บันทึก(ลับ)หัวขโมยแห่งบารามอสผู้ยิ่งใหญ่ วะ55+ - บันทึก(ลับ)หัวขโมยแห่งบารามอสผู้ยิ่งใหญ่ วะ55+ นิยาย บันทึก(ลับ)หัวขโมยแห่งบารามอสผู้ยิ่งใหญ่ วะ55+ : Dek-D.com - Writer

    บันทึก(ลับ)หัวขโมยแห่งบารามอสผู้ยิ่งใหญ่ วะ55+

    มันเป็นความรู้สึกของขโมยอย่างฉันล้วนๆ เลยจะบอกให้...>

    ผู้เข้าชมรวม

    1,707

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.7K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.พ. 50 / 22:25 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บันทึก(ลับ)หัวขโมยแห่งบารามอส(ผู้ยิ่งใหญ่555+)

      สวัสดีไอ้บันทึกเพื่อนยากนี่ฉันเองท่านเฟริน วะ555...

      มานี่เลยฉันจะเล่าอะไรให้ฟังนะ...แกรู้ใช่ไหมว่าตั้งแต่เข้าเรียนที่โรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กเนี่ยฉันมี

      เพื่อนใหม่เยอะแยะเลย

      ก็แหงล่ะสิคนอย่างฉันมันป๊อบปูลาร์น้อยซะเมื่อไหร่ละ 555

      ไม่มีใครรังเกียจที่ฉันเป็นหัวขโมย(รูปหล่อ) แกรู้มั๊ยที่นี่มีขอทานมาเรียนด้วยนะ 555 มันชื่อโรแต่โฉม

      หน้าที่แท้จริงมันมีดีกรีเป็นถึงเจ้าชายเชียว

      เฮ้อ...อุตส่าห์คิดว่าได้เจอคนระดับเดียวกันแล้วซะอีก คนอื่นนะเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงกันหมดเลย ดูอย่าง

      ไอ้เจ้าคาโลเจ้าชายมาดมากแห่งคาโนวาล...พ่อมันดุน่าเลยบรื๋อ...

      กัสนี่ก็ใช่ เรนอน มาทิลด้า พี่โรเวน และพี่ๆ อีกหลายคนที่มีฉายาเดอะปรินซ์และเดอะปรินซ์เซสห้อย

      หลัง

      มาดูระดับกลางๆ หน่อยละกัน นักบวช...นักฆ่า...นักเดินทาง...แม่มด...พ่อมด...วู้แต่ละคนแหมๆ...

      ระดับล่างสุดคงไม่พ้นฉันที่เป็นแค่หัวขโมยที่ช่างสรรหาเรื่องปวดหัวมาให้ทุกวี่ทุกวัน(เฮ้ อย่ามองฉันแบบ
      นั้นนะไอ้บันทึกบ้า)

      แหมๆ...แกคงคิดว่าทุกคนไม่ค่อยชอบฉันล่ะสิ ก็บอกไปตั้งแต่แรกแล้วไง ว่าไม่มีใครรังเกียจฉันเลย
      ออกจะชอบด้วยซ้ำ555

      ฉันเคยถามนะ(วันนั้นมันคึก -*-)ทำตาปิ๊งๆ ใส่แล้วไล่ถามเรียงตัวว่ารักเค้ามั๊ย...55555+

      แกรู้มั๊ยพี่โรเวน ไอ้คิล เรนอน มันบอกว่ารักฉันด้วย อ้อลืมคนสำคัญไป ความจริงก็ไม่ได้สำคัญอะไร
      มากหรอก>/////<

      ก็แค่ไอ้เจ้าชายมาดมาก...แถมปากหนักอีก...มันบอกว่ารักฉันแล้วร้องเพลงให้ฟังอีกต่างหาก(อย่ามองมา
      สิเฟ้ยคนมันเขิน วะไอ้บันทึกบ้านี่เดี๋ยวจับเผาทิ้งซะเลย)

      นี่แกรู้แล้วอย่าไปปูดนะ...ฉันรักเจ้าทะโมนทุกตัวในป้อมเลย รักรุ่นพี่ทุกคนด้วย

      ถ้าจะให้นับเป็นคะแนนนะฉันให้ 99.9999 เต็ม 100 (ให้ไปเห๊อะอีก0.0001เอง -*- /เจ้าบันทึก)

      เอ้อ...ลืมไปคนนึง คนนี้ฉันให้มัน(กระซิบนะแก)100 เต็มเลย จะใครล่ะก็ไอ้คาโลไง>////< คนอื่นๆ ก็อยาก

      ให้เต็มร้อยนะ แต่กลัวไอ้คาโลมันน้อยใจ...

      แกรู้มั๊ย...ว่าทำไมฉันถึงหลายใจ ผลัวะ (เสียงตีหัวคนพิมพ์) อะเอาใหม่ก็ได้ ซี้ดดด

      แกรู้มั๊ยว่าทำไมฉันถึง...ถึงรักคนมากๆ แล้วก็รักทุกคนขนาดนั้น

      เพราะฉันอยากให้พวกนั้นมันมารักฉันตอบบ้างน่ะสิ>///<


      แต่ไอ้คิลมันมาขัดคอ...มันบอกว่า
      คนเราไม่จำเป็นต้องรักทุกๆ คน(เพราะแกไม่ใช่นางงาม) และ
      ทุกๆ คนที่เรารักน่ะไม่จำเป็นต้องรักเราตอบ...จริงหรอ...

      แกตอบฉันหน่อยสิไอ้บันทึก...


      เมื่อคืนนี้ฉันนอนร้องไห้ด้วยแก...ครั้งแรกในรอบ 100 ปี รู้สึกว่าเมื่อวาน...(6 มกราคม 2550)จะมีแต่เรื่องให้
      สะเทือนใจแฮะ แต่มันก็หลายหลายอารมณ์นะ...

      แกรู้แล้วนี่ว่าฉันโดนกิ่งแอปเปิลเกี่ยวจนต้องใส่เฝือก(ไปเกี่ยวอีท่าไหนเนี่ย-*-) นั้นแหละๆ เอาเป็นว่ารู้
      กัน...

      แล้วทีนี้แกก็รู้นี่...ว่าน้ำหวานคือชีวิตฉัน...แล้วมันก็...กระเด็นมาโดนเฝือกนิดหน่อย แต่ฉันเช็ดแล้วนะเฟ้ย
      (เหตุการณ์นี้คืนที่ 5 ลืมบอก) เช็ดเสร็จแล้วง่วงไงแกเลยนอนซะ

      คราวนี้ถึงวันบรมซวย ซวยตั้งแต่เช้าเลยแก...ฉันถูกปลุก...ถ้าคิดว่าคาโลหรือคิลมาปลุกล่ะก็...

      ถุถุถุถูกที่ไหนเล่า...ขบวนพาเหรดมดแดงเฟ้ย -*- มากันทั้งรังยังกับว่าแขนฉันคือโต๊ะอาหารของมัน

      สรุปเช้านี้มีซี้ด...แดงกันทั้งแขน...><(ห๊ะ แกบอกว่าสมน้ำหน้าเรอะ เดี๊ยะๆ วอนซะแล้วไอ้นี่)

      ตืนมาก็นั่งจุมปุ๊กอยู่ในห้องคุยกะคาโลกับไอ้คิล แปลกใจล่ะสิว่าทำไมไอ้คาโลว่างพอที่จะมาไร้สาระกับ
      ฉันได้

      เพราะปกติมันต้องรี่ไปประชุมตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่เลย หึหึที่มันไม่ไปเพราะคนที่มักจะเรียกประชุมเสมอๆ
      ตาพี่โรเวนนั่นแหละ ก็นั่งจุ้มปุ๊กอยู่ด้วยกัน 5555

      แล้วเรา 4 คนก็จ้อกันซะสนุกปาก แหม พอได้คุยเรื่องที่ชอบหน่อยละจ้อไม่หยุดเลยนะไอ้น้ำแข็ง...แต่ก็
      ดีแล้ว ดีกว่าอมพะนำไม่ยอมพูด...

      ตอนนั้นมีคนอยากคุยกับฉันฉันเลยขอตัวไปดูก่อน...คนนั้นเป็นผู้ชายนะเขาบอกว่าเหงาอยากเป็นเพื่อน
      ด้วย

      แหมแกเอ๊ย...คำว่าเหงาเนี่ยแหละ...ฉันก็เลยยิ้มให้แล้วก็บอกว่ามาเป็นเพื่อนกันดีกว่าเนอะ ทีนี้เราก็ชวน
      กันเล่นหมากรุก...เขาเดินผิดฉันก็เตือนสิ

      แหม..ระดับเชสมาสเตอร์เชียวนะฉันอ่ะ555 (บอกทำไมใครอยากรู้ง่ะ /บันทึก)

      แล้วเขาบอกว่าไงรู้มั๊ย...ไอ้เราเตือนดีๆ ก็มาหาว่าเราขัดคอ...เอากะมันสิเอ๊า! วู้เสียอารมณ์

      ฉันเลยเดินหนีขึ้นมาบนห้องมาเล่าให้คาโล พี่โรเวนฟัง(คิลมันไปไหนไม่รู้) 2 คนนี้โกรธใหญ่เลย ฉัน
      อยากบอกพวกนายจังว่ารู้สึกดีแฮะ...

      มันดีใจนะ...ที่มีคนมาห่วง มาแคร์ความรู้สึก...ก็รู้ว่าไม่ดีที่รู้สึกแบบนี้...เขาเรียกว่ามีความสุขอยู่บนความ
      ทุกข์คนอื่นสินะ แหะๆ ขอโทษนะเฟ้ยคาโล...พี่โรเวน

      ทั้งสองคนยืนยันที่จะไปเอาเรื่อง(?)กับเจ้าคนไร้มารยาทนั่น แต่แหม...ในฐานะที่เราต้นเรื่อง(???)และรู้สึก
      ดีกับเพื่อนใหม่ใยเลยจะอยู่เฉย...มันก็ต้องห้ามบ้างล่ะน่า

      ทั้งคู่เลยสงบลงนิดหน่อย...แต่ต่อรองว่าจะชำระความตอนฉันไม่อยู่แทน...ดีกว่ากันตรงไหนเนี่ย

      โดยเฉพาะพี่โรเวน...อาการน้องข้าใครอย่าแตะคงจี๊ดขึ้นสมองทันทีที่ฟังเรื่องที่ฉันเล่าจบ

      ซึ่งไอ้อาการเนี้ยก็ไม่ต่างจากไอ้คาโลเพียงแต่ชื่อทางการแพทย์ต่างกัน...อาการของคาโลมันเรียกว่า

      อาการแฟนข้าใครอย่าแตะ(สินะ)>//////<

      แล้วไอ้คิลก็เข้ามาพอดี อยากบอกว่าอาการไม่ต่างกันเล้ย อาการเพื่อนข้าใครอย่าแตะ...

      ทั้ง 3 เข่นเขี้ยวกันซะน่ากลัวจนมาทิลด้าที่บังเอิญเดินผ่านถึงกับสะดุ้งรีบออกห่างจากห้องนั้นทันที...

      'ใจเย็นๆ ก่อน'

      'แบบนี้มันเกินไปเฟริน!!!'

      แหม...ขอกรี๊ดดังๆ ทีเถอะ พวกแกมันน่ารักจริงๆ ให้ตายสิ



      เออแล้วหายนะก็มาเยือน...ไอ้เจ้าลูกพี่ลูกน้องของฉันมันมาเยี่ยม (ขณะนั้นในห้องฉันพวกพี่ๆ ก็ยังคุยกัน
      อยู่อย่างเมามันคล้ายกับว่ากำลังมีปาร์ตี้ยังไงยังงั้นเลย)

      ฉันต้อนรับขับสู้มันอย่างสุดความสามารถแล้วนะ


      อยากได้อะไรก็หาให้เพื่อที่มันจะได้ออกไปเร็วๆ คือว่านะก็ฉันอยากกลับไปร่วมก๊วนเร็วๆ นี่><

      หึ! แล้วมันไอ้ตัวXXXมันก็ยั่วฉันมันรู้ว่าฉันอยากเข้าไปในห้องใจจะขาด มันยั่วโดยการพิงประตูไม่ยอม
      ให้ฉันเข้าไป

      เสียงหัวเราะในห้องสนุกสนานจนฉันแทบคลั่ง โอ้ววไอ้บันทึกนี่ฉันพูดจริงๆ นะเนี่ย

      ฉันจ้องตามันด้วยความเกลียอดอย่างสุดซึ้ง(แกนึกภาพออกเปล่าเนี่ยทำตาแบบจูออนขวางๆ อ่ะ)

      แทนที่มันจะสำนึก...กลับจ้องตอบโดยไม่เคารพกันทั้งที่ฉันมีศักดิ์เป็นพี่มัน!!!!

      เสียงหัวเราะในห้องยังคงมีมาเรื่อยๆ + กับความน้อยใจ น้ำตาฉันก็ไหลไม่หยุด หวังว่ามันคงจะเข้าใจ
      อะไรดีขึ้น

      เปล่าเลย...จ้องตอบกลับมาอย่างไม่สะทกสะท้านต่อไป

      นาน...นานมากสำหรับความรู้สึกอัดอั้นนี้...แล้วมันก็เป็นฝ่ายหลบตาไปเอง

      เดินหนีไปไม่มีคำว่าขอโทษสักคำ...ไม่มีทั้งในคำพูดและแววตา...

      นั่น...มันทำให้ฉันต้องกรี๊ดออกมาจริงๆ ครั้งแรกในชีวิต และก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ฉันร้องไห้โฮเสียง
      ดัง

      แกคงคิดว่าฉันร้องไห้เรื่องไร้สาระมากสินะ...แกไม่รู้หรอกว่านี่มันครั้งที่เท่าไหร่...และฉันอัดอั้นอดทนมา
      นานแค่ไหน...

      พี่โรเวนเปิดประตูออกมาเห็นฉันทรุดตัวลงร้องไห้ก็รีบเข้ามาดู

      มันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น...คนที่น่าเกรงกลัว...มีคำปลอบที่อ่อนโยนขนาดนี้เชียวหรือ...

      ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไอ้คำว่า เสนาธิการฝ่ายซ้าย...มันเป็นกำแพงคอยกั้น...ไม่ค่อยกล้าปรึกษาหรือแม้แต่
      คุยด้วย หากเจ้าตัวไม่ทักและเริ่มคุยก่อน...

      แล้วคิลก็ตามออกมามันดูตกใจไม่แพ้พี่โรเวน แหงล่ะ...หัวขโมยเก่งๆ อย่างฉันเคยร้องไห้ให้ใครเห็นที่
      ไหนล่ะ

      นักฆ่า...มีอุ้งมือที่อบอุ่นคอยลูบผมฉันอยู่ตลอดแม้มันจะไม่ค่อยดพูดอะไร...

      แต่ฉันเข้าใจดี...

      แล้วอีกคน...คนที่น่าจะห่วงเราอีกคน...หายไปไหน

      พี่โรเวนคงรู้ฉันคิดอะไรอยู่เลยบอกมาว่าคาโลต้องรีบไปพบมหาปราชญ์...มีเรื่องด่วนมาก

      น่าเสียดาย...แต่อย่างน้อยเหตุการณ์นี้ก็ทำให้รู้ว่าคนข้างๆ รู้สึกกับเรายังไงมั่ง

      ขอบคุณเหลือเกิน...ฉันกลัวจังเลย กลัวว่าถ้ารักพวกนายมากไป...ถึงคราวจาก

      ฉันจะทำยังไง...เพราะกลัวเรื่องที่จะตามมาฉันเลยไม่อยากเปิดใจ...ฉัดปิดกั้นหัวใจตัวเองตลอด

      แต่พอได้มาเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้...มันทำให้ฉันเปลี่ยนไป

      แต่...ฉันยังคงปิดกั้นความรู้สึกอยู่ส่วนหนึ่ง...ให้พอแค่คำว่ารัก...ยังไม่ใช่รักมาก...

      แค่รักถ้าแยกจากกันก็ช้ำจน...ทนไม่ไหว...แล้วถ้ารักมาก...คง...ทรมานและไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...

      ถ้าล้ม...จะมีมือของใครมาช่วยฉุดขึ้นมาให้ก้าวต่อไป มือของใคร...??

      แล้วคำพูดของนักฆ่าเพื่อนรักของฉัน...ก็ลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง...

      คนเราไม่จำเป็นต้องรักทุกๆ คน และทุกๆ คนที่เรารักน่ะไม่จำเป็นต้องรักเราตอบ..

      ฉันรักทุกๆ คนไปแล้ว...และหวังที่จะได้รับรักตอบ...จากทุกคน

      แค่หวัง...เท่านั้น

      ฉันมันพวกทำดีหวังผลเฟ้ย ฉันรักพวกแกเพราะอยากให้พวกรักฉันบ้าง...ก็เท่านั้น

      คิลโดนท่านมหาปราชญ์เรียกไปพบอีกคนซึ่งเจ้าตัวอิดออดไม่ยอมไปซะอย่างนั้น...แต่ฉันก็บอกว่าไม่
      เป็นไรแล้วฉีกยิ้มฝืนๆ ให้...

      มันเลยยอมไปแต่โดย(ไม่)ดี พี่โรเวนพาฉันไปรู้จักกับคนกลุ่มหนึ่งด้วยแหละไอ้บันทึก

      แกทายซิว่าใคร...

      ก็พี่โรเวนบอกว่า...เป็นคนสำคัญ...??? สำคัญยังไงฉันก็ไม่รู้หรอกนะ คุยๆ ไปก็สนุกดีอยู่หรอกนะ

      แต่พี่หัวเขียว(คนนะแกไม่ใช่แมลงวัน)ดุชะมัดยาดเลย แล้วพี่นี้พอจะเลิกคุยพี่โรเวนก็เฉลย...

      คำเฉลยที่เล่นเอาฉันช็อคไปหลายวิ...

      ก็คนพวกนี้เป็นเหล่าผู้คุมกฎและเสธฯ คนสำคัญๆ ของป้อมอัศวินนี่นา

      แต่มีคนหนึ่งที่ฉันไม่อยากเชื่อ...ว่าจะเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญขนาดนั้น

      ก็เจ้าชมพู่...บอกว่าอายุ 10 ขวบ(แค่ดูเหมือนเด็กตัวใหญ่) ผู้ชายอะไรหัวสีชมพูพิงค์เลย -*-

      ขนาดตอนจะกลับห้องชมพู่ก็มาบอกว่าความจริง 'พี่' อายุ 22 เอิ๊ก...

      เดินอึ้งๆ กลับห้องไม่พูดไม่จาแล้วออนเอ็ม แกว่าฉันเห็นใครออนอยู่ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเที่ยงคืนกว่าแล้ว

      ถ้าบอกว่าท่านพ่อ...ก็

      ถุถุถุถูกต้องนะคร๊าบบบ

      แต่ท่านพ่อมาแปลกเล่นมาในโหมดปีศาจน้อยขี้น้อยใจ...บอกว่างานอดิเรกที่ทำอยู่(แต่งนิยาย -*-)ทั้งๆ
      ที่ชอบแต่กลับไม่อยากทำแล้ว

      ฉันตกใจมากๆ เลยไอ้บันทึก ก็นิยายป๋าสนุกจะตายมาโพสต์ในบอร์ดโรงเรียนแถมท่านพ่อยังชอบมาให้
      กำลังใจบ่อยๆ อีกต่างหาก

      มาให้กำลังใจคนอื่นจนหมดไม่มีสำหรับตัวเองสินะ

      แหม...ท่านพ่อจะน้อยใจไปใยฝีมือท่านก็เข้าตากรรมการหลายท่านอยู่...อย่างน้อยผมก็ชอบงานท่านพ่อ
      นะ...

      ปลอบไปได้ไม่เท่าไหร่ แหมเว้ย! เน็ตตัดประกอบกับจะตีหนึ่งแล้วถ้าจะออนอีกครั้งคงได้ลงไปนอนตอน
      ตีสามแน่ๆ (เน็ตป้อมอัศวิน 2 ช.ม.ตัดที -*-)

      เราเลยบ่นขอโทษในใจหน้าคอมก็รู้อยู่นะว่าท่านพ่อคงไม่ได้ยิน...แถมยังไม่ได้ลาเลย...มาลาในบันทึกนี้
      ละกัน



      'ฝันดีนะฮะป๊ะป๋า'

      'ผมจะติดตามอ่านนิยายป๊ะป๋าตลอดไปเล้ย><'

      'บายฮะ'




      ฮ้าววววว...ตี 1 กว่าแล้วหรอ...ชักง่วงแล้ว งั้นฉันไปนอนก่อนนะไอ้บันทึกเพื่อนยาก...บ๊ายบาย...



      เฟริน เดอโบโรว์



      ปล. ณ ห้องนอนที่เงียบเหงาไร้ร่างเพื่อนสนิทและคนรักที่ไปพบเลโมธียังไม่กลับ ทำเอาหัวใจเล็กๆ สั่น
      ไหวก่อนที่เจ้าของร่างจะปล่อยให้มันรินไหล...

      มีน้ำตาและเสียงสะอื้นเป็นเพื่อน...ก็ยังดีกว่า...ที่ต้องนอนเงียบๆ คนเดียว...



      เจ็บ...เท่าไหร่...ใจซ้ำ...ย้ำว่าเจ็บ

      ปวด...แต่เก็บ...เก็บไว้...ในใจหนา

      เหลือ..กำลัง...ขุ่นขึ้ง...ตรึงอุรา

      เกิน...เวลา...แห่งสุข...ทุกข์เหลือเกิน



      หมด
      สิ้นกันเมื่อฝันพลันสลาย

      เวลา
      กลายกลับเวียนเปลี่ยนทิศา

      สนุก
      ไปจนเหลิงเกินเวลา

      แล้ว
      พัดพาให้เหงาเศร้าฤดี



      ลิตเติลมิคุจัง




      อย่าลืมติชมนะคะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×