คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3
Chapter 3
ดวงตากลมโตทอดมองออกไปยังพื้นหญ้าสีเขียวอื๋อที่มีมนุษย์หลายสิบคนเตะลูกกลมๆสีดำสลับขาวไปมา นิ้วมือเรียวเล็กขูดขีดกระดาษขาวบนกระดานที่วางอยู่บนตักอย่างเรื่อยเปื่อย วันนี้ก็เป็นอีกวัน ไม่สิ...ก็เหมือนทุกวันที่คชาต้องมานั่งรอเค้นท์เตะบอลกับผองเพื่อน เจ้าตัวคิดอยากจะลงไปฟาดแข้งกับเค้าบ้างแต่ก็รู้ดีว่าคงทำไม่ได้ คนตัวเล็กได้แต่เอากระดานพร้อมกระดาษมาวาดรูประหว่างรอแก้เบื่อปนลดความอิจฉาไปพลางๆ ที่จริงแล้วนนทนันท์ถนัดด้านการวาดรูปมากเป็นพิเศษเรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็กๆ ถ้าเกิดว่าตอนเข้าปีหนึ่งคชาไม่ได้เลือกเข้าคณะนิติศาสตร์และไม่ได้สอบติดล่ะก็คชาก็ต้องอยู่คณะทางด้านศิลป์สักคณะนึงอย่างไม่ต้องสงสัย
เบื่อจังเลยนะ เบื่อเป็นที่สุดเลย....
คนตัวเล็กในชุดนักศึกษาพอดีตัวคิดในใจแต่ก็ยังคงก้มๆเงยๆเพื่อวาดรูปต่อไป วันนี้คชาเลือกที่จะวาดรูปหญ้าเขียวๆกับเพื่อนของเค้นท์ๆที่เตะบอลอยู่ เพื่อนของเค้นท์ที่ใส่เสื้อบอลเบอร์23ก็ดูเหมาะกับการเป็นแบบดีน่ะนะจะว่าไปแล้ว เสียงครูดคราดของดินสอไม้2Bแท่งสีน้ำเงินดังขึ้นเรื่อยๆ ภาพเสก็ตช์ของคชาค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นตามความยาวนานของเวลาที่เสียไป
“ อ้าว ไปไหนซะแล้ว “ เสียงเล็กพึมพำเบาๆเมื่อไม่เห็นร่างขาวโปร่งที่ตัวเองกำลังวาดเป็นแบบอยู่ในสนาม
“ ใครไปไหนหรอครับคชา? “ เสียงอุ่นนุ่มที่ดังขึ้นข้างหูคชาทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์สะดุ้ง
“ ปะเปล่าสักหน่อย “ คชายกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบาๆคล้ายปลอบตัวเองให้หลุดจากอารมณ์ตกใจ
“ วาดอะไรอยู่ครับ หืม? เอ๊ะ เบอร์23นั่นมัน.. “เต๋าที่ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเดินอ้อมมายืนข้างๆร่างบางพลางลอบมองกระดานแผ่นใหญ่บนตักของคนตัวเล็ก
“ วะวาดสนามเฉยๆเอง ไม่มีอะไรหรอกน่า “ คชารีบตะครุบจับแผ่นกระดานสีน้ำตาลคว่ำลงในทันที
“ ให้ผมดูหน่อยสิ “ มือขาวทำท่าจะหยิบแผ่นกระดานบนตักแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อคชาหยิบแผ่นกระดานสีน้ำตาลมากอดไว้แนบอก
“ ไม่เอา เราไม่ให้คุณดูหรอก “
“ ขอดูนิดเดียวเอง “
“ บอกแล้วไงว่าไม่เอา “ สิ้นเสียงเล็กของคชาก็ทำเอาเต๋าหลุดขำมาพรืดใหญ่ คนบนรถวีลแชร์นี่มันช่างน่า...น่าอะไรสักอย่าง บางมุมดูเป็นผู้ใหญ่แต่ก็เหมือนเด็กในเวลาเดียวกัน คนตัวเล็กหันหน้ามายื่นปากเป็ดพร้อมปล่อนค้อนซะวงใหญ่ให้กับเต๋า
“ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ หายงอนนะครับ? “
“ ใคร ใครงอนนายกันฮะ? “ ริมฝีปากสีเชอรี่เชิดขึ้นน้อยๆ
“ คชาไง งอนผมไม่ใช่หรอ? “
“ ไม่ได้งอน นายมั่วแล้ว บู่ๆ “ เต๋าหลุดยิ้มออกมาอีกเล็กน้อยให้กับคำสร้อยของคนตัวเล็กตรงหน้า
“ หรอครับ หรอ “
“ ใช่แล้วว นี่หยุดยิ้มเลยนะ “ นิ้วเรียวของคชายื่นมาตรงหน้าเต๋าแทนที่ร่างขาวเรืองแสงจะสลดกลับยิ้มกว้างออกมาซะได้ ทำเอาใบหน้าสวยได้รูปมู่ทู่ลงทันที “ เน่ บอกแล้วไงให้หยุดยิ้มย่ะ ไม่ได้ยินหรออ? “
“ ได้ยิน แต่ไม่ทำตาม “
“ เฮ้ยย ทำไมนายกวนงี้อ่ะ “ เจ้าของเสียงขมวดคิ้วอย่างเอาเรื่อง
“ ไม่ได้กวนสักหน่อย คชาน่ะมั่วแล้ว “
“ ไม่มั่.. “ ไม่ทันสุดเสียงของคชา คนตัวเล็กก็หยุดพูดลงเมื่อกลุ่มเพื่อนซี้ของเค้นท์นำทีมโดยต้น เฟรม เจมส์ และเบน ก็เดินมาข้างสนามบริเวณที่เต๋ากับคชากำลังถกเถียงกันอยู่ กลิ่นเหงื่อแบบผู้ชายที่ถึงแม้คชาจะคุ้นเคยแต่ก็อดที่ย่นจมูกลงไม่ได้รวมถึงนิ้วเล็กๆ ทุกการกระทำของคชาอยู่ในสายตาเต๋าที่ละสายต่าไปไหนไม่ได้ตั้งแต่ต้นคล้ายต้องมนต์สะกด
“ ไอ้เต๋าตกลงที่จะไปเที่ยวอ่ะ ไปบ้านมึงนะ ประหยัดดี “ เสียงทรงสเน่ห์ของต้นเพื่อนร่วมคณะของเต๋าดังขึ้นเรียกให้คนในกลุ่มที่เดินตามกันมาสนใจกันท่วนหน้า
“ เออ ได้ๆ มีใครไปมั่งวะ? “ เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยตอบ
“ มีกู ไอ้เค้นท์ เฟรม เจมส์ “ ต้นตอบ ร่างขาวที่ฟังอยู่พยักหน้าตอบพลางหันไปดูคนข้างๆที่นั่งเหมือนเป็นส่วนเกินอยู่ในกลุ่ม “ ต้น ให้คชาไปด้วย “ คนตัวเล็กเงยหน้ามามองเต๋าทันทีที่เสียงทุ้มนุ่มของเต๋าบอก
“ มะไม่เป็นไร เราไปก็ภาระเปล่าๆ เราไม่ไปดีกว่า “ ร่างแบบบางพูดเสียงอ้อมแอ้ม
“ คชาไปเหอะ เต๋ามันชวนอีกอย่างเค้นท์ก็ไปจะกลัวอะไร “ เสียงติดจะจิกของต้นดังขึ้นทันที เพื่อนในกลุ่มที่ยืนล้อมวงอยู่ก็พยักหน้ากันหงึกหงัก ไม่มีใครที่จะรังเกียจคชาแล้วก็ไม่ชอบเจ้าตัวด้วยถึงแม้คนตัวเล็กจะไม่ได้ค่อยพูดคุยกับเพื่อนๆของเค้นท์เท่าไหร่แต่คนในกลุ่มก็สงสารคชากันทั้งนั้น ส่วนตัวคชา...ด้วยเสียงจิกๆของต้นบวกกับคำพูดร้ายๆก็ทำให้เจ้าของหัวเห็ดขี้กลัวกลัวอย่างประหลาดทั้งๆที่ตัวเองโตกว่าคนในกลุ่มแท้ๆ ดวงตาเรียวรีหันไปมองเค้นท์คล้ายจะถามว่า ‘ ไปดีมั้ย? ‘ และเค้นท์ก็พยักหน้าตอบมานิ่งๆตามปกติ
“ ก็ได้ งั้นขอรบกวนด้วยนะ “ มือเล็กๆของคชาดึงชายเสื้อเต๋าเบาๆ ร่างสูงขาวหันหน้ามาเลิกคิ้วให้เป็นเชิงถาม “ แล้วจะไปไหนกันเหรอ? “
“ บ้านพักตากอากาศผมเอง....บ้านแม่กำปอง ที่เชียงใหม่ “
ต้นไม้สีเขียวเข้ม เขียวอ่อน เรียงตัวขึ้นเต็มสองข้างทาง ดอกหลิวดอกหญ้าไหวเอนตามลมบริสุทธิ์ที่มีไอเย็นๆเจือพาดผ่าน ดอกกำปองสีม่วงเข้มสีชมพูอ่อนหลากสีขึ้นขัดกับต้นไม้สีเขียวช่างสวยงามราวกับภาพวาดที่ใช้สีชั้นดีพู่กันชั้นดีบรรจงกรีดกรายแต่งแต้มลงบนผืนผ้าใบ ก้อนเมฆสีขาวบิดพลิ้วเป็นปุยไหมนุ่มละมุนกระจายเต็มท้องฟ้าสีอ่อน ผีเสื้อตัวน้อยสีเหลืองเหมือนนกคานารี่ สองตัวบินอ้อล้อกันดูอ่อนหวาน รวมผนวกกันทุกอย่างทำให้ทิวทัศน์ข้างทางดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์สำหรับหมู่บ้านกลางหุบเขาแห่งนี้...... หมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
เสียงแชะๆของชัตเตอร์กล้องดังขึ้นไม่ขาดสายจากว่าที่นักร้องหนุ่มอย่างเฟรมที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นตากล้องชั่วคราว ต้นกับเจมส์คู่เพื่อนสนิทที่ดูเหมือนมีซัมธิงกันนั่งวิวาทครอบครองเบาะหลังสุดของรถ ถัดมาอีกเบาะเป็นเฟรมและเค้นท์ที่ยังคงหลับไม่รู้เรื่อง..อันที่จริง ตั้งแต่ลงจากเครื่องบินมาขึ้นรถของเต๋าน้องชายตัวดีก็หลับสนิททันทีจนมาถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตื่น แสดงนิสัยขี้เซาออกมาอย่างชัดเจน และเบาะด้านหน้าสุดที่นั่งข้างคนขับรถสุดหล่อตกเป็นของคนตัวเล็กอย่างไม่ต้องสงสัยมือเล็กๆเกาะขอบหน้าต่างอย่างตื่นเต้นกับวิวทิวทัศน์ คชาแทบจะลืมหายใจกับความสวยงามคล้ายกับภาพวาดตรงหน้านี้ ทุกอย่างมันเหมือนกับว่าเป็นเพียงภาพจินตนาการที่จับต้องได้เท่านั้น เต๋าที่ขับรถอยู่ลอบมองคชาเป็นระยะๆ เจ้าของหัวเห็ดยังคงตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติรอบๆตัว จนรถหยุดนิ่งลงหน้าบ้านไม้2ชั้นขนาดใหญ่
“ ลงได้แล้วครับพวกมึง ถึงแล้ว “ เต๋าตะโกนเรียกทุกคนพลางลงจากรถเป็นคนแรก
“ มาช่วยนายถือของเร็วๆ “ หญิงสาวอายุสี่สิบกว่าๆที่กำลังเดินเข้ามาหาเต๋าเรียกเด็กๆในบ้านมาช่วยยกของกันยกใหญ่ “ สะวัดดีเจ้า นายเต๋า “
“ สวัสดีครับน้าพิณ คราวนี้เต๋ามาอยู่สัก 3-4 วันนะครับ รบกวนน้าพิณด้วยนะครับ “
“ รบกวนอะไรกันคะ นี่ก็บ้านนายเต๋าอยู่แล้ว ไปค่ะขึ้นบ้านเดี๋ยวน้าเอาข้าวขึ้นไปให้ “
บ้านพักตากอากาศของเศรษฐพงษ์มีอยู่แทบทุกจังหวัดของประเทศเลยก็ว่าได้ บ้านแม่กำปองนี้ก็เป็นที่หนึ่งแต่ละแห่งก็มีผู้ดูแลอยู่ทุกๆที่รวมถึงที่นี่ก็มีน้าพิณ หญิงวัยสี่สิบกว่าๆที่คอยดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ เต๋าสาวเท้าเข้าไปหาคชาที่รอเค้นท์อยู่ทางขึ้นบันได
“ เป็นไงครับคชาที่นี่อากาศดีมั้ย? “ เต๋ายิ้มมุมปากน้อยๆขณะที่ถาม
“ ดีสิ สวยมากเลยล่ะ ขอบคุณมากนะที่ไปเรามาด้วย “
“ ผมอยากให้คชามาอยู่แล้วแหละครับ อยากขึ้นไปดูข้างบนมั้ย สวยมากเลยนะ “
“ อะเอ่อ...ก็อยาก แต่เค้นท์ยังไม่มา “
“ เดี๋ยวผมพาขึ้นไปเองก็ได้ครับคชา นั่งนิ่งๆก่อนนะ “ มือขาวแข็งแรงช้อนคนตัวเล็กบนรถวีลแชร์ขึ้นอุ้ม ร่างเล็กในอ้อมอกของเต๋าสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย
“ กอดคอผมไว้สสิคชาเดี๋ยวก็ตกหรอก “
“ ต๋าววว ปล่อยผมลงนะ เดี๋ยวให้เค้นท์อุ้ม “
“ ผมอุ้มหรือเค้นท์อุ้มก็เหมือนกันแหละน่า กอดคอผมไว้เร็ว “ นนทนันท์วาดแขนโอบรอบคอเต๋าอย่างไม่มีทางเลือก ด้วยบันไดที่ค่อนข้างชันจะไม่เกาะก็คงไม่ได้คชาย่นจมูกเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ
ร่างเบาหวิวของคชาถูกวางไว้บนเก้าอี้ไม้ที่มีเบาะรองนั่งนุ่มๆรองอยู่ คชาจัดท่าทางตัวเองเล็กน้อยพอให้นั่งสบาย สายตายังคงจ้องมองวิวทิวทัศน์ตรงหน้าอย่างไม่กระพริบตา ถึงแม้วิวจะไม่ต่างกับข้างทางที่ขับรถมามากนัก แต่หมอกที่ลอยจางๆอยู่ตรงทิวเขาด้านนู้นบวกกับแสงอาทิตย์สีส้มอ่อนๆที่กำลังเคลื่อนตัวคล้อยต่ำ ทำให้ภาพตรงหน้าสวยจนไม่อาจะละสายตา มือเรียวคว้าโทรศัพท์เครื่องแพงของตัวเองขึ้นมาหมายจะถ่ายรูป แต่กลายเป็นว่าหน้าจอกลับดับลงต่อหน้าต่อตา พร้อมกับสัญญาณรูปแอปเปิ้ลที่ขึ้นโชว์หราเป็นสัญญาณว่าแบตหมดแล้วจริงๆ คชาเบ้ปากใส่โทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋า
“จะถ่ายรูปเหรอ ผมถ่ายให้เอาไหม? ” เต๋าที่เฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ชั่วครู่เอ่ยขึ้น
เจ้าของศีรษะกลมๆส่ายดิ๊ก “แบตหมดน่ะ ขอบคุณนะ”
“งั้น.. เอาเครื่องผมถ่ายก็ได้ครับ เดี๋ยวส่งให้นะ พระอาทิตย์ตกมันมีแค่วันล่ะครั้งนะ”
คชามีท่าทีชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก “อืมงั้นก็ได้ ขอบคุณนะ”
เต๋ายิ้มบางหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา “ คชา ยิ้มสิ ”
“ หา? ไม่ต้องถ่ายเรา ” คชายกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง
“ เร็วๆสิ พระอาทิตย์จะกลับรังแล้วนะ ” เต๋าเร่งเร้า คชาจึงรีบฉีกยิ้มบางส่งไปให้ “ หนึ่ง สอง.. สาม ”
รูปสี่เหลี่ยมๆเด้งเซฟเข้าในเครื่องอัตโนมัติ เต๋ายิ้มบาง เขาได้รูปคชามาแล้ว อย่างที่เต๋าสังเกตเห็น ถึงแม้คชาจะไม่ยอมฉีกยิ้มกว้างแต่ก็มีรอยยิ้มเล็กๆขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็นะ ยังดีกว่าทำหน้าเศร้าพร้อมกับดวงตาน่าสงสารนั้น
“ เหมี้ยว.. ”
ชายหนุ่มทั้งสองรีบหันตามเสียงแปลมปลอมที่ลอบเข้ามา เต๋ายกยิ้มกว้างทันที “ ไอ้ไฉไล ”
เต๋ารีบก้มลงไปอุ้มแมวตัวสีขาวอ้วนพลุ้ยขึ้นมากอด มันอ้วนมากๆจนตัวเกือบจะเท่ากระต่ายที่โตเต็มที่แล้ว คชามองสิ่งมีชีวิตมาใหม่ด้วยความสนอกสนใจ เต๋าเห็นอย่างนั้นจึงค่อยๆวางไฉไลตัวอ้วนพลุ้ยลงบนตักนุ่มๆของคชา
“ คุณ!! เดี๋ยว!! ”
คชาเกร็งตัวแน่นด้วยความตกใจ มือเรียวคว้าข้อมือของเต๋าไว้อย่างลืมตัว คชาไม่พิศวาสสัตว์เลี้ยงที่ตัวใหญ่มากนัก ถึงแม้คชาจะไม่ค่อยรู้สึกถึงน้ำหนักตัวของมันที่ทับลง แต่ก็อดเกร็งไม่ได้ ดวงตาเล็กๆของแมวอ้วนจ้องมาที่
คชานิ่งๆราวกับกำลังสแกน
“ เหมี้ยว.. ”
“ กลัวหรือไง ”
“....เปล่า แค่ไม่คุ้น..”
คชาค่อยๆคลายมือตัวเองออกจากข้อมือของเต๋า เลื่อนมาลูบเบาๆที่ใต้คางของไฉไลแมวตัวอ้วนพลุ้ยแทน หัวกลมๆของมันรีบถูไถเข้ากับนิ้วเรียวของคชา ดวงตาของมันหลับพริ้มลงราวกับกำลังเคลิบเคลิ้ม แมวอ้วนขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวเองให้หลับพริ้มอยู่บนตักนุ่มๆของคชา
“ อยู่กับไฉไลไปก่อนนะ เดี๋ยวผมขึ้นมาอีกรอบ ”
“ อื้ม.. อยู่กับไฉไล ”
.
.
.
.
ทันทีที่มือเรียวผลักประตูรถแท็กซี่สีชมพูเข้มปิด รถแท็กซี่คันนั้นก็แล่นออกจากข้างทางไป คชามองซ้ายขวาด้วยความระมัดระวัง ในมือกระชับเอกสารรายงานปึกใหญ่แน่น วันนี้คชาไปทำรายงานที่บ้านเพื่อนมา กว่าจะได้กลับก็เที่ยงคืนกว่าๆแล้ว ตอนนี้ความเหนื่อยอ่อนมันคลืบคลานเข้ามาเข้าเต็มตัวจนทำให้ล้าไปหมด เป็นไปได้ตอนนี้คชาอยากจะหลับตาแล้วลืมตาอีกทีก็อยู่บนเตียงนุ่มๆ..
ดวงตาเรียวจ้องมองไปที่ถนนอีกครั้ง แสงไฟจากรถยนต์กำลังแล่นมาจากไกลๆทำให้คชามั่นใจว่าคชาจะสามารถข้ามถนนทันก่อนมันจะถึงตัว คชาก้าวขาทั้งสองข้างลงบนถนนคอนกรีตเพื่อที่จะข้ามไปยังหน้าปากซอยบ้านตัวเอง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อรถยนต์คันที่คชาเห็นไกลๆนั่นพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ผิดกฎหมาย อีกแล้วทั้งรถยนต์ที่วิ่งผิดเลนส์คันนั้นกำลังส่ายไปมา ความเร็วกำลังทะยานขึ้น คชาเผลอปล่อยกองเอกสารนั่นจนหลุดมือ ขาเพรียวก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ แสงสีเหลืองจากหน้ารถคันนั้นขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ..
.
.
“อ๊า!!!!!!”
“เหมี้ยว!!!!”
“คชา!!!!!”
TALK
มิล ; เรื่องนี้แต่งยากมากจริงๆค่ะ 55555555555 ตอนนี้นิ่งๆหน่อยน้า คอฟิคดราม่าเดี๋ยวได้ดราม่าแน่นอนค่ะ แล้วาคลายปมเรื่องนี้ด้วยกันนะคะ ฝากติดตามเรื่องนี้แล้วก็พี่ว๊ากด้วยค่า :D
ข้าวหมาก ; ขอบคุณที่ยังติดตามแล้วก็ได้โปรดติดตามกันต่อไปด้วยนะเจ้า
:) Shalunla
ความคิดเห็น