สีหน้าอิดโรยจากร่างสูงที่ออกมาจากอาคารเรียนหลังจากขลุกตัวอยู่ในห้องแล็บทดลองม
าทั้งวัน เขาชะงักฝีเท้าอย่างแปลกใจเมื่อเห็นใครบางคนยืนดักรอเขาอยู่ตรงม้านั่งข้างสนาม
ฟุตบอลของมหาลัยนั้น ใบหน้าสดใสยกมือขึ้นโบกทักทายเขา
“ จูฮยอกอ่า ... อันยองง “
“ เธอ ... มาได้งัยเหรอ .. “
“ คุณไม่รู้สินะ ... นี่ก็ใกล้จะสิ้นเดือนแล้ว คุณยังใช้ชั่วโมงเดทกับฉันไม่ครบเลย “
“ .................... “
“ เพราะว่ามันจะต้องถูกตัดทิ้ง ไม่มีการยกยอดใดๆทั้งสิ้น “
“ แล้ว ? “
“ ฉันจึงไม่อยากเอาเปรียบคุณไง “
ร้านปิ้งย่างชื่อดังในยามค่ำคืนนั้นแน่นขนัดไปด้วยหนุ่มสาวที่พากันออกมาดินเนอร์มื้อค่ำ
อย่างง่ายๆและบรรยากาศสบายๆ ..
นัมจูฮยอกที่นิ่งเงียบมาตั้งแต่ได้พบหน้าเด็กสาวนั้น..เขานั่งจ้องเธอที่นั่งก้มหน้าก้มตากิน
อาหาร และในที่สุดเด็กหนุ่มก็เป็นฝ่ายที่ทนไม่ไหวและเอ่ยขึ้น
“ รู้สึกผิดล่ะสิ .. ที่คิดจะหนีผมน่ะ “
ซอฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากอาหารตรงหน้าและเลิกคิ้วถามเขา “ หนีหรือคะ .. หนีอะไร ? “
“ งั้นทำไม .. ถึงไม่รับโทรศัพท์ล่ะ “
“ ฉันยุ่งเรื่องส่วนตัวอยู่น่ะสิคะ “
“ เรื่องส่วนตัวอะไร .. หรือว่า ... เธอ .. รับจ๊อบพิเศษกับผู้ว่าจ้างรายอื่นด้วยเหรอครับ ? “
เด็กสาวหลุดหัวเราะออกมาทั้งที่คนตรงหน้ายังคงนิ่งขรึมอยู่เหมือนเดิม
“ ทำไมล่ะ .. ไม่ได้หรือคะ “
นัมจูฮยอกชะงักแทบกลืนอาหารไม่ลงคอ “ตอนที่ผมโทรไป เธอรีบพูดรีบวาง..ไหนบอกว่า
จะโทรกลับแต่ทำไมไม่โทรล่ะ “
“ ไม่ต้องห่วงนะคะ .. ถึงฉันรับงานอื่น แต่จะไม่เบี้ยวสัญญาหนึ่งสัปดาห์ที่เหลือกับคุณหรอก “
เด็กหนุ่มวางช้อนในมือลงพลางกอดอกเอียงคอมองเธอ “เห็นผมเป็นอะไรครับ คิดว่าชดเชย
เวลา ชดใช้วันก็พอแล้วใช่ไหม “
“ ................. “
ซอฮยอนมองเขาอย่างพยายามทำความเข้าใจแม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
“ เห็นผมไม่บ่น เธอเลยละเลยผมขนาดนี้ใช่ไหม ... รับค่าจ้างไปแล้ว .. ก็ทำงานดีๆสิครับ “
ซอฮยอนสะอึกวางช้อนในมือลงด้วยมือไม้ที่อ่อนแรง “ งั้นคุณ .. จะต้องให้ฉันทำยังไงคะ “
สีหน้าที่เริ่มบึ้งตึงของเด็กสาวทำให้เขานึกรู้ว่าเธอเริ่มจะโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว ...
“ จะให้ทำอะไรจะได้คุ้มค่าเงิน ให้ไปจ่ายกับข้าว หรือทำความสะอาดห้องดี หรือให้ไปร้านซักรีด “
“ .................... “
“ หรือถ้ายังไม่ใช่ .. ต้องให้กอดคุณไหมคะ .. สัมผัสเนื้อตัวชาร์จเพิ่ม 20 เหรียญ คุณจำได้ใช่ไหม “
นัมจูฮยอกยืดตัวขึ้นและควักเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ของเขาและวางลงบนโต๊ะทันที
“ เอาสิฮะ..ผมจะได้อะไรบ้าง่ล่ะ “
ซอฮยอนลุกขึ้นและเดินไปนั่งข้างเขาพร้อมสวมกอดเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียวและผละออกกลับไปนั่งที่เดิม
เด็กหนุ่มนิ่งอึ้งไป ก่อนจะแค่นหัวเราะออกมา
“ อะไรกัน .. แค่นี้เองหรือ? หึหึ .. ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ถึง 3 วินาทีเอาไป 20 เหรียญแล้วหรือ ปล้นกันชัดๆเลย “
“ .................. “
“ ไม่กล้าหรือฮะ ... ตกลง ไม่ใช่มืออาชีพใช่ไหม “ ครั้งนี้เขาล้วงควักแบงค์ออกมาวางบน
โต๊ะจนหมดทั้งกระเป๋า
“ ทำให้ดีกว่าเดิมนะครับ “
“ เลิกเล่นได้แล้วค่ะ .. ฉันไม่สนุกเลย “
“ ไม่สนุกก็ต้องทำ จะแกล้งทำหรืออะไรก็ตาม คุณเป็นแฟนรับจ้าง ผมให้ชาร์จพิเศษสามเท่าแล้วไม่ใช่หรือ “
เขาสะดุ้งสุดตัวเมื่อเด็กสาวกระแทกแก้วเครื่องดื่มและลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะเข้ามาจับใบหน้า
ของเขาและประทับจูบลงไปท่ามกลางผู้คนภายในร้านที่ชี้ชวนกันดูอย่างชอบอกชอบใจ
ร่างบางผละออกด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงและฉวยแบงค์บนโต๊ะขึ้นชูต่อหน้าเด็กหนุ่มที่ยังตะลึงตาค้างอยู่นั้น
“ คุณนัมจูฮยอก ... สัญญาของเราหมดอายุก่อนกำหนด มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ... ขอบคุณสำหรับค่าจ้าง ลาก่อน “
“ ................... “
“ ทอร์นาโด พายุทอร์นาโดวว !! “
มาร์คและเจบีมองตามทิชชู่เปียกบินข้ามหัวพวกเขาไปติดอยู่ที่กระจกห้อง ต่างพร้อมใจกัน
ส่ายหัวไปมามองคนที่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากสลับกับฟุบลงไปกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มมึนเมาเต็มพิกัดอยู่นั้น
“ อ๊าาา มันเปียกเกินไปโว้ยย ! .. เอาหม่ายยย “
ชานยอลรินเบียร์ลงแก้วและปิดปากแก้วด้วยทิชชู่ ก่อนจะจับมันเขย่าจนกระเด็นเลอะเทอะ
โต๊ะเดือดร้อนหนุ่มมาร์คต้องค่อยๆตามล้างตามเช็ดอย่างเซ็งๆ
“ ฟิ้ววว เยี่ยยม!! “
ทิชชู่เปียกบินไปแปะไว้ที่กระจกอีกครั้ง เจบีถอนหายใจหนักๆ พลางเดินตามไปใช้ผ้าเช็ดอย่างอดทน
“ พอเหอะ ไอ้ยอล ลากพวกกูมาเนี่ย มีอะไรจะพูดไม่ใช่เหรองัย แต่ดูท่ามึงจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ “
“ ครายยพูดไม่รู้เรื่องวะ ถอนคำพูด ! “
“ เออๆๆๆ กูเปลี่ยนให้ ... ดูท่า พวกกูจะฟังมึงไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ พอใจยัง?! “
“ พวกมึงดื่มก่อน ถ้าไม่ดื่มล่ะก็ กูไม่บอกหรอก คึคึคึ “ ชานยอลตบมือชอบอกชอบใจเป็นแมวน้ำ
มาร์คเบนหน้าหนีพลางลุกขึ้น “ บี ... มึงรับผิดชอบมันด้วยละกัน กูไม่ไหวละ เหนื่อยชิบเป๋งยังต้องมานั่งรองรับไอ้เปรตนี่ “
“ เฮ้ยมึง เพื่อนกันน่ะ ... มันจะเปรตบ้าง คนบ้าง ก็ทนๆกันไปเหอะวะ “
“ พวกมึงรู้มั้ยวะ ... ยัยเบื๊อกนั่นน่ะ ... อยากได้อย่างอื่นนอกจากความรัก “
“ ก็แหงล่ะ .. ผู้หญิงที่ไหนอยากได้ความรักอย่างเดียววะไอ้ยอล .. ยิ่งจากเอ็งแล้วด้วย .. จะได้มาไม่ได้มา มีค่าเท่ากัน “
“ พวกมึงรู้มั้ย .. ซอ จู ฮยอน ไม่ได้รักไอ้หมอนั่น แต่รักเงินของเขา ! เธออยากเป็น
ซินเดอเรลล่า ชิส์!!! “
“ ย๊า มึงน่ากลัวจริงๆ ไอ้ยอล กลับบ้านนอนเหอะ “
“ซินเดอเรลล่าเหยียบย่ำหัวใจของกู ... กูเจ็บปวดมาก .. ช้ำใน และช้ำใจที่สุด “
เมื่อปล่อยให้ชานยอลพร่ำรำพันจนหนำใจและสลบไสลไปแล้ว มาร์คและเจบีก็จัดการหิ้ว
ปีกเพื่อนตัวแสบไปฟื้นตัวที่ห้องของเจบีในเวลาต่อมา ... หากแต่ว่ากลางดึกในคืนเดียวกัน ...
“ เฮ้ยย !! มึง ไอ้ยอลหาย “
มาร์คงัวเงียตื่นขึ้นมารับโทรศัพท์และกรอกเสียงอย่างหงุดหงิดแกมอ่อนเปลี้ย
“ ..มึงดูดีๆ ดิ๊ อ้วกอยู่ในส้วมหรือเปล่า? “
“ ไม่มี กูดูทั่วแล้ว ... งัยดีวะ แจ้งตำรวจไว้ก่อนดีมะ เผื่อมันไปทำอะไรแผลงๆ “
“ เอาดิ่ แจ้งพ่อมันงัย ตำรวจชั้นใหญ่เลย ให้เตรียมกำลังคนกวาดล้างไอ้ยอลซะ “
“ โอ้ยย มึง หงุดหงิดก็ไปนอนต่อไป พูดจากวนตีนอยู่ได้ “
“ เออ กูเหนื่อยอ่ะ .. มึงดิ้นไปก่อนนะ กูขอตัว “
“ เออๆ เดี๋ยวกูลองโทรหายองจีดูก่อน โธ่เว้ย ทำไมกูต้องลากมันมาบ้านด้วยวะ ซวยเลย “
ก๊อก !!! ก๊อก !!! ก๊อกก !!!
ซอฮยอนสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกและจ้องไปที่ประตูห้องเขม็งอย่างตื่นตกใจแต่ไม่กล้าร้องถามออกไป จนกระทั่ง ..
“ ย๊า ... ซินเดอเรลล่าาาาา มาเปิดประตูหน่อยย “
น้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นหูนั้นทำให้เด็กสาวขมวดคิ้วและขยับลุกเดินมาเอาหูแนบประตูฟังให้
ชัดเจนโดยไม่ลืมที่จะหยิบเอาด้ามไม้กวาดถือไว้อย่างป้องกันตัวตามสัญชาติญาณ
“ นะ .. นั่นใครคะ “
“ ................... “
“ ชะ .. ชานยอล ? "
“ เปิดประตูววว “
.... แกร๊ก ....
ซอฮยอนเปิดแง้มประตูและพบว่าเป็นชานยอลที่ยืนโงนเงนอยู่ด้านนอก เขารีบโผเข้ามาง้าง
ประตูให้เปิดกว้างออกจากกันและสู้อยู่กับซอฮยอนที่ออกแรงฝืนเอาไว้ ในที่สุดเมื่อ
ชานยอลชนะด้วยแรงที่มากกว่าแต่ก็ต้องมาชะงักเพราะเด็กสาวเอาด้ามไม้กวาดจ่ออยู่ที่
คอของเขาอย่างขู่เอาเรื่อง “ ถอยไป ปาร์คชานยอล ! ถอยไปอีก ! “
“ มาทำไม ดึกๆดื่นๆ “
“ มาหาเมียดิ่ “
“ ปากเสีย! ต้องให้ฉันโทรตามพ่อนายมั้ย ? “
“ ก็ โทร ดิ่ “ ท่าทางยักไหล่อย่างอวดดีแม้แต่ตอนเมามายทำให้ซอฮยอนถึงกับเบ้หน้า
“ ไม่ เห็นจะ .. กลัว อุ๊บ ! ฮึ๊บบ “ เด็กหนุ่มรีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองและซอฮยอนที่เบิกตา
กว้างอย่างตกใจ
“ อะ อะไร ๆๆๆ อย่าอ้วกตรงนี้นะ “ ซอฮยอนรีบหลีกเปิดทางพลางชี้นิ้วนำเขา
“ โน่นน ห้องน้ำ เร็วเลย !! ไปเร็วๆๆ “
เสียงโก่งคออาเจียนของชานยอลทำให้ซอฮยอนนั่งสูดยาดมอย่างพะอืดพะอมอยู่หน้าห้องน้ำ
แกร๊ก .... เสียงกลอนประตูถูกเปิด และชานยอลที่เปลือยท่อนบนอยู่นั้นโผล่หน้าแง้มมาด้วยใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด
“ เข้ามา .. เช็ดตัว ให้หน่อย “
“ เรื่องอะไร ไม่อ่ะ “
“ เร็ว ... “
สีหน้าและท่าทางของเขาที่ดูอ่อนแรงและไร้พิษสงนั้น..ทำให้เด็กสาวเริ่มสองจิตสองใจและตัดสินใจเข้าไปช่วยเขาในที่สุด
เด็กสาวประคองถังน้ำพร้อมผ้าเช็ดตัวเข้ามาภายในห้องน้ำ เธอเดินเข้าหาชานยอลที่นั่ง
หลับตาอยู่บนฝาชักโครกและเล็งที่จะเริ่มเช็ดตัวให้เขาอย่างเก้ๆกังๆ
“ ชักช้าจริง ฉันมึนหัวจะแย่แล้วนะ “
เสียงห้วนๆของเขาที่คงจะสร่างเมาหน่อยๆนั้นทำให้เด็กสาวหยุดชะงักทันที ก่อนจะยกถังน้ำ
ขึ้นสุดแขนและราดลงศีรษะเด็กหนุ่มจนเปียกชุ่มไปทั้งตัวในคราวเดียว
“ O_O !!!! “
“ เร็วพอมะ? สำเร็จได้ภายในหนึ่งวินาที “
“ ย๊า!!! ซอฮยอน เธอตายแน่วันนี้ “
ร่างสูงลุกพรวดพราดทั้งที่เนื้อตัวยังเปียกนั้นลากข้อมือซอฮยอนและผลักเธอจนติดผนัง
ห้องน้ำและตามไประดมจูบ กอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความโมโหทั้งเหตุการณ์สดๆร้อนๆที่เพิ่ง
เกิดขึ้นและสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาถ่อมาชำระความถึงที่นี่
“ เดี๋ยวนี้ทำกับฉันอย่างนี้เหรอ .. ทีกับคนอื่นเธอสมยอมมันนะ “
“ ออกไปเลย ชานยอล ฉันไม่ต้อนรับนาย! “
ซอฮยอนดิ้นพล่านอยู่ในวงแขนที่รัดตัวเธอไว้อย่างแน่นหนา
“ ให้มันจูบทำไม! ไม่สิ เธอจูบมันต่างหาก! “
“ แล้วมีปัญหาอะไร ฉันกับเขาคบกัน แค่จูบนี่มันน้อยไปด้วยซ้ำ “
“ ซอจูฮยอน ! “
ชานยอลแทบจะหายเมาเป็นปลิดทิ้ง เขาลากเธอออกมาจากห้องน้ำและเหวี่ยงร่างบางลงบน
เตียงก่อนจะเข้าตะครุบร่างที่เตรียมจะกลิ้งตัวหนีเขานั้น “ งั้นมาดูกัน ว่าเธอจะมีปัญญาลืม
ฉันได้หรือเปล่า “
“ ปล่อยนะ ไอ้บ้า ! ผู้ชายเลว ฉันไม่ได้รักนายแล้ว! ”
“ ................... “
ชานยอลชะงักไป เขากัดริมฝีปากและยังคงระดมซุกไซร้เธออย่างคุ้มคลั่งและหน้ามืดตามัว
“ เธอลืมฉันไม่ได้หรอก “
“ ตลกแล้ว นายมีอะไรน่าจดจำเรอะ ปาร์คชานยอล! “
“ ..................... “
“ ..................... “
เด็กหนุ่มปลดเข็มขัดตัวเองและดึงรั้งกางเกงนอนของเด็กสาวออกไปจนเธอร้องเสียงหลง
ก่อนที่เขาจะพยายามฝืนนำส่วนล่างของร่างกายบุกรุกเข้าไปในตัวของเธอ
“ อื้ออ!! หยุดนะ อย่า ! “
“ .................... “
ริมฝีปากและจมูกยังคงฝังแน่นอยู่กับพวงแก้มของเด็กสาวหากแต่บางสิ่งกำลังผิดแปลกไป ...
“ ชะ ... ชานยอล .... “
บางสิ่งที่เปียกชุ่มอยู่ข้างแก้มทำให้ซอฮยอนใจอ่อนยวบลงไปเกินกว่าครึ่ง ก่อนจะเอื้อมสัมผัสใบหน้าของเขา
“ ........................ “
“ ... นาย ... ร้องไห้ทำไม “ เสียงถามออกมาเบาหวิวอย่างทั้งตกตะลึงและใจหาย ...
ชานยอลเงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ .. อะไรน่ะ .. นี่เขากำลังร้องไห้เหรอ? น่าแปลกที่ไม่รู้ตัวสักนิดเดียว
มือเรียวบางของซอฮยอนค่อยๆยกขึ้นไล้เช็ดความเปียกชื้นที่ไหลตามแก้มของเด็กหนุ่มออกไป ..
“ นายเป็นอะไร ชานยอลอ่า ? “ น้ำเสียงดูกังวลและเอื้ออาทรเหมือนซอฮยอนคนเดิมที่เคยเป็นมา ...
ร่างสูงที่ยังคงค้ำอยู่บนตัวของเด็กสาวได้แต่นิ่งอึ้งกับคำถามของเธอ .. จะให้ตอบออกไปได้อย่างไร .. ว่าเขากลัว ...
กลัวว่า “ซอฮยอนจะไม่รัก” กลัวว่า “ ซอฮยอนจะมีคนใหม่ “
“ ......................... “
ไร้ซึ่งการตอบคำถาม เด็กหนุ่มค่อยๆขยับเอาความเป็นเขาที่พยายามยัดเยียดให้เธอจนเข้าไปกว่าครึ่งนั้นถอยออกมา ..
หากแต่กลับถูกแขนเรียวบางนั้นรั้งไว้พร้อมคำถามและสายตาที่กึ่งไม่แน่ใจ
" นาย ... กลัวฉันเปลี่ยนใจจากนายใช่มั้ย? “
ชานยอลที่ได้ยินถึงกลับหน้าเหวอ กลอกตาไปมา หลบสายตาของเด็กสาวเสียอลหม่าน
บรรยากาศที่เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของอีกฝ่าย
ทำให้ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกทันทีว่าเธอกำลังเป็นต่อ ...
..... ซอฮยอน กำลังกำความรู้สึกทั้งหมดของเขาไว้ในมือ ..
แววตากระจ่างใสของเธอที่มองมานั้น ดูเจ้าเล่ห์แสนกล ราวกับเด็กหนุ่มเองที่เผลอต้องมนต์ที่ว่านั่น ..
อยู่ในความรู้สึกอึดอัดเป็นที่สุด เมื่อถูกอีกฝ่ายจับได้ ... ว่าเขาแพ้ทุกทางให้กับเธอ แพ้เต็มประตู แพ้เสียจนราบคาบ ...
“ เธอ ... “ เขาหลุบตาลงต่ำอย่างน้อยใจ “ เธอไม่เต็มใจ .. “
เขาตัดสินใจที่จะผละตัวออกจากเธออย่างพ่ายแพ้ แต่แขนบางนั้นคว้ายื้อเขาไว้อีกรอบ
“ เดี๋ยว ... จะไปไหนอีก “
ชานยอลนิ่งอึ้งพร้อมเริ่มมองเห็นโอกาสที่ถูกเปิดออก แววตาเขาเบิกกว้างบ่งบอกความยินดี
อย่างปิดไม่มิด ริมฝีปากเผลอคลี่ยิ้มออกอย่างไม่รู้ตัว เขาก้มตัวลงกระซิบพร้อมลมหายใจที่
ร้อนผะผ่าวอยู่ข้างใบหูของเธอ “ ไม่ให้ไปใช่ไหม .. “
เด็กสาวพยักหน้ารับน้อยๆ .. ความรู้สึกที่อยากจะกลืนกินเมื่อครู่กระพรือปีกขึ้นสูงติด
เพดานเมื่อได้รับการอนุญาติจากเจ้าตัว
“ ถ้าเริ่มคราวนี้ .. ฉันจะไม่หยุดแล้วนะ “ ชานยอลจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาใสของอีก
ฝ่าย และซอฮยอนพยักหน้ารับช้าๆ
เมื่อต่างฝ่ายต่างก็รอกันอยู่ก่อนแล้ว ... ริมฝีปากที่สัมผัสพุ่งเข้าหากันราวกับมีแรงดึงดูด ... เร่าร้อน ... โหยหา และรุกเร้า ..
เขาซุกไซร้ ทั้งเลียและขบเม้มจุดเนินอกอวบอิ่มที่เพรียกหาให้เขาฝังใบหน้าลงไปและกัดเต็มคำอย่างหมั่นเขี้ยว
“ อื้อออออออ อย่าแกล้ง “
ทั้งมือ ทั้งปาก และความเป็นชายของชานยอลปรนเปรอเด็กสาวเต็มที่อย่างชนิดที่ว่าจะไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนได้อีกแล้ว
“ เธอทำให้ฉันอดอยากนี่นา .. “
“ กะ ก็ มัน ... เป็นความผิด ... ของนาย “
คนใต้ร่างพยายามที่จะแข็งข้อแต่ก็พ่ายแพ้ให้กับสัมผัสที่รุกล้ำอย่างหนักหน่วงและคลุก
เคล้าไปตามเนื้อตัวของเธออย่างอัดแน่นไปด้วยปรารถนาที่แรงกล้าก่อนจะจบลงอย่าง
สมราคาที่ห่างเหินกันไปให้เขาได้ระบายความคลุ้มคลั่งกับความคิดถึงนั้น ..
ชานยอลเฝ้าคลอเคลียลูกแมวไร้ขนที่หลับใหลอยู่ในอ้อมแขน ... คนอะไรแดงไปทั้งตัว
ทั้งสีเลือดฝาดตามธรรมชาติ ..
ทั้งรอยจูบ รอยฟัด ที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของไปทั่วทั้งตัวนั้น ..
ก่อนที่จะหลับตาไปด้วยความเหนื่อยอ่อน .... เขาได้ยินเสียงตัวเองกระซิบบอกคนในอ้อมกอดอย่างแผ่วเบา
“ ห้ามทิ้งฉันไปอีกนะ .. “
“ ................... “
“ เธอเป็นของฉันคนเดียว “
“ แล้วนาย ... “ เสียงพึมพำของเธอที่ลอดออกมาทั้งที่ยังคงหลับตา
“ จะเป็นของฉันคนเดียวหรือเปล่า .. ปาร์คชานยอล ? "
####################
อีกสองตอนเท่านั้นนนน ฮึ๊บบบบ!!! เอาให้จบ !
#####################
"
##
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความจริงอยากให้ชานยอลเจ็บกว่านี้อีกนะเนี่ย ที่เป็นอยู่เหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย
ซอรี่นร้านัมจู แค่ออกมาไม่เท่าไหร่ก็สัมผัสได้ถึงความน่ารัก ขี้หวง ขี้อ้อน ละมุนละไม
แต่เรื่องนี้พี่ชานเค้าเป็นพระเอกไงถึงนิสัยพี่แกจะไม่พระเอกก็เถอะ
อย่างน้อยสัญญามันก็น่าจะไปได้นานกว่านี้ แอบเสียดาย
ยังไม่มีหวีดหวานไรเลยนะ หมดทางซะล่ะ เฮ้อออออ
สุดท้ายก็ยอมใจอ่อนทุกทีสิน่าซอจูฮยอน ชานยอลยังไม่ได้สำนึกผิดอะไรมากมายเลยนะ อย่าเพิ่งรีบใจอ่อนเร็วนักดิ
ครั้งนี้ผ่านไปได้ก็อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกนะปาร์คชาน ต่อให้รักมาก แต่นอกใจบ่อยๆ ก็เลิกรักได้นะ เข้าใจมั้ย
ำรท์สู้ สู้ มาต่ออีกน้า
โอ๊ยยยย~ยอมแล้วพ่อคุ๊ณณณณณณณ
จูยอกนี่ยังไง คิดอะไรกะซอจิงๆแล้วสินะถึงทำแบบนั้นจะว่าไปก้อสงสารนางเนอะ