คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 (แก้ไข)
Chapter 5
วันนี้ฮยอนซึงมีงานถ่ายแบบสองชุดติดกันเลย
ทำให้มือไม้สั่นไปหมดเพราะยกกล้องทั้งวันและเป็นอะไรที่เหมื่อยมาก นี่ก็จะทุ่มนึงแล้วงานถ่ายรูปนักร้องก็ดำเนินการเสร็จลงเป็นที่เรียบร้อย
“อ่า ~ เหมื่อยซะมัด” ร่างบางทิ้งตัวลงกับเก้าอี้ตรงหน้าจอคอมเครื่องใหญ่
“จะกลับบ้านเลยหรือเปล่าฮยอนซึง เดี๋ยวพี่ปิดสตูดิโอให้” ฮยอนซึงเกรงใจยูอี เพราะให้ยูอีอยู่มาหลายครั้งแล้ว
“เดี๋ยวกลับพร้อมกันดีกว่า ซึงจะเอารูปพวกนี้ไปให้พี่ดูจุนดูด้วย”
“อ่องั้นหรอ งั้นกลับกันเลยแล้วกัน” ยูอีและฮยอนซึงก็เก็บของกัน
เสร็จแล้วพวกเขาทั้งสองก็เดินออกทางหน้าร้านด้วยกัน มีร่างสูงที่คุ้นเคยยืนพิงกับรถสีดำคันหรูอยู่และเมื่อเขาเห็นฮยอนซึงเดินออกมานอกร้าน
เขาก็เดินไปจับข้อมือของฮยอนซึงและลากฮยอนซึงขึ้นรถแต่ฮยอนซึงกระชากแขนเขาให้กลับมาคุยกันก่อน
“นี่ จุนฮยองนายจะพาฉันไปไหนเนี่ย” ยูอีที่ได้แต่มอง
เขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือจุนฮยองทำให้เขาอารมณ์ขึ้นและเดินตรงไปหาจุนฮยอง
“อ้าวจุนฮยอง สวัสดีค่ะ^^” ยูอีเดินเข้าไปทักทายจุนฮยองและจุนฮยองก็ก้มหัวให้นิดหน่อยและเขาก็ดันตัวฮยอนซึงเข้าไปในรถจนได้
“จะไปส่งฮยอนซึงหรอค่ะ ไปส่งฉันด้วยสิบ้านเขาก็ใกล้กับฉัน”
“อ่อผมขอโทษนะครับ พอดีผมไม่ได้เอาฮยอนซึงกลับบ้าน แต่ผมกำลังพาฮยอนซึงไปบ้านผม” จุนฮยองพูดเสร็จก็เดินไปนั่งประจำที่ของเขาและขับออกไปอย่างเร็วทำให้ยูอียืนโมโหมาก
ได้อย่างไงกัน! ฉันเลือกก่อนแกนะฮยอนซึง!
“นายจะพาฉันไปไหนเนี่ยจุนฮยอง”
“พานายไปขายมั้ง” จุนฮยองพูดตอบมา แต่ตามองไปที่ทางอย่างเดียว และฮยอนซึงก็เห็นว่าจุนฮยองกำลังขับออกจากเมือง
“นายอย่ามากวนฉันได้ไหม นายบอกสิว่าจะพาฉันไปไหน” ฮยอนซึงเริ่มหงุดหงิดที่จุนฮยองทำอย่างนี้กับเขา
“นายนั่งไปเฉยๆเถอะ ฉันจะพานายไปที่ๆที่นึง แล้วอย่าบ่นด้วย” จุนฮยองพูดจบก็หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมา และในจังหวะเดียวกันฮยอนซึงก็กำลังจะโทรหาดูจุนพอดี
“ฮัลโหล”
[ว่าไง ไหนบอกจะมาฉลองกันไง]
“พอดีฉันกลับบ้านน่ะ เออฉันเอาน้องนายมาด้วย” ฮยอนซึงรู้ว่าจุนฮยองคุยกับใครเลยดีใจและตะโกนเข้าไปในสาย
“พี่ดูจุน!!!” จุนฮยองก็เอามือข้างปิดปากและเอาโทรศัพท์แนบหูและใช้มือซ้ายจับพวงมาลัย
[อ่าวเห้ย เอาไปก็ไม่บอกสักคำ น้องฉันไม่ได้ของสาธารณนะเว้ยจะเอาไปไหนก็ไม่บอกก่อน]
“รู้ แต่จำเป็น เออแค่นี้ก่อนนะ”
[เออดูแลดีๆด้วย น้องกูมีคนเดียว หวงด้วย
อย่าให้เป็นอะไร ถึงบ้านมึงแล้วโทรมากูด้วยนะ]
“ห่วงจริงเลย เออรู้แล้วน่า”
จุนฮยองกดวางสายจากดูจุนและเอามือของเขาออกจากปากฮยอนซึงและจับพวงมาลัยต่อ
“นายไม่ให้ฉันคุยกับพี่ฉันเลยหรือไง”
“โทรศัพท์นายไง” แล้วโทรศัพท์ในมือของฮยอนซึงก็ดังขึ้น
“ฮัลโหลพี่ดูจุน”
[จะทะเลาะกันไหมเนี่ย]
“ไม่หรอกน่า พี่ดูจุนไม่ต้องเป็นห่วงนะ ซึงเอาตัวรอดได้” ร่างบางทำหน้าเชิ่ดใส่ร่างสูง
แต่ร่างสูงก็ไม่ได้สนใจ แต่จริงๆฮยอนซึงก็อยากกลับบ้านมากกว่า
[บอกไอ้จุนฮยองด้วยล่ะกันอย่าขับรถเร็ว หมอนั่นชอบขับรถเร็วอยู่]
“ก็จริง….. จุนฮยองนายได้ยินไหมมม!!!”
ฮยอนซึงตะโกนข้างหูจุนฮยอง จุนฮยองถอนหายใจและเอ่ยมา
“เห้ย…ให้ฉันกลับไปรับพี่นายเลยไหม”
“พี่ดูจุนกินข้าวกินยาหรือยัง”
[กินแล้วค้าบ โยเพิ่งทำกับข้าวเสร็จน่ะ]
“อ่อดีแล้วให้พี่โยดูแล พี่ดูจุนจะได้ไม่ต้องเถียงได้ ฮ่าๆ”
[ฮ่าๆ อะไรกันเนี่ย]
“พี่ดูจุนวันนี้ซึงถ่ายรูปทั้งวันเลยมือซึงสั่นไปหมดเลยอ่ะ”
[ก็ไม่ให้ยูอีช่วยล่ะ]
“เราใช้พี่เขาเยอะแล้วน่า แต่ก่อนพวกเราไม่ค่อยจะเข้าไปถ่ายหรอกนะเช็คงานแล้วก็กลับตลอดอีกอย่างซึงเรียนจบก็ตั้งใจจะมาช่วยงานนี้โดยตรง
นั้นพรุ่งนี้ซึงจะให้ดูนะวันนี้กะจะคัดก่อน”
[โอเคเลย ]
“งั้นพี่ดูจุนก็นอนเร็วๆนะ”
[ไม่เอาอ่ะวันนี้มีบอลคู่โปรดเตะต้องดูๆ]
“ติดตลอดเลยฟ้องพี่โยแน่”
[อย่านะเดี๋ยวตาย ฮ่าๆงั้นแค่นี้นะถึงบ้านจุนฮยองแล้วโทรหาพี่ด้วยนะ]
“อ่อโอเคฮะ”
ตอนที่จุนฮยองพูดกับดูจุนที่บอกว่าเขากลับบ้าน พอฮยอนซึงได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มแบบเขินๆแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้
“นายจะพาฉันไปบ้านนายหรอ”
“อือ”
“แล้วนายพาฉันไปทำไมหรอ” จุนอยองไม่ได้ให้คำตอบและเปิดเพลงฟัง
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยล้าของฮยอนซึง ฮยอนซึงเลยเอนเบาะลงนอนให้พอดี แล้วเขาก็หลับตาลงแล้วเอ่ยขึ้นมาบอกจุนฮยอง
“ฉันนอนก่อนนะ”
แล้วฮยอนซึงก็หลับลงไป
จุนฮยองหันมามองร่างบางตัวเล็กหัวแดงเด่นที่นอนอยู่ เลยเอามือหนาของตัวเองไปวางไว้บนหัวของร่างบางและกระตุกยิ้มมุมปาก
มือหนาของจุนฮยองก็รู้สึกถึงไอร้อนเลยไปแตะที่หน้าของร่างบาง
เลยทำให้รู้ว่าร่างบางกำลังมีไข้
เขาก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมอยากให้ฮยอนซึงมาด้วย
เขาคิดว่าถ้าเขาพาฮยอนซึงไปเจอแม่ของเขา แม่เขาอาจจะมีรอยยิ้มเพิ่มเติมมาก็ได้
รถคันดำหรูแล่นมาจอดในบริเวณหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่ง
ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มคนในหมู่บ้านแถวนี้ก็นอนหลับกันหมด จุนฮยองบิดขี้เกลียดนิดหน่อยเพราะเขาไม่ค่อยชอบขับรถเวลานานมันทำให้เขาเหมื่อยไปหมด
“นาย ตื่นถึงแล้ว” ร่างบางก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆ
อากาศหนาวเย็นมากสุดๆ ทำให้ร่างบางต้องยกแขนขึ้นมากอดตัวเอง
“บ้านนายหรอ?” บ้านของแม่จุนฮยองเป็นบ้านหลังเล็กที่เป็นทรงเดิมเก่าแก่
อยู่ในหมูบ้านเล็กเงียบๆ
แต่เขาอยากรู้มากจุนฮยองก็มีตังแต่ทำไมไม่ซื้อบ้านหลังใหญ่ให้แม่ของเขาอยู่ดีๆ
“อือ”
“นายก็รวยทำไมไม่ซื้อบ้านดีๆในแม่นายอยู่ล่ะ”
“ก็เขาไม่ยอมให้ซื้อ ฉันทำไงได้ฉันขัดใจแม่ไม่ได้ด้วย” เขากำลังจะอ้าปากถามต่อแต่จุนฮยองไม่สนใจและเดินเข้าไปในบ้านที่มีแสงไฟเปิดอยู่อย่างสว่าง
“แม่ครับผมมาแล้ว” ผู้เป็นแม่ก็หันมาและลุกขึ้นกอดลูกชายของเขาด้วยความรักและคิดถึงพอฮยอนซึงเดินเข้ามา
ก็ก้มหัวทำความเคารพกับผู้ใหญ่ แม่ของจุนฮยองก็ยิ้มขึ้นมา
“ใครหรอลูก?” แม่ของจุนมฮยองลุ้นอยู่ในใจว่าจะต้องเป็นคนรู้ใจของลูกชายเขาแน่นอน
“ชื่อฮยอนซึงน้องของเพื่อนอ่ะครับแม่ แม่มีไรให้ผมกินบ้างอ่ะ” พูดจบจุนฮยองก็เดินไปทางห้องครัว จุนฮยองพูดคำนั้นออกมาทำให้ฮยอนซึงเซ็งในทันที
“ก็ลูกไม่โทรมาบอกแม่ก่อนล่ะว่าจะมา…หนูฮยอนซึงนั่งนี้ก่อนสิจ๊ะ”
แม่ของจุนฮยองต้อนรับฮยอนซึงอย่างอบอุ่นทำให้ฮยอนซึงรู้สึกสบายใจ
“หนูรู้จักกับจุนฮยองมานานยังจ๊ะ” แม่ของจุนฮยองถามไปด้วยยิ้มไปด้วยและวางมือทับกับมือของฮยอนซึง
“อ่อก็เกือบๆเดือนนึงแล้วล่ะฮะ^^”
“อ่อ ตอนแรกนึกว่าเป็นแฟนของจุนฮยองซะอีก
ปกติจุนฮยองไม่เคยพาใครมาบ้านเลยหนูคนแรกเลยนะจ๊ะ” ฮยอนซึงรู้สึกดีใจกับคำนี้มาก
เขาเป็นคนแรกหรอ?...
“อ่อฮะ เอ่อ..ทำไมคุณน้านอนดึกจังเลยล่ะฮะ”
“ติดละครจ๊ะ เรียกว่าแม่เถอะนะ แม่อยากจะมีสมาชิกเพิ่มมาสักคน”
“เอ่อ…..คือ...”
“หนูไม่สบายเลยหรือเปล่า ตอนนี้จมูกหนูแดงแล้วนะ กินยาสักหน่อยไหม?แม่ไปเอายามาให้” ฮยอนซึงกำลังจะอ้าปากตอบแต่ร่างสูงก็เดินเข้ามาและดึงแขนร่างบางให้ลุกขึ้น
“เขาไม่ชอบกินยาน่ะแม่ เขาเด็กดื้อ” จุนฮยองลากฮยอนซึงมาที่ห้องครัวแล้วคนเป็นแม่ก็ตะโกนมาอย่างเสียงดังเพราะลูกชายเขาลากฮยอนซึงแรงไป
“จุนฮยอง อย่าลากเขาสิลูก”
“ล้างจานสิ เดี๋ยวฉันต้มราเม็งให้กิน” ฮยอนซึงพยักหน้ารับและเขาก็ล้างไปเรื่อยๆมือของเขาก็สั่นๆอย่างไงไม่รู้และน้ำมูกก็ไหล
ฮยอนซึงก็ใช้หลังมือเช็ดและชูดน้ำมูกอย่างกับเด็กน้อย
จุนฮยองที่ยืนอยู่ข้างๆก็หันมาถาม
“นายยังไหวอยู่ไหมเนี่ย” และจุนฮยองก็เดินไปเอากระดาษเช็ดชูแล้วจับหน้าฮยอนซึงหันมาแล้วเช็ดตรงที่น้ำมูกไหล
ฮยอนซึงมองตาของจุนฮยองไม่กระพริบเขาทำอย่างนี้รอบที่สองแล้วทำให้ฮยอนซึงหัวใจเต้นแรงและหนักขึ้นๆจุนฮยองก็หันมาสบตากับฮยอนซึงใบหน้าของหล่อของจุนฮยองก็เลื่อนเข้ามาใกล้…
“เดะฉันไปเปลื่ยนเสื้อก่อนนะ” จุนฮยองเดินออกไปจากห้องครัวทิ้งให้ฮยอนซึงยืนหน้าอึนมึนงงกับสถานการ์ณที่เจอเมื่อกี้เพราะหน้าของจุนฮยองเลื่อนเข้ามาใกล้ๆ
ฮยอนซึงเลยตบหน้าตัวเองเบาๆ
“ฮยอนซึงชั่งมันๆ” และเขาก็ยกหม้อราเม็งออกมาวางไว้ที่ข้างนอกที่แม่ของจุนฮยองนั่งดูทีวีอยู่…
ก่อนหน้านั้นแม่ของจุนฮยองได้ยืนแอบมองอยู่และเห็นฉากนั้นพอดีคนเป็นแม่สามารถเดาใจลูกชายได้เสมอ…เขายิ้มและดูหนังอย่างมีความสุขจนทั้งสองคนประหลาดใจเพราะจุนฮยองไม่เคยเห็นแม่หัวเราะเยอะขนาดนี้มาก่อน
“แม่ทำไมแม่ขำเยอะขนาดนี้เนี่ย”
“หนังมันตลกน่ะลูก” แต่หนังมันก็ตลกจริง -.-
“เอ้อนี่จุนฮยองดงอุนเป็นไงบ้าง แม่ไม่ได้ติดตามงานเขาเลย”
“กระแสก็ตอบรับดี วันนี้ดงอุนอยากจะมาแต่ติดซ้อมเลยมาไม่ได้”
“อ่ออยากเจอดงอุนจังไม่ได้เลยนานเลย”
“โหแม่เอาแต่คิดถึงไอ้ดงอุนแล้วผมอ่ะไปอยู่ไกลเหมือนกันไม่คิดถึงผมบ้างหรือไง”
“ฮ่าๆ นายนี่มันเด็กขี้อิจฉาน้องนายจริงๆ” ฮยอนซึงชูดน้ำมูกและกินไปด้วย
“อะไรของนายฮยอนซึงขี้มูก”
“หือ ตายซะจุนฮยองนายมาเรียกฉันอย่างนี้ได้ไงกัน”
จุนฮยองไม่ตอบและกินต่อไป
พอกินเสร็จเขาก็เอ่ยคุยกับแม่ของเขาต่อ
“แม่พรุ่งนี้แม่เก็บเสื้อผ้าและไปอยู่โซลกับผมสักสองสามวันนะ”
“ไม่เอาน่าจะให้แม่ไปทำอะไรอีก”
“ไปหาหมอ แม่ต้องไปให้หมอเช็ดบ้างตอนนี้อาการแม่เป็นไงบ้างแล้ว
ร่างกายแม่ไม่ค่อยจะดีผมเป็นห่วงแม่นะ”
คำพูดของจุนฮยองทำเอาฮยอนซึงยิ้มออกมา มันรู้สึกมันอบอุ่นหัวใจ
ความรู้สึกของฮยอนซึงตอนนี้อยากจะได้แม่เขากับคืนมาและจะดูแลท่านให้ดีที่สุด
“โอเคแม่ไปกับลูกก็ได้”
“แล้วทำไมคราวที่แล้วผมกับดงอุนมารับแม่ ทำไมแม่ไม่ยอมไปอ่ะ”
“จุนฮยองรู้ตัวไหม คำว่าคิดถึง คำว่าผมรักแม่ คำว่าเป็นห่วง
ลูกไม่เคยพูดมันเลยตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมีแต่การกระทำ มีแต่ดงอุนที่พูด นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกพูดออกมาว่าเป็นห่วงแม่
แต่แม่เข้าใจที่ลูกเป็นอย่างนี้เพราะได้เชื้อพ่อมาเยอะ ความนิ่งเลยติดลูกคนโต
ความสดใสของแม่ดันไปติดดับดงอุน แม่อยากให้ลูกทำตัวสดใสบ้างนะจุนฮยอง”
แม่ของจุนฮยองจับใบหน้าของจุนฮยองเบาๆ
ฮยอนซึงเห็นตอนนี้กำลังเป็นเรื่องของครอบครัวเขาเลยไปนั่งเล่นข้างนอกที่อากาศหนาวเย็น
“ผมโตแล้วนะแม่ ไม่ใช่ดงอุน ดงอุนมันยังเด็กน้อย” จุนฮยองยิ้มให้กับแม่ของเขา
และแม่ก็ดึงตัวจุนฮยองไปกอด
“เห้ย..แม่ไม่เห็นรอยยิ้มของลูกนานแล้ว และอีกเรื่องนะ
ฮยอนซึงเป็นเด็กน่ารักนะแม่ชอบเขา”
“เอ่อครับ”
“แล้วเมื่อไรจะเป็นแฟนกับเขา” แม่ยิ้มอย่างดีใจ
“หึหึ แม่ไปนอนเถอะครับเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย”
“จุนฮยอง ตอบแม่มาก่อน”
“ผมยังไม่ได้คิดอะไรกับฮยอนซึง แม่ไปนอนดีกว่านะ” พูดจบจุนฮยองก็เดินไปส่งแม่ที่ห้อง
ฮยอนซึงที่กำลังเดินเข้าแต่ไปได้ยินคำเหล่านั้นตอนแรกยิ้มดีใจที่แม่จุนฮยองชอบเขาแต่จุนฮยองบอกไม่ได้คิดอะไรกับเขา
“สงสัยฉันต้องชอบนายฝ่ายเดียวแน่เลยจุนฮยอง” ฮยอนซึงบ่นเบาๆกับตัวเองและเดินมาที่รถของจุนฮยองเพื่อจะมาเอากล้องไปเช็คงาน
“ทำไมนายมาอยู่ข้างนอกแบบนี้ล่ะทำไมไม่เข้าไปข้างในฉันไม่เช็ดให้แล้วนะ”
“แล้วใครใช้ให้นายเช็ด” ฮยอนซึงเดินกระแทกเท้าก้าวเข้าไปในรั่วบ้านแต่เสียงใสปริศนาทำให้ฮยอนซึงหยุดซะงักเท้าไว้ก่อน
“จุนฮยอง!” เสียงเล็กใสแสบแก้วหูและคนนั้นก็เดินเข้าไปเกาะแขนจุนฮยองอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
ฮยอนซึงเห็นอย่างนั้นเลยเดินไปเข้าไปในบ้านก่อน
“นายไม่เห็นติดต่อกับมาหาฉันบ้างเลยนะ ฉันไปโซลก็ไปหาพี่ฮีชอล
พี่ฮีชอลก็ไม่บอกว่านายอยู่ไหน แค่บอกเป็นที่ที่เขาทั่วไปเข้าไม่ได้”
“เอ่อ..พอดีช่วงนี้ฉันงานยุ่งน่ะมีร์”
“แล้วนายมาหาคุณน้าหรอ”
“อือ มีร์กลับบ้านไปเถอะอากาศหนาวฉันก็จะเข้าบ้านล่ะ”
“อ่ะนี้ยาของคุณน้าแม่ฉันให้เอามาให้” จุนฮยองรับยามา
“แล้วคนนั้นใครหรอ หัวแดงๆแฟนหรอ?”
“ครับ”
“อ่อสวยดีนะ พรุ่งนี้ฉันขอติดรถกลับโซลด้วยสินะๆจุนฮยอง” มีร์ทำหน้าบ๊องแบ๊วใส่จุนฮยอง
จุนฮยองก็พยักหน้าและยิ้มน้อยๆ
“รักจุนฮยองที่สุดเลย” ว่าเสร็จก็กอดแขนจุนฮยองแน่นและมีร์ก็เดินกลับบ้านไป
จุนฮยองก็เดินกลับเข้าบ้านและส่ายหัวเบาๆ
ถึงมีร์เคยเป็นแฟนเก่าของเขาแต่เขาก็ไม่อยากให้มีร์ทำอย่างนี้
ไม่อยากให้มีร์อยู่ใกล้เขาเลยด้วยซ้ำเพราะเขาเคยทำให้จุนฮยองเจ็บแสบมาก!
ถึงจะเป็นเรื่องในอดีตจุนฮยองก็ไม่เคยลืม
ฮยอนซึงที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินสวนกับจุนฮยองแต่ฮยอนซึงก็ไม่พูดกับจุนฮยองสักคำ
เขาลืมไปสนิทเลยว่าต้องโทรดูจุน
แต่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วส่งข้อความไปจะดีกว่า
‘พี่ ซึงถึงบ้านจุนฮยองแล้วนะอากาศหนาวมากเลย พรุ่งนี้น่าจะกลับ
อาจจะถึงประมาณบ่ายๆนะแล้วเจอกันฮะ^^”
ฮยอนซึงก็เอาหมอนกับผ้าห่มลงมานอนกับพื้นและให้จุนฮยองนอนบนเตียงไป
ฮยอนซึงก็เดินออกไปข้างนอกห้องก็สำรวจอย่างนู่นอย่างนี้ไปเรื่อย
จนมาหยุดที่กรอบรูปรูปหนึ่งในรูปนั้นมีเด็กชายตัวน้อยๆแก้มย้อยๆปากห้อยๆตาชั้นเดียวผิวขาวหน้าตาน่ารักยืนเกาะตู้เกมอยู่
นั่นคือจุนฮยองตอนเด็ก
ฮยอนซึงยิ้มจนแก้มปริที่ได้เห็นรูปตอนเด็กของจุนฮยองมันชั่งน่ารักมากจนอยากจะเอาไปด้วย ฮยอนซึงเลยคิดขโมยรูปนี้เขาเลยแกะกรอบออกและเอารูปออกมาแล้ววิ่งเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆเพราะกลัวจุนฮยองจะรู้
“นี่แหนะ! ยงจุนฮยอง ทำไมตอนเด็กนายน่ารักขนาดนี้เนี่ย ไม่น่าโตเลย ฮ่าๆ”
ฮยอนซึงใช้นิ้วดีดรูปของจุนฮยองอย่างหมั่นไส้เขาชอบรูปนี้จริงๆเลย
“ทำไรอ่ะฮยอนซึง” ฮยอนซึงรีบเก็บรูปนั้นใส่กระเป๋ากางเกงและทำหน้าอึนมึนใส่จุนฮยอง
“เปล่านิฉันเล่นโทรศัพท์”
“เสื้อผ้าใส่ได้หรือเปล่า”
“อือก็ใส่ได้”
“หึ นายมันตัวเล็กใส่ได้หมดแหละ แล้วทำไมไม่นอนบนเตียง”
“เห้ย..นายจะบ้าหรือไงฉันกับนายรู้จักกันไม่นานนะ
จะให้ขึ้นนอนเตียงเดียวกับนายเลยหรือไง”
จุนฮยองเดินออกไปข้างนอกและไปหยิบยาลดน้ำมูกของแม่เขามาและในมือก็ถือแก้วน้ำและยื่นให้ฮยอนซึง
“นายจะทำหน้ามึนไปอีกนานไหม รีบๆกินแล้วก็รีบนอน” ฮยอนซึงไม่สนใจฟังและหยิบโทศัพท์ขึ้นมาเล่นต่อ
จุนฮยองหมั่นไส้ที่ฮยอนซึงไม่ยอมกินยาจนกลายเป็นเด็กที่ไม่ชอบกินยาและต้องคอยให้พ่อแม่จับกอกปากตลอด
“จางฮยอนซึง”
ร่างบางหันมามองและกำลังจะเอ่ยขึ้น ร่างสูงหยิบโทรศัพทิออกจากมือฮยอนซึงและโยนไปบนเตียงและบีบปากร่างบาง
ต่อจากนั้นก็เอายายัดเข้าไปในปาก ทำให้ร่างบางร้องออกเสียงในลำคออย่างขัดขืน ร่างสูงก็เอาน้ำกอกตามลงไปให้ประมาณพอสมควรกับการกินยา
แต่ดูท่าแล้วร่างบางกำลังพ่นน้ำออกมา ร่างสูงเลยใช้ปากของเขาประกบลงกับริมฝีปากบางทำให้ฮยอนซึงอึ้ง!ค้างกับสถานการณ์ตรงหน้า
ทำให้เขากลืนยาลงไปหมดแต่ตาก็ยังคงจ้องไปยังตาของร่างสูง แต่ร่างสูงนั้นหลับตา
ร่างบางเลยหลับตาลงไปด้วย แล้วลิ้นของร่างสูงเริ่มเข้ามาในโพงปากของร่างบางและเกี่ยวพันกับลิ้นของเขาจนทำให้ลืมความขมของยาไป
“อือ..พอก่อนจะ…จุนฮยอง...” ฮยอนซึงดันอกของจุนฮยองออกไป
จุนฮยองลุกขึ้นและทำหน้านิ่งเหมือนอย่างเคย
แต่หน้าของอีกคนกำลังร้อนมากขึ้นจนอยากอาบน้ำใหม่อีกรอบ
“กินยาเสร็จแล้วนอนได้แล้ว แต่นายต้องขึ้นมานอนบนเตียง”
“นี่ นายจะบังคับฉันเยอะเกินไปไหมเนี่ย”
“นายปิดไฟด้วยนะ”
“บังคับฉันแล้วยังใช้ฉันอีกนะ เหอะ” บ่นเสร็จฮยอนซึงก็เดินขึ้นมานอนข้างจุนฮยองนอนหันหลังให้กับเขา
ฮยอนซึงเลยหันหลังใส่กลับบ้าง ทำให้จุนฮยองรู้สึกรำคาญเพราะฮยอนซึงนอนไม่นิ่งเอาซะเลย
“นี่! ฮยอนซึงนายจะนอนดีๆไม่ได้หรือไงจะขยับไรหนักหนา” จุนฮยองลุกขึ้นมานั่งและเปิดไฟหัวเตียงและมองไปยังร่างบางที่นอนจ้องตาจุนฮยองอยู่
“ก็มันนอนไม่หลับแถมหนาวอีก”
“ไปนอนข้างล่างเลยไป ฉันจะนอน”
ฮยอนซึงเห็นว่าจุนฮยองกำลังไล่เขา
เขาเลยมานั่งประชันหน้ากับจุนฮยอง
“แล้วทีนี้จะให้ฉันไป ฉันไม่ไปหรอกฉันจะนอนอยู่บนเตียงนี้” พูดเสร็จฮยอนซึงก็ขย่มเตียงนิ่มๆอย่างล้อเลียน
“นี่! จางฮยอนซึง นายก็อายุเท่าๆกับฉันนะยังจะทำตัวเป็นเด็กอีก” จุนฮยองกำลังล้มตัวนอนแต่ฮยอนซึงดึงไว้ก่อน
“นี่จุนฮยองตื่นขึ้นมาก่อนเส้ มาเล่นเกมกัน”
“อะไรของนายเนี่ย มันดึกแล้วนะพรุ่งนี้ฉันมีทำงานต่อ” ฮยอนซึงได้ควักรูปจากกระเป๋ากางเกงออกมาโชว์ลอยหน้าลอยตา
“นี่มันเด็กที่ไหนเนี่ย แก้มย้วยๆปากห้อยๆ” จุนฮยองเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอน
เขาเชื่อว่าต้องเป็นรูปเขาอย่างแน่นอน
“ฮยอนซึงนายเอามาจากไหน!”
“ก็แถวนี้แหละ” จุนฮยองพยายามจะคว้ามาแต่ฮยอนซึงกลับชูขึ้นฟ้า
และก็หลบจุนฮยองไปทั่ว สงสัยจุนฮยองต้องใช้ไม้ตายนี้…
“นายจะเอามาให้ฉันไหม ?..... ไม่งั้นฉันจะจูบนายแบบเมื่อกี้อีก” ใบหน้าของจุนฮยองเริ่มใกล้เข้ามาใกล้เข้ามา ทำให้หัวใจของฮยอนซึงทำงานหนักขึ้นเลยหันหน้าหนีและยื่นรูปนั้นให้จุนฮยองและล้มตัวลงนอนทันที
หลังจากที่จบเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้จุนฮยองนึกถึงเหตุการ์ณก่อนหน้าที่เข้าจูบฮยอนซึง
เขาจงใจที่จะทำอย่างนั้นเขาอดที่มองไม่ได้อย่างเดียว พอนึกถึงตอนนั้นทำให้ใจของเขาเต้นแรงตั้งแต่เขาเลิกกับมีร์ไปก็ไม่เคยใจแรงเต้นอีกเลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันใหม่ โยซอบตื่นแต่เช้ามาทำข้าวต้มให้กับดูจุนเพราะดูจุนยังไม่หายดีเท่าไร
ร่างเล็กที่ยืนทำข้าวต้มอยู่นั้นหันไปมองร่างสูงที่นั่งเอานิ้วเคาะโต๊ะเป็นอาการที่เหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง
“ดูจุนสงสัยอะไรหรือเปล่า?” ดูจุนหันไปมองร่างเล็กแล้วกระตุกยิ้มมุมปากหน่อยๆ
“เปล่าหรอกครับ แล้วเสร็จหรือยังดูจุนหิวแล้วนะ”
“ของอร่อยก็ช้าหน่อยสิ” และโยซอบก็ตักข้าวต้มมาวางไว้ที่หน้าของดูจุน
“จะกินได้ไหมเนี่ย”
“ชิ
โยล่ะอยากเตะดูจุนให้เป็นลูกฟุตบอลจริงๆ”
“โอ้วไม่ดีมั้ง แค่ดูจุนเล่นก็พอแล้ว เอ่อ…โยถามไรหน่อยสิ”
“หืม?” โยซอบกำลังตักข้าวต้มเข้าปาก
“จุนฮยองกับฮยอนซึงจะทำอะไรกันไหม ?”
“แค่กๆ ! โอ้ยดูจุน” โยซอบที่เอาข้าวต้มเข้าปากแล้วเรียบร้อยถึงกับสำลักออกมาเพราะถามของดูจุน
“โย ดูจุนขอโทษ” ดูจุนรีบเข้ามาเช็ดปากให้คนรักอย่างรีบถึงมือจะใช้ได้ข้างเดียว
“นี่มันใช่เวลาถามหรือเปล่าดูจุน
ไปนั่งกินข้าวต่อเถอะ” ดูจุนก็เดินไปนั่งกินข้าวต้มต่ออย่างรู้สึกผิดที่ทำให้โยสำลักข้าว
“บางครั้งดูจุนก็คิดมากเรื่องฮยอนซึงไปนะ เขาอาจจะไม่ได้นอนด้วยกันก็ได้”
“ก็จริง… ข้าวต้มโยอร่อยมากเลยนะ”
“จริงหรอดูจุน ไม่โกหกโยนะ?” โยซอบดีใจมากที่ดูจุนเอ่ยชม
“จริงสิไม่โกหกหรอกน่า ฮ่าๆ โยกินเยอะๆนะ”
“แล้วก็มาบ่นว่าโยอ้วน”
ดูจุนเอื้อมไปหยิกแก้มโยซอบเบาๆอย่างเอ็นดู
โยซอบเขามีความสุขที่อยู่ใกล้กับดูจุนเพราะดูจุนเป็นคนที่ไม่เครียดสนุกสนานมีความเป็นผู้ใหญ่สามารถดูแลอะไรต่างๆนาๆได้
เขาเป็นผู้ชายในอุดมคติของใครหลายๆคนแต่โยซอบก็เป็นหนึ่งในนั้นเป็นคนที่โชคดีที่เขากับดูจุนได้มารักกัน
ดูจุนไม่เคยทำโยซอบผิดหวังไม่เคยทำโยซอบเสียใจไม่เคยทำตัวแย่ๆ แต่ไม่รู้ว้าขาจะดีกับโยซอบได้ตลอดไปหรือเปล่า…
---------------------------------------------------------------------------------------------------
“จุนฮยองอา ตื่นได้แล้วนะลูกจะแปดโมงเช้าแล้วนะ” แม่ของจุนฮยองเคาะประตูห้องสองสามทีแต่ก็ไม่ได้เสียงตอบกลับรับมา
แต่เปิดประตูออกพบว่า..
ร่างสูงได้นอนกอดร่างบางและร่างบางก็กอดกลับเช่นกัน ใบหน้าของฮยอนซึงซบไปที่อกของจุนฮยอง
แม่ของจุนฮยองเห็นอย่างนั้นก็กอดยิ้มไม่ได้ก็พยายามกั้นขำ แต่แล้วก็มีคนที่คุ้นเคยกับบ้านของจุนฮยองเดินเข้ามาโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติแต่แม่ของจุนฮยองก็ไม่เคยว่าอะไร
“คุณน้าฮะ จุนฮยองตื่นหรือยังฮะ”
มีร์เดินเข้ามาถึงหน้าห้องของจุนฮยองก็พบว่ามีสองร่างนอนกอดกันกลมอย่างอบอุ่น
มีร์เห็นอย่างนั้นอยากจะจิกหัวของฮยอนซึงขึ้นมาด่าแต่เขาก็ทำไม่ได้เลยต้องทำเป็นใจเย็นและเดินไปปลุกจุนฮยอง
“จุนฮยองนายตื่นสิ! จุนฮยอง!” มีร์เขย่าตัวจุนฮยองแรงๆเลยลืมตาขึ้นมาช้าๆและมองหน้ามีร์อย่างสงสัยว่าเข้ามาได้อย่างไง
“มีร์เข้ามาได้ไงเนี่ย” จุนฮยองหันมามองตัวเองที่กำลังทำอะไรที่ไม่ควรทำอย่างตกใจ
“เฮ้ย!” และเขาก็ลุกขึ้นทันที
จนฮยอนซึงก็ลืมตาขึ้นมาช้าๆเมื่อเห็นแม่ของจุนฮยองก็ลุกขึ้นและก้มหัวเข้าไปห้องน้ำทันที
มีร์ทำหน้าสงสัยว่าทำไมจุนฮยองต้องตกใจเมื่อนอนกอดแฟนตัวเอง
“จุนฮยองทำไมนายต้องตกใจที่กอดแฟนนาย?” จุนฮยองหันไปมองหน้าแม่ของเขา
แม่ก็ยิ้มแล้วก็เดินออกไป
“ไม่ได้ทำกันบ่อยน่ะ
โทษทีนะที่ตื่นสายนายออกไปรอข้างนอกเถอะฉันจะอาบน้ำแต่งตัว” และมีร์ก็เดินออกไปตามคำสั่งของจุนฮยอง
จุนฮยองก็นั่งรอฮยอนซึงอาบน้ำเสร็จ และก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำอย่างนั้นไปเขาไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้นในเมื่อคืนมันหนาวมากจนอยากกอดใครสักคน
“จุนฮยองนายหยิบผ้าขนหนูให้หน่อยสิฉันลืมเอาเข้ามา” จุนฮยองได้ยินเสียงหวานจากร่างบางเลยหลุดจากความคิดนั้นไปและบ่นร่างบางอีกเช่นกันเคย
“เมื่อไรนายจะหายโรคขี้ลืมสักทีโรคอึนด้วยก็ดีนะ” จุนฮยองยื่นผ้าขนหนูให้กับคนที่ยื่นมือรอรับจากทางประตูที่เปิดน้อยๆและฮยอนซึงก็กระชากมาจากมือจุนฮยองแรงๆ
ไม่นานนักทั้งสองคนก็แต่งตัวเก็บของของตัวเองทั้งหมด
ฮยอนซึงก็ไปหยิบรูปจากหัวเตียงที่จุนฮยองวางไว้
และก็ไม่ได้พูดไม่ได้จากันเลยไม่กล้ามองหน้ากันด้วยซ้ำเพราะเรื่องที่จุนฮยองจูบเขาเมื่อคืน
มันทำให้นึกตลอด
“คุณน้านั่งข้างหน้าแล้วกันนะครับเดี๋ยวผมนั่งหลังเอง” ฮยอนซึงให้แม่ของจุนฮยองนั่งหน้าเพราะมันจะดีกว่าถ้าให้ผู้ใหญ่นั่งหน้า
“อ่อไม่เป็นไรจ๊ะเดี๋ยวแม่นั่งกับมีร์เองฮยอนซึงนั่งกับจุนฮยองเถอะจ๊ะ”
ฮยอนซึงก้มหัวน้อยๆให้กับแม่ของจุนฮยอง
เหลืออีกหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงโซลแล้ว ฮยอนซึงรู้สึกรำคาญใจกับมีร์ที่อ้อนนู่นอ้อนนี้จุนฮยองเอากินขนมให้จุนฮยองกินอยู่นั้นแหละเดี๋ยวป้อนนู่นป้อนนี้ให้เห็นแล้วมันรำคาญ
ครืน..ครืน..
ฮยอนซึงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูสีขาวออกมาจากกระเป๋ากางเกงก็ปรากฏเป็นเบอร์ของผู้จัดการส่วนตัวของวงที่มาถ่ายเมื่อวาน
“สวัสดีฮะ….ฮะผมต้องขอโทษด้วยนะฮะที่บอกว่าจะให้รูปวันนี้พอดีมีธุระทางครอบครัวที่ไม่ได้คัดรูปเลยอ่ะฮะ
พรุ่งนี้ผมจะให้ส่งรูปแต่เช้าเลยนะฮะขอโทษด้วย……ฮะๆขอบคุณฮะ”
ฮยอนซึงกดวางสายและหยิบกล้องถ่ายรูปของเขาออกมาเปิดดูและคัดรูปแต่ที่สวยๆ
“มีคนทวงงานหรอ”
“อ่า เพราะนายนั้นแหละ” จุนฮยองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร
มาแปลก ?
ฮยอนซึงก็คัดรูปไปเรื่อยๆ แต่รูปมันก็เยอะมาก และเขาก็พักจากการคัดรูปและวางกล้องบนตัก
มองไปยังนอกหน้าต่างที่มีรถมากมายวิ่งอยู่บนถนน ทำให้เขานึกถึงเมื่อคืนที่อยู่ดีๆเขาก็มีความอบอุ่นขึ้นมาจากอากาศที่หนาวจัด
เขาสงสัยว่าทำไมเขาถึงอุ่น..แต่มันก็ยังหาคำตอบไม่ได้
“มีร์จะลงตรงไหน” จุนฮยองถามขึ้นมีร์ก็ใช้เวลาคิดอยู่นานว่าจะลงตรงไหน
“นั้นลงที่มยองดงแล้วกัน” จุนฮยองพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
พอถึงที่หมายมีร์ก็บอกลาอย่างเสียงดัง
“จุนฮยองเจอกันใหม่นะ มาเจอกับฉันด้วยล่ะ
คุณน้าฮะเดี๋ยวมีร์จะไปหาคุณน้าบ่อยๆนะฮะ^^”
“จ้า” มีร์ก็วิ่งลงจากรถไปและจุนฮยองก็แล่นรถออกต่อ
“นายล่ะฮยอนซึงจะลงไหน”
“กลับคอนโด … นายพูดเหมือนนนายเป็นรถแท็กซี่เลยแฮะ”
“หึ งั้นแม่ก็อยู่ที่ห้องผมก่อนแล้วกันนะ
พอดีวันนี้ต้องไปทำงานด่วนต่อ”
“อ่อ แล้วคอนโดลูกอยู่ไหนล่ะ”
“อยู่ที่เดียวกับฮยอนซึง
นายช่วยพาแม่ฉันไปส่งหน่อยนะ”
“อ่อไม่เป็นไรหรอกจุนฮยองแม่ไปเองได้”
“ไม่เป็นไรหรอกฮะคุณน้า เดี๋ยวผมไปส่งพอดีเป็นชั้นผ่านของห้องผมพอดี^^”
“อ่องั้นก็ได้จ๊ะ^^”
“คีย์การ์ดห้องล่ะ! จะให้ฉันถีบประตูไปหรือไง”
“นายถีบก็ซ้อมให้คอนโดเขาด้วยแล้วกัน” ฮยอนซึงก็รับคีย์การ์ดห้องของจุนฮยองมา
“นายก็ขับรถดีๆนะ” ฮยอนซึงพูดเสร็จก็ออกมาจากรถของจุนฮยองทันที
ผู้เป็นแม่ได้ยินคำนั้นก็ยิ้มให้จุนฮยองและลงรถมา
“คุณน้ามาอยู่ห้องผมก่อนก็ได้นะฮะ เดี๋ยวผมทำกับข้าวให้กิน” ฮยอนซึงเสนอไปเพราะแม่ของจุนฮยองอาจจะเหงาที่อยู่คนเดียว จุนฮยองอาจจะกลับดึกก็ได้
“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะแม่ไม่รบกวนดีกว่า”
“เดี๋ยวคุณน้าจะเหงานะฮะอยู่คนเดียวห้องผมยังมีพี่ชายและแฟนพี่ชายผมอยู่ด้วยจะได้มีคนคุยเยอะๆคุณน้าจะได้ไม่ต้องเหงาไงฮะ”
“นั้นก็ได้จ๊ะ
แต่ฮยอนซึงต้องเรียกแม่ว่าแม่นะจ๊ะ”
“เอ่อ..ไม่ดีมั้งฮะ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับจุนฮยอง...”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ แต่แม่อยากให้หนูเรียกอย่างนี้นะ”
“โอเคฮะ งั้นเข้าห้องผมเลยดีกว่า”
ฮยอนซึงเปิดประตูเข้าไปในห้องเสียงทีวีดังแสดงว่าดูจุนอยู่
“พี่ดูจุนซึงกลับมาแล้ววว”
“โอ้ะมาแล้วหรอ.. เอ่อสวัสดีครับ^^” ดูจุนลุกขึ้นและก้มหัวเมื่อมีผู้ใหญ่แปลกหน้าเข้ามา
“นี้แม่ของจุนฮยองนะพี่ พอดีจุนฮยองไปทำงาน”
“อ๋อเชิญนั่งครับแม่ ผมเป็นเพื่อนสนิทจุนฮยองนะครับ ยุนดูจุนครับ ^^”
“อ่อจ๊ะ นี่อยู่คนสองคนหรอ”
“ฮะ
พวกเราอยู่ด้วยกันสองคนแล้วก็มีอีกคนนึงแฟนพี่ดูจุนก็มาค้างบ้างไม่ค้างบ้าง^^
คุณแม่นั่งคุยนั่งดูทีวีไปกับพี่ดูจุนก่อนนะฮะ เดี๋ยวผมไปกับข้าวก่อนนะฮะ”
“เดี๋ยวแม่ไปช่วยนะ”
“ไม่ต้องหรอกฮะ”
“แม่ทำอร่อยนะ แต่แม่กผ็อยากชิมฝีมือเราด้วย”
“โอเคก็ได้ฮะ
นั้นคุณแม่ก็ไปดูของในตู้เย็นได้เลยนะฮะถ้าขาดอะไรผมจะลงไปซื้อให้”
“อ่อโอเคจ๊ะ^^”
“ผมขอคุยงานกับพี่ดูจุนก่อนนะฮะ”
แม่ของจุนฮยองมีสีหน้าที่ดีขึ้นสดใสขึ้นเมื่อได้เจอกับฮยอนซึง
“ซึงคัดไปแล้วอ่ะพี่ดูจุนพี่ช่วยอีกหน่อยแล้วกัน”
“โอเค คัดในคอมดีกว่า”
“คิดจะดูขาสาวๆอ่ะดิ”
“เปล่าสักหน่อย”
“ฟ้องพี่โยแน่”
“พี่ล้อเล่น ไปช่วยแม่ไอ้จุนฮยองทำกับข้าวไป”
ฮยอนซึงพยักหน้าแล้วเดินไปในครัวก็เห็นหญิงวัยกลางกำลังล้างผักสีหน้าของเธอผิดจากตอนที่เจอครั้งแรก
เธอดูมีความสุขอย่างไงไม่รู้
“คุณแม่เดี๋ยวผมทำเองดีกว่า เดะผมจะโชว์ฝีมือเจ๋งๆให้ดู”
“ฮ่าๆโอเคเลยจ้า งั้นเราสองคนผลัดกันทำคนล่ะอย่างนะเดี๋ยวแม่จะบอกของโปรดของตาจุนฮยองให้ฟังด้วย”
“อ่อฮะ”
“จุนฮยองเขาชอบกินเผ็ดนะ”
ฮยอนซึงก็พยักหน้ารับแล้วก็ถามนู่นถามนี้ถามเยอะแยะไปหมด
แม่ของจุนฮยองก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นในความน่ารักและเป็นความนิสัยเด็กของฮยอนซึง
คนแขนหักอย่างดูจุนก็ไม่ได้หยุดงานสบายๆสักครั้งแต่เขาก็ไม่ได้บ่นหมดออกมาในเมื่อมันเป็นหน้าที่ของเขา
แต่เขาก็ยังหงุดหงิดที่ทำอะไรไม่ค่อยสะดวก
ครืน ครืน
[จุนฮยอง]
“เออว่าไง”
[ทำไรอยู่ว่ะ]
“นั่งทำงานอ่ะดิ”
[โอ้โหคนป่วยอย่างมึงมีทำงานด้วยหรอว่ะ]
“ก็ใช่อ่ะดิ งานกูมันไม่ค่อยมีวันหยุดให้หรอกน่า”
“เออแม่มึงอยู่ห้องกูนะ”
[จริงดิ เออดีแล้วก็ว่าอยู่ไม่โทรมาเลย]
“ทำไมว่ะ พูดอย่างกับโล่งใจ”
[ในตู้เย็นกูมีแต่โซจูกับโค้กขนาดพี่ฮีชอลยังบ่นกูแม่กูด่าเลยว่ะนั้น]
“โห ติดหรอว่ะ”
[เปล่าเว้ย กูไม่ค่อยได้กินแล้วว่ะช่วงนี้ต้องทำงาน]
“เออแล้วจะมากินข้าวห้องกูไหม แม่มึงลงมือทำกับฮยอนซึงเลยนะ
[คงไปแหละ]
“มีเรื่องจะคุยด้วยมาด้วยจะดื่มก็ซื้อมา”
[เออ ขึ้นไปเอาบนห้องกูก็ได้คีย์การ์ดห้องกูอยู่กับฮยอนซึงอ่ะ เข้าไปเย็นหน่อย
งานไม่เสร็จ เออแค่นี้นะ]
.
.
Junhyung
หลังจากที่ผมส่งแม่กับฮยอนซึงเรียบร้อยแล้วก็ต้องกลับมานั่งทำงานเหมือนเดิม
ทำไมผมถึงเป็นโปรดิวเซอร์หรอ
ผมคิดว่ามันก็เท่ห์แถมยังทำอะไรใหม่ๆเจอกับเสียงดนตรีเสียงเพลงใหม่ๆ
ผมเป็นคนชอบฟังเพลง
ตอนที่ผมเรียนผมก็คิดไว้เสมอว่าจะเป็นนักแต่งเพลงผมสนใจทางด้านนี้มากสุดๆ และก็มีอยู่เพลงหนึ่งที่ผมแต่งให้กับคนพิเศษ
แต่แต่งให้เขา เขาก็ดันทิ้งผมไปนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้นผมเหมือนกับไม่ใช่ตัวผม เขาทำให้ผมเปลื่ยนไปเขาทำให้ผมยิ้มได้และอยู่กับเขาผมก็มีความสุข
นั้นคือ ‘มีร์’ แต่เขาทำผมเจ็บมากผมถึงกับต้องร้องไห้เพราะเขา
พูดถึงตัวเองตอนนั้นงี่เง่าซะมัด ผมก็ไม่คิดจะมีใครจริงจังจนถึงวันนี้ แต่กลับคนที่ผมอยู่เมื่อคืนทำใจผมเต้นแรงมาก…
“พี่ทำงานเสร็จยังเนี่ย ผมอยากเจอแม่แล้วนะ” ไอ้ดงอุนน้องชายผมที่มันก็ติดแม่เอาซะเหลือเกิน
ผมโตแล้วไงไม่ใช่เด็กอย่างมันที่ต้องมาทำตัวน่ารักตลอดเวลา
“เสร็จแล้วๆ รีบหรือไงว่ะ”
“โหพี่ไม่รู้อะไรซะแล้วผมไม่ได้เจอแม่มาเดือนหนึ่งแล้วเนี่ย
คิดถึงจะตายพี่ไม่คิดถึงแม่หรือไง”
“รีบไปเถอะวันนี้ที่ห้องฮยอนซึงเขาเลี้ยงข้าว”
“จริงดิ” ที่ผมไม่พูดว่าคิดถึงแม่เพราะผมไม่ได้แนวคนขี้อ้อน
แต่ผมใช้การกระทำของผมคือการโทรเช็คทุกวันถึงผมจะไม่มีเวลา แต่ผมก็พยายามจะหาเวลาให้แม่ผมได้
ตอนนี้ผมกลายเป็นเสาหลักของครอบครัวผมพยายามจะทำให้มันดีที่สุดเท่าที่กับผมสัญญากับพ่อผมไว้
ระหว่างทางที่จะไปคอนโดก็ผ่านร้านพี่ฮีชอลผมเลยแวะรับเขาไปด้วย
แต่มีร์ก็ดันอยู่มันทำให้ผมอัดอึดและผมบอกมีร์ไปว่าฮยอนซึงเป็นแฟนผม
แล้วฮยอนซึงไม่รู้ด้วยก็คงทำตัวอึนเหมือนอย่างเคยสินะ
“แม่ค้าบบบผมคิดถึงแม่จังเลย”
ดงอุนเดินเข้าไปก็เข้าไปกอดแม่ทันที
ฮยอนซึงก็ยิ้มและมองดงอุน ยิ่งดงอุนทำอย่างนี้ก็น่ารักเข้าไปใหญ่ถ้าใครได้เห็นมุมนี้นะคงตายเป็นแถวๆ
“คิดถึงเหมือนกันจ๊ะลูกแม่”
คนแม่ก็หอมแก้มนิ่มๆของดงอุนอย่างชื้นใจแล้วดงอุนก็หอมกลับ
“สวัสดีครับ น้าเป็นไงบ้างครับ”
ฮีชอลพูดเสร็จก็เข้าไปกอดแม่ของจุนฮยอง
“น้าสบายดีจ๊ะ
ขายเค้กดีไหมจ๊ะฮีชอล?”
“ดีครับน้า”
“เอาล่ะทุกคนวันนี้เรามีเนื้อย่างชั้นดีด้วยต้องฉลอง” ฮยอนซึงก็ตะโกนบอกทุกคนก็ เฮ้ๆกันตามไป
ยกเว้นมีร์กับจุนฮยอง
“ฮยอนซึงมากับฉันแปปนึง คีย์การ์ดอยู่ที่นายหรือเปล่า” ฮยอนซึงพยักหน้าและเดินตามจุนฮยองออกมาจากห้องสายตาของมีร์ก็ยังจดจ่อมองอยู่ตลอด
“นายมีไรหรอ”
“ไปเอาของที่ห้องฉันจะให้นายมาช่วยถือ”
พอมาถึงห้องของจุนฮยองฮยอนซึงก็มองนู่นนี้ไปเรื่อย และเดินไปหาจุนฮยองที่เอาขาวที่เขียวใสออกมาจากตู้เย็น และฮยอนซึงก็มองเข้าไปในตู้
น้อยขวดนักที่จะมีน้ำเปล่าอยู่
“โหนี้นายกินโค้กกับโซจูเป็นอาหารหรือไงเนี่ย”
“นี่ อย่าบ่นเหมือนกับพี่ฮีชอลได้ไหม”
“ก็นายไม่รักสุขภาพตัวเองเอาซะเลยฉันเป็นพี่ฮีชอลฉันก็บ่นนายเหมือนกันนั่นแหละ”
“ฮยอนซึง” จุนฮยองเรียกชื่อเขาทำให้ใจของเขาสั่นขึ้นมา
“เป็นแฟนกับฉันไหม” จุนฮยองพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าของฮยอนซึงเหมือนไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดคำนี้ออกมา
“เหอะ จุนฮยองนายไม่เต็มใจ นายอย่าพูดดีกว่า”
ฮยอนซึงคว้าขวดโซจูหลายขวดและออกไปโดยที่ไม่รอจุนฮยอง จุนฮยองตั้งใจที่พูดแต่เขาไม่กล้าที่แสดงออกแบบที่โรแมนติก
ฮยอนซึงเดินมาถึงห้องก็วางโซจูลงและนั่งข้างดงอุนและข้างๆฮยอนซึงยังว่างจุนฮยองเลยเดินลงไปนั่ง
เขาหันไปมองคนหน้าสวยที่นั่งอยู่ข้างเขา
หน้าตาของฮยอนซึงไม่ค่อยมีอารมณ์สักเท่าไรเพราะจุนฮยองพูดอย่างนั้นออกมาทำให้คิด
คิด คิด ไปมากกว่านั้นแล้วเขากลัวว่าเขาจะรักจุนฮยอง
“พี่ฮยอนซึงกินนี่หน่อยสิครับ ผมเห็นพี่ย่างให้กับอื่นเขา” ฮยอนซึงพยักหน้าและยิ้มๆน้อยแล้วคีบเนื้อย่างที่ดงอุนเอาให้เข้าปากและหันไปมองจุนฮยองกับมีร์ที่คุยกันอย่างสนุกและมีมีร์คอยป้อนให้
สายที่ของแม่จุนฮยองที่มองอยู่ก็คิดว่าสองคนนี้คงทะเลาะกันแน่นอน
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“จุนฮยองไม่ป้อนแฟนหน่อยหรอ” มีร์ถามจุนฮยองที่นั่งกินเอาๆโดยที่ไม่ได้หันไปคุยกับฮยอนซึงเลย
ฮยอนซึงเองก็ได้ยินคำนั้น จุนฮยองไม่ป้อนแฟนหน่อยหรอ มันคงจะหมายถึงเขาหรือเปล่า
“ทุกคนครับ วันนี้ผมมีเรื่องจะบอก ผมเป็นแฟนกับฮยอนซึงแล้ว” แล้วที่เฮ้ก็ตามมาทีหลังโดยฮีชอลเฮ้ก่อนคนแรก
“โอ้โห ทะเลาะกับแถบตายอ่ะน้าสุดท้ายก็ชอบกันจนได้ เขินแทนเว้ยจุนฮยอง”
ฮยอนซึงถึงกับต้องกลืนเนื้อชินใหญ่ลงไปทันที เขาอึ้งกับคำนั้นแถมจุนฮยองก็เอามือมากอดเอวบางของฮยอนซึง
และฮยอนซึงก็มองไปยังดูจุน
ดูจุนก็ยักคิ้วก็ยิ้มให้น้อยๆอย่างพอใจไม่พอใจครึ่ง แต่สายตาที่เซ็งหลุดโลกเลยคือมีร์กับดงอุน
พองานเลี้ยงต่างๆจบลงไม่มีใครเมาทั้งสิ้น
ตอนแรกมีร์อ้อนอยากจะนอนค้างที่ห้องจุนฮยองแต่ฮีชอลขัดไว้ก่อน
“แม่ครับ แม่อาบน้ำเถอะครับ^^”
“ลูกไม่อาบก่อนหรอดงอุน?”
“ผมให้แม่อาบก่อนดีกว่าครับ แม่อาบก่อนเลย” ดงอุนดันตัวแม่เข้าไปในห้องน้ำเรียบร้อย
แล้วดงอุนก็เดินมาหาจุนฮยองที่หน้าทีวีห้องรับแขก
“พี่จุนฮยองผมชอบพี่ฮยอนซึง”
บุคคลที่ดงอุนไม่ต้องการมาให้ได้ยินนั้น คือแม่ของเขา ตอนที่ดงอุนดันแม่เข้าไปในห้องน้ำ
ดงอุนลืมหยิบผ้าให้แม่เขา แม่เขาเลยต้องออกมาหยิบเองและได้ยินคำนั้นหลุดออกจากปากดงอุน
จุนฮยองผู้ที่ไม่ค่อยสนใจอะไรทั้งสิ้นนิ่งเย็นช้าจนเป็นความชินกับดงอุน
“แล้วไง”
“พี่จะตบตาพี่มีร์งั้นหรอว่าพี่คบกับพี่ฮยอนซึง”
“ฉันไม่ได้ตบตามีร์
ดงอุนแกอย่าลืมว่าแกเป็นใคร”
จุนฮยองลุกขึ้นประชันหน้ากับดงอุนถึงแม้ว่าเขาจะสูงไม่เท่ากัน
“แล้วผมจะรักใครไม่ได้เลยหรอพี่!” จุนฮยองไม่ฟังคำนั้นแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที
ฟ
คนเป็นแม่ที่แอบฟังพี่น้องสองคนที่ชอบคนเดียวๆกันอย่างทรมานใจเขาไม่ต้องการที่จะให้ลูกของเขาทั้งสองคนต้องมาทะเลาะและแย่งชิงอะไรทั้งสิ้น!
BEAST♥BEAUTY
ความคิดเห็น