[Fic]Hoozuki no Reitetsu Yaoi Hakutaku x Hoozuki เพราะพิษไข้ - [Fic]Hoozuki no Reitetsu Yaoi Hakutaku x Hoozuki เพราะพิษไข้ นิยาย [Fic]Hoozuki no Reitetsu Yaoi Hakutaku x Hoozuki เพราะพิษไข้ : Dek-D.com - Writer

    [Fic]Hoozuki no Reitetsu Yaoi Hakutaku x Hoozuki เพราะพิษไข้

    นิยายเรื่องนี้ก็ได้ทำตามคำขอของตัวเองแล้ว และอีกอย่างก็ชอบคู่นี้เอามากๆครับผม อีกอย่างหนึ่ง อย่าบล็อกผมเลยยย =[]= ขอร้องล่ะ!!

    ผู้เข้าชมรวม

    4,723

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    20

    ผู้เข้าชมรวม


    4.72K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    102
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 เม.ย. 58 / 12:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    กว่าผมจะได้ลงนิยายนี้น่ะ


    ต้องผ่านฝ่าอุปสรรคต่างๆนาๆเลยด้วยนะคราบบบบ!! //ตะโกน


    (เหตุผลง่ายๆ โน็ตบุ๊คดับเพราะแบตมันหมด ไม่ได้เสียบ . . . อิ #ลืม)


    เหตุผลที่ลงนิยายนี้เพราะความชอบส่วนตัวครับผม


    ที่จริงจะลงนานแล้วแต่รอคนแต่งลงก่อนน่ะ


    และที่ไม่กล้าลงอีกอย่างหนึ่ง


    กลัวโดน แบน เป็นเหตุผลง่ายๆมากๆครับ


    เพราะเด็กดีเขาไม่ให้ลงแนวนี้น่ะ


    แต่ก็ต้องขอโทษนะครับผม =w= ที่เผลอลงน่ะ


    อีกอย่างด้วย


    อย่าแบนผมเลยยยย ผมขอโทษษษษษ +[]+;;

    แต่งตามคำขออีก http://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1227775

    ก็ต้องขอบคุณพื้นหลังของสนุ้กเกอร์ (Snuker)นะครับบบ //กราบงามๆ 


    http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=398752









     












     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

       

      Title:  เพราะพิษไข้

      Pairing :  Hakutaku x Hoozuki

      Fanfic Original :  Fic Hoozuki no Reitetsu

      Warning : Yaoi

      Rate : PG -13 (หรือ 15 หว่า =w=?)

       

       

       

      Fic Hoozuki no Reitetsu (Yaoi) Hakutaku x Hoozuki

      เพราะพิษไข้

       

       

       

                      โลกมนุษย์นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดเสียอีก

                      แต่โลกของขุมนรกนั้นก็น่ากลัวเท่าๆกับโลกมนุษย์

                      แต่เพราะมีบุคคลที่น่ากลัวที่สุดในขุมนรกยามะ

                      และได้ขนาบนามว่าน่ากลัวที่สุด

                      นามว่า ‘โฮซุกิ

       

       

                      ไม่ว่าจะทำอย่างไงให้ดูตลก น่ารักก็ตามที

                      บุคคลนี้ก็ไม่เคยยิ้มเลยสักนิด

                      มีแต่ทำสีหน้าตึงเครียด

                      หงุดหงิด

                      และ โมโห

                      จนทุกๆคนต้องถามซะว่า ท่านคนนี้เคยยิ้มบ้างไหม?’

       

       

                      “ฮ้าว …!!”

       

                      น้ำเสียงงัวเงียของคนพึ่งตื่นนั้นทำให้ท่านที่สูงใหญ่กว่าต้องสงสัยว่าคนตรงหน้าเขาไปทำอะไรมา ดวงตาที่แหลมและสวยบัดนี้มีขอบตาดำราวกับหมีแพนด้า ส่วนเส้นผมที่เคยเป็นทรงตรงและสละสลวยเสมอ ก็ได้มีบางเส้นงอและไม่เป็นทรง อาจจะดูน่าขำก็ตาม แต่นี่มันผิดปกติสุดๆ

                     

                      “โฮซุกิ วันนี้เธอดูแปลกไปรึเปล่าน่ะ?” ท่านผู้สูงใหญ่เอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง

       

                      “ไม่หรอกขอรับ ผมก็แค่อ่านสูตรปรุงยาหนักไปหน่อยน่ะ แล้วนั่นท่านจะไม่ทำงานต่อเหรอขอรับ?”

       

      น้ำเสียงที่งัวเงียและน่ารักแต่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดทำให้บุคคลที่สูงใหญ่ต้องเสียวสันหลังทันที ถึงกับต้องมือสั่นทันทีเพราะกลัวว่าโฮซุกิจะใช้ไม้กระบองหนามแหลมมาฟาดเขา

       

       

                      ถึงยังงัวเงียแต่ก็มีความน่ากลัวซ่อนอยู่สินะ โฮซุกิคุง

       

       

      ฉะ ฉันว่าเธอไปนอนพักผ่อนก่อนดีไหม?”

       

      ไม่ล่ะขอรับ ผมจะทำงานต่อเสียหน่อยเขาพูดพลางถือกระบองหนามออกมา “ท่านเอ็นมะก็ทำงานไปนะขอรับ ส่วนผมจะไปทำงานต่อซะหน่อย

       

      อือ ขอให้ทำงานได้อย่างราบลื่นซะล่ะ

       

      ขอรับ …” เมื่อโฮซุกิกำลังเดินออกไปจากบริเวณนี้ แต่ . . . ก็ต้องหยุดชะงักก่อน จากนั้นก็พูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ท่านเอ็นมะถึงกลับหน้าซีดเชียว อาอีกอย่างหนึ่งที่ผมลืมบอกไปน่ะขอรับ

       

      หือ ลืมอะไรล่ะ?”

       

      ถ้าท่านเอ็นมะทำงานที่ค้างไม่เสร็จ …” พลางหันมาด้วยสีหน้าที่น่ากลัว คงรู้นะขอรับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”

       

      ขะขะขะเข้าใจแล้ว!! เดี๋ยวจะเอาให้เสร็จเลยล่ะ!!

       

      อือ เหรอขอรับ?”

       

      อะอื่อ!! เชื่อมือเถอะ!!”

       

      ขอรับ ผมจะเชื่อท่านเอ็นมะนะขอรับ

       

      ร่างบอบบางก้าวเท้าเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันทีที่ได้ขอต่อลองกันกับท่านเอ็นมะ ทางเดินที่ก้าวไปข้างหน้าทำให้รู้สึกว่าทำไมมันช่างไกลซะเสียจริง เพราะเขาอ่านสูตรยามากไปหรือเพราะนอนดึกไปแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้แทบจะเดินไม่ไหวเอาซะเลย

       

      แฮก แฮก แฮก …”

       

      น้ำเสียงหอบราวกับพึ่งวิ่งมา แต่มันไม่ใช่เลยสักนิด ความร้อนของร่างกายทำให้รู้สึกว่า ร่างนี้แทบจะไม่มีแรงเอาเสียเลย ทั้งๆที่เมื่อกี้คุยกับท่านผู้ยิ่งใหญ่แล้วยังไม่มีอะไรเลยสักนิด

       

      “… อยากเดินไปที่อื่นชะมัด

       

      บ่นไปพลางก้าวเท้าเดินไปโดยไม่รู้ว่าตนเองนั้นเดินมาถึงที่ไหน พอมารู้ตัวอีกทีก็โผล่มาที่บนแดนสุขาวดี(สวรรค์)ซะแล้ว อากาศที่แสนจะสดชื่นกับความเงียบของที่นี่ทำให้เขาอยากจะหลับซะจริงๆ

       

      ที่จริงต้องโผล่มาที่ขุมนรกชั้นที่ 10 สิ นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?!”

       

      ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดสุดๆ เหตุผลก็เพราะจู่ๆร่างกายก็ไม่ไหวแถมอยากเข้าไปที่ประตูที่ใกล้ๆกับมืออีก จนมาเจอะเจอกับที่นี่ … ไม่อยากเจอกับไอหมอนั่นซะเลย

       

      โอ๊ะ! … นั่นท่านโฮซุกินี่

       

      น้ำเสียงที่จำได้ดิบดี เพราะเคยชวนให้มาทำงานที่นี่พร้อมๆกับสัตว์สหายทั้ง 3 ตัว ที่มาทำงานที่นรก ส่วนคนคนนี้ก็มาทำงานเป็นผู้ช่วยของไอเจ้าหื่นนั่นอีก สงสัยไอหมอนั่นคงอยู่ที่ไหนสักแห่งสินะ

       

      ท่านโมโมท่าโร่คงสบายดีสินะขอรับ?” เขาถามเพื่อความแน่ใจ

       

      ขอรับ ต้องขอบคุณมากๆเลยนะขอรับแล้วทำไมท่านถึงมาที่นี่ล่ะขอรับ?”

       

      ก็พอดีอาจจะเป็นเพราะร่างกายน่ะขอรับโฮซุกิกุมหน้าผาก

       

      เอ๋!! … ผมว่าท่านไม่สบายมากกว่านะ

       

      ไม่ สบาย …?”

       

      ขอรับ ผมว่าท่านมานอนพักก่อนเถอะ

       

      แต่ผมมีงานที่ต้องทำเยอะแยะนี่ขอรับ

       

      พักก่อนเถอะขอรับ

       

      อา …”

       

      เถาท่าโร่~~~!!”

       

      น้ำเสียงกวนโอ๊ยที่ฟังทีไรต้องมีเรื่องกันมาตลอด เขาหันไปตามเสียงที่เรียกด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจสุดๆจนทำให้ผู้มาเยือนการสนทนานี้ต้องทำสีหน้าไม่พอใจเหมือนกัน

       

      โอ้~~~ เจ้ามาด้วยเหรอ? โฮซุกิ …” คนตรงหน้าเขายิ้มให้ แต่ภายในแฝงไปด้วยความหงุดหงิด

       

      ก็แค่ ผ่านมาก็เท่านั้นแหละขอรับเขาพูดพลางทำท่าจะก้าวเดินออกไปจากตรงนี้

       

      เออ แต่ท่านโฮซุกิไม่สบายนี่ขอรับ

       

      โมโมทาโร่เอ่ยพูดอย่างนี้ก็ทำให้ร่างบอบบางที่กำลังก้าวเดินออกไปนั้นต้องหันมาสงสัยตาไม่สบอารมณ์ใส่ ส่วนผู้ที่ได้รับฟังก็ยิ้มขึ้นมาทันทีทันใด จากนั้นก็เดินไปหาใกล้ๆคนที่โดนกล่าวหาว่า ‘ไม่สบาย

       

      หือ~~~ นี่นายไม่สบายจริงๆเหรอ?” ยื่นหน้ามาหาพลางทำหน้าทำตา

       

      “…ไม่เกี่ยวกับเจ้าซะหน่อย

       

       

                      เอาหน้าเจ้าไปไกลๆข้าเถอะ เห็นทีไรจะฆ่ากันอยู่แล้ว

       

       

      เห๊~~? . . . น่าเสียดายชะมัด ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นหนูทดลองซะหน่อย

       

      หนูทดลอง?”

       

      อื่อ! พอดีข้าพึ่งทำยาสมุนไพรเสร็จน่ะ เจ้าจะลองดูไหมล่ะ?”

       

      อา . . . งั้นข้าจะรับคำก็ได้ขอรับ

       

      หึๆ เดี๋ยวก็รู้ว่าอยู่ที่นี่น่ะ ดีกว่านรกอีกนะ~

       

      แต่รู้สึกว่าเจ้าจะชอบดื่มสาเกที่นรกไม่ใช่เหรอ?”

       

      อ๊ะ!”

       

       

                      โดนแทงใจดำอีกแล้วสิเรา

       

       

      เจ้ามัน . . .!? ฮึ๋ย!! คอยดู . . . ข้าจะเอาเจ้าคืนเป็น 100 เท่าเลย

       

      แต่ท่านฮาคุทาคุก็แพ้เรื่องด่าตลอดนี่ขอรับ

       

      โมโมทาโร่ที่พูดตรงไปตรงมากับคนที่ไม่อยากแพ้ก็ต้องมาแพ้ราบคาบต่อหน้าต่อตา ส่วนโฮซึกิก็เผลอยิ้มออกมาบางๆราวกับว่ากำลัง ‘หัวเราะที่คนคนนี้แสดงอารมณ์ออกหน้าออกตาสุดๆ

       

       

                      เจ้ามันบ้า เผลอทำให้ข้ายิ้มออกมาจนได้

       

       

       

       

      ข้าค่อยๆตักซุบเห็ดแสนอร่อยที่มียาเป็นส่วนประกอบปนอยู่ด้วย เมื่อตักใส่ชามเสร็จก็เดินไปวางไว้ตรงหน้าร่างบอบบางที่จ้องซุบเห็ดนี้ไม่ละสายตาพลางสำรวจรอบชามนี้ ราวกับว่ามันต้องมี ‘ยาพิษใครจะไปใส่กันล่ะ? ไอหมอนี่ก็ระแวงมากไปแล้ว

       

      ไม่ต้องห่วงหรอกน่า~ ข้าไม่ใส่ยาพิษในซุบยานี้หรอก . . . เจ้านี่มันระแวงเกินไปไหม?”

       

      ไม่ใช่หรอกร่างบอบบางเงยหน้ามองผม

       

      หือ . . . แล้วมันอะไรล่ะ?”

       

      เจ้าน่ะ . . . คนคนนี้ใช้นิ้วดีดชาม ไม่ได้เอาช้อนมาให้ข้าต่างหาก

       

       

                      เพล้ง!?

       

       

      หน้าแตกเลยตรู!!! ข้ารีบเก็บอารมณ์ความโมโหที่ ‘เจ้าเขาเดียวมันกวนประสาท อาาาา~ . . . ให้ตายสิ ข้าอยากจะเอายาพิษมาใส่ซุบเห็ดแล้วสิ เมื่อเอาช้อนมาให้ หมอนี่ก็รับมาแล้วตักซุบมากิน

       

      ข้ารอเวลาที่ยาจะออกลิตรจากนั้นก็นั้งคุยกวนหมอนี่ไปด้วย หลังจากนั้นก็ผ่านมาได้ 1 ชั่วโมงแล้ว ยามันก็เริ่มออกลิตรโดยคนไข้นั้นจะมีท่าทีที่เหมือนคนกำลังร้อน ใบหน้าจะแดงเพราะพิษไข้นั้นกำลังระบายออกมา เป็นยาชั้นเยี่ยมไปเลยไหมล่ะ?

       

      เอาล่ะ งั้นเจ้ามานอนห้องข้าก่อนไหม?” ข้าถามคนตรงหน้า

       

      “. . . อา . . . ฮาคุ . . . ทาคุ

       

      หือ? มีอะไรเหรอ?

       

       

                      หมอนี่พึ่งจะเรียกชื่อเรารึเปล่านะ?

       

       

      ข้า . . . ร้อนเขาใช้มือโอบกอดร่างกายตัวเอง ช่วยข้าที . . .”

       

      อา . . . ข้าว่าเจ้าไปหลับดีกว่านะ

       

      ข้าค่อยๆพยุงร่างนี้ให้เดินเข้าไปที่ห้องของข้า จากนั้นก็วางร่างนี้ลงบนเตียงและเอาผ้าห่มมาคลุมร่างนี้ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อข้ากำลังจะผละออกจากเตียง ก็มีมือของคนที่พึ่งนอนรั้งเอาไว้ แล้วดึงข้าให้มานอนบนเตียงโดยมีร่างบางนี้ขึ้นคร่อมเอาไว้

       

      นะ . . . นี่เจ้า!? คิดจะทำอะไรน่ะ?!” ข้าผละให้ร่างนี้ออกแต่เขากลับกดข้าลง

       

      ฮาคุ . . . ทาคุ ข้าร้อน . . . ช่วยข้าที

       

      เม็ดเหงื่อที่ไหลไปตามใบหน้าตามด้วยแผงอกขาวเนียนเหมือนผู้หญิง ดวงตาแหลมคมน่าหลงใหลจ้องมองมาที่ข้าด้วยสายตาที่ยั่วยวนได้ใจ ตามด้วยกิโมโนที่หลุดไปข้างหนึ่งจึงทำให้ดูยั่วได้ใจเอามากๆ

       

      ริมฝีปากสีชมพูสวยได้รูปค่อยๆยื่นหน้ามาหาข้าคนนี้ จากนั้นก็บรรจงจูบริมฝีปากข้าจนสมองของข้าคนนี้ขาวโพล่นไปหมด ไม่รู้ว่าตนเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆ . . . ข้าคนนี้ได้ตอบรับกับรสชาติของคนคนนี้เข้าให้แล้ว

       

      อือ~ . . . ฮาคุทาคุ ข้า . . . ข้า . . . อื่อ!!” พูดยังไม่จบก็โดนปิดปากเสียแล้ว จากนั้นก็โดนถอนออกเพื่อให้ได้พูด ข้า . . .”

       

      อือ~ ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไรพูดไปพลางลิ้มรสร่างกายนี้ด้วยความกระหาย

       

      ข้า . . . ข้าอยากบอกจริงๆเขายื่นมือมาจับใบหน้าข้า

       

      “. . . ก็ได้ ข้าจะฟังเจ้าข้ากุมมือที่จับใบหน้าจากนั้นก็จูบมันเบาๆ

       

      ข้า . . . ข้ารักเจ้า!! และช่วยทำมัน . . . รุนแรงกว่านี้จะได้ไหม?”

       

       

                      ตึกตัก!!

       

       

      นี่เจ้ายั่วข้าเองนะ โฮซึกิ

       

       

      ข้าค่อยๆยื่นหน้าไปหาร่างบางจากนั้นก็เริ่มปิดริมฝีปากนี้ต่อด้วยความรุนแรงที่หมอนี่ไม่อาจที่จะหยุดส่งเสียงครางหวานได้เลย หมอนี่เอาแต่เรียกชื่อข้าพลางบอกว่า ‘ห้ามหยุดอีกด้วย

       

      โอ้พระเจ้า . . . นี่มันเป็นเพราะยาหรือพิษไข้กันแน่นะ แต่พอเห็นหมอนี้ในสภาพที่เปลือยเปล่าก็ยิ่งทำให้ร่างกายนี้เริ่มมีอารมณ์ไม่หยุดเลย คนตรงหน้าข้าเริ่มสูดอากาศข้างๆหูจนรู้ได้ว่า ไม่ไหวแล้วจนข้าคนนี้เผลอจูบแก้มเบาๆเป็นการปลอบโยนเพื่อให้คนคนนี้ไม่ต้องฝืนให้มาก

       

      นอนก่อนไหม? หรือว่าจะอาบน้ำก่อน?” ข้าถามร่างบางพลางลูบใบหน้าร่างนี้ไปด้วย

       

      อาบน้ำดีกว่า ข้ารู้สึกเหนียวตัวเอามากๆเลยคนตรงหน้าข้าจับมือข้าพลางยิ้มให้

       

       

                      นะ . . . น่ารัก!!

       

       

      อื่อ . . . ข้าก็จะอาบกับเจ้าเหมือนกัน ข้าตอบรับและเข้าไปบรรจูบอย่างเผ่วเบา

       

      อือ

       

      คนตรงหน้าข้ายอมให้จูบ จากนั้นข้าก็เริ่มอุ้มร่างบางนี้ให้มาอาบน้ำด้วยกัน . . . สองต่อสอง และเริ่มมีอะไรกันในห้องน้ำอีกยกที่ 2 อา . . . วันนี้มันบ้าอะไรกันนะ~~~ ข้าเริ่มปวดหัวจริงๆแล้วนะ

       

       

       

       

      อา . . . นี่ข้าทำบ้าอะไรลงไปน่ะ เผลอไปมีอะไรกับเจ้าโรคจิตเนี่ยนะ? บ้าๆๆๆๆๆ!!! ตั้งสติเอาไว้ ตั้งสติเอาไว้โฮซึกิ เมื่อวานข้าก็จำอะไรไม่ได้หรอก แต่ที่แน่ๆตื่นขึ้นมาก็เจอคนโรคจิตเข้าแถมยังเปลือยกันทั้งคู่อีก

       

      อือ~

       

      คนที่ยังนอนอยู่ทำเสียงครางจนข้าคนนี้สะดุ้งและก็คิดว่า ‘สตงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว’ คนที่นอนข้างๆข้า ค่อยๆพยุงตัวเองจากนั้นก็ยิ้มมาให้ข้า กวนประสาทอีกแล้ว

       

      นี่มันอะไรกัน!? เจ้าทำอะไรกับข้าน่ะ?” ข้าขึ้นเสียงถามคนตรงหน้า

       

      อะไรกัน~~ เมื่อคืนเจ้าออกจะน่ารัก ยั่วแถมยังเชื่อฟังอีกนี่นา

       

      หา?!”

       

      หรือว่าข้าต้องฟื้นความทรงจำนี้น่ะเขายื่นหน้ามาหาข้า จนข้าเผลอหลบทันที

       

      ไม่เอาดีกว่า ข้าว่าเจ้าต้องแกล้งข้าแน่ๆ

       

      เอ๋? เมื่อคืนเจ้ายังบอกรักข้าอยู่เลยนี่นา หรือว่า . . .” เขาเชยคางผมขึ้น เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจน่ะ?”

       

      อึก!? . . .” ข้ารีบหันหน้าหนีแต่ก็ไร้ผลอยู่ดี “อา . . . ข้า . . .”

       

      ปากแข็งสินะ?”

       

      แล้วจะทำไมล่ะ? ข้ารีบสวนกลับข้าเป็นแบบนี้แล้วเจ้าจะรักรึไงกัน?”

       

      “. . .”

       

      ข้าน่ะ เอาแต่ใจตัวเอง อยากทำอะไรก็จะให้ได้ เหมือนเด็กๆชะมัด

       

      “. . .” คนตรงหน้าผมเริ่มเงียบ “แต่ข้าว่า . . . ออกจะน่ารักนี่นา

       

      ห๊า?!”

       

      ข้าก็เหมือนเจ้านั่นแหละเขายื่นหน้ามาประกบริมฝีปากผม “รักนะ คุณเจ้าหญิงโฮซึกิ

       

      ทำบ้าอะไรของแก เลี่ยนเป็นบ้า

       

      ก็คนรักนี่นา ไม่ใช่เหรอ? . . . หรืออยากให้ทำต่อน่ะ

       

      ไม่เอาแล้ว!! แกทำให้ข้าเจ็บไปหมดเลย

       

      ถ้างั้นก็อยู่เฉยๆปล่อยให้ข้ากอดแล้วกันนะ

       

      “. . .”

       

      ข้าเงียบไปสักพักจากนั้นก็ซุกแผงอกหมอนี่เบาๆพลางยอมให้คนคนนี้กอดและจูบเบาๆ ข้าพึ่งจะรู้นี่แหละว่าความสุขนี้มันหาได้ยากมากๆ ข้ารู้สึก . . . อยากอยู่ใกล้ๆคนคนนี้จัง

       

      นี่ . . .” ข้าเรียกหมอนี่จนหมอนี่ยิ้ม

       

      อะไรเหรอ?”

       

      ถ้าเจ้าเลิกกับข้า ข้าจะจับเจ้ามาอยู่นรกกับข้าซะเลยดีไหม?”

       

      งั้นเลิกตอนนี้ดีไหม?”

       

      เฮ้ย?!” ข้าหันไปหาแต่ก็โดนจูบอีกครั้ง

       

      ฮึๆ ก็ . . .” เขาเริ่มขึ้นคร่อมข้าจากนั้นก็จูบหน้าผากเบาๆ “ก็ข้าอยากอยู่กับเจ้านี่นา

       

       

          โลกมนุษย์นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดเสียอีก

                      แต่โลกของขุมนรกนั้นก็น่ากลัวเท่าๆกับโลกมนุษย์

                      แต่เพราะมีบุคคลที่น่ากลัวที่สุดในขุมนรกยามะ

                      และได้ขนาบนามว่า ‘น่ากลัวที่สุด

                      นามว่า ‘โฮซุกิ

       

       

                      ไม่ว่าจะทำอย่างไงให้ดูตลก น่ารักก็ตามที

                      บุคคลนี้ก็ไม่เคยยิ้มเลยสักนิด

                      มีแต่ทำสีหน้าตึงเครียด

                      หงุดหงิด …

                      และ … โมโห

                      จนทุกๆคนต้องถามซะว่า ‘ท่านคนนี้เคยยิ้มบ้างไหม?’

       

      แต่พอมาเจอกับคนที่รัก …

      ก็ต้องเผลอยิ้มให้คนคนนี้ทุกครั้ง

       

      ไอบ้าข้าหันหน้าหนี

       

      เอ้า! โดนด่าอีก แต่ก็ . . . ยังไงก็รักอยู่ดีนะ โฮซึกิ

       

      ระ . . . รู้แล้วน่า . . .” ข้าเงียบไปสักพักก็คิดอะไรออกซะแล้ว “นี่ . . .”

       

      หือ?”

       

      ข้าก็รักเจ้านะ ฮาคุทาคุ

       

       

      ข้าก็เหมือนน่า โฮซึกิ . . . ข้ารักเจ้ามากๆ รักและรักมากๆเลย

       

       

                      “เงียบทำไมล่ะ?” ข้าถามคนตรงหน้า

       

                      “เปล่า~ แค่คิดอะไรนิดหน่อย

       

      คิด?”

       

      ก็ . . . ~ลากเสียงพลางล็อคข้อมือข้า ถ้าเกิดว่าจู่ๆข้าก็อยากแต่งงาน แล้วเจ้าสาวเป็นเจ้า . . . ทุกๆคนจะตกใจกันไหมนะ?”

       

      ข้าว่า . . . ตกใจจนฟ้าผ่าเลยล่ะ

       

      นั่นสินะ~~ นี่ . . . โฮซึกิ

       

      หือ?”

       

      ขออีกยกได้ไหม?”

       

      ไม่เอา

       

      น่า~~นะ!” เขาคลอเคลียข้า จนข้าต้องเผลอขำออกมา

       

      ทำบ้าอะไรของเจ้า?”

       

      เอ้า! ก็ทำให้คนคนนี้ยิ้มอย่างไงล่ะ ไม่ดีเหรอ? . . . โฮซึกิ

       

      หือ?”

       

       

                      ถามอะไรเยอะแยะชะมัด

       

       

      ข้ารักเจ้านะ

       

      อ๊ะ . . .”

       

      แค่คำว่า ‘รัก อย่างเดียวที่เผลอทำให้ข้าคนนี้หวั่นไหว ดวงตาอันแหลมคมทั้งคู่ที่เหมือนกับข้านั้น . . . ทำให้หวั่นไหวจริงๆด้วยสิ แต่แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น . . . ที่ข้าคนนี้จะยอมเจ้านะ ฮาคุทาคุ

       

      ฝั่งโมโมทาโร่

       

      ตายแล้วสิเรา . . .”

       

      ระหว่างที่ข้ากำลังเก็บเกี่ยวผลไม้นั้น ก็ต้องเผลอไปได้ยินเสียงบทสนทนาอันหวานและเร้าร้อนของทั้งคู่เข้า ข้าก็พึ่งจะรู้ตัวว่าที่ทั้งคู่ทะเลาะกันก็เพราะ ‘รักก็เหมือนกับคนทั่วๆไปกล่าวนั่นแหละ

       

       

                      ยิ่งเกลียดกัน ยิ่งรักกัน

       

       

      อา . . . มันก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ล่ะนะ แต่ว่าพอเจอทั้งคู่พูดกันแบบนั้นเข้า . . .

       

      ข้ารักเจ้านะ

       

      มันก็อดที่จะเชื่อไม่ได้เลย ระหว่างที่ข้ากำลังเอาผลไม้เข้าไปข้างในนั้น ก็ได้พบกับท่านโฮซึกิที่อยู่ในชุดของท่านฮาคุทาคุ อา~~ . . . นี่มันฝาแฝดกันชัดๆเลยนี่ขอรับ

       

      กลับมาแล้วเหรอ?~ เถาทาโร่คุง

       

      ขอรับ ท่านฮาคุมทาคุ

       

      โอ้! ลูกสวยๆทั้งนั้นเลยนี่นา?”

       

      ก็ไม่รู้สิขอรับ เมื่อวานมันก็ไม่งามเท่าไหร่ แต่วันนี้มันแปลกๆน่ะครับ . . . ราวกับว่าเจ้าผลไม่พวกนี้ได้เจอสิ่งที่ดีๆเข้าน่ะขอรับ

       

      สิ่งที่ดีๆ . . .” ท่านฮาคุทาคุหันไปมองท่านโฮซึกิพลางยิ้มหวานใส่จนท่านโฮซึกิต้องหันหน้าหนี

       

      ถ้างั้น . . . กระผมก็ตัวออกไปข้างนอกก่อนนะขอรับ

       

      อื่อ~~~

       

                      ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันนั่นแหละ ดีแล้ว

       

       

       

       

      ทำบ้าอะไรของเจ้า?”

       

      คนตรงหน้าข้าถามพลางเอามือยันหน้าให้ข้าคนนี้ออกไป ก่อนที่ข้าจะได้ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มให้ชื่นใจหน่อย

       

       หวา~~ . . . ปากร้ายจังเลยนะ

       

      ก็อย่างที่เถาทาโร่บอกนั้นแหละนะ อาจจะเป็นเพราะ ความรักนั่นแหละ

       

      บ้า!”

       

      ฮึๆ แล้วเจ้าจะกลับเมื่อไหร่กัน?”

       

      จนกว่า . . . ข้าจะพอใจล่ะมั้ง?”

       

      พอใจ? . . . อ้อ พอใจที่อยู่กับข้าสินะ?”

       

       

      แป๋ด~~!

       

       

      หน้าแดงจนน่าหม่ำอีกแล้วนะ เจ้าเขาเดียว

       

       

                      “เอ๋ . . . นี่เรื่องจริงสินะ?” ข้าพูดพลางใช้มือทั้งสองยันโต๊ะนิดหน่อย

       

                      “แปลกรึไง?”

       

                      “ไม่หรอก เรื่องธรรมดานี่นา เนอะ!”

       

                      ข้าพูดจบแล้วยืนเงียบ สักพักคนข้างๆข้าก็คร่อมข้าอีกครั้งด้วยท่ายืนและยื่นหน้ามาหา ข้ายิ้มให้พลางหัวเราะในลำคอ

       

                      “ข้าจะบอกอะไรอีกอย่างนะคนตรงหน้าข้าพูดออกมาด้วยท่าทีที่ยังเก็บอารมณ์ไม่อยู่

       

                      “อะไรล่ะ?”

       

                      “หุบปากไป . . .”

       

                      “. . .” ข้าเงียบสักพักก็เข้าใจอะไรหลายๆอย่างว่า คนคนนี้คิดจะทำอะไร? “รับทราบขอรับ~~

       

                      เมื่อข้าคนนี้ได้เงียบลงไป ร่างบอบบางนี้ก็ได้ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากจูบอย่างแผ่วเบาและลึกซึ้ง ข้าพึ่งจะรู้ว่า . . . คนคนนี้เริ่มทำให้ข้า . . .

       
       

      รักมากๆแล้วสิ

       

       

       

       

       

      THE END




      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×