันจะไม่ดื่มอีกแล้ว ฉิบหาย


         “เธอร่ายยาวเลยแหละ”


         “แหะแหะ ขอโทษแล้วกัน ไม่ถือสาคนเมานะ”


         “แต่เธอไม่ได้ร่ายถึงเราหรอก”


         “....”


         “เธอร่ายถึงไอ้จีมินทั้งนั้น ชอบมันจริงๆสินะ”


         “!!!


         ดูเหมือนว่าฉันจะตกใจ แต่ที่จริงแล้วฉันกลับรู้สึกโล่งใจขึ้นมาซะงั้นที่ไม่ได้พูดถึงคนอื่นไปในทางที่ไม่ดี แต่ถ้าสำหรับจีมินแล้ว เออ ฉันตั้งใจจะด่ามันอยู่แล้ว แต่ในตอนที่ฉันเมาฉันเลยไม่รู้ว่าตัวเองเมาแล้วร่ายด่าจีมินหรือว่า


         “เธอเพ้อถึงมันจวนใจจะขาด” นั่นไง ถ้าเพ้อคือฉันฉิบหาย “ไปมองจากดาวพลูโตก็รู้ว่าเธอชอบมัน”


         “....”


         ฉันพูดไม่ออก ในตอนนี้ไหนจะอาการคลื่นไส้ที่เริ่มจะปะทุขึ้นมาอีก นั่นสินะ แต่แล้วยังไงล่ะ แทฮยองรู้ว่าฉันเพ้อถึงจีมินแล้วยังไงล่ะ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันอยู่ดี


         “รีบกินเถอะ”


         “ทำไมล่ะ”


         “ไม่เห็นต้องถาม”


         “....”


         “เดี๋ยวไปส่งที่หอ ดูออกว่าโดนเท


         แรง แต่ก็เป็นความจริงนั่นแหละ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่แทฮยองจะรู้เพราะถ้าให้ฉันเดาอิบ้านั่นก็คงจะอัปสตอรี่อวดประชาชีเช่นเคย ส่วนคนที่ขี้เสือกอย่างจองกุกก็คงจะแคปหน้าจอส่งต่อให้แทฮยองแน่ๆ แต่ฉันก็แค่ยังไม่เห็น เพราะฉันยังไม่ได้เปิดเครื่องโทรศัพท์เลย และฉันก็สัญญาเลยว่าจะไม่เปิดเครื่องไปอีกสองวัน พรุ่งนี้กลับบ้านดีกว่าไหนๆก็วันหยุด ให้จีมินมันตามหาฉันบ้าง มันจะได้รู้ว่าการโดนเทมันเป็นยังไง

    100%

    #ปาร์คพักก่อนมั้ย

    GIF descubierto por ﹫ᨢꧏᥲ????ყ ♡. Descubre (¡y guarda!) tus propias imágenes y  videos en We Heart It | Park jimin, Jimin, How to removeGIF descubierto por ﹫ᨢꧏᥲ????ყ ♡. Descubre (¡y guarda!) tus propias imágenes y  videos en We Heart It | Park jimin, Jimin, How to remove

     

    TWR'

        ฟ้าหลังฝนมักฉวยงามฉัมเหมอ แต่ใครบอก! เบิกกตัวพระรองออกมาจากบัลลังแง้วเพราะค่าตัวพี่แทแกแพงแสนแพงเลยกว่าจะได้พูดก็ปาไปตอนที่สาม คอยดูว่าชีกิกิชีจะหนีปาร์คไปจริงมั้ย แล้วปาร์คฮีจะตามไปป่าว แบบเพื่อรักหักเหลี่ยมบวบ แฮร่ แล้วแทมีการจะไปส่ง สองคนนี้จะมีความสัมพันไปแบบไหน แล้วจองกุกล่ะ อ่ะแล้วทำไมพี่แทแกถึงอยากคุยกับชีกิกิขึ้นมาซะดื้อๆ นายมีคู่แข่งแล้วปาร์ค 

      ขอบคุณทุกคนที่ยังรอ ไรท์ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่หายๆไปก็เพราะว่ามีค่าย จะปิดก็ไม่ปิดสักที ไม่จบไม่สิ้น แต่ตอนนี้ปิดจริงๆแล้วค่ะ ไรท์จะมาบ่อยๆนะ ทวงฟิคได้เลยนะคะ ไรท์จะมาอัปให้ทันทีเยยย ข่อมค้าบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×