[Gintama yaoi Takazura] Rokutousei no Yoru - [Gintama yaoi Takazura] Rokutousei no Yoru นิยาย [Gintama yaoi Takazura] Rokutousei no Yoru : Dek-D.com - Writer

    [Gintama yaoi Takazura] Rokutousei no Yoru

    ในค่ำคืนอันเป็นนิรันดร์ ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว “ขอเพียงแสงสว่างที่จะส่องข้ามคืนที่ไร้แสงดาวนี้” สถานที่ที่ไม่อาจกลับไปได้ ทิ้งมันไว้ เพื่อวันพรุ่งนี้ต้องเกิดใหม่ ต้องส่องสว่างอีกครั้งอย่างแน่นอน

    ผู้เข้าชมรวม

    3,714

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    3.71K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    35
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ย. 54 / 22:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นั่นสิ...มีอะไรเกริ่นมั้ย...
    เอาเป็น คนดู No.6 คงรู้จักเพลงนี้ดีนะคะ

    Rokutousei no Yoru - Aimer


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Short Fic - Gintama

      Takasugi x Katsura

      Credit (คำแปล) : http://springblossom.exteen.com/20110820/lyrics-rokutousei-no-yoru-no-6-ending + Daitaku & DSG Fansub – No.6

      Note : ตอนแรกอยากเขียนเมื่อวาน (11/11/11) แต่คิดอะไรไม่ออก วันนี้เพลงนี้เข้าหัว...เอามาแต่งละกัน

       

                      โลกสีแดง กลิ่นคาวโลหิต กลิ่นอายความตาย เสียงกรีดร้อง...

                      สนามรบ...

      ไม่ว่าคนสติดีที่ไหนก็มีโอกาสบ้าได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะ...เมื่อตัวเองเป็นคนทำให้เกิดภาพนี้เอง

                      ฆ่าคนครั้งแรก...ในสนามรบที่มีแต่การฆ่าฟัน

                      ไม่ฆ่า...ก็ถูกฆ่า ประโยคที่ทุกคนก็รู้จักกันดี

                      อึดอัด...แต่ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อความจริงมันก็เป็นเช่นนี้ เขาเป็นคนเลือกทางนี้เอง

       

                      Kizutsuita toki wa sotto tsutsumi konde kuretara ureshii

                  ในเวลาที่ตัวฉันนั้นต้องเจ็บปวด เธอจะคอยโอบกอดฉันไว้อย่างอ่อนโยนเสมอ

       

                      “ซึระ เป็นอะไรรึเปล่า”

                      คำถามสั้น ๆ พร้อมอ้อมกอดอุ่น ๆ จากผู้เป็นเพื่อน ทำให้เจ้าของชื่อเผลอร้องไห้ออกมา ร่างกายอ่อนล้าประท้วงโดยการทำดาบในมือหลุดลงพื้น ซบหน้าลงกับอกอีกฝ่าย เช็ดน้ำตาใส ๆ จากความใสซื่อของตนออกไป เสร็จแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ เพื่อยิ้มให้เหมือนเดิม

                      “ไม่ใช่ซึระ คาซึระต่างหาก”

                      ทำตัวร่าเริงแล้วเก็บดาบขึ้น เอามือปาดเลือดที่เลอะหน้าคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา รู้ดีว่ามันเป็นของศัตรูที่พลาดท่าถูกสังหารเข้า...แน่นอน ไม่มีทางเป็นของเจ้าของใบหน้าหล่อเหลานี่แน่

                      เพราะชินสุเกะของเขา...ไม่มีทางแพ้แน่นอน

                      ชายหนุ่มเลิกคิ้ว เหลือบมองบรรดาลูกน้องที่ทยอยกลับเข้าค่ายหลังชัยชนะ ก่อนจะจับใบหน้าสวยขึ้น สบตาสีน้ำตาลนิ่ง ๆ จนคาซึระต้องเป็นฝ่ายหลบตา เพราะความอ่อนแอที่ซ่อนอยู่ในนั้นไม่อาจปิดมิด ก่อนทาคาสึกิจะก้มหน้าลง แล้วจูบเขาอย่างแผ่วเบาโดยไม่เกรงสายตาใคร

                      “อะ อะ ไอ้ ไอ้บ้า!

                      มือเล็กทุบอกเขาแรง ๆ พร้อมใบหน้าแดงซ่าน เรียกสายตาคนแถวนั้นให้แอบมองแบบหลงใหล  แต่ก็โดนตาดุ ๆ อีกคู่ไล่กลับไป พร้อมจูบที่หน้าผากอีกครั้งเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ...และปลอบโยนอีกฝ่ายเบา ๆ

                      “ทีนี้ก็เลิกคิดมาก ไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้วนะ”

                 

      koronde tate nai toki wa sukoshino yuuki wo kudasai
      ในเวลาที่ฉันล้มลงแล้วไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ อยากให้เธอมอบความกล้าให้ฉันด้วย

       

      ดาบในมือสั่นไหวเมื่อรู้ว่าต้องออกไปชมรสเลือดอีกครั้ง เช่นเดียวกับเจ้าของที่ใจไม่เป็นสุข แทบทรุดลงก่อนได้ออกเดินเสียด้วยซ้ำ กระนั้น แขน ๆ หนึ่งก็โอบไหล่จากด้านข้าง กระซิบปลอบโยน และมอบความกล้าให้เขาอีกครั้ง

      “ไม่เป็นไร...เดี๋ยวก็จบ แค่พยายามให้มากที่สุดก็พอ”

      มือใหญ่หยาบกร้านลูบหัวเขาเหมือนเด็ก แต่คาซึระก็ยอมเป็นเด็กถ้าได้การปลอบโยนแบบนี้ ประโยคสุดท้ายดังขึ้นข้างหู ก่อนที่ผู้พูดจะพุ่งเข้าสู่ศัตรูตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

      “ฉันจะอยู่ข้าง ๆ เพราะฉะนั้น...พยายามด้วยกันนะ”

       

      owoi wa zutto togoka nai mama kyou mo tsumetai machi de hitori
      แม้ว่าความรู้สึกในวันนี้ยังส่งไม่ถึงเธอก็ตาม ฉันต้องเดินอยู่บนเส้นทางอันหนาวเย็นนี้เพียงลำพัง

       

                      วันต่อไป...สนามรบมาถึงอีกครั้ง

      ถึงจะกลัวก็ต้องกล้า ฟาดฟันดาบออกไป แม้มองไม่เห็นหนทางชนะ ข้าง ๆ ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเพื่อนร่วมรบ

      ไม่มีใคร...อยู่ข้าง ๆ เขาเลย

       

      koko ga doko ka omoi dase nai
      ที่นี่คือที่ไหน ฉันเองก็ไม่รู้

       

      “ชินสุเกะ...”

      มองออกไปก็ไม่อาจเห็นใคร แต่ เขาก็ยังเผลอเหลือบมอง อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายยังสบายดี ยังสู้ไหวอยู่หรือเปล่า แม้สถานการณ์ตัวเองอาจจะอยู่ในขั้นค่อนข้างวิกฤตก็ตาม

      ดาบของแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามพุ่งเข้ามา คาซึระพลิกตัวหลบแล้วรับมันไว้ด้วยดาบของตน ทว่า ก็รู้ดีว่าตอนนี้โดนล้อมไว้ด้วยศัตรู เริ่มเห็นลางไม่ดีขึ้นราง ๆ แต่ก็ต้องกัดฟันสู้ต่อ เพราะเขาไม่อยากมาตายที่นี่หรอกนะ

      ยังไงก็ต้องกลับไปหาทาคาสึกิให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม!

       

                      owaranai yoru ni negai wa hitotsu
                  ในค่ำคืนอันเป็นนิรันดร์ ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว

       

      “ระวังตัวหน่อยได้มั้ย!” คาซึระนั่งก้มหน้าสำนึกผิดอยู่บนฟูก ตรงหน้ามีทาคาสึกินั่งอบรมอยู่ด้วยสีหน้าโกรธจัด “ถ้าฉันไปไม่ทัน คิดว่าจะเป็นยังไง ฮะ!

      เสียงตะคอก...เพราะความเป็นห่วง แม้จะต้องสะดุ้งเป็นพัก ๆ เพราะอารมณ์อีกฝ่ายไม่คงที แต่ก็ยังดีใจ ที่ยังมีคนเป็นห่วง...แถมคนที่เป็นห่วงนั้นก็ดันเป็นคนที่เสี่ยงตายเข้าไปช่วยชีวิตเขาอีก บอกชัดว่าสำหรับคนตรงหน้า เขาสำคัญเพียงใด

       

      “Hoshi no nai sora ni kagayaku hikaru wo”
      ขอเพียงแสงสว่างที่จะส่องข้ามคืนที่ไร้แสงดาวนี้

       

      “ถ้านายยังจะทิ้งฉันไปอีกคน ฉันทนไม่ได้หรอกนะ” อ้อมกอดที่รัดแน่น ต่อให้อึดอัดมากเพียงใด คาซึระก็มีความสุข คำพูดที่ไม่ต่างจากคำบอกรักทำให้หัวใจพองโต ให้ความรู้สึกเหมือนว่า...ต่อให้คนทั้งโลกจะจากไปก็ไม่เป็นไร ขอแค่เขา แค่แสงสว่างเดียวคนนี้อยู่ข้าง ๆ เขาก็พอ

      ทั้งที่คิดอย่างนั้นแท้ ๆ ... แต่หลายสิ่งมักไม่เป็นตามที่หวัง

                      เราแพ้

                      เส้นทางที่เคยเป็นหนึ่งเดียวกลับแตกออกเป็นเส้นขนาน

      พรากเราทั้งสองออกจากกันและกัน

       

      modore nai basho ni suteta mono da sae
      สถานที่ที่ไม่อาจย้อนกลับไปได้ ทิ้งมันเอาไว้ตรงนี้

       

      “ชินสุเกะ...ทาคาสึกิ ฉันขอโทษ” คำบอกลา หลังได้รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีเหี้ยมโหดกำจัดชาวสวรรค์อย่างไม่น่าให้อภัย ยุติความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนเพียงแค่นี้ ทั้งที่น้ำตาไหลอาบแก้ม อยากโผเข้ากอดและเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ ...

      แต่ทางเดินเรากลับไม่มีทางบรรจบ ต้องเข่นฆ่ากันไปเรื่อย จนถึงเลือดหยดสุดท้ายของชีวิต

       

      umare kawatte ashita wo kitto terasu
      เพื่อที่ฉันจะได้เกิดใหม่ วันพรุ่งนี้จะต้องส่องสว่างอย่างแน่นอน

       

      “...ไม่เป็นไร ถ้าแกคิดอย่างนั้นก็ตามใจ”

      คาซึระไม่เคยรู้ว่าตัวเองเลือกทางเดินถูกรึเปล่า แต่เขาคิดว่า การเดินทางนื้ทำให้เขาสบายใจกว่า  แม้จะต้องเจ็บแทบตายเมื่อบอกลาก็ตาม

       

      hoshikuzu no naka de anata ni deaeta
      ท่ามกลางเศษเสี้ยวของกลุ่มดาวนับล้าน ฉันได้พบกับเธอ

      ความบังเอิญหรือปาฏิหาริย์... ต่างกันเพียงเส้นบาง ๆ กั้น

      “ซึระ”

      ราวกับฝันไป...เสียงอันคุ้นเคย เรียกชื่อเล่นที่เขาเกลียดจากเบื้องหลัง เสียงที่เรียกพร้อมกับรอยยิ้ม เสียงที่มาพร้อมอ้อมกอดที่จะโอบเขาให้ผ่านจากเรื่องร้าย ๆ เสมอ

       

      itsuka no kimochi no mama aetara yokatta
      สักวันจะต้องได้พบกับความรู้สึกแบบนี้

      ทว่าเมื่อหันไปกลับไม่มีใคร เป็นแค่ความรู้สึกที่หลอนไปเอง...แค่นั้นเอง

                      “แค่คิดไปเองเหรอ”

                      รู้สึกเหมือนมันจุกเข้ามาในอก อยากทรุดลงไปร้องไห้กลางถนน กลายเป็นเด็กขี้แยไม่รู้จักโตเลยก็ได้ ถ้านั่นทำให้ความรู้สึกนี้กลายเป็นความจริง... แม้ต้องทนสายตาคนอื่นมองแปลก ๆ ก็ไม่เป็นไร


      modoranai kako ni naita koto de sae
      อดีตที่ผ่านมามันย้อนกลับมาไม่ได้แล้ว จะไม่ร้องไห้อีกต่อไป

      “อึก” คาซึระกลืนก้อนสะอื้นลงในลำคอ พยายามตีสีหน้าให้สงบ บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเป็นฝ่ายบอกลาเอง... ไม่มีสิทธิ์หวังให้อีกฝ่ายกลับมารักเหมือนเดิม ได้แต่หลอกตัวเองว่าไม่คิดถึงกันอีกแล้ว เท่านั้นเอง

       

      umare kawatte ashita wo kitto terashite kureru
      เพื่อที่ฉันจะได้เกิดใหม่ วันพรุ่งนี้จะต้องส่องสว่างอย่าง แน่นอน

       

       

       

      nemurenai toki wa sotto te wo tsunai kuretara ureshii
      ในเวลาที่ตัวฉันนอนไม่หลับ เธอจะคอยจับมือของฉันไว้อย่างอบอุ่นเสมอ

       

                      “เป็นอะไรไป” มือใหญ่ทาบมือเล็กหลังรับรู้ได้ว่าคนในอ้อมกอดยังคงเบิกตาโพลง คืนที่ฝนตก และท้องฟ้าไร้ดาว ห้องนอนกว้างที่มีเหล่าผู้สละชีพขับไล่ต่างแดนนอนรวมอยู่ด้วยกัน มีเพียงเขาสองคนยังตื่นอยู่ด้วยกันเพียงเท่านั้น... ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องดังสนั่นให้คนขวัญอ่อนตกใจ

                      คาซึระพลิกตัวหันไปอีกทาง ไม่ได้ตอบอะไร แต่ทาคาสึกิกลับเพียงแค่ยิ้ม ก่อนจะขยับตัวเข้าหาแล้วโอบอีกฝ่ายเข้ามา อีกครั้ง ริมฝีปากงับเบา ๆ ที่หูอย่างหยอกล้อแบบที่ชอบทำเป็นประจำ ไม่เกรงว่าใครจะตื่นขึ้นมาเห็นภาพน่าอายนี่เลยสักนิด

       

      yoake wa kuru yoto sasayaite ite uso demo iikara
      เธอกระซิบบอกฉันว่าใกล้เช้าแล้ว ถึงเธอจะโกหกแต่ก็ไม่เป็นไรหรอก

       

                      “พอเช้าแล้วฝนก็จะหยุดตก ไม่ต้องกลัวนะ”

                      “ไม่ได้กลัวสักหน่อยไอ้บ้า!” คาซึระสะบัดหน้าหนีแล้วซุกหัวลงในหมอน ทำท่าเหมือนโกรธ ทั้งที่ความจริงเขินจัดจนไม่กล้าสู้หน้า ทั้งดีใจทั้งใจเต้นที่อีกฝ่ายปลอบ แต่ไม่มีทางยอมรับเรื่องน่าอายแบบนั้นเด็ดขาด ไม่งั้นคงโดนล้อตาย

                      ทาคาสึกิส่งเสียงหึเบา ๆ ออกมา ตามด้วยการกระซิบอีกประโยค

                      “ไม่กลัว แล้วทำไมใจเต้นแรงขนาดนี้ล่ะ”

                      มือใหญ่สัมผัสที่หน้าอกข้างซ้าย รับรู้ได้ถึงจังหวะที่เต้นรัวและเร็วยิ่งกว่ากลองออกศึก ในขณะที่คนสวยพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เก็บเงียบ ซุกหัวลงกับหมอนให้ลึกกว่าเดิม แล้วส่งเสียงอู้อี้

                      “หนวกหู!

       

      negai wa zutto kana wa nai mama konya seizawa tsuresatte
      ความปราถนาของฉันไม่คงไม่มีวันเป็นจริง คืนนี้แอบลักพาหมู่ดาวมาไว้ข้างกาย

       

                      “เฮือก!

                      คาซึระสะดุ้งตื่นพร้อมเหงื่อผุดพราย หัวใจยังเต้นแรงเหมือนกลับไปอยู่ในช่วงเวลานั้นเหมือนเก่า ช่วงเวลาที่มีความสุข....อาจจะมากที่สุดในชีวิต

                      แต่ มันก็แค่ฝันไป

                     

      kiette shimatta mou modorenai
      และหายกลับไป ไร้ร่องรอย จะไม่หวนกลับไป

       

                      บางอย่างแม้ไขว่คว้าเท่าใดก็ไม่อาจได้มา...

                      “ว่าแต่ตอนนี้นายจะเป็นยังไงบ้างนะ มีความสุขรึเปล่า... มากกว่าตอนที่อยู่กับฉันมั้ย”

                      พูดพร่ำเพ้อไปคนเดียว ให้น้ำตาไหลรินลงอาบแก้ม มองท้องฟ้าในค่ำคืนไร้ดาว ก่อนจะยกมือขึ้นราวกับจะเอื้อมไปให้ถึง

                      “ขอโทษที่เราไม่มีทางกลับไปได้เหมือนเดิม...ชินสุเกะ”

       

      owaranai yoru ni negai wa hitotsu 
      ในค่ำคืนอันเป็นนิรันดร์ ความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว


                      เคยมีคนกล่าวว่า เทพแห่งการเวลาชอบเล่นตลกกับมนุษย์ ช่วงเวลาที่ทรมานและเจ็บปวด มักจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่เวลาแห่งความสุขมักจากไปอย่างรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว

                      คืนนี้เขาเหนื่อย...และก็ล้ามาก มันถึงช้าขนาดนี้สินะ

                      ราวกับราตรีนี้เป็นนิรันดร์...

       

      “Hoshi no nai sora ni kagayaku hikaru wo"
      ขอเพียงแสงสว่างที่จะส่องข้ามคืนที่ไร้แสงดาวนี้

       

                      “คิดถึงฉันขนาดนี้เลยเหรอ”

                      อ้อมกอดเดิม ๆ โอบจากด้านหลัง ทั้งที่อยู่ในบ้านตัวเอง แต่กลับโดนบุกรุกโดยไม่รู้สึกตัว

                      ริมฝีปากแนบชิดกัน อ่อนหวาน อ่อนโยน แล้วค่อย ๆ เร้าร้อน รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมเสียงหอบกระเส่าเริ่มตามมาและเสื้อผ้าที่หล่นลงไปกองที่พื้น

                      เหมือนดวงดาวดวงเดียวที่ส่องแสงสว่างให้ในค่ำคืนที่ไร้ดาว

                      ให้ท้องฟ้าสีดำมืดไม่ต้องเงียบเหงาเพียงลำพัง

       

      ima wa to sugite hakanai hoshi demo
      แม้ว่าตอนนี้หมู่ดาวจะอยู่ห่างไกลจนเกินไป

       

      ร่างสูงลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า หยิบหมวกฟางที่วางกองไว้ที่พื้นแล้วหันหลังให้เตียง ตรงไปที่ประตู เป็นสัญญาณว่ากำลังจะไป โดยไม่เอ่ยแม้แต่คำบอกลา

       

      umare kawatte yozora wo kitto terasu
      แต่ในค่ำคืนต่อๆไป มันจะต้องส่องแสงอีกครั้งอย่างแน่นอน

                      ใช่...ไม่ลา เพราะของแบบนั้นไม่จำเป็น

                      ยังไง สักวันหนึ่งเราก็ต้องได้พบกันอีก แม้สถานที่นั้นจะเป็นสนามรบอีกครั้งก็ตาม

       

      hoshikuzu no naka de deaeta kiseki ga
      ท่ามกลางเศษเสี้ยวของกลุ่มดาวนับล้าน เราได้พบกันราวกับปาฏิหาริย์

      hitogomi no naka ni mata mienaku naru
      ต้องจางหายไปจากสายตาท่ามกลางฝูงชน

                      modoranai kako ni naita yoru tachi ni

      หลากหลายราตรีที่ร่ำไห้เพื่ออดีตที่กลับมาไม่ได้

      tsugeru sayonara ashita wa kitto kagayakeru yo ni
      บอกลามันไป แล้วไปสู่วันพรุ่งนี้ที่จะส่องสว่างอย่างแน่นอน

                      “อย่ายึดติดกับฉัน” เสียงกระซิบสุดท้ายก่อนชายกิโมโนสีม่วงจะพ้นขอบประตูไป

                      “จะรักใครก็ได้ แค่ให้นายมีความสุขก็พอ”

       


      konna chiisana seiza nano ni koko ni ita kizute kurete arigatou
      แม้ว่าดวงดาวที่เห็นจะส่องแสงเพียงเล็กน้อย แต่ตอนนี้ฉันต้องบอกกับเธอให้ได้ว่า ขอบคุณมากๆนะ

       

                      คาซึระยันตัวขึ้นจากเตียง ฝืนความเจ็บปวดที่สะโพกแล้วออกวิ่งเข้าไปกอดทาคาสึกิจากด้านหลัง ปล่อยให้บรรยากาศมีแต่ความเงียบสักครู่ ก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ

                      “ฉันอาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ดี เป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่อง แต่ทีผ่านมา ฉันมีความสุขมาก...มากจนไม่คิดว่าจะหาใครอื่นมาแทนได้อีกแล้ว”

                      น้ำตาไหลออกมาอีกครั้งราวกับเด็กขี้แย กระนั้นรอยยิ้มบาง ๆ ที่ใบหน้าก็ช่วยให้อารมณ์นั้นเปลี่ยนไป

                      “ขอบคุณนะ...ชินสุเกะ”

       

                      ท่ามกลางเศษเสี้ยวของกลุ่มดาวนับล้าน ฉันได้พบกับนาย            

                      ราวกับปาฏิหาริย์ คนบนโลกมีมากกว่าล้าน แต่เรากลับได้เจอกัน

                      แม้ด้ายแดงแห่งพรหมลิขิตจะไม่ได้ผูกเราทั้งคู่ไว้ ให้เราได้อยู่ด้วยกันตลอดกาล

                      แต่ฉันจะจดจำความรู้สึกนี้ไว้

                      แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเกิดใหม่...

                      พรุ่งนี้ท้องฟ้าต้องกลับมาสว่างอีกครั้งแน่นอน

       _________________________________________________________________________________________
      ฟิคเพลงแบบจริงจังเรื่องแรก
      เรื่องอื่นไม่เคยเอาเพลงลงแบบนี้...
      ฟิคเพลงนี่...ยากจริง ๆ อ่ะ=[]=

      เพลงนี้ ความหมาย... ถ้าให้ตี ก็ตีได้หลายทาง (เอาแบบอ่านจากคำแปลเอา อ่านยุ่นไม่ออกขนาดนั้น)
      ทั้งให้กำลังใจ...
      ทั้งบอกลา...
      คู่นี้ออกไปทางข้างหลังมากกว่า ไม่เหมือนเนซึมิกับชิองเลย=w=;;
      (สารภาพว่า...เพลงนี้ต้องการจะสื่ออะไรยังตีไม่ค่อยแตกค่ะ)

      ตอนแรกกะให้ทากะตายแล้วนะ เพราะมันไม่ตาย...ถึงเน่าขนาดนี้ไง!!! OTL
      ประโยคที่ชอบที่สุดในเพลงคือ
      "
      nemurenai toki wa sotto te wo tsunai kuretara ureshii
      ในเวลาที่ตัวฉันนอนไม่หลับ เธอจะคอยจับมือของฉันไว้อย่างอบอุ่นเสมอ
      yoake wa kuru yoto sasayaite ite uso demo iikara
      เธอกระซิบบอกฉันว่าใกล้เช้าแล้ว ถึงเธอจะโกหกแต่ก็ไม่เป็นไรหรอก"

      แบบว่ามันใช่ มันใช่คู่นี้เลยอ่ะ!
      (คิดไปเอง)
      ก็ชอบอ่ะ มีอะไรมั้ย
      แอบรู้สึกว่าภาษาห่วยมาก... วันหลังถ้ายังไม่เก่งจริง...จะพยายามเลี่ยงฟิคเพลงให้มากที่สุด
      เน่า...เพราะจิ้นไม่ตรงกัน เดี๋ยวเป็นmv เดี๋ยวเป็นฉาก =w=;;

      เอาเหอะ ถึงมันจะเน่าแค่ไหน น้ำเน่าท่วมเพียงใด
      ก็ขอเมนท์นะคะ<<วกกลับมาเรื่องเดิม

      ส่วนเรื่องยาวทากะซึระ...ลงไปหลายตอนแล้วนะ...
      ตอนหน้า ขอดองก่อนแล้วกัน
      ตัน
      แอ้ก!

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×