คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #45 : บทที่ 35 การทดสอบ
ซาวาดะ
สึนะโยชิไม่อยากที่จะพูดออกมาเลยว่าการถูกสองคนนั้นสนใจมันช่างเลวร้ายเพียงใด
เขาไม่คิดที่จะอยากจะนึกถึงช่วงเวลาแห่งความทรมานอันแสนยาวนานในอดีตที่อดีตเจ้าห่วยอย่างเขาผ่านพ้นมาเลยซักนิดเดียว...
กว่าที่เขา...กว่าที่เจ้าห่วยอย่างเขาจะกลายมาเป็นบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบผู้สมบูรณ์แบบและน่าภาคภูมิใจจะเกิดขึ้นมาได้นั้น
เขาทั้งสองต้องเป็นที่รองมือรองเท้าของปีศาจที่ถูกเรียกว่าครูพิเศษของเขาทั้งสองมานานมากกว่าห้าปีถึงจะสลัดคราบห่วยแตกและกลายมาเป็นแบบนี้ได้
บอสวองโกเล่รุ่นที่สิบหรือที่ถูกเรียกในวงการแบบย่อๆว่าเดชิโม่นั้นรู้สึกขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองอย่างสูงที่ช่วยให้เขาเติบโตมาได้ถึงเพียงนี้
แม้ว่าการสอนพิเศษของทั้งสองจะช่างหนักหนาสาหัส(เจียนตาย)มากเพียงใด
แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ช่วยขุดเจ้าห่วยที่ไม่ได้เรื่องซักอย่างคนนี้ขึ้นมาจากหลุมและเปลี่ยนไปเป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง
เขารู้สึกขอบพระคุณอาจารย์(ผู้บังเกิดเกล้า)ทั้งสองอย่างจริงใจ
เพียงแต่ว่า...
หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะหลีกหนีออกจากทั้งสองไปให้ไกลที่สุด(ยิ่งนอกโลกได้เลยยิ่งดี) อยากจะขอให้ตนไม่ต้องพานพบกับการฝึกสุดโหด(ร้ายและทารุณ)ของอาจารย์อีกต่อไป
ไม่ต้องประสบพบเจอกับหายนะเดินได้ที่ถูกเรียกว่าอัลโกบาเล่อรุณและอัลโกบาเลโน่หิมะอีกต่อไปได้ยิ่งดี
แม้จะรู้สึกปลื้มปริ่มในน้ำใจและความเมตตา(ที่แต่เดิมไม่เคยอยากจะรับ)ของโนโน่ผู้เป็นอดีตบอสวองโกเล่คนก่อนที่กรุณาส่งอาจารย์สอนพิเศษอันแสนดี(กัดฟันพูดอย่างสุดฤทธิ์)และเก่งกาจมาให้เจ้าห่วยผู้นี้ถึงสองคนด้วยกัน...
“เด็กหน้าตาน่ารักคนนั้น...ดวงกุดเหมือนชั้นเลยแฮะ...”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ช่างฟังดูเหือดแห้งเสียเหลือเกิน เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาขณะจ้องไปยังหญิงสาววัยเดียวกันที่แลดูอ่อนกว่าวัยมากพอๆกับเพื่อนสาวของเขาที่มีตำแหน่งมากมายเหลือจะกล่าวถึง
สึนะโยชิรู้สึกสงสารลิเลียเหลือเกิน...สงสารในสิ่งที่เด็กสาวจะต้องเจอในอนาคตไม่แตกต่างจากเขาในอดีตที่ต้องพบกับความหายนะจากวีรกรรมการกลั่นแกล้งของท่านอาจารย์ที่แสนน่าเคารพ(ที่ทั้งน่าหวาดผวาและหวาดกลัว)ทั้งสองคน
แม้ตนจะไม่ทราบถึงสาเหตุที่ลิเลียถูกเพชรฆาตที่ดูคล้ายจะมีมือมารส่งมาเกิดทั้งสองสนใจเข้าก็ตาม
แต่เขาก็ทำได้เพียงอวยพรให้เด็กสาวรอดตายและโชคดีผ่านพ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เท่านั้น....
“มีคำถามคะ!”
เสียงของลิเลียที่ดังขึ้นอย่างร่าเริงและสดใสผิดกับท่าทางของเหล่าผู้ที่รู้อนาคตที่จะต้องมาถึงแน่ๆที่แลดูซีดลงยิ่งกว่าเก่ายามเมื่อเห็นใบหน้าแสยะยิ้มร้ายคล้ายกำลังยินดีที่เหยื่อเต้นไปตามแผนของบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักฆ่าสุดแกร่งทั้งสอง
แต่พวกเขามั่นใจเลยว่าต่อให้เหยื่อ(?)อย่างลิเลียไม่ถาม
กรรมที่จะต้องเอ่ยถามเพื่อยกตัวอย่างให้คนอื่นได้ยินและได้รู้กันจะต้องตกไปที่พวกเขาไม่คนเดียวก็คนหนึ่งอยู่ดี!
แค่คิดก็อดกลัวกับแผนการของพวกนั้นไม่ได้แล้วสิ....
“ที่บอกว่าจะให้สิ่งที่ปรารถนา
ต่อให้เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหนแต่ถ้าอยู่ในขอบเขตที่วองโกเล่ทำได้ก็จะทำให้สมหวังได้สินะคะ!”
ลิเลียเอ่ยออกมาด้วยความคาดหวังอันมากล้น
ในยามนี้เธอไม่สนแล้วว่าจะถูกเปิดเผยตัวหรือสงสัยจากคนอื่นๆถึงเรื่องที่ว่าทำไมถึงได้ถามแบบนั้นออกมาหรือว่าจะเป็นการที่เธอเอ่ยถึงวองโกเล่ออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำเช่นนั้น
หากเป็นในสายตาของพวกนาซิสซ่าที่ไม่รู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับมาเฟียเลยคงจะคิดว่าวองโกเล่ที่เด็กสาวเอ่ยออกมาอย่างชัดเจนนั่นเป็นเพียงแค่ชื่อของโรงเรียนเท่านั้น แต่หากเป็นในสายตาของเหล่าคนในโลกมืดที่รู้จักกับวงการมาเฟียแล้ว...
การที่ลิเลียเอ่ยชื่อของแฟมิลี่มาเฟียที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้วก็เท่ากับบอกว่าตนเองรู้จักกับโลกมืดมาบ้างแล้ว!
“ถ้าหากมีความสามารถทางด้านใดด้านหนึ่งที่มากพอจะเข้าไปยังระดับสูงได้ ชั้นขอรับประกันว่าจะช่วยทำให้ความต้องการนั้นเป็นจริงเอง...”
เอาล่ะ...แสดงให้ชั้นเห็นสิว่าตัวจริงของเธอเป็นยังไงกันลิเลีย อัลเฟรด!
คุโรยูกิเอ่ยออกมาทั้งๆที่ในใจกำลังสังเกตถึงท่าทางและทุกๆอย่างของเด็กสาวร่างเล็กที่กำลังเป็นที่สนใจของนักฆ่าอย่างเธอและเขาเข้า แม้ในยามนี้ความสงสัยบางส่วนจะกระจ่างชัดจากการแสดงออกและท่าทางของอีกฝ่ายแล้วก็ตามที
หญิงสาวกระตุกยิ้มขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะละสายตาออกไปจากลิเลีย คุโรยูกิเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองให้กลับมาราบเรียบและนิ่งเฉยเช่นทุกทีพร้อมกับหันหลังเดินนำทางเหล่านักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งสิบห้าชีวิตไปยังสถานที่ทดสอบด้านต่างๆ
ที่ๆเธอนำทางมาก็คือห้องที่ดูโล่งๆและมีโต๊ะมากมายวางเรียงกันอยู่ เป็นห้องสอบที่ดูธรรมดาสามัญทั่วไปหากไม่นับว่าสถานที่แห่งนี้นั้นคือโรงเรียนสำหรับเหล่ามาเฟีย
ที่เรียกได้ว่านอกจากพวกคงแก่เรียนและเหล่าว่าที่บอสของแฟมิลี่ต่างๆแล้ว
วิชาการเป็นเพียงสิ่งไม่จำเป็นและน่าหลีกหนีทั้งสิ้น
แต่อย่างไรมาตรฐานของโรงเรียนที่คุโรยูกิสอนก็ย่อมต้องสูงตามคนคุมอยู่ดี ตั้งแต่ที่ยูกิมาคุมโรงเรียนกฏก็เข้มงวดขึ้นมากพอที่เหล่านักเรียนต้องโอดครวญและทำตามกัน(ด้วยความกลัวเกรงในอำนาจมืด)โดยไม่บ่นอะไรทั้งสิ้นออกมา
แล้วไหนจะยังรวมไปถึงระดับการเรียนของนักเรียนที่ดูจะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนขึ้นเยอะพอสมควรอีก...
“เริ่มจากการทดสอบด้านวิชาการทั่วไป มีวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์
ภาษาต่างๆและความรู้ในการปกครอง...”
ความจริงแล้วในแบบทดสอบทั่วๆไปของโรงเรียนก็ไม่มีความรู้ในการปกครองหรอกนะ
เพราะมันมักจะมีสอบในระดับของพวกที่สูงขึ้นไป
แต่เพราะความไม่แน่ใจว่าทุกคนจะเข้ามาอยู่ในระดับกลางๆได้จนครบหมดเลยต้องแทรกวิชาพวกนี้เพื่อเพิ่มระดับความสามารถโดยรวมเข้าไปหน่อย
สีหน้าของแต่ละคนหลังจากได้ฟังเรื่องของการทดสอบ พวกที่ฉลาดก็ไม่ได้มีสีหน้าที่แย่อะไร
แต่ถ้าหากว่าหันไปมองพวกที่มีดีด้านอื่นอย่างดันเต้หรือว่าเหมยฮัว พวกนั้นหน่ะหน้าซีดกันสุดๆ
“มีเวลาทั้งหมด2ชั่วโมงในการทำแบบทดสอบทั้งหมดที่วางอยู่บนโต๊ะ”
ยูกิไม่สนใจสีหน้าคล้ายกำลังอ้อนวอนเธออย่างสุดชีวิตของเหมยฮัวและดันเต้ เธอปรายตามองสองคนนั้นที่รู้ตัวดีว่าตนคงสอบตกแน่นอนด้วยสายตาคล้ายเย็นชาผสมก่ำกึ่งกับความว่างเปล่า
หญิงสาวไม่คาดคิดเลยว่าจะยังมีคนที่ห่วยแตกเท่าอดีตลูกศิษย์จอมห่วยของตัวเองได้อีก
ขนาดเธอที่ประเมินพวกนักเรียนลาฟลอร่าในระดับสูงพอสมควรแล้วยังไม่คาดเลยว่ากับอีแค่ข้อสอบสองร้อยข้อที่ให้เวลาทำถึงสองชั่วโมงจะทำให้พวกนั้นมีสีหน้าเหมือนกำลังไปรบมาแบบนั้น
เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายหลังจากที่หมดเวลาทำการทดสอบด้านวิชาการและเก็บข้อสอบครบหมดสิบห้าคนแล้ว ดูจากสีหน้าที่แตกต่างไปของแต่ละคนแล้ว....
“มีเวลาให้ครึ่งชั่วโมง
จะไปห้องน้ำหรือจะไปซื้อของตามทางก็ได้ตามสบาย แต่ต้องกลับมารวมตัวกันตรงนี้ให้เรียบร้อยตอนเก้าโมงครึ่ง เราจะไปทำทดสอบด้านต่อไปกัน”
ดูท่าว่าการจะให้ทำการทดสอบต่อไปในสภาพแบบนี้คงอันตรายเกินไปล่ะมั้ง....?
ตื่นกันตั้งแต่ตีห้าครึ่ง กินข้าวจนถึงหกโมงเกือบๆจะเจ็ดโมงแล้วมาถึงที่นี่ทันทีตอนเจ็ดโมงเช้ารวมถึงทำข้อสอบอีกสองชั่วโมง เพราะแบบนั้นมันจึงทำให้สภาพของแต่ละคนดูไม่ต่างอะไรกับซากศพเดินได้ในหนังเลยด้วยซ้ำ
คุโรยูกิแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ประเมินพวกนั้นผิดไปเท่าไหร่ แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะเอาตามจริงแล้ว...การทดสอบหน่ะมันเริ่มตั้งแต่เริ่มวันแล้วต่างหากล่ะ
หญิงสาวหันไปจ้องตากับนักฆ่าอันดับหนึ่งผู้เป็นอดีตคู่หูของตนก่อนจะแสยะยิ้มให้กัน ด่านทดสอบต่อใบเป็นส่วนของรีบอร์นที่จะเป็นคนคุม...ไม่ใช่เธอซักหน่อย
การเอาตัวรอด
การแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่างๆและวิชาที่แสดงความสามารถพิเศษของตัวเองออกมาไม่ว่าจะด้านไหนๆก็ตาม อาหาร
ขนมหวาน
การประดิษฐ์หรือแม้กระทั่งการต่อสู้...
ทั้งหมดนั่นรีบอร์นจะเป็นคนคุมแต่ว่าถ้ามีคนที่เลือกหัวข้อการต่อสู้ล่ะก็ เธอจะมาเป็นคนคุมอีกคน...
“เห...ไม่น่าเชื่อเลยว่าสองคนนั้นจะเลือกการต่อสู้แบบนี้”ยูกิพูดขึ้นหลังจากที่ได้ฟังเรื่องน่าสนใจที่รีบอร์นบอกกับเธอผ่านทางโทรศัพท์เมื่อกี้
ในตอนนี้เธอกำลังนั่งทำงานอยู่ที่ห้องของผู้อำนวยการเพื่อรอช่วงทดสอบการต่อสู้ที่จะเป็นรายการสุดท้ายในช่วงค่ำ แม้ความจริงจะดูที่นี่ผ่านกล้องวงจรปิดเลยก็ได้เถอะนะ แต่ยูกิก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องเพื่อมุ่งหน้าไปยังสนามที่ใช้ต่อสู้โดยเฉพาะ
ลิเลียกับคริสโตเฟอร์ สำหรับคริสโตเฟอร์แล้ว....ในวิชามาเฟียที่เรียนเกี่ยวกับการต่อสู้และยิงปืนแล้วอีกฝ่ายก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร
แต่ว่ามันก็ยังไม่ดีพอที่จะเอาไปใช้สู้จริงอยู่ดี
มันอยู่แค่ในระดับที่พอเอาตัวรอดได้นิดๆหน่อยๆเท่านั้น
ส่วนลิเลีย จากข้อมูลที่ได้มาแล้วนอกจากเจ้าตัวจะหนีการเรียนภาคปฏิบัติมาตลอดและมีร่างกายที่อ่อนแอไม่เหมาะกับการต่อสู้แล้วยังไม่มีความสามารถในด้านนี้เป็นพิเศษอะไร ดูเผินๆก็คงจะเป็นแค่เด็กผู้หญิงร่างกายอ่อนแอธรรมดาๆที่หาได้ทั่วไป
หากไม่ใช่ว่ายูกิและรีบอร์นที่เป็นคนคุมสอบจะสนใจและสงสัยในตัวตนของลิเลียเข้า....
“....”
ภายในห้องโถงโล่งๆขนาดใหญ่ที่เหมือนกับสนามกีฬาในร่ม
แม้จะมีคนในนั้นกว่ายี่สิบชีวิตก็ตาม...แต่บรรยากาศภายในกับกดดันและเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงใดๆที่เล็ดรอดออกมาจากปากของเหล่าคนที่อยู่ในนั้นที่กำลังเฝ้ามองไปยังสนามเบื้องล่าง
สนามหรือพื้นโล่งอันไร้ซึ่งสิ่งกีดขวางใดๆมีร่างของมนุษย์อยู่ถึงสามคนด้วยกัน
ทั้งสามคนในนั้นเป็นคนที่เหล่าคนด้านบนที่มีสถานะเป็นผู้ชมต่างรู้จักกันดี
สองคนแรกคือเพื่อนร่วมสถาบันลาฟลอร่าที่มาแลกเปลี่ยนยังโรงเรียนมาเฟียแห่งนี้อย่างคริสโตเฟอร์ ริชาร์ดและลิเลีย อัลเฟรด...ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่ในด้านตรงข้ามก็คือคู่ต่อสู้ที่ถูกรีบอร์นและคุโรยูกิเรียกออกมาเพื่อการทดสอบ
เป็นนักเรียนร่วมสถาบันเดียวกันกับทั้งสองคนที่ไม่มีใครทราบว่าเหตุใดจึงถูกเรียกมาใช้เป็นผู้ทดสอบและยังเป็นถึงคนที่มีความสัมพันธ์กับสองคนนี้อย่างซับซ้อน...
“ถึงจะไม่อยากสู้กับทั้งสองคนก็เถอะ....
แต่เพราะนี่เป็นคำสั่งของยูกิจัง เพราะงั้นกรุณาช่วยสู้แบบกะจะฆ่ากันด้วยนะคะ!”
ฟุจิวาระ ยูริคือคู่ต่อสู้ของคนทั้งสองคน...
ใบหน้ายิ้มแย้มที่ดูราวกับน้ำผึ้งอาบยาพิษถูกส่งให้กับคริสโตเฟอร์ผู้เป็นอดีตคนรักที่ปัจจุบันมีสถานะใกล้เคียงกับเพื่อนและลิเลียผู้เป็นถึงอดีตศัตรูที่เคยสุดแสนจะเกลียดและโกรธแค้น....
แม้ในตอนนี้จะมีสถานะคล้ายเพื่อนและไม่เหลือซึ่งอารมณ์เหล่านั้นแล้วก็ตาม
แต่ในสายตาของพวกเขาที่มีต่อกันและในสายตาของคนภายนอกแล้ว.... มันยังคงเป็นความสัมพันธ์ที่อยู่ในสถานะที่ไม่อาจจะเข้าใจได้อยู่ดี
ดวงตาของยูริคล้ายกับว่าไม่ใช่เธอคนเดิม
ใบหน้าที่แม้จะประดับไปด้วยรอยยิ้มหากแต่มันกลับชวนให้รู้สึกถึงความกดดันคล้ายกับว่าพวกเขาพบเจอกับเพชรฆาตที่สุดแสนจะอันตรายตรงหน้านี้
มันช่างแตกต่างกับยูริที่พวกเธอรู้จักมากจริงๆ!!
แม้กระทั่งคนข้างบนที่กำลังชมสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็ยังอดคิดแบบนั้นขึ้นมากันไม่ได้
พวกเขาทั้งหมด(ไม่นับพวกเอสเมอรันด้า)ไม่เคยเห็นหรือพบเจอกับท่าทางเช่นนี้เลยซักครั้ง
“ที่บอกว่าให้สู้แบบกะจะฆ่านี่...จริงงั้นเหรอ?”โรซารี่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นๆเล็กน้อยเพราะว่าเธอกำลังพยายามที่จะอดกลั้นความรู้สึกหวาดกลัวที่จู่ๆก็ผุดขึ้นมาในจิตใจของเธอ
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนที่พูดออกมาว่า
‘ฆ่า’
แบบง่ายๆตรงนั้นจะเป็นยูริที่ทั้งกลัวเลือดและเอะอะก็จะตัดนิ้วตัวเองในตอนเด็กๆคนนั้น แม้จะอยู่ไกลออกไปพอสมควรทำให้ไม่เห็นว่าข้างล่างพูดอะไรกันบ้างก็ตาม
แต่ด้วยเพราะด้านบนมีทีวีที่ถ่ายเหตุการข้างล่างไว้ผ่านกล้องทำให้พวกเธอทั้งหมดเห็นและได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
แม้ก่อนหน้านี้เธอจะสงสัยว่าทำไมคนที่ต้องไปทดสอบสองคนนั้นจะเป็นยูริก็ตาม
แต่ในเวลานี้โรซารี่ก็คล้ายจะเข้าใจและไม่เข้าใจในเรื่องที่สงสัยไปพร้อมๆกัน
อาจเพราะบรรยากาศและท่าทางที่ผิดกับยูริในยามปกตินั่นก็ได้...
“ใช่แล้ว
แต่ก็คงเป็นยูกิที่สั่งให้ยูริทำแบบนั้นอีกนั่นละ”
มาริโอน่าตอบคำถามของโรซารี่พลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมหัวหลังมองท่าทางของยูริที่คล้ายจะเหมือนกับอาจารย์ของเจ้าตัวขึ้นมาทุกทีด้วยความเหนื่อยทั้งใจ เหนื่อยทั้งกาย...
หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีเงินยาวจ้องมองไปที่มอนิเตอร์พร้อมกับเหงื่อกาฬอันเกิดจากความเครียดที่ไหลออกมาทางหน้าผากหลังพบว่าเจ้าสิ่งที่ยูริเอาออกมามันคืออะไร เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายูกิจะให้ยูริเอาจริงกับสองคนนั่นถึงขนาดให้ใช้ดาบแบบนั้น!
“พวกเธอตั้งใจจะให้ยูริฆ่าสองคนนั้นรึไงยูกิ!
รีบอร์น!”
ไม่ได้มีเพียงแค่เสียงของมาริโอน่าคนเดียวที่ตะโกนถามผู้คุมสอบทั้งสองอย่างคุโรยูกิและรีบอร์นเท่านั้น ทั้งเอสเมอรันด้า เรโอนี่และยังรวมไปถึงสึนะที่ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างเอ่ยถามกับคนทั้งสองด้วยความตื่นตระหนกและกังวลถึงสถานการณ์เบื้องล่าง
แม้ปกติแล้วเรโอนี่และมาริโอน่าจะเป็นคนที่เยือกเย็นเป็นปกติกันทั้งสองคนอยู่แล้ว
แต่ในสถานการณ์แบบนี้พวกเธอกลับยังใจเย็นและสงบนิ่งอย่างเคยต่อไปไม่ได้เมื่อเห็นว่ายูริตั้งใจจะเอาจริงกับคริสโตเฟอร์และลิเลีย
ปัง!!
เดลฟีโน่ตบโต๊ะเสียงดังจนทำให้คนที่พึ่งตะโกนอย่างตื่นตระหนกอยู่เมื่อกี้นี้เงียบเสียงกันลง หญิงสาวใช้ดวงตาสีอำพันจับจ้องไปยังเหล่าคนที่แหกปากโวยวายอยู่เมื่อครู่อย่างเย็นชาและแฝงไปด้วยความหงุดหงิดและรำคาญอยู่ลึกๆ
“จะเงียบกันได้รึยัง?”
เดลเอ่ยออกมาด้วยเสียงเย็นชาที่ช่างหนาวจับขั้วหัวใจได้ไม่แพ้กันกับคุโรยูกิยามหงุดหงิด เธอปรายตามองไปยังเหล่าคนทั้งสี่ที่คล้ายจะพึ่งสงบสติอารมณ์ได้อยางไม่ชอบใจก่อนจะหันไปจดจ่อกับการต่อสู้ที่ใกล้จะเริ่มต้นขึ้นอย่างตั้งใจอีกครั้ง
ในหมู่เพื่อนแล้ว คนที่อยู่จุดสูงสุดย่อมต้องเป็นยูกิ ส่วนอันดับที่รองลงมาก็คือมาริโอน่า เดลฟีโน่
เรโอนี่และเอสเมอรันด้า...
เพียงแต่ความจริงแล้วหากลองเทียบดูกันจริงๆก็จะพบว่าเดลฟีโน่แข็งแกร่งกว่ามาริโอน่าเพราะอย่างไรเสียก็เป็นถึงลูกสาวบุญธรรมของสเปลบี สควอโล่คนนั้น
จะให้ไม่เก่งดาบก็คงกระไรอยู่ล่ะนะ...
___________________________________________________________________________________________
หลังจากที่ผ่านมานานแสนนาน ในที่สุดไรท์ก็มาอัพได้.... (จะตายแหล่มิตายแหล่แล้ว)
ปัจจุบันยังคงเครียดอยู่กับการสอบงานโปรเจคคะ ทั้งต้องพรีเซ้นต์ต่อหน้าอาจารย์แล้วก็เพื่อนๆเป็นภาษาไทยกับอังกฤษ ไหนจะยังต้องออกแบบหน้าปกกับพื้นหลังอีก... ไรท์พึ่งอยู่ปวช.1เองนะ! เราพึ่งจบม.3มายังไม่ถึงปีเลย! เอาแต่ให้ทำงานงกๆอีก! อะไรคือเก็บชั่วโมงสมรรถนะ80ชั่วโมงคะ!? ถึงจะอยู่สาขาคอมพิวเตอร์กราฟิกแต่จะไปให้หางานมาจากไหนเยอะแยะขนาดนั้นกัน-่ะคะ! แค่ออกไปถ่ายรูปข้างนอกก็ได้แค่ชั่วโมงสองชั่วโมงเองนะ!!(แบบว่าเก็บกดมาเยอะเลยอยากระบายให้รีดฟังกันบ้างอ่ะคะ) แต่แบบว่าเค้าอยากจะร้องไห้จริงๆนะ....
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามก็จะพยายามมาอัพให้ได้เลยล่ะคะ แต่บางทีอาจจะผุดมาแต่ตอนพิเศษ(?)ก็ได้...
ปล.หากว่ามีรีดซักคนที่อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกของไรท์บ้างคงจะดีนะคะ....(ปัจจุบันกำลังจิตตกเพราะใกล้สอบพรีเซ้นต์)
ความคิดเห็น