Short Fiction TaoKacha เศษหนึ่งส่วนเหงา. - Short Fiction TaoKacha เศษหนึ่งส่วนเหงา. นิยาย Short Fiction TaoKacha เศษหนึ่งส่วนเหงา. : Dek-D.com - Writer

    Short Fiction TaoKacha เศษหนึ่งส่วนเหงา.

    ชอบเพลง ชอบนักร้อง ชอบเอ็มวี เลยอยากเอาออกมาเป็นเวอร์ชั่นเต๋าคชา

    ผู้เข้าชมรวม

    762

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    762

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 ธ.ค. 56 / 02:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    ฟิคสั้นเต๋าคชา แต่งยาวไม่เป็น 5555555
    สั้นๆอีกตามเคย
    เกิดจากจิตนาการล้วนๆ ไม่เกี่ยวข้องกับศิลปิน
    เหตุการณ์ก็มโนไป



    เนื่องจากชอบเพลงมากกกก
    เอ็มวีคือดี คือชอบ และฟินนนน
    มีหลายเวอร์ชั่น ดูอยู่เวอร์ชั่นเดียว

    นักร้องก็น่ารักอ้ะะะ ชอบ
    เป็นติ่งมาร์คแปป 555555555







    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




       เศษหนึ่งส่วนเหงา.

       

                     







      ผมมีความลับ ความลับที่ว่า
      . . .

       

                      “ว่าไง ไอ้เต๋า วันนี้โดดอิ้งคอมก็ไม่บอกกูนะสัส”

                      นี่เสียงไอ้เฟรม เพื่อนสุดเกรียนของผมเองครับ พอเห็นผมเดินมาไกลๆมันก็รีบกวักตีนทักเลย เพื่อนดีก็งี้แหละครับ คือว่าเมื่อเช้านี้ผมมีเรียนอิ้งคอม แต่ดันตื่นสายก็เลยไม่เข้าแม่งเลย ภาษาอังกฤษนี่ไม่ยากครับ คาบเรียนไม่พอผมไปไฟท์เอาตอนสอบสบายมาก ห่วงก็แต่ใครบางคนที่โดดเหมือนกับผมนี่แหละ



      “แล้วไอ้คชาอ่ะ” ถามกูทำไม บักฟันเหล็กนี่

      “ไม่รู้เว้ย” ผมตอบปัดๆในขณะที่เตรียมจะนั่งแกะห่อข้าว ข้าวเช้าไม่ต้องกินครับ ตื่นมาแม่งก็สิบเอ็ดโมง กินข้าวเที่ยงไปเลยทีเดียวไม่เปลือง

      “ไม่รู้เหี้ยไร เมื่อคืนมึงไปแดกเหล้ากับมัน ไปส่งมันที่หอ”

      “แล้วไง กูไม่ได้ไปนอนหอมันซะหน่อย กูก็กลับหอกู”

                     



                        ตามที่ไอ้เฟรมว่าแหละครับ เมื่อคืนผมไปกินเหล้ากับคชามา คือมันไม่ดีนะครับอย่าทำตาม ปกติผมก็ไม่ค่อยแตะอะไรพวกนี้หรอก แต่เมื่อวานคชามันโดดเรียนทั้งวันเลย พวกผมก็ตามหามัน โทรหาก็ไม่รับจนไปเจอมันนั่งกระดกน้ำเมาอยู่ที่ร้านเหล้าหลังมอนั่นแหละ ดราม่าบังเกิดเลย

       



      “คชา ชา . . .” แน่ะ เรียกก็ไม่ตอบ นั่งหน้าเดียวอยู่นั่นล่ะ

      “ชาโว้ยยย เหี้ยชา”

      “มึงสิเหี้ย”

      “อ่ะแน่ะ มีด่ากลับ แล้วเป็นเหี้ยอะไรมานั่งแดกเหล้าคนเดียวเนี่ย”

      “แล้วถ้าอยากให้คนมันสนใจต้องแดกอะไรล่ะ”

      . . . . . .” จากนั้นผมก็ไม่ได้ถามอะไรคชามันต่อแล้วล่ะครับ จริงๆผมก็กวนตีนมันไปอย่างนั้นล่ะ ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร

       

       

       

      มันตามจีบใครคนนั้นผมก็รู้

      มันทำอะไรหลายๆอย่างให้เค้ามากี่ปีต่อกี่ปีผมก็รู้

      มันคอยเป็นห่วงคอยดูแลเค้าผมก็รับรู้

      มันร้องไห้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง . . . . . . ผมก็รู้

       


      “เค้าไม่เห็นกูในสายตาเลยมั้ง”

      ผมอยากบอกเหมือนกัน ว่ามึงก็ไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตาเลย . . .

       

       




      “กูว่าวันนี้ ไอ้คชามันแม่งโดดอีกแน่เลยว่ะ เต๋ามึงเตือนมันบ้างนะเว้ย ชั่วโมงเรียนไม่ครบ อาจารย์ไม่ให้เข้าสอบแน่”

      “อืม เดี๋ยวกูลากมันมาเรียนแน่”

                      แล้ววันนั้นทั้งวันผมก็ไม่เห็นหน้าไอ้คนหัวเห็ดนั่นตามเคย เวลามันเป็นอย่างนี้มันก็หายไปเงียบๆแบบนี้แหละครับ ไม่บอกใครขนาดผมที่สนิทกับมันที่สุดมันก็ไม่ได้บอกกล่าวอะไรซักคำ บางทีผมก็น้อยใจ ผมไม่รู้เลยว่ามันเห็นผมเป็นเพื่อนสนิทขนาดไหน ขนาดที่จะบอกได้ไหมว่ามันเป็นอะไร อยู่ที่ไหน ทำอะไร รู้สึกยังไง ถามมันไปมันก็หาว่าผมเสือก เออดี มีแต่ผมที่ร้อนรนอยู่ฝ่ายเดียว มันหายไปแต่ละครั้งผมต้องออกตามหามันทุกที่ที่มันเคยไป กระวนกระวายเป็นห่วงมัน กลัวว่ามันจะไปหาเรื่องใครที่ไหน

       




      แต่รู้อะไรไหม . . . . ผมไม่เคยเหนื่อยเลยจริงๆ

      อะไรก็ตามที่ผมทำให้มันได้ ผมก็จะทำ

       

       





                       หลังเลิกเรียนผมก็รีบออกจากมอไปทำกิจวัตรเดิมๆที่ทำมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ผมไปหามันที่หอ ผมไปร้านหนังสือการ์ตูนที่ไอ้หน้าเดียวมันชอบไปเช่ามาอ่าน ผมไปร้านกาแฟที่ผมพามันไปนั่งทำการบ้านด้วยกันบ่อยๆ ผมไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่มันไปกินประจำ ผมไปทุกที่ที่มันเคยไป ผมอยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ไอ้หัวเห็ดหน้าเป็ดป่วยตอนนี้มันจะเป็นยังไง เมื่อคืนก็เล่นดวดเหล้าซะหมดสภาพจนผมต้องหิ้วปีกกลับมาหอ มีหอให้นอนก็ไม่นอนพักไปเดินเซอยู่ไหนก็ไม่รู้

       . . . มันคงไม่รู้ว่าตอนนี้มีใครกำลังเป็นห่วงมันแทบบ้าแบบนี้



                       ผมกะว่าจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอก่อนแล้วค่อยออกไปหามันอีกทีแถวๆร้านเหล้า หรือผับหลังมอ แต่สิ่งที่ผมเจอหน้าห้องทำให้ผมต้องล้มเลิกแผนที่วางไว้หลังจากนี้

      . . . คชาที่นั่งกอดเข่าด้วยใบหน้าเหม่อลอยแบบนี้  ผมไม่รู้จะพูดยังไง

       



      “ชา ลุกมา เข้ามาห้องกูก่อน” ผมดึงต้นแขนมันเป็นเชิงให้มันลุก มันก็ลุกเดินตามผมเข้าห้องมาแล้วไปนั่งกอดเข่าบนพื้นหน้าเตียงผมเหมือนเดิม

      “กินอะไรยัง” พูดไปงั้นแหละครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าคงไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา

      มันคงจมอยู่ในความคิดของมัน อยู่ในโลกของมัน มันไม่รู้หรอกว่าผมยืนรอมันอยู่หน้าประตูโลกของมันตรงนี้ ผมไม่คิดหรอกว่าประตูบานนั้นมันจะเปิดให้ผม แต่แค่ให้ผมยืนดูมัน คอยดูว่ามันเป็นยังไง คอยรองรับความทุกข์นั้น ผมก็พอใจแล้ว

       


      “ครั้งนี้ . . .

      “กูพอแล้วว่ะเต๋า พอแล้ว ยอมแล้ว”

                     

      แววตาเหนื่อยล้าของมันทำให้ผมอยากจะรับความปวดร้าวนั้นไว้เอง คชาที่เคยกวนตีนที่เคยเกรียนๆบ้าๆคนนั้นหายไปทิ้งไว้แต่คชาที่มีแต่ร่องรอยแห่งความเจ็บช้ำ ผมอยากรู้ว่าผมจะทำอะไรได้บ้างไหม อะไรก็ได้ที่จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ของมัน ผมจะทำ . . .

                     

                      ผมเดินไปนั่งข้างๆมัน ก่อนจะจับหัวเห็ดของมันมาซบไหล่ผม ถึงมันจะไม่ค่อยอบอุ่น อาจจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่ผมอยากให้มันรู้ว่าผมจะคอยอยู่เคียงข้างมันอยู่ตรงนี้ ไม่ว่ามันจะเจออะไรมา ไม่ว่ามันจะผ่านอะไรที่เลวร้าย ทำร้ายหัวใจให้บอบช้ำ ให้มันรู้ว่าผมคนนี้จะคอยแบ่งเบาความเจ็บช้ำเหล่านั้นเอาไว้เอง

                     

       





                         หยดน้ำหยดน้อยเปียกแฉะไปแทบทั้งไหล่ผม เสียงสะอื้นแผ่วเบายังดังอยู่ข้างหูผม ไหล่เล็กสั่นไหวจนผมต้องโอบเอาไว้ ระบายมันออกมาให้หมด ผมอยากฟังความรู้สึก ผมอยากรับความเจ็บช้ำทั้งหมดของมัน

       

       

       

       






      “คชา มึงอาจไม่รู้ และมึงคงไม่มีวันได้รู้ แต่กูอยากบอกไว้ว่าเมื่อไหร่ที่มึงเจ็บมา วันไหนที่มึงช้ำมา มึงโดนเค้าเมิน มึงโดนเค้าทำร้ายจิตใจ อยากให้มึงนึกไว้เสมอว่ามึงยังมีกู ไอ้เพื่อนเต๋าตัวเผือกคนนี้ กูพร้อมที่จะรับฟังมึง กูพร้อมที่ให้มึงซบไหล่ร้องไห้ กูพร้อมที่จะทำทุกอย่างให้มึงมีความสุข อะไรก็ได้ จะให้กูเต้น จะให้กูทำท่ากระเทย จะทำเหี้ยอะไรก็ได้ ถ้ามันทำให้มึงยิ้มได้ กูจะทำ แลกกันกับรอยยิ้มมึง โอเคไหม แค่นี้แหละที่กูต้องการ แค่นี้จริงๆ”

       











      ไม่ต้องถามว่าผมทำไปเพราะอะไร

      เพราะผมรักมันไง   . . . . นี่แหละความลับของผม

       

      ____________________________________________________

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×