ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] VAGUE AFFECTION ► BJinJun

    ลำดับตอนที่ #15 : ► Chapter 13 (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      0
      27 ธ.ค. 56

    Chapter 13



     

     

    ช่วงเช้ามืด... พระอาทิตย์กำลังค่อยๆโผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาทีละนิด ร่างสูงของฮันบินขยับตัวอยู่บนเตียงเล็กน้อยก่อนที่เปลือกตาหนาจะเปิดออกอย่างเชื่องช้า มองไปยังร่างเล็กที่นอนซุกอยู่ในอ้อมแขนของตัวเองแล้วก็อมยิ้มน้อยๆทันที ดวงตาคู่เล็กนั้นหลับพริ้มขณะที่จมูกกลมมนนั่นก็กำลังปล่อยลมหายใจอุ่นๆมาเป่ารดอยู่ตรงแผงอกเขา หลับลึกขนาดนี้... ท่าทางจะเหนื่อยมากสินะ
     

    ไม่อยากปลุกเลย... พี่จินฮวานที่กำลังหลับใหลอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเขา... และเรื่องเมื่อคืนนี้ก็เกิดขึ้นราวกับความฝัน... แต่เมื่อได้มองหน้าพี่ชายตัวเล็กเต็มๆตาอีกครั้งฮันบินก็รู้ดีว่าเขาไม่ได้ฝันไป เขาชั่งใจอยู่ซักพักก่อนจะตัดสินใจกดริมฝีปากหนาลงไปที่หน้าผากของคนตรงหน้า แล้วค่อยๆไล่ลงมาที่ปลายจมูกก่อนจะเคลื่อนไปประทับลงบนริมฝีปากหยักเล็กอย่างแผ่วเบา
     

    เสียงเล็กๆครางอู้อี้อย่างขัดใจเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกรบกวนจาการนอนหลับ แต่ฮันบินก็ไม่ยอมแพ้ เขารุกด้วยการบดเบียดริมฝีปากนั้นให้หนักขึ้น ฝ่ามือหนายกขึ้นมาประคองเรียวหน้าเล็กเอาไว้ในขณะที่ค่อยๆสอดลิ้นร้อนเข้าไปภายใน ไล่ต้อนลิ้นเล็กให้จนมุมแล้วขมเม้มเรียวปากเล็ก ...น่าแกล้งที่สุดเลย
     

    “อื้ออออ...” ร่างเล็กเริ่มครางประท้วงเมื่อรู้สึกหายใจไม่ทัน จินฮวานค่อยๆเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งพลางเอามือดันแผงอกกว้างออกเบาๆ
     

    “อรุณสวัสดิ์ครับ” ฮันบินผละออกมาแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ยามมองไปที่ใบหน้าหวาน
     

    “เล่นอะไรของนาย”
     

    “ผมเปล่าเล่นซะหน่อย ก็เห็นว่าเช้าแล้วเลยปลุก” แต่ใช้วิธีที่ทำเอาคนถูกปลุกหน้าแดงไปหมด เพราะอย่างนี้ไงฮันบินถึงได้อยากแกล้ง “เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะครับ”
     

    “อืม” พยักหน้าตอบเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆโยนตัวขึ้นมานั่ง
     

    หนาว... พอรู้สึกอย่างนั้นก็เลยยกมือขึ้นมากอดอกเอาไว้ เพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้ร่างกายไม่มีเสื้อผ้าปกปิดซักชิ้นจึงกวาดตามองหาและก็พบมันกองอยู่ที่ปลายเตียง กระชับผ้าห่มที่บังตัวเอาไว้แน่นแล้วเอื้อมไปคว้าชุดนอนทันที
     

    “ผมไม่ช่วยใส่นะ...” ร่างหนาที่กำลังย้ายตัวขึ้นมานั่งพิงหัวเตียงเอ่ยขึ้นพลางยกยิ้มน้อยๆ “พอดีว่าผมถนัดแต่ถอดน่ะ”
     

    “ก..ก็ไม่ได้ขอให้ช่วยซักหน่อย!
     

    ให้ตายเถอะ เด็กคนนี้ชักจะแก่แดดเกินไปแล้วนะ! จินฮวานได้แต่สบถในใจก่อนจะเร่งรีบใส่เสื้อผ้าของตัวเอง แต่จะว่าไป... เรื่องเมื่อคืนนี้เขาเองก็เป็นฝ่ายยินยอมด้วยไม่ใช่หรือไง... ถ..แถมฮันบินที่เป็นคนฝ่ายนำเขาอยู่ด้านบน.. พอนึกถึงใบหน้าหล่อนั้นแล้วก็อดร้อนผ่าวขึ้นมาไม่ได้ อา... นี่เขากำลังคิดบ้าอะไรอยู่
     

    ร่างเล็กสะบัดหัวแรงๆหนึ่งทีก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน
     

    “อ๊ะ...” จินฮวานไม่ปฏิเสธเลยว่าเขากำลังรู้สึกปวดหนึบที่บริเวณสะโพก ถึงเมื่อคืนนี้จะ...จะทำแค่ครั้งเดียว แต่มันก็เป็นครั้งแรกของเขานี่!!
     

    “ให้ผมอุ้มไปส่งมั้ยครับ?” ฮันบินขยับตัวทำท่าเหมือนจะลงจากเตียง
     

    “ไม่ต้อง ไม่เป็นไร” ฝ่ามือเล็กรีบยกขึ้นมาห้ามทันที
     

    “แล้วพี่จะปีนระเบียงไหวเหรอ?”
     

    “ว...ไหวสิ ปกติก็ปีนจนชินแล้ว”
     

    “คราวหน้าผมไปที่ห้องพี่เองดีกว่า พี่จะได้ไม่ต้องปีนข้ามไปมาให้เมื่อย”
     

    “...” ค...คราวหน้า?........................!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     

    จินฮวานสงสัยจริงๆว่าทำไมน้องชายข้างบ้านของเขาถึงได้กล้าพูดอะไรออกมาแบบนั้นโดยไม่อายซักนิด แถมยังส่งยิ้มให้เขาด้วยความยินดีอีกต่างหาก ท่าทางดูมีความสุขซะเหลือเกินในขณะที่ตอนนี้หน้าเขาคงร้อนจนต้มมาม่าได้ซักซองนึงแล้วมั้ง
     

    “พี่จินฮวานครับ...”
     

    “อะไรอีกล่ะ...”
     

    “ให้ผมไปช่วยอาบน้ำมั้ย?”
     

    “ไม่ต้อง!!





     

     

     

    สุดท้ายจินฮวานก็ปีนกลับเข้าห้องตัวเองไปได้สำเร็จ ถ้าไม่งั้นตอนนี้เขาคงไม่ได้มายืนอยู่หน้าบ้านแบบนี้หรอก ร่างสูงของฮันบินยังคงยืนพิงกำแพงรอเขาอยู่ที่เดิมและท่าเดิมด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่พอเห็นร่างเล็กปรากฏตัวเท่านั้นแหละ ใบหน้าหล่อเหลานั้นก็แต้มด้วยรอยยิ้มทันที
     

    “บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ไปรอในบ้านน่ะ ข้างนอกหนาวจะตาย” ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอบ่นอีกซักทีเถอะ
     

    “ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมเพิ่งออกมาเอง”
     

    “...” พอจินฮวานไม่รู้จะต่อปากต่อคำอย่างไรได้จึงทำเพียงแค่ก้มหน้าแล้วเดินนำออกไป... ก็คนมันเป็นห่วงน่ะ ไม่เข้าใจหรือยังไง ถ้าเกิดว่าไม่สบายขึ้นมาล่ะ? ทำไมไม่รู้จักคิดบ้างนะ...
     

    “โกรธผมหรอ?”
     

    “เปล่า”
     

    “อย่าทำอย่างนี้สิครับ” คนที่ตัวสูงกว่าก้าวเท้ารวดเดียวก็สามารถเดินเข้ามาบังทางข้างหน้าเอาไว้ได้ “คุยกันก่อนนะ”
     

    “คุยอะไร?”
     

    “ผมขอโทษ ต่อไปจะเข้าไปรอข้างในบ้านแล้วจริงๆ” สีหน้าของฮันบินที่แสดงถึงความรู้สึกผิดทำให้จินฮวานต้องยอมใจอ่อนจนได้
     

    “สัญญา?”
     

    “ครับ สัญญาเลย” ตอบตกลงพลางคว้ามือมือเล็กของอีกคนมากุมเอาไว้แน่น
     

    พวกเขาทั้งคู่เดินไปบนถนนด้วยกันเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ทุกอย่างดูเหมือนจะกลับไปเป็นปกติ จินฮวานหันหน้าไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆกันเล็กน้อยก่อนจะมองตรงไปยังทางข้างหน้าเช่นเดิม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานั้นมันเกินเลยจากคำว่าพี่น้องมาไกลมากแล้ว และถ้าจะให้ย้อนกลับไปก็คงไม่มีทางเป็นไปไม่ได้...
     

    “ฮันบิน...” เสียงหวานเอ่ยเรียกอย่างแผ่วเบา
     

    “ครับ?”
     

    “เมื่อวานนี้ที่พี่...”
     

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ”
     

    จินฮวานยังไม่ทันพูดจบด้วยซ้ำ แต่ร่างสูงก็ขัดจังหวะขึ้นมาก่อน คงจะรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องจุนฮเว... เรื่องที่เขาเป็นห่วงและก็ยังคงเป็นหวงจนถึงตอนนี้...
     

    “นายไม่โกรธ...”
     

    “โกรธสิครับ...” ร่างสูงว่าพลางกระชับมือที่กุมเอาไว้ให้แน่นขึ้นอีก “แต่ผมก็เองผิดเหมือนกันที่ใช้อารมณ์รุนแรงกับพี่... ผมดีใจนะที่พี่บอกว่ารักผม...”
     

    “อ่า... เรื่องนั้น...”
     

    “หรือว่าจริงๆแล้วที่พี่ยอมเป็นของผมเพราะว่าสงสารผมกันล่ะ”
     

    “ไม่ใช่นะ!” ร่างเล็กรีบหันมาปฏิเสธทันทีก่อนที่ฮันบินจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ตอนแรกก็คุยด้วยกันดีๆอยู่แล้วเชียว เขาไม่น่าเริ่มประเด็นนี้ขึ้นมาเลย “ก็พี่บอกไปแล้วไงว่าพี่...พี่รักนาย ยังไม่เข้าใจอีกหรอ?”
     

    ที่จินฮวานบอกออกไปว่ารัก นั่นก็หมายความว่ารักจริงๆ เขาไม่ได้โกหกเพราะว่าสงสารหรือต้องการทำให้ฮันบินดีใจ ที่ผ่านมาฮันบินก็ต้องรู้สึกไม่ดีเพราะเขามามากพอแล้ว เขาก็แค่... อยากทำให้คนที่เขารักเชื่อมั่นใจตัวเขามากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง...
     

    “ผมเข้าใจแล้ว” ร่างสูงหันมายิ้มน้อยๆให้กับคนตัวเล็กแล้วก้มหน้าเอาจมูกแตะลงไปบนแก้มเนียนใส “ผมก็รักพี่เหมือกันนะครับ”
     

    เพื่อฮันบินแล้ว... จินฮวานเชื่อว่าตัวเขาเองสามารถทำได้ทุกอย่าง ขอแค่คนๆนี้มีความสุขและไม่ทิ้งเขาไปไหนก็พอ... ส่วนจุนฮเว... เขาก็แค่ต้องพยายามลืมเด็กคนนั้นให้ได้เร็วๆ...

     

     

     

     

     

    แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่จินฮวานคิด เพราะทันทีที่มาถึงห้องเรียน เขาก็รีบตรงเข้าไปหาแทฮยอนที่มาถึงก่อนหน้านั้นทันที... ไม่ว่าจะยังไง... เขาก็ยังคงเป็นห่วงจุนฮเวอยู่ดีนั่นแหละ
     

    มือเล็กยื่นออกไปเขย่าตัวเพื่อนที่นอนฟุบอยู่บนโต๊ะเรียนแล้วเอ่ยเรียกอย่างใจร้อน เขาอยากรู้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างและ... จุนฮเวไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย...
     

    ร่างโปร่งที่เพิ่งรู้สึกตัวค่อยๆเงยหน้าขึ้นแล้วเสยเผมตัวเองเล็กน้อยพลางมองจินฮวานที่ยืนอยู่ข้างๆโต๊ะ ท่าทางร้อนรนขนาดนี้คงไม่พ้นเรื่องไอ้เด็กจุนฮเวนั่นแน่นอน แทฮยอนถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วตัดสินใจยื่นคำขาดออกมา
     

    “เล่าเรื่องทั้งหมดให้กูฟังก่อน ไม่งั้นกูไม่บอกอะไรมึงหรอก”
     

    “...” จินฮวานเม้มปากแน่นเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “...ก็ได้”
     

    ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของตัวเองแล้วเริ่มเล่าเรื่องราวระหว่างเขากับจุนฮเว รวมไปถึงเรื่องของพี่มินโฮกับพี่ชายของเขาด้วย ถึงยังไงแทฮยอนก็เป็นเพื่อนที่สนิทมากที่สุดสำหรับจินฮวาน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจบอกความจริงทุกอย่างให้แทฮยอนรับรู้
     

    ดวงหน้าเรียวสวยของคนฟังนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ยิ่งได้รู้มากขึ้นเท่าไหร่คิ้วก็ยิ่งลู่ตกลงไปมากขึ้นเท่านั้น
     

    “เดี๋ยวๆ...” พอถึงตอนจบ นิ้วเรียวยาวก็ยกขึ้นมาชี้ที่จินฮวานทันที “สรุปคือมึงก็เหมือนจะรู้อยู่กลายๆแต่ก็ดันยอมคบกับมันเนี่ยนะ!?
     

    “อืม...”
     

    “กูละเชื่อมึงเลย” จริงๆแทฮยอนก็ไม่ค่อยแปลกใจกับนิสัยของเพื่อนตัวเองเท่าไหร่นัก ในเมื่อจินฮวานก็แอบมองจุนฮเวมาตั้งนานแล้ว และอยู่ๆไอ้เด็กนั่นก็ดันมาขอคบด้วยแล้วจะไม่ให้หวั่นไหวได้ยังไง
     

    แต่เหนือสิ่งอื่นใด ข้อมูลใหม่สำหรับแทฮยอนในวันนี้คือการที่ได้รู้ว่าจุนฮเวกับมินโฮนั้นมาจากสถานเลี้ยงเล็กกำพร้าเดียวกัน ถึงมินโฮจะคิดกับจุนฮเวแค่น้องชาย แต่ว่าจุนฮเวกลับ...
     

    “แล้วตกลงเรื่องเมื่อคืน...”
     

    “เออๆ กูไม่รู้ว่าแม่งคุยไรกัน แต่ไม่ได้ต่อยกันหรอก มึงนี่ก็เลิกห่วงมันได้ละ”
     

    “อืม... ขอบใจนะที่ช่วยไปดูให้” พอรู้ว่าจุนฮเวไม่ได้เป็นอะไร จินฮวานก็ค่อยชื้นใจขึ้นมาหน่อย
     

    ดวงตาเรียวเล็กมองออกไปทางนอกหน้าต่าง ที่สนามบาสมีเด็กๆม.ปลายกำลังวิ่งไล่ลูกบอลกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งที่ตรงนั้นกลับไร้วี่แววของคนที่เขาเคยแอบมองอยู่บ่อยๆ... นับตั้งแต่เลิกลากันไป ถึงแม้ว่าจินฮวานพยายามจะเลิกมองหาเด็กคนนั้นไปนานแล้ว... แต่ทุกๆครั้งที่เขาเผลอมองออกไป เขาก็ไม่เคยเห็นจุนฮเวเลย...

     

     

     

     

     

    เย็นวันนี้จินฮวานต้องกลับบ้านเพียงลำพัง นั่นก็เพราะว่าหลังจากตอนที่เลิกเรียน ขณะที่ร่างเล็กกำลังก้าวขาลงจากตึก เสียงข้อความเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น... เขาจึงหยิบมันขึ้นมาดูแล้วก็พบว่าเป็นฮันบินที่บอกให้เขากลับบ้านไปก่อนเลย อีกไม่นานก็จะสอบปลายภาคแล้ว แต่งานที่สภาก็ยังคงยุ่งขนาดนี้ แล้วฮันบินจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือกันล่ะ...
     

    บางทีเขาอาจจะต้องหาเวลาว่างๆติวให้ฮันบินบ้าง เขารู้ว่าตัวเองไม่ได้เรียนเก่งอะไรมากมายนักแต่ก็อยากจะช่วยจริงๆ... จินฮวานคิดในขณะที่กำลังลงมาจากรถประจำทางทันทีที่มันหยุดตรงปากซอยเข้าบ้าน
     

    โครม!!
     

    “อ๊ะ!!” ดูเหมือนว่าจะมีใครซักคนวิ่งมาชนเขาเข้าพอดี ร่างเล็กก็เลยเซถลาไปด้านหลังและด้วยความกลัวจึงหลับตาแน่น แต่โชคดีที่มีมือปริศนามาช่วยดึงเขาเอาไว้ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงได้ลงไปกลิ้งอยู่บนถนนแน่ๆ
     

    “ขอโทษครับๆ” เสียงของเจ้าของมือหนาซึ่งน่าจะเป็นคนๆเดียวกับที่วิ่งชนเขานั้นดังขึ้น “พี่...จินฮวาน...”
     

    เมื่อได้ยินชื่อตัวเอง ร่างเล็กรีบเปิดตาขึ้นมาดูทันที... เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้ำเสียงนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน...
     

    “จุนฮเว...” คนที่ยืนอยู่ตรงนี้แทบทำให้เขาเกือบลืมหายใจ “นาย...นายมาทำอะไรที่นี่...”
     

    “ผม...”
     

    “เฮ้ย!! มันอยู่ตรงนั้นเว้ย!!!
     

    ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไร เด็กหนุ่มคนหนึ่งท่ามกลางกลุ่มนักเรียนชายม.ปลายประมาณห้าถึงหกคนก็ส่งเสียงตะโกนแล้วชี้มาทางพวกเขา
     

    ไม่ต้องรอให้จุนฮเวบอกว่าเกิดอะไรขึ้นจินฮวานก็พอจะเดาออกว่าเด็กพวกนี้กำลังมีเรื่องกันอยู่
     

    “วิ่ง!!” คำสั่งเดียวที่ออกมาจากปากของจุนฮเวทำให้เขาต้องรีบก้าวเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะมือหนาที่จับอยู่นั้นกำลังดึงเขาไปด้วย
     

    กลุ่มนักเรียนชายพวกนั้นใส่ชุดของโรงเรียนอื่น แสดงว่าจุนฮเวคงไปมีเรื่องอะไรซักอย่างนอกโรงเรียนมาอย่างแน่นอน และเด็กหนุ่มเหล่านั้นยังคงวิ่งตามพวกเขามาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าต้องวิ่งไปอีกนานแค่ไหน... แต่พื้นที่แถวนี้จินฮวานค่อนข้างรู้จักดี เขาจึงตัดสินใจลากร่างสูงไปหาที่หลบแทน
     

    เลยออกไปข้างหน้าคือสนามเด็กเล่นที่มีเด็กๆอยู่กำลังก่อกองทรายกันอยู่สามคน ถัดไปด้านหลังนั้นเป็นสวนสาธารณะเล็กๆที่เอาไว้ให้คนในละแวกนี้มาวิ่งออกกำลังกายกัน จินฮวานคิดอย่างรวดเร็วก่อนจะพาเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบๆเพื่อให้พวกที่ตามมาสับสน กว่าจะรู้ตัวอีกที จุนฮเวก็ถูกลากมาหลบที่พุ่มไม้ซึ่งขั้นระหว่างสนามเด็กเล่นกับสวนสาธารณะแล้ว
     

    เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังจนแทบไม่เป็นจังหวะ ทั้งๆที่อากาศก็ออกจะหนาวแต่พวกเขาก็ยังมีเหงื่อเกาะตามไรผมและหน้าผาก
     

    “แฮ่ก...นายไปทำอะไรมา...” ถึงจะเหนื่อย แต่ตอนนี้จินฮวานก็อยากรู้เรื่องนั้นมากกว่า จนเกือบลืมไปเลยว่าตอนนี้พวกเขาต้องเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน...
     

    “ไปกวนตีนพวกมันมานิดหน่อย” เสียงทุ้มนั้นตอบพลางยื่นหน้าออกไปดูด้านนอก “โทษที... มันเห็นพี่ยืนคุยกับผมแล้ว เลยจำเป็นต้องลากพี่มาด้วย”
     

    เป็นห่วงเขาอย่างนั้นหรอ?... จริงๆจินฮวานอยากจะบอกว่าเขาเองก็มีความรู้เรื่องการต่อสู่อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเคยเรียนตอนสมัยเด็กๆ แต่ก็ช่างเถอะ ถึงเขาบอกไปก็ใช่ว่าจะสู้เด็กที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดนั้นได้อยู่ดี
     

    “นายมีแผลด้วยนี่...” ดวงตาเรียวเล็กจับจ้องไปที่รอยเลือดตรงขอบคิ้วด้านซ้ายก่อนที่จะยกมือขึ้นมาแตะ ทว่ากลับถูกมือหนาปัดออกทันที
     

    “ผมไม่เป็นไร”
     

    “...”
     

    “...”
     

    “เมื่อวานนี้นายกับพี่มินโฮ...” เพราะความอยากรู้ทำให้จินฮวานตัดสินใจถามออกมา เรื่องทำเป็นไม่รู้จักกันน่ะ... เขาไม่สนใจมันอีกต่อไปแล้ว “พี่ไม่ได้ตั้งใจจะให้พี่มินโฮรู้...”
     

    “ช่างมันเถอะ ผมเลิกสนใจเรื่องพี่มินโฮแล้ว”
     

    หลังจากนั้นความเงียบก็เข้ามาครอบคลุมพื้นที่ระหว่างพวกเขาทันที เพราะว่าร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆดูนิ่งจนไปน่ากลัว จินฮวานก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เมื่อกี้พอได้ยินคำว่าเลิกสนใจเรื่องพี่มินโฮแล้ว... ร่างเล็กก็รู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก จุนฮเวตัดใจจากพี่ชายคนนั้นได้แล้วอย่างนั้นหรือ?... ถ้างั้นเขาเองก็มีสิทธิ์ใช่รึเปล่า...
     

    ไม่สิ... ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดเรื่องอย่างนี้ เขาเองก็มีฮันบินอยู่แล้วทั้งคน ไหนจะสถานการณ์ที่ดูไม่ค่อยปลอดภัยนี่อีก... ร่างเล็กแอบลอบมองออกไปทางพุ่มไม้เช่นบ้าง ที่ทางเดินฟุตบาท...กลุ่มเด็กพวกนั้นกำลังแยกย้ายกันตามหาพวกเขาอยู่ ไม่ว่ายังไงตอนนี้ก็คงออกไปไหนไม่ได้อยู่ดี
     

    จินฮวานถอยกลับมานั่งอย่างเดิมแล้วถอนหายใจเล็กน้อย มือเล็กเลื่อนไปจับกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาเปิดออกแล้วล้วงหาอะไรบางอย่างข้างใน เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาหนึ่งผืนก่อนจะยื่นมันให้กลับร่างสูงตรงหน้า
     

    “อย่างน้อยๆก็เช็ดมันหน่อยเถอะ” เอ่ยพลางชี้ไปที่แผลตรงคิ้ว
     

    “...” จุนฮเวไม่พูดอะไรแต่ก็ทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยตอนที่รับผ้าไปเช็ด...
     

    ก็ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้... เป็นของที่จุนฮเวเคยให้ร่างเล็กเอาไว้เมื่อตอนนั้น...
     

    จินฮวานพกมันติดตัวมาที่โรงเรียนตลอด เพราะตั้งใจว่าถ้าเจอเจ้าของก็จะเอาคืนให้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีโอกาสได้คืนซักที คราวนี้...มันคงได้กลับไปอยู่กับเจ้าของแล้วจริงๆ...
     

     

     

     

     

    จนกระทั้งเวลาผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ตัดสินใจออกจากที่ซ่อนเมื่อคิดว่าเด็กพวกนั้นคงไปที่อื่นกันหมดแล้ว ทั้งคู่เดินออกมาที่ฟุตบาทด้วยกัน จุนฮเวต้องการเดินไปส่งจินฮวานที่บ้านก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่ยิ่งทำแบบนี้จินฮวานก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว
     

    ความห่วงใยของจุนฮเวมันอาจจะทำให้เขาลืมเรื่องราวของคนๆนี้ยากขึ้นไปอีก...
     

    แต่เมื่อปฏิเสธไม่ได้... ร่างเล็กจึงได้แต่เดินตามหลังไปเงียบๆ...
     

    “สัส!! วันนี้มึงไม่รอดแน่!!!
     

    แล้วเสียงของกลุ่มเด็กนักเรียนจากโรงเรียนอื่นกลุ่มเดิมก็ดังขึ้นอีกครั้ง... วิ่งตรงไปด้านหน้าคงไม่ได้แล้วจึงหันหลังกลับ แต่ก็พบมีอีกพวกหนึ่งที่ยืนรอดักพวกเขาอยู่เช่นกัน
     

    เมื่อไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร พวกเขาจึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมตั้งการ์ดรอ
     

    อาจจะเป็นโชคดีของทั้งสองคนหรือไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ ระหว่างที่กลุ่มเด็กพวกกำลังตรงเข้ามาล้อมพวกเขา รถประจำทางก็วิ่งมาจอดตรงป้ายพอดี จุนฮเวไม่รอช้าที่จะจับข้อมือเล็กเอาไว้แล้วลากขึ้นรถไปด้วยกันก่อนจะบอกให้ลุงคนขับรถรีบปิดประตู
     

    พอรถเริ่มออกตัว เด็กหนุ่มพวกนั้นก็วิ่งตามจนเหนื่อยและหยุดไปเอง...
     

    จินฮวานไม่รู้ว่าตอนนี้เขาควรทำเช่นไร... ในเมื่อย้อนกลับไปก็ไม่ได้ ก็คงต้องตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวเท่านั้น


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ฉลองปลดแบนแล้ว เย่ๆๆๆๆๆ ^O^
    จุนโผล่มาอีกละ ตัวเล็กก็ลืมไม่ได้ซักทีดิ๊ทีนี้ 5555555555555
    ยังไงก็ขอฝากติชมด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้า อิอิ ><


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×