คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 เพื่อนสนิท
ตอนที่2 เพื่อนสนิท
Phuphan’s Sight
หลังจากถูกภูพิงค์สะกิดที่แขนเบาๆ ผมก็หันไปมองด้านหลังเพื่อพบกับผู้มาใหม่
เมื่อสายตาปะทะกัน ใบหน้าคมที่ฉีกยิ้มเมื่อครู่ก็หุบลงเหลือเพียงอมยิ้มมุมปาก พลางเดินตรงมายังโต๊ะที่ผมนั่งกันอยู่
“อ้าว คนไหนเพื่อนกูล่ะเนี่ย?” ไอ้อาร์ตแสร้งทำเป็นเลิกคิ้วขึ้นถามด้วยความสงสัย
“ไอ้ดำ อย่ามาแหล กูรู้ว่ามึงจำกูได้” ผมตอบกลับเสียงขุ่น
“อ้อ คนนี้นี่เอง ดุเหมือนหมาแบบนี้เพื่อนกูชัวร์ ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้เพื่อนตัวดำหัวเราะสะใจตบท้ายประโยค
“พูดแบบนี้แสดงว่าอยากโดนขย้ำสินะ” ผมยิ้มเย็นส่งไป
//ได้ก็ดี// เสียงไอ้อาร์ตพึมพำขึ้นมาคนเดียวเบาๆ
“ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ” ผมเอ่ยปากถามแม้จะได้ยินชัดเจนเพราะระยะที่อยู่ใกล้
“เปล่า ไม่มีอะไร…ว่าแต่มึงเถอะ ทำไมนั่งแดกอยู่คนเดียว ไม่ให้พิงค์มันแดกด้วยวะ” ไอ้หนุ่มผิวแทนทำทีเปลี่ยนเรื่องพลางดึงเก้าอี้มานั่งข้างผม
“โหย ไอ้พิงค์มันแดกจนอิ่มแปล้ก่อนออกไปรับกูอีก ทั้งโต๊ะนี่ก็เลยกลายเป็นของกูคนเดียว คิคิ” ผมยักคิ้วอย่างได้ใจ ก็แหงล่ะ คุณนายทำเมนูช็อคให้ผมเยอะขนาดนี้นี่มันสวรรค์ของผมดีๆนี่เอง
“หึ ไม่เป็นไรหรอกอาร์ต กูชอบกินวานิลลามากกว่า ไม่ได้คลั่งช็อคโกแลตเหมือนคนแถวนี้หรอก”
“ได้ไงล่ะ ขืนแดกเข้าไปหมดนี่ เบาหวานแดกกันพอดี….. มาๆ เดี๋ยวกูช่วยกิน” ไอ้อาร์ตพูดจบก็ลงมือคว้าบราวนี่มาจัดการทันที
“แหม ทำมาเป็นหวังดี เนียนแดกนะมึงน่ะ” ผมต่อว่ามันไปแบบไม่จริงจังนัก ภูพิงค์ก็มองมาอย่างขำๆ
อยากจะบอกว่ารัก ฉันรักเธอ อยากจะบอกให้รู้ ให้เข้าใจ
“รู้สึกว่าวันนี้มือถือมึงจะฮอตเหลือเกินนะพาน คิคิ” ไอ้พิงค์พูดแซวเมื่อเสียงเพลงเรียกเข้าของผมดังขึ้นอีกครั้ง
‘คุณชายต้นข้าว’ ผมมองชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก่อนจะกดรับ
“โทรมามีอะไรให้รับใช้เหรอครับ คุณชาย”
(“กวนตีน ไหนบอกว่าถึงแล้วจะโทรหากู… ไม่เห็นโทรมาเลยนะ ไอ้เตี้ย”)
“ด่ากูว่าเตี้ยมากๆระวังได้แฟนเตี้ยเหมือนกูนะ ไอ้เสาไฟฟ้า” ผมย้อนไอ้ต้นกลับไป
(“หึ ไม่ต้องมาพูดมาก กูถามมึงว่าทำไมไม่โทรหากู เป็นเมียประสาอะไรวะกลับถึงบ้านทั้งทีไม่คิดจะโทรมารายงานผัวเลยหรือไง”) พอผมได้ยินที่มันพูดก็ถึงกับควันออกหูเลย
“ไอ้เหี้ยต้น มึงเลิกเล่นบทผัวเมียกับกูซะทีได้ไหม กูจะอ้วก แค่พวกไอ้บีมแซวกูก็หงุดหงิดละมึงยังจะไปบ้าตามมันอีกนะ… หึ้ยยย ถ้ากูรู้ว่าใครเป็นคนต้นคิดเรื่องนี้นะกูจะไปตามถลกหนังหัวมัน”
ผมสบถประโยคหลังกับตัวเองอย่างหงุดหงิด
ส่วนไอ้อาร์ตหลังจากมันได้ยินชื่อไอ้ต้นก็หันมาขยับปากถามแบบไม่มีเสียงว่าต้นข้าวเหรอ ผมเลยพยักหน้าส่งๆเพราะยังอารมณ์กรุ่นๆจากไอ้คนในสายอยู่
(“มึงจะไปตามหาให้เหนื่อยทำไมวะ อยู่บ้านเดียวกับหนุ่มหล่อ หุ่นดี ลีลาเด็ดอย่างกูสองต่อสอง ใครๆเขาก็คิดว่ามึงอดใจไม่ไหวกันทั้งนั้นแหละ ฮ่าๆๆๆๆ”)
“โว้ย กูไม่คุยกับมึงแล้ว ไอ้ดำ! มึงเอาเพื่อนมึงไปเลยนะ กูไม่คุยด้วยแล้ว”
ผมโวยวายขึ้นทันทีก่อนจะส่งมือถือที่ยังคุยค้างไว้ให้เพื่อนนักบาสข้างตัว มันจึงได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆแล้วรับมือถือผมไปคุยแทน
“ไงมึง โทรมากวนไรมันอีกวะ นั่งหน้าบูดเป็นตูดเป็ดปักปิ่งแล้วเนี่ย………อ๋อเหรอ มันยอมรับว่ามึงเป็นผัวแล้วหรือไง…........ฮ่าๆๆ เออๆ งั้นก็เรื่องของมึงเหอะ…....…..แล้วปิดเทอมนี้มึงไม่ได้กลับบ้านเหรอวะ เห็นม๊ามึงโทรมาบ่นกับกูอยู่……...ไม่ว่างหรือติดสาวที่ไหนวะมึง หึๆ……………เออๆ กลับไปให้ป๊าม๊าเห็นหน้าบ้างก็ดี เขาคงคิดถึงนั่นแหละ………………มึงนี่ก็ชอบเหน็บป๊ามึงตลอด ไอ้ลูกเลว ฮ่าๆ……….เออ ได้ๆ ไอ้พาน ไอ้ต้นมันอยากคุยกับมึง”
ไอ้อาร์ตหันมาส่งมือถือคืนให้ผม ผมจึงรับมาคุยต่ออย่างเซ็งๆ
“อือ มีไรอีก”
(“ไม่มีอะไร แค่จะบอกว่าคิดถึง มึงไม่อยู่แล้วกูคิดไม่ออกเลยว่าจะจัดการกับปัญหาตรงหน้ายังไง”)
เสียงเศร้าๆของคนในสายทำเอาผมชะงักไปนิดนึง ก่อนจะพูดตอบ
“เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันคืนนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้กูไม่ค่อยสะดวกคุยเท่าไหร่”
(“เออ ถึงบ้านแล้วออนเฟสด้วย”)
“ครับ คุณชาย” ผมพูดบีบเสียงอย่างประชดชัน
(“กวนตีน….. แต่ก็ขอบคุณมากนะ แค่นี้แหละ”)
“อือ บาย”
“อั๊ยย่ะ มีเรื่องต้องคุยต่อคืนนี้ด้วยว่ะ” ทันทีที่ผมกดวางสาย เสียงสัมพะเวสีตัวดำก็ดังขึ้น
“สะเออะ!” ผมหันไปพูดใส่หน้ามันเสียงเรียบ
“ชะอุ้ย ร้สึกเหมือนกูจะกวนผิดเวลาว่ะ พิงค์” ไอ้อาร์ตหันไปหาน้องชายฝาแฝดผมอย่างขอตัวช่วย
ภูพิงค์น้องรักก็เหมือนจะรู้หน้าที่ กระทืบไอ้นักบาสหน้าหล่อซ้ำทันทีจนผมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา
“เพิ่งรู้ตัวเหรอ” น้องชายผมเลิกคิ้วตอบกลับไปอย่างกวนๆ
.
”ง่ะ คนหล่อโดนรุม กระซิกๆ” ไอ้เพื่อนผิวแทนทำท่าร้องไห้อย่างน่าสงสาร
แต่ขอโทษ…สำหรับผมมันน่าประทับรอยเท้าเอาไว้มากกว่า
“หึ หน้าเหมือนหมาแดกแฟ๊บอย่างมึงเนี่ยนะหล่อ” ผมรู้ว่ามันหน้าตาดี แต่เรื่องอะไรจะชมให้มันได้ยินล่ะ
“เสียไต” ดูมัน ยังสำออยไม่หยุดอีก
“ไตพ่อง”
ผมด่าเสียงเรียบจนไอ้อาร์ตทำหน้าเบ้ ส่วนไอ้น้องชายตัวแสบก็นั่งขำจนหน้าหงาย
………………………………………………………………………………………..................................
เรานั่งคุยนั่งเล่นกันไปซักพัก มีไปช่วยพนักงานเสิร์ฟของให้ลูกค้าบ้าง ช่วยงานในครัวบ้าง
แม่ผมพอเห็นไอ้อาร์ตเท่านั้นแหละ วิ่งเข้ามากอดแล้วลูบหลังลูบไหล่ยังกับลูกในไส้ ทำเอาลูกแท้ๆอย่างผมเหมือนเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยงกันเลยทีเดียว
เท่านั้นยังไม่พอ มันยังเหยียบย่ำผมต่อด้วยการอยู่ช่วยงานจนปิดร้าน
แม่ผมก็เป็นปลื้มสิ ถึงกับให้ขนมมันหอบกลับไปกินที่บ้านซะมากมาย
“วันนี้ขอบคุณมากนะอาร์ต มีอาร์ตมาช่วย แม่สบายขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย ว่างๆก็ไปเที่ยวที่บ้านได้นะ เดี๋ยวแม่จะทำบราวนี่ไว้ให้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมเองก็ต้องขอบคุณสำหรับขนมเหมือนกันครับ ไว้มีโอกาสจะแวะเข้าไปที่บ้านนะครับ ผมกลับก่อนแล้วกัน สวัสดีครับ” ไอ้อาร์ตยกมือไหว้แม่ผมอย่างนอบน้อมก่อนจะหันมาหาผมกับภูพิงค์
“กูกลับก่อนนะ ไว้เจอกัน”
“เออ โชคดีมึง” ผมตบไหล่มันไปเบาๆ
“ขับรถดีๆนะ อาร์ต”
ไอ้พิงค์ส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทผมก่อนจะเดินไปถอยรถมารับผมกับแม่กลับบ้าน
…………………………………………………………………………………………………………………
Phupink’s Sight
หลังจากอาบน้ำกินข้าวร่วมกับแม่และภูพานแล้ว ผมจึงแยกตัวเข้ามาอยู่ในห้องนอนตัวเอง
ขณะที่เปิดคอมนั่งเล่นเฟสไปเรื่อยๆก็แอบสังเกตเห็นว่าโพสต์หน้าวอลภูพานต์เด้งมาอยู่หน้าแรกเยอะเหลือเกิน แล้วคนที่เข้ามาโพสต์ดันเป็นคนๆเดียวกันด้วยเนี่ยสิ
พอผมกดเข้าไปดูหน้าไทม์ไลน์ของภูพานก็ได้พบกับโพสต์ติดๆกันหลายโพสต์ที่ดูเป็นการจงใจแกล้งกัน
อืม ว่าแต่…
“ชื่อเฟสคุ้นๆแฮะ”
ผมเลื่อนเม้าส์ไปวางที่ชื่อเจ้าของโพสต์ จึงปรากฏภาพขนาดย่อของไทม์ไลน์ขึ้นมาเป็นหน้าต่างเล็กๆ
“อ้อ คนนี้ที่ชื่อต้นข้าวนี่”
ผมเองก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรูมเมทของภูพานคนนี้นัก รู้แค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทสมัยม.ปลายของอาร์ต ตอนที่ย้ายไปเรียนโรงเรียนใหม่ แล้วพออาร์ตรู้ว่าไอ้พานสอบติดที่เดียวกับต้นข้าวที่มีบ้านเดี่ยวขนาดย่อมอยู่แถวมหา’ลัย อาร์ตเลยรีบเสนอให้มันไปอยู่กับต้นข้าวจะได้ไม่ต้องห่วงมากนัก คุณนายเองก็เห็นด้วยเพราะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว
“เป็นเดือนคณะด้วยเหรอเนี่ย”
ผมว่าตัวผมเองก็ไม่ได้ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นนักหรอกนะ แต่รู้ตัวอีกทีผมก็มานั่งไล่ดูรูปโปรไฟล์ของคนที่ชื่อต้นข้าวนี่แล้ว จึงได้เห็นรูปที่ประกวดเดือนคณะตอนปี 1 ด้วย
“หล่อเหมือนกันแฮะ”
ตอนที่ทำหน้านิ่งๆก็ดูดีอยู่แล้วนะ ยิ่งเห็นรูปตอนยิ้มแล้วออร่าเปล่งประกายเลย มิน่าถึงได้เป็นเดือน
แต่เมื่อคิดมาถึงตรงนี้แล้วผมก็ชะงัก นี่ผมกำลังนั่งทำอะไรอยู่วะเนี่ย…
ส่องรูปผู้ชายด้วยกันงั้นเหรอ…
โรคจิตชะมัด ผมไม่ใช่เด็กสาวๆซักหน่อย
ผมรีบหยุดความคิดตัวเองแล้วปิดคอมเข้านอนทันที
หวังว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันที่สงบสุขของผมอีกวันนะ
Talk
ก่อนอื่นต้องขออภัยอย่างสูงที่หายหน้าไปนานนะคะ ช่วงนี้ยุ่งกับทั้งโปรเจคและสัมมนาเลย ฮือๆ มาถึงตอนนี้ก็ตามชื่อตอนเลยค่ะ ……“เพื่อนสนิท” ที่เป็นการบอกความสัมพันธ์ของทั้ง อาร์ต-ภูพาน , ต้นข้าว-ภูพาน และอาร์ต-ต้นข้าว เพราะทั้งสามคนก็ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของกันและกัน แล้วตบท้ายด้วยฉากภูพิงค์แอบส่องเฟสเดือนคณะสุดหล่อเบาๆ ฮ่าๆๆ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วกันเนอะ (แต่กลัวว่าตอนเจอกันจริงๆจะตีกันตายเนี่ยสิ เอิ๊ก) เอาล่ะค่ะ สำหรับวันนี้ก็ขอฝากตอนนี้ไว้ในอ้อนอกอ้อมใจแฟนๆทุกท่าน แล้วจะรีบหาเวลามาต่อนะคะ (ซึ่งหายากจริงๆเวลาเนี่ย ฮ่าๆ) บ๊ายบายยย
ความคิดเห็น