TRACE : นักสืบ T / คดีสัตว์ประหลาด - The Lost Man - - TRACE : นักสืบ T / คดีสัตว์ประหลาด - The Lost Man - นิยาย TRACE : นักสืบ T / คดีสัตว์ประหลาด - The Lost Man - : Dek-D.com - Writer

    TRACE : นักสืบ T / คดีสัตว์ประหลาด - The Lost Man -

    คดีปริศนาที่เกิดจากฝีมือของ "เมโมรี้" สัตว์ประหลาดที่มีพลังเหนือมนุษย์ เมื่อตำรวจไม่สามารถจัดการคดีนี้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของคู่หู วินด์ & ไฟล์ แห่งสำนักงานนักสืบเทรซ ที่ต้องออกมาจัดการคดีเหล่านี้

    ผู้เข้าชมรวม

    268

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    268

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สืบสวน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 มิ.ย. 53 / 20:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ทวินทาวน์ เมืองที่ผู้คนอาศัยอยู่อย่างสงบสุข จนวันหนึ่งได้เกิดคดีปริศนาเกิดขึ้นภายในเมือง ตำรวจไม่สามารถจัดการคดีเหล่านั้ได้ ทำให้เป็นหน้าที่ของวินด์ & ไฟล์ คู่หูนักสืบแห่งสำนักงานนักสืบเทรซ ที่ต้องเป็นผู้มาจัดการคดีเหล่านี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      13 ปีก่อน 14 กุมภาพันธ์ 00.16 น. ถ.ไซด์เวย์ ทวินทาวน์

                      “วะ เหวอ” เสียงร้องของครอบครัวหนึ่งดังขึ้นในความมืด

                      เจ้าของเสียงกำลังกลัวอย่างสุดขีด เขากอดลูกชายและภรรยาของเขาไว้แน่น วันนี้เป็นวันแห่งความรักที่เลวร้ายที่สุด

                      เบื้องหน้าของเขา คือสิ่งมีชีวิตสูงใหญ่รูปร่างคล้ายมนุษย์ เพียงแต่สิ่งที่บ่งบอกว่ามันไม่ใช่มนุษย์ คือขนที่ฟูตามตัวและเขี้ยวเล็บที่ยาวโง้งออกมา

                      เมโมรี่ ความทรงจำแห่งการกำเนิดโลก

                      “ยะ อย่างน้อย ก็ไว้ชีวิตลูกของฉันเถอะ” เขาพยายามวิงวอน

                      ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา มีแต่เพียงน้ำลายและเสียงขู่ที่ดังมาจากปากของมันเท่านั้น

                      ยมทูตกำลังเอาเคียวมาจ่อที่คอของครอบครัวเทลวิน

                      เพียงแต่ยมทูตในตอนนี้ คือสิ่งมีชีวิตสูงเจ็ดฟุต และเคียวก็คิอกรงเล็บที่อยู่ที่มือของมัน

                      ฉับพลันนั้น มันวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง และตวัดกงเล็บของมัน

                      มีเด็กน้อยเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น

       

       

      ปัจจุบัน 14 กุมภาพันธ์ 06.12 น. บ้านเลขที่ 010 ถ.เอนทรี ทวินทาวน์

                      “ฮ้าว” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นในบ้าน วันนี้เป็นวันที่อากาศดีท้องฟ้าโปร่งอากาศแจ่มใส แต่ทว่าสีหน้าของชายหนุ่มกลับไม่ได้สดใสตามอากาศเลย

                      “13 ปีแล้วเหรอเนี่ย” เขารำพึงกับตัวเอง “ฝันถึงวันนั้นทุกปีเลยแฮะ”

                      เขาเดินไปเปิดม่าน ถนนเอนทรีในวันนี้มักจะถูกตกแต่งไปด้วยดอกกุหลาบเต็มไปหมด แน่ละว่ามันเป็นวันแห่งความรัก

                      แต่สำหรับวินด์ เทลวิน มันคงเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดเลยทีเดียว เพราะเมื่อ 13 ปีก่อน ครอบครัวของเขาถูกฆ่า มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้

                      ภาพเหตุการณ์นั้นยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา ยามที่กงเล็บของยมทูตพรากชีวิตพ่อแม่ของเขาไป

                      ยมทูตที่มีชื่อว่า เมโมรี่

                      วินด์เดินไปที่โต๊ะของของตัวเอง บนนั้นมีรูปถ่ายของครอบครัวของเขาวางอยู่  ในภาพนั้นพ่อแม่และเขายังคงยืนยิ้มอย่างมีความสุข ภาพนี้ถ่ายก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพียงไม่กี่วัน หลังจากนั้นไม่นาน พ่อแม่ของเขาก็ถูกฆ่าตาย

                      “พ่อครับ แม่ครับ” เขาหยิบรูปนั้นขึ้นมา “ขอโทษนะครับ ผมยังหาตัวมันไม่เจอเลย ยังไม่ได้ล้างแค้นให้กับพ่อแม่”

                      ใช่ ตอนนี้การที่เขายังมีชีวิตอยู่ก็เพื่อตามล่าหาฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาเท่านั้น

                      นั่นเป็นสาเหตุ ที่สถานที่แห่งนี้ดำรงอยู่

                      บ้านเลขที่ 010 ตรงหัวมุมถนนเอนทรีแห่งทวินทาวน์ เป็นที่ตั้งของสำนักงานนักสืบเทรซ สำนักงานนักสืบที่วินด์ เทลวินเป็นเจ้าของ

                      แน่อยู่แล้วว่าสำนักงานนักสืบนี้ไม่ได้มีไว้คลี่คลายคดีทั่วไปแน่นอน เพราะหน้าที่หลักของสำนักงานนักสืบนี้ คือการตามสืบคดีเกี่ยวกับเมโมรี่

                      วินด์วางรูปเมื่อได้ยินเสียงกุกกักมาจากด้านหลัง สักครู่ก็มีชายคนหนึ่งเดินออกมา

                      “อะไรกันวินด์ นี่เพิงจะหกโมงเองนะ ตื่นแล้วเหรอ” เขาถามอย่างงัวเงีย

                      “หึ ไฟล์ นายลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้วันอะไร” วินด์ถามกลับ

                      ชายหนุ่มที่ชื่อไฟล์ทำหน้ายึกยักเหมือนพยายามนึกอะไรอยู่ ในที่สุดเขาก็ตีมืออย่างนึกออก

                      “อ้อใช่ วันนี้ของทุกปีนายจะตื่นเช้าเสมอเลยนี่นะ” ไฟล์นึกได้

                      วินด์เดินไปหยิบแฟ้มคดีที่อยู่บนชั้นออกมา เขาค่อยๆเปิดมันดูทีละหน้า ข้างในนั้นเป็นข้อมูลเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวกับเมโมรี่ทั้งหมด

                      Cat……Key…….Invisible……Table…. ไม่มีตัวไหนที่ตรงกับวาเลนไทน์เลยแฮะ” เขาถอนหายใจพลางปิดแฟ้ม

                      “ก็เป็นอย่างนี้ทุกปีแหละน่า” ไฟล์พูดขึ้นบ้าง

                      “หึ” เขาถอนหายใจอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน

                      ตอนนั้นเอง ประตูของสำนักงานนักสืบก็ถูกเปิดออก

                      เด็กสาวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้านใน เธอแต่งตัวดูไม่เรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรีบออกมาเป็นอย่างมาก ผมของเธอยังกระเซอะกระเซิงและไม่ได้หวี

                      “ช่วยด้วยค่ะ” เธอเริ่มพูด “พ่อของฉันหายตัวไป”

                      ไฟล์เริ่มเดินไปหยิบหนังสือมาอ่าน ส่วนวินด์ก็เดินเข้าไปหาเธอเพื่อถามถึงรายละเอียด

                       “ช่วยเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยสิ” วินด์ถาม

                     

      08.21 น. ถ.โคเวนทรี ทวินทาวน์

                      วินด์และเด็กสาวกำลังเดินหาเบาะแสเกี่ยวกับพ่อของเธออยู่ จากรายละเอียดที่วินด์ถามมารู้มาว่า พ่อของเธอหายตัวไปเมื่อคืนนี้ตอนสี่ทุ่ม เพราะเธอคุยโทรศัพท์กับพ่อของเธออยู่แล้วสายก็ถูกตัดไป

                      “ไม่มีร่องรอยอยู่เลยแฮะ” วินด์พยายามหาเบาะแส เขาเดินไปทั่วถนนเพื่อหาร่องรอยเกี่ยวกับการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา

                      “เออนี่ แล้วพ่อของเธอเคยมีเรื่องอะไรรึเปล่า อ้อใช่ เธอชื่ออะไรนะ” วินด์ถามเด็กสาว เพราะตั้งแต่คุยมาเขายังไม่รู้ชื่อของเธอเลย

                      “เกว็นค่ะ” เด็กสาวบอก “เท่าที่ทราบ คุณพ่อท่านก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกับใครนะคะ ท่านเป็นนักข่าว แต่เห็นว่าตอนนี้ท่านกำลังทำข่าวเกี่ยวกับคดีคนหายสาบสูญที่เกิดขึ้นบ่อยๆช่วงนี้น่ะค่ะ”

                      วินด์หยุดกึก เขาทำเหมือนพึมพำอะไรบางอย่างออกมา ก่อนจะเดินไปต่อ

                      “ทำอะไรอยู่เหรอพ่อหนุ่ม” ชายแก่คนหนึ่งเดินออกมาจากในบ้าน

                      วินด์สะดุ้ง เขาหันไปมองทางต้นเสียง ชายแก่คนหนึ่งยืนถือไม้เท้าอยู่ข้างๆเขา

                      “ทำอะไรลับๆล่อๆน่ะพ่อหนุ่ม” ชายแก่ถามต่อ

                      “อ่อ คุณปู่” วินด์ทักทาย “คือผมเป็นนักสืบน่ะครับ กำลังมาตามหาร่องรอยของคนหายสาบสูญเมื่อคืนนี้อยู่”

                      “อ่อ” ชายแก่ทำหน้ารับรู้

                      “คุณปู่พอจะเห็นอะไรเมื่อคืนบ้างไหมครับ” วินด์ถามหาเบาะแส

                      “ปู่เองก็ไม่เห็นเหมือนกันละพ่อหนุ่ม เมื่อคืนปู่นอนแต่หัวค่ำนะ” ชายแก่ตอบ

                      “ขอให้โชคดีนะพ่อหนุ่ม” ชายแก่อวยพรก่อนจะเดินเข้าไป

                      วินด์เดินคอตกเพราะไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม ก่อนที่จะตัดสินใจกลับไปที่สำนักงานนักสืบ

                      ตอนนั้นเอง ที่เขาสังเกตุเห็นรอยอะไรบางอย่างบนพื้น

                      “รอยอะไรน่ะ” เขาดูมันอย่างสงสัย รอยสีดำบนพื้นสามจุด ลากยาวไปจนสุดถนน

                      เขาเอามือลองไปแตะมันดู รอยนั่นติดบนนิ้วของเขามา เขาลองเอามาดมพิสูจน์ดู

                      “กลิ่นไหม้” วินด์พูดออกมาเบาๆ

                      ทันใดนั้น เขาก็คิดอะไรบางอย่างได้

                      เกว็นสังเกตุเห็นท่าทีที่แปลกไปของนักสืบหนุ่ม จึงเดินเข้าไปถาม “มีอะไรหรือคะ คุณนักสืบ”

                      วินด์ยืนขึ้นด้วยท่าทียิ้มอย่างมั่นใจ “คุณรออยู่ที่นี่ได้เลยนะครับ ผมคิดว่าผมพอจะทราบแลวว่าคนร้ายเป็นใคร” เขาตอบเธอกลับไป

                      เขาหยิบโทรศัพท์โทรกลับไปที่สำนักงานนักสืบของเขา “นี่ ไฟล์ ฉันได้เงื่อนงำแล้วนะ”

                      ไฟล์ที่อยู่ที่สำนักงานนักสืบถือสายอยู่ เขากำลังฟังข้อมูลของวินด์ที่บอกให้ฟัง “อืม เงื่อนงำที่นายหาได้ ก็พอจะระบุได้แล้วละนะ ว่าคนร้ายเป็นใคร”

                      “โอเค ได้เลย ไปเดี๋ยวนี้ละ” วินด์กดวางสายโทรศัพท์ เป็นเวลาเดียวกับที่มีบางสิ่งพุ่งเข้าใส่เขา

                      “โอ๊ะ” เขากระโดดหลบได้และหันไปเผชิญหน้ากับมัน เกว็นกรีดร้องออกมาและวิ่งมาหลบข้างหลังเขา

                      เมโมรี่ตัวสูงเจ็ดฟุตกำลังยืนเผชิญหน้ากับเขา รุ่ปร่างหน้าตาของมันไม่ผิดไปจากมนุษย์เท่าใดนัก เพียงแต่กล้ามของมันที่ใหญ่โตขนาดที่จะมามารถแบกท่อนแหล็กยาวสี่ฟุตซึ่งเป็นอาวุธของมัน

                      “ไอ้นักสืบจอมจุ้น” มันเริ่มพูดออกมา “ถ้าไม่มายุ่งเกี่ยวกับคดีแกก็คงจะมีชีวิตได้อีกหน่อยเท้ๆ”

                      “โว้ว” วินด์เริ่มพูดบ้าง “ใจเย็นๆสิครับ คุณปู่”

                      “เอ๋” เกว็นร้องออกมา “นั่นคือคุณปู่เหรอ”

                      “แกพูดเรื่องอะไรของแก” มันถามกลับ

                      “ปิดผมไม่ได้หรอกน่า คุณปู่ คุณนั่นแหละที่เป็นคนลักพาตัวพ่อของเกว็นไป รอยไหม้ที่พื้นสามรอยนั่นแหละคือหลักฐาน”

                      วินด์หยิบมือถือออกมา ไฟล์เริ่มพูดข้อสันนิษฐานของเขา

                      คุณนั่นแหละ “สเตรงท์เมโมรี่” รอยไหม้นั่นเป็นรอยจากการที่คุณวิ่งผ่านอย่างรวดเร็วพร้อมกับลากไอ้ท่อนเหล็กนั่นไปด้วยยังไงละ

                      และคนที่อาศัยอยู่แถวนี้ก็มีไม่มาก ฉะนั้นคนแก่ที่มีไม้เท้าแถวนี้ ก็เหลือแต่คุณนั่นแหละ

                      “หึ” เมโมรี่เริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิม ชายแก่เมื่อครู่นี้ปรากฎตัวต่อหน้าเขาอีกครั้ง”ฉลาดไม่เบานี่ไอ้หนู”มันพูดเย้ย

                      “เอาละ บอกมาเถอะว่าคุณเอาพ่อของเธอไปไว้ที่ไหน” วินด์พยายามเค้นหาความจริง

                      “ข้าเสียใจนะ” ชายแก่พูด “ที่เจ้าจะต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้”

                      ‘Strenght!!’

                      กลุ่มควันจำนวนมากห่อหุ้มร่างของชายแก่ไว้ ไม่นานนักเขาก็กลับเข้าสู่ร่างยักษ์เมื่อครู่อีกครั้ง

                      “เกว็น” วินด์พูดกับเด็กสาว “หลบไปก่อน”

                      เกว็นวิ่งหลบออกไปด้านข้าง ตอนนี้เหลือแต่วินด์ที่ยืนเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง

                      “ใจกล้า” มันเริ่มพูด “หรือบ้าบิ่นกันแน่” พูจบก็โยนกระบองเข้าใส่วินด์

                      เกว็นปิดตาไม่กล้าดูเหตุการณ์ตรงหน้า เธอพยายามภาวนาให้นายนักสืบไปสู่สุขติ

                      แต่ผิดคาด วินด์สามารถรับการโจมตีของมันได้ด้วยมือข้างเดียว

                      มืออีกข้างหนึ่งของเขาถือโทรศัพท์อยู่ “ทันเวลาเลย คู่หู” เขาพูด

                      เขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า แขนข้างที่ว่างอยู่ต่อยออกไป

                      สเตรงท์เมโมรี่กระเด็นออกไปไกลกว่ากว่าสิบเมตร มันลุกขึ้นยืนอย่างประหลาดใจ

                      “อะไรกัน แก”

                      วินด์ เทลวินกำลังยืนท้าทายกับสัตว์ประหลาดสูงเจ็ดฟุตด้วยมือเปล่าตัวคนเดียว

                      “เข้ามา” เขาท้า “ถ้าแกกล้าพอนะ”                
                      
                       “แก” มันกัดฟันกรอด คว้าท่อนเหล็กขึ้นมาแล้วฟาดเข้าใส่วินด์

                      วินด์สามารถหลบได้ทุกกระบวนท่า ยิ่งฟาดมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเหนื่อยเองเท่านั้น การโจมตีแต่ละครั้งของมันนั้นไม่เฉี่ยววินด์เลยแม้แต่น้อย

                      “แกน่ะ มีแต่แรงแต่ไม่มีสมองเลยแฮะ” เสียงของไฟล์ดังขึ้นมาจากถุงมือ

                      “อะไรน่ะ” สเตรงท์เมโมรี่ถาม

                      วินด์ต่อยสวนไปแทนคำตอบ สเตรงท์ชะงักไปคู่หนึ่งก่อนก่อนที่ลูกถีบของวินด์จะพุ่งเข้าใส่หน้าของมัน

                      คราวนี้มันไม่ได้กระเด็นไปไกลมากนัก มันลุกขึ้นแล้วสำรอกเลือดออกมากองใหญ่

                      “พลังอย่างเดียวน่ะไม่ช่วยให้ชนะหรอกนะ” วินด์พูดขึ้นบ้าง

                      คราวนี้มันพุ่งเข้ามาอีกครั้งด้วยความแค้น แต่ก็เหมือนการบุกทุกครั้งของมันที่ไม่สามารถทำอะไรวินด์ได้ วินด์จับจังหวะแล้วถอยออกมาตั้งหลักใหม่

                      “เอาละ” วินด์พูด “จะให้โอกาสอีกครั้งละกัน ถ้ายอมบอกว่าแกจับพ่อของเกว็นไปไว้ที่ไหน ฉันอาจปล่อยแกไปก็ได้”

                      สเตรงท์เลือดขึ้นหน้าอย่างเหลืออด ดูท่าคำพูดเมื่อกี้จะเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟไปเสียแล้ว

                      มันพุ่งอาวุธแทงขึ้นมาด้านหน้า วินด์หลบได้อย่างง่ายดายอย่างเคย แต่คราวนี้ต่างออกไป

                      แขนข้างที่ว่างอยู่ของมันดักทิศทางที่วินด์จะหลบไปได้ถูก แขนข้างนั้นกระแทกกับร่างของวินด์ ส่งผลให้เขากระเด็นไปไกลเกือบยี่สิบฟุต

                      “คุณนักสืบ” เกว็นตะโกนออมาอย่างตกใจ

                      “ไง ไอ้หนู ไหนแกบอกว่าพลังอย่างเดียวเอาชนะไม่ได้ไง” มันเย้ย

                      วินด์พยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก การโจมตีเมื่อครู่ได้ผลมากทีเดียว เขาไอสำลักเลือดออกมา การโจมตีเมื่อครู่ทำให้อวัยวะภายในของเขาบอบช้ำหลายแห่ง

                      ... เจ้านั่น ถึงมันจะไม่มีความว่องไว แต่ถ้าพลาดโดนมันโจมตีเข้าทีก็เจ็บเหมือนกันนะ...

                      “วินด์ รีบๆจัดการเถอะ” เสียงของไฟล์ดังขึ้นมาจากถุงมืออีกครั้ง

                      “อืม..” วินด์เองก็เห็นด้วยกับไฟล์แล้วเหมือนกัน การโจมตีเมื่อครู่นี่ถ้าหากโดนเข้าจังๆ ละก็มีสิทธิไปเกิดใหม่ได้เลยทีเดียว

                      สายลมเริ่มพัดมารวมกันที่ถุงมือของวินด์มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับที่เริ่มพัดแรงขึ้นในบริเวณนั้น

                      “เอาละนะ” พูดจบวินด์ก็วิ่งเข้าใส่เสตรงท์เมโมรี่ทันที

                      “เจ้าโง่ บุกมากี่ทีก็เหมือนเดิมนั่นแหละ” พูดจบก็ฟาดกระบองเหล็กเข้าใส่วินด์ทันที

                      วินด์สามารถหลบได้อีกเช่นเคย แต่ก็แน่นอนว่าแขนอีกข้างหนึ่งของมันก็ดักรอจะปิดบัญชีนักสืบหนุ่มไว้แล้ว

                      “อย่าคิดว่าลูกไม้เดิมๆจะใช้ได้ผลอีกครั้งสิ” วินด์กล่าว

                      เขาใช้แขนที่เหวี่ยงมาเป็นฐาน ยันตัวเองขึ้นไปบนแขนแล้ววิ่งไปตามแขนจนเข้าประชิดตัวมันได้ในที่สุด

                      วินด์ใช้แขนซ้ายจับหัวของสเตรงท์ไว้ มันพยายามใช้มือข้างที่ว่างอยู่ปัดออกแต่ก็ไม่ได้ผล เขายกแขนขวาขึ้นมาเตรียมพิฆาต

                      “ไซโคลดิสทอร์ชัน!!

                      สิ้นเสียงตะโกน หมัดของวินด์ก็ทะลวงเข้ากลางใบหน้าของมันพร้อมกับลมพายุ มันถอยหลังออกไปแต่เขาไม่ให้มันตั้งตัว

                      พลังลมที่สะสมไว้ที่มือย้ายมารวมอยู่ที่รองเท้า เขาตวัดเท้าเข้าใส่แขนขวาของสเตรงท์จนมันทำอาวุธหลุดมือ พลังลมที่ส่งออกมาทำให้แขนมันหักงอผิดรูป

                      มันกระเด็นออกไปไกลเกือบสิบเมตร แขนซ้ายของมันกำแขนขวาของมันไว้แน่น

                      “อ๊าก” มันร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด

                      “เอาละ ทีนี้จะช่วยบอกมาได้หรือยังว่านายจับพ่อของเกว็นไปไว้ที่ไหน” วินด์ถามซ้ำอีก

                      “บอกแล้ว บอกแล้ว” สเตรงท์ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ “ฉันจับตัวเขาไปส่งให้กับเจ้านายแล้ว”

                      “เจ้านาย” วินด์ทวนคำ “ใครล่ะ แล้วเขาเอาตัวไปไว้ที่ไหน”

                      “ฉะ ฉันไม่รู้ ขะ เขาไม่เคยบอกฉัน ทุกทีที่ฉันส่งงานให้ เขาจะมีนายหน้ามารับ เขาไม่เคยมารับเอง”  สเตรงท์ปฏิเสธ

                      วินด์คิดว่าคงไม่ได้อะไรมากไปกว่านี้ เขาจึงตัดสินใจจะจบเรื่องไว้แค่นี้

                      “เอาละ” วินด์พูดขึ้น “งั้นช่วยหายไปจากโลกนี้ซะทีจะได้ไหม”

                      “อะ อะไร” สเตรงท์ขัดขึ้น “ไหนแกบอกจะปล่อยฉันไปไง”

                      “นั่นมันก่อนที่แกจะเล่นตุกติกกับฉัน” พูดจบวินด์ก็พุ่งเข้าใส่ สเตรงท์พยายามจะสู้ดวยแขนข้างเดียว แต่ก็ไร้ผล

                      “ไซโคลดิสเบรก!!

      ลูกเตะพุ่งเข้าใส่กลางท้องของสเตรงท์ พลังลมพุ่งออกมาก่อนที่จะระเบิดสเตรงท์เป็นเสี่ยงๆ

      “เอาละ เรียบร้อยไปอีกหนึ่งละ”

      เกว็นที่หลบอยู่มานานได้ออกมาบ้าง เธอคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย

      “นาย นั่นมันคือตัวอะไรน่ะ แล้ว แล้ว  พ่อของฉันล่ะ” เธอยิงคำถามอย่างรวดเร็ว

      “เดี๋ยวสิ” วินด์หยุดเธอไว้แค่นั้นก่อน ไม่งั้นเขาได้ตอบคำถามของเธอไม่ทันแน่ๆ “เดี๋ยวกลับไปที่สำนักงานแล้วฉันจะตอบให้”

      09.46น. ถ.เอนทรี บ้านเลขที่ 010 ทวินทาวน์

      “สัตว์ประหลาดนั่นเรียกว่า เมโมรี่ เป็นความทรงจำของโลก เพราะพวกมันนี่แหละคือต้นกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก” วินด์อธิบาย

      “ส่วนเรื่องพ่อของเธอ ขอโทษนะ เรายังหาคนร้ายตัวจริงไม่เจอ”

      “แล้ว ไอ้ตัวที่นายจัดการไปละ” เกว็นถาม

      “นั่นมันแค่สมุนปลายแถวเท่านั้น”

      “แล้วยังงี้ พ่อของฉันจะเป็นยังไงละ” เกว็นถามด้วยความเป็นห่วงพ่อของเธอ

      “เราจะต้องสืบให้ได้ ฉันสัญญา”

      บรรยากาศภายในสำนักงานนักสืบเทรซเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่เกว็นจะพูดขึ้นมา

      “ถ้างั้น ฉันจะทำงานด้วย” เกว็นตัดสินใจ

      ทั้งคู่มองเธอตาค้าง

      “ทำไม ไม่พอใจเหรอ” เธอถามต่อ

      วินด์ที่เงียบไปสักพักหนึ่งจึงพูดขึ้นมาบ้าง “เธอจะมาทำงานกับเราทำไม ก็เห็นอยู่ไม่ใช่เหรอว่ามันอันตราย” วินด์ค้าน

      “เพราะงั้นแหละ ฉันถึงจะได้สืบหาที่อยู่ของพ่อด้วยไง” เกว็นให้เหตุผลสนับสนุน

      “ผมเห็นด้วยนะ” ไฟล์พูดขึ้นมาบ้าง

      “ไฟล์!!” วินด์แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่คู่หูตัวเองพูดออกมา

      “ยังไงคนเหลือก็ดีกว่าคนขาด” ไฟล์ให้เหตุผลสนับสนุนเสริมอีก

      “เออ ก็ได้” ในที่สุดวินด์ก็ต้องยอมต่อเหตุผลของทั้งคู่

      “ขอบคุณนะ” เกว็นบอก

      วินด์นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

      “เห้ย เดี๋ยวสิ อย่างนี้เราก็ไม่ได้ค่าจ้างน่ะสิ” วินด์เพิ่งนึกถึงเรื่องปากท้องของตนเองออก

      “ก็ใช่นะสิ” เกว็นยิ้มหน้าระรื่น

      “อารายก๊านนน” วินด์ร้องเสียงหลง “นี่สืบคดีฟรีอีกแล้วเรอะ!!
      -------------------------------------------------------------------------------------------------------------
      ขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความนี้ครับ ที่จริงตอนนี้เป็นตอนที่ 1 และ 2 ของเรื่องยาวที่ผมคิดไว้ แต่เมื่อลองส่งให้เพื่อนอ่านแล้วเขาบอกว่าไม่สนุก ผมจึงได้มัด 2 ตอนรวมไว้ด้วยกันแล้วลองทำเป็นเรื่องสั้นดู อยากทรบคำติ - ชม (จะมีชมเรอะ) ของทุกท่านด้วยครับ ขอขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านเป็นอย่างสูง และขอให้ติดตามคู่หูนักสืบ วินด์ & ไฟล์ ต่อไปด้วยนะครับ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×