คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 แอบอ้าง (2)
“แต่เกล้าไม่ได้คิดกับรุจแบบนั้น
ที่ผ่านมาการกระทำของเกล้าก็ชัดเจนมาโดยตลอดว่าเกล้าคิดกับรุจแค่ ‘เพื่อน’ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
รัดเกล้าพูดออกไปตรงๆ และเน้นประโยคคำว่า “เพื่อน’ ด้วยน้ำเสียงหนักๆ
เพื่อย้ำกับอีกฝ่ายว่าเธอคิดอย่างนั้นจริงๆ และไม่มีทางเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ไม่ใช่ว่าวิศรุจไม่เคยพยายามบอกเธอเรื่องความรู้สึกของเขา ใช่! เขาอาจไม่เคยบอกเธอตรงๆ
ด้วยคำพูด
แต่ทั้งสายตาและการกระทำตลอดสี่ปีที่ผ่านมาไม่ต้องบอกออกมาเธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดกับเธอเกินคำว่าเพื่อน
แต่อาจเป็นเพราะเธอแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาอย่างชัดเจนล่ะมั้งที่ทำให้อีกฝ่ายไม่เคยพูดความรู้สึกของตัวเองออกมา
แต่ในเมื่อวันนี้วิศรุจเลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ การที่เธอเลือกตอบเขาไปตรงๆ
เหมือนกัน มันคงดีที่สุดแล้ว ทั้งสำหรับเธอและสำหรับตัวเขาเองด้วย
“แต่..”
“เราเป็นเพื่อนกันแบบนี้น่ะดีแล้ว”
รัดเกล้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง
พอพูดจบก็มองเข้าไปในในดวงตาสีเข้มเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูด
“แต่เราไม่อยากเป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปแล้ว”
“แต่เกล้าให้รุจได้แค่นี้” รัดเกล้าประสานสายตากับนัยน์ตาสีเข้มที่จับจ้องมายังตัวเองอย่างแน่วแน่ด้วยแววตาที่มั่นคงไม่ต่างกัน
“ทำไมเกล้าไม่ลองให้โอกาสเราบ้างล่ะ ในเมื่อเราสองคนก็ยังไม่มีใคร
ลองดูก่อนก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหายไม่ใช่เหรอ
แล้วเราสัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้เกล้ารักเราให้ได้”
“ขอโทษนะรุจ มันคงเป็นไปไม่ได้ แล้วอีกอย่างรุจก็ควรจะมองคนที่เขารักรุจ”
รัดเกล้าพูดเป็นนัยๆ
ตลอดสี่ปีที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาไม่เคยมีสักวันที่วิศรุจจะหายหน้าไป
และเขาก็ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง เธอเชื่อว่าใครที่ได้ผู้ชายคนนี้ไปดูแลคงจะมีความสุข
แต่เธอคิดกับเขาแบบนั้นไม่ได้ แม้แต่จะพยายามเธอก็ไม่เคยคิด
ในเมื่อผู้ชายคนนี้เป็นคนที่เพื่อนสนิทของเธอรักมาตลอด
รักมากเสียจนยอมมอบสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตผู้หญิงให้ทั้งๆ
ที่รู้ว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นของผู้ชายตรงหน้า
แต่วิศรุจกลับไม่เห็นค่าของผู้หญิงที่ทั้งรักและยอมให้เขาทุกอย่างอย่างวิรัญญาเลยแม้แต่น้อย
เรื่องนี้วิรัญญาไม่ได้บอกเธอ เธอบังเอิญรู้เอง และในเมื่อเพื่อนไม่พูด
เธอก็ไม่อยากแสดงออกว่าเธอรู้เรื่อง
ได้แต่เพียงเก็บเงียบและคอยเตือนเพื่อนรักอ้อมๆ อย่างห่วงใย
“เราคงมองใครไม่ได้อีก ตาเรามีไว้มองเกล้าเพียงคนเดียว
ใจเราก็เป็นของเกล้าคนเดียว”
“แต่ใจเกล้าไม่ได้อยู่ที่รุจ รุจควรรักคนที่เขารักรุจมากกว่ามาหวังลมๆ
แล้งๆ กับคนที่คิดกับรุจได้แค่เพื่อนแบบเกล้า”
“หัวใจคนเรามันบังคับกันไม่ได้นี่”
“ใช่รุจ เกล้ารู้ดีเลยล่ะว่าหัวใจคนมันบังคับกันไม่ได้
ไม่ได้รักก็คือไม่ได้รัก เพื่อนก็คือเพื่อน”
“เราไม่ได้หมายถึงแบบนั้น”
“มันต่างกันตรงไหน
สี่ปีที่ผ่านมา ถ้าเกล้าจะคิดกับรุจมากกว่าคำว่าเพื่อนก็คงคิดไปนานแล้ว
ไม่ต้องรอมาจนถึงวันนี้หรอก”
“เกล้าอย่าเพิ่งตัดรอนเราสิ เรา...”
“ไม่ว่ารุจจะพูดอะไรอีก
เกล้าก็ยังจะยืนยันคำเดิมว่าเกล้าคิดกับรุจได้แค่เพื่อน”
รัดเกล้าตัดบทด้วยการยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเอง
“แต่เราคงเป็นแค่เพื่อนกับเกล้าไม่ได้
ทำไมเกล้าไม่ลองดูก่อน เกล้าก็ยังไม่มีใครไม่ใช่เหรอ ลองคบกันเราดูก่อน
ถ้าไปกันไม่ได้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่”
“ก็ได้... วิ” รัดเกล้าโพลงขึ้นอย่างหมดความอดทน แต่พูดยังไม่ทันจบประโยคหางตาเธอก็เหลือบไปเห็นเพื่อนรักอีกคนที่ยืนอยู่มุมหนึ่งเสียก่อน
ใบหน้าที่ซีดเผือดและหยาดน้ำใสๆ ที่ไหลเต็มใบหน้าของวิรัญญาทำให้เธอรู้ว่าเพื่อนรักคงได้ยินสิ่งที่วิศรุจพูดกับเธอ
และคำตอบที่ไม่จบของเธอก็สร้างความเข้าใจผิดให้เพื่อนรักยิ่งขึ้นไปอีก
ร่างของวิรัญญาที่หมุนตัวจากไปทำให้รัดเกล้ารีบสาวเท้าตาม แต่ร่างของเธอกลับถูกยึดไว้ด้วยมือของวิศรุจที่ไม่ทันได้เห็นวิรัญญา
“จริงเหรอเกล้า”
“ปล่อยก่อนรุจ” รัดเกล้าพูดวิศรุจทั้งๆ
ที่ยังมองตามแผ่นหลังที่สั่นเทาอย่างรุนแรงของวิรัญญาอย่างห่วงใย
แต่คำพูดของวิศรุจก็ทำให้เธอต้องหันไปมองหน้าของเขาด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น
“เกล้าตกลงคบกับเราแล้วใช่ไหม”
“ใครบอกว่าเกล้าจะคบกับรุจ เกล้ายังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยสักคำ”
“ก็เมื่อกี้เกล้าบอกว่า ‘ก็ได้’ ไง”
“เมื่อกี้เกล้ายังพูดไม่จบ
ที่บอกว่าก็ได้คือ เกล้าบอกรุจก็ได้ว่าเกล้ามีแฟนแล้ว” อาจเป็นเพราะแผ่นหลังสั่นเทาของวิรัญญาที่เดินจากไปล่ะมั้งที่ทำให้คำประโยคว่า
‘ก็ได้ ถ้าเป็นเพื่อนกันไม่ได้
ต่อไปเราก็เป็นแค่คนที่เคยรู้จักกัน’ ที่เธอตั้งใจจะใช้ขู่วิศรุจเปลี่ยนเป็นประโยคนี้ไปได้
“ไม่จริง!”
แทบจะทันทีที่รัดเกล้าพูดจบประโยควิศรุจก็โต้กลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อถือปนตกตะลึง
ทำให้หญิงสาวต้องตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังยิ่งกว่าเก่าแม้ว่าจะตกใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปเช่นกัน
“จริง”
“ก็สี่ปีมานี่ เราไม่เคยเห็นเกล้ามีใครสักคน
หรือแม้แต่ไปไหนมาไหนกับผู้ชายก็ไม่เคยเห็น”
“รุจไม่เคยเห็น เกล้าไม่เคยพูด ก็ใช่ว่าจริงๆ
แล้วเกล้าจะไม่ได้คบกับใครอยู่เสียหน่อย”
“ไม่จริง เราไม่เชื่อ”
“เกล้าจะโกหกไปทำไม”
“ก็เพื่อให้เราเลิกยุ่งกับเกล้าไง”
“รุจจะคิดแบบนั้นก็ตามใจแล้วกัน
แต่ที่เกล้าขอยืนยันว่าที่พูดออกไปเป็นความจริงทุกคำ” แม้ในใจอยากจะพูดว่า
‘ก็รู้นี่’ แต่คำพูดที่ออกไปก็ยังเป็นถ้อยคำที่เธอต้องยืนยันคำโกหกของตัวเองให้ถึงที่สุด
“หยุดโกหกซะทีเถอะเกล้า”
“เกล้าไม่ได้โกหก
แล้วก็ช่วยปล่อยมือด้วย เกล้าไม่อยากให้คนรักของเกล้าเข้าใจผิด”
“พูดแบบนี้ หมายความว่ายังไง”
รัดเกล้าอยากกัดลิ้นตัวเองให้ขาดในวินาทีนั้น
บ้าชะมัด! ที่เธอพูดออกไปโดยไม่ได้ทบทวนให้ดีเสียก่อน เพราะคำพูดที่เธอเพิ่งพูดออกไปมันก็แปลได้ว่าคนรักที่เธออุปโลกน์ขึ้นอยู่แถวนี้ด้วย
แล้วถ้าวิศรุจถามถึง เธอจะทำยังไงล่ะเนี่ย
และแล้วสิ่งที่คิดและกำลังหวั่นใจก็เป็นจริงจนได้...
“ตกลงเขาคนนั้นของเกล้าอยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ”
“ชะ...ใช่!”
***************
มาต่อให้แล้วจ้า
ความคิดเห็น