คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter III : โอกาสมีไว้แก้ตัว
Chapter III
โอกาสมีไว้แก้ตัว
“ฮัลโหล ทิฟฟานี่”
“นั่นใคร?”
“คิมมินจุน”
“นายมีอะไรกับฉัน”
“ฉันมีแผนดีๆมาให้เธอ สนใจจะฟังไหม?”
“ว่ามาก่อนสิ”
“...”
******************************************************* “โชคดีนะเว้ยมึง แล้วรีบกลับมาหากู”
“เออ ดูแลตัวเองด้วยนะมึงอ่ะไอคุณ”
“ผมขอให้แทคยอนฮยองโชคดีนะครับ ขอให้ผ่านปัญหาไปได้ด้วยดี แล้วรีบกลับมานะครับ”
“โอเค เดี๋ยวฮยองจะรีบกลับ งั้นกูไปนะ ไอคุณ”
ผมโบกมือให้แทคฮยองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเห็นแทคฮยองเดินเข้าเกทไป ผมกำลังหันตัวเพื่อที่จะเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน แต่กลับมีมือหนึ่งมาดึงไว้ซะก่อน
“อูยองว่างไหมครับ?”
“ค..ครับ?”
“ไปทานข้าวเป็นเพื่อนฮยองหน่อยสิ ฮยองหิวมากๆเลย”
“ทำไมต้องชวนผมด้วยละครับ”
“นะครับนะ นะอูยอง”
“ก็แล้วแต่ฮยองครับ”
“โอเคงั้นไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน ฮยองอยากกินปลาดิบที่สุดแล้วตอนนี้”
“แล้วแต่ครับ”
หยิ่งเข้าไว้นะอูยอง ห้ามใจอ่อน ถึงเขาจะขี้อ้อนแค่ไหน ก็หลง เอ้ย! ห้ามหลง ห้าม ห้าม เด็ดขาด!
“อูยอง กินนี่สิ อร่อยมากเลยนะ”
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบกิน”
“งั้นลองกินนี่ อร่อยที่สุดในร้านแล้ว”
“ผมไม่กินปลาดิบครับ”
“งั้น..”
“ผมกินเองได้ครับฮยอง”
“อ..อืม ฮยองขอโทษที่จู้จี้จุกจิกนะ”
“ช่างมันเถอะครับ รีบกินแล้วรีบกลับเถอะครับ”
“อืม”
ผมเห็นคุณฮยองนั่งทำหน้าเหมือนหมาหงอยตลอดการกินอาหาร ผมไม่ได้เล่นแรงไปหน่อยใช่ไหมเนี่ย? ไม่น่า เขาทำกับเราแรงกว่านี้หลายเท่า ห้ามใจอ่อน!
“เดี๋ยวฮยองไปส่งนะ นี่ก็เย็นแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกลับเอง ผมมีธุระต้องไปทำต่อ”
“ให้ฮยองไปเป็นเพื่อนไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ”
“พรุ่งนี้อูยองว่างไหม? ไปดูหนังกัน”
“พรุ่งนี้ผมมีนัดทำโปรเจ็คกับเพื่อนครับ ขอโทษนะครับ”
“หรอ.. ไม่เป็นไร ไว้พี่รออูยองว่างแล้วไปดูด้วยกันนะ กลับบ้านดีๆนะครับ”
“ครับ”
******************************************************* ความรู้สึกผมตอนนี้เหมือนโดนเอาคืนจริงๆนะครับ อูยองตีตัวออกห่างจากผมมาก ผมรู้สึกไม่ชอบเลย ยิ่งผมพยายามจะเข้าหาเขา เขาก็ยิ่งถอยห่างผม เขาคงโกรธผมมากจริงๆ ความหวังของผมชักจะเริ่มลิบหลี่ซะแล้ว
“ฮัลโหล ว่าไงครับ ฟานี่”
“พรุ่งนี้คุณว่างไหมคะ?”
“อืม ก็ไม่ได้ไปไหนนะครับ ทำไมหรอ?”
“ไปดูหนังกันไหมคะ? พรุ่งนี้มีหนังน่าดูหลายเรื่องเลย”
“เอ่อคือ..”
“ไปเถอะนะคะ เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลยนะคะ”
“ผมพึ่งพาฟานี่ไปกินแพนเค้กมาเองนะ”
“มันไม่เหมือนกันค่ะคุณ ไปเถอะนะคะ นะๆ”
“ก็ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้ผมไปรับที่บ้านเที่ยงๆนะครับ”
“ตกลงค่ะ คุณของฟานี่น่ารักที่สุดเลย ♥”
*******************************************************
เช้าวันต่อมา..
“อูยองงง”
“หืมม”
“ตื่นได้แล้ว”
“นี่วันเสาร์นะ!”
“วันเสาร์ก็ต้องตื่น เรานัดกันทำโปรเจ็คนะ”
“ขออีก 5 นาที”
“ไม่ได้!! ลุกขึ้น”
“ไม่อาวววว”
“อย่ามาแอ๊บเด็ก ตื่นๆ”
“อาบน้ำให้หน่อยดิเบจ๋า”
“อย่ามาอ้อนนะ โตแล้วนะจางอูยอง ตื่น!!”
“ตื่นแล้ว ยัยบ้าเอ้ย! ไม่สวยยังใจร้ายอีก”
“อย่ามาเพ้อ รีบไปอาบน้ำ ฉันไปรอหน้าบ้านนะ”
“ครับคุณแม่คนที่ 2”
“!!!”
ยัยเบซูจีนี่ขี้บ่น การปลุกของมันแต่ล่ะที ต้องฝากรอยแผลกับผมไว้ซักจุด ผมเชื่อเลย ทำไมมันถึงไม่มีใครเอา เชอะ!
“เดี๋ยวพี่คิมไปส่งหนูที่ห้าง K นะคะ”
“ไปทำอะไร!?”
“ไปดูหนัง ฉันจองรอบตอนบ่ายโมงสิบเอาไว้”
“ถามฉันซักคำไหมเนี่ย!?”
“แล้วจะดูไหมล่ะ?”
“ดู”
โป๊ก!
“แล้วจะบ่นทำไมล่ะ ไอบ้านี่”
“ไม่ได้บ่นฉันแค่ตกใจ ไหนบอกชวนไปทำงาน”
“พักผ่อนก่อนไปเครียดไง อย่าสงสัยมากน่า”
“ครับๆ”
โรงหนังในห้างสรรพสินค้า K
“ทำไมวันนี้มีคนมาดูหนังน้อยจัง”
“วันนี้ยังไม่สิ้นเดือนน่ะสิ คนไม่ค่อยมีเงินกันละมั้ง”
“นี่เราจะมาดูเรื่องอะไร?”
“Captain America 2”
“ฉันอยากดูพอดีเลย น่ารักที่สุดเลยเพื่อนของจากอูยองคนนี้”
“แล้วเมื่อเช้าใครด่าฉันว่าไม่สวยแล้วยังใจร้าย?”
“ใครหรอ ใครด่าเบของฉัน เดี๋ยวฉันจะไปจัดการมันเอง”
“แกนั่นแหละ! ไปซื้อป็อปคอร์นให้หน่อย ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน นายไม่ปวดนะ?”
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงค่าป็อปคอร์นเอง”
“แหม ค่าตั๋วหนังกับค่าป็อปคอร์นมันช่างยุติธรรมจริงๆ”
“อย่าบ่นน่า! ไปได้แล้ว”
ระหว่างที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการแอบเล็มป็อปคอร์นของเพื่อนสุดที่รัก ก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งเจ้าของผมดำขลับ เดินโชว์ฟันขาวมาแต่ไกล ผมจำได้ตั้งแต่วินาทีแรกว่าเขาคือใคร แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่สบอารมณ์คือผู้หญิงตัวขาวๆที่อยู่ข้างๆ
‘ไหนบอกจะรอมาดูกับเราทีเดียวไง แล้วนี่คืออะไร!?’
ผมได้แค่หงุดหงิดกับตัวเอง แล้วตัดสินใจว่าจะหลบไม่ให้อีกฝ่ายเห็นโดยการยืนหลบอยู่มุมเสา
“เห้!”
“เห้ย!!”
“ตกใจอะไรของนาย?”
“แกมาเงียบๆ ฉันไม่เอาป็อปคอร์นฟาดก็ดีแล้ว”
“ฉันผิดใช่ไหมเนี่ย?”
“ผิดตลอดนั่นแหละ”
“แล้วทำไมหน้าซีดๆ เหงื่อก็ออก เป็นไข้รึเปล่า กลับบ้านไหม?”
“เปล่าๆ ฉันไม่ได้เป็นอะไร หนังจะเข้าแล้วนี่ ไปกันเถอะ”
“ไม่เป็นไรแน่นะ”
“แน่! ไปเถอะน่า”
อย่าบังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิต วนมาเจอกันเลย ถ้าเจอกันตอนนี้ ผมได้เหวี่ยงเขาเข้าให้แน่
หนังฉายได้ไปครึ่งเรื่อง ผมกับซูจีกำลังเพลิดเพลินกับซิคแพคของคริส อีแวนส์อยู่ อยู่ดีๆก็เหมือนมีสิ่งปริศนามากระทุ้งเข้ากับเก้าอี้ของผมทางด้านหลัง ผมจะไม่สงสัยเลยถ้ามันไม่ถี่จนผมรำคาญ
“เบ เธอช่วยหันไปดูคนข้างหลังให้หน่อยว่าเขาเป็นใคร เตะเก้าอี้ฉันมาครึ่งเรื่องแล้วเนี่ย”
เพื่อนที่น่ารักของผมหันไปมองข้างหลังทันทีที่ผมกระซิบเสร็จ ก่อนที่จะทำสีหน้าอึ้งจนเหวอรับประทาน
“ตกใจอะไรขนาดนั้น เขาเป็นใคร”
“เขาใช้เสื้อคลุมปิดหน้าน่ะ ฉันมองไม่เห็น”
“แล้วเธอตกใจอะไร?”
“ไม่มีอะไรหรอก ดูหนังต่อเถอะ เดี๋ยวคนจะด่าเราเอา”
ผมสงสัยกับการกระทำของซูจีมาก เธอลืมไปรึเปล่าเบ เธอมันโกหกไม่เก่ง ดูสีหน้าเธอตอนนี้สิ ซีดยิ่งกว่าไก่ต้ม ผมหันไปดูเองก็ได้
“!!!”
ช็อคครับ อึ้งครับ ผมเข้าใจซูจีก็ตอนนี้
“คุณฮยอง..”
“นายหันไปทำไม”
“เธอจะปิดฉันไปทำไม”
“ฉันแค่ไม่อยากให้นายเสียใจ”
“แต่เธอทำอย่างนี้ยิ่งทำให้ฉันเสียใจ!”
ผมขึ้นเสียงดังใส่ซูจี เป็นเหตุให้คนทั้งโรงหันมามองผมด้วยความไม่พอใจ จึงทำให้ผมตัดสินใจที่จะรีบวิ่งออกจากโรงนั้นทันที
“แทนที่จะบอกฉัน กลับโกหกฉันได้นะ ยัยบ้า!”
ผมรีบวิ่งมาพักตรงเก้าอี้นั่งรอเข้าโรงหนัง ตอนนี้ข้างนอกแทบไม่มีคนเลย เพราะคงเข้าไปดูหนังกันหมดแล้ว
“โกรธฮยองหรอ?”
“คุณฮยองตามมาทำไมครับ”
“ฮยองตามนายหรอ? หนังจบแล้วต่างหาก”
“งั้นก็ตามสบายครับ”
“โกรธที่ฮยองมาดูหนังไม่รอหรอ?”
“เปล่านี่ครับ อย่าคิดไปเอง”
“งั้นหรอ ไปดูหนังกันไหม?”
“ไม่ครับ ไม่ว่าง”
“จะไปไหนล่ะ?”
“ผมต้องไปทำรายงานครับ”
“กับเบซูจีน่ะหรอ? เขาต้องรีบไปต่างจังหวัดด่วน กลับไปแล้วล่ะ เขาฝากนายไว้กับฮยองน่ะ”
“อะไรนะครับ!?”
“ตอนนี้นายว่างแล้วล่ะ”
“ถึงจะว่างผมก็ไม่ไปครับ ฮยองไปหาทิฟฟานี่นูนาเถอะครับ”
“เขากลับไปแล้ว มีธุระ”
“เขากลับถึงมาหาผมสินะครับ”
“หึงหรอ?”
“แค่บ่นครับ ผมขอตัวกลับก่อนนะ”
“ให้ไปส่งไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ”
“ตามใจ งั้นฮยองจะรอที่นี่จนกว่านายจะกลับถึงบ้านนะ”
“ทำไมฮยองไม่กลับบ้านไปล่ะ”
“ตามใจฮยองสิ J”
“’งั้นผมขอตัว”
กวนประสาท! ทำไมวันนี้เขาถึงทำให้ผมโมโหได้ขนาดนี้ ตัวเองผิดแล้วยังมากวนประสาทคนอื่นอีก ผมเกลียดฮยอง!
ผมนั่งรถแท็กซี่มาจนถึงหน้าปากซอยหมู่บ้าน ผมลงมาหาอะไรกินก่อนจะเดินเข้าบ้าน ผมเลือกร้านประจำที่มีกินทุกเช้าก่อนไปเรียน
“วันนี้กินอะไรดี”
“เหมือนเดิมครับ ป้า”
“วันนี้ทำไมนั่งแยกโต๊ะกับฮยองเขาล่ะ?”
“ฮยองไหนครับ?”
“อ๋อ ฮยองเขาพาผู้หญิงมาสินะ”
“ผู้หญิงอะไรกันครับ?”
วันนี้ป้าเขาพูดอะไรแปลกๆ พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลย สงสัยเข้าวัยทองแล้วละมั้ง
“อร่อยเหมือนฝีมือคุณเลยค่ะ ไว้คุณทำให้ฟานี่กินอีกนะคะ”
“ร้านนี้เป็นครูฝึกให้คุณเองนั่นแหละ ฟานี่ กินไปเยอะๆนะ ป้าเขาคงดีใจแย่เลย”
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ นี่ฟานี่ว่าจะสั่งกล่องเอากลับบ้านด้วย”
‘ชื่อคุ้นๆนะว่าไหม B1’
‘ฉันว่ามันใช่นะ B2’
ผมเหลือบไปมองคู่สนทนาข้างหลัง ก่อนจะรีบหันกลับมาอย่างตกใจ คู่เดิม เจ้าเดิม นี่เขาสองคนเป็นเจ้ากรรมนายเวรผมรึเปล่าเนี่ย
“ป้าครับ ผมขอเปลี่ยนเป็นใส่กล่องกลับบ้านนะครับ”
“อ้าวทำไมล่ะ?”
“ผมรีบไปทำรายงานนะครับ”
“โอเค เดี๋ยวป้ารีบทำให้นะ”
“ขอบคุณครับ”
ผมรีบจ่ายเงินหลังจากที่รับข้าวกล่องแล้วเดินออกมาด้วยความว่องไว ไม่อยากเห็น ไม่อยากเจอ! ทำไมผมไปทีไหน ถึงตามหลอกหลอนผมได้ทุกที่แหละน่า นี่เป็นผีกันหมดแล้วรึเปล่า เบื่อขี้หน้า เข้าใจไหม!!
“กลับมาแล้วครับแม่”
“กลับดึกจังนะจ๊ะวันนี้”
“ไปทำรายงานมาน่ะครับ”
“ไปอาบน้ำ แล้วรีบเข้านอนนะลูก พรุ่งนี้แม่จะทำกับข้าวไว้ให้แม่ต้องเข้าเวร”
“ครับผม แล้วผมจะเป็นเด็กดี J”
“แม่เชื่อในตัวลูกเสมอแหละน่า”
“แม่ใครเนี่ย น่ารักที่สุดเลย”
“แม่เด็กที่ไหนก็ไม่รู้”
“แม่ผมอยู่แล้วครับ ผมไปนอนก่อนนะครับ ฝันดีนะครับ”
*******************************************************
ร้านอาหารหน้าปากซอย
“ฟานี่ คุณพ่อฟานี่มารับแล้วนะครับ”
“ไหนคะ”
“ข้างหลังฟานี่นั่นไง”
“อ้าวตายแล้ว ปะป๊า ทำไมมาเงียบๆล่ะคะ”
“มาเซอร์ไพร์สลูกสาวน่ะ กลับบ้านกันเถอะลูก”
“ค่ะปะป๊า คุณคะ ฟานี่กลับก่อนนะคะ”
“กลับบ้านดีๆนะครับ โชคดีนะครับคุณอา”
ทำไมผมถึงต้องพาฟานี่มาให้อูยองเห็นด้วยนะ จะพูดอย่างงั้นก็ไม่ถูก ผมไม่ได้ตั้งใจจะพาเธอมาด้วย ผมแค่อยากมาหาอูยอง แต่เธอดันขอตามมาด้วย ก็เลยอ้างชวนกินข้าวซะเลย อูยองดันรู้ตัวอีก ทำไมชีวิตผมอุปสรรคมันถึงเยอะขนาดนี้นะ ตั้งแต่ที่โรงหนัง ใครมันจะไปรู้ว่าอยู่ดีๆอูยองก็มาดูหนัง เรื่องเดียวกัน โรงเดียวกันแถมนั่งข้างหน้าผม อีกต่างหาก ฟ้าช่างเป็นใจซะจริง! ผมเลยแกล้งเรียกร้องความสนใจจากอูยองซะหน่อยด้วยการเตะไปที่เก้าอี้ของเขาเกือบทั้งเรื่อง ทำให้เขาโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟ
แล้วที่โรงหนังผมดันบอกเขาไปอีกว่าจะรอที่นั่นจนกว่าเขาจะกลับถึงบ้าน แต่เขาดันเจอผมอยู่กับฟานี่ที่นี่ เขาต้องโกรธผมมากแน่ๆ พระเจ้าครับ ช่วยผมบ้างสิครับ ชีวิตผมมันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว
“นี่คุณ ทำไมยังไม่กลับบ้านล่ะ”
“ผมกำลังนั่งคิดอะไรเล่นๆอยู่น่ะครับป้า”
“มิน่าล่ะ ทำหน้าซะเครียดเชียว”
“ผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับป้า”
“ได้สิ ว่ามาเลยลูก”
“การที่รู้สึกรักใครแล้วไม่อยากให้เขาห่างไกลจากสายตาเรา มันแปลกไหมครับ”
“ไม่แปลกหรอกลูก เรารักเขา ก็อยากจะปกป้องเขา ดูแลเขา เวลาเกิดเรื่องอะไรร้ายๆกับเขา เราก็อยากเข้าไปปกป้องเขาทันที ไม่อยากรู้เรื่องตอนที่มันสายไปแล้วหรอกใช่ไหมลูก ไม่แปลกหรอกที่เราอยากเห็นเขาอยู่ในสายตาตลอดเวลา”
“ผมอยากดูแลเขา ผมอยากกอดเขาแน่นๆในเวลาที่เขามีปัญหา แต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้ เพราะผมยังมีอีกคนหนึ่งที่ผมต้องดูแล”
“ถ้าลูกยังเลือกที่จะจับปลาสองมืออยู่อย่างนี้ สุดท้ายลูกจะไม่เหลือใครเลย ลูกควรจะตัดสินใจให้แน่ ว่าลูกรักใครจริงๆ คนที่คุณไม่ได้เลือกคุณก็ขอให้เขามาเป็นเพื่อนคุณก็ได้นี่นา”
“ถ้ามันง่ายอย่างงั้นก็ดีน่ะสิครับ ผมไม่ได้รักฟานี่เลย แต่เพราะคุณพ่อของผม”
“คลุมถุงชนอีกแล้วหรอ ลูกก็ลองไปคุยกับฟานี่ดูสิ ให้ฟานี่แยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับธุรกิจให้ได้ แล้วลองขอให้เขาไปขอคุณพ่อเขาดู ดีไหมลูก?”
“จะดีหรอครับ..”
“ไม่ลองก็ไม่รู้นะ”
“ขอบคุณสำหรับคำปรึกษานะครับป้า ผมมีเรื่องต้องคิดอีกเยอะเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ป้ามีอีกอย่างอยากจะบอก ไม่ว่าลูกจะเลือกใคร อีกคนที่คุณทิ้งเขา ห้ามทำร้ายจิตใจเขาเด็ดขาด เห็นใจคนที่ไม่โดนเลือกบ้างนะลูก ทุกคนมีจิตใจเหมือนกันหมด”
“ครับป้า ผมขอบคุณป้ามากจริงๆ”
“โชคดีนะลูก”
*******************************************************
New York , USA
“ทำไมอยู่ดีๆ นายถึงย้ายมาทำงานที่สาขานี่ล่ะ?”
“หนีปัญหามั้ง”
“ปัญหาอะไร?”
“อกหักว่ะ”
“ฮะ!? คนอย่างสุดหล่อแทคยอนนี่ยังมีคนกล้าทิ้งอีกหรอวะ?”
“คนอย่างฉัน มันเป็นได้แค่ตัวสำรอง พอเวลาพระเอกมา ตัวสำรองก็เป็นได้แค่ตัวประกอบที่ไม่เคยอยู่ในสายตานางเอก”
“ทำซึ้งซะงั้น เอาน่า ชีวิตคนเราก็มีขึ้นมีลง หาใหม่ให้จบๆไป วันนี้ไปสนุกกับฉันดีกว่าน่า”
“เอาสิ ฉันอยากไปหา โจอี้ พอดี”
“โจอี้มันย้ายไปแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วแล้ว”
“อ้าว แล้วไอมาร์ค ล่ะ?”
“รายนั้นยังอยู่ สาวในสต็อกเพียบ!”
“งั้นตอนเย็นฉันจะไปรับที่บ้านแล้วไปพร้อมกัน”
“เออ แล้วเจอกัน”
MJT’S Pub
“Hey! Brother!!!”
“ว่าไงไอมาร์ค”
“ฮยองมาได้ยังไงเนี่ย”
“เหาะมามั้งไอนี่”
“แล้วมาทำอะไรครับ? Work? Travel?”
“มาทำงานน่ะ”
“ทำงานรักษาหัวใจน่ะสิไม่ว่า”
“หุบปากไปเลย”
“อกหักหรอครับฮยอง?”
“ไอนี่ก็รู้ทันฉันตลอด เออ! คนหล่ออย่างฉันก็ต้องมีอกหักกันบ้างแหละน่า”
“Don’t sad bro!! Let’s go crazy!!!”
มาร์คดีดนิ้วมือไปกลางอากาศเพื่อบอกให้ดีเจภายในร้านเปลี่ยนเพลงไปในจังหวะน่าเต้นมากขึ้น
“ไปคลายเครียดกันครับฮยอง ทุกอย่างผมเลี้ยงเอง!”
“งั้นก็ Go crazy!!!”
ค่ำคืนนี้ผ่านไปด้วยความสนุกสนาน จนฟลอร์ลุกเป็นไฟ เป็นโอกาสให้คนอกหักอย่างแทคยอนได้ปลดปล่อยและลืมเรื่องราวเศร้าๆไปจนหมด โยกย้ายร่างกายไปตามเสียงดนตรีอย่างเมามัน พร้อมกับกระดกแก้วไวน์ในมืออย่างเมามัน
“ฮยอง ฮยองเมาใหญ่แล้วนะเนี่ย กลับบ้านเถอะครับ”
“เมาอะไรกัน มาร์ค! นายอย่ามากล่าวหาฉันนะ คนอย่างแทคยอนเมาเป็นทีไหนกัน!”
“แล้วไอการที่ฮยองนอนเลื้อยหมดสภาพอยู่ตรงพื้นนี่คืออะไร”
มาร์คมองฮยองที่อายุมากกว่าไม่กี่ปีอย่างระอา ก่อนที่จะระบายยิ้มออกมาอย่างหยุดไม่อยู่ เมื่ออยู่ดีๆ คนที่เมาไม่ได้สติกลับมาออดอ้อนตัวเองด้วยท่าทางน่ารัก
“มาร์คึ ~ วันนี้ขอไปนอนด้วยนะ น้า”
มาร์คหน้าขึ้นสีก่อนจะพูดตะกุกตะกัก
“ล..แล้วทำไมฮยองไม่กลับไปนอนบ้านละครับ”
“ถ้าขืนฉันกลับไปสภาพนี้ พ่อฉันได้เฉ่งเอาแน่ๆ”
“แต่..”
“ฮึก.. นายรังเกียจฉันสินะมาร์ค”
“Bro.. Don’t cry”
“You hate me right? I should go away right?”
“ฮยองอย่าประชดสิครับ เอ่อ.. มานอนกับผมก็ได้ แต่ฮยองสัญญากับผมนะว่าถ้าฮยองไปเมาที่ไหน ห้ามอ้อนคนอื่นแบบนี้”
“อืม.. สัญญา J”
มาร์คส่ายหน้าให้กับรอยยิ้มแห่งชัยชนะของคนตรงหน้า ก่อนจะพยุงเขาพาออกไปนอกผับเพื่อขึ้นรถ
มาร์คแทค ไม่เคยเจอไรท์ที่ไหน ที่จิ้นได้แปลกเท่านี้แล้วใช่ม้าาาา -/////- คอมเม้นกันหน่อยเน้ออออ ♥
ความคิดเห็น