ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { fic exo } 。faking love :: c h a n b a e k ♡

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 85
      1
      30 ต.ค. 57

    © themy  butter

    CH.1

     


     

     

    Everything happens for a reason, the hard part is finding out what that reason is.

    ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นล้วนมีเหตุผล แต่มันยากยิ่งนักที่จะหาว่าอะไรคือเหตุผลของมัน

     



     

                    เวลานี้ถ้าไม่มีใครรู้จักชานแบค หรือปาร์ค ชานยอล กับบยอน แบคฮยอนคู่จิ้นสุดฟินจากซีรีย์ blind love ที่มีเรตติ้งพุ่งกระฉุดสุดๆในตอนนี้ ก็คงคุยกับใครไม่รู้เรื่องไปแล้ว


     

                    ปรากฏการณ์ที่ทำให้สาววายทั่วทั้งแทบเอเชียฟินจนทำอะไรไม่ถูกจากการกระทำของชานแบค ที่แสดงความรักต่อกันทั้งในจอและนอกจอ ส่งผลให้ซีรีย์ blind love มีเรตติ้งพุ่งปี๊ดกว่าซีรีย์ที่กำลังออนแอร์ด้วยกัน ณ ขณะนี้ ในทางโลกโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คก็ไม่แพ้กัน แฮซแท็กซีรีย์ blind love กวาดอันดับ1แทบทุกเว็บไซต์ นอกจากนี้ยังมียอดจองบ็อกเซ็ตซีรีย์ blind love ทะลุเกือบสองร้อยล้านก็อปปี้!


     

                    ถ้ายังไม่เชื่อ เราไปพิสูจน์กับท่านผู้ชมทางบ้านกันเลยว่ารู้จักชานแบคกันหรือเปล่า!


     

                    ‘โธ่พี่ครับ ขนาดผมไม่ได้ดูซีรีย์เรื่องนี้ยังรู้จัก ซีรีย์เรื่องนี้มาทีไร เมียผมกรี้ดยิ่งกว่ารู้ว่าได้ลูกแฝดอีกครับ

     

                    ‘กรี้ดดดดดดดป้าคะ ถามอะไรแบบนั้นคะ ใครไม่รู้จักนี่จำศีลอยู่หรอคะ นี่รอให้เขาเปิดตัวกันอยู่นะคะ ชานยอลอปป้าหาคนเหมาะสมเท่าแบคฮยอนอปป้าไม่ได้อีกแล้วค่ะ ยกเว้นหนูนะ กรี้ดดดดดดดชานยอลอปป้าซารังเงงงงงงง


     

                    ‘แบคฮยอนน่ารักมากเลยครับ ปัจจุบันผมพึ่งบอกเลิกแฟนไป เพราะสับสนว่าตัวเองชอบผู้ชายหรือเปล่า

     

                    ‘ชานแบคหรอคะ โอ้ยยยอย่าให้สาธยายค่ะพี่ ชัดเจนกว่าชานแบคก็ยูปทูประดับ1080แล้วค่ะ กรี้ดดดดด พี่เห็นที่เขาอัพรูปในไอจีล่าสุดมั้ยคะฟหหกด่าวงวสง


     

                    ‘เฮ้ย น้องใจเย็นน ทีมงานมาหามน้องคนนี้ไปปฐมพยาบาลด้วยครับ!’


     

                    VTRตัวเดิมที่ขึ้นฉายบนจอโปรเจคเตอร์ใหญ่ใจกลางเมืองถูกรีเพลย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เสียงกรี้ดจากแฟนคลับก็ยังไม่ลดหย่อนไปแม้แต่น้อยเลย ถึงแม้จะแทบพูดทุกประโยคได้แต่สายตาก็จดจ้องดูตามตลอดไม่มีเบื่อ


     

                    ‘สวัสดีครับ ผมบยอน แบคฮยอน และปาร์ค ชานยอลตัวแทนนักแสดงและทีมงานจากซีรีย์ blind love’ คนตัวโตมองคนข้างกายด้วยสายตาที่มีความหมายพร้อมฉีกยิ้มให้กับคนข้างกาย ก่อนจะปรบมือดังๆให้กับคำพูดเปิดตัวพวกเขาทั้งสอง


     

                    ‘ต้องขอบคุณจริงๆทุกๆคนจริงๆนะครับที่ทำให้ซีรีย์ blind love ของพวกเราได้รับความนิยมมากขนาดนี้ พวกเราไม่รู้จะตอบแทนทุกๆคนคืนยังไงดีครับ ขอบคุณจริงๆนะครับแบคฮยอนช้อนตาขึ้นมองคนสูงกว่าก่อนจะยิ้มจนตาเรียวเล็กเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ ก่อนจะพึมพำตามคำพูดของชานยอลว่าขอบคุณจริงๆ


     

                    “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แกดูพวกเขามองกันสิ เขาขอบคุณผู้ชมหรือขอบคุณกันกันแน่ โอ้ยยยยยย ขออ็อกซิเจนให้หนูด้วยค่าาาา”


     

                    เสียงสกรีมยังดังไม่หยุดหย่อนทั้งๆที่VTRตัวนี้ฉายเป็นครั้งที่ล้านแปดรอบแล้ว แฟนคลับต่างเฝ้าคอยการมาของพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อ แถมแฟนคลับบางคนมารอพวกเขาทั้งแต่สองวันก่อนที่จะมีงานแฟนไซน์นี้ขึ้นเสียอีก


     

                    ใช่ครับ วันนี้เรามีงานแฟนไซน์ที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อตอบแทนแฟนคลับที่คอยสนับสนุนซีรีย์ของเราให้มาถึงตรงจุดๆนี้ได้


     

                    ให้ตายเถอะ ตื่นเต้นเป็นบ้า!


     

                    “มึง กูดูดียังวะ” ผมมองไปยังไอ้เตี้ยที่ดูตื่นเต้นกว่าผมเป็นล้าน ยืนหมุนซ้ายหมุนขวาส่องกระจกเช็คตัวเอง มันทำแบบนั้นเป็นชั่วโมงแล้วครับ แล้วมันก็ถามคำถามนี้กับผมเป็นรอบที่ล้านสี่แล้วครับ -_-


     

                    “เออ” ผมพยักพเยิดหน้าตอบแบคฮยอนส่งๆไป เบือหน้าหนีมัน ก่อนจะแอบมองแฟนคลับล้านหลังเวทีด้วยความตื้นตัน ตื่นเต้น ดีใจ มันรู้สึกดีมากๆที่เห็นคนมารอพวกเราเยอะนาดนี้ ดีจนไม่รู้ว่าผมจะอธิบายเป็นคำพูดยังไง


     

                    “มึงสนใจกูหน่อยดิไอ้หู เออของมึงนี่ยังไงวะ กูดูดีหรือเปล่า ” ผมหันหน้าไปมองด้วยสายตาที่รำคาญเต็มทน ปากผมนี่พร้อมจะด่ามันเต็มที่ มันถามผมคำตอบนี้ตั้งแต่โคดี้นูนาเริ่มเขียนคิ้วให้มันอ่ะ แม่ง...


     

                     แต่พอหันไปมองไอ้เตี้ยแบคฮยอนเต็มๆตา ผมกลับยิ้มเมื่อเห็นมันแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว โคดี้นูนาแต่งหน้าโดยกรีดอายไลน์เนอร์บางๆให้ตาเรียว ก่อนจะปัดแก้มอ่อนๆให้ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งต่างจากผมที่ไม่ได้แต่งอะไรมากมายเหมือนมัน เพราะผมหล่อโดยธรรมชาติอยู่แล้ว


     

                    ยิ่งขมวดคิ้วมองผมหน้า มันยิ่งเหมือนลูกหมาที่โดนจับให้เขียนคิ้วถูกขัดใจเลยแฮะ


     

                    “ดูดีแล้ว” ผมตอบคำถามของไอ้เตี้ย ก่อนจะพยักหน้าย้ำอีกที เพื่อเสริมความมั่นใจให้มันมากยิ่งขึ้น

     

                    แบคฮยอนมองผม ก่อนจะค่อยๆคลายปมขมวดคิ้ว แล้วส่งยิ้มกว้างให้แทน ดูท่าคำตอบของผมจะทำให้เจ้าตัวพอใจ และเสริมความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น


     

                    “เออ มึงก็ดูดีเหมือนกันนะ แต่เสียใจด้วยวันนี้มึงหล่อไม่เท่ากู” แบคฮยอนยักคิ้วสลับกันไปมาเพื่อให้คำพูดที่ดูมั่นหน้าของมันกวนตีนผมไปยิ่งขึ้น


     

                    ผมเปลี่ยนคำตอบที่บอกว่ามันดูดีตอนนี้ทันรึเปล่านะ -_-


     

                    “เอาที่มึงสบายใจเถอะแบคฮยอน” มันแลบลิ้นให้กับคำพูดของผม ผมเลยหันหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจทันที ก่อนจะเบือนหน้ามามองมันอีกรอบ เมื่อเห็นไอ้เตี้ยมันยืนขยุกขยิกอยู่ไม่นิ่งตลอดเวลา



     

                    “ตัวโตกว่าหมาไม่เท่าไหร่ยังทำซ่านะมึง” ได้แต่แอบขำเบาๆกับท่าทีที่อยู่ไม่สุขของไอ้แบคฮยอน โอเค โอเค ผมยอมรับว่าผมตื่นเต้นนะ แต่..แบบคงไม่เท่ามันหรอกมั้ง เพราะงานนี้มันเป็นงานแรกของไอ้เตี้ย อ้อ งานแฟนไซน์อะไรแบบนี้ก็เป็นงานแรกของผมเหมือนกันแหละ ตั้งแต่เดบิวต์เป็นนักแสดงมาก็พึ่งเคยดังมากมายขนาดนี้ แต่อย่างน้อยผมก็เคยพบสื่อมวลชนมากมายมาก่อน ซึ่งไอ้คนข้างๆผมมันไม่เคย


     

                    “ตื่นเต้นหรอ”


     

                    “เออดิมึง กูพึ่งเคยออกสื่อแล้วเจอแฟนคลับ เจอสื่อมวลชนเยอะขนาดนี้เลยนะ กู..แบบเต่นตื้นมากๆ แบบ...คิดถึงแม่เลยอ่ะ ฮืออออออ”


     

                    “ตื่นเต้นพอมั้ย ลิ้นพันกันรัวหมดแล้ว ไปห้องน้ำมายัง”


     

                    “กูเข้าจนไม่รู้จะเอาน้ำที่ไหนฉี่แล้วเนี่ย” ผมหัวเราะให้กับคำพูดไอ้เตี้ยก่อนจะตบไหล่มัน เผื่อคนข้างๆผมตอนนี้จะรู้สึกดีขึ้น


     

                    แต่ที่มองๆท่าทีของแบคฮยอนมันตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้คลายความตื่นเต้นน้อยลงไปเลย มือไม้ของมันพันกันไปมา เหมือนไม่รู้จะเอาของมือของตัวเองวางไว้ที่ไหน แต่ดูๆไปมันก็น่าขำยิ่งกว่าน่าสงสารนะ


     

                    โธ่ๆ แบคฮยอนคนซ่าประจำกองถ่าย กลายมาเป็นหมาหงอยเมื่อเจอกับคนมากมายขนาดนี้ ปาร์ค ชานยอลคนนี้สงสารจับใจจริ้งจริงนะครับ (*´艸`*)



     

                    “ไอ้แบคฮยอน ไอ้ชานยอล เดี๋ยวเอ็มซีจะเรียกขึ้นเวทีแล้วนะ สแตนบายข้างบันไดขึ้นเวทีได้เลย” พี่จงแด เมเนเจอร์ส่วนตัวเดินเข้ามาบอกผมและไอ้หน้าหมาที่ยืนยุกยิกไม่หยุด ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงแบคอยอนที่กำลังอ้างปากช็อคเมื่อรู้ว่าเหลือเวลาอีกไม่นานที่เขาต้องขึ้นเวทีแล้ว



     

                    “ไอ้ซั๊ซ อยากเป็นลมให้มันรู้แล้วรู้รอดจริงๆเลย щ(ಥДಥщ)



     

                    “แบคฮยอน ไปเถอะมึง” ผมจับแขนมันก่อนจะลากให้มันเดินตามผมมา แต่ไอ้เตี้ยแบคฮยอนกลับยืนเฉย แถมยังยื้อตัวเองไว้กับที่


     

                    “ห..หู กูยังไม่หายตื่นเต้นเลยว่ะ”


     

                    “มันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก มึงจะตื่นเต้นทำห่าไรเนี่ยเตี้ย”


     

                    “มึงไม่เป็นกู มึงไม่รู้หรอก ไอ้สัสสส” เออ เอากับมันเข้าไปสิครับ -_- ปากนี่เบะขึ้นถึงตาได้ไอ้แบคฮยอนคงทำไปแล้วแหละ


     

                    “งั้นเดี๋ยวกูจับมือมึงไว้นะ ถ้ามึงตื่นเต้นมากๆบีบมือกูเลย” ผมคว้ามือข้างหนึ่งมันที่กำลังพักกันไม่หยุดสักที ก่อนจะจูงแบคฮยอนเดินไปข้างๆเวที มือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของมันบีบมือผมเป็นระยะๆ ก่อนที่ไอ้เตี้ยข้างๆตัวผมจะพึมพำกับตัวเองเบาว่าๆ ‘กูต้องทำได้ๆ


     

                    เฮ้ๆ! ทำไมมองผมด้วยสายตาแบบนั้นกันน่ะ ที่ผมทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะพิศวาสอะไรไอ้เตี้ยหมาตื่นเลยนะ แต่ผมกลัวงานล่มเพราะมันมัวแต่ตื่นเต้นต่างหากเล่า!


     

                    “ทุกคนรอคอยเวลากันมานานแล้วใช่มั้ยครับ!” เสียงเอ็มซีปลุกเสียงกรี้ดให้ดังกระหึ่งอีกรอบ เมือใกล้ถึงเวลาเปิดตัวของนักแสดงดังทั้งสอง


     

                    “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงแฟนคลับที่ตั้งหน้าตั้งตารอกรี้ดดังกว่าครั้งที่ผ่านๆมาเพราะรู้ว่านักแสดงใดวงใจของตนกำลังจะออกมา



     

                    “งั้นจะรออะไรอยู่ครับ ไปพบกับปาร์ค ชานยอล และบยอน แบคฮยอนกันเลย!


     

                    “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!” เสียงกรี้ดจากด้านนอกยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้แบคฮยอนมากขึ้น ทำให้คนตัวเล็กถึงกับก้าวขาแทบไม่ออก


     

                    “มึงทำได้นะเตี้ย ไม่ต้องกลัว กูยืนอยู่ข้างๆมึง” ชานยอลบีบมือที่ทั้งสองกุมกันไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะยิ้มให้คนตัวเล็ก พร้อมจูงมือนำหน้าแบคฮยอนขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ


     

                    “กรี้ดดดดดดดดดด เขาจับมือกันด้วย เห็นมั้ย กรี้ดดดดดดดดดด!!!!!!!!!


     

                    “เดี๋ยวกูพิมพ์แฟนแอคลงทวิตเตอร์แปบ กรี้ดดดดดดดดดดดดด!!!


     

                    “ชานแบคๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!” เสียงเชียร์เป็นจังหวะของแฟนคลับที่รอคอยทั้งหลายดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อได้เห็นว่าทั้งสองออกมาแล้ว แถมเขายังกุมมือกันออกมาจากหลังเวทีซะด้วยด้วย บ้าเอ้ยฟหกหกวดกาว!!!


     

                    แบคฮยอนเงยหน้ามองแฟนคลับที่ละลานตาเขาเหลือเกิน มันเป็นภาพที่เขาเห็นแล้วแทบอยากจะร้องไห้ออกมา แบคฮยอนยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นป้ายที่มีชื่อและรูปของเขาและปาร์ค ชานยอลเต็มไปหมด เมื่อมายืนตรงนี้ความตื่นเต้นที่มีมาค่อยๆเริ่มหายไป มีแต่ความรู้สึกดีใจเหลือเกิน เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนที่รักเขาขนาดนี้



     

                    “ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นตามเสียงที่กระซิบเบาๆกับตน ก่อนจะพยักหน้าตอบคำถาม พร้อมยิ้มกว้างให้กับคนข้างกายเขา


     

                    ต้องยกความดีความชอบให้ไอ้หูกางข้างๆผมตอนนี้เลยนะ ถ้าไม่มีมัน ผมก็คงแย่เหมือนกันนะเนี่ย..

     

    .

    .

    .     
              

     

                    “ขอบคุณที่ทำงานหนักกันครับๆ” ประโยคเดิมๆถูกกล่าวซ้ำๆจากนักแสดงคนเก่งทั้งสองที่กล่าวบอกทีมงานที่ช่วยกันทำงานจนงานแฟนไซน์ครั้งแรกนี้ลุล่วงไปด้วยดี


     

                    “เก่งมากเลยนะชานยอล แบคฮยอน” เสียงชมจากทีมงานทำให้ชานยอล และแบคฮยอนยิ้มกว้างมากขึ้น ลืมความเหนื่อยที่สะสมมาแทบทั้งวัน


     

                    สองนักแสดงคนเก่งเดินเข้าไปที่ห้องพักของตนเองที่ถูกจัดเตรียมไว้ ก่อนจะทิ้งตัวบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง


     

                    วันนี้มันเหนื่อยนะครับ ดูดพลังคนตัวโตอย่างผมไปเยอะเลยแฮะ แต่ถามว่าเหนื่อยแล้วมันคุ้มมั้ย ปาร์ค ชานยอลคนนี้ตอบได้อย่างเต็มปากเลยครับว่ามาก


     

                    ผมหันหน้าไปมองคนที่นั่งข้างๆผม ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู แบคอยอนตอนนี้เหมือนหมาหมดฤทธิ์เลยแฮะ เหนื่อยกว่าผมก็ไอ้เตี้ยนี่แหละ ทำโก๊ะตลอดงาน ถึงจะพลาดไปบ้าง แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจไอ้เตี้ยแบคฮยอนจริงๆนะว่ามันตื่นเต้นมาก แรกๆผมนึกว่ามันจะฉี่แตกกลางเวทีซะอีก เดชะบุญที่มันไม่เหลือน้ำให้ฉี่ออกมาแล้ว



     

                     เหงื่อที่ไหลตามไรผมของไอ้คนข้างๆ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดให้ เอาน่าๆ มันอุตส่าห์ทำงานวันนี้ไม่ล่ม ทำดีกับมันสักหน่อย ถือว่าเป็นรางวัลให้ล่ะกัน



     

                    “ขอบใจ” แบคฮยอนหันมายิ้มให้ผมอย่างเนือยๆ ก่อนจะค่อยๆหลับตาพริ้มด้วยความอ่อนแรง


     

                    “น้องครับ เมเนเจอร์จงแดฝากพี่มาบอกว่าติดธุระด่วน ตอนนี้เขากลับไปแล้วนะครับ เดี๋ยวพวกน้องทั้งสองขึ้นรถตู้ที่ทีมงานเตรียมไว้ให้ด้านหลังเวทีเลยนะครับ”


     

                    “อะไรนะครับพี่? พี่จงแดกลับบ้าน? บ้านไหนครับพี่!” ผมเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ราวกับว่ามันมีสปริงเด้งตัวผมขึ้นมา ตายแล้วกู ตายแล้ว พี่จงแดมีบ้านสองหลัง หลังหนึ่งอยู่โซล แต่อีกที่เป็นบ้านเกิดที่อยู่เชจู ถ้าพี่จงแดกลับบ้านเกิดแล้วกูจะนอนไหนล่ะ!



     

                    ไม่ใช่ว่าผมนอนบ้านเดียวกับเมเนเจอร์นะครับ แต่ผมฝากกุญแจคอนโดไว้กับพี่เขาน่ะสิ!


     

                    “อ้อ เห็นบอกกลับเชจูเลยครับ”


     

                    “ไอ้ชิบหาย!” ผมอุทานเสียงดังทันที โอ้ย ทำไมวันดีๆต้องมาจบอะไรที่มันเฮงซวยงี้ด้วยวะเนี่ยยย


     

                    ไม่รอช้าผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก่อนจะกดเบอร์โทรหาพี่คิมจงแดทันที ถือสายไปได้สักพักก็มีคนตอบรับด้วยน้ำเสียงติดงัวเงีย


     

                    (ไอ้บ้าชานยอลเอ้ย กูนอนอยู่)


     

                    “อ้าวหรอพี่ โทษๆ ฝันดีครับ” ชานยอลมึงนี่แย่จริงๆ โทรรบกวนคนจะนอน โทษครับพี่จงแด



     

                    แต่เดี๋ยวๆ... พี่กำลังนอนสบาย แต่วันนี้ผมจะได้นอนข้างถนนมั้ยครับพี่


     

                    “อย่าพึ่งพี่! กุญแจคอนโดผมอ่ะๆๆๆ”


     

                    (กุญแจคอนโดมึงก็อยู่กับมึงดิ จะมาอยู่กับกูได้ไง ไอ้ห่าหนิ)


     

                    “จะอยู่กับผมได้ไง ก็ผมฝากพี่ไว้ก่อนมางานอีกอ่ะ!


     

                    (กูหาให้แปบ เออว่ะ อยู่ในกระเป๋ากูจริงด้วย อีกสองวันกูกลับโซล ตอนนี้มึงก็นอนๆกับใครก็นอนไปนะ กูนอนต่อล่ะ) สิ้นเสียงพี่จงแด ผมก็ได้ยินตู๊ดๆมาแทน โอเค้ ผมโอเค้พี่ หลับให้สบายดากเลยนะครับ ขอโทษที่รบกวน ส่วนวันนี้ผมคงได้นอนหน้าห้องแทนล่ะจริงๆ (ノಠ益ಠ)ノ



     

                    มึง เป็นไร ทำหน้ายังกับคนไม่มีที่ซุกหูกางๆนอน” ไอ้เตี้ยปรือตามามองผมที่โวยวายเสียงดังด้วยสีหน้ารำคาญผมเต็มทน แต่สีหน้าผมแสดงออกขนาดนั้นเลยว่าไม่มีที่นอน=_=




     

                    “เออสิวะ”


     

                    “บ้านมึงแงะ กลับไปนอนบ้านดิ” ผมส่ายหน้าปฎิเสธเป็นพัลวันทันที ให้ผมไปนอนบ้านนี่ให้นอนข้างถนนยังสบายกว่า ไหนจะต้องกลับไปเจอยัยยูราพี่สาวตัวแสบ ไหนจะต้องมาคอยตอบคำถามซักไซร้จากพ่อและแม่ผมอีกว่าจะออกจากงานแสดงว่าช่วยธุรกิจที่บ้านเมื่อไหร่ ให้ตายผมก็ไม่ไปอ่ะ -_-



     

                    “มึงไม่มีเพื่อนรึไง นอนกับเพื่อนดิ”



     

                    “พวกมันไม่อยู่บ้านหรอก” ผมส่ายหน้าอีกรอบเมื่อเช็คแล้วเพื่อนผมมีแค่ไอ้จงอิน ที่อยู่บ้านกับป๊ากับม๊าของมัน ผมนี่ไปถึงทีไรนึกว่าเปิดแฟนมีทย่อมๆให้ป้าๆแถวบ้านมันได้ถ่ายรูปได้หนำใจ ถ้าไปนอนกับมัน กว่าจะได้พักก็คงตีแปดนู่นแหละ ส่วนไอ้คริส ก็คงนอนอยู่กับสุดที่รักจาง อี้ชิง ถ้าผมไปนอนคงเป็นก้างดีๆดีเอง ดูเสร่อน่าดู


     

                    แต่เดี๋ยว... ผมลืมคิดได้ไงว่ายัง มีตัวช่วยเป็นไอ้เตี้ยที่อยู่ข้างๆ


     

                    “กูไปนอนที่คอนโดมึงสักสองคืนได้มั้ยแบคฮยอน”

     

                                                                                      




    ผมนี่ถึงกับยืนขึ้นเลยครับ แหม่ๆ ชั่นโยล นังคนซึน
    (ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน มาเฟบ มาคอมเม้นกันนะคะ รักจังงง)
    #ฟิคฟกล

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×