[Fic]Hoozuki no Reitetsu Yaoi Hakutaku x Hoozuki เพราะพิษไข้
นิยายเรื่องนี้ก็ได้ทำตามคำขอของตัวเองแล้ว และอีกอย่างก็ชอบคู่นี้เอามากๆครับผม อีกอย่างหนึ่ง อย่าบล็อกผมเลยยย =[]= ขอร้องล่ะ!!
ผู้เข้าชมรวม
4,755
ผู้เข้าชมเดือนนี้
24
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title: เพราะพิษไข้
Pairing : Hakutaku x Hoozuki
Fanfic Original : Fic Hoozuki no Reitetsu
Warning : Yaoi
Rate : PG -13 (หรือ 15 หว่า =w=?)
Fic Hoozuki no Reitetsu (Yaoi) Hakutaku x Hoozuki
เพราะพิษไข้
โลกมนุษย์นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดเสียอีก
แต่โลกของขุมนรกนั้นก็น่ากลัวเท่าๆกับโลกมนุษย์
แต่เพราะมีบุคคลที่น่ากลัวที่สุดในขุมนรกยามะ
และได้ขนาบนามว่า ‘น่ากลัวที่สุด’
นามว่า ‘โฮซุกิ’
ไม่ว่าจะทำอย่างไงให้ดูตลก น่ารักก็ตามที …
บุคคลนี้ก็ไม่เคยยิ้มเลยสักนิด
มีแต่ทำสีหน้าตึงเครียด
หงุดหงิด …
และ … โมโห
จนทุกๆคนต้องถามซะว่า ‘ท่านคนนี้เคยยิ้มบ้างไหม?’
“ฮ้าว …!!”
น้ำเสียงงัวเงียของคนพึ่งตื่นนั้นทำให้ท่านที่สูงใหญ่กว่าต้องสงสัยว่าคนตรงหน้าเขาไปทำอะไรมา ดวงตาที่แหลมและสวยบัดนี้มีขอบตาดำราวกับหมีแพนด้า ส่วนเส้นผมที่เคยเป็นทรงตรงและสละสลวยเสมอ ก็ได้มีบางเส้นงอและไม่เป็นทรง อาจจะดูน่าขำก็ตาม แต่นี่มันผิดปกติสุดๆ
“โฮซุกิ … วันนี้เธอดูแปลกไปรึเปล่าน่ะ?” ท่านผู้สูงใหญ่เอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่หรอกขอรับ ผมก็แค่อ่านสูตรปรุงยาหนักไปหน่อยน่ะ แล้วนั่นท่านจะไม่ทำงานต่อเหรอขอรับ?”
น้ำเสียงที่งัวเงียและน่ารักแต่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดทำให้บุคคลที่สูงใหญ่ต้องเสียวสันหลังทันที ถึงกับต้องมือสั่นทันทีเพราะกลัวว่าโฮซุกิจะใช้ไม้กระบองหนามแหลมมาฟาดเขา
ถึงยังงัวเงียแต่ก็มีความน่ากลัวซ่อนอยู่สินะ โฮซุกิคุง
“ฉะ … ฉันว่าเธอไปนอนพักผ่อนก่อนดีไหม?”
“ไม่ล่ะขอรับ ผมจะทำงานต่อเสียหน่อย” เขาพูดพลางถือกระบองหนามออกมา “ท่านเอ็นมะก็ทำงานไปนะขอรับ ส่วนผมจะไปทำงานต่อซะหน่อย”
“อือ ขอให้ทำงานได้อย่างราบลื่นซะล่ะ”
“ขอรับ …” เมื่อโฮซุกิกำลังเดินออกไปจากบริเวณนี้ แต่ . . . ก็ต้องหยุดชะงักก่อน จากนั้นก็พูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ท่านเอ็นมะถึงกลับหน้าซีดเชียว “อา … อีกอย่างหนึ่งที่ผมลืมบอกไปน่ะขอรับ”
“หือ … ลืมอะไรล่ะ?”
“ถ้าท่านเอ็นมะทำงานที่ค้างไม่เสร็จ …” พลางหันมาด้วยสีหน้าที่น่ากลัว “คงรู้นะขอรับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ขะขะขะเข้าใจแล้ว!! เดี๋ยวจะเอาให้เสร็จเลยล่ะ!!”
“อือ … เหรอขอรับ?”
“อะ … อื่อ!! เชื่อมือเถอะ!!”
“ขอรับ ผมจะเชื่อท่านเอ็นมะนะขอรับ”
ร่างบอบบางก้าวเท้าเดินออกไปจากบริเวณนี้ทันทีที่ได้ขอต่อลองกันกับท่านเอ็นมะ ทางเดินที่ก้าวไปข้างหน้าทำให้รู้สึกว่าทำไมมันช่างไกลซะเสียจริง เพราะเขาอ่านสูตรยามากไปหรือเพราะนอนดึกไปแต่ที่แน่ๆ ตอนนี้แทบจะเดินไม่ไหวเอาซะเลย
“แฮก … แฮก … แฮก …”
น้ำเสียงหอบราวกับพึ่งวิ่งมา แต่มันไม่ใช่เลยสักนิด ความร้อนของร่างกายทำให้รู้สึกว่า ร่างนี้แทบจะไม่มีแรงเอาเสียเลย ทั้งๆที่เมื่อกี้คุยกับท่านผู้ยิ่งใหญ่แล้วยังไม่มีอะไรเลยสักนิด
“… อยากเดินไปที่อื่นชะมัด”
บ่นไปพลางก้าวเท้าเดินไปโดยไม่รู้ว่าตนเองนั้นเดินมาถึงที่ไหน พอมารู้ตัวอีกทีก็โผล่มาที่บนแดนสุขาวดี(สวรรค์)ซะแล้ว อากาศที่แสนจะสดชื่นกับความเงียบของที่นี่ทำให้เขาอยากจะหลับซะจริงๆ
“ที่จริงต้องโผล่มาที่ขุมนรกชั้นที่ 10 สิ นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย?!”
ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิดสุดๆ เหตุผลก็เพราะจู่ๆร่างกายก็ไม่ไหวแถมอยากเข้าไปที่ประตูที่ใกล้ๆกับมืออีก จนมาเจอะเจอกับที่นี่ … ไม่อยากเจอกับไอหมอนั่นซะเลย
“โอ๊ะ! … นั่นท่านโฮซุกินี่”
น้ำเสียงที่จำได้ดิบดี เพราะเคยชวนให้มาทำงานที่นี่พร้อมๆกับสัตว์สหายทั้ง 3 ตัว ที่มาทำงานที่นรก ส่วนคนคนนี้ก็มาทำงานเป็นผู้ช่วยของไอเจ้าหื่นนั่นอีก สงสัยไอหมอนั่นคงอยู่ที่ไหนสักแห่งสินะ
“ท่านโมโมท่าโร่คงสบายดีสินะขอรับ?” เขาถามเพื่อความแน่ใจ
“ขอรับ ต้องขอบคุณมากๆเลยนะขอรับ … แล้วทำไมท่านถึงมาที่นี่ล่ะขอรับ?”
“ก็ … พอดีอาจจะเป็นเพราะร่างกายน่ะขอรับ” โฮซุกิกุมหน้าผาก
“เอ๋!! … ผมว่าท่านไม่สบายมากกว่านะ”
“ไม่ … สบาย …?”
“ขอรับ ผมว่าท่านมานอนพักก่อนเถอะ”
“แต่ผมมีงานที่ต้องทำเยอะแยะนี่ขอรับ”
“พักก่อนเถอะขอรับ”
“อา …”
“เถาท่าโร่~~~!!”
น้ำเสียงกวนโอ๊ยที่ฟังทีไรต้องมีเรื่องกันมาตลอด เขาหันไปตามเสียงที่เรียกด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจสุดๆจนทำให้ผู้มาเยือนการสนทนานี้ต้องทำสีหน้าไม่พอใจเหมือนกัน
“โอ้~~~ เจ้ามาด้วยเหรอ? โฮซุกิ …” คนตรงหน้าเขายิ้มให้ แต่ภายในแฝงไปด้วยความหงุดหงิด
“ก็แค่ … ผ่านมาก็เท่านั้นแหละขอรับ” เขาพูดพลางทำท่าจะก้าวเดินออกไปจากตรงนี้
“เออ … แต่ท่านโฮซุกิไม่สบายนี่ขอรับ”
โมโมทาโร่เอ่ยพูดอย่างนี้ก็ทำให้ร่างบอบบางที่กำลังก้าวเดินออกไปนั้นต้องหันมาสงสัยตาไม่สบอารมณ์ใส่ ส่วนผู้ที่ได้รับฟังก็ยิ้มขึ้นมาทันทีทันใด จากนั้นก็เดินไปหาใกล้ๆคนที่โดนกล่าวหาว่า ‘ไม่สบาย’
“หือ~~~ … นี่นายไม่สบายจริงๆเหรอ?” ยื่นหน้ามาหาพลางทำหน้าทำตา
“…ไม่เกี่ยวกับเจ้าซะหน่อย”
เอาหน้าเจ้าไปไกลๆข้าเถอะ เห็นทีไรจะฆ่ากันอยู่แล้ว
“เห๊~~? . . . น่าเสียดายชะมัด ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นหนูทดลองซะหน่อย”
“หนูทดลอง?”
“อื่อ! พอดีข้าพึ่งทำยาสมุนไพรเสร็จน่ะ เจ้าจะลองดูไหมล่ะ?”
“อา . . . งั้นข้าจะรับคำก็ได้ขอรับ”
“หึๆ เดี๋ยวก็รู้ว่าอยู่ที่นี่น่ะ ดีกว่านรกอีกนะ~”
“แต่รู้สึกว่าเจ้าจะชอบดื่มสาเกที่นรกไม่ใช่เหรอ?”
“อ๊ะ!”
โดนแทงใจดำอีกแล้วสิเรา
“เจ้ามัน . . .!? ฮึ๋ย!! คอยดู . . . ข้าจะเอาเจ้าคืนเป็น 100 เท่าเลย”
“แต่ท่านฮาคุทาคุก็แพ้เรื่องด่าตลอดนี่ขอรับ”
โมโมทาโร่ที่พูดตรงไปตรงมากับคนที่ไม่อยากแพ้ก็ต้องมาแพ้ราบคาบต่อหน้าต่อตา ส่วนโฮซึกิก็เผลอยิ้มออกมาบางๆราวกับว่ากำลัง ‘หัวเราะ’ ที่คนคนนี้แสดงอารมณ์ออกหน้าออกตาสุดๆ
เจ้ามันบ้า เผลอทำให้ข้ายิ้มออกมาจนได้
ข้าค่อยๆตักซุบเห็ดแสนอร่อยที่มียาเป็นส่วนประกอบปนอยู่ด้วย เมื่อตักใส่ชามเสร็จก็เดินไปวางไว้ตรงหน้าร่างบอบบางที่จ้องซุบเห็ดนี้ไม่ละสายตาพลางสำรวจรอบชามนี้ ราวกับว่ามันต้องมี ‘ยาพิษ’ ใครจะไปใส่กันล่ะ? ไอหมอนี่ก็ระแวงมากไปแล้ว
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า~ ข้าไม่ใส่ยาพิษในซุบยานี้หรอก . . . เจ้านี่มันระแวงเกินไปไหม?”
“ไม่ใช่หรอก” ร่างบอบบางเงยหน้ามองผม
“หือ . . . แล้วมันอะไรล่ะ?”
“เจ้าน่ะ . . . ” คนคนนี้ใช้นิ้วดีดชาม “ไม่ได้เอาช้อนมาให้ข้าต่างหาก”
เพล้ง!?
หน้าแตกเลยตรู!!! ข้ารีบเก็บอารมณ์ความโมโหที่ ‘เจ้าเขาเดียว’ มันกวนประสาท อาาาา~ . . . ให้ตายสิ ข้าอยากจะเอายาพิษมาใส่ซุบเห็ดแล้วสิ เมื่อเอาช้อนมาให้ หมอนี่ก็รับมาแล้วตักซุบมากิน
ข้ารอเวลาที่ยาจะออกลิตรจากนั้นก็นั้งคุยกวนหมอนี่ไปด้วย หลังจากนั้นก็ผ่านมาได้ 1 ชั่วโมงแล้ว ยามันก็เริ่มออกลิตรโดยคนไข้นั้นจะมีท่าทีที่เหมือนคนกำลังร้อน ใบหน้าจะแดงเพราะพิษไข้นั้นกำลังระบายออกมา เป็นยาชั้นเยี่ยมไปเลยไหมล่ะ?
“เอาล่ะ งั้นเจ้ามานอนห้องข้าก่อนไหม?” ข้าถามคนตรงหน้า
“. . . อา . . . ฮาคุ . . . ทาคุ”
“หือ? มีอะไรเหรอ?”
หมอนี่พึ่งจะเรียกชื่อเรารึเปล่านะ?
“ข้า . . . ร้อน” เขาใช้มือโอบกอดร่างกายตัวเอง “ช่วยข้าที . . .”
“อา . . . ข้าว่าเจ้าไปหลับดีกว่านะ”
ข้าค่อยๆพยุงร่างนี้ให้เดินเข้าไปที่ห้องของข้า จากนั้นก็วางร่างนี้ลงบนเตียงและเอาผ้าห่มมาคลุมร่างนี้ แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อข้ากำลังจะผละออกจากเตียง ก็มีมือของคนที่พึ่งนอนรั้งเอาไว้ แล้วดึงข้าให้มานอนบนเตียงโดยมีร่างบางนี้ขึ้นคร่อมเอาไว้
“นะ . . . นี่เจ้า!? คิดจะทำอะไรน่ะ?!” ข้าผละให้ร่างนี้ออกแต่เขากลับกดข้าลง
“ฮาคุ . . . ทาคุ ข้าร้อน . . . ช่วยข้าที”
เม็ดเหงื่อที่ไหลไปตามใบหน้าตามด้วยแผงอกขาวเนียนเหมือนผู้หญิง ดวงตาแหลมคมน่าหลงใหลจ้องมองมาที่ข้าด้วยสายตาที่ยั่วยวนได้ใจ ตามด้วยกิโมโนที่หลุดไปข้างหนึ่งจึงทำให้ดูยั่วได้ใจเอามากๆ
ริมฝีปากสีชมพูสวยได้รูปค่อยๆยื่นหน้ามาหาข้าคนนี้ จากนั้นก็บรรจงจูบริมฝีปากข้าจนสมองของข้าคนนี้ขาวโพล่นไปหมด ไม่รู้ว่าตนเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆ . . . ข้าคนนี้ได้ตอบรับกับรสชาติของคนคนนี้เข้าให้แล้ว
“อือ~ . . . ฮาคุทาคุ ข้า . . . ข้า . . . อื่อ!!” พูดยังไม่จบก็โดนปิดปากเสียแล้ว จากนั้นก็โดนถอนออกเพื่อให้ได้พูด “ข้า . . .”
“อือ~ ข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดอะไร” พูดไปพลางลิ้มรสร่างกายนี้ด้วยความกระหาย
“ข้า . . . ข้าอยากบอกจริงๆ” เขายื่นมือมาจับใบหน้าข้า
“. . . ก็ได้ ข้าจะฟังเจ้า” ข้ากุมมือที่จับใบหน้าจากนั้นก็จูบมันเบาๆ
“ข้า . . . ข้ารักเจ้า!! และช่วยทำมัน . . . รุนแรงกว่านี้จะได้ไหม?”
ตึกตัก!!
นี่เจ้ายั่วข้าเองนะ โฮซึกิ
ข้าค่อยๆยื่นหน้าไปหาร่างบางจากนั้นก็เริ่มปิดริมฝีปากนี้ต่อด้วยความรุนแรงที่หมอนี่ไม่อาจที่จะหยุดส่งเสียงครางหวานได้เลย หมอนี่เอาแต่เรียกชื่อข้าพลางบอกว่า ‘ห้ามหยุด’ อีกด้วย
โอ้พระเจ้า . . . นี่มันเป็นเพราะยาหรือพิษไข้กันแน่นะ แต่พอเห็นหมอนี้ในสภาพที่เปลือยเปล่าก็ยิ่งทำให้ร่างกายนี้เริ่มมีอารมณ์ไม่หยุดเลย คนตรงหน้าข้าเริ่มสูดอากาศข้างๆหูจนรู้ได้ว่า ‘ไม่ไหวแล้ว’ จนข้าคนนี้เผลอจูบแก้มเบาๆเป็นการปลอบโยนเพื่อให้คนคนนี้ไม่ต้องฝืนให้มาก
“นอนก่อนไหม? หรือว่าจะอาบน้ำก่อน?” ข้าถามร่างบางพลางลูบใบหน้าร่างนี้ไปด้วย
“อาบน้ำดีกว่า ข้ารู้สึกเหนียวตัวเอามากๆเลย” คนตรงหน้าข้าจับมือข้าพลางยิ้มให้
นะ . . . น่ารัก!!
“อื่อ . . . ข้าก็จะอาบกับเจ้าเหมือนกัน” ข้าตอบรับและเข้าไปบรรจูบอย่างเผ่วเบา
“อือ”
คนตรงหน้าข้ายอมให้จูบ จากนั้นข้าก็เริ่มอุ้มร่างบางนี้ให้มาอาบน้ำด้วยกัน . . . สองต่อสอง และเริ่มมีอะไรกันในห้องน้ำอีกยกที่ 2 อา . . . วันนี้มันบ้าอะไรกันนะ~~~ ข้าเริ่มปวดหัวจริงๆแล้วนะ
อา . . . นี่ข้าทำบ้าอะไรลงไปน่ะ เผลอไปมีอะไรกับเจ้าโรคจิตเนี่ยนะ? บ้าๆๆๆๆๆ!!! ตั้งสติเอาไว้ ตั้งสติเอาไว้โฮซึกิ เมื่อวานข้าก็จำอะไรไม่ได้หรอก แต่ที่แน่ๆตื่นขึ้นมาก็เจอคนโรคจิตเข้าแถมยังเปลือยกันทั้งคู่อีก
“อือ~”
คนที่ยังนอนอยู่ทำเสียงครางจนข้าคนนี้สะดุ้งและก็คิดว่า ‘สตงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว’ คนที่นอนข้างๆข้า ค่อยๆพยุงตัวเองจากนั้นก็ยิ้มมาให้ข้า กวนประสาทอีกแล้ว
“นี่มันอะไรกัน!? เจ้าทำอะไรกับข้าน่ะ?” ข้าขึ้นเสียงถามคนตรงหน้า
“อะไรกัน~~ เมื่อคืนเจ้าออกจะน่ารัก ยั่วแถมยังเชื่อฟังอีกนี่นา”
“หา?!”
“หรือว่าข้าต้องฟื้นความทรงจำนี้น่ะ” เขายื่นหน้ามาหาข้า จนข้าเผลอหลบทันที
“ไม่เอาดีกว่า ข้าว่าเจ้าต้องแกล้งข้าแน่ๆ”
“เอ๋? เมื่อคืนเจ้ายังบอกรักข้าอยู่เลยนี่นา หรือว่า . . .” เขาเชยคางผมขึ้น “เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจน่ะ?”
“อึก!? . . .” ข้ารีบหันหน้าหนีแต่ก็ไร้ผลอยู่ดี “อา . . . ข้า . . .”
“ปากแข็งสินะ?”
“แล้วจะทำไมล่ะ?” ข้ารีบสวนกลับ “ข้าเป็นแบบนี้แล้วเจ้าจะรักรึไงกัน?”
“. . .”
“ข้าน่ะ เอาแต่ใจตัวเอง อยากทำอะไรก็จะให้ได้ เหมือนเด็กๆชะมัด”
“. . .” คนตรงหน้าผมเริ่มเงียบ “แต่ข้าว่า . . . ออกจะน่ารักนี่นา”
“ห๊า?!”
“ข้าก็เหมือนเจ้านั่นแหละ” เขายื่นหน้ามาประกบริมฝีปากผม “รักนะ คุณเจ้าหญิงโฮซึกิ”
“ทำบ้าอะไรของแก เลี่ยนเป็นบ้า”
“ก็คนรักนี่นา ไม่ใช่เหรอ? . . . หรืออยากให้ทำต่อน่ะ”
“ไม่เอาแล้ว!! แกทำให้ข้าเจ็บไปหมดเลย”
“ถ้างั้นก็อยู่เฉยๆปล่อยให้ข้ากอดแล้วกันนะ”
“. . .”
ข้าเงียบไปสักพักจากนั้นก็ซุกแผงอกหมอนี่เบาๆพลางยอมให้คนคนนี้กอดและจูบเบาๆ ข้าพึ่งจะรู้นี่แหละว่าความสุขนี้มันหาได้ยากมากๆ ข้ารู้สึก . . . อยากอยู่ใกล้ๆคนคนนี้จัง
“นี่ . . .” ข้าเรียกหมอนี่จนหมอนี่ยิ้ม
“อะไรเหรอ?”
“ถ้าเจ้าเลิกกับข้า ข้าจะจับเจ้ามาอยู่นรกกับข้าซะเลยดีไหม?”
“งั้นเลิกตอนนี้ดีไหม?”
“เฮ้ย?!” ข้าหันไปหาแต่ก็โดนจูบอีกครั้ง
“ฮึๆ ก็ . . .” เขาเริ่มขึ้นคร่อมข้าจากนั้นก็จูบหน้าผากเบาๆ “ก็ข้าอยากอยู่กับเจ้านี่นา”
โลกมนุษย์นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งใดเสียอีก
แต่โลกของขุมนรกนั้นก็น่ากลัวเท่าๆกับโลกมนุษย์
แต่เพราะมีบุคคลที่น่ากลัวที่สุดในขุมนรกยามะ
และได้ขนาบนามว่า ‘น่ากลัวที่สุด’
นามว่า ‘โฮซุกิ’
ไม่ว่าจะทำอย่างไงให้ดูตลก น่ารักก็ตามที …
บุคคลนี้ก็ไม่เคยยิ้มเลยสักนิด
มีแต่ทำสีหน้าตึงเครียด
หงุดหงิด …
และ … โมโห
จนทุกๆคนต้องถามซะว่า ‘ท่านคนนี้เคยยิ้มบ้างไหม?’
แต่พอมาเจอกับคนที่รัก …
ก็ต้องเผลอยิ้มให้คนคนนี้ทุกครั้ง
“ไอบ้า” ข้าหันหน้าหนี
“เอ้า! โดนด่าอีก แต่ก็ . . . ยังไงก็รักอยู่ดีนะ โฮซึกิ”
“ระ . . . รู้แล้วน่า . . .” ข้าเงียบไปสักพักก็คิดอะไรออกซะแล้ว “นี่ . . .”
“หือ?”
“ข้าก็รักเจ้านะ ฮาคุทาคุ”
ข้าก็เหมือนน่า โฮซึกิ . . . ข้ารักเจ้ามากๆ รักและรักมากๆเลย
“เงียบทำไมล่ะ?” ข้าถามคนตรงหน้า
“เปล่า~ แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
“คิด?”
“ก็ . . . ~” ลากเสียงพลางล็อคข้อมือข้า “ถ้าเกิดว่าจู่ๆข้าก็อยากแต่งงาน แล้วเจ้าสาวเป็นเจ้า . . . ทุกๆคนจะตกใจกันไหมนะ?”
“ข้าว่า . . . ตกใจจนฟ้าผ่าเลยล่ะ”
“นั่นสินะ~~ นี่ . . . โฮซึกิ”
“หือ?”
“ขออีกยกได้ไหม?”
“ไม่เอา”
“น่า~~นะ!” เขาคลอเคลียข้า จนข้าต้องเผลอขำออกมา
“ทำบ้าอะไรของเจ้า?”
“เอ้า! ก็ทำให้คนคนนี้ยิ้มอย่างไงล่ะ ไม่ดีเหรอ? . . . โฮซึกิ”
“หือ?”
ถามอะไรเยอะแยะชะมัด
“ข้ารักเจ้านะ”
“อ๊ะ . . .”
แค่คำว่า ‘รัก’ อย่างเดียวที่เผลอทำให้ข้าคนนี้หวั่นไหว ดวงตาอันแหลมคมทั้งคู่ที่เหมือนกับข้านั้น . . . ทำให้หวั่นไหวจริงๆด้วยสิ แต่แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น . . . ที่ข้าคนนี้จะยอมเจ้านะ ฮาคุทาคุ
ฝั่งโมโมทาโร่
“ตายแล้วสิเรา . . .”
ระหว่างที่ข้ากำลังเก็บเกี่ยวผลไม้นั้น ก็ต้องเผลอไปได้ยินเสียงบทสนทนาอันหวานและเร้าร้อนของทั้งคู่เข้า ข้าก็พึ่งจะรู้ตัวว่าที่ทั้งคู่ทะเลาะกันก็เพราะ ‘รัก’ ก็เหมือนกับคนทั่วๆไปกล่าวนั่นแหละ
ยิ่งเกลียดกัน ยิ่งรักกัน
อา . . . มันก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ล่ะนะ แต่ว่าพอเจอทั้งคู่พูดกันแบบนั้นเข้า . . .
‘ข้ารักเจ้านะ’
มันก็อดที่จะเชื่อไม่ได้เลย ระหว่างที่ข้ากำลังเอาผลไม้เข้าไปข้างในนั้น ก็ได้พบกับท่านโฮซึกิที่อยู่ในชุดของท่านฮาคุทาคุ อา~~ . . . นี่มันฝาแฝดกันชัดๆเลยนี่ขอรับ
“กลับมาแล้วเหรอ?~ เถาทาโร่คุง”
“ขอรับ ท่านฮาคุมทาคุ”
“โอ้! ลูกสวยๆทั้งนั้นเลยนี่นา?”
“ก็ไม่รู้สิขอรับ เมื่อวานมันก็ไม่งามเท่าไหร่ แต่วันนี้มันแปลกๆน่ะครับ . . . ราวกับว่าเจ้าผลไม่พวกนี้ได้เจอสิ่งที่ดีๆเข้าน่ะขอรับ”
“สิ่งที่ดีๆ . . .” ท่านฮาคุทาคุหันไปมองท่านโฮซึกิพลางยิ้มหวานใส่จนท่านโฮซึกิต้องหันหน้าหนี
“ถ้างั้น . . . กระผมก็ตัวออกไปข้างนอกก่อนนะขอรับ”
“อื่อ~~~”
ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันนั่นแหละ ดีแล้ว
“ทำบ้าอะไรของเจ้า?”
คนตรงหน้าข้าถามพลางเอามือยันหน้าให้ข้าคนนี้ออกไป ก่อนที่ข้าจะได้ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มให้ชื่นใจหน่อย
หวา~~ . . . ปากร้ายจังเลยนะ
“ก็อย่างที่เถาทาโร่บอกนั้นแหละนะ อาจจะเป็นเพราะ ‘ความรัก’ นั่นแหละ”
“บ้า!”
“ฮึๆ แล้วเจ้าจะกลับเมื่อไหร่กัน?”
“จนกว่า . . . ข้าจะพอใจล่ะมั้ง?”
“พอใจ? . . . อ้อ พอใจที่อยู่กับข้าสินะ?”
แป๋ด~~!
หน้าแดงจนน่าหม่ำอีกแล้วนะ เจ้าเขาเดียว
“เอ๋ . . . นี่เรื่องจริงสินะ?” ข้าพูดพลางใช้มือทั้งสองยันโต๊ะนิดหน่อย
“แปลกรึไง?”
“ไม่หรอก เรื่องธรรมดานี่นา เนอะ!”
ข้าพูดจบแล้วยืนเงียบ สักพักคนข้างๆข้าก็คร่อมข้าอีกครั้งด้วยท่ายืนและยื่นหน้ามาหา ข้ายิ้มให้พลางหัวเราะในลำคอ
“ข้าจะบอกอะไรอีกอย่างนะ” คนตรงหน้าข้าพูดออกมาด้วยท่าทีที่ยังเก็บอารมณ์ไม่อยู่
“อะไรล่ะ?”
“หุบปากไป . . .”
“. . .” ข้าเงียบสักพักก็เข้าใจอะไรหลายๆอย่างว่า ‘คนคนนี้’ คิดจะทำอะไร? “รับทราบขอรับ~~”
เมื่อข้าคนนี้ได้เงียบลงไป ร่างบอบบางนี้ก็ได้ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากจูบอย่างแผ่วเบาและลึกซึ้ง ข้าพึ่งจะรู้ว่า . . . คนคนนี้เริ่มทำให้ข้า . . .
รักมากๆแล้วสิ
THE END
ผลงานอื่นๆ ของ นกน้อยในกรง ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นกน้อยในกรง
ความคิดเห็น