ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] VAGUE AFFECTION ► BJinJun

    ลำดับตอนที่ #5 : ► Chapter 4 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      3
      23 พ.ย. 56

    Chapter 4


     

     

    จินฮวานได้แต่ยืนมองภาพที่เห็นอยู่อย่างนั้น เขารู้สึกสับสนและไม่เข้าใจในการกระทำของร่างสูง ที่บอกว่าชอบเขา ที่บอกว่าเขาน่ารัก แถมเมื่อวานนี้ยัง... มาจูบเขาอีก... แต่ดูตอนนี้สิ! ริมฝีปากที่เคยสัมผัสเขาเมื่อวานนั่น! วันนี้มันกลับเป็นของคนอื่น
     

    “ไปเหอะ” เสียงของฮันบินเรียกสติของเขาให้กลับมา ในขณะที่ร่างสูงของจุนฮเวหันมามองทางเขาพอดี
     

    คนตัวเล็กรีบหลบสายตาก่อนจะออกเดินนำหน้าเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่สนใจจุนฮเวที่กำลังวิ่งตรงมาหาเขา
     

    ยังจะมาทางนี้อีก... ไม่รู้ตัวหรือยังไงว่าเมื่อกี้ทำอะไรลงไป ให้ตายเถอะ...
     

    “พี่ครับ รอผมก่อน” เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากร่างสูง แทนที่จะหยุดเดินเขากลับเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นอีก
     

    “...”
     

    “พี่กำลังเข้าใจผมผิดอยู่นะครับ!” ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็วแล้วฉุดแขนเล็กจนร่างนั้นเซถลามาที่อกกว้าง
     

    “ปล่อย...”
     

    “ไม่! จนกว่าพี่จะยอมฟังผม!
     

    “คงไม่ต้องฟังอะไรแล้วมั้ง” ร่างสูงของฮันบินเดินเข้ามาแทรกตรงกลางโดยการดึงคนตัวเล็กให้ออกมาห่างๆจากอีกคน “เมื่อกี้ก็เห็นชัดเจนแล้วยังต้องอธิบายอะไรอีก”
     

    แต่ทว่าจุนฮเวก็ไม่ได้สนใจคนตรงหน้า เขาพยายามส่งสายตาขอร้องไปทางจินฮวาน
     

    “ช่วยฟังผมก่อนจะได้ไหม...”
     

    “...” ร่างเล็กก้มหน้านิ่งพลางเม้มริมฝีปากจนแน่น เขากำลังกังวลว่าควรทำอย่างไรดี เขายังไม่อยากรับรู้อะไรในตอนนี้ แต่ถ้าขืนยังอยู่เฉยๆทุกคนที่เดินผ่านไปมาก็ยิ่งสงสัยว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่
     

    “นะครับ...”
     

    “ว่ามาสิ...”
     

    “ผมขอคุยกับพี่แค่สองคน” ร่างสูงมองไปทางฮันบินที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินในตอนนี้
     

    แน่นอนว่านั่นทำให้ฮันบินไม่พอใจ แต่ก็ต้องพยายามเก็บอารมณ์นั้นเอาไว้
     

    “นายไปก่อนเถอะ” จินฮวานหันไปบอกกับร่างสูงอีกคน “คงคุยไม่นานหรอก ไม่ต้องห่วง”
     

    สุดท้ายแล้วฮันบินก็ต้องยอมถอยออกมาห่างๆ ก่อนจะเดินเอามือล้วงกระเป๋าเข้าไปในตึกเพียงคนเดียว

     

     


     

     

    ท่ามกลางสายลมที่เหน็บหนาวในฤดูใบไม้ร่วง ร่างของคนสองคนกำลังยืนอยู่ภายใต้ต้นไม้ที่กำลังเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลส้มซึ่งตั้งอยู่ข้างๆโรงเรียน มันเป็นที่ๆเงียบสงบและไร้ผู้คน
     

    ร่างเล็กยังคงยืนก้มหน้าเอาเท้าเขี่ยพื้นไปมาอยู่อย่างนั้นหลังจากที่โดนพามาที่นี่
     

    “...”
     

    “ผมกับผู้หญิงคนนั้นเราไม่ได้เป็นอะไรกัน...”
     

    “...” ลึกๆแล้วจินฮวานก็ดีใจที่จุนฮเวพูดอย่างนั้น แต่จะให้เชื่อกันง่ายๆได้ยังไง...
     

    “มันก็จริงอยู่ ที่ก่อนหน้านี้เราเคยคบกัน” ร่างสูงเอ่ยต่อ “ตอนนั้นเพราะว่าอยู่ๆเธอก็เข้ามาบอกว่าแอบชอบผมมานานแล้ว ผมก็เลยตกลงคบไป”
     

    “...” อา... อย่างนั้นหรอ พวกเขาเคยคบกันมาก่อนงั้นสินะ
     

    “แต่ในที่สุดผมก็รู้ว่าผมไม่ได้ชอบเธอ เลยตัดสินใจบอกเลิกไป...” นี่คงเป็นเหตุผลที่เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องไห้
     

    “...” ใบหน้าของคนตัวเล็กเงยขึ้นมาสบตาคนตรงหน้าอย่างช้าๆ
     

    ถ้าเลิกกันแล้วทำไมยังต้องมาเจอกันอีกล่ะ แถมยัง... เฮ้อ... เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
     

    “เธอพยายามมาขอคืนดีกับผม แต่พอผมบอกว่าไม่ เธอก็...เข้ามาจูบผมเอง” ร่างสูงทำหน้าจริงจังราวกับกำลังพยายามบอกให้ร่างเล็กเชื่อใจเขา
     

    “อืม...” จินฮวานเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ซักพักก็นิ่งไป
     

    “พี่เลิกโกรธผมนะครับ...” มือหนาเอื้อมไปกุมมือเล็กของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างแน่น
     

    “พี่ไม่ได้โกรธ”
     

    “ถ้างั้น...”
     

    “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่แค่สับสนนิดหน่อย...”
     

    “ผมจะไม่ให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” ร่างสูงรั้งเอาคนตัวเล็กเข้ามาชิดพร้อมกับโอบกอดอย่างอ่อนโยน
     

    “อื้อ... เข้าใจแล้ว” คนในอ้อมกอดตอบเสียงอู้อี้ในขณะที่ซบหน้าลงบนแผงอกกว้างนั้น
     

    “ขอบคุณนะครับ...” เจ้าของเสียงตอบพลางขยับตัวออกเล็กน้อยพร้อมกับค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปกดจูบริมฝีปากบางอมชมพูตรงหน้า ลิ้นร้อนค่อยๆสอดรุกล้ำเข้าไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งร่างเล็กตอบรับสัมผัสนั้นด้วยปลายลิ้นของตนเอง...

              รสจูบที่แสนอ่อนโยน...
     

    ช่วงเวลาที่แสนหวานผ่านไปซักพักก่อนที่พวกเขาจะผละตัวออกจากกัน แต่มือหนาก็รั้งใบหน้าเล็กของจินฮวานเอาไว้แล้วกดหน้าผากมาเข้าชนด้วย
     

    เล่นจ้องกันซะใกล้อย่างงี้ทำเอาจินฮวานหายใจไม่เป็นจังหวะ และในตอนนี้ใบหน้าของเขาก็ร้อนผ่าวไปหมดแล้ว...
     

     “น่ารักจัง”

     

    “หยุดเลย...” เสียงหวานเอ่ยพลางกัดปากริมฝีปากล่างของตัวเองแก้เขินแล้วหลบสายตาไปทางอื่น
     

    “ให้ผมขอโทษด้วยการพาพี่ไปเลี้ยงไอติมดีมั้ย?”
     

    “บ้า... อากาศหนาวจะตายอยู่ละ”
     

    “งั้นก็ไปดื่มแก้หนาวกัน” จุนฮเวยิ้มอย่างเชิญชวน “เย็นนี้ไปซื้อของเป็นเพื่อนผมหน่อยสิครับ”
     

    “ซื้ออะไร?”
     

    “กระบะทรายให้คาอึลอ่า... เมื่อคืนนี้มันฉี่ในห้องผมเลย”
     

    “อ่า... ก็ได้”
     

    “เย่~” ร่างสูงยิ้มอีกครั้งด้วยความดีใจ
     

    “ป...ปล่อยได้แล้ว...”
     

    “ไม่อยากปล่อยเลย...”
     

    “ต...แต่พวกเราต้องไปเรียนนะ...”
     

    “งั้นก็ได้ครับ” หลังจากนั้นจุนฮเวก็ผละตัวออกมาจากร่างเล็กตรงหน้า “ตั้งใจเรียนนะครับ อย่าคิดถึงผมมากล่ะ”
     

    “ค...ใครจะไปคิดถึงนายกัน!
     

    “ก็คงเป็นคนหน้าแดงแถวๆนี้แหละครับ”







     

    และแล้วมันก็เป็นอย่างที่จุนฮเวว่าเอาไว้ จินฮวานเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยท่าทีที่ปกติ แต่พอนั่งลงเขาก็หยุดนึกถึงร่างสูงเมื่อครู่นั้นไม่ได้
     

    ร้ายนัก...
     

    ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เขาเห็นหน้าโรงเรียนหรือว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อกี้ มันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ถึงแม้จะปรับความเข้าใจผิดกันได้แล้ว แต่เขาก็ยังแอบกังวลอยู่เล็กๆ... เพราะพวกเขาเพิ่งคบกันได้ไม่นาน การที่มีเรื่องกระทบกระทั่งอย่างนี้เกิดขึ้นย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดี... ก็ได้แต่หวังว่าจุนฮเวจะรักษาสัญญาที่ให้กับเขาไว้ได้
     

    “เหม่อไปถึงไหนแล้วนั่น” เสียงทักทายที่ไม่ได้ยินมานานดังขึ้นมาจากเก้าอี้ด้านข้าง ทำให้คนตัวเล็กต้องหันไปมอง
     

    ร่างโปร่งบางที่ใส่เสื้อโค้ชสีดำเข้มทับกับชุดนักเรียนกำลังล้มตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยท่าทีที่สบายๆก่อนจะขยับท่าเปลี่ยนเป็นไขว่ห้าง
     

    “เปล่านี่”
     

    “ก็เห็นอยู่ยังจะมาปฏิเสธอีก” ว่าแล้วก็คว้าคอของเพื่อนสนิทมาล็อคคอเอาไว้ด้วยความหมั่นไส้ “ไม่มีอะไรรอดพ้นสายตาท่านนัมผู้ยิ่งใหญ่ได้หรอกนะ บอกมาเดี๋ยวนี้”
     

    “ปล่อยสิเว้ยแทฮยอน กูหายใจไม่ออก!” ร่างเล็กบอกพร้อมกับทำท่าเหมือนจะขาดอากาศหายใจจริงๆ จนอีกฝ่ายต้องยอมปล่อยไป “เล่นเชี่ยไรเนี่ย แล้วนี่ทำไมไม่ไปถอดเสื้อออก”
     

    ร่างโปร่งก้มมองเสื้อโค้ชของตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มสบตากับเขา
     

    “ก็ไม่ได้กะมาเรียนอะ”
     

    “นี่จะหยุดทั้งอาทิตย์เลยไง?”
     

    “น่าๆ ก็มันเบื่ออะ ขออีกซักสองวันละกัน” แขนเรียวยาวถูกชูขึ้นเหนือหัวก่อนแสดงอาการบิดขี้เกียจออกมา
     

    “ระวังจะโดนเรียกผู้ปกครอง”
     

    “เรียกไปก็เท่านั้น พ่อแม่กูไม่มีเวลามาหรอกว่ะ”
     

    “...” จินฮวานมองเพื่อนตรงหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ จะบอกว่าแทฮยอนเป็นเด็กมีปัญหาก็คงไม่ผิด เพราะแทฮยอนถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อที่เป็นเจ้าของบริษัทและแม่ที่เป็นถึงทนาย ทั้งสองคนนั้นเคยมีเวลาให้แทฮยอนซะที่ไหน? เมื่อก่อนนี้ที่โดดเรียนหนีเที่ยวไปทั่วก็แค่อยากเรียกร้องความสนใจ แต่ตอนนี้ถึงแม้จะไม่สนใจเรื่องพวกนั้นแล้วแต่แทฮยอนก็ยังคงทำอยู่เหมือนเป็นเรื่องปกติ
     

    “อย่ามาทำตาละห้อยเหมือนสงสารกันมากขนาดนั้นได้มะ เดี๋ยวก็จับฟัดซะตรงนี้...”
     

    “พ่อง... แล้วนี่มาทำไม?”
     

    “มาชวนไปคาราโอเกะพรุ่งนี้”
     

    จินฮวานกรอกตาไปมาเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา
     

    “ส่งข้อความหรือโทรมาก็ได้นี่”
     

    “ได้ไง ถ้าไม่มาก็อดเห็นฉากเด็ดดิวะ”
     

    “ฉากเด็ดเชี่ยไร?”
     

    คนที่ตัวสูงกว่าโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆกับหูของเขาก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “เมื่อกี้กูไปงีบข้างโรงเรียนมา อย่านึกว่าไม่เห็นนะเว้ย...”
     

    “...” !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     

    คนตัวเล็กตกใจจนถึงกับพูดไม่ออก ยิ่งมองสีหน้าล้อเลียนด้วยความขบขันของเพื่อนตรงหน้ายิ่งรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้ที่แก้มของเขาจะต้องแดงมากขนาดไหน
     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้มีไรไม่บอกกันเลยนะ”
     

    “ก...ก็อยู่ให้บอกมั้ยล่ะ!!?
     

    “ใช่เด็กที่แอบมองมาตั้งนานป่ะ?”
     

    “อืม...” พูดเสร็จก็ก้มหน้าก้มหน้าหนี “อ..อย่าบอกฮันบินนะ”
     

    “มึงนี่ยังไงวะ อยากให้เค้าตัดใจ แต่ก็ยังห่วงว่าเค้าจะเสียใจ” นิ้วเรียวยาวยกขึ้นมาดีดไปที่หน้าผากเล็กๆของอีกฝ่ายเบาๆ “แล้วนี่จะปิดกั้นตัวเองจากความรู้สึกของฮันบินไปอีกนานแค่ไหน”
     

    “ไม่รู้ดิ... ก็คง... ตลอดไป”
     

    “ต่อให้มึงคบกับไอ้เด็กนั่นต่อไปก็ไม่ทำให้ฮันบินเลิกรักมึงได้หรอกนะ” แทฮยอนขยับตัวเข้าไปใกล้ๆพร้อมกับวาดแขนไปโอบไหล่เพื่อนตัวเล็กเอาไว้ “จะกลัวอะไรนักหนา เรื่องของอนาคตมันเป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึงนะเว้ย”
     

    “แต่ว่า...”
     

    “เอาเถอะๆ กูสัญญาแล้วว่าจะไม่บอกก็คือไม่บอก” ฝ่ามือเรียวสวยตบลงไปที่บ่าน้อยๆของคนตัวเล็กสองสามที “ตกลงว่ามึงชอบเด็กคนนั้น?”
     

    “ก็...อืม...”
     

    “แต่ก็ชอบฮันบินด้วยถึงแม้ว่าจะปฏิเสธเค้าไปแล้วก็ตาม” ร่างบางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “นี่มึงเป็นวันทองหรอวะ”
     

    “วันทองคือไร?”
     

    “บอกไปมึงก็ไม่รู้จักหรอก โว๊ะ!! ไปดีกว่า” พอพูดจบร่างโปร่งนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง “พรุ่งนี้เลิกเรียนเจอกันที่คาราโอเกะ ห้ามเบี้ยวนะเว้ย!!
     

    หลังจากนั้นนัมแทฮยอนก็เดินไปทักทายเพื่อนคนอื่นๆในห้อง พร้อมกับชวนไปสนุกด้วยกันในวันพรุ่งนี้ ปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งคิดอะไรอยู่อย่างนั้นคนเดียว ให้มันได้อย่างนี้สิ...
     

    แต่ที่เพื่อนเขาพูดมาก็ถูกหมด บางทีก็มีช่วงเวลาที่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เขาพยายามวิ่งหนีฮันบินถึงแม้จะรู้ว่ามันทำให้ฮันบินต้องเจ็บปวด... แล้วพอรู้สึกว่าอยากทำให้ร่างสูงตัดใจไปซะก็ไม่เคยทำได้อย่างเด็ดขาดซักที แถมตอนนี้ยังดึงจุนฮเวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอีก
     

    อา... ปวดหัวชะมัด
     

    อย่างน้อยตอนนี้ที่อาจารย์ยังไม่เข้ามาสอน เขาก็ของีบซักหน่อยแล้วกัน...

     

     




     

     

    ตกเย็นหลังเวลาเลิกเรียนจินฮวานออกมาพบร่างสูงที่บริเวณหน้าโรงเรียนตามที่ได้ข้อความนัดเอาไว้ พวกเขาทั้งสองคนตัดสินใจไปเลือกซื้อของใช้สำหรับลูกแมวที่ย่านขายสินค้าแถวๆนั้น จะได้ไม่ต้องไปไกลมากนัก

     

    จุนฮเวจูงมือเล็กเดินเลือกดูของตรงโน้นทีตรงนี้ทีเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา หรือบางทีก็หันมาถามเขาว่า
     

    ซื้ออันนี้ดีมั้ย?
     

    พี่ว่ามันจะดีรึป่าว?
     

    พี่ชอบมั้ยครับ?
     

    จนบางทีก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงมาซื้อของให้ใครกันแน่ สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตอนนี้ก็คงคล้ายๆกับการเดท... มั้ง
     

    จนในที่สุดร่างสูงก็ได้ของที่ตั้งใจมาซื้อ ก็คือกระบะทรายสำหรับแมว พร้อมกับนมและอาหาร กับของเล่นอีกนิดหน่อย
     

    “นายไปเอาเงินจากไหนมาซื้อของเยอะแยะ” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นไปถามคนที่เดินอยู่ข้างๆ
     

    “ทำงานพิเศษตอนปิดเทอมไงครับ เงินทุนที่ได้มันไม่พอหรอก”
     

    “อ่า...งั้นหรอ”
     

    “จริงๆก็มีคนรับอุปการะผมอยู่เหมือกัน...”
     

    “หืม?” จินฮวานเอียงคอด้วยความสงสัย
     

    “เค้าเป็นคนเกาหลีเจ้าของธุรกิจที่อยู่ต่างประเทศครับ เค้าอยากช่วยเหลือเด็กน่ะ ก็เลยรับผมเป็นลูกบุญธรรมไว้”
     

    “แล้วทำไมนายไม่ไปอยู่กับเค้าล่ะ?”
     

    “ก็ผมบอกไปว่าอยากเรียนอยู่ที่นี่ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นว่าผมเรียนดีน่าจะมีอนาคต เลยส่งเงินมาให้ใช้เป็นทุนอยู่เรื่อยๆ” ร่างสูงหันมายิ้มทะเล้น “เห็นอย่างนี้ผมสอบได้คะแนนดีตลอดนะ”
     

    ทั้งสองคนเดินคุยกันไปอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งผ่านร้านสะดวกซื้อ ร่างสูงจึงแวะเข้าไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้สำหรับแก้หนาวตามที่สัญญากับคนตัวเล็กไว้
     

    ทีแรกจินฮวานก็อยากจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่พอเห็นคนตัวสูงกว่าอยากจะเลี้ยงจริงๆ เขาก็เลยไม่อยากจะขัด แต่ที่สำคัญ... เขาดันโดนลากให้กลับมาดื่มด้วยกันที่อพาร์ทเมนท์ของจุนฮเวเนี่ยสิ... ถึงจะปฏิเสธไป แต่สุดท้ายเขาก็มานั่งอยู่ในห้องนี้ได้ยังก็ไม่รู้


                ...

                ...

                ...
     

    เมี้ยว~~
     

    เจ้าลูกแมวน้อยคาอึลเดินเข้ามาอ้อนเขาพร้อมกับส่งเสียงร้อง มันกระโดดขึ้นมาบนตักเขาแล้วก็นอนลงซะอย่างนั้น
     

    “ทำตัวตามสบายนะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบแก้วก่อน”
     

    “อื้ม” ร่างเล็กกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง ในขณะที่ร่างสูงเดินเอาของไปวางไว้แล้วก็ยืนเปิดปิดตู้อยู่แถวๆเคาน์เตอร์ครัวเพื่อหาแก้ว
     

    ที่นี่ทั้งสะอาดแล้วก็เป็นระเบียบกว่าที่คิดไว้เยอะ ดูเหมือนว่าจุนฮเวจะปัดกวาดเป็นอย่างดี ด้านหลังเขามีเตียงขนาดพอดีสำหรับนอนคนเดียวตั้งเอาไว้อยู่ จุนฮเวนอนที่เตียงนี้ทุกคืนเลยสินะ...
     

    เดี๋ยว!! แล้วทำไมเขาจะต้องรู้สึกหน้าร้อนๆอย่างนี้ด้วยหละ
     

    “มาแล้วครับบบบ”
     

    ก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปไกลกว่านี้ร่างเล็กก็หันมาสนใจเครื่องดื่มตรงหน้าแทน พวกเขานั่งดื่มด้วยกันซักพักร่างสูงก็หยิบเอาเครื่องเล่นเกมออกมาจากตู้แล้วยื่นจอยเกมส่งให้เขาเล่นด้วยกัน แต่เพราะคาอึลที่ไม่ยอมลงไปจากตักเขาเลยต้องอุ้มมันขึ้นไปวางไว้บนเตียงอย่างเบามือ
     

    “พี่แพ้ผมมาห้ารอบแล้วนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
     

    “คอยดูเถอะ...” คนตัวเล็กหันไปมองอย่างไม่พอใจ
     

    “ดูอะไรครับ?” ใบหน้าหล่อคมหันมายักคิ้วให้อย่างกวนๆ “ขนาดเวลาโมโห พี่ก็ยังดูน่ารัก... ให้ตาย...”
     

    “พ...พูดบ้าอะไร” จินฮวานหลบหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าร่างสูงจะมองเขานานเกินไปแล้ว
     

    “มองผมสิ” มือหนายื่นมาแตะที่ข้างแก้มเขาเบาๆก่อนจะเบือนให้หันมาสบตาด้วย “ผม...รักพี่นะครับ”
     

    ชั่วขณะหนึ่งที่ร่างสูงค่อยๆขยับกายเข้ามาใกล้ หัวใจของของจินฮวานก็เริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ริมฝีปากนุ่มถูกทาบทับด้วยริมฝีปากหนาอย่างอ่อนโยน ก่อนที่ลิ้นร้อนจะค่อยๆสอดเข้าไปควานหาความหวานจากภายใน มืออีกข้างเลื่อนหนึ่งขึ้นมาประครองใบหน้าเล็กเอาไว้จนทำให้จินฮวานไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทันแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนร่างสูงจะรู้ก็เลยผละออกจากริมฝีปากตรงหน้าแล้วเลื่อนลงมาที่บริเวณซอกคอขาวเนียนแทน
     

    “อื้อ...” ร่างเล็กรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะถูกแผดเผา... เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
     

    แต่เดี๋ยวก่อนสิ... นี่เขากำลังทำอะไรอยู่!!?



     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    กรี๊ดดดดด *ไล่บี้มด* 555555555555
    ตอนนี้แอบมาช้าหน่อย แบบว่าเพิ่งสอบเสร็จวันนี้อะ เยิน... ;w;
    จริงๆตั้งใจจะเอาให้เต็มร้อยเลยแต่ไม่ไหว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้นะคะ ><"
    ขอขอบคุณมากมายสำหรับทุกๆคอมเม้นท์ค่ะ จุ๊บๆ >3<
    ส่วนใครที่ยังไม่ได้เม้นท์ก็มาเม้นท์ได้เน้อ~ เพราะจะได้รู้ว่ายังมีคนอ่าน อิอิ

    -------------------------------------------------------------------------100%------------------------------------------------------------------
    จบให้ค้างกันไปข้าง!! *โดนแม่ยกบีไอไล่เตะ*
    ฮืออออ ใจเย็นๆนะคะ อีกไม่นานบีไอของเราได้เป็นอัศวินขี่ม้าขาวแน่นอน
    แต่ไม่อยากสปอยเยอะ กลัวจะรู้กัน หรือจริงๆแอบรู้อยู่แล้ว? 5555555
    สำหรับฉากต่อไปคิดว่าคงยังไม่มีอะไรเกินเลย #แอบบอกไว้ก่อน
    เพราะเราก็ไม่ได้แต่งอะไรแบบนี้นานแล้วเหมือนกัน ><
    จริงๆส่วนหนึ่งยังไม่กล้าแต่งอะ กลัวว่าน้องๆจะเด็กเกินไปไรงี๊ #โถแม่คนดี
    เอาเป็นว่ารีดต้องการยังไงดีคะ?
    1 ดีแล้วค่ะ อย่าแต่งฉากนั้นเลย
    2 แต่งมาเลยค่ะ พร้อมอ่านเสมอ
    3 แต่งมาเลยค่ะ พร้อมอ่าน แต่จินน้อยต้องเป็นของบีไอก่อนเท่านั้นนนนน
    ส่งผลโหวตมาได้ที่ 098-765-4 บี จิน จุน
    เอิ้กๆๆๆ เวิ่นอะ ไปดีฝ่า -..-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×