คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : - take me home : chapters - 015 { 100% }
- Care -
chapters – 015
ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างสอดส่ายสายตาลอกแลก ขมวดคิ้วเป็นปมพันกันยุ่งก่อนระบายยิ้มออกมาเหมือนผู้กำใช้ชนะทันที เมื่อกลิ่นหอมของอาหารลอยฟุ้งกระจายเข้ามาถึงในห้องนอนสีขาวจนคนจมูกดีเรื่องกลิ่นอาหารถึงกับมีความสุขหุบยิ้มแทบไม่ได้ พยายามนึกขอบคุณคุณฝนที่ทำให้ตัวเองไม่สบายแล้วได้ทานอาหารฝีมือคนตัวโต พอนึกได้ว่าเมื่อคืนลู่หานกอดตัวเองไว้ทั้งคืนหน้าก็กลับมาแดงอีกครั้ง เอาใบหน้ากลมๆของตนฝังลงบนหมอนนุ่มของอีกคนที่วางไว้ข้าง
กัน
หื้อออ หมอนคนแก่ขี้บ่นหอมจัง...
พอเอาหน้าจุ่มได้สักพักความคิดแปลกๆบางอย่างก็โลดแล่นเข้ามาในสมอง ลุกพรวดไปเปิดสมุดกางออกแล้วเริ่มจินตนาการถึงเรื่องราวในนิยายเรื่องใหม่ตามลำดับขึ้นตอนที่ได้เขียนร่างตัวละครกับพล็อตเรื่องไว้คร่าวๆไว้แล้ว พล็อตกลางเรื่องคนตัวเล็กอยากให้มันโรแมนติกที่สุดจนคนอ่านเห็นแล้วต้องยิ้มเขิน ภาษาคงต้องสลวยแล้วก็เข้าใจง่ายนึกภาพออก พระเอกแบบนั้นแหละที่แบคฮยอนต้องการจะเขียนกับนางเอกโก๊ะๆ...
“แบคฮยอนต้องมองรอบๆตัวเราดูว่าคนเราทำอะไรในชีวิตประจำวันกันบ้าง นิยายเนี่ยถ้าใส่ไข่เยอะไปมันเพ้อฝันครับ”
อยู่ๆประโยคของชานยอลในวันนั้นก็ลอยเข้ามาติดหู ร่างเล็กเพ่งพินิจดูเนื้อเรื่องของตัวเองก่อนจะตัดสินใจลบมันทิ้งไปแล้วเริ่มต้นเขียนใหม่
พระเอกแล้วนึกถึงคนรอบข้าง... แบบลู่หานน่ะเหรอ? ก็คนรอบข้างก็มีอยู่คนเดียวอ่ะ
“น้ำมันเนี่ยมันต้องเลือกดีๆเข้าใจมั้ย บลาๆ” พอนึกถึงหน้าของตาบ้าขี้บ่นแล้วก็จุกจิกเรื่องอาหารก็พลางอารมณ์เซ็งสุดๆ คนตัวเล็กเบ้ปากยกดินสอไม้ขึ้นกัดพลางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ
“แม่ง อะไรวะไอ้เชี่ยเอ่ย รสชาติหมาไม่แดก”
“มีดีแค่ซุปรึไง อ่อนหัดชะมัด...”
“ทำบ้าอะไรวะ ผ้ามันต้องสักอย่างนี้ ใส่ผงซักฟอกลงไปอีก!”
“คุณแบคฮยอนวันนี้ถูบ้านไม่ใช่เหรอครับ...”
อ๊ากกกกกก น่าโมโหที่สุด!
นึกแล้วก็หงุดหงิดไอ้พระเอกแบบนี้สังคมต้องการอยู่อีกเหรอ ทั้งหยาบคาย พูดไม่เพราะ ปากไม่ดี นิสัยแย่ ใช้เก่งแล้วยังจะขี้ลืมด้วย คนแบบนี้เอามาเป็นพระเอกจะทำให้อิมเมจนิยายหลอนไปทางแนวสยองขวัญล่ะสิไม่ว่า ฮ่อลลล
“ฮื่อออ พระเอกอะไรกันปีศาจชัดๆปีศาจในคราบเทพบุตรชีวิตเรามันรันทดหดหู่จริงๆ กระซิก” คร่ำครวญถึงเรื่องราวต่างๆตั้งแต่เจอกันจนตอนนี้ผ่านมากี่วันแล้วก็จำไม่ได้
แต่ถ้าถามว่าแบคฮยอนมีความสุขมั้ยมันตรงข้ามกันมาก เขามีความสุขมากจริงๆไม่ต้องเหงาชีวิตหลากหลายมากขึ้น เขาไม่ต้องนอนกลัวเสียงฟ้าร้องหรือมุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าอย่างเมื่อก่อน คนตัวเล็กรู้จักรับผิดชอบในการทำความสะอาดทำอาหารได้แม้รถชาติจะยังไม่บรรลุผ่านเกณฑ์ก็เถอะ
หัวใจเขาก็ยังสูบฉีดตลอดเวลาที่ได้ทะเลาะกับคนตัวโต...
คิดถึงตรงนี้ทุกสิ่งที่ดูร้ายกาจก็แทบจะกลบโลกสีดำไปเสียมิด...เขาก็คนดีนี่นา
“ฉันจะดูแลให้ดีกว่านี้...” พอนึกถึงคำพูดข้างหูก่อนนอนทั้งอบอุ่น ราวกับถูกเติมเต็มในหัวใจดวงน้อย
งั้นพระเอกก็เป็นคนดีแต่ปากร้าย เขามักจะตะคอกคะโกนแล้วก็ตะหวาดแต่เขาก็อบอุ่น แต่เดี๋ยวนะ! ลู่หานไม่ใช้พระเอกสักหน่อยนิ โอ๊ยยแบคฮยอนคิดอะไรอยู่เนี่ย
“แต่พวกงานบ้านทำไมโหดจัง! เราไม่ใช่นางเอกฟูลเฮ้าสักหน่อยเหอะ” บ่นพึมพำกับตัวเอง นิ้วเรียวกระชับดินสอไม้แล้วเขียนลงบนแผ่นกระดาษบาง โดยไม่ได้รู้สึกเลยว่ามีใครอีกคนที่ยืนดูพฤติกรรมหลายบุคลิกอยู่เงียบๆด้านหลัง
“แล้วใครบอกว่านายเป็น กบเคโรโระต่างหากคือนาย”
คนตัวเล็กหันขวับส่งค้อนใหญ่ใส่ร่างสูงทันที แต่พลันสายตาก็สบเข้ากับถาดอาหารเช้าอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ครบห้าหมู่ ผักผลไม้โปรตีนวิตามินจัดเต็มพร้อมยาใส่แก้วใสเล็กๆระเบียบเรียบร้อยมาให้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กกลืนคำโต้วาทีลงคอลอบกลืนน้ำลายแทนเพราะกลิ่นหอมกรุ่น
“หิวล่ะสิ เด็กขี้นินทา” ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กที่ยิ้มเจื่อนๆ พร้อมวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะของคนป่วยที่แลดูแข็งแรงใกล้หายแล้วเหลือเพียงปากซีดหน้าซีดนั่น
“ผมเปล่านะคุณ แล้วนี่คุณกินยังอ่ะ” แบคฮยอนก้มหัวลงเล็กน้อยเป็นการน้อมขอบคุณสำหรับอาหารเช้าแสนวิเศษนี้หาที่ใดเปรียบเทียบไม่ได้อีก ลู่หานฝีมือการทำอาหารเขาไม่มีทางลืมเลยว่ามันอร่อยแล้วก็ใส่ใจมากแค่ไหนผิดกับตัวเขาเองที่สักแต่ทำให้เสร็จไป
“ยังกะว่าจะเอาข้าวกับยามาให้กินก่อนแล้วค่อยวงไปกิน” พูดไปในมือก็กำลังรินน้ำใส่แก้วให้ แบคฮยอนหันมาจ้องใบหน้าหล่ออย่างซาบซึ้ง ไม่นึกว่าเขาป่วยแล้วลู่หานจะน่ารักขนาดนี้
ใจเต้นเลย...
“กินซะ ฉันไปละเดี๋ยวจะเป็นลม เลยเวลากินมาเยอะ” คนตัวโตเดินลูบท้องที่มีกล้ามเนื้อของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไป
คนตัวเล็กก้มลงมองอาหารที่ตักเข้าปากไปพลาง เมื่อวานก่อนนอนหลับไปเขาส่งข้อความไปบอกอาการป่วยกับชานยอลว่าดีขึ้นแล้วขอบคุณมากไม่ต้องเป็นห่วง วันนี้เขาควรขอบคุณลู่หานด้วยเหมือนกันใช่มั้ย?
อินทีเรียหนุ่มกำลังตักอาหารของตัวเองยกมาวางเรียงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เครื่องเคียงขิงดอง กิมจิ แล้วก็ผักลวกชุดสุดท้ายพร้อมลงมือทาน กำลังยกช้อนขึ้นมาภาพบางอย่างที่ไว้กว่าเร็วแสงผ่านตาพร้อมร่างเล็กของคนป่วยวางถาดลงปักแล้วทิ้งตัวนั่งลงตึง
แบคฮยอนไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากยิ้มกว้างจนตาหยี่น่ารักทำเอาคนกำลังงงซดน้ำซุปแก้เขิน ร่างบางตักข้าวเข้าปากด้วยความหิวโหย
อร่อยมาก อาหารที่ลู่หานทำอร่อยรองลงมาจากที่คุณแม่ทำเลยครับ...อยากกินแบบนี้อีกตลอดไปจัง
“ค่อยๆกินดิวะเดี๋ยวก็ติดคอตาย เอ้าน้ำ” เพราะรับปากว่าจะดูแลให้ดีกว่านี้เลยได้แต่เทน้ำแล้วตักเตือนให้กินช้าลงกว่านี้ แบคฮยอนเป็นคนกินข้าวเร็วมากยิ่งพอรู้จักกันดีเขาถึงรู้ว่าคนตัวเล็กกินทุกอย่างที่ขวางหน้า
“งั่ม ขิงดองอร่อยจัง” ปากเล็กเอ่ยชมเยินยอหวังผล
“ซื้อมา” ตอบเสียงเนือยแล้วดึงกระดาษทิชชู่ส่งให้คนกินข้าวเหมือนเด็ก เลอะเทอะไปหมดเลย!
“ว้าววว เก่งจังเลยคุณสุดยอดในการทำอาหารเลย แถมเลือกแต่ของอร่อยๆมากินอ่ะ” คนตัวเล็กยิ้มแป้น คีบผักหวานยำใส่ปากเคี้ยวกรุบกรับกับแตงกวาดองปากหยักสวยก็เจื้อยแจ้วพูดต่อไป “ผมมีไอดอลเป็นคุณเลยนะขอบอก”
“หื้ม เพิ่งรู้รึไงฮะ” พูดไปแบบไม่ทันได้คิดทบทวน เผลอไผลกับคำเยินยอจนติดกับคนตัวเล็กอีกครั้ง...
“ใช่เลย ข้าน้อยสำนึกผิดแล้วท่านผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ให้คำชี้แนะด้วย” ยังคงชมคนบ้าตัวเองต่อไปเมื่อเริ่มเห็นผล “ความจริงผมอยากกินบะหมี่เย็นนะคุณ แต่ทำไม่เป็นอะมันยากมากเลยใช่มั้ยเฮ้อ”
“ไม่เห็นจะยาก ไว้เดี๋ยวจะทำให้กิน”
“จริงเหรอ นี่มีอีกนะคุณ ผมอยากกินซุนแด ออมเล็ต(ข้าวห่อไข่ – กำเนิดมาจากญี่ปุ่นอยู่ในเมนูอาหารกลางวันเด็ก) ข้าวผัดกิมจิ ไก่โสม ซุปกระดูกวัวนี่ก็อร่อย คัลกุกซู(ก๊วยเตี๋ยวไว้ทานหน้าหนาวทำจากแป้งสาลี) จัมปง ฉับเช(ผัดวุ้นเส้น) ไก่ผัดซอสก็น่ากินด้วยเยอะแยะไปหมดเลยอ่ะที่สำคัญผมชอบสปาเก้ตตี้ที่สุดแต่ทำไม่เป็น น่าเศร้าเนอะ”
“เหอะ ของง่ายมากแค่เนี่ย ไว้จะทำให้กินละกัน”
“ฮ่าฮ่า โอเคเลย” คนตัวเล็กตักข้าวเข้าปากแล้วเงียบกริบ ได้ยินเพียงเสียงเคี้ยวข้าวเท่านั้นเว้นวรรคไว้ให้ร่างสูงได้คิดจนกระทั่ง...
เอาดีๆคือลืมตัวป่ะ? แม่ง! กูโดนเด็กหลอกอีกแล้วโอ๊ย!
“หึๆ ถ้าไม่อยากผิดสัญญาอีกคุณต้องทำตามที่สัญญาไว้ด้วย” ยกเรื่องเก่าขึ้นมาขู่กันโชค คำสัญญาที่เหมือนประกาศิตไปแล้วตอนนี้สำหรับลู่หาน
เด็กแสบแบคฮยอนยิ้มร่าทันทีที่ร่างสูงพยักหน้าปลงหงึกๆคีบข้าวมากินกันจนเสร็จ แล้วเป็นหน้าที่ของเจ้าคนคำพูดหักกรอบล้างจานเก็บโต๊ะให้สะอาด
“นี่คุณของใช้หมดแล้วว่าจะซื้อเพิ่ม ไปข้างนอกกันป่ะ” เสียงใสจนแน่ชัดว่าแข็งแรงแล้วเอ่ยชวนสารถีเบอร์หนึ่ง คนอายุมากกว่ากำลังจะเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ยกแขนยาวขึ้นเหยียดตรงทำนิ้มเป็นสัญลักษณ์ว่าโอเค
แปลกจัง...เหมือนลู่หานทำตัวน่ารักมากขึ้นรึเปล่าน้า...ฮื่อ
“แป้งกับยาสระผมก็หมดแล้วด้วยสิ งั้นคุณไปอาบน้ำเร็วเราจะได้ไปกันสายๆรถติด” ประโยคแรกพึมพำใช้ความคิด พอล้างจานเสร็จก็เดินไปป่วนคนตัวโตกว่า
“เพิ่งจะแปดโมงห้างที่ไหนจะเปิดวะ มานั่งนี่มา” พูดเสร็จก็ดึงรั้งร่างบางลงมานั่งข้างๆกันหวังให้อยู่นิ่งๆเสียบ้าง “กินยายัง”
“กินแล้ว...คุณวันนี้ไม่สบายเหรอ ติดไข้ผมรึเปล่าทำไมแปลกๆ” เสียงใสเอ่ยถามด้วยความฉงนมึนงงกับความใจดีผิดปกติของคนข้างกาย
“ฮื่อ ไม่รู้สิ”
น่าจะเป็นไข้อยู่เหมือนกัน ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ...ไข้ใจน่ะ แต่รักษาด้วยการกินยาไม่น่าจะหาย...
40%
เสียงจ้อกแจ้กจอแจรอบบริเวณกว้างของห้างดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองหลวง ผู้คนเดินขวักไขว่กันเลือกซื้อสินค้าในซุปเปอร์ใหญ่หนาตา รถเข็นแสนคุ้นเคยเวลามาจับจ่ายของในครัวเรือนถูกเข็นโดนร่างสูงในชุดเสื้อยืดสีขาวพับแขนขึ้นของแบรนด์ Givenchy กับกางเกงผ้าลายทหารเขียวขี้ม้า เสื้อผ้าสบายๆแต่กลับเรียกสายตาให้เหลียวหลังกลับมาดูกันเป็นตาเดียว คนตัวเล็กเดินนำหน้าในชุดเสื้อผ้าธรรมดากับผมทรงยุ่งเหยิงหลังจากหลับในรถมากำลังหยิบของใส่ตะกร้าตามที่ลิสรายการไว้ในกระดาษแผ่นเล็ก
“เสร็จแล้วไปดูแปรงกัน” เสียงหวานเอ่ยบอกสารถีรถเข็นแล้วช่วยลากให้ตรงมาตามทาง
“หื้อ นายใช่ยี่ห้อนี้เหรอ?” ร่างสูงถามอย่างสนใจเพราะว่าเขาจำได้ว่าแบคฮยอนใช้อีกยี่ห้อหนึ่งแถมแปรงของคนตัวเล็กก็ยังไม่หมดด้วย
แบคฮยอนส่ายหน้าช้าๆสองสามที ยกยิ้มขึ้นกว้างจนตาเรียวเล็กหรี่เกือบปิดลง “ผมซื้อให้คุณ”
คำตอบแสนธรรมดาเรียกให้ลู่หานเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ พอสังเกตในตะกร้าดีๆอีกทีก็มีของใช้ส่วนตัวของตนปะปนกันไป
นี่แบคฮยอนใสใจเราขนาดนี้เลยเหรอ?
“นมสดใส่กาแฟของคุณด้วยนะหมดแล้วอ่ะ จริงๆผมไม่อยากซื้อเลยให้ตายสิกินกาแฟไม่ดีต่อสุขภาพนะ” บ่นอุบอิบแต่ก็จำใจใส่ลงไปในตะกร้า แบคฮยอนจำได้ดีว่าลู่หานไม่ชอบครีมเทียมเพราะมันไม่ดีต่อร่างกายหากทานกาแฟใส่นมตอนเช้าเขาจะใส่นมสดแทน ส่วนตอนบ่ายแก่ๆคนทำงานชอบบ่นปวดหัวขอกาแฟดำบ่อยๆ ยังไงซะแบคฮยอนก็คิดว่ามันไม่ดีทั้งหมดนั้นแหละ ชาเอยกาแฟเอย
คนอายุมากกว่ายิ้มกรุ่มกริ่มด้วยความดีใจ รู้สึกสุขใจลึกๆมันวูบวาบขึ้นมาพร้อมความตื้นตันอยากจะเข้าไปกอดแน่นๆให้หายหมั่นเขี้ยวเสียจริง
“ไม่ชอบให้กินก็ไม่กิน” คนตัวโตพูดออกมาลอยๆตามประสาคนขี้เก๊กมากท่า แล้วเข็นรถนำคนตัวเล็กที่ยืนเลือกยี่ห่อนมสดอยู่อย่างชั่งใจให้หันมามองแล้ววางนมสดวงแทบจะทันที
“จริงเหรอ ไม่กินแน่นะ ไม่อยากให้กินเลยมันไม่ดีถ้าคุณปวดหัวผมจะปั่นน้ำให้กินแทนดีป่ะ นมอุ่นก็ช่วยได้นะคุณ” วิ่งไปเกาะแขนเขย่า ปากเรียวก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“พูดแล้วทำด้วยเหอะ เมื่อเช้ายังงอแงให้คนอื่นทำให้กินอยู่เลย”
“บ้า...โอ๊ะ ปลาแซลม่อนลดครึ่งราคา!” ตะโกนโหวกเหวกอยู่คนเดียวก่อนจะวิ่งพรึบเหมือนแม่บ้านตอนเห็นของลดราคาแหลกฝ่าฝูงชนคนมุงเข้าไปยืนฟัง โดยที่ลู่หานยืนรออยู่ข้างนอกเป็นกำลังใจให้ด้วยใจชื้น
บรรยากาศแบบนี้คุ้นๆเนอะว่ามั้ย?
“เอาล่ะครับผมซิ่วหมินจะมาเป็นกรรมการในวันนี้ เวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้วครับ! ปลาแซล ม่อนชิ้นโตๆในราคาที่ลดกว่าครึ่ง! สดใหม่และถูกกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ เรามาร่วมนับถอยหลังกันเลยดีกว่า!”
เสียงตะโกนนับถอยหลังของเหล่าแม่บ้านพ่อบ้านดังกระหึ่มเรียกความสนใจให้คนที่มาช็อปของแผนกของสดได้เป็นอย่างดี ลู่หานพยายามสอดส่องสายตาหาคนตัวเล็กที่มุดหายตัวเข้าไปในกองทัพยักษ์เป็นที่เรียบร้อย นึกเป็นห่วงในใจเพราะขนาดตัวที่เล็กจะสู้แรงคนอื่นเขาไม่ได้เจ็บตัวออกมาเปล่าๆอีก
ไม่นานนักการนับถอยหลังก็สิ้นสุดลงก่อเกิดสงครามขนาดย่อมขึ้น
“กรี้ดดดดดดดของฉัน!” มือใหญ่ๆของป้าคนหนึ่งเอื้อมมาพร้อมตะโกน
คนตัวเล็กที่ไวกว่าคว้าอีกถาดแล้วปล่อยถาดที่มีป้าคนหนึ่งยื้อแย่งไปก่อนจะกอดเนื้อปลาแซลม่อนไว้ด้วยใจรักภาพเมนูลอยมาทันที แต่จังหวะระหว่างที่กำลังย่อตัวแล้วมุดดุ๊กดิ๊กออกมานั้นมีมือดีแย่งเอาปลาในอ้อมกอดออกไปเสียก่อน แบคฮยอนเลยเซถลาออกมาจากวงพร้อมล้มก้นจำเบ่า
“แบคฮยอน!” ร่างสูงรีบวิ่งเข้ามาประคองจังหวะเดียวกัน จู่ๆถาดปลาแซลม่อนชิ้นโตก็กระเด็นหลุดออกมานอกวง “ *◇* ฮ้า ปลาแซลม่อน คุณดูสิ!” เหมือนโชคหล่นใส่คนตัวเล็กในวันนี้รีบเอาปลาหลบเข้าซุกในเสื้อทันทีหลังจากโชว์อวดอินทีเรียหนุ่ม
“เป็นอะไรมากมั้ย” เสียงทุ้มละมุนนุ่มนวลเอ่ยถาม มือก็ค่อยๆประคองร่างบางให้ลุกขึ้นตาม “แค่ปลาเดี๋ยวพาไปกินก็ได้ ดูสิเนี่ยเจ็บตัวหมดเลย” เอ็ดเด็กดื้อไม่จริงจังนัก
"ไม่เจ็บสักหน่อย ขอบคุณน้า เดี๋ยวเย็นนี้ผมทำแซลม่อนลมควันให้กินเลย!” ไม่ได้สนใจคำบ่นงุบงิบเลยสักนิด
“ฮึ่ย! ไอ้เด็กบ้า ไอ้เด็กดื้อ” รู้สึกหมั่นเขี้ยวจนต้องส่งมะเหงกไปเขกหัวกลมๆเบาๆอย่างเอ็นดู
“ฮี่ๆ ดื้อแล้วรักป่ะล้า~” แกล้งเย้าหยอกคนตัวโตกว่าเล่นให้หน้าแดงเขินอายไปเหมือนอย่างทุกครั้ง ทว่ากลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อคำตอบที่ได้เหมือนกระจกสะท้อนกลับโดนเข้าเอง เล่นเองเขินเอง
“รักครับเด็กดื้อ”
บู้ม! แล้วเราก็ระเบิดกลายเป็นโกโก้ครั้น
75%
กว่าจะซื้อของเสร็จกันปาไปบ่ายโมงกว่า ลู่หานแอบบ่นว่าปวดท้องเพราะเลยเวลาเที่ยงกว่ามาแล้วกว่าจะกลับบ้านไปทำอาหารก็มื้อเย็นพอดี และเนื่องจากคนตัวเล็กยังคงงอแงว่าอยากกลับบ้านไปทำปลาแซลม่อนลมควันให้ทานไวๆทั้งสองคนเลยมาจบที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของกรุงโซล
ภายในร้านมีโต๊ะสองแบบให้นั่งทั่งเป็นเก้าอี้แล้วก็ที่นั่งเสื่อแบบส่วนตัวให้อารมณ์ญี่ปุ่นอีกแบบ ขึ้นชื่อว่าส่วนตัวเป็นอะไรที่อินทีเรียหนุ่มต้องการดังนั้นเลยจบลงมุมเงียบๆมุมหนึ่ง ขณะเดียวกันที่พนักงานกำลังรอรับออเดอร์คนตัวเล็กก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเลือกเมนูอย่างสองจิตสองใจเพราะอาหารแพงน่ากินทั้งนั้นอยากจะจิ้มนิ้วสั่งทุกอย่างมาทาน ผิดกับตอนชานยอลอยากจะเลี้ยงอาหารราคาแพงแบคฮยอนกลับเสีย ดายและเกรงใจ
“เลือกได้ยัง” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถามขึ้น “อยากจะกินอะไรก็สั่งเถอะ ขืนรอนายเลือกอย่างเดียวคงรอร้านปิดพอดี” พูดไปพลางส่งเมนูคืนไปพลาง
“จริงเหรอคุณ โหยผมไม่เกรงใจนะ” ยิ้มร่าอารมณ์ดีเสียจริงๆ ไม่รู้ว่ามันวันดีอะไรลู่หานถึงใจดีมากมายขนาดนี้
แล้วคนตัวกลมสรรพนามใหม่ของแบคฮยอนก็ถือกำเนิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กสั่งอาหารมาตามความ ชอบใจตัวเองจนล้นโต๊ะและไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนตัวโตอิ่มจนแทบขย้อนออก
“ปากเลอะ” เอ็ดคนกินมูมมามตลอดเวลาก่อนเอื้อมมือเข้าไปใกล้ๆใบหน้าหวานไล่นิ้วหยาบกร้านแต่อ่อยโยนไปตามมุมปากบนเบามือ “กินดีๆสิฉันไม่รีบ”
“อะ อื้อ” ขานรับ ลำคอค่อยๆกลืนข้าวลงคออย่างยากลำบาก
ฮื่อ มาทำแบบนี้ก็เขินนะสิคุณ!
“เป็นไร เขินเหรอหื้ม?” น้ำเสียงยั่วยวนกวนประสาตเอ่ยแซว เล่นเอวใบหน้ากลมเห่อร้อนอยากจะมุดดินแล้วหายไปจากตรงนี้ซะ
ให้ตายสิ! ไอ้บ้าไอ้คนแก่ ฮึ่ย
“แหม ถ้าผมทำแบบนี้บ้าง...” ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กเขย่งตัวเอนไปด้านฝั่งตรงข้ามในท่าชั้นเข่าแล้วนิ้วเรียวสวยก็สาธิตการปาดซาวครีมให้เลือดหัวใจสูบฉีดแก่คนขี้แกล้ง “...คุณก็หน้าแดงเหมือนกันนั้นแหละ” ชักมือกลับมาแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อแก้เขินจนหมดโดยไม่มีใครพูดอะไร รอยยิ้มที่ต่างคนต่างมีเปื้อนบนใบหน้าจนหุบไม่อยู่
“ถึงบ้านแล้วเย้!” คนตัวเล็กกระโดดลงจากรถแล้วไปยืนประจำตำแหน่ง รอคนตัวสูงแสนยืดยาดมาเปิดเอาของลง คำที่ว่าไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าที่บ้านคนเป็นเรื่องจริง พอเห็ฯบ้านแล้วมันอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“ค่อยๆถือนะ อันนั้นหนักเดี๋ยวถือเองเอาเบาๆไป” ลู่หานแยกของเบาส่งให้แบคฮยอนถือส่วนตัวเองก็รับหน้าที่ถือพวกถังนม ขวดซอสปรุงรสกับถุงข้าวสาร “นี่! อย่าวิ่งสิวะ” ไม่วายตะโกนเอ็ดไล่หลังเด็กดื้อ
ร่างเล็กสาวเท้าเร่งรีบไขกุญแจก่อนสัมผัสถึงความเย็นภายในตัวบ้าน กลิ่นอายเอกลักษณ์ของบ้านชวนคิดถึงเสียเหลือเกิน จึงทิ้งของที่ถืออยู่เต็มสองมือไม้บนโต๊ะกระจกแล้วเทตัวลงนบโซฟากว้างหลับตาพริ้มรอฟังเสียงบ่น หวังเอนกายสักนิดก็ยังดี
แกร๊ก
เสียงปิดประตูบ้านชั้นแรกตามมาด้วยเสียงเปลี่ยรองเท้าเดินในบ้านและประตูเลื่อนอีกบานด่านสุดท้าย
“เฮ้ย อย่านอนอืดดิวะ มาเก็บของเลยอย่าอู้” ร่างสูงวางของในมือบนโต๊ะกินข้าวแล้วกันมาเร่งจอมขี้เกนจอีกรอบ “เร็วเลย ล้างไก่ให้สะอาดหมักใส่กล่องด้วย ปลาที่ซื้อมาก็แกะออกจากพลาสติกใส่กล่องแต่อย่าเพิ่งหมักนะ ปลาเป็นเนื้อที่ซึมซับเร็วไว้กินค่อยหมัก ผักนี่มัดให้สนิทเมื่อเช้าเห็นออกันอยู่ในถึงเดียวกันเน่าไปหมด นิ!ฟังสิวะ ถ้าไม่ลุกจะเอาขนมไปทิ้งให้หมดเลย!”
“โหยยย อย่านะคุณ! ผมลุกแล้วฮื่อออ อย่าทิ้งขนมเขานะตัวเอง”
“หึ! ทำให้เรียบร้อยก่อนฉันลงมาเข้าใจมั้ย” ลู่หานปลดกระดุมสองเม็ดบนออกก่อนจะเดินจากไปทิ้งพาละหนักอึ้งเอาไว้กับสองมือน้อยๆ
หน๊อย สั่งเอาๆ ที่เมื่อวานง้อเขาล่ะมาทำหงอ ชิ
ในใจก็บ่นกระปอดกระแปดแต่สองมือสวยยังคงหยิบจับของมาจัดเรียงให้เข้าที่เข้าทางตามคำสั่ง ดึงถาดปลาแซลม่อนแสนสาหัสชื่อใหม่เพิ่งแต่งตั้งให้ออกจากถาดพาสติกใส เตรียมชามสแตนเลสหมักไก่ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ รีบทำแล้วรีบไปจัดการสำหรับเย็นนี้
ลู่หานเดินลงบันไดวนมาชั้นล่างด้วยเสื้อผ้าตัวใหม่เสื้อยืดกางบอลสบายๆ ชะเง้อคอหาคนในห้องครัวก็ไม่พบ ก่อนไล่สายตามาจนเจอคนตัวเล็กฟุบหลับบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ระยิ้มเอ็นดูก่อนเดินเข้าไปใกล้ๆ อยากจับคนตัวเล็กมาตีก้นเสียให้เข็ดจะได้ไม่มานอนให้ปวดคอแบบนี้อีก
ง่วงยังฝืนอีก แล้วนี่ทำอะไรล่ะเนี่ย
“หื้อ...?” สายตากลมโตจดจ้องแผ่นกระดาษเอสี่วางระเกะระกะไปมากับสมุดโน้ตเล่มบางหนึ่งเล่มเปิดค้างไว้อยู่
มันไม่ใช่นิยาย...แต่เป็นชื่อของเขา เรื่องของเขา
‘อาหารของลู่หาน’
วันนี้ดูเหมือนเขาจะปวดท้องอีกครั้งหลังจากทานข้าวไม่ตรงต่อเวลา ล่าสุดเมื่อวันก่อนอาการของเขาปวดทองหลังจากกินกิมจิรสจัดที่เราลองหมักเอง สรุปว่าเขาเป็นโรคกระเพาะดังนั้นอาหารสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะคือห้ามรสจัด
คนเป็นโรคกระเพาะควรงดดื่มชา กาแฟ เหล้า สูบบุหรี่ ยากัดกระเพาะ
เมนูปลาช่วยย่อยง่ายเหมาะสำหรับคนเป็นโรคกระเพาะ
ผักใบเขียวทุกชิดรวมถึงเห็ดดีต่อสุขภาพ...
**** ห้ามเครียดเด็ดขาด ****
เขาไม่รู้เลยว่าระหว่างที่เอาแต่คิดเรื่องของตัวเองอยู่ตลอดเวลากำลังมีคนคอยปลีกเวลาของตัวเองมาสนใจ คอยสังเกตแล้วหาทางเยียวยาโรคที่แม้แต่คนในบ้านก็ยังไม่รู้...เขากลัวคนอื่นจะเป็นห่วงจนบางทีก็อดทานของอร่อยเพราะเขา แต่แบคฮยอนสามารถทำทุกอย่างให้ดูสมดุลไม่ให้เขารู้ตัวเพราะรู้ว่าคนหยิ่งรักศักดิ์ศรีอย่างลู่หานต้องไม่ยอมให้เขาดูแลแน่ๆ
“ทำไมมีแต่ผัดผักละวันนี้? มังสวิรัติเข้าสิงเหรอหื้ม”
“ไม่นะ มีปลาด้วย กินๆไปเหอะน้าบ่นจัง”
อย่างวันนี้ก็เช่นกัน
“ไม่กินไม่ได้เหรอกาแฟ”
...
คำว่าตื้นตันจุกอกมันก่อตัวขึ้น ขอบคุณและมากกว่าขอบคุณเขาไม่รู้ว่าจะอธิบายอารมณ์พวกนี้ว่าอะไรดี ขอบตามันร้อนผ่าวพร้อมความปลื้มเอ่อล้นออกมา อยากกอดคนตัวเล็กให้แน่นๆแล้วพูดว่าขอบคุณจากใจจริงๆความรู้สึกที่ขาดหายไปตั้งแต่เด็กที่ไม่เคยได้รับรู้มัน ตอนนี้เขารู้แล้วว่ารู้สึกดีแค่ไหน
บางครั้งให้ขณะที่เรากำลังเหมือนขีวิตขาดอะไรสักอย่างไปจนลืม แล้วมีคนมาสะกิดความรู้สึกนี้ด้วยสิ่งที่เรียกว่าเติมเต็ม มันมีความสุขมากมายเหนือนับคณา
ลู่หานไม่รู้เลยว่าตัวเองมีความสุขแล้วก็ดีใจจนรอยยิ้มผุดขึ้นตลอดเวลาแค่ไหนตั้งแต่รู้จักกับคนตัวเล็กคนนี้ เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตกหลุมพรางสิ่งที่เรียกว่าความจริงใจและซื่อตรงแบบไม่รู้ตัว แบคฮยอนเริ่มต้นจากคำว่าให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ให้กำลังใจ ให้คำปรึกษา ให้ความอบอุ่น
“ขอบคุณนะขอบคุณ...ขอบคุณที่เป็นห่วงกัน”
คำว่าชอบ ชอบมาก ชอบที่สุด รัก รักมาก รักที่สุด เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้ากับคำเหล่านี้ที่นับวันยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น
ถ้าอยากดูแล อยากถะนุถนอม...มันควรใช้คำบัญญัติอารมณ์เหล่านั้นว่าอะไรดี?
“ฝันดีนะตัวเล็ก” ลูบกลุ่มผมนุ่มก่อนริมฝีปากจะประทับหน้าผากสวย...
แค่เราสองคนจับมือกันมั้ย
เหมือนกะทะกับตะหลิว
แล้วให้สายลมนำพาเราไป
----------------------------------
ครบแล้วฮ่อลลลตอนนี้อยากสื่ออะไรหลายอย่างจริงๆ
มันหลากหลายอารมณ์ไปแต่มันเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่
แล้วตอนนี้พีก็รู้สึกถูกเติมเต็มเหมือนพระเอก
ขอบคุณนักอ่านครอบครัวเดียวกันที่เติมเต็มความโหวงเหวงให้กัน
ขอบคุณมากๆ ถ้าคนในครอบครัวเรามีความสุขพีก็มีความสุขเช่นกันคะ
ดังนั้นเรามามีความสุขให้กันและกันเถอะเนอะ สู้ๆ
ถ้าชอบก็เม้นและแท๊ก #ฟิคกลับบ้าน
พูดคุยกันนอกจากติดแท๊กก็ @peepanggy
ความคิดเห็น