ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic WIN] BABY BABY ◤ BJin ◢

    ลำดับตอนที่ #2 : ◤ Chapter 1 ◢

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 56


    Chapter 1



     

     

    ฮันบินยกมือขึ้นมากุมขมับอย่างเลี่ยงไม่ได้เมื่อเขากำลังเผชิญกับปัญหาตรงหน้า
     

    “ทำไมอ่าจินฮวาน ไปด้วยกันสิ ไปด้วยกันๆๆๆ” เสียงเล็กๆของฮันบยอลยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่มือน้อยๆก็คว้าเอาแขนของเพื่อนข้างๆมาเขย่าไปด้วย
     

    เด็กคนนี้ไม่ยอมไปกับเขา...
     

    จินฮวานเริ่มทำหน้าเศร้าคล้ายกำลังจะร้องไห้เมื่อถูกรบเร้า แล้วทีนี้ฮันบินจะทำอย่างไรได้ ตั้งแต่เกิดมาเขาก็เคยแต่ดูแลน้องสาวตัวเอง ครั้นจะให้ดูแลเอาใจเด็กคนอื่นนี่ออกจะเป็นเรื่องยากไปหน่อยมั้ย
     

    “แม่...แม่เคยบอกว่าไม่ให้ไปกับค..คนแปลกหน้า” ตอนที่พูดอยู่นั้นหางตาก็แอบชำเลืองมองมายังร่างสูงเล็กน้อย
     

    บางทีก็เป็นเด็กดีเกินไปนะ...
     

    ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกที่เชื่อฟังพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่หน้าตาอย่างเขามันดูไม่น่าไว้ใจขนาดนั้นเชียว? แล้วนี่แม่ไม่ได้บอกหรือไงว่าจะให้เขามารับ
     

    หรือบอกแล้ว...แต่ลืม?
     

    หรือบอกแล้ว...แต่ก็ยังไม่กล้าไปกับเขาอยู่ดี?
     

    ฮันบินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะทำได้ ร่างสูงย่อตัวลงนั่งเผชิญหน้ากับเด็กอนุบาลอายุ 4 ขวบที่ยังคงก้มหน้าหลบเขางุดๆ แล้ว...เขาต้องทำยังไงต่อล่ะ?


     

    “เอ่อ... คุณแม่ของจินฮวานบอกให้พี่มารับไง จำได้มั้ย?” พยายามทำเสียงให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่มันก็ได้แค่นี้จริงๆ
     

    “พี่ฮันบิน...พี่ของฮันบยอล... คุณแม่บอกว่าให้ไปกับพี่ฮันบิน” สองมือน้อยๆเลื่อนไปจับสายสะพายกระเป๋าแล้วกำมันแน่นเหมือนกำลังใช้ความคิด
     

    “ใช่มั้ยล่ะ” ฮันบินก้มหน้าลงไปอีกนิดเพื่อให้จินฮวานหันมาสบตาด้วย
     

    “แต่...”
     

    “ที่บ้านพี่มีขนมให้กินเยอะแยะเลยนะ อยากกินอะไรล่ะ?”
     

    แผนนี้ดูเหมือนจะได้ผลเพราะจินฮวานไม่หลบตาเขาแล้ว แถมยังทำตาลุกวาวอีกต่างหากเมื่อพูดถึงของกิน เด็กยังไงก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหละนะ เอาของกินมาล่อหน่อยก็อยู่หมัดแล้ว ฮันบินกำลังชื่นชมในความฉลาดของตัวเองอยู่ภายในใจ
     

    “ไอติมฮะ จินฮวานอยากกินไอติม”
     

    “โอเค ถ้างั้นพวกเราก็กลับบ้านกันไปกินไอติมรอคุณแม่กัน” ฮันบินยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วเอื้อมมือไปคว้าร่างเล็กของฮันบยอลขึ้นมาอุ้มไว้เหมือนอย่างเคย
     

    “กลับบ้านๆ เย่ๆ” น้องสาวของเขากำมือแล้วชูขึ้นด้วยความดีใจ
     

    ร่างสูงเริ่มก้าวขาในขณะที่จินฮวานก็กำลังเดินเตาะแตะๆตามมาด้านหลัง แต่เพราะเขากลัวว่าจินฮวานจะเดินไม่ทันและพลัดหลงหายไปจึงยื่นมือเข้าไปจับกับมือเล็กๆนั้นเอาไว้ จินฮวานมองเขาเหมือนงงๆนิดหน่อยแต่ไม่นานก็หันหลับไปสนใจทางเดินข้างหน้าต่อ
     

    มือนุ่มจังเลยแฮะ... ก็มือเด็กนี่นะ...





     

     

     

     

    ระยะทางจากโรงเรียนอนุบาลจนถึงบ้านนั้นไม่ไกลนัก ใช้เวลาแค่เพียงสิบกว่านาทีก็ถึง บ้านเดี่ยวขนาดปานกลางหลังสีขาวตั้งอยู่ภายในรั้วเหล็กดัด ที่หน้าบ้านถูกประดับด้วยพืชดอกนานาพันธุ์กลายเป็นสวนขนาดย่อมที่ใช้สำหรับนั่งพักผ่อนได้
     

    ฮันบินปล่อยมือจินฮวานและวางน้องสาวของเขาลงจากนั้นจึงจัดการไขกุญแจรั้วบ้าน ต้อนเด็กอนุบาลทั้งสองเข้าไปข้างในก่อนจะปิดรั้วให้เหมือนเดิมแล้วตรงเข้าไปเปิดประตูบ้านต่อ ภายในบ้านยังคงเงียบสงบเพราะเหลือเวลาอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แม่ของเขาจะกลับมาจากที่ทำงาน
     

    เจ้าของบ้านอย่างฮันบยอลวิ่งตรงเข้าไปยังที่ประจำเพื่อวางกระเป๋าลงและกวักมือเรียกเพื่อนของตนให้ตามมาด้วย จินฮวานเดินเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆในสถานที่แปลกใหม่ ทั้งยังมองฮันบินด้วยสายตาเหมือนไม่ไว้ใจอีกครั้ง แต่ร่างสูงก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ใช่พวกหลอกเด็กไปฆ่าทิ้งอย่างที่จินฮวานกำลังคิดอย่างแน่นอน
     

    หรือจินฮวานอาจจะคิดอย่างอื่นอยู่เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน...

     

    เมื่อเวลาผ่านไป ฮันบินนั่งดูทีวีตามประสาคนไม่มีอะไรทำในขณะที่น้องสาวของเขากับเพื่อนตัวเล็กนั่นกำลังตั้งอกตั้งใจทำการบ้านกันอยู่ที่โต๊ะกาแฟ นานๆทีฮันบยอลจะหันมาขอความช่วยเหลือจากเขาเมื่อรู้สึกว่าทำไม่ได้ ในขณะที่จินฮวานนั่งนิ่งไปได้ซักพักเพราะทำเสร็จก่อนแล้ว
     

    ฮันบินรู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมาทางเขา แต่พอเขาหันไปจินฮวานก็หลบหน้าเขาซะดื้อๆ และเมื่อเขากลับมาดูทีวีต่อ จินฮวานก็หันมาจ้องเขาอีกครั้ง

              ฮันบินรับรู้ได้จากการมองด้วยหางตาของเขาเอง...

     

    เฮ้อ... สุดท้ายก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาเด็กชายตัวเล็กที่นั่งนิ่งอยู่
     

    “มีอะไรหรือเปล่าจินฮวาน?” ใช้ความพยายามอย่ามากในการควบคุมน้ำเสียงอีกครั้ง
     

    บางทีฮันบินก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องใส่ใจเด็กตรงหน้าขนาดนี้ พี่น้องกันรึก็ไม่ใช่... แต่ที่แน่ๆ หากเขาส่งเสียงกระโชกโฮกฮากเหมือนที่พูดกับเพื่อนมาใช้พูดกับเด็กคนนี้ล่ะก็... น่ากลัวว่าจินฮวานอาจจะมองเขาไม่ดีมากไปกว่านี้ก็ได้
     

    “คือ...”
     

    “ว่าไง?”
     

    “พี่ฮันบินบอกว่า...จะให้จินฮวานกินไอติม” คราวนี้ดวงตาเรียวเล็กคู่นั้นจ้องมาที่เขาตรงๆไม่มีการหลบใดๆทั้งสิ้น
     

    อา... นั่นสินะ... ไอติมนี่เอง
     

    เมื่อสัญญาอะไรไว้กับเด็ก เด็กจะไม่มีวันลืม... ข้อนี้ฮันบินจำได้ขึ้นใจเพราะเมื่อครั้งหนึ่งเขาเคยสัญญากับฮันบยอลว่าจะพาไปซื้อของเล่น และทันทีที่เขาผิดสัญญา...ก็โดนโกรธไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
     

    ว่าแต่ในตู้เย็นบ้านเขายังมีสิ่งนั้นเหลืออยู่หรือเปล่า...
     

    ร่างสูงลุกขึ้นยืนและเดินตรงไปเปิดตู้เย็น โชคดีของฮันบินที่ภายในช่องแช่แข็งยังคงมีไอศครีมหลงเหลืออยู่ประมาณเกือบครึ่งกล่อง ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร
     

    จริงๆแล้วมีมินิมาร์ทตั้งอยู่ไม่ไกลนัก แต่การจะให้ทิ้งเด็กสองคนไว้ที่บ้านนั้นก็คงไม่ดี
     

    ร่างสูงหยิบกล่องสี่เหลี่ยมออกมาจากช่องแช่แข็งก่อนจะปิดประตูตู้เย็นลงพลางหันไปคว้าเอาช้อนมาถือไว้อีกสองคัน จากนั้นฮันบินก็ออกมาจากบริเวณครัวแล้วเดินไปนั่งตรงโต๊ะกาแฟข้างหน้าทีวี เขาวางกล่องไอศกรีมลงแล้วยื่นช้อนใส่มือเล็กที่กำลังยื่นมารับ
     

    จินฮวานดูร่าเริงขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นไอศกรีมแสนหวานวางอยู่ตรงหน้า
     

    เด็กน้อยเอ๋ย... ฮันบินมองเด็กชายตัวเล็กนั่งกินของที่เขาเอามาให้อย่างเอร็ดอร่อยแล้วก็อดขำในใจไม่ได้ นี่ถ้าหากเขาแอบใส่ยานอนหลับแล้วจับไปขายเด็กคนนี้จะรู้ตัวไหมเนี่ย ถึงตอนแรกจะดูระแวงๆเขา แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ดูเป็นคนเชื่อคนง่ายเหมือนกัน ยิ่งถ้าเอาของกินมาล่อด้วยแล้ว...
     

    วันดีคืนดีถูกหลอกไปฆ่าทิ้งขึ้นมาจริงๆจะทำไง...
     

    “พี่ฮันบิน หนูก็อยากกินไอติมด้วยอะ” เสียงเล็กๆจากฮันบยอลเรียกเขา
     

    “ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอเราน่ะ”
     

    “เสร็จแล้วค่า~
     

    “เก่งมาก” พูดพลางยกมือขึ้นลูบหัวน้องสาวเบาๆด้วยความเอ็นดูแล้วยื่นช้อนอีกคันให้

     

    ไม่นานนักไอศครีมในกล่องก็ถูกเด็กๆทั้งสองคนฟาดจนเรียบ นี่ถ้าเกิดว่าพรุ่งนี้จินฮวานไม่ยอมกลับบ้านมาด้วยกันอีกเขาคงต้องบอกให้แม่ซื้อขนมตุนไว้เยอะๆซะแล้ว
     

    “กินยังไงให้มือเลอะเนี่ย ไปล้างมือไป” ร่างสูงออกคำสั่งให้กับน้องสาวของตัวเอง แล้วเด็กหญิงตัวน้อยๆก็ลุกขึ้นทำตามทันที “นายเองก็เหมือนกัน ไปล้างมือสิ”
     

    “...” จินฮวานพยักหน้ารับคำสั่งเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินตามเพื่อนไป
     

    “เดี๋ยวก่อนจินฮวาน”
     

    “ฮะ...” ร่างเล็กรีบหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเรียก
     

    ฮันบินโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆก่อนจะเลื่อนนิ้วหัวแม่มือขึ้นไปเช็ดตรงมุมปากให้กับเด็กน้อย นอกจากจะเห็นแก่ของกินแล้วยังกินเลอะเทอะอีกต่างหาก จริงๆเลย...
     

    “เอ้า เรียบร้อย”
     

    “ขอบคุณฮะ” ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่กล่าวคำนั้น แล้วจินฮวานก็เดินไปหาฮันบยอลต่อ
     

    จ..จะยิ้มทำไม เขาก็แค่ช่วยเช็ดคราบไอศครีมออกให้เท่านั้นเอง
     

    จะว่าไปนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นจินฮวานยิ้มได้อย่างเต็มปากขนาดนี้ แล้วเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าเด็กคนนี้ยิ้มแล้วดูน่ารักมาก ซึ่ง... แน่นอนว่ายังคงน่ารักน้อยกว่าน้องสาวของเขา
     

    ฮันบินจัดการเก็บกล่องที่วางอยู่บนโต๊ะไปทิ้งแล้วทำความสะอาดบริเวณนั้นอย่างเรียบร้อยก่อนจะมานั่งดูทีวีต่อพร้อมกับเด็กทั้งสองคน ซึ่งสิ่งที่เด็กๆต้องการดูนั่นก็คือการ์ตูน และจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากการ์ตูนขวัญใจเด็กๆอย่างโปโรโระ พอเปิดซีดีให้เสร็จเขาก็เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกก็ตอนที่แม่ของเขามากดกริ่งที่หน้าบ้าน
     

    ร่างสูงลุกขึ้นอย่างอิดออดแล้วเดินไปเปิดประตู รับของที่แม่ส่งให้มาถือเอาไว้ก่อนจะเอาพวกมันทั้งหมดไปวางที่เคาน์เตอร์ในครัว เฮ้อ... ง่วงจริงๆเลย
     

    “จินฮวาน จำป้าได้มั้ยจ๊ะ?” ร่างสูงเอี้ยวตัวไปมองคุณแม่ที่กำลังเดินเข้าไปอุ้มเด็กชายตัวเล็ก
     

    “จำได้ฮะ คุณป้าซื้อขนมอร่อยๆให้จินฮวานกิน” เสียงเล็กๆนั้นตอบอย่างฉะฉาน โอ้โห ต่างกับตอนที่อยู่กับเขาลิบลับเลยแฮะ
     

    “แม่คะ วันนี้หนูทำการบ้านกับจินฮวานด้วยแล้วพวกเราก็กินไอติมกัน” คราวนี้ฮันบยอลเป็นฝ่ายพูดบ้าง
     

    “เหรอจ๊ะ พี่ฮันบินเอาให้กินเหรอ”
     

    “ค่ะ”
     

    หลังจากนั้นแม่ก็วางจินฮวานลงไปบนโซฟาเหมือนเดิมเพื่อให้เด็กๆได้ดูการ์ตูนกันต่อ ฮันบินมองตามแม่ที่กำลังเดินตรงมาทางนี้ก่อนจะหยุดอยู่ตรงข้างหน้าเขา
     

    “เป็นยังไงบ้าง น้องดื้อหรือเปล่า?” เขารู้ทันทีว่าแม่กำลังถามถึงจินฮวาน
     

    “ก็ไม่นะครับ” ร่างสูงว่าพลางนึกถึงไปถึงเหตุการณ์ที่เด็กชายไม่ยอมกลับบ้านมาด้วย “แต่ท่าทางขี้กลัวใช่เล่น แม่ซื้อขนมมาเยอะสิ ผมจะได้เอาให้น้องๆกิน”
     

    “ให้น้องหรือกินเองกันแน่”
     

    “โห่ แม่อะ ก็แบ่งๆกันกินไง”
     

    “อืมๆ รู้แล้วน่า” แม่คุยกับเขาในขณะที่จัดการหยิบของในถุงออกมาเพื่อเตรียมทำอาหารไปด้วย “ตกลงว่าแม่ฝากดูแลจินฮวานได้ใช่มั้ย ลำบากอะไรหรือเปล่า”
     

    “...คิดว่าไม่หรอกมั้งครับ”
     

    “ขอบใจนะลูก ถึงน้องจะเป็นเด็กขี้อาย แต่จริงๆแล้วน้องก็น่ารักมากๆเลยล่ะ มาอยู่ที่นี่ฮันบยอลจะได้มีเพื่อนเล่นเพื่อนทำการบ้านด้วย”
     

    ฮันบินอยากจะบอกกับแม่ว่าส่วนนี้แหละที่ทำให้เขาแอบเคือง ถ้าฮันบยอลเล่นกับเจ้าเด็กนั่นจนสนิทกันมากกว่าเขาขึ้นมาจะว่ายังไง แต่ก็คง... ไม่หรอกมั้ง ยังไงซะเขาก็เป็นพี่ชาย... น้องสาวต้องรักพี่ชายมากที่สุดสิ
     

    “แล้วนี่ผมต้องพาน้องมาที่บ้านจนถึงเมื่อไหร่”
     

    “ก็คงเรื่อยๆแหละจ้ะ งานของเพื่อนแม่ยังไม่เข้าที่เข้าทางเพราะว่าเพิ่งย้ายมา บ้านก็อยู่ไม่ไกลจากเราหรอก เลยไปแค่สามซอยนี่เอง” ตอนที่บอกกับเขา แม่ก็หันไปหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวมเรียบร้อยแล้วเริ่มลงมือล้างผัก
     

    “แล้ว... ที่บ้านเค้าไม่มีคนเลยเหรอครับ”
     

    “อืม... คือว่าเพื่อนแม่เค้าแยกทางกับสามี ก็เลย...”
     

    “อ่า ครับ ผมเข้าใจแล้ว”


     

     

    ร่างสูงเดินกลับมานั่งแทรกกลางระหว่างเด็กทั้งสองที่โซฟา ฮันบยอลหันมามองการกระทำของพี่ชายตนเองอย่างไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะกลับไปสนใจเจ้านกแพนกวิ้นสวมแว่นในทีวีต่อ
     

    ฮันบินนั่งดูการ์ตูนกับเด็กๆไปเรื่อย แต่ไม่นานนักสายตาของเขากลับเปลี่ยนตำแหน่งไปจดจ้องอยู่ที่เด็กชายร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเสียอย่างนั้น โชคดีที่จินฮวานกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนใจเขา ทั้งๆที่เพิ่งจะอายุ 4 ขวบ... แต่กลับต้องมาเจอกับปัญหาอย่างที่เด็กทั่วไปไม่ควรจะเจอ... เด็กผู้ชายควรได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อ... ไม่สิ.. ทั้งพ่อและแม่นั่นน่าดีกว่า
     

    เด็กอายุเพียงแค่เท่านี้จะรู้สึกยังไงนะ เมื่อต้องห่างไกลจากคนเป็นพ่อ... ถ้าหาก... ถ้าหากว่าเขาเป็นอย่างจินฮวาน เขาจะยังสามารถยิ้มและหัวเราะได้เท่านี้หรือเปล่า?
     

    เดี๋ยวก่อน... นี่เขากำลังเห็นใจจินฮวานอยู่อย่างนั้นสินะ
     

    เอาเถอะ... มันก็แค่ความเห็นใจ ถึงจะรู้สึกเอ็นดูและถูกชะตาขึ้นมาหน่อยๆ แต่ยังไงซะเขาก็ยังไม่อยากให้เด็กคนนี้เข้าใกล้กับน้องสาวของเขาอยู่ดี
     

    คิดพลางหันหน้ากลับไปมองฮันบยอลที่นั่งอยู่อีกด้านพลางเอื้อมมือไปโอบใหล่เด็กหญิงเอาไว้

     

     

     

    อ๊อด อ๊อด อ๊อด...
     

    เสียงกริ่งที่ดังมาจากหน้าบ้านทำให้ฮันบินต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูแทนแม่ของเขาที่กำลังทำอาหารอยู่
     

    เบื้องหน้าของฮันบินในตอนนี้คือหญิงที่ดูมีอายุเล็กน้อย ซึ่งฮันบินก็คงเดาได้ไม่ยากว่าเป็นใคร หลังจากเชื้อเชิญให้เข้ามาในบ้าน ผู้หญิงหรือคุณน้าคนนั้นก็เดินเข้ามาทักทายกับแม่ของเขา ทั้งสองคนพากันมาหาเด็กๆที่โซฟา และจินฮวานก็ดูดีใจมากที่เห็นเธอ
     

    แน่นอนว่าเธอเป็นแม่ของจินฮวานที่มารับลูกชายของตนกลับบ้านนั่งเอง
     

    “น้าขอบใจมากนะฮันบิน ไม่รู้ว่ารบกวนเกินไปหรือเปล่า”
     

    “ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้ลำบากอะไรเลย” เขาตอบไปตามความจริง เพราะตลอดช่วงเย็นที่อยู่ด้วยกัน จินฮวานก็ไม่ดื้อหรืองอแงกับเขาเลยซักนิด
     

    แล้วถ้าเกิดวันอื่นงอแงล่ะ... อา... ฮันบินลืมคิดไปเลย
     

    “ถ้าอย่างนั้นน้าก็คงต้องของฝากจินฮวานไว้กับฮันบินแล้วล่ะ” เธอเอ่ยพร้อมกับก้มมองลูกชายตัวเองที่นั่งอยู่บนตัก “ต่อไปนี้ลูกต้องเชื่อฟังพี่ฮันบิน อย่างดื้อกับพี่เค้านะ”
     

    “ฮะ” ร่างเล็กตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
     

    ตอนแรกแม่ของเขาชวนให้แม่ลูกทั้งคู่อยู่กินข้าวด้วยกัน แต่คุณน้ามีงานที่ต้องทำและอยากส่งจินฮวานเข้านอนไวๆจึงขอตัวกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าจะมากินด้วยกันแน่ๆ
     

    ดูๆไปแล้ว คุณน้าคนนั้นก็เป็นคนน่ารักและใจดี เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จินฮวานจะเป็นเด็กเรียบร้อย
     

    จากนี้ไป ก็คงต้องดูแลเจ้าเด็กนั่นไปตลอดสินะ
     

    ที่ว่าดูแลนี่คือดูแลให้ห่างจากน้องสาวของเขาต่างหาก ฮันบินบอกกับตัวเองอย่างนั้น



    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ในที่สุดตอนแรกก็ออกมาได้ซักที 555555
    ยินดีรับทุกคำติชมนะคะ แล้วก็ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ด้วย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ><







     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×