ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] BE YOUR ANGEL [ChanBaek]

    ลำดับตอนที่ #2 : || Be Your Angel || CHAPTER 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 48
      0
      13 ส.ค. 56

    || CHAPTER 1 ||

     

    “นี่ลู่หาน ไอ้เด็กยองจุนยังตามตื้อนายอยู่อีกรึเปล่า?

    “ก็เหมือนเดิมแหละ แต่ไม่ต้องห่วง อยากแกล้งอะไรดูหน่อย” ลู่หานตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่น ไม่ต่างจากรอยยิ้มของผมเท่าไหร่นัก แต่ผมว่ามันน่ากลัวกว่ารอยยิ้มของผมซะอีก

    คุณอ่านไม่ผิดหรอก ถึงลู่ห่านจะดูตรงข้ามกับผม แต่จริงๆแล้วเขาไม่ใช่คนอ่อนต่อโลก ลู่หานรู้วิธีรับมือและตอบกลับคนอื่นให้กระอักเลือดได้เลยล่ะ ผมกับลู่หานก็มีสิ่งที่เหมือนกันตรงนี้แหละ เราทั้งคู่ร้ายไม่ต่างกันหรอก หึๆ

    “คยองซู ทางนี้”ลู่หานโบกมือเรียกคยองซูที่เดินเข้าคณะมาอย่างอารมณ์ดี

    ตอนนี้ผมกับลู่หานรอคยองซูกับซูโฮอยู่ตรงที่นั่งที่คณะครับ ผมกับลู่หานขับรถมาเรียนเอง แต่อีกสองคนมีคนขับรถที่บ้านมาส่ง คุณหนูมากครับ รวยมากด้วยครับ

    “เป็นไง ทำไมอารมณ์ดีขนาดนี้เนี่ย?”ผมถามคยองซูออกไป วันนี้อารมณ์ดีผิดปกติแฮะ

    “ก็แค่เมื่อวานประมูลตุ๊กตาชนะน่ะ”

     “หมดไปเท่าไหร่ล่ะ?”  ผมถามอย่างรู้ทัน ระดับคุณหนูคยองซูไม่ใช่แค่หลักพันหรอก เชื่อสิ

    “ก็..24000 แหะๆ ” คยองซูตอบอ้อมแอ้ม

    “ห๊ะ แค่ตุ๊กตาเนี่ยนะ” ลู่หานถามอย่างไม่เชื่อ

    “โถ่ลู่หาน มันเป็นลิมิเต็ดเลยนะ ราคาจริงก็ประมาณนี้แหละ”

    “”แล้วราคาจริงมันเท่าไหร่ผมถามออกไปทั้งที่พอจะเดาได้

    20000น่ะ แต่ตัวนี้คือตัวสุดท้ายนะ ต้องโทษคนที่แย่งฉันนู้นเลย คนอื่นเค้ายอมหมดแล้ว เหลือแต่มันที่สู้อยู่ จนสูงถึงราคานี้นี่แหละ พวกนายก็รู้ว่าฉันคยองซูไม่ชอบแพ้ใคร”

    “เฮ้อ เอาเถอะ ก็คิดดูละกันนะว่าพ่อแม่นายทำงานหนักแค่ไหนเพื่อให้ได้ 24000 ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูไม่เยอะสำหรับนาย แต่แม่บ้านทำความสะอาดคณะเรา เงินเดือนยังไม่ถึงหมื่นเลย ทำงานทั้งเดือน วันละ 12 ชั่วโมง ก็แค่นั้น”

    “นี่ลู่หาน อย่าพูดให้รู้สึกผิดได้ไหมเล่า ซื้อมาแล้ว ทำอะไรไม่ได้หรอก”

    "ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่พูดเฉยๆ"

    นั่นไงล่ะ เจอลู่หานเข้าไป บอกแล้วว่าผมน่ะใจดีกว่าลู่หานเยอะ

    “แบคฮยอน ช่วยหน่อยสิ”

    “ไม่ได้อยากซ้ำเติมหรอกนะคยองซู ลู่หานพูดถูกแล้วล่ะ บางที 24000 แลกกับตุ๊กตาหนึ่งตัวของนาย อาจจะช่วยให้เด็กยากไร้ ได้เรียนต่อไปอีก 1 ปี” ผมไม่อยากจะซ้ำเติมหรอกนะ แต่ว่าก็อดไม่ได้จริงๆ”

    คยองซูทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเจอคนที่คิดว่าน่าจะเข้าข้างตัวเองบ้าง

    “ซูโฮมาพอดีเลย”

    “ซูโฮอ่า ช่วยคยองซูหน่อยนะ สองคนนี้รุมว่าคยองซูไม่หยุดเลย” คยองซูใช้ชื่อแทนตัวเองเพื่อเรียกความสงสารจากซูโฮ

    “เรื่องอะไรเหรอ”

    “คยองซูเพื่อนรักซูโฮน่ะ ไปประมูลตุ๊กตา หมดไป 24000 มันน่าโดนด่าไหมล่ะ”

    “แหะๆ คยองซู ขอโทษทีนะ เราคช่วงไม่ได้” ซูโฮยิ้มเป็นกำลังใจ เพราะก็สมควรโดนจริงๆ

    “จำไว้เลยนะ ทุกคนเลย เรื่องเล็กๆแค่นี้ ทำไมต้องบ่นกันด้วย” คยองซูเบะปากอย่างงอนๆ

    ซูโฮรีบเข้าไปปลอบ แต่ผมกับลู่หานได้แต่ส่ายหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเงียบเท่านั้นแหละ

    ไปที่ห้องเถอะ รีบไปจองที่กัน ต้องจองให้กลุ่มชานยอลด้วย ซูโฮเร่งให้พวกผมรีบลุก

    ผมที่กำลังจะลุก ต้องสะดุดหูกับชื่อที่หลุดออกมาเมื่อกี้ ชานยอลเหรอ

    “แน่ะ ชานยอลเหรอ ไปคุยกันตอนไหนล่ะ” คยองซูรีบแซวขึ้นมา

    “คุยกันเมื่อคืนหรือเมื่อเช้าล่ะ” ลู่ห่านช่วยแซวด้วยอีกแรง

    โถ่ ก็เมื่อวานชานยอลโทรมาถามการบ้านน่ะ ก็เลยขอช่วนให้จองที่ก็แค่นั้น ซูโฮตอบพร้อมยิ้มอายๆ

    “เราควรเขียนนิยายป่ะ เรื่องติวนักรักซะเลย ดีไหม นางเองเป็นซูโฮ ปพะเอกเป็นชานยอลW

    “บ้าเหรอ”

    เรื่องนิยาย ผมเป็นคนแซวเองแหละ  เห็นผมวีนๆเหวี่ยง แต่จริงๆผมค่อนข้างเพ้อฝันเลยนะ ผมชอบอ่านนิยาย ผมยังอยากลองเขียนนิยายเองดูเลย ผมเลยแซวไปแบบนั้น แต่จริงๆผมก็รู้สึกแปลกๆอยู่หน่อย โทรคุยกันเหรอ ปกติที่เพื่อนเค้าทำกันรึเปล่า ทำไมต้องโทรหาซูโฮล่ะ เพื่อนในกลุ่มก็มีนี่ แต่จะแปลกอะไรถ้าจะโทรหาซูโฮ ทุกอย่างตีกันยุ่งไปหมดในหัวผม

    “เดี๋ยวนี้เขินบ่อยนะซูโฮ แบบนี้มีซัมติ้งอะไรหรือเปล่า” ผมเอ่ยแซวต่อ แต่จริงๆก็อยากรู้

    “ฮื่อ อย่าแกล้งสิ ก็ไม่มีอะไรหรอก” ซูโฮที่ยิ้มแก้มด้วยความเขินอาย

    ผมควรจะเชื่อคำพูดซูโฮ หรือจะเชื่อท่าทางเขินอายนั่นดีนะ แต่จริงๆแล้วยังไงผมก็ไม่เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว

    ผมกับเพื่อนๆเดินมาถึงที่ห้องเรียนก็รีบจองที่นั่งทันที ที่จริงถ้าเป็นวิชาคณะปกติก็ไม่ต้องจองหรอก แต่พวกผมคือนักศึกษาปีสองที่ยังมีวิชาเรียนรวมกับต่างคณะ ต้องรีบมาจองที่นั่งก่อนที่จะเกิดสงคารมแย่งที่นั่ง ถ้าอาจารย์ไม่ขู่เช็คชื่อ เชื่อผมเถอะว่าห้องต้องโล่งแน่ๆ ผมลืมบอกรึเปล่าว่าพวกผมเรียนคณะนิเทศศาสตร์ ปีสองครับ ^^

    “นั่นไงกลุ่มชานยอลมาแล้ว” แค่พวกนั้นก้าวเข้าห้องก็เต็มไปด้วยเสียงซุบซิบที่เริ่มดังขึ้น พวกนี้ยังกับ f4 เลยนะ ชานยอล จงอิน เซฮุน และเทา สี่คนนี้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยม และก็ตามมมาเรียนด้วยกันครบทั้งสี่คนด้วย เหมือนกลุ่มของผมเลยล่ะ แต่ละคนก็น่าตาใช่ย่อยที่ไหน พวกนี้มีแฟนคลับด้วยนะ ผมได้ยินพวกผู้หญิงพูดถึงพวกนี้บ่อยๆ

    “นี่ๆ ดูเซฮุนสิ กินชาไข่มุกอีกแล้ว วันหลังจะซื้อไปให้เซฮุนบ้างดีกว่า”

    “โอ๊ยแค่เห็นจงอินก็จะเป็นลม นี่ขนาดหน้าง่วงๆแบบนั้นยังน่ารักเลยอ่ะ”

    “เทาเท่ห์มาก ดูต่างหูที่ใส่สิ ทำไมถึงได้ดูดีอย่างนั้น”

    “ชานยอลยิ้มแล้วเหมือนโลกก็สดใสเลยล่ะ คนอะไรน่ารักชะมัด”

    สารพัดคำชมที่เข้าหูผมให้ได้ยินบ่อยๆ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันก็เรื่องจริง กลุ่มหมอนี่ ฐานะทางบ้านแต่ละคนก็รวยใช่ย่อย การเรียนถึงแม้ว่าจะไม่โดดเด่น แต่ก็ดีทีเดียวล่ะ ให้ตาย น่าหมั่นไส้เหอะ!

    “เซฮุน เทา ทางนี้ๆ” คยองซูโบกมือเรียก

    “หวัดดี ขอบคุณมากนะที่จองที่ให้” ชานยอลทักทายทุกคนและประโยคหลังดูเหมือนว่าจะพูดกับซูโฮ

    “นี่จงอิน ง่วงมาก็ไปนอนป่ะ” คยองซูแขวะจงอินนี่ดูหน้าตาง่วงตั้งแต่ยังไม่เริ่มคาบ

    “เงียบไปเถอะคยองซู สมมติว่านายง่วงก็ไม่มีใครรู้หรอก ตาโตขนาดนั้นน่ะ” จงอินแขวะคยองซูกลับ

    “นี่หมาแบค เมื่อวานแม่บอกว่าแม่รู้จักกับแม่นายด้วยนะ เห็นว่าเป็นรุ่นน้องที่มหาลัย”

    “จริงเหรอ ให้ตายเถอะ แม่นายก็ออกจะสวยนิสัยดี มีลูกปากเสียเรียกคนอื่นเป็นหมาแบบนี้คงลำบากเนอะ” ผมขอกัดชานยอลหน่อยเหอะ ทีคนอื่นนะเรียกชื่อธรรมดา แต่กับผมดันเรียกหมาแบค ชื่อผมก็มีทำไมไม่เรียกดีๆ เพราะผมไม่ใช่นางฟ้าเหมือนคนอื่นใช่ไหมล่ะ ตอกย้ำกันเข้าไปเถอะ

    “โหว แซวเล่นเอง อย่าเครียกนะ โอ๋ๆ ดีกันๆ ” จู่ๆหมดนี่ก็เข้ามาโอบพร้อมยิ้นนิ้วก้อยมาให้ผมอย่างปัญญาอ่อน

    “เฮ้ย เล่นบ้าอะไรเนี่ย ปัญญาอ่อนป่ะ” ผมรีบโวยกลบเกลื่อน จริงๆผมเขินครับ

    “อะไรเล่า โกรธไม่ใช่เหรอ มาดีกันๆ” ชานยอลยังเล่นไม่เลิก

    “สองคนนี้ชักจะดูเกินเพื่อนมากขึ้นทุกวันเลยนะ” ลู่หานแซวผมยิ้มๆ ให้ตายผมล่ะเกลียดลู่หานจริงๆ สายตาลู่หานบ่งบอกว่าเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง

    “อะไรเล่า ไม่มีอะไรซักหน่อย ให้เป็นแฟนกับไอ้นี่ ขอโสดตลอดชีวิตดีกว่า” ผมรีบโวย

    “นี่ เป็นแฟนกับผมไม่ดีเหรอไงครับ สูงหล่อแบบนี้ปรับปรุงพันธุกรรมของนายได้เยอะเลยนะหมาแบค”

    “ไอ้ชานยอล!!

    “เรียกทำไมครับที่รัก”

    “ไอ้ชานยอลลลลลลล!! ทุกคนต่างหัวเราะที่ผมโวยวาย มันน่าตลกหรอเนี่ย

    “พอเถอะชานยอล เดี๋ยวแบคโกรธนะ” ซูโฮรีบพูดขัดก่อนเกิดสงคราม

    “ไม่เล่นแล้วก็ได้ เพราะซูโฮขอไว้หรอกนะ” ชานยอลปล่อยมือที่โอบไหล่ผมไว้

    เหอะ ที่แท้ก็ยอมเพราะซูโฮใช่ไหม อย่าให้ได้เอาคืนนะไอ้ชานยอล

    “วันนี้อาจารย์จะแจ้งกิจกรรมของวิชานี้นะ เหมือนทุกปีที่วิชานี้จะจัดทัวร์ไปทัศนศึกษาที่ต่างจังหวัดเป็นเวลา 4วัน3คืน โดยการไปทัศนศึกษาครั้งนี้จะมีกิจกรรมให้ทำ ซึ่งถือเป็นคะแนนแทนในส่วนของรายงาน แต่ใครจะไม่ไปก็ได้ ให้ทำรายงานมาแทน รายละเอียดโครงการนี้ อาจารย์ติดบอร์ดไว้แล้ว ไปดูกันด้วยนะ กำหนดการคืออาทิตย์หน้า” อาจารย์พูดก่อนเลิกคาส

    “ทุกคน ไปกันนะ ไปเที่ยวกัน” เทาพูดชวนทุกคน

    “พวกแกไปจะไปใช่ไหม?” เทาถามขึ้นอีกครั้งพร้อมมองตาเพื่อนในกลุ่มเรียงตัว

    “เออ ไปกันหมดนี่แหละ” จงอินเป็นคนตอบขึ้นมา

    “นายได้ฟังด้วยเหรอ นึกว่าหลับทั้งคาบซะอีก” นั่นไงคยองซูหาเรื่องจงอินอีกแล้ว

    “คุณหนูคยองซูครับ ไม่พูดจะตายมั้ยครับ” คุณหนูคยองซูทำท่าฮึดฮัด

    ผมเห็นแบบนั้นแล้วต้องหันกลับมามองตากับลู่หาน พวกผมสองคนเร็วเรื่องแบบนี้อยู่แล้วครับ ผมว่าสองคนนี้ต้องได้กันซักวันนี่แหละ

    ผมเห็นเทากระซิบอะไรซักอย่างกับชานยอลก่อนที่ชานยอลจะหันมาถาม

    “ซูโฮก็ไปใช่ไหม”

    “อื้มไปสิ ถ้าทุกคนไป เราก็ไป” ได้ยินคำตอบแบบนั้นชานยอลก็หับไปแทคมือกับซูโฮ รู้หรอกนะว่าหมอนั่นคงจะดีใจที่ซูโฮไปล่ะสิ

    “เที่ยงแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ ไปกินด้วยกันไหมลู่หาน” จู่เซฮุนก็ถามขึ้น

    “ไปสิๆ” ลู่หานตอบด้วยรอยยิ้มสดใสที่ผิดปกติสำหรับผม  ผมว่ามีอะไรแปลกๆนะ แต่ลู่หานเป็นคนค่อนข้างเข้าถึงยากครับ ถึงจะดูน่ารักแต่ไม่ไร้เดียงสา เข้ากับคนง่าย แต่ลู่หานเป็นคนเงียบ ถ้าเรื่องส่วนตัวก็คือส่วนตัวจริงๆ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีทางรู้ได้เลยล่ะ และเรื่องเซฮุนกับลู่หานก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ลู่หานไม่เคยพูดถึงเลย ลู่หานบอกผมแค่ว่าไม่มีอะไร แต่ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เซนส์ผมมันบอกแบบนั้น

    ผมเคยถามลู่หานเรื่องนี้ แต่ก็ต้องจอดทันทีที่ลู่หานถามผมกลับว่า แล้วชานยอลล่ะ คุณคิดถูกครับ ลู่หานรู้ รู้ว่าผมชอบหมอนั่น ผมก็ไม่ได้อยากจะชอบหรอกนะ...

    "เห้ย ระวัง!!"
    เอี๊ยดดด!!
    "นี่นายๆ เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม?"

    ตอนที่เจอกันครั้งแรก ผมเกือบจะถูกรถชน แต่ชานยอลเป็นคนดึงผมเข้าข้างทาง ผมยังจับแววตาคู่นั้นตอนที่ผมอยู่ในอ้อมกอดตอนที่เขากระชากผมหลบรถ ผมยังจำได้ว่าตอนนั้นเหมือนโลกหยุดหมุนเลยล่ะ ผมหลับตาปี๋ตอนเห็นรถพุ่งเข้ามา ผมคิดว่าผมจะตายซะแล้ว แต่แล้วก็มีคนมาช่วยผมไว้ คำพูดที่คอยปลอบใจ น้ำเสียงที่เป็นห่วงหลังจากช่วยผมไว้ยังติดหูผมเสมอ นั่นแหละครับเป็นจุดเริ่มต้นของความปลื้มของผม ชานยอลน่ะเหมือนฮีโร่สำหรับผมเลย และตอนนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่กลุ่มผมและกลุ่มชานยอลรู้จักกัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับลู่หานและเซฮุน ที่เซฮุนดูตกใจมาดที่เห็นลู่หาน ผมคิดว่าลู่หานคงตกใจเหมือนกัน แต่เพราะเป็นลู่หาน ก็เลยกลับไปเป็นปกติในเสี้ยววินาที

    ชานยอลสำหรับผมจะเรียกว่ารักแรกผมคงไม่ได้หรอก ตอนแรกผมแค่ปลื้ม จนเปลี่ยนมาเป็นความชอบ ไม่รู้ว่ามาได้ยังไงเหมือนกัน ทั้งๆที่หมอนี่โคตรจะกวนประสาทผม สองมาตรฐานกับผมตลอด ทีพูดกับคนอื่นก็พูดดีๆ แต่พอพูดกับผมก็จิดดกัดบ้าง เล่นหัวบ้าง อะไรกับผมนักหนาว่ะครับ

    ตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่หลังๆผมก็น้อยใจเหมือนกันนะ ผมรู้ว่าผมไม่ได้ดีเหมือนคนอื่นๆ ไม่ได้น่ารักเหมือนลู่หาน ไม่ได้เป็นคุณหนูที่อาจจะขี้โวยวายแต่ก็น่ารักอยู่ดีอย่างคยองซู ไม่ได้น่ารักเรียบร้อย เพียบพร้อมอย่างซูโฮ แต่ผมก็คนเหมือนกัน ถึงนิสัยผมไม่ได้ดีมาก แต่ผมก็ไม่ได้เลวนะครับ ถึงคนอื่นจะมองว่าผมเป็นตัวร้าย แต่ผมก็ไม่เคยคิดร้ายกับใครนะ แล้วทำไมชานยอลถึงไม่ปฏิบัติกับผมเหมือนเพื่อนๆบ้าง ผมก็ได้แต่น้อยใจเงียบๆครับ ผมรู้ตัวเองดี ไม่มีอะไรที่ผมจะอยู่ในสายตาชานยอลได้หรอกครับ...

    +++++++++++++++++++++++
    เป็นฟิคที่อ่านไม่รู้เรื่องที่สุดเลยใช่ไหม 555
    ปกติไรท์เตอร์เป็นคนพูดอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง ให้มาเขียนแบบนี้มันจะรอดมั้ย 555

    @silence_ln #Beurangel
     


    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×