เล่ห์รักนายมาเฟีย - นิยาย เล่ห์รักนายมาเฟีย : Dek-D.com - Writer
×

    เล่ห์รักนายมาเฟีย

    หญิงสาวผู้ซึ่งไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเองได้ ถูกผู้เป็นพ่อกับแม่นำไปขายเพื่อใช้หนี้ให้กับมาเฟียหนุ่มหล่อ ผู้ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่ใกล้ การได้เจอกับเขานำเธอไปพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิด

    ผู้เข้าชมรวม

    4,086

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    25

    ผู้เข้าชมรวม


    4.08K

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    51
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  20 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ต.ค. 62 / 07:21 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    :: บทนำ ::

     

              ใครเคยผ่านช่วงเวลาที่รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นมาบ้างคะ อยากรู้ว่าความเจ็บปวดและทรมานใจมันจะรุนแรงเหมือนอย่างที่ฉันเจอไหม

                ความจริงแล้ววันนี้ควรจะเป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดแต่ทว่ากลับไม่ใช่ กลับมาจากโรงเรียนแล้วก็รีบเดินเร็วตรงเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่อยู่ในห้องนั่งเล่น ในมือก็ถือใบระเบียนแสดงผลการเรียนที่ระบุเกรดเฉลี่ย 3.95 พร้อมกับข่าวดีที่สามารถสอบติดคณะพยาบาลได้ ฉันอยากทำให้ท่านทั้งสองภูมิใจในตัวฉันบ้าง

                “พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูมีข่าวดีจะมาบอก”

                “ข่าวดีบ้าบออะไรของแก” แม่ตอบกลับมา ทำทีไม่ได้สนใจฉันเลยสักนิด

                “หนูสอบติดคณะพยาบาลแล้วนะจ๊ะ แถมเกรดเทอมสุดท้ายยังได้ตั้ง...”

                “ไม่ต้องคิดเพ้อฝันเรื่องเรียนต่อแล้ว เพราะแกจะต้องย้ายไปทำงานที่บ้านเจ้าหนี้ของเราแล้ว”

                “แม่หมายความว่ายังไง ให้หนูย้ายไปที่นั่นทำไม” ฉันแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนทรงตัว รีบเดินเข้าไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามท่านทั้งสอง

                “ฉันขายแกใช้หนี้ทั้งหมดแล้ว แถมยังได้เงินมาพยุงธุรกิจอีกเล็กน้อย จากนี้ไปแกจะต้องไปทำงานรับใช้เจ้าหนี้จนกว่าเขาจะพอใจ แต่ฉันคิดว่าคงต้องทำงานชดใช้ไปทั้งชาตินั่นล่ะ” แม่กล่าวออกมาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ส่วนพ่อก็นั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา ทำเป็นเมินไม่สนใจฉันเลย

                ตั้งแต่เด็กจนโตฉันไม่เคยอยู่อย่างสุขสบายเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากท่านทั้งสองเลยสักนิด บ้านเราทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง คนอื่นที่มองมาคงจะคิดว่าเราร่ำรวย ใช่! ถ้าท่านทั้งสองไม่ไปเข้าบ่อน เงินที่ได้จากการทำธุรกิจก็นำเข้าไปถลุงในบ่อน แถมยังติดหนี้ท่วมหัวอีกต่างหาก แต่ฉันไม่นึกเลยว่าท่านทั้งสองจะเอาตัวฉันไปขายแลกกับหนี้พวกนั้น

                “ฮึก...หนูไม่ไปหนูจะอยู่ที่นี่ อยู่กับพ่อกับแม่” ฉันปล่อยโฮออกมาทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น ความฝันได้พังทลายลงเสียแล้ว

                “แกไม่มีสิทธิ์เลือก ถ้าแกไม่ไปพวกมันก็จะมายึดบ้าน ยึดธุรกิจของเราไป ดีไม่ดีอาจจะมาฆ่าพวกฉันตายก็เป็นได้ แกอยากจะเป็นลูกอกตัญญูงั้นเหรอ ไม่สำนึกบุญคุณกันเลยใช่ไหม”

                “หนูรักพ่อกับแม่นะจ๊ะ แต่ทำไม...”

                “ไปอยู่ที่นั่นบางทีแกอาจจะสบายกว่าอยู่ที่บ้านเราก็ได้ ใช่ว่าฉันอยากจะทำอย่างนี้แต่มันไม่มีทางเลือกจริง ๆ” พ่อเป็นฝ่ายเอ่ยบ้าง

                “หนูไม่ไปได้ไหม หนูสัญญาว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ให้เองนะ”

                “แกจะทำงานอะไรถึงจะได้เงินมาใช้หนี้เป็นสิบ ๆ ล้าน ขายตัวเป็นชาติก็ไม่มีทางหาเงินขนาดนั้นได้หรอก เอาตามนี้รีบขึ้นไปเก็บของจะมีคนมารับที่บ้าน”

                “ฮือ...ทำไมพ่อกับแม่ใจร้ายอย่างนี้ หนูถามจริง ๆ เถอะหนูเป็นลูกแท้ ๆ พ่อกับแม่หรือเปล่า ตั้งแต่เกิดมาหนูไม่เคยได้รับความรักจากพ่อกับแม่เลยสักครั้ง มันหมายความว่ายังไง”

                “ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ตอนนี้แกควรจะได้รู้ความจริงว่าฉันเก็บแกมาจากกองขยะ แม่ใจแตกของแกมันเอาแกมาทิ้งไว้ยังไงล่ะ”

                “แม่...โกหกหนู อยากให้หนูเกลียดพ่อกับแม่ใช่ไหม”

                “พวกฉันจะโกหกแกไปทำไม ตอนนี้แกก็โตเป็นสาวแล้ว ควรจะตอบแทนบุญคุณพวกฉันบ้าง” พ่อกล่าวอย่างไม่ไยดีเลยสักนิด

                ฉันเกลียดโชคชะตาตัวเองเหลือเกิน ถ้าโตมาแล้วต้องเจอกับเรื่องอย่างนี้ ฉันควรจะตายในกองขยะตั้งแต่ตอนนั้นให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะได้ไม่ต้องมาเจ็บปวดอย่างเช่นทุกวันนี้

                “ถ้าพ่อกับแม่คิดอย่างนั้นหนูก็จะไป ในเมื่อชีวิตหนูมันไม่มีค่ามาตั้งแต่ต้นแล้ว ก็ปล่อยให้มันไม่มีค่าต่อไป หนูคงตอบแทนบุญคุณพ่อกับแม่ได้เท่านี้ล่ะจ๊ะ” ว่าแล้วฉันก็ก้มลงกราบแทบเท้าพ่อกับแม่ แต่ท่านกลับยังคงทำเป็นเมิน ไม่พูดไม่จาอะไรเลย

                “ไปซะได้ก็ดี เหม็นขี้หน้าจะแย่ แล้วก็ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกนะ ฉันจะเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ตลอดไป”

                เสียงเล็กแหลมดังจากด้านหลัง ฉันรู้ดีว่าเป็นเสียงใคร ยัยอิน น้องสาวคนเดียวของฉันเอง แต่ตอนนี้คงจะไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว

                “ลงมาทำไมลูกพ่อกับแม่บอกให้อยู่ในห้องไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงที่แม่เอ่ยกับยัยอินช่างต่างกันลิบลับเลยทีเดียว

                “ก็อยากมาดูน้ำหน้ากาฝากของบ้านไงคะแม่ คงจะเสียใจน่าดูที่ไม่ได้เรียนต่อ”

                แม้ว่ายัยอินจะเป็นน้องสาว แต่เราก็เรียนชั้นเดียวกัน เพิ่งจบชั้นมอปลายมาเหมือนกัน แต่ฉันไม่เคยเอะใจมาก่อนว่าทำไมถึงอายุเราถึงห่างกันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น

                “มันจะมากไปแล้วนะอิน”

                “ก็มันจริงไหมล่ะ พ่อกับแม่ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเก็บมาเลี้ยง ถ้าไม่ใช่กาฝากจะเรียกว่าอะไรล่ะยะ”

                “ฮึก...ในเมื่อทุกคนไม่เคยรักและคิดว่าหนูเป็นคนในครอบครัว หนูก็จะไม่กลับมาให้ทุกคนเห็นหน้าอีก หนูจะยอมก้มหน้าทำงานชดใช้หนี้ให้พ่อกับแม่ เพื่อแลกกับข้าวแดงแกงร้อนที่เลี้ยงหนูดูมา  ฮือ...” แม้ท่านทั้งสองจะไม่ได้รักฉันเลย แต่ก็รู้สึกใจหายไม่น้อยเมื่อจะได้จากที่นี่ไป โดยไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

                เห็นสีหน้าสะใจของยัยอันก็ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น รู้สึกอิจฉาที่เธอได้รับสิ่งที่ฉันโหยหามาโดยตลอด คิดเสียว่าเราเกิดมาเพื่อชดใช้เวรกรรมก็แล้วกัน

                ฉันรีบวิ่งขึ้นมาบนห้องเก็บของเข้ากระเป๋าไปพร้อมกับการหลั่งน้ำตา ห้องน้อย ๆ ที่เคยเป็นที่ซุกหัวนอน เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่สุด ตอนนี้เราจะต้องจากกันแล้ว และเป็นการจากลาไม่คงไม่มีวันได้หวนคืนมาอีกแล้ว

     

             

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น