"Wishing Well" ความตายที่สวยงาม - "Wishing Well" ความตายที่สวยงาม นิยาย "Wishing Well" ความตายที่สวยงาม : Dek-D.com - Writer

    "Wishing Well" ความตายที่สวยงาม

    เราทุกคนรู้ว่า "ความตาย" คือ ปลายทางของชีวิต แต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไร ตรงกันข้ามมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่รู้ตัวดีว่า พวกเขากำลังเดินไปสู่ความตายและอยู่ใกล้มันขนาดไหน ทุกวินาทีที่ผ่านไป...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,033

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.03K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 50 / 15:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     เราทุกคนรู้ว่า "ความตาย" คือ ปลายทางของชีวิต
       แต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไร
       ตรงกันข้ามมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่รู้ตัวดีว่า
      พวกเขากำลังเดินไปสู่ความตายและอยู่ใกล้มันขนาดไหน ทุกวินาทีที่ผ่านไป...  Forward mail
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "Wishing Well" ความตายที่สวยงาม
      > >
      > > เราทุกคนรู้ว่า "ความตาย" คือ ปลายทางของชีวิต
      > >แต่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะมาถึงเมื่อไร
      > > ตรงกันข้ามมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่รู้ตัวดีว่า
      > >พวกเขากำลังเดินไปสู่ความตายและอยู่ใกล้มันขนาดไหน
      > > ทุกวินาทีที่ผ่านไป
      > >
      > >
      > > หากใครมีโอกาสขึ้นไปบนชั้น 16 ตึก สก รพ.จุฬาลงกรณ์ จะพบเด็กๆ
      > >โกนหัวจนล้านเลี่ยน
      > > นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยเรียงราย
      > >เขาและเธอเหล่านี้เป็นโรคมะเร็งที่แตกต่างกันไป เมื่อ
      > > รักษาไปได้ระยะหนึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่า ไม่สามารถรักษาต่อไปได้
      > >จะแนะนำพ่อแม่ผู้
      > > ปก ครองถึงทางเลือก 2 ทาง คือ
      > >หยุดการรักษาทางเคมีการแพทย์แล้วกลับไปอยู่บ้าน แต่ยัง
      > > อยู่ในความดูแลของแพทย์และใช้ชีวิตตามปกติ
      > >
      > >
      > >   แต่ถ้าหากพ่อแม่เด็กตัดสินใจทางเลือกใหม่ คือ การหยุดรักษาทางเคมีแพทย์
      > >แล้วให้รักษา
      > > แบบประคับประคอง โดยให้เด็กมีคุณภาพจิตที่ดี ทำให้มีความสุขก่อนจากโลกนี้ไป
      > >แพทย์จะส่ง
      > > ต่อมาที่ Wishing Well หรือ โครงการส่งชีวิตสุขสมหวังก่อนสิ้นลม
      > >แทนที่จะนอนรอความ
      > > ตายอยู่กับยาพาราแก้ปวดหรือสิ้นลมในห้องไอซียูอย่างเดียวดาย
      > >
      > >
      > >  " เม่น" เด็กผู้ชายวัย 6 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดมานาน 2 ปีแล้ว
      > >เขามีอาการ
      > > ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2547 ขณะเดินถือหม้อหุงข้าวอยู่เขาหันมาบอกแม่ว่า "
      > >ขอพักก่อน
      > > เหนื่อย เดินไม่ไหว" หลังจากนั้นแม่ก็พาไปหาหมอที่คลินิกประจำ
      > >และได้รับคำแนะนำให้ไปที่
      > > รพ.บางพลี รพ.ศิครินทร์ ก่อนจะส่งต่อไปยัง รพ.จุฬ าฯ ตรวจวินิจฉัยโรค
      > >บังเอิญว่าเป็น
      > > ช่วงปีใหม่และเกิดพิบัติภัยสึนามิ จึงต้องรอผลการตรวจ
      > >ระหว่างนี้แพทย์จะเจาะน้ำออกจาก
      > > ปอดทุกวันๆ ละ 500-800 ซีซี
      > >
      > >
      > >  1 ทุ่มตรง วันที่ 4 มกราคม 2548 ครอบครัวน้องเม่นจึงรู้ว่า
      > >แท้ที่จริงแล้วโรคที่เด็กชาย
      > > วัย 6 ขวบกำลังเผชิญอยู่ คือ มะเร็งเยื่อหุ้มปอด
      > >ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้เพียง 1 ในล้าน
      > > โอกาสรักษาหายมีเพียง 80% ขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่ตึก สก ชั้น 18
      > >น้องเม่นต้องทำเคมี
      > > บำบัด 3 สัปดาห์ครั้งและครั้งละ 3-5 วัน มากถึง 17 ครั้งด้วยกัน
      > >และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้น
      > > เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
      > >
      > >
      > >   หลังจากเอกซเรย์ด้วยคอมพิวเตอร์หมอไม่พบมะเร็งอีก จึงให้พักฟื้น 3 เดือน
      > >น้องเม่น
      > > กลับไปใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง ไปโรงเรียนได้
      > >วิ่งเล่นได้เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ
      > >
      > >
      > & gt;   แต่แล้วอีก 6 เดือนต่อมา เมื่อหมอนัดตรวจอีกครั้ง
      > >น้องเม่นและครอบครัวก็ต้องพบกับข่าว
      > > ร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เด็กชายในวัยซุกซนจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3
      > >เดือนเท่านั้น หมอจึง
      > > แนะนำทางเลือกให้ 2 ทาง คือ รักษาต่อซึ่งโอกาสหายน้อยมาก
      > >กับการหยุดรักษาแล้วใช้
      > > ชีวิตตามปกติ ไปโรงเรียนตามปกติ พาไปเที่ยวที่เด็กอยากไป
      > >
      > >
      > >   ครอบครัวและน้องเม่นเลือกวิธีที่ 2 คือ
      > >การอยู่ท่ามกลางความรักความอบอุ่นของคนใน
      > > ครอบครัว ในวาระสุดท้ายของชีวิต เที่ยวทะเลบางแสน สวนสนุกดรีมเวิลด์
      > >สยามโอเชี่ยน
      > > เวิร์ล และไปทำบุญตามวัดต่างๆ
      > >
      > >
      > >  " โหน่ง ชะ ชะ ช่า" คือ ดาวตลกในดวงใจของน้องเม่น
      > >ก่อนช่วงสุดท้ายของชีวิตจะมา
      > > ถึง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง โทรศัพท์ติดต่อไปยังตลกชื่อดัง
      > >โหน่งกำลังทำงาน
      > > อยู่ต่างจังหวัดบอกกับ "นิลอุบล จันทร์โหนง"
      > & gt;เจ้าหน้าที่ให้หามือถือที่เปิดเสียงได้
      > > "จะเล่นตลกให้น้องฟัง" ก่อนจะบอกลาน้องเม่นให้หลับให้สบายเมื่อการแสดงสั้นๆ
      > >จบลง
      > >
      > >
      > >   ในขณะที่ทุกคนในห้องหัวเราะกับเสียงของโหน่ง ชะ ชะ ช่า
      > >น้องเม่นหลับสบายไปพร้อม
      > > กับเสียง "พี่โหน่ง...มาแว้วววว"
      > >
      > >
      > >   ในขณะที่ "น้องรุ้ง"
      > >เด็กผู้หญิงอีกคนอยากเพ้นท์เล็บเจ้าหน้าที่ก็พาช่างมาเพ้นท์เล็บถึง
      > > เตียงผู้ป่วย หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ น้องรุ้งก็จากโลกใบเล็กๆ นี้ไปอย่างสงบ
      > >พร้อมกับเล็บที่
      > > เพ้นท์ด้วยสีสันสวยงาม และรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข
      > >
      > >
      > >   แต่สำหรับ "น้องซี" วัย 7 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
      > >แม้จะต้องทนทุกข์ขนาดไหน
      > > น้องซีก็ยังมอบความสุขให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ในมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
      > >ด้วยการร้องเพลง
      > > ให้ฟัง กลายเป็นบ่อเกิดแห่งความหวังเล็กๆ ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ
      > >ระดมเงินม าช่วยเหลือและ
      > > ก็ได้ครบในวันที่น้องซีจากไป
      > >
      > >
      > >   ด้าน "น้องเจมส์" เด็กฉลาดที่อยากไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
      > >เจ้าหน้าที่มูลนิธิสารธารแห่ง
      > > ความหวัง แอบทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการให้ "อ้อม พิยดา อัครเศรณี"
      > >ไปกับเขาด้วย
      > > น้องเจมส์กึ่งตกใจกึ่งดีใจ
      > >และวันที่น้องเจมส์จากไปนางเอกสาวชื่อดังถึงกับหลั่งน้ำตา
      > >
      > >
      > >   เด็กผู้หญิงอีกรายวัย 12 ปี มีความหวังสุดท้ายของชีวิต คือ
      > >การเสริมดั้งจมูก เพื่อจะได้
      > > พบกับ "แอนดริว เกร้กสัน" แต่การตามตัวดาราดังไม่ใช่เรื่องง่าย
      > >ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงหาวิธี
      > > เข้าไปโพสต์ในอินเทอร์เน็ตบอกว่า มีคนไข้ต้องการเจอตัว
      > >และเขาใกล้จะเสียชีวิตแล้ว
      > >
      > >
      > >   ไม่นานต่อมา กลางดึกคืนหนึ่งแอนดริวในสภาพหนวดเคราเฟิ้ม
      > >เพราะกำลังถ่ายละคร
      > > เรื่อง "คนระลึกชาติ" ก็โผล่เข้ามาให้กำลังใจเด็ก
      > >สร้างความ ประทับใจกับทุกคนที่อยู่ใน
      > > เหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่ป่วย แล้วอีก 2 วันต่อมา
      > >เด็กก็เสียชีวิตลง
      > >
      > >
      > >  " ความฝันของเด็กๆ มีหลากหลาย ทำง่ายและทำได้ทันที เช่น
      > >เด็กคนหนึ่งอยากกินไก่
      > > ทอดเคเอฟซี เราก็สั่งมาให้ตอนนั้นได้เลย เด็กบางคนอยากไปเดินเล่นสวนลุมฯ
      > >เราก็พา
      > > ไป" นิลอุบล จันทร์โหนง สรุป
      > >
      > >
      > >   ก้าวเข้าปีที่ 4 แล้ว สำหรับโครงการ Wishing Well ซึ่งมีความหมายอยู่ 2
      > >ประการ
      > > คือ การรักษาให้หายกับคำอธิษฐานสุดท้ายที่เป็นจริง
      > >ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ต่อชีวิตและ
      > > ส่งชีวิตเด็กๆ ไปแล้ว 35-40 ราย เฉลี่ยมีคนไข้เสียชีวิต 3-5 คนต่อปี
      > >โดยเด็กๆ หลายคน
      > > สุขสมหวังกับปรารถนาสุดท้ายของชีวิต จากไปด้วยรอยยิ้มอย่างสงบสุข
      > >ถึงแม้จะรู้ล่วงหน้าว่า
      > > มีเวลาเหลืออยู่บนโลกกลมๆ ใบนี้อีกนานแค่ไหน
      > >
      > >
      > >   หลังจากนั้นพวก เขาก็จะจากไป
      > >ไม่มีวันกลับมาอยู่ดูความศิวิไลซ์บนโลกใบนี้อีกต่อไป !!!
      > >
      > >
      > >   เรื่อง / ตวงรัตน์ มีศรี mesri@gmail.com
      > >
      > >
      > >   ภาพ / มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
      > >
      > >
      > >   หัวอกพ่อแม่
      > >
      > >
      > >  " คุณดำ" แม่น้องอ้อม เด็กน้อยวัย 4 ขวบ เล่าว่า
      > >ใจหายเมื่อรู้ว่าน้องอ้อมจะจากไป
      > > อยากให้มีชีวิตอยู่ต่อก็เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ตื้อไปหมด เพราะยังทำใจไม่ได้
      > >แต่ก็ได้รับสิ่งดีๆ
      > > จากพี่ๆ มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง ที่เป็นกำลังใจให้อยู่จนถึงทุกวันนี้
      > >ตอนที่ลูกสาวเสียชีวิต
      > > มีเงินอยู่เพียง 2,000 บาท มูลนิธิฯ และอาสาสมัครก็ระดมเงิน 20,000 บาท
      > >มาช่วยทำ
      > > ศพลูก
      > >
      > >
      > >   ขณะที่ น้องอ้อมอยู่ในโรงพยาบาล ต้องใส่สายยางให้ยา
      > >ปลายสัปดาห์ก่อนจะเสียชีวิต
      > > อาการโคม่าลงเรื่อยๆ ระหว่างที่หลับไปด้วยอาก ารน้ำท่วมปอด
      > >น้องอ้อมเริ่มกระตุกหลาย
      > > ครั้ง เพราะเกิดการติดเชื้อทางกระแสเลือด น้องอ้อมรู้สึกตัวตลอดเวลา
      > >แต่ตอบสนองไม่ได้
      > > น้ำตาไหลตลอด คุณดำ ต้องจับมือเอาไว้ ปากก็พร่ำบอกว่า
      > >"ไม่ต้องร้องไห้นะลูก"
      > >
      > >
      > >   วันหนึ่งระหว่าง 1 เดือนสุดท้ายของชีวิต
      > >คุณดำออกไปซื้อของเพื่อกลับบ้านที่สัตหีบ จ.ชล
      > > บุรี "นิลอุบล จันทร์โหนง" อาสาดูแล
      > >สิ่งที่เกิดขึ้นคือน้องอ้อมกลับไปร้องไห้อีกครั้ง นับตั้งแต่
      > > วันนั้นเป็นต้นมา
      > >คุณแม่คนนี้ไม่เคยทิ้งน้องอ้อมให้อยู่คนเดียวบนเตียงคนไข้อีกเลย
      > >
      > >
      > >   คุณดำ ยังจดจำวันสุดท้ายของนางฟ้าตัวน้อยๆ ของเธอได้ไม่มีวันลืม ตี 5
      > >ฟันน้องอ้อมเริ่ม
      > > เปลี่ยนจากสีขาวเป็นขาวขุ่น เช่นเดียวกับเล็บที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว
      > >มือเท้าเย็น กระทั่ง
      > > บ่าย 2 โมง เมื่อพ่อน้องอ้อมมาถึงจึงเริ่มสวดมนต์ที่ข้างหู
      > >จากนั้นเครื่องออกซิเ จนก็ดับลง
      > > หมอบอกว่า น้องอ้อมจากไปแล้ว
      > >
      > >
      > >  " มาอยู่ที่นี่ได้เดือนมีความหวังว่า ลูกจะตื่น แต่ก็ไม่ตื่น
      > >ในแต่ละวันความหวังเริ่มลดลง
      > > เรื่อยๆ เหมือนครึ่งหนึ่งของชีวิตมันหายไป พ่อน้องอ้อมจากปกติเป็นคนไกลวัด
      > >ตั้งแต่ลูกป่วยก็
      > > สวมพระคาถาชินบัญชร ทำบุญใส่บาตรทุกวัน
      > >พอน้องอ้อมจากไปเวลาคิดถึงก็จะดูรูปแทน" คุณ
      > > ดำ เล่าทั้งน้ำตา
      > >
      > >
      > >   ระหว่างเฝ้าปรนนิบัติน้องอ้อม
      > >ทำให้คุณดำได้รู้จักกับแม่ของเด็กอีกหลายคน โดยเฉพาะ
      > > แม่ "น้องเม่น"
      > >ที่มีอาการทรุดหนักเหมือนจะจากโลกไปก่อนน้องอ้อมหลายต่อหลายครั้ง คุณ
      > > ดำ บอกว่า น้องเม่นผอมมาก จากอาการป่วยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ไม่รู้สึกตัว
      > >ต้องคอย
      > > ประคองนั่งตลอด เนื่องจากนอนไม่ได้
      > >พออาการปวดกำเริบหมอก็จะกดมอร์ฟีนที่ใส่ติดไว้ที่
      > > แขนไม่ให้ทรมาน เห็นแล้วทรมานใจ ลูกเรา ลูกเขา
      > >
      &g t; >
      > >   แต่แล้วน้องอ้อมก็จากไปก่อนน้องเม่น สวดศพคืนแรกแม่น้องเม่นก็มาฟังพระสวด
      > >คุณดำ
      > > บอกว่า ทำให้รู้สึกว่าได้เพื่อน ได้ความมีน้ำใจ จากคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
      > >และสิ่งเหล่านี้ได้
      > > ช่วยสร้างกำลังใจ
      > >
      > >
      > >   จากใจถึงใจ
      > >
      > >
      > >   ศ.เกียรติคุณ น.พ.ชัยเวช นุชประยูร ประธานมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง
      > >และผู้อำนวย
      > > การศูนย์วิจัยบำบัดโรคมะเร็ง สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กล่าวว่า
      > >สายธารแห่งความหวังเกิดขึ้น
      > > ด้วยศรัทธาของผู้ที่มาทำงานร่วมกันทุกคน
      > >และจากแรงศรัทธาของพ่อแม่เด็กที่ลูกเสียชีวิตมา
      > > ช่วยต่อๆ กันไป เด็กๆ เหล่านี้น่ารัก
      > >หลายคนมีความรู้ก็มาช่วยจัดทำเวบไซต์บ้าง เป็นสิ่งที่
      > > น่าประทับใจควรค่าแก่การที่จะทำ
      > >
      > >
      > >   ด้าน "นิลอุบล จันทร์โหนง" บอกว่า ตั้งแต่ได้สัมผัสกับเด็กกลุ่มนี้
      > >สามารถรับรู้ได้ถึงการ
      & gt; > ต่อสู้อย่างเต็มกำลังจริงๆ ของเด็กน้อย
      > >พร้อมกับความฝันและการฟันฝ่าโรคมะเร็งอย่างมี
      > > ความสุข ถึงแม้ต้องต่อสู้กับความตาย เด็กทุกคนที่เสียชีวิตจะรู้ตัว
      > >เราจะทำอย่างดีที่สุด คือ
      > > เช็ดตัวให้ คอยคุยกับเด็กๆ ทำให้เขาทุกอย่าง ให้เขาหมดห่วงก่อนจะจากไป
      > >
      > >
      > >  " เราจะคอยบอกพวกเขาเสมอว่า หลับให้สบาย ไปคอยป้านะ ไม่ต้องห่วง
      > >จะดูแลแม่และ
      > > น้องๆ หนูเอง หนูเหนื่อยแล้ว สู้มาพอแล้ว เด็กก็ฟัง บางคนมีน้ำตาซึม
      > >แล้วก็หลับไปตลอด
      > > กาล"
      > >
      > >
      > >   นิลอุบล บอกว่า รายที่สะเทือนใจที่สุด คือ น้องเปา วัย 10 ขวบ
      > >ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำ
      > > เหลือง ก่อนเสียชีวิตได้เห็นเหงื่อเม็ดโป้งๆ เต็มหัวล้าน เกิดจากธาตุไฟแตก
      > >จึงบอกไปว่า
      > > ให้น้องเปาหลับเถิดก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาว่า
      > >
      > >
      > >  " ผมอยากเจอพ่อ พ่อมาเร็วๆ ผมไม่ไหวแล้ว"
      > >
      > >
      > & gt;   สุดท้ายพ่อน้องเปาก็มาไม่ทัน ! ?!
      > >
      > >
      > >   น.พ.อิศรางค์ นุชประยูร แพทย์เจ้าของไข้ของเด็กๆ บอกว่า
      > >ดีใจที่มีความก้าวหน้าเกิด
      > > ขึ้นใน Wishing Well โดยเฉพาะเรื่องอาสาสมัคร น่าภูมิใจ เพราะการให้ เป็น
      > > ประโยชน์กับทุกคน ไม่เฉพาะกับคนไข้ใน Wishing Well แต่รวมไปถึงคนไข้อื่นๆ
      > >ด้วย ปีนี้
      > > เราทำงานได้มากขึ้น ทำให้ความสุขเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย
      > >โดยเฉพาะกับครอบครัวคนไข้ ภูมิใจที่
      > > ทุกคนตั้งใจทำงาน และด้วยความตั้งใจที่ดีของพวกเขา
      > >ก็สามารถชักจูงเพื่อนและคนใน
      > > ครอบครัวมาเป็นแนวร่วม ช่วยกันทำสิ่งดีให้มันขยายวงกว้างออกไปได้
      > >
      > >
      > >  " ผมเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีความสุข ที่ได้ใช้ความสามารถของตัวเอง
      > >เพื่อช่วยเหลือคนอื่น
      > > และนี่เป็นสิ่งที่เราเล็งเห็นว่า สังคมไทยมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว
      > >ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำ
      > > ในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำ และทำสิ่งที่เราหาไม่ได้ทั่วไป > >นอกจากเราจะเริ่มต้นการให้นี้ด้วย
      > > ตัวเอง"
      > >
      > >
      > >   กาญจนา คุณาวุฒิ อาสาสมัคร อายุ 49 ปี อาชีพพนักงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท
      > >วิทยุการบิน
      > > จำกัด เป็นอาสาสมัครมาได้ปีกว่าแล้ว บอกว่า เวลาไปเยี่ยมเด็กๆ ตอนพักเที่ยง
      > >เพราะ
      > > โรงพยาบาลอยู่ใกล้ที่ทำงาน รู้สึกชื่นใจ เหมือนกับว่าได้ทำบุญ ไปป้อนอาหาร
      > >ไปพูดเล่น
      > > หยอกล้อ ทุกครั้งจะมาเล่น จับมือ ตบหลังเบาๆ 3 ที จูบได้ก็จูบ
      > >
      > >
      > >  " น้องแบงก์ อายุ 15 ปี เป็นมะเร็งสมอง ผ่าไปผ่ามาจนตาบอด
      > >เคราะห์ซ้ำกรรมซัด พ่อ
      > > แม่มาแยกทางกันอีก วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่ก็เลยปลอมตัวเป็นแม่
      > >มาหาเขา โอบกอด
      > > เขา เขาก็รู้สึกรักแล้ว พอแม่เขามาก็บอกกับแม่ว่า
      > >ถ้าแม่ไม่มาวันเสาร์นี้จะมีแม่คนใหม่แล้ว
      > > นะ ทำให้น้ำตาคลอ ปลื้มใจ แต่ก็น่าเห็นใจแม่ เพราะเขาทำงานโรงงานอยู่ไกลถึง
      > > กาญจนบุรี น้องแบงก์ชอบให้ลูบมือและยิ้มสวยมา ก"
      > >
      > >
      > >   หมายเหตุ : มูลนิธิสายธารแห่งความหวัง Wishing Well หมายเลขโทรศัพท์
      > > 0-2677-4117
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > > [IMAGE]
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >Confidentiality & Disclaimer
      > >        The information contained in this e-mail may be confidential,
      > >proprietary and/or legally privileged. If you are not the
      > >
      > >intended recipient of this e-mail, please delete and destroy all copies
      > >immediately.  Any review, dissemination, copy,
      > >
      > >retransmission, distribution or use of this e -mail in any form for any
      > >purpose is strictly prohibited. The sender accepts no
      > >
      > >responsibility for any miss transmission of, or interference with, this
      > >e-mail.
      > >
      > >        Thank you.
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >Confidentiality & Disclaimer
      > >        The information contained in this e-mail may be confidential,
      > >proprietary and/or legally privileged. If you are not the
      > >
      > >intended recipient of this e-mail, please delete and destroy all copies
      > >immediately.  Any review, dissemination, copy,
      > >
      > >retransmission, distribution or use of this e-mail in any form for any
      > >purpose is strictly prohibited. The sender accepts no
      > >
      > >responsibility for any miss transmission of, or interference with, this
      > >e-mail.
      > >
      > >        Thank you.
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >Confidentiality & Disclaimer
      > >        The information contained in this e-mail may be confidential,
      > >proprietary and/or legally privileged. If you are not the
      > >
      > >intended recipient of this e-mail, please delete and destroy all copies
      > >immediately.  Any review, dissemination, copy,
      > >
      > >retransmission, distribution or u se of this e-mail in any form for any
      > >purpose is strictly prohibited. The sender accepts no
      > >
      > >responsibility for any miss transmission of, or interference with, this
      > >e-mail.
      > >
      > >        Thank you.
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >Confidentiality & Disclaimer
      > >        The information contained in this e-mail may be confidential,
      > >proprietary and/or legally privileged. If you are not the
      > >
      > >intended recipient of this e-mail, please delete and destroy all copies
      > >immediately.  Any review, dissemination, copy,
      > >
      > >retransmission, distribution or use of t his e-mail in any form for any
      > >purpose is strictly prohibited. The sender accepts no
      > >
      > >responsibility for any miss transmission of, or interference with, this
      > >e-mail.
      > >
      > >       Thank you.
      > >---------------------------------------------------------------------------------------
      > >
      > >(See attached file: Image.image001.gif@01C7705C.A122C0E0.gif)
      > >
      > >
      > >
      > >UOB EMAIL DISCLAIMER
      > >Any person receiving this email and any attachment(s) contained, shall
      > >treat the information as confidential and not misuse, copy, disclose,
      > >distribute or retain the information in any way that amounts to a breach of
      > >confidentiality. If you are not the intended recipient, please delete all
      > >copies of this email from your computer system. As the integrity of this
      > >me ssage cannot be guaranteed, neither UOB nor any entity in the UOB Group
      > >shall be responsible for the contents. Any opinion in this email may not
      > >necessarily represent the opinion of UOB or any entity in the UOB Group.

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×