ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] VAGUE AFFECTION ► BJinJun

    ลำดับตอนที่ #6 : ► Chapter 5 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.49K
      1
      28 พ.ย. 56

    Chapter 5



     

     

    ไม่ว่าจะด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้จินฮวานเผลอเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนั่น แต่เมื่อได้สติ เขาก็รีบผลักร่างสูงออกอย่างแรงทันที แล้วจุนฮเวก็มองมาทางเขาเหมือนไม่เข้าใจ
     

    “พี่...พี่ขอโทษ” คนตัวเล็กได้แต่ทำท่าเลิกลั่กและมองไปยังร่างสูงด้วยสายตาที่สั่นไหว
     

    “พี่ไม่รักผมแล้วหรอ...”
     

    “ไม่ คือ...” จินฮวานขยับตัวเข้าไปใกล้ๆอีกฝ่ายอย่างกล้าๆกลัวๆ “พี่รักนาย... แต่ว่าพี่ทำไม่ได้”
     

    สองมือเล็กยกขึ้นมาประคองใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ทว่าไม่นานก็โดนปัดออกอย่างง่ายดาย
     

    “ไม่เป็นไรครับ” ร่างสูงเอ่ยพลางเบือนหน้าหลบไปทางอื่น “ถ้าพี่ยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร ผมรอได้...”
     

    “ขอบใจนะ...”

     

     

    หลังจากนั้นจุนฮเวก็พาเขามาส่งที่ป้ายรถเมล์โดยที่พวกเขาต่างก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย บรรยากาศระหว่างพวกเขามีแต่ความเงียบ จนกระทั่งรถประจำทางมานั่นแหละ ร่างสูงจึงเอ่ยล่ำลาเขาเล็กน้อย
     

    จินฮวานเดินขึ้นมาบนรถแล้วก็ล้มตัวลงนั่งพลางเอนหัวพิงไปที่กระจกหน้าต่างรถก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ดูจากสีหน้าแล้วจุนฮเวก็คงจะโกรธเขาอยู่นิดหน่อย ถึงแม้จะบอกว่าเข้าใจก็เถอะ... แต่จะให้ทำยังไงได้... จริงอยู่ที่เขาเองก็แอบชอบจุนฮเวมาตั้งนานแล้ว แต่พวกเขาเพิ่งคบกันแล้วจินฮวานก็รู้สึกว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่เขาต้องคิดให้ดีก่อน เพราะงั้น... เขาจึงไม่อยากยอมจุนฮเวง่ายๆ
     

    เขายอมรับว่าตัวเองก็แอบกลัวอยู่ไม่น้อย เขาไม่ได้กลัวเรื่องอย่างว่านั่น เพราะถ้าพวกเขาคบกันอยู่อย่างนี้ต่อไปซักวันมันก็ต้องมาถึง แต่สิ่งที่เขากลัวมันคืออย่างอื่น...
     

    ระหว่างที่คิดอะไรไปเรื่อยๆนั้นรถประจำทางก็มาจอดที่ทางเข้าบ้านเขาพอดี ร่างเล็กจึงลุกขึ้นแล้วลงจากรถไป
     

    “พี่” เสียงเรียกอย่างคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านข้างทำให้เขาต้องหันไปมอง “ทำไมป่านนี้แล้วเพิ่งจะกลับ”
     

    จินฮวานมองฮันบินที่กำลังเอายืนเอามือล้วงกระเป๋าพลางส่งสายตาจ้องจับผิดมาทางเขา ดูเหมือนคนข้างๆนี่จะเพิ่งเลิกงานพอดีสินะ
     

    “ไป..ไปช่วยจุนฮเวซื้อของมา”
     

    “ดีกันแล้วสินะ...” ร่างสูงพูดออกมาเบาๆในขณะก้มหน้าลงมองพื้นฟุตบาท “งั้นเราก็กลับบ้านกันเถอะ”
     

    “อื้ม” เขาตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
     

    จินฮวานดีใจที่ฮันบินไม่ได้โกรธ ไม่ได้โวยวาย หรือว่าอารมณ์เสียใส่เขาเหมือนอย่างคราวที่แล้ว หรือว่าร่างสูงจะเริ่มตัดใจจากเขาได้แล้ว?
     

    ก...ก็ดีแล้วนี่ พวกเขาเป็นแค่พี่น้องกันก็ถูกแล้ว... แล้วทำไม... เขาต้องรู้สึกเจ็บปวดใจแปลกๆด้วยล่ะ?
     

    “...นะครับ”
     

    “ห..ห๊ะ?” เพราะมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็เลยไม่ได้สิ่งที่ร่างสูงพูด
     

    “ผมบอกว่าฝันดีนะครับ”
     

    “อ้อ... ฝันดีเหมือนกันนะ” แล้วคนตัวเล็กก็รีบหมุดตัวเดินเข้าบ้านไปทันที
     

    จินฮวานพยายามไล่ความคิดของตนเองออกไปจากหัวให้หมด ในตอนนี้เขาไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฮันบินหรือเรื่องของจุนฮเวก็ล้วนแต่ทำให้เขาปวดหัว ไหนๆวันพรุ่งนี้แทฮยอนก็ชวนเขาไปคาราโอเกะด้วยแล้ว เขาจะไปร้องเพลงปลดปล่อยให้ลืมโลกไปเลย



     

     

     

     

    เช้าวันต่อมา ร่างเล็กตื่นลุกออกจากด้วยความงัวเงียก่อนจะไปปฏิบัติภารกิจยามเช้าตามปกติ ถ้าโชคดี วันนี้ก็คงได้นั่งรถสบายๆไปโรงเรียนพร้อมกับแม่อีก แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้เป็นอย่างคิดเมื่อลงมาถึงห้องครัวแล้วคนที่เขาเจอไม่ใช่แม่ แต่เป็นพี่จินอูกับ...พี่ซึงยุน?
     

    จริงๆเขาเคยเจอคนๆนี้มาแล้วแต่ก็ไม่กี่ครั้งตอนช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา
     

    “อ้าวลงมาแล้วหรอ กินข้าวเช้าสิจะได้ไปโรงเรียนกัน” เสียงหวานๆของพี่จินอูเรียกเขาพร้อมกับยกจานอาหารมาวางไว้บนโต๊ะให้อย่างเรียบร้อย
     

    “ครับ... ครับ?” จินฮวานมองหน้าพี่ชายของตนก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่งลงช้าๆ
     

    “วันนี้ซึงยุนเอารถมาด้วย เราก็ไปด้วยกันก็ได้”
     

    “อ..อ่อ ครับ” พอเห็นพี่ชายยิ้มอย่างมีความสุขได้ซักทีจินฮวานก็รู้สึกดีใจด้วย
     

    มินโฮและซึงยุน... เขาไม่ได้รู้จักสองคนนี้มากมายเท่าไหร่นัก แต่เขาก็รู้จักพี่ชายของตัวเองดี แล้วก็รู้ด้วยว่าเมื่อก่อนพี่จินอูกับมินโฮรักกันมากแค่ไหน พี่จินอูถึงจะเป็นคนเงียบๆเรียบร้อย แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะชอบอยู่คนเดียว พี่ชายเขาทั้งขี้เหงาแล้วก็อ่อนไหวง่าย ยิ่งพอได้เห็นซึงยุนเทคแคร์พี่ชายเขาดีอย่างนี้ยิ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงได้เลิกกับมินโฮ...
     

    “โตขึ้นบ้างรึเปล่าเนี่ยเรา” ซึงยุนเดินมาด้านหลังเขาแล้วก็ยกมือขึ้นมาขยี้หัวเขาเบาๆ
     

    “นี่นายคิดว่าน้องชายชั้นยังจะโตได้มากกว่านี้อีกหรอ ฮ่าๆๆ” ดูพี่ชายที่แสนดีทำกับเขาสิ
     

    “พี่อะ!!” จินฮวานทำปากยู่ด้วยความไม่พอใจ “คนบ้านนี้เป็นอะไรกันหมด ไม่เห็นมีใครเข้าข้างผมบ้างเลย”
     

    “น่าๆ เดี๋ยวพี่ชายนอกบ้านคนนี้อยู่ข้างนายเองก็ได้” ต้องอย่างนี้สิ เอาใจน้องชายแฟนเป็นทางเลือกที่นับว่าดี ถือว่าซึงยุนเข้าถูกทางแล้วล่ะ “แต่ไงๆก็ต้องกินเยอะๆนะ ตัวเล็กแค่นี้จะไปสู้ใครเค้าไหว”
     

    จินฮวานรีบเปลี่ยนความคิดแทบไม่ทัน สุดท้ายแล้วซึงยุนก็มองว่าเขาอ่อนแอสินะ คอยดูให้ดีก็แล้วกัน เห็นอย่างนี้เขาก็เคยเรียนยูโดมาก่อนนะบอกไว้ก่อน ถึงจะเคยเรียนอยู่แค่ไม่กี่เดือนก็เถอะ...



     

     

    เมื่อการทานอาหารมื้อเช้าจบลง พวกเขาทั้งสามคนก็เดินออกมาขึ้นรถโดยที่มีซึงยุนเป็นคนขับและจินอูก็นั่งอยู่ข้างๆ ส่วนจินฮวานก็แบกกระเป๋าตัวเองขึ้นไปนั่งเบาะหลังแล้วแกล้งหลับทันที ปล่อยให้พวกพี่ชายนั่งจู๋จี๋กันไปเหอะ เพราะเห็นแล้วมันก็อดหมั่นไส้ไม่ได้แฮะ
     

    แต่หลับตาลงได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตัวตื่นขึ้นเมื่อมีเสียงข้อความโทรศัพท์ดังเข้ามา
     

    นิ้วเรียวลากไปตามหน้าจอโทรศัพท์เพื่อปลดล็อคก่อนจะกดดูข้อความ
     

    เย็นนี้ไปเที่ยวกันดีมั้ย?
     

    ชื่อของจุนฮวสุดหล่อนั้นก็โชว์อยู่บนหน้าจอด้วย เพราะเขาไม่ได้เปลี่ยนชื่อที่ร่างสูงเคยบันทึกเอาไว้ให้เลย
     

    แต่เพราะว่าเย็นนี้เขามีนัดกับเพื่อนๆและแทฮยอนแล้ว เพราะงั้นเลยต้องพิมพ์ข้อความไปบอกไปว่าคงไม่สามารถไปได้
     

    วันนี้เป็นวันสุดสัปดาห์เพื่อนๆก็เลยชวนกันไปเที่ยวเย็นนี้น่ะ ไว้วันอื่นนะ
     

    ไม่รู้ว่าจุนฮเวจะเข้าใจผิดว่าเขาตั้งใจหลบหน้าหรือเปล่า คงไม่หรอกมั้ง...
     

    ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกรอบ
     

    งั้นไว้วันหลังก็ได้ครับ
     

    ร่างบางอ่านข้อความในโทรศัพท์แล้วหลังจากนั้นก็ยัดมันใส่ลงในกระเป๋าเหมือนเดิม

     


     

    เป็นเวลาไม่นานหลังจากนั้นรถของซึงยุนก็ขับมาถึงหน้าโรงเรียน จินฮวานจึงต้องลงจากรถเพื่อที่จะเข้าไปในโรงเรียน ขาเล็กก้าวเดินและมุ่งหน้าไปยังตึกของตน ในขณะที่มือทั้งสองจับสายสะพายของกระเป๋าเป้เอาไว้ เมื่อเลี้ยวเข้าตึกแล้วก็เดินขึ้นบันไดพร้อมกับทักทายคนที่รู้จักไปตามปกติ
     

    แต่มันจะไม่ปกติก็ตรงที่...
     

    “วันนี้ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับพี่จินฮวาน” แก๊งเด็กผู้ชายปีสองที่ยืนสูบบุหรี่กันอยู่กำลังขวางทางเขาไว้อีกแล้ว ให้มันได้อย่างนี้สิ เขาหละเบื่อหน้าพวกเด็กสามคนนี่จริงๆ วันๆไม่ทำอะไร ยืนเฝ้าบันไดคอยก่อกวนชาวบ้านเค้าไปเรื่อย
     

    “...” เขาเลือกที่จะไม่ตอบและพยายามหลีกหนีเพื่อเดินขึ้นไปอีกทาง
     

    “เมื่อไหร่พี่จะยอมใจอ่อนไปเที่ยวกับพวกเราซักที” เด็กหนุ่มหัวทองอีกคนเอ่ยพลางยกเท้าขึ้นมายันกำแพงเพื่อกั้นเขาเอาไว้
     

    “หลบไป” แน่นอนว่าคำสั่งด้วยเสียงหวานๆของจินฮวานไม่ได้มีความหนักแน่อะไรเลย
     

    “ไม่เอาหรอก~” น้ำเสียงทะเล้นดังขึ้นจากทางด้านข้าง มันใกล้หูมากซะจนจินฮวานแทบขนลุก ต่อยแม่งซักทีดีมั้ย!! ไอ้เด็กระเบิดหูคนนี้เนี่ย!!!
     

    “บอกให้หลบไปยังไงเล่า!
     

    “โอ๊ะ โอ่... อย่างเพิ่งโกรธกันสิครับ พี่ก็สัญญากับพวกเรามาก่อนสิว่าเย็นนี้จะไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน”
     

    “กินตีนกูมั้ย?” แน่นอนว่าคนตัวเล็กไม่ได้พูด หากแต่เป็นผู้มาใหม่ที่กำลังก้าวขึ้นบันได้มาหยุดยืนอยู่ข้างๆเขา
     

    “หึ มาไวจังนะพ่ออัศวิน” เด็กปีสองที่ทักเขาเป็นคนแรกทิ้งบุหรี่ลงพื้นแล้วเหยียบมัน “สนิทกับประธานนักเรียนมันก็ดีอย่างนี้นี่เองเนอะ”
     

    “ที่โดนพักการเรียนไปเมื่อครั้งก่อนยังไม่พออีกใช่มั้ยจะได้เรียกอาจารย์คังให้” ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างจริงจังในขณะที่เอ่ยถึงอาจารย์ฝ่ายปกครอง
     

    “พอเป็นเรื่องของพี่จินฮวานทีไรต้องเข้ามาเสือกตลอดเลยนะ ถามจริงเหอะ นี่ได้กันแล้วใช่มะ?” เด็กปีสองหัวทองพูดขึ้น ทำเอาร่างสูงแทบขนาดสติ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาเป็นประธานนักเรียนและไม่ควรมีเรื่องทะเลาะวิวาทในโรงเรียนป่านนี้คงได้ส่งไอ้หมอนี่ไปลงนรกแน่
     

    “อย่ามาพูดอะไรให้พี่เค้าเสียหาย” ฮันบินขยับเข้าไปใกล้ๆพลางกระซิบรอดไรฟันอย่างเน้นชัดๆทีละคำ “ระวังปากของนายให้ดี ถ้ายังอยากเป็นนักเรียนของที่นี่อยู่”
     

    “หึ ปกป้องกันจริงๆ เฮ้ยพวกเรา ไปเหอะ” เด็กหนุ่มเจ้าของเศษบุหรี่บนพื้นทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้นพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน
     

    จากนั้นร่างสูงกลับมาสนใจจินฮวานที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
     

    “พวกมันไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่มั้ย?”
     

    “อืม ไม่มีอะไรหรอก” คนตัวเล็กส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อยเพื่อแสดงว่าตนไม่ได้เป็นอะไร
     

    “งั้นก็ดีแล้ว” ร่างสูงบอกก่อนที่จะก้าวเดินขึ้นบันไดเพื่อกลับไปยังห้องเรียน
     

    แต่เหมือนจินฮวานจะอยากพูดอะไรบางอย่าง มือเล็กก็เลยตัดสินใจรั้งเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้จนเจ้าของเสื้อต้องหันมามองด้วยความสงสัย
     

    “ขอบใจนะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาและทำให้ฮันบินยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ร่างเล็กเห็นอยู่เป็นประจำ แต่น่าแปลกที่รอยยิ้มนั้นกลับเจือไปด้วยความเศร้า

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ”
     

    “...”


    “ก็ผมเป็นน้องชายพี่นี่นา”








    ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว และตอนนี้เพื่อนๆในห้องต่างก็พากันส่งเสียงดังไปทั่วเพราะเรื่องการนัดแนะไปคาราโอเกะ แต่สำหรับบางคนที่เครียดเรื่องการสอบเข้ามหา’ลัยมากกว่านั้นตัดสินใจที่จะกลับบ้านไปท่องหนังสือต่อ จริงๆแล้วจินฮวานก็ควรจะทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ในเมื่อเพื่อนสนิทถึงกับสละเวลาโดดเรียนมาชวนถึงที่จะไม่ไปก็คงไม่ได้หละนะ
     

    ดังนั้นเขาและเพื่อนๆในห้องกลุ่มหนึ่งจึงร่วมเดินทางไปยังสถานที่นัดหมายด้วยกัน แน่นอนว่าตัวตั้งตัวตีอย่างนัมแทฮยอนรอทุกคนอยู่แล้ว แถมยังเปิดห้องคาราโอเกะห้องใหญ่เตรียมเอาไว้เรียบร้อยเลยด้วย
     

    เด็กๆม.ปลายปีสามจำนวนสิบแปดคนรวมตัวกันอยู่ในห้องๆหนึ่ง ถึงจะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดแต่ก็ยังถือว่าแออัดอยู่ดี บางคนที่ไม่ได้นั่งโซฟาก็ยืนเต้นและร้องเพลงอย่างสนุกสนาน พวกเขาพากันสั่งอาหารและเครื่องดื่มกันมาอย่างเต็มที่ ตั้งใจว่าจะสนุกให้สุดๆก่อนที่จะต้องเผชิญกับการสอบเข้ามหา’ลัยในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้
     

    จินฮวานเองก็เช่นกัน ตั้งแต่มาถึงที่นี่เขาก็ร้องเพลงไปตั้งเยอะแล้ว เห็นอย่างนี้เขาเองก็ร้องเพลงเก่งไม่แพ้เพื่อนสนิทอย่างแทฮยอนเลยทีเดียว
     

    “เป็นไง ต่ออีกเพลงป่ะ” ร่างโปร่งของแทฮยอนล้มตัวลงนั่งข้างๆเขาพร้อมกับวาดแขนมาโอบไหล่เล็กเอาไว้
     

    “ไม่ไหวอะ เสียงเริ่มไปละ”
     

    “ฮ่าๆๆๆๆ จริงดิ? เคๆ”
     

    “ร้องต่อไปเหอะ เดี๋ยวไปล้างหน้าแป๊ปนึง”
     

    “อาฮะ”
     

    ร่างเล็กลุกขึ้นแล้วส่งไมค์ต่อให้เพื่อนสนิททันที นี่พวกเขาก็ใช้เวลาอยู่ที่นี่จนสองทุ่มกว่าๆแล้ว เหมือนจะรู้สึกเบลอๆก็เลยอยากล้างเนื้อล้างตัวซักหน่อย
     

    แต่ก็นานแล้วเหมือนนะกันที่จินฮวานไม่ได้หัวเราะอย่างสนุกสนานได้ขนาดนี้ หัวเราะจนลืมเรื่องเครียดๆไปหมดเลย คงต้องเป็นเพราะได้ออกมาเที่ยวกับเพื่อนๆแน่ๆ หลังจบงานนี้เขาคงต้องขอบใจแทฮยอนซะหน่อยแล้ว
     

    ขาเล็กก้าวไปผ่านห้องคาราโอเกะหลายห้องที่เป็นทางผ่านไปยังด้านหลังร้านซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องน้ำชายและหญิง ในแต่ละห้องคาราโอเกะล้วนมีทั้งเด็กม.ปลายจากสถาบันต่างๆรวมไปถึงพนักงานที่ออกมาเลี้ยงฉลองกัน และเสียงเพลงก็ดังเล็ดลอดออกมาเรื่อยๆตามทางแม้ว่าตอนนี้เขาจะเดินมาถึงทางเลี้ยวตรงหน้าห้องน้ำแล้วก็ตาม
     

    อยู่ๆร่างกายของจินฮวานก็หยุดนิ่งราวกับถูกช๊อตให้อยู่กับที่ เขาอยากจะก้าวเดินต่อไปแต่เขาขยับตัวไม่ได้... คงเป็นเพราะ... เพราะแผ่นหลังที่แสนคุ้นตาข้างหน้านี้แน่ๆ...
     


     

    ร่างสูงของจุนฮเวและเด็กสาวต่างโรงเรียนที่เป็นคนละคนกับเมื่อวานนี้กำลังแลกจูบกันอย่างดูดดื่มต่อหน้าเขา จุนเฮวที่กำลังหันหลังอยู่นั้นมองไม่เห็นเขา แต่เด็กสาวคนนั้นมองเห็นเขาแน่ๆและเขาก็เห็นเธอเช่นกัน...
     

    สิ่งเดียวที่ร่างเล็กคิดได้ในตอนนี้ก็คือถอยห่างออกจากตรงนี้ไปซะ เขาไม่มีความคิดที่จะเข้าไปกระชากตัวร่างสูงเพื่อออกมาคุยกันให้รู้เรื่องซักนิด... ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยกล้าเผชิญหน้ากับเรื่องต่างๆอยู่แล้ว และแน่นอนว่าตอนนี้เขาก็เป็นเช่นนั้น
     

    แต่มันติดตรงที่ว่าขาของเขาขยับได้เพียงเล็กน้อย และพอรู้ตัวอีกที...หยาดน้ำตาใสก็ไหลอาบเต็มสองข้างแก้มของเขา... ดวงตาเรียวเล็กปิดลงจนสนิทก่อนจะหายใจเข้าลึกๆแล้วถอยหลังออกจากสถานที่นั้นอย่างยากลำบาก
     

    ไม่มีแม้แต่เสียงร้องหรือเสียงสะอื้น มีเพียงน้ำตาและความเจ็บปวดภายในจิตใจ เขาไม่คิดเลยว่าแค่คนๆเดียวจะทำให้เขาเป็นได้มากถึงเพียงนี้ ทั้งๆที่... ทั้งๆที่สัญญากับเขาไว้แล้วแท้ๆว่าจะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนั้นอีก แต่ทำไม...
     

    หรือว่านี่จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดอีก?
     

    ถ้าอย่างนั้น... เขาควรกลับไปถามร่างสูงให้รู้เรื่องดีหรือเปล่า?
     

    “เฮ้ย! จินฮวาน!!” เสียงเรียกจากนัมแทฮยอนดังขึ้นตรงทางเดินในขณะที่ร่างนั้นกำลังวิ่งตรงมาทางเขา
     

    “...” เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร ร่างเล็กจึงได้แต่ยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าอย่างลวกๆ
     

    “ไปล้างหน้ายังไงวะเนี่ย ทำไมน้ำตาเต็มหน้างี๊วะ!?
     

    “คือ...”
     

    “ถ้าจะบอกว่าฝุ่นเข้ากูไม่เชื่อหรอกนะเว้ย กูไม่ได้โง่”
     

    “ฮะๆๆ... มึงนี่ฉลาดจริงๆ”
     

    “ตกลงว่าเป็นไร?” มือทั้งสองข้างของร่างโปร่งตรงเข้ามาจับไหล่เล็กนั้นเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง และพยายามใช้คำถามกับน้ำเสียงแบบไม่คาดคั้นที่สุด เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะบ่อน้ำตาแตกขึ้นมาอีก
     

    “ไม่มีไรหรอก ไปสนุกกับเพื่อนๆต่อเหอะ” ร่างเล็กแตะที่มือของเพื่อเบาๆ “กูรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอตัวกลับก่อนนะ”
     

    ในเมื่อจินฮวานไม่ยอมอธิบายอะไรและไม่คิดที่อยู่ต่อ แทฮยอนก็เลยทำได้แค่ปล่อยให้ร่างเล็กเดินจากไป
     

    “จะให้ไปส่งมั้ย?”
     

    “ไม่เป็นไร แค่...” ใบหน้าเล็กก้มหน้าลงเล็กน้อย “แค่อย่าบอกฮันบินก็พอ”



     

     

     

     

    “คนที่ยืนร้องไห้เมื่อกี๊ไปแล้ว” เสียงหวานของเด็กสาวม.ปลายกระซิบข้างหูร่างสูงเบาๆ
     

    “ขอบใจ” เขาตอบและดันเด็กสาวคนนั้นให้ออกห่างจากตัวพร้อมกับส่งเงินให้เธอ
     

    เมื่อเด็กสาวคนนั้นเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำหญิง จุนฮเวก็หันไปมองตรงจุดที่คิดว่าร่างเล็กเคยอยู่เมื่อครู่
     

    เห็นแล้วสินะ...
     

    หึ... แค่นี้มันยังไม่พอด้วยซ้ำ สำหรับเขาแล้วเกมนี้มันไม่มีทางจบง่ายๆอย่างแน่นอน
     


     

    พี่ผิดเองนะที่มารักคนอย่างผม...


     




    ------------------------------------------------------------------------------70%-----------------------------------------------------------------


    อู่ย เจ็บเบยยยยยย
    ก่อนอื่นต้องขอโทษทีที่มาแอบมาอัพช้านิดนึง
    ลืมบอกไปว่ามีภารกิจอันใหญ่หลวง 55555
    อีก 30% ที่เหลืออาจเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้นะคะ
    ส่วนคนที่เหนื่อยกับดราม่าเหลือเกิน
    เราขอเสนอทางเลือกใหม่ค่ะ แท่แด๊น~~

    [WIN ● TeamB] Lucky Day ♬~♫~♪


    ฝากติชมด้วยนะคะ ><

    ------------------------------------------------------------------------------100%-----------------------------------------------------------------
    ตอนหน้าจะเปิดเผยความจริงละ สงสารน้องจิน เหนื๊อยเหนื่อย TvT


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×