กว่าจะได้ชื่อว่าเป็น "เด็กนอก"

ลำดับตอนที่ #2 : ชีวิตแต่ล่ะวันในโรงเรียน

   High school ในอเมริกาแทบทุกแห่งจะเป็นการเดินเรียนให้นักเรียนได้วิ่งเปลี่ยนตึกออกกำลังกายกันอย่างสนุกสนานใครมีชั่วโมงไหนอยู่ตึกไกลๆหน่อยก็เหนื่อยหน่อยล่ะงานเนี่ยตึกเรียนก็จะแตกต่างกันออกไปมีทั้งตึกสูงหลายชั้นหรือแม้กระทั้งแบบที่เป็นบ้านแล้วแบ่งออกเป็นห้องต่างๆซึ่งถือเป็นแบบที่ฮิตกันสุดๆในโรงเรียนเอกชน ห้องแต่ละหมวดวิชาก็จะกระจุคกันอยู่ในตึกเดียวกันห้องติดๆกัน เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาครูประจำหมวด โต๊ะจะเป็นโต๊ะเดี่ยวเหมือนโต๊ะตามมหาลัยในเมืองไทย ที่เป็นเก้าอี้พลาสติกติดกับบอร์ดไม้แผ่นใหญ่ๆหนาๆ เอาไว้ตั้งหนังสือกับจดรายงานต่างๆหนังสือเรียนทั้งหมดจะเก็บรวบรวมอยู่ใน locker ที่มีอยู่แทบทุกทางเดินในตึกเรียน ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งรวบรวมของการกระทำแปลกๆต่างๆนาๆที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ชั่วโมงเรียนของแต่ล่ะคนก็จะแตกต่างกันออกไป รับประกันได้ว่าทั้งโรงเรียนไม่มีใครที่มีตารางเรียนเหมือนกันแป็ะอย่างแน่นอน ให้ลงวิชาเหมือนกันยังไงก็เหอะเรามีมือระดับพระกามาสลับสับเปลี่ยนให้มันไม่ตรงกันได้อย่างเหลือเชื่อ ไม่เชื่อต้องมาพิสูจณ์เอาเองอันนี้เราก็ไม่แน่ใจเหตุผมเหมือนกันว่าทำไม

     ทุกคาบจะมีเวลาเปลี่ยนชั่วโมงให้ 5 – 10 นาทีอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ล่่ะโรงเรียนด้วย มีเสียงออดเป็นเสียงสัญญาณ มีการเช็คชื่อทุกครั้งที่เข้าห้องเรียน ถ้ามาสายต้องมี hall pass หรือ libratory pass จากครูที่เรียนชั่วโมงก่อนหน้านี้มายืนยันมิฉะนั้นเตรียมตัวเข้าห้องดำจิตได้เลย แต่ส่วนใหญ่ครูที่ใจดีๆก็จะย่วนๆให้เสมอ และถ้าจะเข้าห้องน้ำก็ต้องมี pass เหมือนกัน แต่อันนี้ไม่ใช่เป็นกระดาษพร้อมรายเซ็นครูหรอกน่ะ แต่ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรของแต่และอาจารณ์ ว่าจะเอาอะไรมาทำเป็น passกันแบบพื้นๆก็จะมี ไม้บรรทัดบ้าง ผ้าพันคออาจารย์บ้าง แบบที่แปลกๆ ก็มี ลูกโลก แน่นอนว่าดูก็รู้ว่ามาจากห้องหมวดประวัติศาตร์ห้องไหนสักห้องนึงเนี่ยล่ะ วงเวียนยักษ์ จาก หมวดคณิต และที่เห็นจะแปลกที่สุดจากการลงคะแนนกันมาก็เห็นจะเป็น หมวดวิทย์ที่บางห้องให้นักเรียนใส่เสื้อกาวกับแว่นตากันสารเคมีที่มีคำว่าpass ขนาดยักษ์ไปเข้าห้องน้ำ หรือเป็นถ้วยสารเคมีบ้างแล้วแต่ ชีวิตในโรงเรียนก็แบบเนี่ยมีอะไรให้เล่นสนุกทั้งวันพูดแล้วก็อยากกลับไปเรียนอีก