คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1
CHAPTER 1
เสียงปิดประตูรถเก๋งคันสีขาวสะอาดดังขึ้นเบาๆท่ามกลางลานจอดรถที่เงียบสนิท คนตัวสูงว่ากดล็อครถอัตโนมัติอย่างที่เคยทำ หันมามองพี่ชายตัวเองในชุดนักศึกษาที่ไม่ได้ใส่มาราวสองปีด้วยความเป็นห่วง พี่ชาย..ที่นั่งอยู่ในเก้าอี้วีแชร์ เค้นท์เอื้อมมือมารับกระเป๋าทั้งของตัวและของพี่ชายอย่างคชามาสะพายไว้อย่างลวกๆก่อนจะเข็นเก้าอี้วีแชร์ออกไป
“ชีวิตปกติมันกำลังกลับมาแล้วนะเฮียคชา” เค้นท์พูดเบาๆ “ไหวไหมครับ?”
คชาเงยหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าน้องชายของตัวเองพร้อมกับยกมุมปากขึ้นยิ้ม “เฮียไหว”
สายตาหลายสิบคู่จ้องมายังเค้นท์และคชา ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นคนนั่งเก้าอี้วีแชร์ แต่มันดูแปลกตาไปหน่อยสำหรับชายหนุ่มวัยเพียงยี่สิบสองปี เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังลอยมาเข้าหูเป็นครั้งคราว ดวงตาหวานหลุบต่ำลงก้มมองมือตัวเองที่จับกันแน่นอยู่บนตัก กลัว..กลัวไปหมด เค้นท์ขมวดคิ้วแน่นจ้องไปยังพี่ชายที่ดูท่าทางจะไม่ค่อยดีแล้ว ขายาวๆรีบสาวให้ถึงตึกคณะให้ไวที่สุด
เสียงเตือนเปิดประตูลิฟต์ดังขึ้น เค้นท์ดันเก้าอี้วีแชร์เข้าไปข้างใน เค้นท์และคชาเรียนอยู่คณะเดียวกัน เนื่องจากคชาประสบอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนทำให้จำเป็นต้องดรอปเรียนและพักรักษาตัวอยู่เกือบสองปีเลยทีเดียว เมื่อคชามั่นใจว่าตัวเองไหวและพร้อมที่จะออกมาเจอสายตาคนรอบข้างที่จะมองตัวเองแปลกไปกว่าที่เคยแล้ว.. คชาจึงกลับมาเรียนอีกครั้ง เรียนพร้อมเค้นท์ ไม่อยากให้หม่าม๊าเป็นห่วง ไม่อยากให้เค้นท์เป็นห่วง
คชาต้องทำได้
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลงน้ำตาเม็ดโตที่คลอหน่วยอยู่นานก็ร่วงเผลาะลงกระทบมือ คชาถอนหายใจเฮือกใหญ่กลั้นน้ำตาให้ไหลกลับเข้าทางเดิม ความรู้สึกอะไรบางอย่างมันโถมเข้ามาจนรับไม่ทัน ทั้งกลัวทั้งไม่กล้า กลัวไปหมด กลัวทุกอย่าง เค้นท์เดินวนมานั่งยองๆต่อหน้าพี่ชายตัวเอง มือสากเลื่อนมาบีบมือนุ่มๆของพี่ชายตัวเองด้วยความเป็นห่วงและปลอบประโลม
“เฮีย..เฮียมองเค้นท์.. มองแค่เค้นท์..ฟังแค่เค้นท์.. เค้นท์คนเดียวเท่านั้น”
ฝนเพิ่งจะหยุดตก
คชาเท้าคางถอนหายใจเฮือกใหญ่สายตามองไปที่กระจกใสข้างตัว ไอฝนเย็นๆเกาะอยู่ที่กระจกหน้าต่างใสจนทำให้รู้สึกเย็นไปด้วย นิ้วเรียวเอื้อมไปขีดเขี่ยบนบานกระจกอย่างเหม่อลอย คชาก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่ารอยที่เขาเขียนลงไปมันเป็นรูปอะไร แต่ความเย็นของไอฝนที่ผ่านมาสู่ปลายนิ้วของคชามันก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก ทำให้ลืมสายตาแปลกๆที่คนรอบข้างคอยจ้องมาให้เสมอ
อาจารย์วัยหนุ่มสั่งให้ไปอ่านหนังสือทบทวนส่งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป เสียงเตือนเบาๆจากน้องชายทำเอาคชาหลุดออกจากภวังค์ สะดุ้งจนตัวโยนเผลอปัดกระเป๋าดินสอร่วงลงจากโต๊ะ
“เหม่ออะไรน่ะเฮีย เดี๋ยวเค้นท์เก็บให้”เค้นท์กันพี่ชายตัวเองที่กำลังเอื้อมตัวลงไปเก็บของที่ตก “เค้นท์มีนัดเตะบอลกับเพื่อน เฮียไปรอเค้นท์ที่โรงอาหารก็ได้นะครับ”
คชารับของจากเค้นท์มาใส่ลงกระเป๋าเป้ ส่ายศรีษะเบาๆ “ไม่เอา ไปที่สนามด้วยนะ”
ให้อยู่คนเดียวงั้นเหรอ.. ไม่เอาด้วยหรอก
ที่สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยอยู่ด้านหลังคณะนิติศาสตร์ที่คชาและเค้นท์เรียนอยู่ การเดินทางจึงไม่ยากนัก สนามฟุตบอลที่คชาเคยมาเล่นแทบจะทุกวันกับเพื่อนสนิท ที่ตอนนี้คงจะจบไปมีงานคำกันไปหมดแล้ว ด้านซ้ายของสนามจะเยื้องไปตึกคณะแพทย์ คชาไม่เคยชอบมันเลยสักนิด ไอ้ขวดโหลดองอวัยวะต่างๆของร่างกายที่ตั้งโชว์ไว้นั้น มองกี่ทีก็อดไม่ได้ที่จะขนลุกขนพอง
“เค้นท์ไม่ต้องรีบนะ เฮียรอได้”
“เฮียอย่าเบื่อไปก่อนก็แล้วกัน”
คชายกยิ้มบางให้น้องชายตัวเอง เค้นท์เข็นเก้าอี้วีแชร์ของคชามาข้างสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ ล็อคล้อเก้าอี้ไว้ด้วยความรอบครอบ เค้นท์ก็คงไม่อยากเห็นใครมาชนเก้าอี้จนล้มนักหรอก คชาทำหน้าที่หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของเค้นท์ยื่นให้
“เค้นท์ไม่ต้องห่วงเฮียหรอกน่า”
คชานั่งเท้าคางไปกับเก้าอี้วีแชร์ มืออีกข้างเปิดหน้าหนังสือพลิกไปมาอย่างน่าเบื่อ มีบางครั้งที่เงยหน้าไปมองน้องชายเตะบอลกับเพื่อน คชาชอบฟุตบอล ชอบมาก แต่ตอนนี้เขาเล่นมันไม่ได้อีกแล้ว คชาผ่อนสมหายใจออกมาช้าๆ เอี้ยวตัวไปเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า สายตาจับจ้องไปยังขาทั้งสองข้างของตัวเอง จ้องมันราวกับว่ามันกำลังจะแปรงร่าง
คชาค่อยๆออกแรงไปที่ขาด้านซ้าย ค่อยๆยกมันขึ้นด้วยแรงทั้งหมด แต่ขากลับไม่แม้แต่จะขยับ คชาถอนหายใจอีกเฮือก เม้มริมฝีปากแน่น นึกอิจฉาผู้ชายเกือบสิบคนที่วิ่งไล่เตะลูกกลมๆอยู่กลางสนามๆ กำปั้นหลุนๆฟาดอย่างแรงที่ต้นขาของตัวเอง นึกอยากจะให้มันรู้สึกอะไรบ้าง แค่นิดเดียวก็ยังดี ขอแค่นิดเดียว.. แต่มันก็ไม่
..จะหวังอะไรอีกเหรอคชา
“นั่นไง เข้าไปถามเขาสิ่”เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากข้างหลัง
“บ้าเหรอแก ไม่ได้หรอก”
“อ้าว! ทำไมล่ะยะ”
“นี่มันสถิติเรื่องการออกกำลังกายนะ ง่อยเปลี้ยเสียขาแบบนี้ให้ข้อมูลเราไม่ได้หรอก”
คชาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มองหญิงสาวสองคนที่เดินผ่านเขาไป ราวกับค้อนปอนด์ขนาดใหญ่ทุบเข้าที่กลางศรีษะอย่างรุนแรง จนทำให้เวียนหัวไปหมด ชาไปทั้งตัว ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้เข้ามาจริงๆ หัวใจดวงน้อยเต้นรัวด้วยความกลัว น้ำตาเม็ดโตกลิ้งหล่นออกมาจากดวงตาชุ่มน้ำ ...เสียใจ
“ฮึก..”
มือเรียงสองข้างถูกยกมาปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ปกติแล้วคชาไม่ใช่คนที่จะน้ำตาไหลออกมาง่ายขนาดนี้ แต่ตั้งแต่วันนั้น.. สองปีก่อน สภาพจิตใจคชาย่ำแย่ลงมากจนเกือบจะถึงจุดที่ย่ำแย่ที่สุด แทบจะเรียกได้ว่าเกือบเสียสติไปแล้ว คชาเม้มริมฝีปากแน่นพยายามกลั้นสะอื้นจนตัวโยน เรียกสายตาคนรอบข้างให้หันมามองอย่างห้ามไม่ได้
เค้นท์ง้างขาเตะอัดลูกบอลลูกกลมๆจนมันลอยละลิ่วเข้าประตูของฝั่งตรงข้ามไปอย่างสวยงาม เค้นท์หันหน้ามามองพี่ชายราวกับจะอวด แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าพี่ชายของตนเต็มไปด้วยคราบน้ำตาไปหมด มือสองข้างพยายามปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างแรงราวกับว่าจะไม่กลัวผิวหน้าของตัวเองจะเจ็บเลยแม้แต่น้อย
ขายาวๆรีบวิ่งไปหาพี่ชายของตัวเองทันที
“เฮีย..เฮีย.. เฮียเป็นอะไร” เค้นท์พยายามจับมือพี่ชายตัวเองให้ออกจากใบหน้า
คชาหลับตาแน่นพยายามกลั้นสะอื้น “เค้นท์..เฮียมันง่อยเปลี้ยเสียขาไปแล้วใช่ไหม..”
เมื่อได้ยินเค้นท์ก็พอจะรู้ได้ว่าพี่ชายตนคงจะไปเจอประโยคร้ายแรงเข้า “ไม่ใช่สักหน่อย เฮียอย่าคิดแบบนั้นสิ่”
“ฮึก..เขาบอกว่าเฮียเป็นง่อย.. ฮึก.. ด้วย”
เค้นท์เม้มปากแน่นใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาเม็ดใสออกจากใบหน้าหวานของพี่ชายตนเองอย่างเบามือ มือสากๆลูบศรีษะพี่ชายอย่างปลอบประโลม ทำได้เพียงแค่คอยบอกเท่านั้นเองว่ามันไม่ใช่แบบนั้น เค้นท์รวบเอวบางของพี่ชายมากอดไว้ คชารวบเอวน้องชายไว้ราวกับจะหาพี่พึ่ง
“เค้นท์..ฮึก..เฮียขอโทษ.. ขะ..ขอโทษ เฮียทำให้..ฮึก..เค้นท์เป็นห่วงอีกแล้ว.. เฮียขอโทษ”
เค้นท์ส่ายหน้าราวกับจะบอกว่าไม่ถือสา “กลับบ้านกันนะครับ”
คชาดันตัวเองออกจากอ้อมแขนของเค้นท์ สูดน้ำมูกฟืดๆจนปลายจมูกแดง ดวงตาช้ำ ริมฝีปากเจ่อเพราะว่าเกิดจากที่เจ้าตัวขบเม้มมันแรงเกินไป ทำให้ใบหน้าหวานดูน่าสงสารมากขึ้นไปอีก
“อ้าวไอ้เค้นท์ เตะบอลกันมึง” ชายร่างสูงโปร่งผิวขาวซีดวิ่งเหยาะๆมาตบบ่าเค้นท์ ยิ้มกว้างทักทายเพื่อนสนิท
เค้นท์ส่ายหน้าบีบไหล่คชาเบาๆ “มึงเล่นไปเหอะเต๋า กูจะพาคชากลับบ้าน”
คนชื่อเต๋าทำได้เพียงแค่พยักหน้าด้วยความงง มองชายร่างบางดวงตาช้ำจมูกแดงปากเจ่อที่นั่งหน้าซีดอยู่บนเก้าอี้วีแชร์ ราวกับคนป่วยที่กำลังจะไม่ไหวแล้วจริงๆ คชางั้นเหรอ..
“กลับบ้านดีๆนะเว้ยเค้นท์แล้วก็...คชา..”
เต๋าโบกมือหยอยๆให้คนทั้งคู่ เค้นท์หันหน้ามาพยักหน้ารับรู้ แต่คชากลับทำเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมามอง พอเห็นว่าเขามองตอบกลับไปก็หลบสายตาออกไป
คชาหลุบสายตาก้มลงมองปลายเท้าตัวเอง “..เช่นกันครับ”
Talk
ข้าวบอกเลยว่าไม่ถนัดแนวนี้มาก.. ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ อย่าลืมติดตามฟิคของมิลลิกนัมด้วยน้า ขอบคุณค่า – ข้าวหมาก
ความคิดเห็น