[Fic Barakamon] Hiroshi X Seishu ความมืด
Barakamon ที่ผมสังเกตมาแล้วคนต่างชาติเริ่มจะนิยมคู่นี้มากขึ้น(เท่าที่ไปค้นมา)ผมก็เลยตัดสินใจแต่งคู่นี้ซะเลย เพราะดูไปดูมาก็น่ารักใสๆดีถ้างั้นเชิญอ่านได้เลย
ผู้เข้าชมรวม
3,013
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title: ความมืด
Pairing: Hiroshi X Seishu
Fanfic Original: Fic Barakamon
Warning: Yaoi
Rate: PG
………………………………………………………………….
Fic Barakamon] Hiroshi X Seishu
ความมืด
ถึงแม้เซย์ชูจะกลับมาจากโตเกียว แต่ความวุ่นวายของที่นี่ก็ยังคงก่อกวนกิจวัตรประจำวันของเขา ไม่มีเวลาไหนเลยที่จะได้หยุดพักหายใจ ก็แค่เจ้าเด็กซนที่เข้ามาในชีวิตแสนน่าเบื่อให้กลับมาสดใสและสนุกจนเขาอยากจะ…
ขอบคุณ…ทุกๆคนชะมัด
“อาจารย์~~!!”
พูดปุ๊บก็มาปั๊บ
เซย์ชูหันไปตามน้ำเสียงคุ้นเคยและแล้วก็ได้พบกับเด็กน้อยจอมซนกำลังกระโดดกอดเข้าใส่ แต่ยังไงก็คงไม่พ้นฝ่ามือเขาคนนี้ได้หรอก เพราะว่าอยู่นานมาแล้วก็เริ่มที่จะรับมือการตั้งท่าของนารุพอสมควร…แต่ว่าเด็กๆนี่แรงเยอะจังนะ
“นี่เธอ…เข้ามาโดยไม่เคาะประตูรึไง?” ถามไปก็นั่งลงกับพื้น
“ก็อยากลองหลอกอาจารย์เล่นนี่นา! …โอ๊ะ!!” คนตรงหน้าตั้งท่าเหมือนกำลังนึกอะไรออก
“หือ?”
“พึ่งนึกได้ว่าต้องบอกอาจารย์ที่วันนี้ถึงพรุ่งนี้จะไม่มาหาน่ะ เพราะว่าจะไปค้างบ้านฮินะน่ะ~”
“ก็ดีนี่ จะได้มีเพื่อนเล่นทั้งวันเลย”
“ใช่ไหมล่ะ? แล้วอาจารย์อยู่คนเดียวได้เหรอ”
นี่หล่อนมีแต่คำถามใช่ไหม?
“ได้อยู่แล้ว!ก็อยู่มานานแล้วนี่นา~” เซย์ชูทำท่ากำมือแล้วชูขึ้นสูงๆแล้วลดมือลงนิดหน่อย
“โอ้~นั่นสินะ งั้นไปล่ะ!!”
ปัง!
และแล้ว…
ก็ได้อยู่คนเดียวโดยไม่ต้องมีใครมารบกวน
“นี่แหละ! สิ่งที่รอคอยมานาน~…”
ตึงๆ!!
อะ…
อะไรอีกอีกล่ะเนี่ย~?!
“…”
รีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปแอบมองประตูที่อยู่ตรงหน้านี้ เมื่อตัดสินใจได้ก็…แง้มประตูเปิดเพื่อดูว่าเป็นใคร ความรู้สึกอยากจะด่าใครสักคนก็ต้องหยุดชะงักที่ได้มาเจอกับหนุ่มวัย 18 ปี ย้อมผมสีทองเหมือนจะเป็นเด็กเกเรแต่ไม่เลย เจ้านี่พอมาเจอกับเขาแค่แป๊บเดียวก็เอาตัวเขามาเป็นตัวอย่างและพยายามที่จะเป็นที่ 1
“อยู่จริงๆแฮะ” ร่างสูงยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
“มีอะไร…ถึงมาหาน่ะ?”
“วันนี้ขอค้างที่นี่นะ”
“ห๊า?!”
“…อา~…” ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างหงุดหงิด “ก็นารุบอกผมมานี่ว่าจะไม่อยู่ถึงพรุ่งนี้ ก็เลยมาแอบดูสักนิดน่ะ”
“เอ๋? …แต่ฉันอยู่คนเดียวได้แล้วนะ”
“…”
“…”
“…” ฮิโรชิเริ่มจ้อง
“…?”
“…” จ้องไม่หยุด
“อะ…อา~…” รีบหันหน้าหนีที่เผลอไปรู้สึกแปลกๆ
เมื่อกี้…จู่ๆหน้ามันก็ร้อนขึ้นมา
“’งั้นขออนุญาตนะครับ~”
“ดะ…เดี๋ยวสิ…เฮ้ย!!”
ยังพูดไม่จบก็เข้าไปในบ้านโดยไม่ฟังคำพูดของเขาเลย ทันทีที่มือทั้ง 2 ของเขาเองยังไม่ขยับเอื้อมไปคว้าแขนฮิโรชิไม่ให้เข้าบ้าน เซย์ชูทำได้เพียงยืนสงบสตินิดหน่อยจากนั้นก็เริ่มปัดความเครียดและปล่อยวาง
คิโดะ ฮิโรชิ หนุ่มม.6 ผู้ได้ขึ้นชั้นไปแล้วและปัจจุบันนี้ก็อยู่ปี 1 เพราะความพยายามของหมอนี่โดยเอาเขามาเป็นตัวอย่าง
“คุณน่ะ”
“หือ?” ฮิโรชิเรียกเขาให้หันมาหา จากนั้นก็เดินไปนั่งข้างๆ
“อยู่คนเดียวได้จริงๆเหรอ?” คนที่เรียกยื่นหน้ามาหา
“นี่นายไม่คิดจะเชื่อฉันรึไง?”
“เปล่าหรอก ก็แค่~…เมื่อก่อนคุณน่ะ สร้างปัญหาไว้เยอะแยะนี่”
“ฉันไปสร้างปัญหาตอนไหนฟะ?!”
“อา~…และนายก็มักจะทำให้พวกเราเหนื่อยอยู่เสมออีกด้วย”
“นั่นมันพวกนายซะมากกว่านะ!”
“โอ้…ผมลืมพูดอีกเรื่อง…” ฮิโรชิเอาหลังพิงผนังบ้านและถอนหายใจเบาๆ ส่วนคนที่ตั้งใจฟังก็ยื่นหน้าไปหาอีก
“อีกอย่าง?”
“ใช่…คุณน่ะ…” เขาเริ่มหลับตาลงแล้วยิ้มบางๆ “ชอบทำให้พวกเราเป็นห่วงอยู่เสมอ ทั้งผูกพัน รักและ…เป็นห่วงขนาดนี้ และรู้ไหม?”
“…”
“เวลาคุณเขียนงานพวกนี้ พวกเราน่ะ…มักจะชอบแอบยิ้มอยู่เสมอโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลย”
“…งั้นเหรอๆ!!” เซย์ชูเริ่มเกาหัวเพราะว่าตอนนี้…เริ่มจะเขินขึ้นมาแล้วสิ
“เขินเหรอ?”
“เปล่า! …ฉะ…ฉันแค่ร้อนน่ะ ขอตัวไปเปิดพัดลมหน่อยนะ”
“ตามใจ~”
เซย์ชูรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดพัดลมเพื่อแก้เขินอายที่คนคนนี้มาสารภาพกับความรู้สึกของทุกๆคนที่มีแก่เขา ก็เล่นซะบอกกันซึ่งๆหน้าแถมหมอนี่ยัง…ทำหน้าจริงจังใส่อีก
อายโว้ยยยย!!!
“เฮ้ย…เร็วๆสิ มัวทำอะไรอยู่น่ะ?”
“จะ…จะไปแล้ว…หวาาาา~!!”
สิ่งที่ไม่คาดฝันกำลังเกิดขึ้นเสียแล้ว…เซย์ชูลื่นลมไปกองกับพื้นและเขารู้ไหมว่าตอนที่ลื่นนั้นเขาได้ไปโดนปลั๊กสายไฟของพัดลมแล้ว…ไฟฟ้าทั้งหมดก็ดับลงทันทีหรือเรียกอีกแบบว่า ‘ไฟดับ’ รึเปล่านะ?
“นะ…นี่มันไม่ใช่เพราะฉันนะ!!”
“อา~…อีกแล้วสินะ”
“อะ…อีกแล้ว? ไฟดับเหรอ?!”
“ก็นะ…ก่อนที่คุณจะกลับมาได้มีการปรับปรุงเสาไฟน่ะ”
“หะ…หัวหน้าหมู่บ้านยังไม่ได้บอกฉันเลย!!”
“เอ๋…งั้นเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ!!”
“โวยวายไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอกนะ”
ก็อย่างที่หมอนี่พูดไป มันไม่ได้ช่วยอะไรได้หรอก…เซย์ชูกุมหัวขมับทันทีจากนั้นก็เดินไปหาร่างสูงที่นั่งอยู่ที่เดิมเฉยๆโดยไม่ได้ทำอะไร อยากบ่นใส่แต่ก็ไม่อยากให้ไปไหนเพราะ ‘กลัว’ ที่จู่ๆก็ได้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ร่างบางเผลอเหม่อลอยคิดอะไรที่ไม่เป็นตัวของตัวเองจนกระทั้งเท้าของเขาได้ไปเหยียบอะไรที่นุ่มๆแต่ก็แข็งอยู่ดี
“อ๊ากกกกก!!!”
เสียงร้องราวกับกำลังเจ็บปวดที่ใดที่หนึ่งของฮิโรชิทำให้เซย์ชูตกใจมาก ยิ่งเผลอไปทิ้งน้ำหนักไว้ที่เท้านี้ก็ยิ่งเป็นห่วงขึ้นมา เซย์ชูเข้าไปหาคนที่ถูกทำร้ายโดยฝีมือของเขาเองและกล่าวคำขอโทษที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้กลายเป็นแบบนี้
“มะ…ไม่เป็นไร แต่ว่าอาจารย์ยืนอยู่ตรงนี้นี่แหละ ห้ามขยับด้วย!!”
โดนเด็กสั่งอีก…เซย์ชูที่โดนฮิโรชิสั่งให้หยุดอยู่ที่เดิม เขาก็ทำได้เพียงยืนและไม่พูดทำเพลงอะไร แต่ก็น่าจะพอบรรเทาความเจ็บปวดของร่างสูงที่เผลอเหยียบไป เขาอยากจะขอโทษแต่คำว่า ‘ไม่เป็นไร’ หมอนี่ก็ทำให้เขาไม่อยากขอโทษแต่อยากจะ ‘ไถ่โทษ’ แทน
“คือ…ผมอยากขอพูดอะไรหน่อยน่ะ” จู่ๆคนที่นั่งอยู่ได้เอ่ยชักชวนให้คุย
“อยากพูดอะไรล่ะ?” เขาถาม
“คือผม…อยากสารภาพออกมาให้ชัดเจนน่ะ!”
“เอ๊ะ?”
“ก็…” ร่างสูงก้มหน้าก้มตาทันที แต่ก็ทำแบบนี้ไป…เจ้าตัวก็ไม่เห็นหนอก
“…”
“ตอนที่คุณไปจากที่นี่น่ะ ทุกๆคนต่างพากันคิดถึงส่วนนารุก็แทบจะพูดไม่ออกเลยและผมก็…ตกใจเหมือนกันที่คุณไปจากที่นี่ คือ…พูดแบบนี้มันก็…อายชะมัด”
“…” คนที่ฟังอยู่เกือบหัวเราะที่คนคนนี้พูดออกมาว่า ‘อาย’ แต่มันก็จริง ถ้าเป็นเขาป่านนี้ก็คงจะเป็นแบบฮิโรชิแน่ๆ “พูดแบบนี้ ฉันอยากหัวเราะนะ”
“ชิ…เป็นผู้ใหญ่แท้ๆกลับมาหัวเราะกับคำพูดของ ‘เด็ก’ ได้รึไง?”
“เด็กยังไงก็เด็กอยู่ดี”
“นี่คุณ…”
“หึ จะหาเรื่องกับคนอย่างฉันรึไง?”
“พูดอะไรของนาย ทำอย่างกับว่าฉันเป็นเด็กเกเรชอบหาเรื่องน่ะ” ร่างสูงเริ่มพูดจาให้เท่าเทียมกับอายุร่างบาง
“ก็เปล่านี่ แต่ว่า…คำพูดที่สารภาพออกมาน่ะ ขอรับไว้นะ” ร่างบางพูดแบบมีชัยที่กำลังทำให้ร่างสูงพูดได้น้อยลง
“…อะไรของนายกัน”
“…” เซย์ชูแสยะยิ้มใส่ แต่ยังไงคนตรงหน้าก็ไม่เห็นอยู่ดี
ถึงอย่างงั้นก็…
ตอนนี้ขาของเขา…
เริ่มปวดขึ้นมาแล้วสิ
เมื่อย…เมื่อยขาอ่า~
โวยวายในใจนิดหน่อย(นิดหน่อยเหรอ?) แต่ก็ทำไปยังไงก็เมื่อยอยู่ดี…เขาเริ่มขยับขานิดหน่อยโดยขยับไปทางขวาก่อนจากนั้นก็มาทางซ้ายและสุดท้ายก็มาอยู่ที่เดิม แต่พอจะขยับไปทางไหนก็…เมื่อยอยู่ดี
“ทำอะไรของคุณเนี่ย?” ฮิโรชิที่จับผิดได้ก็รีบทักทันที
“มะ…เมื่อยน่ะ” ตอบไปตรงๆร่างสูงก็…
“นั่งก็ได้นะ”
“เอ๋…”
“นั่งไปเถอะ”
“อะ…อื่อ!!”
เซย์ชูตอบ ‘ตกลง’ ก็ค่อยๆนั่งลงไปแต่ผลปรากฎว่า…เขากำลังจะนั่งทับขาคนคนนี้เข้าให้ จึงรีบยกก้นขึ้นเพราะสัญชาตญาณมันกำลังบอกว่า ‘อย่าคิดจะนั่งเด็ดขาด’
“อา…ขอโทษที เดี๋ยวผมขยับ…”
ตึง!!
“อ๊าก! …เจ็บๆๆ!!” เสียงชนโต๊ะของฮิโรชิดังซะจนร่างบางที่ได้ยินก็ยังคิดเลยว่า ‘ไปทำอะไรมา’ เมื่อเห็นเป็นแบบนี้ก็ต้องยอมใจที่จะนั่งบนขาของผู้ชาย
“ไม่…เป็นไร” เขาเอ่ยออกมาโดยที่ร่างสูงยังมึนงงกับคำพูดนี้
“เอ๋?” ร่างสูงที่สงสัยกับคำพูดของร่างบางค่อยๆเอียงคอ
“นั่งได้นะ ก็เป็นผู้ชาย…นี่นา”
“ตะ…แต่~…”
“ไม่เป็นไร ถ้าหนักก็…บอกด้วยนะ”
“คะ…ครับ”
การตัดสินใจของร่างบางทำให้ร่างสูงหนักใจนิดหน่อยแต่ก็…ต้องตอบตามน้ำไป น้ำหนักที่ทับลงมาบริเวณขาของฮิโรชิยิ่งกว่าการนวดแผนโบราณซะอีก แต่เป็นการนำน้ำหนักของคนมาวางก็เท่านั้น แต่ว่า…ความรู้สึกเหมือนกับว่าลมหายใจของคนคนนี้กำลังทำให้ใบหน้าเขานั้น…เริ่มร้อนมากขึ้น
ส่วนร่างบาง…ไม่ต้องสงสัยเลยที่จะไม่แตกต่างจากคนตรงหน้า เขาน่ะไม่เคยนั่งตักใครเลยสักคน จนมาถึงตอนนี้ก็มีแต่ฮิโรชิเท่านั้นที่เขาทำแบบนี้…รู้สึกอายชะมัด…ลมหายใจของร่างสูงกำลังทำให้หัวใจและลมหายใจเซย์ชูเริ่มจะไม่ใช่ตัวตนของเขา ทั้งการเต้นของหัวใจ ทั้งลมหายใจที่สูดเข้าออกตอนนี้…แทบอยากจะหยุดอาการแบบนี้ให้มันกลับมาเป็นปกติสักนิดก็ยังดี
“เอ๊ะ?!”
ร่างสูงเริ่มสะดุ้งทันทีที่ฝ่ามือเย็นของร่างบางมาวางทาบบนขาทั้ง 2 จากนั้นก็เริ่มได้ยินเสียงลมหายใจที่กลั้นเอาไว้แล้วปล่อยออกมาเบาๆ…คนคนนี้ก็รู้สึกเหรอ? …เขายิ่งทำตัวไม่ถูกที่คนแบบนี้ก็รู้สึกเป็นกับเขาด้วย จึงรีบคว้าตัวร่างบางเข้ามากอดโดยไม่คิดจะปล่อย
จริงๆด้วยสินะ…เต้นแรงมากแถมยังอุ่นอีก
เมื่อเซย์ชูรู้สึกตัวก็พึ่งมารู้ตัวว่าตัวเขาเองได้โดนจับได้ว่าทั้ง ‘หัวใจ’ และ ‘ร่างกาย’ ได้สั่นไปหมด แต่พอกอดแบบนี้นานๆแล้ว…กลับกันทันที ทั้งอบอุ่นและสบายใจ ความรู้สึกแบบนี้น่ะ เรียกว่า ‘ชั่ววูบ’ จะได้ไหม?
“…เซย์ชู”
“…!”
พึ่งจะโดน…หมอนี่เรียกชื่อครั้งแรก
“อุ่นไหม?” ร่างที่กอดเริ่มถาม
“…มัน…มันก็อุ่น”
ใช่…มันอุ่นจริงๆ
“แล้ว…สบายใจ…ไหม?”
“อือ…”
ใช่…มันสบายจริงๆ
“ถ้างั้น…แบบนี้ล่ะ”
“เอ๊ะ?!”
ความรู้สึกเหมือนนิ้วมือร่างสูงกำลังยึดจับบริเวณคางของร่างบาง ก่อนที่จะได้ถามว่า ‘แบบไหน?’ ก็ต้องโดนเบียดปิดคำพูดไว้โดย ‘ริมฝีปาก’ ที่อุ่นและนิ่มมากๆเพราะเป็นเด็กวัยรุ่นแต่ว่า…กำลังมีความคิดพอที่จะเป็นผู้ใหญ่ ถึงจะกลายเป็นผู้ใหญ่ไปแต่ก็ยังคงหลงเหลือความเป็นเด็กพอสมควร
ริมฝีปากของทั้ง 2 ที่ประกบไว้ซะยาวนานจนร่างสูงอยากลองที่จะจูบแบบที่ผู้ใหญ่เขาทำกันบ่อยๆจึงตัดสินใจขอล่วงเกินขอบเขตเส้นแดงหน่อย ลิ้นที่สอดเข้ามาอย่างนุ่มนวลทำให้เซย์ชูทนไม่ไหวถึงกับจะระเบิดตัวเองให้มอดไหม้ไปพร้อมๆกับขี้เถ้า เขาเริ่มตอบรับการจูบแบบนุ่มนวลของร่างสูงที่เป็นคนเริ่มก่อนโดยเอื้อมมือไปเกาะบ่าคนตรงหน้าอย่างเบามือแต่ก็ยังคง ‘สั่น’ ไม่หยุด
“อือ”
ร่างบางครางออกที่เผลอกลั้นลมหายใจแต่ยังไงก็ยังคงยอมให้ฮิโรชิจูบต่อไป ทั้งความรู้สึกของร่างบางกับร่างสูงได้เชื่อมต่อกันแล้วยิ่งเพิ่มความต้องการที่เหมือนๆกันอีก ยิ่งเพิ่มความหอมหวานของรสจูบนี้มากขึ้น มากขึ้นและมากขึ้น
ฮิโรชิที่ประคบประคองตัวร่างบางนี้ไว้เพื่อไม่ให้ทรุดหรือเป็นลม ก็ค่อยๆถอนจูบออกมาเพราะคนคนนี้…แทบจะไม่มีประสบการณ์เรื่องจูบ
“ฮะ…ฮิโร…ชิ”
“…”
ทั้ง 2 เริ่มหอบที่ตัวเองได้หมดพละกำลังก็แค่ ‘จูบอ่อนโยน’ ไม่รุนแรงมากนัก ทั้งหอมหวาน ทั้งอบอุ่นและความรู้สึกดีที่เข้ามาในหัวของทั้ง 2 อีก ร่างบางที่หอบค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า คนตรงหน้าก็เหมือนกัน…เงยหน้ามองตามอีก ใบหน้าที่ร้อนรุมและแดงของเซย์ชูกับฮิโรชิไม่ต่างกันเลยสักนิด
จู่ๆไฟข้างบนของเพดานก็เริ่มสว่างขึ้นและได้เปิดเผยความลับของใบหน้าที่ทั้ง 2 ไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเห็นกลับยิ่งชัดเจนมากขึ้นเพราะแสงของไฟที่สว่างมากจึงทำให้รู้ว่าตั้งแต่ที่จูบ…ไม่สิ นั่งด้วยกันแบบนี้แล้วสงสัยจะแดงตั้งแต่ตอนต้นแน่ๆ คิดแบบนี้ไปก็ทำได้เพียงสบตามองกันแต่ยังไง…ก็หลบหน้าหลบตาอยู่ดี!
“…”
“…”
“…ฮึก!! / พรืด! …”
ต่างคนต่างฝ่ายก็ยังมีหน้ามาหัวเราะที่ตัวพวกเขาเองมาทำท่าทางลักษณะคล้ายๆกัน ทั้งหน้าแดง สับสน ทำตัวไม่ถูกก็ยิ่งเพิ่มความเหมือนๆกันอีก การหัวเราะที่ไม่เกิน 10 วินาที ก็เริ่มปกคลุมไปด้วยความเงียบ ถึงจะเป็นแบบนั้น…ก็หยุดความอบอุ่นลึกๆไม่ได้หรอก
“ฮิโรชิ”
“หือ?”
ตาถึงคราวที่เซย์ชูจะยิงเป้าถามบ้าง
“ขอฉันสารภาพบ้างนะ”
“อือ”
“…รู้ไหม? ตอนที่จูบกันน่ะ…” พูดเรื่อง ‘จูบ’ ก็ยิ่งเพิ่มความเขินอาย “ทั้งรู้สึกดี อบอุ่นและ…กับการทำแบบนี้ ยังเรียกได้ว่า ‘ความรู้สึกชั่วครู่’ ได้รึเปล่า?” การถามตรงๆแบบนี้โดยไม่อ้อมมากนักทำให้ร่างสูงเริ่มยิ้มทันที
“ความรู้สึกชั่วครู่เหรอ? ไม่รู้สิครับ ผมก็คิดแบบนั้นนะแต่…มันมากเกินจนไม่ใช่คำว่า ‘ชั่วครู่’ แล้วล่ะ”
“…เอ๋? มากกว่า…นั้นอีก”
“อือ มากกว่าอีก มากซะจนอยากจะ…ทำเรื่องอย่างว่าไป…”
โป้ก!!
“อ๊ากกกก!! …ทำบ้าอะไรเนี่ย?”
ฮิโรชิต้องรีบกุมศีรษะที่โดนกำหมัดไว้ซะแน่นมาทุบที่กลางศีรษะอีก ร่างบางเห็นแบบนี้ก็รีบลุกขึ้นทันที
“ถ้าทำเรื่องอย่างว่า…”
“…?”
“ไปคว้าที่ 1 ให้ได้ก่อนสิ เจ้าบ้า”
“…หึ จะคว้ามาให้ได้เลย”
“แล้วฉันจะรอดู” ร่างบางฉีกยิ้มใส่จากนั้นก็เดินตรงไปที่ห้องครัวทันทีแต่ก็…
หมับ…!
โดนจับหรือกอดเอาไว้อยู่ดี
“ฮะ…ฮิโรชิ?!”
“วันนี้ผมค้างด้วยเพราะงั้น…เดี๋ยวทำกับข้าวให้กินนะ”
“จะ…จริงเหรอ?!” ดวงตาทั้งคู่ของเซย์ชูเริ่มส่องประกายระยิบระยับ แค่ได้ยินคำว่า ‘ทำอาหาร’ ให้กิน ก็เป็นซะขนาดนี้แล้ว
“อือ แล้ว…วันนี้กินอะไรดี?” ร่างสูงถาม
“แกงกะหรี่…”
“ไม่เอา” โดนปฏิเสธซะแล้ว
“เอ๋~~?”
“ปลาทอดกับซุปมิโซะ…”
“แต่แกงกะหรี่มันอร่อยจริงๆนะ”
“ไม่เอา ผมชอบทำที่มันง่ายๆ…”
“แกงกะหรี่~~”
ทำตัวเหมือนเด็กจังนะ…
ยอมก็ได้
“ก็ได้”
“เย่!”
“แล้วเอาเผ็ดมากไหม?”
“ไม่เอามากหรอก”
“โอเค แต่…” ฮิโรชิได้การก็รีบเปลี่ยนทิศมุมมองของร่างบางให้หันมาหา “ให้รางวัลก่อนสิ”
“ระ…รางวัล งั้นเลี้ยง…”
“ไม่”
“ละ…แล้วอะไรล่ะ?”
“…” ฮิโรชิกระตุกยิ้มหวานใส่แล้วกระซิบเบาๆว่า “จูบสิ ถึงจะทำให้”
“…”
ฉ่าาาาา!!
เสียงกระทะที่ไหนสักแห่งเริ่มเพิ่มความร้อนที่คนแสนจะซื่อจัด(บางทีก็คิดลึก)ต้องมาคิดมากก็แค่ ‘จูบ’ นิดหน่อย ร่างสูงเมื่อเห็นแบบนี้ก็รีบฉวยโอกาสนี้ไปครั้งเดียวแล้วรีบเข้าห้องครัวเพื่อเตรียมอุปกรณ์ในการทำอาหารส่วนร่างบางที่ไม่ทันตั้งตัวแถมยังเอาแต่ใช้นิ้วชี้มาที่เขาอีก
“ถ้าไม่ช่วย ก็ไม่ต้องกิน” แค่พูดคำๆนี้ก็รีบมาหาเขา
“มาแล้วๆ!” ร่างบางรีบเดินมาหาจากนั้นก็นึกอะไรสักอย่างออก “นี่ ฮิโรชิ”
“หือ?” เขาที่เอาแต่เตรียมอุปกรณ์ไม่ยอมหันไปมองร่างบาง
“หันมาสิ”
“ครับ…”
จุ๊บ…
เสียงจูบที่ตรงไหนสักแห่งดังขึ้นทำให้ฮิโรชิที่เตรียมของถึงกับตกใจ
“ทะ…ทำอะไรของคุณเนี่ย?”
“ถ้าฉัน…ทำแบบนี้ นายจะ…ทำคนเดียวได้ไหม?” เซย์ชูที่เผลอทำเรื่องน่าอายไปแถมยังถามออกไปแบบนี้ แต่ยังไงก็…
“ไม่”
“อะไรกัน คนอุตส่าห์ทนเพื่อทำเรื่องน่าอายเลยนะเนี่ย”
ร่างบางที่บ่นพึมพำไปโดยหารู้ไหมว่า…คนอย่างฮิโรชิเกือบเผลอเอ่ยปากตอบออกไปว่า ‘ตกลง’ แต่เพราะสติยังอยู่กับเนื้อกับตัวจึงตอบไปว่า ‘ไม่’
ถ้าหากจูบที่ ‘ปาก’ เขาอาจจะยอมก็ได้…
แต่นี่มัน…
ที่แก้มเอง…
Fin
ผลงานอื่นๆ ของ นกน้อยในกรง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นกน้อยในกรง
ความคิดเห็น