ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ exo ] 。 take me home ♡ { lubaek } ending

    ลำดับตอนที่ #27 : - take me home : chapters - 023 { 100% }

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 930
      3
      2 ธ.ค. 57





     

    - your father -


     

    chapters – 023


     

               


                รถเบนซ์คันหรูคันหนึ่งขับวนรอบลานน้ำพุก่อนจอดเทียบกับบันไดทางเข้าไปในบ้านของตระกูลลู่  ชายหนุ่มตัวเล็กถอดแว่นกันแดดออกเผยดวงตาที่กลมโต 

     

                มาพบใครค่ะ”  เสียงนุ่มนวลละมุนหูทักขึ้นหลังจากเท้าเล็กเยื้องย่างเข้ามาในบ้านหลังใหญ่โตได้ไม่นาน   คนตัวเล็กหันกลับไปดูก็พบหญิงวัยกลางคนแสนคุ้นเคย

     

                อ่า...สวัสดีครับคุณแม่บ้าน  จำผมไม่ได้เหรอครับ...”  คนตัวเล็กยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยโชว์ริมฝีปากอิ่มรูปหัวใจที่ใครก็หาไม่ได้  เพียงเท่านั้นหญิงแม่บ้านเบิกตากว้างพร้อมรอยยิ้มด้วยความปิติ

     

                “คุณหนูคยองซูนั่นเอง  โธ่...โตคนป้าคนนี้จำแทบไม่ได้”  คุณแม่บ้านกล่าว  เธอเห็น  คยองซูมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อยตัวเล็กๆ  วิ่งตามหลังคุณชานยอลกับคุณหนูของเธอเสียงเจี๊ยวจ๊าวแต่น่าเอ็นดู  เธอเฝ้าดูพัฒนาการของเพื่อนสนิทสามคนจนกระทั่งคุณชานยอลกับคุณหนูคยองซูไปเรียนต่อเมืองนอก 

     

                    มันคือช่วงที่คุณหนูเขาเปลี่ยนไป...และประจวบเหมาะกับที่ทะเลาะกับคุณท่าน 

     

                “ฮะๆ  แล้วนี่ม๊าอยู่มั้ยครับ  แม่ผมฝากของม๊าให้เต็มเลย...”  ร่างเล็กเอ่ยถามหามารดาของเพื่อนสนิท

     

                วันนี้คยองซูถูกไหว้วานจากแม่ว่าให้เอาของฝากเป็นน้ำหอมแบรนด์ดังที่ผลิตมาไม่กี่กลิ่นนำมาให้คุณแม่ของลู่หาน  ถ้าจะให้นับว่าทั้งสามตระกูลนั้นสนิทกันมากแค่ไหนก็คงนับตั้งแต่พวกเขายัง เด็กก็ว่าได้  ทำให้คยองซูเหมือนลูกแท้ๆอีกคนของสองบ้านคือตระกูลลู่กับตระกูลปาร์ค 

     

    ถ้างั้นเชิญตามมาทางนี้เลยค่ะ”   

     

    หญิงวัยกลางคนเดินนำหน้าช้าๆลงฝีเท้าแผ่วเบา  ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูบานเลื่อนกระดาษแบบเกาหลีโบราณกึ่งญี่ปุ่นสมัยก่อน  เสียงหัวเราะต่อกระซิกดังออกมาเบาบางแต่ก็พอให้ได้ยินบ้าง  คยองซูยกคิ้วหนาของตนขึ้นถามคุณแม่บ้านเป็นเชิงสงสัย

     

    คุณนายใหญ่กลับมาเมื่อสองสามอาทิตย์ที่แล้วเองค่ะ”  หญิงวัยกลางคนตอบก่อนขอตัวออกไปทำงานที่ค้าง  แต่ทว่าก่อนจะก้าวออกไป...เธอไม่ลืมที่จะหันกลับมาบอกคยองซูเสียก่อน  วันนี้มีแขกมาเหมือนกันค่ะ  คุณแบคฮยอนกับคุณชานยอลมาเรียนศิลปะกับคุณนายใหญ่ค่ะ 

     

    เดี๋ยวนะครับ...เมื่อกี้บอกว่าใครนะ”  ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทันทีที่ชื่อนั้นถูกเปล่งออกมาอีกครา 

     

    คุณแบคฮยอนกับคุณชานยอลค่ะ  แต่สงสัยคงไม่ได้เรียนกันแล้ว เธอพูดแซวเจ้านายเล็กน้อย  เมื่อนึกถึงว่านายใหญ่ดูจะติดอกติดใจกับเพื่อนคุณหนูของเธอเหลือเกิน

     

    ผิดกับใครคนหนึ่ง...ในใจของคนตัวเล็กกำลังร้อนรุ่มสุ่มไปด้วยเพลิงไฟ  ยิ่งรู้ว่าใครที่อยู่ด้วยกันในห้องนั้นมันยิ่งเจ็บทั้งที่เพิ่งผ่านเรื่องราวแย่ๆไปแต่กลับไร้ร่างของเพื่อนตัวสูง  ไม่มีแม้แต่โทรมาถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรบ้างจนน่าใจหาย...  พอมาเจออีกทีก็อยู่กันที่นี่...

     

    มันตั้งแต่เมื่อไรกันนะ...ที่ความสัมพันธ์มันแย่ลงเรื่อยๆตั้งแต่มีแบคฮยอน

     

    แบคฮยอน...งั้นเหรอ 

     

    “ตาชานนี่แกล้งย่าใช่มั้ย  โกงไพ่ย่าใช่มั้ย”  เสียงหญิงสูงอายุดังลอดออกมาข้างนอก คยองซูสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆพยายามระงับสติอารมณ์โกรธ  ปั้นหน้าฉีกยิ้มกลบเกลื้อนความรู้สึกแย่  เขารู้ดีว่าต่อหน้าผู้ใหญ่ควรวางตัวให้ดี 

     

    หึ  เก็บเกี่ยวคะแนนกันให้พอ...เพราะมันจะไม่มีอีกต่อไป บยอนแบคฮยอน!







     

    แบคฮยอนขมวดคิ้วเป็นปมแน่น  ลมหายใจอ่อนแรงเริ่มติดขัด  หยาดเหงื่อผุดขึ้นแถวขมับไม่รู้ตัวรวมถึงดวงใจเล็กที่สั่นระริกราวกับหมดแรง  กรอบตาเรียวหรี่ลงพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก  สักพักดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อมือเหี่ยวย่นตามวัยของหญิงสูงอายุลูบๆคลำๆไพ่ป๊อกลายข้าวหลามตัด  เขาขุดเล่ห์เหลี่ยมตามที่ชานยอลสอนไปเมื่อตาที่แล้วว่าให้ลองทำสีหน้าดูตอนที่คนจะเลือกไพ่  มันช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามไขว่เขวได้

     

    “หน๊อย  ทำเป็นเล่นหูเล่นตาคิดว่าฉันไม่รู้เหรอฮะว่าเธอแกล้งหลอก”  เสียงสั่นตามวัยปะปนความตื่นเต้นของคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลลู่เอ่ยขึ้น   แม้ปากจะบอกไปแบบนั้นแต่การกระทำมันชวนหวั่นใจจริงๆนะ

     

    ขอแค่ดอกจิกเป็นพอ...

     

    “อ่า...คุณย่าจับแล้วจับเลยสิครับ”  แบคฮยอนร้องท้วง 

     

    ตอนนี้เหลือกันแค่สองคนที่ยังเล่นอยู่  คุณนายใหญ่แม่ของลู่หานน่ะเป็นที่หนึ่งไปรอบนแท่นเรียบร้อยแล้ว  ชานยอลก็ไพ่หมดมือตามกันไปติดๆ  จะเหลือก็แต่แบคฮยอนและคุณย่า

     

    “ฉันไม่ได้ตั้งกฎนี้ย่ะ  ฉันจะเอาใบนี้”  ว่าแล้วก็เลื่อนไปหยิบอีกใบ...ก่อนค่อยๆดึงช้าๆ

     

    “เยส! ผมชนะแล้ว”  ยังไม่ทันที่คุณย่าจะพลิกไพ่มาดู  แบคฮยอนก็ชิ่งพูดก่อนพร้อมฉีกยิ้มกว้าง

     

    “อะไรนะ!  ฉันแพ้เหรอ”  คุณหญิงใหญ่สุดในตระกูลลู่ทำหน้าเหยเก  แสร้งความดันขึ้น  “โอ๊ย  ฉันจะเป็นลม”

     

    “โธ่คุณแม่ค่ะ  เมื่อครู่เล่นมุกนี้ไปแล้วนะคะ”  มารดาลู่หานท้วงขึ้นอีกคน  “เราสัญญากันแล้วว่าคนแพ้จะถูกใช้อะไรก็ได้จากคนชนะหนึ่งอย่าง”

     

    ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมกัน  ชานยอลหลานรักก็ร่วมวงกับเขาด้วยอีกคน  โอ๊ย...คนแก่จะเป็นลม  รู้งี้ตอนชวนเล่นเธอน่าจะหาข้ออ้างใหม่  ใครจะคิดว่าไอ้ตัวเล็กๆเหมือนลูกหมาตรงหน้าที่ร้องเรียกแต่ลู่หาน  ลู่หานนั่นจะดวงดีผีคุ้มครองขนาดนั้น! ฮึ  เลยบอกว่าถ้าใครแพ้ต้องทำตามคำสั่งคนชนะ  ชวนเล่นเองแพ้เองอีกต่างหาก...

     

    สวนเรื่องเรียน...เหอะ  เธอทำอาหารไม่เป็น  ก็แค่อยากชวนแบคฮยอนมานั่งเล่นที่บ้านเป็นเพื่อน  ตั้งแต่เจอกันคราแรกก็ถูกใจที่สุด

    .           “ฮื่อ  คุณย่าหยิกแมผมทำไมครับ”  แบคฮยอนรูปแก้มย้วยปอยๆ

     

    “หมั่น!  นี่เจ้าลู่หานเลี้ยงดีขนาดแก้มเกิมออกย้วยแบบนี้เหรอ”

     

    “แพ้แล้วพาล...” 

     

    “นั้นสิค่ะคุณแม่  เราจะเริ่มลงโทษกันเลยมั้ย”  คุณแม่ลู่หานเอ่ยขึ้น  นับว่าเป็นการเล่นที่สนุกมากเหลือเกิน...เธอจะได้ลองใช้แม่สามีดูสักครั้ง

     

    “โอ๊ยยย  พวกเธอรุมแกล้งคนแก่เหรอ  หัวหน้าแก๊งเป็นไอ้เด็กเตี้ยนี่ล่ะสิ”

     

    “คุณย่าครับผมเปล่านะ”

     

    “ฮ่าๆ  นั้นสิครับ”  ชานยอลหัวเราะชอบใจ  นึกอยากอยู่ทีมเด็กเตี้ย

     

    ครืดดด

     

    แต่แล้วยังไม่ทันจะลงโทษอะไรกัน   เสียงเคลื่อนของประตูกระดาษถูกเลื่อนออกขัดจังหวะการสนทนา  ทั้งสี่คนในห้องเย็นช่ำหันขวับพร้อมเพรียงไปยังแขกที่ไม่ได้รับเชิญ 

     

    “คุณ!  กลับมาแล้วเหรอ”  แบคฮยอนโผงผางขึ้นด้วยความดีใจ  ก่อนจะร้องอุ้ยเมื่อถูกคุณย่าหยิกเข้าที่สีข้าง

     

    “ออกนอกหน้าไปแล้วย่ะ” 

     

    “ขอโทษครับ...แฮ่”  เจ้าของบ้านหลังสีขาวหัวเราะแหะๆ แล้วทิ้งตัวนั่งตามเดิม 

     

    ชานยอลมองภาพตรงหน้าอย่างปลงๆ  เขารู้อยู่แล้วว่าระหว่างสองคนนี้มันมีเส้นใยบางๆเกิดขึ้น...เขาไม่มีทางเข้าไปแทรกได้เลย  สักนิดเดียว...

     

    “หลานรักเข้ามาก่อนๆ”  คุณย่าตบกวักมือเรียกหลานชายอันเป็นที่รัก   ทว่ายังไม่ทันจะเดินเข้ามา  ใบหน้าของใครคนหนึ่งที่โผล่ออกมาจากด้านหลังอินทีเรียหนุ่มนั่นก็ทำให้แบคฮยอนชะงัก  ลู่หานจ้องมายังแบคฮยอนพร้อมสายตาให้กำลังใจ

     

    สู้ๆนะ

     

    แบคฮยอนเพียงยิ้มบางๆ  มองผ่านเลยมายังชานยอลเพื่อนอีกคน  สีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

     

    “นั่นใครล่ะนั้น”  คุณย่าขยับแว่นเล็กน้อยพอให้ภาพปรับได้ชัดขึ้น 

     

    หนุ่มน้อยตัวเล็กน่ารักแสนจะน่าเอ็นดูกำลังยืนหน้านิ่ง  ดวงตากลมโตประกายวิบวับก่อนจะค่อยๆฉีกกว้างจนปากเป็นรูปหัวใจ  เอกลักษณ์ประจำตัวที่เด่นชัดทำให้คุณย่าและคุณม๊าร้องอ๋อ

     

    “คยองซูเองครับ”  ลู่หานบอก


     

    20%

     

    “ห๊ะ! คยองซูหมีน้อยของย่าน่ะเหรอนั่น  เจ้าตัวเล็กใช่มั้ย”  คุณย่าถึงกับตะลึงเมื่อพบว่าเด็กผู้ชายตัวเล็กๆน่าเอ็นดูตอนวัยเด็กจะกลายมาเป็นผู้ชายตัวเล็กๆที่มีใบหน้าน่าเอ็นดูมากกว่าแต่ก่อนอีกเท่าตัว  “เข้ามาใกล้ๆย่าหน่อยสิ  ตอนแรกก็ตกใจกับตาชานไปละสูงยังกับนายแบบ  พอมาเจอเราอีกก็ตัวเล็กน่ารักเชียว”

     

    ง่ะ  ที่แบคฮยอนเรียกเตี้ย (;___;)

     

    คยองซูเดินฝ่าวงเข้ามาทักทายคุณม๊าและคุณย่าก่อนจะสวมกอดอุ่นๆของคุณย่าเต็มแรงรัก  เป็นครั้งแรกที่เห็นคุณย่าดูมีความสุขมาก  ท่านกระชับอ้อมกอดตัวเองและนั่นทำให้แบคฮยอนอยากโดนกอดด้วยความรักแบบนั้นบ้าง

     

    มันจะอุ่นเท่าอ้อมกอดของแม่รึเปล่าน้า

     

    “มากันครบแล้ว  งั้นเดี๋ยวม๊าไปให้เขาตั้งโต๊ะเลยดีกว่า”  คุณนายลู่เดินปลีกตัวออกไปที่ห้องครัวใหญ่  วันนี้คล้ายวันรวมญาติย้อนไปสมัยยังเด็กของพวกลูกหลาน  เธออยากจะไปเพิ่อมาหารสักสองสามอย่างที่เป็นของโปรดคยองซูอีก 

     

    คุณนายลู่ชะงักพลางนึกอะไรบางอย่างออกมาได้...เธอไม่ลืมเลย

     

    “หนูแบคจ๊ะ” 

     

    คนถูกเรียกหันมาขานรับเบาๆพร้อมลุกไปหาตรงหน้าประตู   ลู่หานมองตามหลังไปและนั่น...ทำให้คยองซูต้องตั้งใจฟังด้วย

     

    “ครับ”

     

    “หนูแบคอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย”

     

    “เอ๋”

     

    วินาทีนั้น  แบคฮยอนคิดถึงคุณแม่จับใจ...ประโยคคำถามที่ใครฟังก็ดูธรรมดาแต่กลับทำเอาหัวใจน้อยๆของคนแก้มย้วยพองโต

     

    “ม๊ารู้หมดแล้วว่าทุกคนชอบทานอะไร  แล้วหนูแบคล่ะจ๊ะชอบอะไรเอ่ย”  เสียงของหญิงวัยกลางคนยังคงดังก้อง  เขารู้สึกดีเหมือนมีแม่อีกคน

     

    “ผมทานได้หมดครับ...”  ตอบกลับตามความจริง  “เดี๋ยวผมช่วยเองครับ”  คนขอเป็นลูกมือเอ่ยขึ้น  คุณนายลู่ทำเพียงพยักหน้าตกลง  รางบางจึงชันตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งตาม  ท่ามกลางสายตางุนงง  ไม่รู้ว่าแบคฮยอนจะดีใจอะไรนักหนา  จะมีก็คงแต่ลู่หาน...

     

    “อะไรของเด็กนั่น”  คุณย่าเอ่ยขึ้น

     

    “แบคฮยอนเขาคงรู้สึกว่านี่เหมือนครอบครัวของเขาล่ะมั้ง”

     

    ผู้สูงอายุแม้จะปากร้าย  หากแต่ดวงตาที่ทอดมองแผ่นหลังบางนั้นตามออกไป  หากสังเกตดีๆก็จะพบว่า...มันเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดู













     

    โต๊ะกว้างในห้องทานอาหารเคยเงียบเหงาก่อนหน้านี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะพูดคุยกัน  บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นตลบอบอวล  มากสุดคงหนีไม่พ้นบุคคลสองคนตรงหน้าของคนเป็นแม่ที่ถกเถียงกันยกใหญ่  อีกคนก็เกรงใจไม่กล้าตักนั่นนี่  ส่วนอีกคนหัวเรือใหญ่กลับตักใส่จานหนุ่มน้อยแก้มย้วยจนพูนจาน 

     

    “เห็นมั้ยม๊า  บอกแล้วว่าแบคฮยอนกินหมด”  ลู่หานหันมาย้ำอีกครั้งว่าแบคฮยอนกินข้าวหมดทุกเม็ดทุกมื้อ  กินเก่งและกินทุกอย่าง

     

    “โธ่ๆ  หนูแบคค่อยๆกินนะจ๊ะ  อาลู่ทำไมชอบแกล้งเพื่อนฮะ”  คุณนายลู่เอ็ดตลอดรายการ

     

    แต่ถ้าถามว่าฟังมั้ย?

     

    ถ้าฟังคงไม่ใช่ลู่หาน

     

    “กินเถอะน่า  เนี่ยเขารวบช้อนอิ่มกันหมดแล้วเหลือแล้วมันเสียดายของ”  ขยั้ยขยอจนร่างอวบของแบคฮยอนใจอ่อน  กวาดเรียบหมดทุกอย่างบนโต๊ะไม่เหลือเศษซาก  ทำเอามั้งโต๊ะมองหน้ากันตาปริบๆก่อนร่างบางจะดื่มน้ำตาม

     

    “เอ่อ...คือ”  พออาหารหมดก็ตั้งสติได้  ว่านี่ไม่ใช่ที่บ้านตน  สายตาเจ้ากรรมเหลือบมองไปยังคยองซูพอดิบพอดี...

     

    “โอ๊ยตาย  หลานย่าเลี้ยงหมูเตี้ยดีแบบนี้ไงถึงได้ย้วยเอาๆ  พุงก็ใหญ่จน”  คุณย่าเอ่ยแซว 
     

    “คุณแม่ก็...เอ้า  แล้วนี่จะกลับเลยมั้ย  หรือทานของว่างก่อน”  มารดาหันไปถามลูกชายคนเล็กของบ้านที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บหนังสือตำราอาหารของแบคฮยอนซึ่งเป็นตำราเรียนของคุณย่า  ให้ไว้ในกรณีศึกษา

     

    “กลับเลยม๊า  คยองซูกับชานยอลจะกลับกันเองใช่มั้ย”  ลู่หานหันไปถามเชิงว่า  เอารถมาใช่มั้ย  ทั้งสองพยักหน้าก่อนคยองซูจะกระตุกยิ้มร้าย

     

    “คุณกลับเลยเหรอ  ไม่กินของหวานเหรอ”  แบคฮยอนถามซื่อๆ

     

    “อ้วนเหมือนที่คุณย่าบอกจริงๆนั้นแหละ”

     

    บรรยากาศวิวาทกลับมาอีกครั้ง  วงมวยคู่เอกเล็กๆก่อกำเนิดขึ้นอีกแน่ถ้าหากไม่มีเสียงคุณย่าไอกระแอ่มๆเรียกความสนใจ  หล่อนใช้ดวงตาจ้องมองทั้งสองคนสลับกันก่อนจะขยับแว่นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง  แว้บเดียวก็ตัดสินใจอะไรขึ้นมาได้

     

    “แบคฮยอนเธอตามฉันมานี่หน่อยสิ  จะคุยเรื่องเรียนอาทิตย์หน้า...”  คุณย่าเอ่ย

     

    “อ่าครับ...”








     

     

    คุณย่าเดินเข้าไปในห้องเล็กห้องเดิมก่อนหน้าที่นั่งเล่นไพ่กัน  หล่อนหย่อนสะโพกลงบนเบาะรอง  มือเกี่ยวย่นตามการเวลาหยิบพัดประจำกายขึ้นมาพัดแก้เหนื่อย  แบคฮยอนเองเห็นแบบนั้นจึงหยิบยาหอมมาเปิดฝาออกแล้วส่งต่อให้ผู้มีอายุที่เคารพรักเหมือนญาติตัวเอง  แม้จะสงวัยเรื่องบทเรียนสัปดาห์หน้าก็ตามที  เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะทำผิดพลาดอะไรอีกหรือเปล่า  จะไหวรึเปล่า...แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น
     

    “เธอ...”

     

    เปิดบทสนทนาหลังจากเงียบมานาน  เมื่อจบประโยคแบคฮยอนถึงกับดวงตาเบิกกว้าง

     

    !!

     


     

    40%






     

    “คะ  คุณย่าพูดเรื่องอะไรกันครับเนี่ย”  แบคฮยอนพูดเสียงตะกุกตะกัก  ใบหน้าหวานอวบย้วยในช่วงนี้ซีดขึ้นทันตาเห็น  ศีรษะส่ายสะบัดปฏิเสธไปมากับคำถามของคนตรงหน้า  หญิงที่คล้ายกับฮองเฮาและมีอำนาจสูงสุดในตระกูลลู่ตรงนี้

     

    “ฉันถามว่า...เธอกับหลานรักฉันชอบพอกันเหรอ”  ประโยคยาวสุดท้ายหล่อนหันซ้ายหันขวาเขยิบเข้ามาประชิดร่างบางที่นั่งตัวสั่นงกๆแล้วกระซิบ  สีหน้าเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นราวกับนักข่าวก็ไม่ปาน  “นิ  ตอบฉันมาเถอะน้า”

     

    แบคฮยอนกำลังสับสนกับท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไร  เขาไม่คิดว่าคุณย่าจะมีอาการตื่นเต้นมากกว่าดุด่าอะไรเทือกนั้น 

     

    “คือว่า”

     

    “ว่า?”  ศีรษะของคุณย่าเอียงเล็กน้อย  ลุ้นตัวโก่งยิ่งกว่าตอนเล่นหวยใต้ดินเสียอีก  เลือดหล่อเลี้ยงหัวใจสูบฉีดรู้สึกกระปรี่กระเป่า  พอเห็นท่าทางยึกยักของคนหน้าเงิบคิดว่าวันนี้คงไม่ได้คำตอบเป็นแน่  “อย่างที่บอกว่าฉันน่ะไปเที่ยวแถบยุโรปมาเกือบหมด  ไอ้เรื่องรักไม้ป่าเดียวกันผิดศีลธรรมมีเป็นกระบุง  ฉันชินซะแล้วล่ะ  ไม่ซีเรียสอะไรหรอก”

     

    “ห๊า”  และนั่นก็เป็นเรื่องน่าตกใจอีกเช่นเดียวกัน

     

    “อะไรกัน  ไม่เชื้อคำพูดคนอายุมากกว่าได้ยังไงฮะ  ฉันจะไม่ไปบอกแม่ลู่หานหรอกนะถ้าเธอเล่าที่มาที่ไปให้ฉันฟัง”

     

                ไม่ใช่ว่าเธอรับได้ร้อยเปอร์เซ็นหรอกนะ...แต่เรื่องแบบนี้เธอเจอมากับตัวเยอะจริงๆ  อายุปูนนี้ออกเที่ยวหลากหลายประเทศ...มีเพื่อนต่างไว้มากหน้าหลายตา  เธอเข้าใจมากกว่ารับได้  นั่นเป็นเหตุผลที่ดูออกว่ามันไม่ธรรมดาแค่คำว่าเพื่อนร่วมบ้านแน่ๆ  อีกอย่าง...เวลามองดูแบคฮยอนเองเธอรู้สึกว่าเด็กคนนี้ทั้งน่ารักหน้าเอ็นดูนอกเหนือจากการกระทำต๊องๆนั้น  พิษภัยอะไรก็ไม่มี  ไหนจะความซื่อและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในอนาคต...เธอเชื่อว่าถ้ามีแบคฮยอน  ครอบครัวนี้จะกลับมาเข้าใจกันเป็นแน่และแบคฮยอนเท่านั้น  ต้องเป็นเด็กนี่เท่า...

     

                ที่จะช่วยได้

     

                “แต่อย่าลืมนะ...ว่าจงอางหวงไข่อย่างกับอะไรดี”





     



     

     

                “แหม...แบคฮยอนนี่”  เสียงเล็กนุ่มหูเปรยขึ้น  ทุกคนที่เหลือในห้องต่างหันมาให้ความสนใจ  โดยเฉพาะลู่หาน  “เขาดูมีลับลมคมในจังเลยนะครับ  ไปอยู่ที่ไหนเนี่ย...ก็ได้รับความสนใจเสียเหลือเกิน  ทั้งคุณย่า...ชานยอลแล้วก็ลู่หาน...”

     

                ความอึมครึมถูกทายทอดออกมา  สายตาของคยองซูเพื่อนคนที่เขารู้จักตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว  ลู่หานไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรทำให้คนที่น่ารักในสายตาเขาเสมอ  คนที่เขาต้องคอยปกป้องนั้นกลายเป็นคนแบบนี้...ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว 

     

                คิ้วหนากระตุกเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ     

     

                ครั้งนี้คยองซูไม่เล่น!

     

                “เอ๋ แม่ว่าเพราะเขาน่ารักแล้วก็ซื่อๆ  เลยทำให้มีคนเอ็นดูเหมือนคยองซูนั้นแหละจ้ะ” ผู้เป็นมารดากล่าวชม  ทว่ามันกลับทำให้คยองซูต้องกำหมัดเล็กๆแน่น

     

                “นั้นสิครับ  ทั้งน่ารักน่าเอ็นดู  มิน่าเขาถึงได้รักขนาดนั้น”

     

                “คยองซู!  พูดบ้าอะไรของนาย”  ชานยอลแทบจะสวนกลับขึ้นทันที  แขนยาวคว้าหมับที่แขนเล็กก่อนออกแรงกระชากไม่ให้ดูน่าเกียจ   “ขอโทษนะครับ  พวกผมคงต้องกลับก่อน”

     

                คยองซูทำเพียงนิ่งเงียบ  กล่าวลาคุณนายลู่สั้นๆแล้วเดินตามออกไป  ทิ้งไว้เพียงสองแม่ลูกในห้องอาหาร  ลู่หานยังคงนิ่งไม่แสดงท่าทางอะไร

     

                “เอ้อ  เป็นอะไรกันไปหมดนะ”  เธอว่าก่อนจะหันมายักไหล่เบาๆ  “งั้นแม่ว่ามื้อนี้คงชวดของหวานเหมือนกันแล้วละ”









     

               

    เสียงถอนหายใจลากยาวติดต่อกันหลายครั้งต่อนาที  ยาวนานข้ามวันข้ามคืนไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว  ตั้งแต่กลับมาจากบ้านหลังใหญ่ของลู่หาน  แบคฮยอนก็เอาแต่เหม่อลอย  นั่งง่วนอยู่หน้าจอคอมฯแล้วถอนหายใจทิ้ง  ทำอาหารก็หน้าเหนื่อยๆ  จนอินทีเรียหนุ่มต้องเดินมาถามไถ่  แต่คำตอบที่ได้รับคือดวงตาแป๋วแจ๋วแว่วที่ทอดมา 

     

    “ตกลงเป็นอะไรวะ  เห็นตั้งแต่เช้าจนทำงานกลับมาก็ยังเป็นอยู่เนี่ย  มีอะไรบอกแล้วใช่มั้ยให้บอก”  สวมกอดอีกคนจากด้านหลังพร้อมหอมแก้มอีกสักฟอด  แก้มกลมๆเด้งๆสีแดงที่เขาถนุถนอมจนอิ่มเอิบน่าดึง

     

    “งื้อ  คุณเคยบอกว่าห้ามปิดบังอะไร”  แบคฮยอนหันไปเผชิญหน้ากับร่างสูง  ดวงตาฉ่ำน้ำใส  “คุณ...”

     

    “หื้อ”  เลิกคิ้วทำหน้าฉงน  แล้วใบหน้านิ่งก็เลิกคิ้วสูงขึ้นอีกเมื่อเนื้อเรื่องถูกถ่ายทอดจนจบ

     

    “ตามนั้นแหละ...ฮื้อ  ทำไงดีอะคุณ  แต่คุณย่าไม่ว่าอะไรนะ  นอกจากจะบอกว่าจงอางหวงไข่อะไรสักอย่าง”

     

    “อื้ม  ช่างมันเถอะ  รู้แล้วไม่ว่าอะไรก็ดีแล้ว  นี่เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยเหรอวะ”  ลู่หานยกมือลูบกลุ่มผมนุ่มสีดำขลับทีหอมกลิ่นแชมพูอยู่เสมอด้วยความรัก  เขาเหมือนกับเลี้ยงหมู  ในขณะเดียวกันก็เหมือนกำลังหล่อเลี้ยงหัวใจตัวเองอยู่

     

    ตอนนี้ตัวเขาไม่รู้จะนิยามแบคฮยอนว่าอะไร...

     

    “ทำไมพูดง่ายจังอ่า  ผมซีเรียสนะเนี่ย”  ยู่ปากเพราะอีกคนกลับไม่เห็นเครียดอะไร  มีแต่เขานั่งเป็นบ้าเป็นบอคนเดียว

     

    “ไม่เห็นจำเป็นต้องเครียดอะไรเลย  แค่ฉันมีนาย...นายมีฉัน  เราก็มีกันและกันแบบนี้จะกลัวอะไร”

     

    “แหวะ  คุณเลี่ยนจัง”

     

    “เลี่ยนน้อยกว่านิยายที่นายเขียนอีก  ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวเร็ว”

     

    “จ้า  จุ๊บก่อน”  คนตัวเล็กหยอกเย้า  จุ๊บมือตัวเองด้วยส่งให้กับอีกคน

     

    “กวนตีนนะครับเดี๋ยวนี้  คิดว่าน่ารักเหรอ”  ลู่หานยืดตัวตรงแล้วกอดอก  “ไปอาบน้ำเลย”

     

    “หยาบคายอีกแล้ว!” 

     

    เด็กน้อยเอ่ย!







     

     

    ถึงจะจบเรื่องคุณย่าไปเรียบร้อยเป็นอันเข้าใจว่าทางสะดวกก็ตาม  แต่ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญหลักๆของเรื่องกลุ้มใจมากมายมหาศาลนี้  แต่ก่อนอยู่คนเดียวไม่เคยจะได้คิดเรื่องคนอื่น  พอเรื่องของคนตรงหน้าเข้ามาหาแบคฮยอนก็อยากจะหาวิธีช่วย  เรื่องพ่อของลู่หานและตัวคนรักของเขา

     

    เดี๋ยวๆ  แบคฮยอนฟินกับคำว่าคนรักหน่อยได้มั้ยอ่า...มันอบอุ่นจัง

     

    “นี่”

     

    “หื้ม?  จะเอาข้าวอีกหรอ”  ลู่หานดูเหมือนอึ้ง  ประมาณว่าถ้วยที่สามแล้วนะยังไม่พอเหรอ  กระเพาะคนตัวเล็กทำด้วยหลุมดำรึไง

     

    แต่ก็เปิดฝาหม้อเตรียมตักให้อยู่ดี  เกิดพุงโตๆแก้มย้วยๆหายไปแล้วเขาจะฟัดอะไร  กระดูกเหรอ?

     

    “ไม่ๆ  ผมอยากถามว่า...เอ่อ”

     

    “อ่า  ว่ามาดิวะ”

     

    “คือ...ปกติคุณรับงานจากใครเหรอ  พวกงานตกแต่งภายในอะไรเทือกๆนี้”  แบคฮยอนโวยเจ้าคำโตเสร็จพร้อมกับในจานจนเกลี้ยง  ก่อนดื่มน้ำตามเพราะอยากจะตั้งใจคุยกันแบบรวดเดียวรู้เรื่อง  เกิดเรื่องพาดราม่าแล้วกินข้าวติดคอตายทำไง

     

    "ถามทำไมอ่ะ  สนใจเหรอ”  เลิกคิ้วถามหยั่งเชิง  เขาไม่รู้ว่าอีกคนจะมาไม้ไหนแต่ถ้าถามเพราะยอากรู้เฉยๆคงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง

     

    แบคฮยอนน่ะซื่อก็จริง  แต่ชอบทำตัววุ่นๆอยู่เรื่อย

     

    “อ๋อ  คือผมอยากรู้เรื่องคุณบ้าง...ได้มั้ย?”  ตอบตามความจริง  เรื่องของคนในครอบครัวคือเรื่องใหญ่สำหรับแบคฮยอน

     

    “ส่วนมากรับมาจากอาจารย์อีกทีหนึ่ง  แล้วบางรายก็ติดต่อมาอีกที  บอกต่อจากลูกค้ารายที่แล้ว...มั้งนะ  ถามทำไมอะ”  ลุกขึ้นไปหยิบผลไม้ในกล่องซุปเปอร์แวร์ออกมาจัดใส่จาน  พร้อมรินน้ำแดงมะนาวบริการนักข่าวสัมภาษณ์จำเป็นที่นึกคึกอยากรู้เรื่องของเขา

     

    “เหรอ”  รับน้ำมาดื่มจิบๆ  สายตาเพ่งเล็งไปยังเป้าหมายพร้อมยิง“คือ...เอ่อ”

     

    “ฮะ?”

     

    แบคฮยอนคิดสิ!  นายต้องทำได้...แต่ถ้าพูดเรื่องพ่อ  ลู่หานต้องตีหน้าเป็นยักษ์แล้วเหวี่ยงใส่หน้าแน่เลยอะ  เอาไงดี

     

    “อะไรวะ  ยึกยักมีเลศนัยไรป่ะเนี่ย”

     

    “เปล่านะ  ผมแค่ตื้นเต้นไง...แหมคุณไม่ค่อยว่างเลยอะช่วงนี้ผมก็เหง๊าเหงา” 

     

    “เป็นบ้านะเนี่ย  กินข้าวเสร็จก็เอาไปล้างไปจานอ่ะ  ค่อยไปกินผลไม้หน้าทีวีกัน  วันนี้มีบอล”

     

    แบคฮยอนแทบจะเบ้ปากตอนได้ยินว่าอีกคนจะดูบอล   เดี๋ยวคุณชายก็เปลี่ยนพร็อบแถมเสริมแต่งการแต่งตัวเป็นเสื้อแมนยู  ไม่รู้ว่าไอ้ลูกกลมๆนั่นมีดีอะไรถึงได้แย่งกันจะเป็นจะตาย  แถมมันเตะกันได้ทุกวัน  เห็นแล้วหมั่นไส้อ่ะ  ลู่หานให้ความสนใจมากกว่า

     

    สุดท้ายก็ไม่ได้ถามอะไรเลย  นอกจากการจ้างงานจะมาจากพ่อของลู่หานแน่ๆ  งั้น...อาจารย์ก็ต้องถูกไหว้วานมาจากพ่อของลู่ห่าน?

     

    ต้องสืบซะแล้วสิ  จากนั้นเราก็จะรู้ว่าพ่อลู่หานยังไงกันแน่  ต่อจากนั้นค่อยว่ากันแล้วจะไปหาที่ไหน?

     

    พลันสายตาไปสะดุดเจอกับเกียรติบัตรที่เขาเคยเอามาจากที่บ้านร่างสูง  เพื่อมาแปะไว้ที่บ้านเหนือโทรทัศน์

     

    อ่า...เข้าใจแล้วว่าจะหาจากไหน
     


     

    “ทำไมชานยอล!  นายกลัวฉันบอกเขารึไง  เป็นห่วงเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ!”  คนตัวเล็กเบิกดวงตากลมโตกว้างขึ้นอีก  ถลึงตามองชานยอลอย่างเอาเรื่องทว่าต้องตกใจกับสายตาของอีกคน  หัวใจบอบช้ำไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้วจริงๆแต่อดไม่ได้ที่ความมันต่อต้าน 

     

                อย่าพูดนะชานยอล...

     

                “ใช่  ฉันเป็นห่วงเขา...ถึงเขาไม่ได้รักฉันฉันก็พร้อมจะช่วยเขา  แค่เขามีความสุขก็พอแล้ว”

     

              พระเอกไปรึเปล่าชานยอล!

     

                คยองซูทิ้งตัวนอนลงกับเตียงหนานอนหงายหน้าพร้อมหลับตาลงปิดเปลือกตาช้าๆ  ปล่อยสายธารไหลลงข้างตาตามแรงโน้มถ่วง  สะกดกลั้นเสียสะอื้น   ทั้งกายทั้งใจปล่อยให้วางไว้นิ่งๆอย่างนั้นแล้วมองดูตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่  ตั้งแต่รู้จักกันมานี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้กับสายตาเย็นชาแล้วโมโหร้ายอย่างนั้น  ขนาดทำผิดมากสุดยังแค่ขมวดคิ้วแล้วดุเบาๆ 

     

                เขาผิดมากเลยเหรอ...  เขารักชานยอลจริงๆนะ...ชอบมาตั้งนานแล้ว

     

                “ฉันรักนายนะชานยอล...ฉันมั่นใจว่ารักมากกว่าเพื่อน  ฮึก...”

     

                ก๊อก  ก๊อก

     

                เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้คนตัวเล็กที่เกือบจะผล็อยหลับไปสะดุ้งเฮือกขึ้น  ก่อนจะตามมาอีกสองสามครั้ง  เขาพยายามตั้งสติกับสมองอันหนักอึ้งก่อนจะขานรับเสียงสั่น  ยกหลังมือปาดคราบน้ำตาให้แน่ชัดว่ามันดีขึ้นแล้วจึงเดินไปเปิดประตู

     

                “ครับแม่”

     

                “คยองซู  มีคนมาหาลูกแหนะบอกมีของมาให้”

                 หรือว่า







     

     

              

                “คุณนายคะ...มีจดหมายฉบับถึงคุณนาย  ดิฉันแยกไว้ให้แล้วค่ะ”  คุณแม่บ้านที่รับใช้บ้านหลังนี้มานานเอ่ย   เธอยื่นซองจดหมายทั้งหลายส่งให้ก่อนขอตัวกลับไปทำงาน

     

                มือสวยเลื่อนซองจดหมายไปไว้ข้างหลังเรื่อยๆเพื่อดูว่ามีอะไรบ้างถึงเธอ  ส่วนมากก็ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน  ค่าบัตรเครดิต  จดหมายเชิญร่วมการกุศลมากมาย  ก่อนจะมาถึงซองสีน้ำตาลเรียบง่ายไม่จ่าชื่อผู้ส่งจ่าแต่ชื่อผู้รับอย่าเดียว  ไม่ค่อยรอให้สงสัยเธอรีบแกะซองปริศนาดูทันที  สิ่งแรกที่โผล่พ้นออกมาคือรูปถ่ายขนาดเท่าโปสการ์ดและคนถูกถ่าย

     

                มันคือลู่หานของเธอกับแบคฮยอน!

     

     

    100%

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    จะกลับมาลงทุกวันแล้วนะคะ
    <3 หนังสือเปิดจองแล้วน้า 
    จิ้มรูป

     



    อยากให้คุณเชื่อมั่น
    อยากช่วยคุณในเรื่องต่างๆ
    เพราะอยากให้คุณยิ้มทุกๆวัน




    ถ้าชอบก็เม้นและแท๊ก  #ฟิคกลับบ้าน
    พูดคุยกันนอกจากติดแท๊กก็  @peepanggy
    thank you:)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×