เล่ห์รักนายมาเฟีย
หญิงสาวผู้ซึ่งไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้ ถูกผู้เป็นพ่อกับแม่นำไปขายเพื่อใช้หนี้ให้กับมาเฟียหนุ่มหล่อ ผู้ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้ การได้เจอกับเขานำเธอไปพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด
ผู้เข้าชมรวม
4,086
ผู้เข้าชมเดือนนี้
25
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
:: บทนำ ::
ใครเคยผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นมาบ้างคะ อยากรู้ว่าความเจ็บปวดและทรมานใจมันจะรุนแรงเหมือนอย่างที่ฉันเจอไหม…
ความจริงแล้ววันนี้ควรจะเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดแต่ทว่ากลับไม่ใช่
กลับมาจากโรงเรียนแล้วก็รีบเดินเร็วตรงเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่อยู่ในห้องนั่งเล่น
ในมือก็ถือใบระเบียนแสดงผลการเรียนที่ระบุเกรดเฉลี่ย 3.95 พร้อมกับข่าวดีที่สามารถสอบติดคณะพยาบาลได้
ฉันอยากทำให้ท่านทั้งสองภูมิใจในตัวฉันบ้าง
“พ่อจ๋า แม่จ๋า
หนูมีข่าวดีจะมาบอก”
“ข่าวดีบ้าบออะไรของแก”
แม่ตอบกลับมา ทำทีไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด
“หนูสอบติดคณะพยาบาลแล้วนะจ๊ะ
แถมเกรดเทอมสุดท้ายยังได้ตั้ง...”
“ไม่ต้องคิดเพ้อฝันเรื่องเรียนต่อแล้ว
เพราะแกจะต้องย้ายไปทำงานที่บ้านเจ้าหนี้ของเราแล้ว”
“แม่หมายความว่ายังไง
ให้หนูย้ายไปที่นั่นทำไม” ฉันแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนทรงตัว
รีบเดินเข้าไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามท่านทั้งสอง
“ฉันขายแกใช้หนี้ทั้งหมดแล้ว
แถมยังได้เงินมาพยุงธุรกิจอีกเล็กน้อย จากนี้ไปแกจะต้องไปทำงานรับใช้เจ้าหนี้จนกว่าเขาจะพอใจ
แต่ฉันคิดว่าคงต้องทำงานชดใช้ไปทั้งชาตินั่นล่ะ” แม่กล่าวออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
ส่วนพ่อก็นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา ทำเป็นเมินไม่สนใจฉันเลย
ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยอยู่อย่างสุขสบายเหมือนเด็กคนอื่น
ๆ ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากท่านทั้งสองเลยสักนิด บ้านเราทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
คนอื่นที่มองมาคงจะคิดว่าเราร่ำรวย ใช่!
ถ้าท่านทั้งสองไม่ไปเข้าบ่อน เงินที่ได้จากการทำธุรกิจก็นำเข้าไปถลุงในบ่อน
แถมยังติดหนี้ท่วมหัวอีกต่างหาก แต่ฉันไม่นึกเลยว่าท่านทั้งสองจะเอาตัวฉันไปขายแลกกับหนี้พวกนั้น
“ฮึก...หนูไม่ไปหนูจะอยู่ที่นี่
อยู่กับพ่อกับแม่” ฉันปล่อยโฮออกมาทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น ความฝันได้พังทลายลงเสียแล้ว
“แกไม่มีสิทธิ์เลือก
ถ้าแกไม่ไปพวกมันก็จะมายึดบ้าน ยึดธุรกิจของเราไป
ดีไม่ดีอาจจะมาฆ่าพวกฉันตายก็เป็นได้ แกอยากจะเป็นลูกอกตัญญูงั้นเหรอ
ไม่สำนึกบุญคุณกันเลยใช่ไหม”
“หนูรักพ่อกับแม่นะจ๊ะ
แต่ทำไม...”
“ไปอยู่ที่นั่นบางทีแกอาจจะสบายกว่าอยู่ที่บ้านเราก็ได้
ใช่ว่าฉันอยากจะทำอย่างนี้แต่มันไม่มีทางเลือกจริง ๆ” พ่อเป็นฝ่ายเอ่ยบ้าง
“หนูไม่ไปได้ไหม
หนูสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ให้เองนะ”
“แกจะทำงานอะไรถึงจะได้เงินมาใช้หนี้เป็นสิบ
ๆ ล้าน ขายตัวเป็นชาติก็ไม่มีทางหาเงินขนาดนั้นได้หรอก
เอาตามนี้รีบขึ้นไปเก็บของจะมีคนมารับที่บ้าน”
“ฮือ...ทำไมพ่อกับแม่ใจร้ายอย่างนี้
หนูถามจริง ๆ เถอะหนูเป็นลูกแท้ ๆ พ่อกับแม่หรือเปล่า
ตั้งแต่เกิดมาหนูไม่เคยได้รับความรักจากพ่อกับแม่เลยสักครั้ง มันหมายความว่ายังไง”
“ไหน ๆ ก็ไหน ๆ
แล้ว ตอนนี้แกควรจะได้รู้ความจริงว่าฉันเก็บแกมาจากกองขยะ
แม่ใจแตกของแกมันเอาแกมาทิ้งไว้ยังไงล่ะ”
“แม่...โกหกหนู
อยากให้หนูเกลียดพ่อกับแม่ใช่ไหม”
“พวกฉันจะโกหกแกไปทำไม
ตอนนี้แกก็โตเป็นสาวแล้ว ควรจะตอบแทนบุญคุณพวกฉันบ้าง” พ่อกล่าวอย่างไม่ไยดีเลยสักนิด
ฉันเกลียดโชคชะตาตัวเองเหลือเกิน
ถ้าโตมาแล้วต้องเจอกับเรื่องอย่างนี้
ฉันควรจะตายในกองขยะตั้งแต่ตอนนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดอย่างเช่นทุกวันนี้
“ถ้าพ่อกับแม่คิดอย่างนั้นหนูก็จะไป
ในเมื่อชีวิตหนูมันไม่มีค่ามาตั้งแต่ต้นแล้ว ก็ปล่อยให้มันไม่มีค่าต่อไป
หนูคงตอบแทนบุญคุณพ่อกับแม่ได้เท่านี้ล่ะจ๊ะ”
ว่าแล้วฉันก็ก้มลงกราบแทบเท้าพ่อกับแม่ แต่ท่านกลับยังคงทำเป็นเมิน
ไม่พูดไม่จาอะไรเลย
“ไปซะได้ก็ดี
เหม็นขี้หน้าจะแย่ แล้วก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกนะ
ฉันจะเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ตลอดไป”
เสียงเล็กแหลมดังจากด้านหลัง
ฉันรู้ดีว่าเป็นเสียงใคร ยัยอิน น้องสาวคนเดียวของฉันเอง
แต่ตอนนี้คงจะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว
“ลงมาทำไมลูกพ่อกับแม่บอกให้อยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ”
น้ำเสียงที่แม่เอ่ยกับยัยอินช่างต่างกันลิบลับเลยทีเดียว
“ก็อยากมาดูน้ำหน้ากาฝากของบ้านไงคะแม่
คงจะเสียใจน่าดูที่ไม่ได้เรียนต่อ”
แม้ว่ายัยอินจะเป็นน้องสาว
แต่เราก็เรียนชั้นเดียวกัน เพิ่งจบชั้นมอปลายมาเหมือนกัน แต่ฉันไม่เคยเอะใจมาก่อนว่าทำไมถึงอายุเราถึงห่างกันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
“มันจะมากไปแล้วนะอิน”
“ก็มันจริงไหมล่ะ
พ่อกับแม่ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเก็บมาเลี้ยง ถ้าไม่ใช่กาฝากจะเรียกว่าอะไรล่ะยะ”
“ฮึก...ในเมื่อทุกคนไม่เคยรักและคิดว่าหนูเป็นคนในครอบครัว
หนูก็จะไม่กลับมาให้ทุกคนเห็นหน้าอีก หนูจะยอมก้มหน้าทำงานชดใช้หนี้ให้พ่อกับแม่
เพื่อแลกกับข้าวแดงแกงร้อนที่เลี้ยงหนูดูมา ฮือ...” แม้ท่านทั้งสองจะไม่ได้รักฉันเลย
แต่ก็รู้สึกใจหายไม่น้อยเมื่อจะได้จากที่นี่ไป โดยไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
เห็นสีหน้าสะใจของยัยอันก็ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
รู้สึกอิจฉาที่เธอได้รับสิ่งที่ฉันโหยหามาโดยตลอด คิดเสียว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้เวรกรรมก็แล้วกัน
ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเก็บของเข้ากระเป๋าไปพร้อมกับการหลั่งน้ำตา
ห้องน้อย ๆ ที่เคยเป็นที่ซุกหัวนอน เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่สุด
ตอนนี้เราจะต้องจากกันแล้ว และเป็นการจากลาไม่คงไม่มีวันได้หวนคืนมาอีกแล้ว
ผลงานอื่นๆ ของ กอบแก้ว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ กอบแก้ว
ความคิดเห็น