Special for P’ Moni-San!
Thx a lot for your helping
translates doujin Mimesis
You so cute!
มีดเริ่มกรีดแผลในใจนั้นทีละน้อย...ทีละน้อย
หากทว่าสักวันมันคงจะกรีดหัวใจของนภาจน...
หัวใจของเขาอาจไม่มีความรู้สึกอีกต่อไปเลยก็ได้...
เสียงปากกาขีดเขียนงานเอกสารในห้องสี่เหลี่ยมกว้าง เขาหยิบเอกสารกองนี้ดันไปข้างหน้าแล้วเลื่อนอีกกองเข้ามา กองเอกสารบนโต๊ะบ่งบอกได้ถึงความวุ่นวายและความเร่งรีบของงานโรงเรียนในตอน นี้ นับว่าผิดปกติกับเด็กหนุ่มวัยสิบห้าคนนี้ เพราะเมื่อมีงานใดเข้ามาเขาจะรีบจัดการให้เรียบร้อยไม่คั่งค้างเป็นกองเท่า ภูเขา
ครูใหญ่ยกงานให้เด็กทำแบบนี้มันก็ออกจะเกินไปหน่อย
ฮิบาริถอนลมหายใจเบาๆ แล้วก้มหน้ารับชะตากรรมตนเองต่อไปจนไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยมาถึงเกือบพระ อาทิตย์ตกดินได้แล้ว ขณะที่ฮิบาริจรดปากกาเซ็นชื่อเอกสารแผ่นสุดท้ายก็มีใครบางคนเปิดประตูแล้ว รีบวิ่งเข้ามา
“เคียวยะ! รอนาน...อ๊ะ อุก!”
ดีโน่สะดุดพื้นพรมแล้วลื่นล้ม ฮิบาริมองด้วยแววตาสมเพศ...นี่เหรอบอสคาวัลโรเน่ แฟมิลี่ผู้ทรงอิทธิพลอันดับสามของอิตาลี่? ดูเหมือนเจ้าหัวทองซุ่มซ่ามมากกว่า
“เราไปเที่ยวด้วยกันเถอะ”
ชิ...ไม่อยากไปหรอกนะ
ถ้าไม่เห็นว่าแกจะเลี้ยงซูซิฉันน่ะ
มือเล็กขย้ำผมสีทองของดีโน่เพื่อระบายความรู้สึกสุขสมที่กำลังเกิดขึ้นใน ขณะนี้ คนใต้ล่างเพิ่มจังหวะและความเร็วมากขึ้นอีก เสียงครางสุขสมของเมฆาน้อยดังก้องไปทั่วห้อง น้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยเมื่อทั้งคู่ถึงจุดสูงสุดเรียบร้อยแล้ว
ร่างเล็กพิงผนังห้องน้ำหอบหายใจเหนื่อย ดวงตาสีรัตติกาลเหลือบมองอีกฝ่ายที่กำลังพรมจูบไปทั่วผิวสีขาวตีตราความเป็น เจ้าของ ความเขินอายทำให้ใบหน้าหวานต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“เคียวยะ...เราจะอาบน้ำกันหรือยัง?”
ดีโน่ถามแล้วหอมแก้มคนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขา ก่อนที่จะถูกสาวเจ้าตบหัวเข้าให้
“เพราะคุณไม่ใช่หรือไง...ที่มัวแต่ทำเรื่องหื่นๆ แบบนี้!”
“ฮะๆๆ อายเหรอ?”
ดีโน่ถามคำถามได้ตรงจุด ความไม่ยอมแพ้ที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดของฮิบาริ เคียวยะทำให้เขาเตะร่างสูงจนร่างสูงต้องกลิ้งไปอีกทางเป็นรอบที่สองของวัน
“ผมจะอาบน้ำแล้ว!”
เม่นน้อยตัวนี้...ไม่เชื่องเอาซะเลย
ดีโน่คลี่ยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์
คงจะต้อง ‘ลงโทษ’ แล้วสิ
ไม่ต้องทายก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่...
หลังจากดีโน่อาบน้ำเรียบร้อย เขาพบว่าคนรักหลับแล้ว ร่างบางน่าทะนุทนอมนครอบครองเตียงขนาดคิงไซส์ไว้เพียงคนเดียว ดีโน่ส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของฮิบาริ เขานั่งลงข้างเตียงแล้วลูบเส้นผมสีดำอย่างเบามือพลางพินิจพิจารณาใบหน้ายาม หลับของคนรักตน
ตั้งแต่คบกันมาราวๆ เกือบปี...
ว่าแล้วก็แอบหยิบโทรศัพท์มือถือของคนรักขึ้นมาเปิดข้อความดู ทุกพันข้อความที่เขาส่งมาหาเคียวยะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น...สื่อได้ถึงความ รักที่เขามี
นภาบอกรักเมฆาทั้งการกระทำแล้วก็คำพูดแล้ว...
“แล้วเมื่อไร ฉันจะได้ยินคำว่ารักจากปากนายบ้างนะ...เคียวยะ”
เขารู้ดีว่ามันคงจะยากที่คนตัวเล็กจะบอกรักกับเขา แต่เขาก็อยากจะได้ยินคำนั้นบ้าง เม่นน้อยซึนเดเระไม่เคยกล่าวรักหรือทำตัวโรแมนติกเหมือนคู่รักอื่นๆ เลย
มีดเริ่มกรีดแผลในใจนั้นทีละน้อย...ทีละน้อย
หากทว่าสักวันมันคงจะกรีดหัวใจของนภาจน...
หัวใจของเขาอาจไม่มีความรู้สึกอีกต่อไปเลยก็ได้...
“เฮ้อ...สงสัยวันนี้ต้องนอนโซฟาแล้วสิเรา”
ดีโน่พึมพำกับตนเอง
รุ่งขึ้นยามเช้า อากาศสดใสกำลังดี ขณะที่กำลังทานข้าวเช้าที่ห้องอาหารโรงแรมด้วยกัน ดีโน่ก็เอ่ยถามคำถามเดิมอีกครั้งเป็นรอบที่ร้อยพันเท่าไรไม่รู้...ฮิบาริจำ ได้ดีว่าตั้งแต่คบกันมา ดีโน่ถามคำถามนี้เกือบทุกวัน
วันนี้ก็มาอีกแล้ว...คำถามนรกนั่น!
“นายรักฉันมั้ย เคียวยะ?”
“น่ารำคาญน่า ดีโน่”
ฮิบาริตัดบทด้วยการตักไส้กรอกเข้าปากเคี้ยว อัญมณีสีซิทรินนั้นแปรเปลี่ยนความรู้สึกเพียงชั่ววูบก่อนจะยิ้มแย้มตามเดิม
“อืม โทษทีนะ”
ฮิบาริลุกขึ้น
“วันนี้ผมมีงานตอนเช้า เราแยกกันตรงนี้เลยแล้วกัน”
“อื้ม เดี๋ยวสี่โมงเย็นวันนี้ฉันไปหานะ”
ฮิบาริพยักหน้าแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ดีโน่ครุ่นคิดอะไรเงียบๆ คนเดียว
เวลาเย็นสี่โมงสิบห้านาที...ฮิบาริเงยหน้ามองนาฬิกาบนผนังห้อง ดีโน่มาสายไปสิบห้านาที...ถ้าอีกห้านาทีเขายังไม่ได้ จะขย้ำ! ขณะที่กำลังคิดขย้ำครูฝึกตนเองนั่น ประตูห้องก็เลื่อนออกตามมาด้วยร่างของยามาโมโตะ
“มาทำอะไร”
ฮิบาริลุกขึ้น รอยยิ้มปัญญาอ่อนในความคิดของฮิบาริปรากฎบนใบหน้าที่อาบชุ่มด้วยเหงื่อ
“ฉันมาซ้อมเบสบอลน่ะ แล้วเห็นนายไม่กลับบ้านสักทีก็เลยขึ้นมาดู นายรอใครอยู่อ่ะ ฮิบาริ?”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ฮิบาริหยิบเอกสารมาอ่านทวนความเรียบร้อยทำเป็นไม่เห็นเจ้าสัตว์กินพืชบ้า เบสบอลที่พูดเจื้อยแจ้วอยู่คนเดียว แม้สายตาของเขาจะจับจ้องอยู่ที่งานตรงหน้า แต่ภายในใจกลับว้าวุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นี่ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ไอ้ม้าบ้า!
ทันใดนั้น ยามาโมโตะก็ดึงตัวฮิบาริขึ้นแล้วดันเขาติดหน้าต่าง ขณะที่ฮิบาริชักท่อนฟา ยามาโมโตะก็ก้มหน้าลงจูบกับร่างบางเสียก่อน เมื่อได้สติหัวหน้ากรรมการคุมกฎรีบผลักอีกฝ่ายออกทันที
“เคียวยะ...?”
ใครบางคนที่ไม่อยากให้อยู่ ก็มายืนอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว บอสมาเฟียหนุ่มยืนนิ่ง มองสลับไปมาระหว่างฮิบาริและยามาโมโตะ พยายามปะติดปะต่อเรื่องต่างๆ ที่เห็นกับตาตนเองรวมถึงคำถามในใจที่มีมาตลอดก่อนจะคลี่ยิ้มแสนเศร้าออกมา
“ฉันขอตัวก่อนนะ”
เมฆาน้อยรับรู้ได้เลยว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่...เรื่องคิดบัญชีกับเจ้าสัตว์กินพืชไว้ทีหลัง! คิดได้ดังนี้แล้วเขาก็รีบวิ่งตามออกไป
มือเล็กคว้าเสื้อของชายหนุ่มชาวอิตาเลี่ยนไว้แล้วรีบพูดแก้ความเข้าใจผิด
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นนะ ผมกับสัตว์กินพืชนั่นเราไม่...”
“เคียวยะ...”
ดีโน่ถามต่อ
“นายรักฉันมั้ย เคียวยะ?”
“คุณมาถามอะไรตอนนี้! ปัญญาอ่อน!”
ดีโน่สลัดมือเล็กนั้นทิ้งทันที ท่าทีดีโน่ที่แปลกไปทำให้ฮิบาริเบ้ปากไม่พอใจแล้วขึ้นเสียง
“โมโหอะไรของคุณ ผมจะอธิบายอยู่เนี่ย!!”
“นายจะอธิบายอะไรอีก!”
ดีโน่ตะโกนแล้วหันหน้ากลับมา ดวงตาสีซิทรินมองร่างบางที่จ้องหน้าเขาเขม็งด้วยความโกรธ...
โครม!
ดีโน่ชกหมัดไปที่กำแพงเฉียดใบหน้าหวานนั้นเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร น้ำเสียเย็นชาของเขามันบ่งบอกได้ถึงความโกรธที่พยายามระงับไว้ด้วยการชก กำแพงแทนที่จะลงกับร่างเล็ก
“นายจะโกรธฉันทำไม เคียวยะ”
“...”
“ตลอดมาที่เราคบกัน นายเคยบอกรักฉันสักครั้งมั้ย มีแต่ฉันไม่ใช่เหรอที่บอกรักนายตลอด...นายรู้มั้ย เคียวยะ การที่นายทำตัวแบบนี้ บางครั้งก็ทำให้ฉันอดคิดไม่ได้นะ”
ระหว่างเรามันคืออะไรกันแน่ เคียวยะ...นายแค่คบกับฉันเพื่อความสนุกหรือเปล่า พอนายสนุกสมใจ นายก็เขี่ยฉันทิ้งอย่างนั้นเหรอ?”
ความรู้สึกอัดแน่นจุกเต็มลำคอของเมฆา จนไม่สามารถเอ่ยเอื้อนออกมาเป็นคำพูดได้เลย
“เคียวยะ...บางทีฉันก็เหนื่อยนะ เหนื่อยกับการต้องรอคอยแบบนี้”
ดีโน่ผละออก ดวงตาสีซิทรินสบตากับร่างเล็กพยายามหาความรู้สึกรักจากอีกฝ่ายแต่กลับว่าง เปล่า ความเจ็บปวดรู้สึกได้ถึงใบมีดที่กำลังกรีดหัวใจให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทว่าหัวสมองกลับสั่งให้เขาล้วงหยิบของบางอย่างในเสื้อโค้ตออกมา
กล่องของขวัญห่อด้วยริบบิ้นสีม่วงสวยยื่นมาตรงหน้า
“ขอบคุณนะ...ที่ให้คำตอบฉันในวันนี้ เคียวยะ”
ดีโน่คลี่ยิ้มบางเหมือนที่เคยเป็นปกติ ทว่ามันกลับสื่อทุกอย่างออกจากดวงตา...ปิดความเจ็บปวดและเสียใจนั้นไม่มิด คงถูกแล้วล่ะ ดีโน่คิดกับตนเอง
ทะเลาะกันในวันครบรอบหนึ่งปี...น่าสมเพศ ดีโน่ คาวัลโรเน่
ท้องฟ้ายามรัตติกาลดูสง่างามสวยเหลือเกิน แต่ตอนนี้ใจของฮิบาริกลับไม่เป็นสงบ มันเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายจนเขาอยากจะขย้ำอาละวาดข้าวของ
มือเรียวแกะห่อของขวัญอย่างทะนุทนอมเพื่อเปิดดูของข้างใน...มันคือนาฬิกาข้อ มือราคาแพงที่ร่างบางเคยเปรยให้ฟังว่าอยากได้นาฬิกาเรือนใหม่เพราะนาฬิกาข้อ มือเรือนเก่าพังหลังจากไปขย้ำสัตว์กินพืชกลุ่มหนึ่งมา
เด็กหนุ่มหยิบกล่องนาฬิกาขึ้น มีการ์ดคริสต์มาสสอดทับเอาไว้
‘Happy Anniversary Kyoya!
สุขสันต์วันครบรอบหนึ่งปีของเรา รักนายไม่เคยเปลี่ยนนะเคียวยะ >w<
จาก ดีโน่ ว่าที่สามีนายในอนาคต’
ฮิบาริอดยิ้มไม่ได้กับข้อความในการ์ดนั้น...ก่อนที่เขาจะตระหนักขึ้นมา ได้ วันนี้วันครบรอบหนึ่งปีของเขากับดีโน่ แต่พวกเขากลับทะเลาะกัน ไม่สิ! เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนี้สำคัญแค่ไหน
จะให้ไปง้อเหรอ ไม่มีทาง!!
“บอส ไม่ไปฉลองกับเคียวยะเหรอครับ?”
โรมาริโอ้ถามสงสัยเมื่อเห็นบอสของตนจิบไวน์ดูทีวีเซ็งกะตาย ดีโน่ส่ายหน้าแล้วจิบไวน์ต่อ
“วันนี้วันครบรอบความรักของบอสนี่ครับ หรือเกิดอะไรขึ้น?”
“ทะเลาะกันน่ะ...”
ดีโน่เอ่ยตอบลูกน้อง น้ำเสียงนิ่งเฉยแฝงความเสียใจนั้นทำให้โรมาริโอ้ไม่ซักไซ้อะไรต่ออีก โรมาริโอ้เปิดประตูออกไปก็พบกับเด็กหนุ่มที่ยืนพิงกำแพงเหมือนครุ่นคิดอะไร หนักใจอยู่
“เคียวยะ บอสเขารอให้คุณมาง้อนะครับ”
ฮิบาริสวนกลับทันที
“ผมไม่ได้มาง้อเขา”
“อย่างนั้นหรือครับ...”
โรมาริโอ้ยิ้มบาง คนหนึ่งก็คิดเองเออเองอีกคนก็ทิฐิมากซะเหลือเกิน...วัยรุ่นก็เป็นอย่างนี้ แหละหนอ ชายสูงวัยตบบ่าฮิบาริเบาๆ ให้กำลังใจ
“ปากแข็งมันก็น่ารักดีนะครับ แต่การพูดตรงกับใจก็อาจจะดีกว่าในบางครั้ง”
ฮิบาริครุ่นคิดกับคำพูดนั้นในขณะที่โรมาริโอ้เดินลงไปหาเพื่อนแก็งค์ข้าง ล่าง ว่าแล้วก็ผลักประตูเข้าไปทันทีพบนภาของตนยืนนิ่งริมหน้าต่างมองดูท้องฟ้า ข้างนอก
ฮิบาริโยนนาฬิกาข้อมือใส่ดีโน่ โชคดีที่เขารับมันได้ เด็กหนุ่มกอดหน้าอก
“ผมไม่เอา”
ดีโน่นิ่ง มองหน้าฮิบาริอย่างไม่เข้าใจ
“ผมไม่เอา...ถ้าคุณไม่ใส่มันให้ผม”
“เคียวยะ...”
ดีโน่ยิ้มกว้างตื้นตันใจ ฮิบาริยื่นมือมาข้างหน้าเพื่อให้ดีโน่สวมนาฬิกาให้ตนอย่างบรรจง
“นี่...คุณรอคำนี้มาตลอดใช่มั้ย?”
เด็กหนุ่มเดินเข้าไปใกล้แล้วเขย่งตัวโอบลำคอของอีกฝ่าย ดวงตาสีรัตติกาลสบตากับดวงตาสีซิทรินก่อนที่ริมฝีปากของทั้งคู่จะประกบแลก ความหอมหวานให้แก่กันและกัน
ฮิบาริถอนจูบแล้วเอ่ยกระซิบข้างหู
“ผมรักคุณ”
THE END
ความคิดเห็น