ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Got7] Love hostel อลวนรักหอพักเมี้ยวๆ (จบ)

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12 พันกันยุ่ง (โดย จูเนียร์) รีไรท์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.76K
      67
      10 พ.ค. 61

    ตอนที่ 12

    พันกันยุ่ง โดย จูเนียร์ 

     

    “ครับแม่ เปล่าสักหน่อย ผมดูแลตัวเองดีอยู่แล้วล่ะ แจบอมเหรอครับ หมอนั่นก็สบายดีตามปกตินะ ครับ อะไรนะครับ อ๋อๆ แป๊บหนึ่งๆ”

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    “ว่าไง” แจบอมเปิดประตูออกมา

    “แม่นายอยากคุยด้วยแน่ะ” ผมยื่นโทรศัพท์ให้

    “แม่ฉัน?

    “แม่นายไปกินข้าวกับแม่ฉัน”

    “อ๋อ ครับแม่”

    หลังจากเห็นแจบอมรับไปคุยแล้วผมก็เดินไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบกล่องน้ำส้มออกมา ในนี้นอกจากของกินเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษอีก ในเมื่อฝากท้องไว้กับยองแจอยู่แล้วเลยไม่รู้จะซื้อของมาตุนทำไม พอนึกถึงยองแจ คำพูดของเจ้าตัวในวันนั้นก่อนจะหลับไปแบบหน้าตาเฉยก็ย้อนกลับเข้ามาในความคิด

    ไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นหมายความว่ายังไง

    “เฮ้” แจบอมโบกมือไปมาตรงหน้า “นายจะยืนกอดน้ำส้มอีกนานไหมจินยอง”

    “หะ คุยเสร็จแล้วเหรอ” ผมหันมองเหลอหลา “ไวจัง”

    “ก็ไม่ได้คุยอะไรมากมาย อะ คืน”

    มือยื่นไปรับโทรศัพท์มาใส่กระเป๋ากางเกง

    “กินด้วยดิ” แจบอมกระโดดขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์แล้วหันไปคว้าแก้วมาสองใบ “ว่าแต่นายว่าไหมว่าช่วงนี้หอเราบรรยากาศแปลกๆ”

    “แปลกยังไง” ผมถาม มือก็รินน้ำส้มใส่แก้วที่วางอยู่ไปด้วย

    “เหมือนไม่ค่อยปกติ หลายคนแปลกๆ”

    ผมเงยหน้าขึ้นมองคนพูด นอกจากจะเป็นบุคคลอันตรายแล้ว อิมแจบอมยังเป็นคนประเภทที่คอยสังเกตทุกคนอยู่เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้แสดงออกเท่าไรนัก

    “ใครล่ะที่ว่าแปลก”

    แจบอมจ้องหน้า ผมจ้องกลับ แล้วจู่ๆ คนตรงหน้าก็ยกมือมาใช้นิ้วโป้งปาดข้างแก้มผม

    “อะไรติดหน้านายไม่รู้”

    ตึกตัก ตึกตัก

    “ใครล่ะที่ว่าแปลก” ผมถามย้ำ ยังคงไม่หลบสายตา แม้ว่าหัวใจจะเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมไม่อยากให้แจบอมสังเกตเห็นอะไรแม้แต่นิดเดียว

    “นาย”

    “ฉัน?” คำตอบที่เหนือความคาดหมายทำเอาแปลกใจ

    “นายทิ้งฉัน”

    “ฉันทิ้งนาย?” ผมเริ่มเหวอ

    “ใช่ ทิ้งไปอยู่แต่กับมาร์คฮยอง” แจบอมทำหน้างอนนิดๆ อยากฟาดด้วยกล่องน้ำส้มชิบเป๋งเลย “คิก ฮ่าๆๆ นายทำหน้าเหมือนอยากเอากล่องน้ำส้มฟาดหน้าฉันเลย” นั่นไง ผมบอกแล้วว่าอิมแจบอมเป็นบุคคลอันตราย “เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งไปๆ”

    “อยากโดนฉันเอากล่องน้ำส้มฟาดจริงๆ เหรอ”

    “ฮ่าๆๆ ไม่อยากๆ” แจบอมยกมือยอมแพ้ “แต่นายทิ้งฉันจริงๆ นะ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนมีอะไรนายก็จะเล่าให้ฉันฟัง อยู่แต่กับฉัน แต่ดูเดี๋ยวนี้ดิ เป็นคุณแม่ภาษาอะไร”

    “ฉันไปเป็นแม่นายตั้งแต่เมื่อไร”

    “อ้าว ก็นายเป็นคุณแม่ของหอ”

    “แล้วนายดูแลตัวเองไม่ได้หรือไง”

    “ก็หน้าที่ดูแลมันเป็นของนายไม่ใช่หรือไง”

    ผมเงียบ นึกไม่ออกว่าจะเถียงยังไงต่อ เอากล่องน้ำส้มฟาดหน้าไปเลยดีไหม

    แจบอมยิ้ม “รู้ไหม ฉันรู้สึกเหมือนถูกมาร์คฮยองแย่งนายไปเลย”

    ป้าบ

    “โอ๊ย นายฟาดฉันจริงเหรอเนี่ย ฮ่าๆๆ เจ็บนะ” แจบอมเอามือลูบแก้มตัวเองทั้งขำทั้งโวยวาย

    ผมกัดริมฝีปากล่าง หันเดินเอากล่องน้ำส้มที่เพิ่งฟาดหน้าเพื่อนรักไปจนได้เก็บเข้าตู้เย็น

    “ฉันโกรธมาร์คฮยองดีไหมนะ ที่ทำให้นายทิ้งฉันไป” ยัง ยังไม่หยุด

    “นายก็เคยทิ้งฉันไว้คนเดียวเหมือนกัน” ผมหันกลับไปพูด

    “ตอนไหน”

    “ตอนที่นายมีแฟน”

    “อ่า” แจบอมลากเสียง “นั่นมันตั้งนานมาแล้วนะ ไม่นับสิ แล้วมาร์คฮยองก็ไม่ใช่แฟนนายด้วย หรือว่า...”

    “เอาอะไรก็ตามที่อยู่ในหัวนายตอนนี้โยนทิ้งไปให้หมดเลย ไอ้บ้า!

    “ฮ่าๆๆ ฉันรู้หรอกน่า นี่ จินยอง” คนบ้ากระโดดลงมากอดคอผม “มีเรื่องอะไรเหรอ”

    “เรื่อง?” ผมหันไปทวนคำถาม

    “เกิดอะไรขึ้นใช่ไหมล่ะ อะไรบางอย่าง รู้ไหม ก่อนหน้านี้คุณฮยองมาคุยกับฉันเรื่องสารทุกข์สุกดิบของคนในหอ นายก็รู้ใช่ไหมว่าคนคนนี้เป็นยังไง จู่ๆ มาถามแบบนี้แสดงว่าต้องคิดอะไรอยู่แน่ๆ ฉันเลยพลอยสังเกตไปด้วย แล้วก็เห็นว่าบางอย่างมันแปลกไปจริงๆ ไม่นับรวมที่นายทิ้งฉันไปอะนะ”

    “นายอยากให้ฉันไปหยิบกล่องน้ำส้มมาฟาดอีกรอบไหม”

    “ฮ่าๆๆ ไม่เอาๆ ล้อเล่นน่า” แจบอมดึงผมไปชิดจนแก้มชนกันยูคยอมกับแบมแบมทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า”

    “ยูคยอมเนี่ยนะ” ผมขมวดคิ้ว “หมอนั่นไม่มีทางทะเลาะกับแบมแบมแน่ๆ ต่อให้เป็นดาวเป็นเดือน ถ้าแบมแบมอยากได้ เชื่อเลยว่าหมอนั่นก็ต้องปีนไปหามาให้”

    “ก็จริง แต่ปกติแล้วยูคยอม คนอย่างเจ้าลูกหมายักษ์ไม่ใช่พวกคิดเยอะใช่ไหมล่ะ เจ้านั่นเป็นประเภทอยากทำอะไรก็ทำอยู่แล้ว ไม่คิดมาก แต่ฉันรู้สึกเหมือนตอนนี้ยูคยอมกังวลอะไรบางอย่างอยู่ อ่า ก็แค่สงสัย ยูคยอมน่ะยังไงฉันว่าคงเป็นอะไรไม่นานหรอก แต่ที่แปลกไปอีกคนคือเจ้ามันดูมากกว่า”

    “แจ็คสันเนี่ยนะ”

    “นายเป็นคุณแม่ไม่ได้แล้วจินยอง ช่วงนี้นายละเลยลูกๆ แบบสุดๆ เลยรู้ไหม”

    ผมทำหน้าบึ้งนิดๆ ก็ช่วงนี้แค่ตัวเองฉันยังจัดการไม่ได้เลย

    แจบอมปล่อยมือ แล้วกลับไปนั่งที่เคาน์เตอร์เหมือนเดิม “ฉันว่าแจ็คสันมันซึมๆ ไป”

    “ไม่อะ เมื่อวานเจ้านั่นยังโวยวายเรื่องเกี๊ยวอยู่เลย” ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วย ก็ยองแจไปเอาเกี๊ยวสูตรพิเศษที่แจ็คสันห่อไว้ทิ้งขยะเพราะนึกว่าเป็นก้อนอะไรสักอย่าง มันโวยวายลั่นห้องเลย ไปคุ้ยขยะเอาเกี๊ยวมาเปิดโชว์ด้วย

    “ลองไปคุยดูดิถ้าไม่เชื่อ นายมันพวกจับโกหกเก่งนี่ ฉันว่าเหมือนหมอนั่นกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ก็เลยไม่อยากยุ่ง”

    “ถ้าหมอนั่นยังไม่ได้ขอให้ช่วย ก็แสดงว่ายังโอเคนั่นแหละ” ผมสรุป แจ็คสันไม่ใช่คนอ่อนแอ หมอนั่นเป็นพวกมีความมั่นใจในตัวเองสูงและรู้เสมอว่าตัวเองต้องการอะไร

    “อื้อ ก็คงงั้น แต่คนที่ทำให้ฉันสงสัยมากที่สุดก็คือคนที่นายไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ นั่นแหละ มาร์คฮยอง เกิดอะไรขึ้นหรือไง”

    “ไม่ได้มีอะไรพิเศษนี่” ผมเลี่ยง

    “นายก็รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ชอบให้นายปิดบัง ฉันจะโกรธ” แจบอมพูดเสียงเรียบ หน้านิ่งๆ ทำให้ดูน่ากลัวขึ้นมาทันที

    ผมถอนหายใจ ใครจะไปอยากทำให้นายโกรธกัน “แบมแบมร้องไห้ มาร์คฮยองออกมาเจอพอดี พอถามแบมแบมก็บอกว่าขอโทษ แบบนี้นายคิดว่ามาร์คฮยองจะอยู่ในสภาพไหนล่ะ”

    คราวนี้คนถามดูอึ้งนิดๆ “แบมแบมร้องไห้ทำไม”

    “ฉันไม่รู้หรอก รู้แต่งานนี้มาร์คฮยองประสาทเสียไปเลย ถอยห่างจากเจ้าตัวเล็กนั่นอีกเป็นวา”

    “แล้วนายจะทำไง”

    “ฉันก็คิดอยู่ว่าไม่ไหวแล้วล่ะสองคนนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่าง รอแบบนี้ก็ไม่มีใครทำอะไรหรอก”

    “เดี๋ยวนะ อย่าเพิ่ง”

    “หือ” ผมมองหน้าแจบอมที่เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้

    “นายว่าแบมแบมร้องไห้ตอนไหนนะ”

    “รู้สึกว่าจะวันเสาร์ที่ผ่านมา”

    “คุณฮยอง คุณฮยองแน่ๆ เดี๋ยวนะ แล้วก็วันอาทิตย์ แล้วตอนนั้น ใช่แน่ๆ”

    “อิมแจบอม นายคิดว่าฉันจะรู้เรื่องด้วยไหม” ผมถามในขณะที่คนพูดคนเดียวก็ยังพูดคนเดียวอยู่แบบนั้น

    แจบอมกระโดดลงมาจับผมกอด ตบหลังป้าบๆ “เยี่ยมมาก จินยอง”

    ผมว่าผมควรเดินไปเอากล่องน้ำส้มมาใหม่ คราวนี้เสยคางเลย

    “ตกลงนายคิดอะไรออกแน่เนี่ย!” ผมดันตัวแจบอมออก ถามหน้ามุ่ย

    “ความ...ลับ” พูดลากเสียงเว้นวรรคแล้วขยิบตาให้ ก่อนเดินไปหยิบแก้วน้ำส้มกลับห้องตัวเอง

    “ย่าห์แจบอมอิมแจบอม นาย!

    ปัง ปิดประตูใส่หน้าผมด้วย ไอ้เจ้าบ้านี่แล้วคืนนี้ผมจะนอนหลับไหม!


     

    “วันนี้ฉันมีนัดกับยองแจ นายกลับก่อนเลยนะ” คือสิ่งที่แจบอมบอกผมก่อนเลิกเรียนทำให้ตอนนี้ผมต้องเดินดุ่มๆ แยกออกมาคนเดียว นี่ไง นายทิ้งฉันไว้อีกแล้ว...อิมแจบอม

    “ไปส่งบ้านไหมครับ” เสียงทุ้มคุ้นหูดังมา พร้อมกับรถยนต์ที่แล่นมาเทียบข้างๆ

    ผมหันไปยิ้มขำ “รบกวนด้วยนะครับ” พูดก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่ง “ไหงมาโผล่แถวคณะผมได้”  ถามพี่ชายผมแดงที่เหล่มายิ้มให้นิดๆ

    “เลิกเรียนพอดี เจบีล่ะ”

    “มีนัด”

    มาร์คฮยองเลิกคิ้ว

    “กับยองแจ”

    คำตอบสั้นๆ ทำให้พี่ชายคนโตพยักหน้าหงึกๆ รับรู้แล้วขับต่อโดยไม่พูดอะไร

    “หมอนั่นบอกว่าไม่ชอบที่ผมปิดบัง แต่กลับทำตัวแบบเดียวกัน” ผมเริ่มบ่น การที่มาร์คฮยองเป็นประเภทไม่ค่อยพูด หลายๆ ครั้งก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายที่จะพูดอะไรสักอย่างขึ้นมา

    “เรื่องยองแจ?

    “ทุกเรื่อง”

    “แต่ที่ทำให้นายไม่พอใจมากสุดคือเรื่องยองแจ” อย่างหนึ่งที่ไม่ชอบคือรู้ทันนี่แหละ

    “ก็ไม่ถึงขนาดนั้น” ผมตอบไม่เต็มเสียงนัก “ก็แค่ทำไมต้องนัดไปที่อื่น”

    “ธุระมั้ง บางทีฉันกับนายยังไปคุยกันที่อื่นเลย” มาร์คฮยองให้ความเห็น

    “มันไม่เหมือนกัน” ผมกับมาร์คฮยองคงเรียกได้ว่าเป็นผู้ร่วมชะตากรรมเกือบจะคล้ายๆ กัน แต่แจบอมกับยองแจไม่ใช่อะไรแบบนั้น ไหนจะเรื่องที่ยองแจเคยพูดอีก

    “สงสัยอะไรก็ถามไปสิ เจบีคงตอบอยู่แล้ว”

    “ไม่รู้สิฮยอง หมอนั่นเป็นพวกเหนือความคาดหมาย เดาอะไรไม่ได้หรอก ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคิดอะไรอยู่ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าตั้งใจจะทำอะไร ต่อให้ถามไปแล้วก็ไม่รู้ว่าคำตอบที่ได้จริงหรือเปล่า”

    “พูดซะเสียเลย”

    “เปล่าสักหน่อย” ผมยกแขนเท้าตรงหน้าต่างแล้วมองออกไปด้านนอก

    “แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์ของเจบีไม่ใช่เหรอ ไอ้เรื่องที่ว่าคาดเดาอะไรไม่ได้”

    “ไม่ค่อยคิดถึงจิตใจคนอื่น”

    “เพราะว่าไม่ได้คิดว่าจะทำร้ายจิตใจใครน่ะสิ”

    “นั่นแหละที่เลวร้ายที่สุด”

    มาร์คฮยองหลุดขำ ผมกำลังจะหันไปว่าให้แต่เสียงโทรศัพท์ของเจ้าตัวก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

    “ว่าไง อะไรนะ นายไม่บอกว่าจะมาหาฉันนี่” คนรับขมวดคิ้วน้อยๆ “นายบอกว่าเย็นนี้เจอกัน ฉันก็นึกว่าที่หอ”

    มีเสียงโวยวายดังลั่นจนลอดโทรศัพท์ออกมา เสียงคุ้นจนแทบไม่ต้องเดาว่าใคร มาร์คฮยองหันมามองหน้าผม “โทษทีนะ ขอกลับไปแป๊บ” พูดแล้วก็เลี้ยวรถกลับทันที

    “ผมยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานเพราะคิดว่าฮยองยังไม่เลิกรู้ไหม!” แจ็คสันเปิดประตูรถตรงที่ผมนั่งปากก็โวยวาย ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นผม “อ้าว นายก็อยู่เหรอ”

    “เสียใจด้วย ข้างหลังเลย” ผมชี้บอก

    เจ้ามันดูจิ๊ปากก่อนจะเดินไปนั่งข้างหลัง “ปล่อยให้ผมรอเก้อแล้วมารับจูเนียร์เนี่ยนะ!

    “ฉันไม่รู้นี่ นายบอกแค่ว่าเจอกันเย็นนี้”

    “ก็ปกติผมเคยพูดแบบนั้นไหมล่ะ!

    “นายก็ไม่เคยมาหาฉันถึงนี่เหมือนกัน” ผมเหล่มองบทสนทนาของทั้งสองคนเงียบๆ คนหนึ่งเอะอะโวยวาย ส่วนอีกคนตอบกลับช้าๆ ชิลๆ อย่างกับไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน แจ็คสันบ่นงึมงำๆ อะไรไม่รู้ไปตลอดทาง เนื่องจากเถียงสู้ไม่ได้ มาร์คฮยองเองก็แค่ส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วขับรถต่อ

    “นายมาหามาร์คฮยองมีไรเหรอ” เป็นผมที่ถามขึ้นมาแทน

    “ฉันโมโหจนลืมไปแล้วว่าจะมาพูดเรื่องอะไร!

    “ย่าห์ อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ!

    “ขอโทษครับคุณแม่” พูดแล้วก็ทำหน้างอนใส่

    “เออจริงสิ นายรู้ไหมว่าวันนี้ยองแจไปไหน” ผมถาม

    “ยองแจไปไหน”

    “ฉันถามนายอยู่นี่ไง”

    “ก็ไปโรงเรียน เจ้านั่นไปไหนอีกเหรอ” ถามหน้าเหลอหลา “เอ้า ตกลงยองแจไปไหน นายเริ่มประเด็นแล้วอย่าเงียบดิ”

    “เห็นว่ามีนัดกับเจบี” มาร์คฮยองตอบแทน

    “นัดกับเจบี นัดที่ไหน ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย แล้วไปไหนกันอะ ทำไมไปกันสองคนไม่เห็นชวนผม” ขนาดฉันที่ปากบอกเป็นเพื่อนสนิทหมอนั่นยังไม่ชวนเลย

    “ไม่รู้”

    “จูเนียร์”

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

    “แปลกวุ้ย เจบีไม่บอกนายเนี่ยนะ” อือ ไม่บอกฉัน ไม่ยอมบอกรายละเอียดอะไรเลย

     

    “ฮยอง!” ยูคยอมวิ่งหน้าตื่นมาหาตอนพวกเราไปถึง ยื่นโพสอิทสีเหลืองมาตรงหน้า “ยองแจฮยองทิ้งนี่ไว้!

    ผมรับมาดู มีแจ็คสันกับมาร์คฮยองเกาะไหล่ก้มมาดูด้วยคนละข้าง

    วันนี้จะกลับช้า หาอะไรกินกันไปก่อนเลย – ยองแจ

    “ม่ายยย!!” จอมโอเวอร์แอคติ้งเอามือจับหน้าแหกปากร้องโหยหวนเหมือนเห็นซอมบี้บุกหอ “นายทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไงยองแจ แล้วเย็นนี้ฉันจะกินอะไร ม่ายยย!!

    “ยองแจฮยองไปไหนอ่า” ยูคยอมทำหน้าเศร้าเหมือนโลกจะถล่ม

    “เห็นว่าไปกับเจบี” มาร์คฮยองตอบ ผมเห็นเจ้าลูกหมายักษ์ชะงักไปนิดหนึ่งตอนมองหน้ามาร์คฮยองก่อนจะพยักหน้ารับ

    “แบมแบมอะ” ผมถาม

    “นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่ห้องแจ็คสันฮยองแหละ”

    “ฮัลโหล ยองแจ แกกล้าดียังไงทิ้งให้พวกฉันอดอยากอยู่หอ หา!” ไอ้เจ้าของห้องโทรหายองแจตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มันจะคิดไวทำไวเกินไปแล้ว “ทิ้งโพสอิทไว้ แล้วโพสอิทมันกินได้เหรอวะ อะไรนะ นายหลอกด่าฉันเหรอ ก็เปล่าไง ฉันไม่ได้ เห้ย เดี๋ยวดิ อย่าเพิ่งวาง ยองแจ ยอง...” แจ็คสันหันมาทำหน้าช็อคใส่ผม แล้วชี้ให้ดูว่ายองแจตัดสายไปแล้ว

    ผมตบไหล่เพื่อนเบาๆ เดินถือโพสอิทไปกับยูคยอม

    “แบมแบม” เปิดประตูเข้าไปผมก็เรียกหาเจ้าตัวเล็กทันที

    “จูเนียร์ฮยอง หิวจังเลยฮะ” เจ้าตัวลุกมาเกยคางกับพนักพิงโซฟา มองแล้วก็อดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้

    “งานนี้ต้องทำอะไรกินกันเองแล้วล่ะ ยองแจไปไหนกับเจบีไม่รู้”

    “ไปกับเจบีฮยองเหรอฮะ ไปไหนกันอะ”

    “ฮยองยังไงฮยองก็ต้องมาร่วมชะตากรรมอดอยากกับผม!” เสียงแจ็คสันตะโกน พอหันไปก็เจอภาพเจ้ามันดูลากกึ่งบังคับให้มาร์คฮยองเข้ามาในห้อง

    “แจ็คสัน ฉันบอกว่ามีธุระไง!

    “ฮยองจะแอบไปกินข้าวข้างนอกคนเดียวใช่ไหม ผมไม่ยอมหรอก!

    ผมยืนอึ้งมองแจ็คสันที่แทบจะกอดมาร์คฮยองอุ้มลาก จนในที่สุดก็พาพี่ชายผมแดงเข้ามาจนได้ คำพูดของแจบอมเมื่อวานทำให้ผมเหล่มองแบมแบมโดยอัตโนมัติ ทันเห็นสีหน้าแปลกๆ ของคนตัวเล็กที่รีบนอนลงไปบนโซฟา ไม่คิดว่าพอกำลังจะหันกลับมาสายตาดันไปสบเข้ากับสายตายูคยอมโดยบังเอิญ เหมือนว่าเด็กนี่ก็เพิ่งมองไปที่แบมแบมเหมือนกัน ยูคยอมยิ้มเจื่อนๆ ให้ก่อนจะเดินไปหาแบมแบม

    อ่า...ผมเริ่มเห็นแสงสว่างเหมือนแจบอมเมื่อวานละ

    “แจ็คสัน พอได้แล้ว!

    “ฮยองห้ามไปนะ!

    “ถอยไป!

    “มาร์คฮยอง” ผมเดินไปดึงแขนพี่ชายคนโตไว้ “อยู่ด้วยกันเถอะ”

    คนถูกดึงหันมามองหน้าผมเหมือนไม่เข้าใจ

    “อยู่ด้วยกันนี่แหละ” ผมย้ำ ก่อนที่ผมจะประสาทเสียแล้วกระโดดกัดหัวเรียงตัวมันทุกคน เจ้าตัวมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเฮือกแล้วเลิกต่อต้าน

    แจ็คสันพ่นลมหายใจแรงๆ “ผมนี่มันน่าสงสารเนอะ!” พูดแล้วก็มองหน้าผมกับมาร์คฮยองสลับกันก่อนจะเดินหนีเข้าห้องนอนไป

    ผมยืนมองหน้ามาร์คฮยอง ไม่แน่ใจว่าตัวเองควรตามไปง้อแจ็คสันหรือให้มาร์คฮยองตามไปดี ลองคิดว่าถ้าผมไปด้านนอกก็จะเหลือแค่มาร์คฮยอง ยูคยอมและแบมแบม พนันร้อยทั้งร้อยมาร์คฮยองหนีแน่ๆ

    “ฮยองไปดูแจ็คสันหน่อยสิ น้อยใจหนีไปแล้ว” ผมพูดหลังจากคิดสะระตะทุกสิ่งอัน

    “ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย”

    “เหอะน่า” ดันหลังพี่ชายผมแดงที่ถอนหายใจปลงๆ ก่อนจะเดินไป

    อิมแจบอม เพราะนายไม่อยู่ เพราะนายเอายองแจไป เพราะพวกนายไปนัดเจอกัน เห็นไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเดินไปโซฟาที่มีเด็กสองคนนั่งอยู่ แบมแบมนอนตะแคงขดตัวกดโทรศัพท์ ในขณะที่ยูคยอมนั่งนิ่งๆ อยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน

    “มีอะไรหรือเปล่าแบมแบม” ผมถาม ไม่ได้จะหมายความถึงอะไรเป็นพิเศษ

    “เปล่านี่ฮะ” เจ้าตัวตอบโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอ

    “นายล่ะยูคยอม”

    “ผมเหรอ” ยูคยอมเงยหน้ามองผม ก่อนจะเหล่มองไปยังคนตัวเล็กข้างกาย “ไม่มีอะไรครับ” พูดเสียงเบา

    โกหก...พวกนายนึกว่าฉันเป็นใคร ฉันเป็นแม่พวกนายนะ ผมถอนหายใจ ยังไม่ใช่ตอนนี้แล้วกัน ตอนนี้เรื่องปากท้องควรมาก่อน

    “งั้นไปช่วยฉันในครัวหน่อย ทั้งสองคน”

    สองน้องเล็กลุกตามมาเงียบๆ นายกลับมาเมื่อไรฉันจะเอาน้ำส้มมาฟาดนายให้หมดตู้เย็นเลย อิมแจบอม!

     

     

    แกร๊ก เสียงประตูเปิด ผมแทบจะลุกพรวดจากโซฟาขึ้นมาดีที่ยั้งตัวไว้ทันเลยค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างแนบเนียนแทน

    “ฉันนึกว่าพวกนายจะอยู่กับแจ็คสันกันหมดซะอีก ไหงแยกย้ายไปหมดเลยอะ” แจบอมที่เพิ่งกลับมาเดินชิลมานั่งข้างๆ

    “พวกนายไปไหนกันมา”

    “ก็ไปกินข้าวมา”

    “แล้วทำไมไปกันแค่สองคน น้องๆ บ่นน้อยใจกันใหญ่ที่นายไม่ชวน” จริงๆ แล้วก็มีแค่ยูคยอมที่บ่นมาครั้งหนึ่งตอนทำกับข้าว

    “ฉันมีเรื่องคุยกับหมอนั่นนิดหน่อย” เรื่องอะไร ทำไมต้องคุย แล้วทำไมต้องกับแค่ยองแจ คำถามเหล่านี้ตีกันอยู่ในหัวผม และทั้งๆ ที่เป็นอย่างนั้นผมกลับไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว “จินยอง นายมีอะไรจะถามฉันอีกหรือเปล่า”

    “เปล่า” ผมปฏิเสธ แล้วคว้าหนังสือที่นอนอ่านระหว่างรอมาเปิดทำเป็นอ่านต่อ

    “แล้วที่นี่โอเคไหม”

    “นายคิดว่าไงล่ะ”

    “ฉันจะไปรู้ได้ไง”

    ..........

    เราสองคนเงียบกันไปพักใหญ่

    “จินยอง” แจบอมเรียก “นายมีอะไรจะถามฉันอีกไหม”

    “ไม่มี” ผมตอบ

    เจ้าตัวพยักหน้า “งั้นฉันไปอาบน้ำละ”

    หนังสือถูกวางลงตอนที่แจบอมลุกไป ผมหันมองแผ่นหลังกว้างที่หายเข้าไปในห้องตัวเอง คำถามเดียวที่เหลืออยู่และวนเวียนอยู่ในหัวยังคงแจ่มชัด

    นายชอบยองแจหรือเปล่า...แจบอม


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------TBC

    พันกันยุ่งจนไม่รู้จะพูดอะไรเลย  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×