//Resident Evil VII// Clancy Jarvis: 21 - //Resident Evil VII// Clancy Jarvis: 21 นิยาย //Resident Evil VII// Clancy Jarvis: 21 : Dek-D.com - Writer

    //Resident Evil VII// Clancy Jarvis: 21

    ก็คนมันรักแคลนซีถถถถ

    ผู้เข้าชมรวม

    270

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    270

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ค. 61 / 20:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

       '21'

         
         กลิ่นคาวเลือด ผ่านลิ้นสากๆ

         หายใจไม่เข้า อึดอัด

         พื้นผิวเย็นๆแนบชิดกับใบหน้า แข็งและหนา

         และดูเหมือนขาของเขาจะถูกมัดไว้

         ชายหนุ่มเงยหัวอันหนักอึ้งของเขาขึ้นมา ภาพในความมืดช่างมัวหมองและยากจะมองเห็น เขาใช้มือขวาคลำไปมาบนพื้นผิว ราวกับมันจะบอกสถานการณ์ปัจจุบันให้เขาได้
         ทันทีที่หลอดไฟในห้องถูกเปิด แสงสว่างวาบขึ้นและสลัวลงจนเขาต้องหรี่ตาเล็กก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ

         

         เขาถูกมัดตรึงไว้กับเก้าอี้ เช่นเดียวกับชายที่ซ่อนใบหน้าไว้ใต้ถุงผ้าใยสีน้ำตาลตรงข้ามกับเขา   ทั้งสองศึกษารูปลักษณ์ของอีกฝ่ายด้วยความสงสัยและงุนงง    
         คนแปลกหน้าทำไม้ทำมือชี้ไปที่แขนข้างซ้ายของเขา  เขาเหลือบตามองตาม  ข้อมือซ้ายถูกมัดตรึงไว้กับเครื่องมือบางอย่าง นิ้วเรียวทั้งห้าถูกล็อคเรียงตามช่องว่างบนแผ่นโลหะ  แคลนซีพยายามจ้องหน้าชายอีกคนเหมือนต้องการจะถามอะไรหลายอย่าง  น่าเสียดายที่อีกฝ่ายคงจะให้คำตอบไม่ได้สักข้อ



         แผ่นไม้ยาวตอกติดกัน ผ้าม่านขาวเย็บเป็นผืนเดียว  ปกปิดผนังเก่า อดีต
         มันเป็นห้องที่เล็ก แคบ อึดอัด ไม่มีทั้งหน้าต่างหรือบานประตู มีเพียงแต่โต๊ะยาวตัวใหญ่หนึ่งตัววางกลางห้อง เก้าอี้สำหรับเขาและชายอีกคนตรงหน้า ชั้นวางไม้ที่รับน้ำหนักของโทรทัศน์รุ่นเก่าหลายเครื่องต่างขนาด กองหนังสือรกรุงรังวางซ้อนกันเป็นชั้นๆและมีแอบๆยัดกันอยู่ตามซอกช่องว่าง ลำโพงตัวใหญ่นอนราบติดบนทีวี ใกล้ๆกันก็มีรูปปั้นหุ่นเสมือนมนุษย์ไร้แขนไร้หัวยืนประดับอยู่มุมห้อง
         รสนิยมแย่





         เสียงคลื่นโทรทัศน์ดังขึ้นกลบความเงียบ ภาพใบหน้าของชายหนุ่มในธีมสีฟ้าอมเทาเด้งขึ้นมา ทำเอาแคลนซีสะดุ้งเล็กน้อย      ภาพในจอมองลึกเข้ามาในตาของเขาพร้อมส่งเสียงดังออกผ่านลำโพง


    "เฮ้ เฮ้ เฮ้ มองมาทางนี้! ทางนี้!" แคลนซีมองตามและจ้องตาชายคนนั้นกลับ

    "เออ นั่นแหละ เอาล่ะ ฉันสงสัย... ว่าพวกแกจะมีดีอะไรบ้าง" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จอ หยุดสักพัก ศึกษาสีหน้าของตากล้องหนุ่ม

    เมื่อพอใจแล้ว เขาก็เริ่มพูดพร่ำต่อ
    "ก็นะ พวกแกจะเล่นเกมด้วยกัน ผู้ชนะจะได้ออกไปจากที่นี่ ครบสามสิบสอง" ว่าแล้วก็หยิบหุ่นฟางวูดูออกมา

    "ระวังให้ดี เพราะนี่ หมายถึงชีวิต..." รอยยิ้มเล็กๆของคนพูดกว้างขึ้น และกว้างขึ้น มือหนึ่งจับขาฟาง อีกมือจับหัวหุ่น ยกมันขึ้นมาให้แขกที่นั่งอยู่ได้เห็นและหักมันเป็นสองท่อน

    ชายหนุ่มแสยะยิ้มอีกครั้ง
    "หรือความตาย!" ดวงตาสีฟ้าจางโพลง ปากอ้ากว้าง เหมือนกับตื่นเต้นอย่างสุดขีด
     

    "ของพวกแก" ไอ้ไซโคมันหัวเราะคิกคักชอบใจ แล้วหมุนเก้าอี้รอบสองรอบ   ถ้าไม่ใช่เพราะแขนขาโดนมัด เขาคงจะลุกขึ้นไปต่อยหน้าจอแล้ววิ่งออกไปชำแหละหมอนั่นแล้ว

         เขาพยายามสงบอารมณ์ภายในใจลง



         คำว่า'ตาย'ดูจะเน้นหนักไปหน่อย
         หมอนี่คงจะเป็นลูกชายของบ้านเบคเกอร์สินะ เหมือนจะชื่อลูคัสอะไรนี่มั้ง เห็นว่าเป็นอัจฉริยะพอตัวเสียด้วย  การแต่งตัวก็เรียบๆ หน้าตาก็ซีดเซียว แต่ท่าทางอย่างกับพวกโรคจิตหื่นกามไม่ก็พวกเสพยาบ้าจนคลั่ง ข่าวลือเสียๆหายๆของหมอนี่ตามที่ออเดรย์บอกไว้ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงแฮะ

    "พวกแกชอบเล่นไพ่กันมั้ย? แน่นอน! พวกแกชอบ!" แคลนซีคิดตาม ไพ่ เขาชอบนะ โดยเฉพาะแบล็คแจ็ค เกมถนัดเลยแหละ พอนึกย้อนไปเมื่อก่อนที่เขามักจะเล่นไพ่กับเพื่อนๆยามว่าง ช่วงเวลาที่เขาเคยสนุก เคยหัวเราะ และกอบโกยเหรียญ   ทุกครั้งที่นึกถึง รอยยิ้มของเขาก็มักจะผุดตาม

         ลูคัสจ้องรอยยิ้มของเหยื่อตรงหน้า ก่อนที่ตัวเขาแสยะยิ้มตาม
    "เว้นแต่ว่า เราไม่พนันด้วยเงิน!"

         เสียงใบมีดเด้งขึ้นที่ข้อนิ้วก้อย 
         เมื่อเขาเข้าใจความหมายของ 'เบี้ยพนัน'  ความหวาดกลัวก็เริ่มปรากฎให้เห็นบนสีหน้าของตากล้องหนุ่ม ชายภายใต้ถุงผ้าก็มีท่าทีหวาดผวาเช่นเดียวกัน

         เขาคงจะไม่เชื่อว่าลูคัสจะทำจริงๆหริก หากเขาไม่เจอเห็ดเชื้อราดำๆตัวใหญ่อย่างกับหลุดจากหนังผี  ชายแก่ที่ถือขวานไล่ฆ่าเขาสี่ชั่วโมงเต็ม  รวมทั้งหญิงชราที่ขึงเขาไว้กับเตียง พยายามยัดเยียดอาหารและแมลงเข้ามาในปากของเขา
         ทั้งหมดนี้เพื่อให้เขาได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกใน'ครอบครัว'

         โธ่ พีท โธ่ ออเดรย์
         ถ้าหากพวกนายเลือกที่จะไม่มาที่นี่ เราก็คงจะมีชีวิตอยู่อีกหลายปีเลยล่ะ





         ภาพบนจอโทรทัศน์บิดเบือนไปเป็นสีขาวดำ เป็นสัญญาณว่าไอ้บ้านั่นไม่ได้มองพวกเขาอยู่

    ชายฝั่งตรงข้ามของเขาเยื้องตัวเข้ามากระซิบ
    "เฮ้ นาย นายเชื่อที่ไอ้โรคจิตนั่นพูดมั้ย? ที่ว่าจะปล่อยให้ผู้ชนะรอดไปน่ะ" น้ำเสียงของเขาฟังดูยินดีปนสงสัย

    "นายเป็นใคร?"
    แคลนซีพยายามเลี่ยงคำถาม เขาไม่รู้ เขาไม่อยากตอบว่าเชื่อหรือไม่   เขาไม่อยากหวัง เขาไม่อยากผิดหวัง




         ภาพในจอโทรทัศน์กลับมาพร้อมกับภาพของลูคัสนั่งบนเก้าอี้หมุน   คู่สนทนาของเขารีบกลับมาเข้าที่นั่งเหมือนเดิม

    "เอาล่ะ เรามาเริ่มเกมที่สร้างไว้ พิเศษ เฉพาะพวกแกกันเลยดีกว่า" ลูคัสพูดเสียงขึ้นสูง ตื่นเต้นที่จะได้เห็นสีหน้าท่าทีของเหยื่อทั้งสองยามที่ไพ่ใบแรกหงายขึ้น



         เครื่องดีลเลอร์ตรงมุมโต๊ะเริ่มทำการแจกไพ่ให้ทั้งคู่ แคลนซีสองและคู่แข่งสอง
          พวกเขาจ้องไพ่บนโต๊ะพักนึง จ้องหน้ากันพักนึง พร้อมๆกับที่เจ้าภาพเกมอธิบายวิธีเล่นให้ฟัง

         บนโต๊ะของเขามีไพ่เลข5หงายขึ้น และไพ่เลข7ที่หมอบลง
         ส่วนบนโต๊ะของฝ่ายตรงข้ามเป็นไพ่เลข8และหมอบไว้อีกใบ

         เท่ากับว่าตอนนี้เขามี12แต้ม ถ้าได้เลข9ละก็.....


    "เตรียมตัวเตรียมใจภาวนา และก็เริ่มเกมกันเลย!" เสียงประกาศปนคำสั่งดังขึ้นผ่านลำโพง

    "เอาล่ะ แคลนซี! สหาย! แกเปิดเกม!"



         สหาย? ใช่เพื่อนเล่นแกมั้ยเนี่ย

         กติกาของไอ้แบล็คแจ็คที่ลูคัสพูดถึงเนี่ย ไม่ค่อยจะซับซ้อนเหมือนของจริงที่เขาเล่นกัน ดูจะง่ายกว่าเสียด้วยซ้ำ     
         เหอะ    อย่างกับเกมเด็กเล่น แค่ให้ได้แต้มใกล้เคียงกับ '21' ก็พอแล้ว ใช่มั้ยล่ะ

         จัดไป


    "เรียกไพ่" แคลนซีออกคำสั่ง
         ไพ่หนึ่งใบไหลออกจากเครื่องดีล
          '6'
         ทั้งหมด18แต้ม

    คู่แข่งของเขาใช้เวลาสักพัก ก่อนจะสั่ง
    "ไพ่"
         '3'

         จะเป็นไปได้มั้ย ว่าไพ่หมอบของศัตรูจะเป็นเลข10? หรือ9  8  7?
         ความเสี่ยงที่อีกฝ่ายจะชนะมีแค่สี่ เขาควรจะเรียกไพ่เพิ่มดีมั้ยนะ?


         ช่างแม่ง
         เขาให้สัญญาณมือเป็นการเรียกไพ่
         '2'
         เยี่ยม! 20 แล้วโว้ย! รอบนี้เขาชนะแน่ๆ แต่นั่นก็หมายถึงคนแพ้จะต้องถูกตัดนิ้วจริงๆหรอ




    "ฮอฟแมนนนน อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ" ลูคัสพูดขึ้นขัดจังหวะ เป็นการกดดันอย่างเห็นได้ชัด

    "ยืน" ฮอพแมนชั่งใจอยู่พักใหญ่ แต่ก็ออกปากข้ามตาไป

    "เอาล่ะ! เปิดการ์ดของพวกแกขึ้นมา!" การเล่นรอบแรกได้จบลงไป จากจอสีขาวดำเปลี่ยนไปเป็นจอสีเทาที่ขึ้นตัวหนังสือสีขาว ตัวใหญ่ "SHOWDOWN"

         ทั้งตัวเขาและฮอฟแมนใช้มือข้างที่ว่างอยู่หงายไพ่ที่หมอบขึ้นมา
         รวมทั้งหมดของเขาเป็น 20
         และของฮอพแมนรวมเป็น.... ว้าว เขาตื่นเต้นจากการลุ้นจนบวกเลขไม่เป็นเลย

         '18/20' คือเลขที่ปรากฏบนจอ

    "และผู้ชนะคือ..."
    ลูคัสเม้มปากเล็กน้อยหลังจอ ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความดีใจ
    "แคลนซี!"

         สีพื้นหลังของจอเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อน พร้อมกับขึ้นคำว่า 'YOU WIN'

    "วุ้วฮุ้ววว สุดยอดเลยว่ะ แคลนซี!" เสียงตะโกนแสดงความยินดีจากลูคัส ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลย

    "ส่วนแก ฮอฟแมน! แกจะต้องจ่ายเงิน!"

         คมมีดที่ง้างขึ้นไว้แต่ต้นเกมสั่นระริกด้วยแรงกดจากตัวเครื่องพันธนาการ ใบมีดสั้นและคมกดลงมาตัดเนื้อชิ้นเล็กและกระดูกตานิ้วก้อยของผู้แพ้อย่างพอดิบพอดี เลือดสีแดงสดพุ่งออกจากรูนิ้วก้อย สาดกระเซ็นนองบนพื้นโต๊ะ เฉียบคมและแม่นยำ
         เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่นไปทั่วห้อง ไปทั่วสมองของแคลนซี ภาพของฮอฟแมนที่พยายามจะสลัดตัวหนีจากความเจ็บปวดยังคงแสดงอยู่ตรงหน้า  จนเจ้าตัวฟุบหัวลงกับโต๊ะ พยายามสกัดกั้นความรู้สึกนั้นไว้ภายใต้เสียงหอบครวญคราง

         โหดร้าย แต่นี่คือบทลงโทษของผู้แพ้ 

         ซึ่งเขาจะต้องชนะ
         แม้จะรู้สึกผิดที่ตนเป็นสาเหตุของเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะลิ้มรสความเจ็บปวดหลังความพ่ายแพ้แบบนี้หรอก

    น้ำตาไหลหยดอาบแก้มของชายตรงหน้า
    "พระเจ้า ได้โปรด ฉันต้องกลับไปหาลูก เมียของฉัน ได้โปรด" 
    เสียงกระซิกเบาๆทำให้ตากล้องหนุ่มรู้สึกสงสารและสำนึกผิดเพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลที่อีกฝ่ายมีครอบครัว

         ผู้ชนะจะรอดออกไป
         ฮอฟแมนมีเหตุผลที่จะต้องชนะ เขาต้องรอดออกไปหาครอบครัวอันอบอุ่นของเขา หาภรรยาที่รัก หาลูกสาวที่คิดถึง
         แล้วตัวเขาล่ะ เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องชนะ ครอบครัวก็ไม่มี เพื่อนก็ตายไปแล้ว   เขาจะสู้ไป
        เพื่ออะไรกันล่ะ

    "ฮิ้วววว พอๆเลิกทำตัวเป็นเด็กขี้แยได้แล้ว มันก็แค่นิ้วก้อยเองน่า" เสียงล้อเลียนชวนกวนประสาทดังขึ้นอีกครั้ง

    "เอาล่ะ ฉันตัดสินใจว่าเกมมันช้าไป ฉันเลยเปลี่ยนกติกานิดหน่ออออย"

    เสียงกิโยตินน้อยบนข้อนิ้วสามตัวเด้งขึ้นเหนือนิ้วก้อย นิ้วนาง และนิ้วกลางของทั้งคู่
    "เราจะเพิ่มเงินพนันกัน! เกมจะได้สนุกๆไงล่าา!"

         เหงื่อเย็นๆไหลท่วมหัวท่วมตัวตากล้องหนุ่ม คราวนี้เขาจะต้องเสียถึงสามนิ้วในทีเดียว! เขาจินตนาการถึงความเจ็บปวดที่จะตามมาไม่ออกเลย













          19/22
    "วุ้ววววว และผู้ชนะคือ... ฮอฟแมน!"

         'LOSER'

         อา เขาแพ้? ถึงคราวของเขาที่จะต้องขึ้นเขียงเสียแล้ว แต่ว่าสามนิ้ว? สามนิ้วเลยเหรอ?!
         เหงื่อเย็นไหลผ่านทั่วตัวของเขาอีกครั้ง
         มันจะเจ็บมากมั้ย?
         เขาจะตายรึเปล่า?
    ถามตัวเองไปก็คงไม่ได้คำตอบ ประสบการณ์คือประสบการณ์ แค่นิ้วเล็กๆคงไม่---

         มีดคมกดลงมาหั่นนิ้วของเขาพร้อมกันสามนิ้ว ความเจ็บปวดมันมากจนเขาพูดอะไรไม่ออก
         แคลนซีมองไปที่นิ้วเรียวทั้งสามของเขาบนโต๊ะ มือทั้งสองข้างสั่น สายตาของเขาพร่ามัวไปหมด มันเหมือนกับเขากำลังจะหมดสติ   แต่เขาต้องพยายามโฟกัสไปที่ความเจ็บปวด เขาต้องไม่แพ้ เขาต้องรอด

    "ไอ้---เชี่ยเสียสติ!" แคลนซีสบถด่า ทุบโต๊ะหลายต่อหลายครั้ง หวังจะให้ความเจ็บทุเลาลง

    "แคลลลลนซี คำหยาาาบ"

         ชายหนุ่มพยายามสูดอากาศเข้าทางปาก ตั้งสติ และปล่อยให้เสียงหอบเบาๆออกผ่านไรฟัน


         "เกม... เกมที่สาม! มา!" แคลนซีจ้องมองใบหน้าของลูคัสด้วยความเกลียดชัง 

         ถ้าเกมนี้ ไม่สิ ถ้าทุกอย่างนี้มันจบลง เขาขอสาบาน   เขาจะลุกขึ้นไปต่อยหน้าไอ้โรคจิตนี่ให้ยับแล้วเผาบ้านทั้งหลังให้วอดไปเลย

         

         





         ชายหนุ่มบนจอโทรทัศน์ยิ้มอย่างอ่อนโยนจนน่าขนลุกให้กับตากล้องของเขา




    "ต้องอย่างนี้สิ    ตุ๊กตาตัวโปรดของฉัน"







         

         







         //โว้ยยยย คนมันรักตากล้องงง ลูคัสกะร้าาาก รักทุกคน อิอิ
    ไม่ได้เป็นแฟนซีรี่ยส์นี้ แต่ชอบภาค7กิกิ
    ตกลงอีธานทำงานกะร่มฟ้าสินะ..

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×