ศึกบ้านกระจกเงา - ศึกบ้านกระจกเงา นิยาย ศึกบ้านกระจกเงา : Dek-D.com - Writer

    ศึกบ้านกระจกเงา

    ผู้เข้าชมรวม

    213

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    213

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  16 ก.ย. 53 / 22:55 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      บ้านกระจกเงา
                       ความมืดที่คลืบคลาน เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบา
      กระจกบานแล้วบานเล่าสะท้อนเงาผู้คนในอดีต ปัจจุบัน หรือแม้แต่อนาคต...
      สถานที่ที่แม้แต่เข็มทิศยังไม่สามารถบอกทางออก 
      แม้แต่ความกลัวก็ไม่สามารถทำให้ถอยกลับ และข้ากำลังเผชิญกับมัน!

                กระจกเงางั้นหรอ...ให้ตายสิ จะมีอะไรหลอนประสาทได้เท่านี้กัน ..
                ร่างสูงเพรียวยืนอยู่หน้าประตูสลักบานใหญ่ เรย์วีน่า เดอ ริชเชส ถอนหายใจนึงทีก่อนจะตวัดมือ ใช้พลังเวทย์ของตนเองเปิดบานประตูนั้นอย่างแรงจนเกิดเสียงกระแทกดังลั่น
                ปึ้ง !!!
                สิ้นเสียงประตูก็เหลือไว้เพียงความเงียบสงัด สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือเขาวงกตที่รายล้อมไปด้วยกระจกบานใหญ่ เธอตัดสินใจก้าวข้ามผ่านบานประตูนั้นอย่างช้าๆ..
                ครืด..ปัง !!
                ประตูบานใหญ่ปิดลงอย่างแรงก่อนจะจางหายไป เธอรีบหันขวับไปมองด้วยความตกใจ ก่อนที่จะหันกลับมาแล้วหายใจยาวๆเรียกสมาธิ
                ...จะถอยตอนนี้ก็ไม่ได้แล้วสินะ 
                กอก..กอก..
                เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นเย็นเฉียบดังก้องไปทั่วบริเวณ เธอใช้เวทย์จุดไฟที่ปลายนิ้วเพื่อให้แสงสว่าง แต่ก็ได้แค่เพียงแสงสลัวๆเท่านั้น ให้ตายเถอะ !แล้วข้าจะหาทางออกยังไงเนี่ย !
      เปรี้ยง !!
                ส้นรองเท้าแหลมเล็กกระแทกเข้าไปที่บานกระจกก่อนจะแตกกระจาย ก่อนตามมาด้วยเสียงร้องของอีกาที่พากันบินขึ้นฟ้าไป เฮ้อ...ทีนี้ก็คงไม่หลงแล้วสินะ...
      แต่ทันได้นั้นวัตถุที่หล่นกระจัดกระจายอยุ่กับพื้นกลับลอยขึ้นมาประกอบเป็นรูปร่างดังเดิมอีกครั้ง นี่มันอะไรกันเนี่ย !!!
                ความรู้สึกเย็นวูบแล่นผ่านหลัง ทำให้ขนลุกไปทั่วทั้งตัว เรวีน่ารีบหันขวับไปมองทันที แต่สิ่งที่เห็นก็เพียงเงาตัวเองเท่านั้น
                ในเมื่อทำให้แตกไม่ได้ ก็คงมีแต่วิธีนี้แหละนะ !
                หญิงสาวร่ายเวทย์มนต์ปรากฏดวงไฟดวงใหญ่ลอยอยู่เหนือฝ่ามือ แล้วนำมันจ่อเข้ากับบานกระจก ก่อให้เกิดเขม่าควันสีดำเกาะเป็นแถบ หึ!ต้องอย่างนี้สิ ทำลายไม่ได้ แต่ทำให้เปื้อนได้นี่หน่า
                 'บังอาจ...'
                 เสียงๆหนึ่งดังขึ้น หญิงสาวรีบหันขวับไปมอง แต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากเงาตัวเองแต่ที่มันแตกต่างออกไปคือเงาในกระจกมันยิ้มอยู่ ทั้งๆที่เธอไม่ได้ยิ้มนี่สิ !!
                 "อ อะไรกัน.." เธออุทานออกมาเบาๆก่อนถอยหลังจนชิดกระจกอีกบาน แล้วเสียงและลมที่ปะทะกับใบหูก็ทำให้หญิงสาวเย็นวูบไปทั่วทั้งร่าง 'บังอาจมากนะ...สาวน้อย'
                เปรี้ยง !!!
                หญิงสาวใช้เวลาอันรวดเร็วในการวาดรูปแส้ในอากาศและกระชากมันออกมาฟาดปะทะกับกระจกจนแตกกระจายอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะกลับมาประกอบเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้เงาของเธอหายไปแล้ว
                มันเป็นตัวอะไรกันแน่ !
                ราวกับได้ยินเสียงของความคิด เงานั่นปรากฎตรงกระจกอีกบานข้างหน้าเธอแล้วยิ้มด้วยสายตาเย้ยหยัน พลางตอบไปว่า 
                'ฉันก็เป็นเธอไงจ๊ะสาวน้อย'
                "เจ้าเป็นใคร!!!"
                หญิงสาวตวาดใส่หน้าบุคคลในกระจกที่ตอนนี้เหมือนเธออย่างกับแกะ คนถูกตวาดอึ้งไปเล็กน้อยก่อนกอดอกแล้วจุ๊ปากอย่างหน้าหมั่นใส้
                'ไม่ดี ๆ อย่าเสียงดังในที่แบบนี้สิจ๊ะ 'ทุกคน'เขาหลับอยู่นะ'
                "พูดอะไรของเจ้าน่ะ..."
                ครืด...ครืด...
                เสียงเหมือนวัตถุหนักถูกลากให้ครูดไปกับพื้น จากหนึ่งเสียง...เป็นสอง...เป็นห้า...และมากมายจนแยกแยะไม่ออก
                'ว๊า...ตื่นซะแล้วสิ โชคดีนะจ๊ะ'เงาในกระจกขยิบตาให้ทีนึงก่อนที่จะหายวับไป ปล่อยทิ้งหญิงสาวที่ยืนท่ามกลางแสงสลัวไว้ เสียงหายใจเริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ....
                ครืดดด...ครืดดด.... 
                เสียงนั้นฝ่าความมืดใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งเห็นเป็นเงาดำๆ ค่อยๆกึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหา... มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ หญิงสาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าอย่างชัดเจน...
                ซอมบี้!!!
                มันคือซอมบี้ที่กึ่งเดินกึ่งคลานเข้ามาหาเธอ กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วอนูบริเวณ ผีดิบพวกนั้นใส่เสื้อเกราะเหมือนของทหารกรีกในสมัยโบราณ มิหนำซ้ำยังลากอาวุธมาด้วย ขวาน ค้อน ทวน ง้าว และอีกนานาชนิด เศษเนื้อหล่นร่วงตามทางเดิน ทำให้เธอต้องปิดปากเพื่อไม่ให้อาเจียนออกมา
               เมื่อสังเกตไปรอบตัวแล้ว จะพบว่ามันเข้ามาหาทุกทิศทาง ไม่ใช่แค่สองสามตัว แต่เป็นสิบ เสียงโหยหวนจากซากศพเดินได้พวกนั้นทำให้หญิงสาวแทบจะสติแตก
               'กระจกน่ะ...นอกจากจะสะท้อนภาพแล้ว ยังสามารถบิดเบือนมิติได้อีกด้วย ทหารโบราณพวกนี้ก็กำลังหลับไหลอยู่ในห้วงมิตินั่นแหละ... แต่เธอไปกวนเวลานอนของพวกเขาเองนะ' เสียงดังก้องออกมาจากที่ไหนซักแห่ง แต่ตอนนี้สติของเธอไม่ต้องการจะรับรู้อะไรอีกแล้วล่ะ นอกซะจากจะหนีไปจากที่นี่ !
                เปรี้ยง!!
                เธอเบี่ยงตัวหลบขวานที่ซอมบี้ทหารฟาดฟันใส่ได้อย่างหวุดหวิด ทำให้กระจกด้านหลังแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ต้องสู้!ต้องสู้เท่านั้นถึงจะรอด!
                เรย์วีน่ากระชับแส้เพลิงในมือให้แน่นยิ่งขึ้น เอาล่ะ!สู้ก็สู้! ว่าแล้วเธอก็ตวัดแส้ฟาดฟันหมู่บรรดาซากศพเดินได้จนล้มระเนระนาด แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ในเมื่อสิ่งที่ได้คิดว่าทำลายไปแล้ว กลับลุกกลับขึ้นมาได้อีกนี่สิ !
                ...จะอึดไปถึงไหนกัน ได้!เอาโบนัสไปกินแล้วกัน!!!
                เธอหลับตารวบรวมสมาธิอย่างถึงที่สุด ซอมบี้ที่ฟื้นคืนชีพค่อยๆคืบคานเข้ามาใกล้เธอช้าๆ ก่อนจะถึงตัวเธอเพียงเสี้ยววินาที...
                ซูมมม ม!!!~
                ไฟจำนวนมากมายเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง กวาดล้างเผาผลาญศพเดินได้พวกนั้นให้มอดไหม้ กลิ่นเนื้อไหม้และควันคละคลุ้งไปทั่ว หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งที่เหลือไว้ก็มีแค่ทางเดินกระจกที่แสนจะทนทานเพียงเท่านี้
                ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิม....
                แปะๆๆ..
                เสียงปรบมือดังมาจากด้านหลังของหญิงสาว เรวีน่าหันไปมองก็พบกับสิ่งเดิมที่ไม่ค่อยจะคุ้นเคยนัก นั่นคือเงาของเธอที่ไม่ใช่เธอยังไงล่ะ!
                'เก่งดีนะนี่ ที่รอดมาได้น่ะ'
                เงาตรงหน้าจีบปากจีบคอพูดก่อนจะก้าวผ่านกระจกออกมายืนกอดอกประจันหน้ากับเธอ 
                "บอกตัวตนของเจ้ามาซะ"
                หญิงสาวยืนยันคำพูดอย่างหนักแน่นจนฝ่ายตรงข้ามต้องถอนหายใจแล้วยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
                'ถ้าเธออยากรู้...ฉันก็จะบอก'
                เสียงแหลมใสกลับทุ้มนุ่มขึ้นในทันที ใบหน้าของหญิงสาวกลับกลายเป็นชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์สีดำสนิท ดวงตาสีแดงฉาน เขายิ้มเยาะทีหนึ่งก่อนจะตอบคำถามของหญิงสาว
                'ฉันคือ โลกิ เทพแห่งความชั่วร้าย หายนะ อิจฉาริษยา และความดำมืด ยินดีที่ได้รู้จัก'
                บุคคลตรงหน้าส่งยิ้มเย้ยหยันให้กับหญิงสาว เธอมองเขาด้วยสายตาฉงน ก่อนที่จะเอ่ยถามออกไป
                "แล้วทำแบบนี้เพื่ออะไร" 
                เรวีน่าถามออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ สายตาจ้องลึกลงไปยังดวงเนตรที่ไร้แววความเมตตา ดวงตาของเทพหรืออสูรกันแน่...
                'สนุกไง' พูดพลางยิ้ม ให้ตายเถอะ ข้าล่ะอยากจะจับเจ้าเทพนี้ควักไส้แล้วจุดไฟเผาซะจริงๆ ติดอยู่ตรงที่ว่าทำไม่ได้เท่านั้นเอง 
                 'ข้าไปแล้วนะ เจ้านี่ทำข้าเสียเวลาจริงๆ' เทพแห่งความหายนะยักไหล่อย่าไม่ใส่ใจแล้วหายตัวไปอย่างทันที 
                 อ๊ากกกกก !! กวนประสาทชะมัด!!!!

                 ข้าเดินกระฟัดกระเฟียดออกมาจนถึงทางออก ยังงงๆอยู่เหมือนกันว่าหาทางออกได้ไง แต่ก็ช่างเถอะ ความสามารถในตอนโกรธของข้าล่ะมั้ง
                 "มาแล้วหรือ เรย์วีน่า เดอ ริชเชส แห่งโรงละครสัตว์สีเพลิง"เสียงหวานออกมาจากริมฝีปากท่านเฟย์ย่า เรย์วีน่ายิ้มแล้วเดินเข้าไปหาอย่างใจเย็น ท่านเฟย์ย่าก้มมองสภาพของหญิงสาวที่เข้ามาหาตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนเอ่ยถามขึ้นด้วยความงุนงง
                 "เจ้าไปทำอะไรมาน่ะ" เสื้อผ้าไหม้เป็นบางจุด สภาพสบักสบอมพอดู...
                 "อา... มีซาตานไปกวนน่ะ เลยเสียแรงไปเยอะเลยล่ะ"แล้วหญิงสาวร่ายเวทย์มนต์ให้เสื้อผ้ากลับมาคงอยู่ในสภาพเดิม
                 "ซาตานงั้นหรือ ?"
                 "ช่างเถอะๆ ว่าแต่ที่เดินมาทางนั้นน่ะ ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรือเปล่า?" เธอมองผู้มาเยือนอย่างชั่งใจ...
                 "ใช่แล้วล่ะ...เธอคนนั้นนั่นแหละ ไมยาเรส ซาวาเรส คู่ต่อสู้ของเจ้า"
                 ...น่าตื่นเต้นดีนี่
                      

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×