ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic KHR X Laflora] revenge of the sun

    ลำดับตอนที่ #44 : Special 4 Lilia x Christopher - 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.67K
      24
      17 พ.ย. 60

    จู่ๆลิเลียก็ขาดการติดต่อไป...

    คริสโตเฟอร์ที่ลงมาจากเรือสำราญที่ถูกใช้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนโนอาห์ลองถามกับพวกนาซิสซ่าดูแล้ว  แต่ดูเหมือนว่าจะลาหยุดแบบไม่มีกำหนด  โทรศัทพ์ก็ไม่รับ  เมลล์ก็ไม่ตอบ  เพราะแบบนั้นคริสโตเฟอร์เลยได้แต่เป็นห่วง  กลัวว่าลิเลียจะถูกใครลักพาตัวไป

    เพราะลิเลียไม่ว่าจะนิสัยหรือท่าทาง(และร่างกาย)ก็ดูเหมือนเด็กมากกว่าเพื่อนๆคนอื่นๆ  ลิเลียเป็นเด็กใสซื่อ ตามคนไม่คอยจะทันที่ชอบตามไลลาต้อยๆเหมือนลูกเป็ดเดินตามแม่เป็ดเลยด้วยซ้ำ

    อีกอย่าง....

    ตอนช่วงปิดเทอมลิเลียก็ส่งเมลล์แปลกๆมาให้อยู่หลายฉบับ  เขาอยากจะถามดูว่ามันคืออะไร  แล้วที่เขียนมามันเป็นความจริงรึเปล่า?

    ตอนแรกๆที่อ่านไปมันก็โกรธสุดๆเพราะคิดว่าเป็นเรื่องจริงนั่นล่ะนะ...  ก็ถึงขนาดที่เขาเกลียดลิเลียไปเลยนี่คงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอยู่แล้ว  ตอนช่วงแรกๆไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไม่ได้รับการติดต่ออะไรจากลิเลียอีกเลยหลังจากได้รับเมลล์พวกนั้น  แต่พอหลังจากเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ถึงตั้งใจจะถามดูเลยโทรไปหาแต่ก็ไม่มีใครรับเลย

    พอโทรไปไม่รับหรือส่งเมลล์ไปก็ไม่ตอบ  ครั้นจะไปถามพวกโรซารี่ก็คิดได้ว่าบางทีลิเลียคงต้องการเวลากับตัวเองพอคิดงั้นเขาเลยได้ใช้เวลากับตัวเองไปพักใหญ่เหมือนกัน  ให้เวลาตัวเองคิดไปอีกยาวๆจนความรู้สึกโกรธหมดไป

    เขาเลยหันมาลองทบทวนเรื่องของเธอดูบ้าง  ลองคิดเพื่อเข้าใจความรู้สึกหรือสาเหตุของเธอดูบ้าง...

    คริส นี่นายเป็นไข้....สินะ...?กียุลถามเพื่อนสนิทอย่างไม่ค่อยจะมั่นใจเมื่อเห็นว่าบนโต๊ะของจอมขี้เกียจได้โล่คนนี้เต็มไปด้วยหนังสือมากมาย  แถมยังเจ้าตัวยังถือหนังสืออยู่อีกเล่มอีก...

    วันนี้พายุเข้าชัวร์ๆ!

    “youจะบ้ารึไงกียุล?  แค่Iอ่านหนังสือก็ถามว่าเป็นไข้แล้วคริสโตเฟอร์พูดด้วยความไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่ถูกเพื่อนสนิทมาว่าแบบนี้ 

    เพราะมันเหมือนถูกด่ากลายๆว่าเขามันเป็นคนขี้เกียจนั่นล่ะ!

    โทษทีๆ  ชั้นแค่เห็นว่ามันแปลกที่นายมาอ่านหนังสือเท่านั้นเอง

    แค่มีเรื่องที่อยากรู้เท่านั้นเอง....

    พอมาตอนนี้คริสโตเฟอร์ถึงได้รู้ว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับลิเลียเลย  เขาไม่รู้เลยด้วยว่าทำไมลิเลียถึงได้ชอบตามไลลาแบบนั้น  ไม่รู้ว่าทำไมลิเลียถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องสมัยเด็กให้ฟัง

    อาจจะมีเล่าให้ฟังบ้างแต่ว่ามันก็มีแค่ตอนที่พูดถึงพี่สาวของตัวเองเท่านั้น...

    คริสโตเฟอร์ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนเขาถึงจะสามารถเข้าใจลิเลียได้  พอลองไปปรึกษากับอาจารย์ดูก็เลยได้รายชื่อหนังสือจิตวิทยามาให้ตามหาอีกเพียบ(ก็ที่กองอยู่บนโต๊ะเนี่ยล่ะทั้งหมดที่หามาได้)  เขาอ่านไปได้เล่มสองเล่มก็รู้สึกติดลมอ่านต่ออีกยาวจนสุดท้ายต้องไปทำเรื่องยืมท่ามกลางสายตาทึ่งๆเหมือนไม่อยากจะเชื่อของบรรณารักษ์ห้องสมุด

    ก็นะ...  คริสโตเฟอร์ก็พอรู้ตัวดีอยู่หรอกว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบขยับร่างกายมากกว่านั่งนิ่งๆอ่านหนังสืออย่างเดียว  การเรียนของเขาก็ไม่ได้ตกต่ำอะไร  ออกจะสูงพอสมควรด้วยซ้ำ  เพราะเขามีพวกเพื่อนๆที่เรียนได้อันดับหนึ่งและสองช่วยกันติวให้ช่วงสอบทุกครั้งแถมตอนช่วงสอบเขาก็พยายามอ่านหนังสืออย่างหนักจนถึงขนาดเก็บเนื้อหาให้หนังสือไปฝันเลย

    เพราะเขามีเวลาสงบสติอารมณ์แล้วทบทวนตัวเองมานานถึงได้ไม่ได้เกลียดอะไรลิเลียแล้ว  ความจริงคนที่ผิดก็ไม่ใช่แค่ลิเลียทั้งหมดด้วย  เขาเองก็ผิดเหมือนกันที่ทำแบบนั้นกับยูริ  แต่เขาคิดว่าตัวเองโกรธลิเลียมากกว่าที่ส่งเมลล์มาแทนที่จะมาบอกด้วยตัวเอง

    ช่วงเทอมนั้นทั้งเทอมดูเหมือนคริสโตเฟอร์จะนิ่งซะจนผิดปกติ  มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกและเป็นห่วงของทุกคนมากเพราะคริสโตเฟอร์มันพูดมากและร่าเริงตลอด  แต่ตอนนี้เหมือนเอาแต่คิดอะไรอยู่คนเดียวตลอดเวลา  พวกเพื่อนสนิทอย่างพวกกียุลก็อยากจะถามเหมือนกัน  แต่พอถามแล้วไม่ได้คำตอบมากๆเข้าเลยเลิกถามกัน

    เขายังชอบยูริจังอยู่...  นั่นเป็นสิ่งที่เขามั่นใจหลังจากที่ทบทวนกับตัวเองมาตลอดทั้งเทอม  แต่ว่าสำหรับคนที่ทำร้ายเธอไปตั้งขนาดนั้นคงไม่มีหวังแล้วล่ะ  อีกอย่างมันก็ดูจะทำร้ายลิเลียไปด้วย

    สำหรับเขาแล้วโดยส่วนตัวถึงจะไม่รู้ว่าทำไมลิเลียถึงทำแบบนั้นแต่ก็คิดว่าเธอคงจะรักเขามากจริงๆ  แต่สุดท้ายก็คงรู้สึกผิดเลยบอกความจริงกับเขา...

    ตลอดเวลาที่อยู่กับลิเลียเขาคิดว่าตัวเองทำผิดต่อเธอมามากมายจริงๆ  ถึงจะคิดว่าชอบลิเลียแต่บางครั้งเขาก็ยังมองหายูริอยู่เรื่อยๆ  บางทีลิเลียคงจะรู้แต่ไม่พูดอะไรออกมา...  เขามองลิเลียเป็นเหมือนคนที่ต้องปกป้อง  คงคล้ายๆน้องสาวล่ะมั้ง?

    ลิเลียเป็นเด็กดีแถมยังน่ารัก  สำหรับเรื่องเขารู้มาตั้งแต่ก่อนจะคบกันอีกด้วยซ้ำ  เธอชอบตามติดไลลา  เลียนแบบท่าทางของไลลาจนเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆเลยด้วยซ้ำ  แถมนิสัยหลายๆอย่างในตอนนี้ของลิเลียก็ได้มาจากไลลาไปซะเยอะเลยด้วย

    พอลองมาคิดๆดูแล้วลิเลียคงเป็นเด็กมีปัญหาที่ขาดความรักจากครอบครัวล่ะมั้ง?  นิสัยเหมือนเด็กตัวเล็กๆแถมยังดูไร้เดียงสา(?)

    เขาตั้งใจจะไปถามทุกๆอย่างกับลิเลียเลยไปที่อิตาลีในช่วงปิดเทอม  ยังดีที่เขาพอจะจำที่อยู่ของลิเลียได้เลยทำให้ขึ้นเครื่องบินมาอิตาลีแล้วไปขอพักที่บ้านเจ้าดันเต้ก่อนจะโบกแท็กซี่ให้พามาไปที่บ้านของลิเลียได้เลย

    ติ่งต่อง...

    คริสโตเฟอร์เดินลงจากรถแท็กซี่แล้วกดออดที่อยู่ตรงแถวๆประตูคฤหาสน์  เขาไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่บ้านของลิเลียเป็นคฤหาสน์แบบนี้  เพราะบ้านของเขาก็เป็นคล้ายๆกันแถมลิเลียก็ยังเคยเปรยๆมาอีกด้วยว่าบ้านของตัวเองเป็นคฤหาสน์

    [มาพบใครคะ?]

    เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่คริสโตเฟอร์คาดว่าน่าจะเป็นแม่บ้านของคฤหาสน์หลังนี้ดังขึ้นจากลำโพงใกล้ๆออดหน้าบ้าน

    คฤหาสน์หลังนี้ใช่บ้านของลิเลียรึเปล่าครับ?

    [คุณคงหมายถึงคุณหนูลิเลีย?]

    ครับ  ผมเป็นแฟนของเธอชื่อว่าคริสโตเฟอร์  ริชาร์ดครับ

    [....เข้าใจแล้วคะ  ดิชั้นจะเปิดประตูให้นะคะ]

    สรรพนามแทนตัวของเขาใช้เฉพาะคนรุ่นราวคราวเดียวกัน  เพราะงั้นคงไม่แปลกอะไรที่เขาจะดูสุภาพกว่าปกติอย่างแทนตัวว่าผมแล้วลงท้ายว่าครับแบบนี้

    หลังจากที่คุยกับคุณแม่บ้านได้ไม่นานก็มีผู้หญิงในชุดเมดเดินมาเปิดประตูแล้วพาเขาเข้าไปข้างใน  พวกเขาคุยกันนิดหน่อยเกี่ยวกับลิเลียและสาเหตุที่มาหาแล้วสุดท้ายคริสโตเฟอร์ก็เลยมาจบอยู่ที่ห้องรับแขกโดยมีเมดคนใหม่มารินชาเติมขนมให้

    ท่านคริสโตเฟอร์สินะขอรับ?

    จู่ๆก็มีผู้ชายที่มีใบหน้าเรียบนิ่งในชุดพ่อบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเขาแบบนั้น  เขาพยักหน้าตอบกลับแล้วคุยกับเขาไปนิดๆหน่อยๆ  คริสโตเฟอร์เหลือบมองคนข้างๆที่มีกล้ามเนื้อส่วนใบหน้าเป็นอัมพาตนั่งนิ่งอยู่ข้างๆเขาด้วยความอึดอัด 

    -แล้วลิเลียไปไหนงะ-งั้นเหรอ...ครับ?

    จู่ๆคริสโตเฟอร์ก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการพูดคุยกับคนข้างๆที่พูดเฉพาะเวลาตอบคำถามเท่านั้นหรือว่าเป็นเพราะใบหน้าราบเรียบที่ไม่เปลี่ยนไปเลยรึเปล่าเขาก็ไม่ทราบเลยจริงๆว่าทำไมตัวเองถึงดูเกร็งขึ้นมาแบบนั้น 

    ธุระหน่ะขอรับ

    และรอสหรือชายในชุดพ่อบ้านคนนั้นก็ตอบคริสโตเฟอร์แทบจะในทันทีที่เขาพูดจบประโยคเลยด้วยซ้ำ  เขาเลยได้แต่สรุปในใจเลยว่าควรจะปล่อยเวลาผ่านไปท่ามกลางความอึดอัดเหล่านี้

    ผ่านมาไม่รู้ว่ากี่ชั่วโมงแล้วที่คริสโตเฟอร์อยู่แต่ห้องรับแขกกับรอส  เขานั่งรอลิเลียที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะทำธุระเสร็จอยู่โดยไม่ออกไปไหนนอกจากห้องน้ำ  ไม่ขอกลับก่อนหรือว่าขอให้รอสพาไปหา  เขาทำเพียงแค่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกเงียบๆอย่างอึดอัดเท่านั้น

    ทำไม...ถึงไม่ยอมแพ้ล่ะขอรับ?สุดท้ายแล้วรอสก็ถามคริสโตเฟอร์ออกไปอย่างสงสัย

    ยอมแพ้อะไรล่ะครับ?

    งั้นกระผมขอเปลี่ยนคำถาม  ทำไมคุณถึงไม่กลับไปหรือจะไปหาท่านลิเลียด้วยตัวเองกัน?

    ไม่รู้...

    ใบหน้าของรอสที่ราบเรียบเปลี่ยนไปเล็กน้อย  เขาขมวดคิ้วและหรี่ตาลงจนสังเกตได้อย่างชัดเจนว่ากำลังสงสัยกับคำตอบของคริสโตเฟอร์ไม่มากก็น้อย

    ผมไม่ใช่คนฉลาดอะไร...  แต่ผมแค่...ผมแค่มาที่นี่เพื่อจะมาถามเรื่องที่กำลังสงสัยอยู่กับลิเลียเท่านั้น...

    เขาไม่รู้...เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ทำอย่างที่คุณรอสบอก  เขาคิดแค่ว่าต้องรอต่อไปเรื่อยๆจนกว่าลิเลียจะมาเท่านั้น  คริสโตเฟอร์รู้ตัวดีว่าตัวเองนอกจากหน้าตาแล้วก็ความสามารถทางกีฬาตัวเองก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรเหมือนกับพวกเพื่อนสนิท

    เขาไม่ได้เรียนหนังสือเก่งอะไร  เขาเรียนจบมาได้ก็เพราะเพื่อนๆช่วยติวให้  ไม่ได้เก่งอะไรเลย...

    คุณต้องกลับแล้ว...คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้

    รอสพูดออกมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด  ความจริงแล้วเขาก็อยากจะคุยกับคนรักของท่านลิเลียต่ออีกซักหน่อยอยู่หรอก  แต่ตอนนี้มันอันตรายแล้ว  ถ้าไม่รีบพาหนีออกไปหรือทำให้เขาได้รับบาดเจ็บขึ้นมาเขาคงไม่มีหน้าไปพบเธอได้แน่ๆ

    เขารู้  รู้ว่าเจ้านายของเขาอย่างท่านลิเลียรักคนๆนี้มากเพียงใด  ทุกการกระทำของเธอบอกออกมาหมดแล้วว่าคิดถึงและรักใครในตัวคนที่เขากำลังจุงมือพาออกไปที่ทางลับคนนี้มากเพียงไร  แต่เพราะรักมาก...และยังทำผิดต่อคนๆนี้  เธอจึงไม่กล้าที่จะออกมาเจอหน้าทั้งๆที่วันนี้ไม่ได้มีธุระที่ไหน 

    ก่อนที่จะมาท่านลิเลียบอกเรื่องทุกอย่างให้เขารู้หมดแล้ว...

    ทั้งเรื่องที่เธอทำให้คนสองคนที่รักกันแตกแยกเพื่อให้ได้คนๆนั้นมา  ทั้งเรื่องที่เธอแกล้งคนรอบข้างและยังรวมถึงอีกหลายๆเรื่องที่เธอทำผิดไป

    อ้ากกก!!”

    รอสเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงร้องของคนด้านหลัง  เขารีบหันไปมองคริสโตเฟอร์โดยไม่ลืมที่จะหยิบปืนขึ้นมาเตรียมลั่นไก  แต่ก็ต้องชะงักไปหลังพบว่าคนที่เขาต้องปกป้องในยามนี้กำลังถูกศัตรูจับตัวไว้และกำลังจะถูกฆ่า

    ภายในหัวของรอสในยามนี้เต็มไปด้วยความคิดที่จะต้องปกป้องชายหนุ่มผู้เป็นคนที่เจ้านายรักเท่านั้น  เขาไม่ลังเลเลยที่จะพุ่งเขาใส่ศัตรูอย่างไม่คิดชีวิต  เขาเพียงต้องการจะปกป้องสิ่งสำคัญของเธอคนนั้น...คนที่เป็นเจ้าของครอสเซเรียเท่านั้น

    ต่อให้ต้องตายไปเพื่อปกป้องคนสำคัญของเธอ...เขาก็ขอยอมตาย!

    บ้าเอ้ย...

    รอสสบถออกมาเมื่อพบว่าตัวเองเริ่มขยับตัวไม่ได้เพราะบาดแผลสาหัสที่มีอยู่เต็มตัว  ถึงจะแย่งคริสโตเฟอร์คืนมาได้แต่ดวงตาของเขาก็ดูจะบอดไปแล้ว  แถมยังถูกยิงที่หัวใจอีก

    เขาคงไม่มีหน้าไปพบท่านลิเลียอีกแล้วสิเนี่ย...

    รอส!”

    ท่าน...ลิเลีย?

    ในตอนที่สติของเขาเริ่มที่จะเลือนลางจนแทบจะหายไปก็ได้ยินเสียงของลิเลีย  สมกับเป็นท่านลิเลีย...  คงจัดการพวกศัตรูไปแล้วสินะ  ส่วนเขาหน่ะคงไม่รอดแล้วล่ะ...  ทั้งตัวโดนยิงจนจะพรุนหมดแล้ว  ยังสงสัยเลยด้วยซ้ำที่ตัวเองยังรอดมาได้ถึงขนาดนี้ทั้งๆที่คงไม่มีใครขยับตัวได้ในสภาพนี้แล้วแน่ๆ

    ปาฏิหาร์จริงๆที่เขายังหัวใจเต้นอยู่...  หัวใจ?  จริงสิ!

    -ได้โปรดเอาหัวใจของกระผม....ดวงตาของกระผม...ได้โปรดมอบให้กับเขา...

    หากทำสำเร็จเด็กคนนั้นคงจะรอดและการตายของเขาก็จะไม่เสียเปล่า  ยังไงซะเด็กนั่นก็เป็นถึงคนที่ท่านลิเลียรัก  ถ้าเป็นไปได้เขาก็ยังอยากจะทำหน้าที่ผู้พิทักษ์วายุต่ออีกล่ะนะ

    แต่คงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ...

     

     

    ระหว่างที่เขากำลังถูกคุณรอสพาออกไปที่ไหนซักแห่งก็ถูกใครก็ไม่รู้มาฟันที่ตา  เขาร้องออกมาแล้วดูเหมือนจะถูกตัวการที่ทำจับตัวไป  รอบข้างกลายเป็นความมืดไปหมด  เขามองไม่เห็นแต่ก็ได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของคุณรอส  กลิ่นสนิมและกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว

    มันเป็นความผิดของเขาเองที่หยุดเดินแล้วหันไปมองข้างหลัง  เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ว่ามันคงเป็นเรื่องเลวร้ายมากจริงๆ  เขาได้ยินเสียงปืนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เสียดแทงที่กลางอก  มันอาจจะเป็นเพียงแป๊บเดียวแต่สำหรับเขาแล้วมันยาวนานมากเลยจริงๆ

    พอมารู้สึกตัวอีกทีเขาก็นอนอยู่บนเตียงของที่ไหนซักแห่งซะแล้ว  ก่อนหน้านั้นเขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่

    คุณหลับไปหกวันเต็มเลยนะค่ะ

    เสียงที่เอ่ยกับเขาเป็นเสียงที่เขาไม่ได้ยินมานาน  เสียงของลิเลียนั้นดูแหบแห้งมากๆ  เขาคิดว่าเธอคงร้องไห้อย่างหนักแน่ๆ  ในตอนนี้เขามองเห็นแค่ความมืดจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่  แต่ว่าเขามั่นใจว่าเธอต้องร้องไห้อยู่แน่นอน  เพราะมันมีน้ำตาหยดใส่มือของเขาที่ถูกเธอกุมอยู่

    ตลอดเดือนที่ผ่านมาลิเลียทำหน้าที่ตอบคำถามทั้งหมดกับเขาได้อย่างดี  เธอไม่ปิดบังเลยด้วยว่าเพราะอะไรและทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น  ทำไมถึงหยุดเรียนหรือว่าทำไมถึงส่งข้อความมาหาเขา

    ด้วยร่างกายที่ยังไม่หายดีทำให้คริสโตเฟอร์ต้องอยู่แต่บนเตียงนานกว่าครึ่งเดือนถึงจะถูกพาขึ้นรถเข็นออกไปนอกห้องได้  น่าแปลก...ทั้งๆปกติเขาเป็นคนใจร้อนแล้วก็ไม่ชอบอยู่เฉยๆแถมยังโง่  ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นเขากลับอยู่อย่างสงบบนเตียงแถมยังรับเรื่องทั้งหมดที่ดูเหนือสามัญสำนึกเดิมได้อีก

    เขากลายเป็นคนที่ดูเงียบกว่าเดิมแถมยังดูจำเรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้นอีก...

    ทำไมชั้นถึง....เปลี่ยนไปกัน?

    คงเป็นเพราะอิทธิพลจากรอสล่ะมั้งคะคุณคริสโตเฟอร์

    ทั้งสรรพนามเดิมของตัวเอง  ทั้งคำพูดคำจาและยังนิสัยก็ดูขัดกับตัวเอง...  เพราะรับรู้ถึงตัวเองที่เปลี่ยนไปถึงได้ลองถามเรื่องนี้กับลิเลียดู  ถึงจะยังถอดไอ้เจ้าผ้าพันแผลที่ตาออกไม่ได้แต่เขาก็ยังได้ยินเสียงและจำเรื่องที่ลิเลียเล่าให้ฟังได้ดี  ทั้งหนังสือที่อ่านหรือเรื่องงานที่เธอทำ

    หลังจากที่ได้คุยเรื่องข้อความที่ส่งมาจนเคลียร์กันได้แล้วลิเลียก็เปลี่ยนมาเรียกเขาด้วยชื่อจริงแทนชื่อเล่นที่มักเรียกจนติดปาก  ถึงเขาจะไม่ได้ถือสาเอาความอะไรเพราะความจริงแล้วเขาก็มีส่วนผิดแต่ก็ยอมรับว่าตัวเองไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้น  เขามั่นใจว่าตัวเองยังรักยูริอยู่แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าสำหรับเขาแล้วลิเลียเป็นอะไรกันแน่

    แต่ไอ้ความรู้สึกปวดหนึบในใจเวลาที่ถูกลิเลียเรียกชื่อจริงนี่มันอะไรกัน?

    หัวใจ  ดวงตาและรวมถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของคุณคริสโตเฟอร์คือของรอส...

    มันเป็นเรื่องที่คริสโตเฟอร์พึ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก  ตลอดมาเขาไม่เคยถามเลยว่าทำไมเขาถึงจะกลับมามองเห็นได้อีกครั้งทั้งๆที่เคยได้ยินว่าคนตาบอดจะไม่สามารถกลับมามองเห็นได้อีก  เพราะคิดว่ามันคงเป็นเรื่องปกติของพวกมาเฟีย

    หัวใจ?

    อืม  คุณตาย เอ่อ...เกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่งถ้าไม่ได้หัวใจของรอสมาแทนหัวใจดวงเดิมที่หยุดเต้นไป

    มันเป็นเรื่องจริงที่น่าตกใจสำหรับคริสโตเฟอร์  กับการที่เขาได้รู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองได้เกือบจะไปโลกหน้ามาแล้วครั้งหนึ่ง  เขารู้ว่ารอสตายไปแล้วก็จริงแต่ว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้เพราะอวัยวะของพ่อบ้านที่เป็นมือขวาของลิเลีย

    ยิ่งเขาได้ฟังเรื่องของรอสจากปากของลิเลียก็อดรู้สึกผิดไม่ได้  มันเป็นความผิดของเขาที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นต้องตาย  เป็นเพราะเขามาหาลิเลียทำให้คุณรอสต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อเขาจนตัวตาย  ถึงจะไม่มีใครว่าแต่เขาก็รู้ว่าลิเลียรู้สึกเสียใจกับการที่ผู้ชายคนนั้นตายไปมาก  คนอื่นๆที่เป็นผู้พิทักษ์ที่มาหาเขาก็ด้วย...

    สีอำพัน?  ไม่สิ...สีเหลือง?

    ดวงตาที่พร่าเลือนเพราะไม่ได้เจอแสงสว่างมานานทำให้เขายังมองอะไรไม่ชัดเท่าไหร่นัก  ดวงตาสีเหลืองสว่างที่แตกต่างจากสีอำพันที่จะมีสีน้ำตาลแซมมาบ้าง มันเป็นสีเหลืองทองที่ราวกับสัตว์ป่าในตอนกลางคืน ราวกับว่ามันจะเรืองแสงได้ยังไงอย่างงั้น

    หลังจากที่ผ่านมาจนครบสองเดือนที่อยู่ในคฤหาสน์ของลิเลีย  ในที่สุดเขาก็จะได้ถอดผ้าพันแผลและได้มองเห็นอีกครั้ง  ดวงตาคู่ใหม่ของเขาเป็นสีที่แตกต่างจากเดิมมาก  มันเป็นสีเหลืองสว่างที่ดูโดดเด่นและผิดแปลกไปจากคนทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด

    มันทั้งดูผิดแปลก ลึกลับและ...ดูน่ากลัวอย่างประหลาด

    เพราะดวงตาของรอสในความทรงจำคริสโตเฟอร์จำมันไม่ได้  ตอนนั้นเขายังไม่ได้มีความจำดีเหมือนกับตอนนี้เลยจำไม่ได้แม่นขนาดนั้น

    ตาของรอสหน่ะพิเศษ  รอสสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีเหมือนกับมันสว่างแล้วยัง...ลิเลียอธิบายถึงความพิเศษของดวงตาคู่ใหม่ให้คริสโตเฟอร์ฟังด้วยท่าทางที่ดูเศร้าๆ

    เหลือเวลาอีกราวๆหนึ่งเดือนกว่าจะถึงเวลาเปิดเทอม  ตอนนี้ร่างกายของเขาก็ปกติหมดแล้วแต่ว่าความรู้สึกแปลกๆที่มีให้กับลิเลียมันทำให้คริสโตเฟอร์เริ่มที่จะลังเลในการตัดสินใจของตัวเอง

    ขอร้องล่ะ!  ขอให้ชั้นเป็นผู้พิทักษ์วายุแทนคุณรอสเถอะ

    เพื่อตอบแทนกับชีวิตใหม่ที่ได้รับมาจากผู้ชายคนนั้นเขาถึงได้พูดแบบนั้นออกไป  เขารู้สึกผิดกับเรื่องนี้แล้วยังไม่อยากปล่อยให้ลิเลียต้องเจอเรื่องอันตรายแบบที่เขาได้เจอในตอนนั้นอีก   ถึงจะยังไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับลิเลียกันแน่แต่ก็อยากจะปกป้อง

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอิทธิพลของคุณรอสรึเปล่าเขาถึงเป็นแบบนี้แต่ว่าเขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไว้ทั้งๆที่รู้ทุกอย่างอยู่แล้วหรอกนะ!

    ________________________________________________________________________________________________________

    ตอนนี้คริสโตเฟอร์ดูนิ่งขึ้นแบบสุดๆเลยล่ะ!!  เราเคยดูอนิเมะแนวที่ตัวเอกได้อวัยวะมาจากคนอื่นแล้วจะมีพวกนิสัยการกินหรือความสามารถเหมือนกับเจ้าของอวัยวะที่ให้มา  แล้วคุณรอสก็เป็นพ่อบ้าน(ที่เอามาจากอุดมคติของไรท์เองด้วย) เก่งงานบ้าน งานเอกสารแล้วก็ยังเก่งการต่อสู้อีก(ก็ไม่ได้ถึงขนาดยูกิหรือว่าผู้พิทักษ์แฟมิลี่ดังๆหรอกนะ แต่เก่งอยู่ในระดับที่สามารถสู้กับคนได้พร้อมกันราวๆสิบกว่าคนได้)  เรียกได้ว่าคุณรอสเก่งกาจสมบูรณ์แบบมากคะ

    ตอนเขียนให้ตายก็อดรู้สึกเศร้าไม่ได้ เพราะไรท์เคยลองวางอิมเมจไปแล้ว(แบบว่าวางซะเท่เลย)

    อันนี้คือคุณรอส(นอกชุดพ่อบ้าน)

    แบบ...หล่อโฮกอ่ะ!  เขียนๆไปก็รู้สึกเสียดายเลยว่าจะให้มีฝาแฝดด้วย



    อันนี้พอคริสกลายเป็นผู้พิทักษ์วายุเต็มตัวก็จะเป็นแบบนี้  เวลาอยู่โรงเรียนเจ้าตัวเลยต้องพยายามทำตัวให้ร่าเริงเหมือนปกติทั้งๆที่ตอนนี้นิ่งแล้ว แถมยังต้องใส่คอนแทคเลนส์สีแดงที่ใช้ปกปิดสีตากับสายตาที่ดีเกินไปของดวงตาคู่นั้นด้วย(สปอย)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×