ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "FREAK BOY" มนุษย์จงอิน | KAIHUN FEAT.TAO

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 03 :: Your Homework

    • อัปเดตล่าสุด 14 ม.ค. 58


    Ⓒ QRD

     

     

     
     

    Chapter 3

    Your Homework

     

     

     

    ซ่า...

     

    เสียงน้ำไหลจากก๊อกอย่างแรงก่อนจะถูกกวักล้างหน้าในวินาทีถัดมา บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มีเพียงแค่เสียงสายลมเบา ๆ ที่พัดผ่านมาเท่านั้นที่คอยอยู่เป็นเพื่อน ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว คนที่เรียนเสริมก็แยกย้ายกลับไปจนไม่เหลือใครเดินผ่านตามระเบียงทางเดินบนอาคารสักคน

     

    เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วปล่อยให้น้ำตามดวงหน้าหยดลงพื้นหญ้าก่อนจะปิดก๊อกน้ำในอ่างที่ตั้งอยู่ข้างสนาม เป็นเพราะห้องน้ำในตึกถูกปิดใช้งานเซฮุนเลยต้องระเห็ดลงมาถึงข้างล่าง ซึ่งมันดูเหมือนเป็นการไล่ให้เด็กบ้าซ้อมเต้นอย่างเขารีบกลับบ้านทางอ้อม

     

    เซฮุนซับผ้าขนหนูสีขาวแล้วเงยหน้าขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์ยามค่ำคืน หลายครั้งที่เคยสับสนว่าทำไมถึงชอบอยู่คนเดียวทั้ง ๆ ที่บางครั้งก็ต้องการเพื่อน อย่างเช่นตอนนี้ที่โอเซฮุนกำลังรู้สึกดีกับการยืนอยู่คนเดียวในโรงเรียน แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ต้องการใครสักคนที่สามารถคุยเรื่องอะไรในโลกก็ได้อย่างสนิทใจ คนที่ทำให้ตอนกลางคืนมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น

     

    เด็กหนุ่มลดผ้าขนหนูลงระดับปลายคางเมื่อหันไปเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก เซฮุนไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนเดียวกับคนที่เขาอยากให้อยู่ในความคิดหรือเปล่า

     

     

    คิมจงอินดูดีแม้กระทั่งยืนอยู่เฉย ๆ เซฮุนคิดอย่างนั้น...

     

     

    คิดว่าผีหลอกซะอีก

     

    น่าตลกชะมัดที่อยู่ ๆ ก็ใจเต้นแรงเพราะจงอินเป็นฝ่ายทักก่อน เด็กหนุ่มตัวผอมยิ้มเจื่อนแม้ว่าอีกคนจะมองไม่เห็นเพราะมุมที่เขายืนอยู่มันย้อนแสงสปอร์ตไลท์ เอาไงดีเซฮุน...ควรเดินไปตรงนั้นเลยหรือว่าควรจะออกปากทักทายก่อนดี

     

    แล้ว...นายกลัวผีไหม

     

    ปัญญาอ่อนน่ะโอเซฮุน...เป็นบ้าหรือไงถึงได้ถามอะไรโง่ ๆ ออกไปแบบนั้น และยิ่งตอนที่จงอินหัวเราะในลำคอเบา ๆ ราวกับว่าเห็นด้วยแล้วก็ยิ่งอยากเอาหัวโขกอ่างล้างหน้าซีเมนต์ให้รู้แล้วรู้รอดจริง ๆ

     

    ถ้าบอกว่ากลัว นายจะเดินออกมาจากมุมนั้นหรือเปล่า

     

    ...

     

    เด็กตัวผอมยืนนิ่งทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากผู้ชายคนนั้น จงอินกำลังเดินมาทางนี้โดยที่เขาไม่ต้องเดินเข้าไปหา แน่นอนว่ามันทำให้โอเซฮุนรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อยราวกับว่าเพิ่งผ่านลำดับขั้นตอนอะไรสักอย่างไป

     

    ขายาวหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มที่ส่วนสูงไม่ต่างกันนัก เขาเห็นว่าจงอินสวมหูฟังไว้แค่ข้างเดียวเท่านั้น โอเซฮุนอยากหัวเราะตัวเองที่คิดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ได้ว่าการที่จงอินสวมหูฟังไว้ข้างเดียวก็เพราะว่าจะใช้หูอีกข้างฟังเสียงของเขาไปพร้อม ๆ กับเสียงเพลง

     

    กะจะซ้อมเต้นถึงเที่ยงคืนเลยหรือไง

     

    เปล่า ตอนแรกไม่ได้ดูนาฬิกาเลยคิดว่าตอนนี้คงเพิ่งสองสามทุ่ม แต่พอเห็นห้องน้ำปิดเลยรู้ว่ามันดึกแล้ว

     

    อ้อ จงอินพยักหน้าแล้วเดินถอยหลังไปทีละก้าว เชื่อเถอะว่าตอนนั้นโอเซฮุนรู้สึกอะไรบางอย่างที่มันไม่ควรเกิดขึ้น อาทิเช่นการอยากรั้งอีกคนไว้ให้อยู่ด้วยกันก่อน ซึ่งเขาเองก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไรจงอินถึงจำเป็นต้องอยู่ต่อกับคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานด้วย

     

    ทำไมถึงเพิ่งกลับล่ะ พวกเรียนเสริมกลับไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ สุดท้ายเซฮุนก็หาทางออกให้กับเรื่องนี้ด้วยการชวนคุย ซึ่งจงอินก็ไม่ได้แสดงออกทางสายตาให้เขาต้องรู้สึกประหม่ามากไปกว่านี้

     

    พอดีแวะไปดูเพื่อนซ้อมว่ายน้ำมาน่ะ อันที่จริงมันโทรตามให้ไปนั่งกินจาจังเป็นเพื่อน

     

    อ๋อ...หวงจื่อเทาใช่ไหม?

     

    รู้จักด้วย?

     

    ก็พอเคยได้ยิน ต้องถามว่ามีใครบ้างที่ไม่รู้จักนายสามคน พูดจบคนฟังก็หลุดยิ้มออกมา

     

    แล้วนี่จะกลับซ้อมต่อเหรอ จงอินถามพลางหันไปมองอาคารเรียนที่เปิดไฟอยู่แค่ไม่กี่จุด

     

    เซฮุนคิดว่าคำถามนี้มันต้องใช้เวลาคิด เด็กหนุ่มไม่รู้ว่ามันคือเรื่องบ้าอะไรแต่เขาต้องการให้คำตอบออกมาแบบที่เราสองคนได้อยู่ด้วยกันต่ออีกสักนิด ซึ่งเซฮุนไม่รู้เลยว่าถ้าหากเขาตอบว่าอยู่ต่อ...จงอินจะขอแยกตัวกลับเลยหรือเปล่า และถ้าบอกว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน...จงอินจะยอมรอเขาวิ่งขึ้นไปเอากระเป๋าสักสามนาทีไหม

     

    ถ้ายังไม่กลับ ฉันขึ้นไปนั่งเล่นในห้องซ้อมด้วยได้หรือเปล่า?

     

     

     

    .

    .

     

     
     

    ในห้องซ้อมสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกว่าห้องเรียนเพียงเล็กน้อยนั้นมีเด็กหนุ่มสองคนนั่งพิงผนังอยู่ฝั่งตรงข้ามอของกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้แม้กระทั่งหลอดไฟที่ติดอยู่ตามเพดาน

     

    ขายาวทั้งสองข้างเหยียดออกอย่างผ่อนคลายก่อนจะคว้าขวดน้ำที่วางอยู่ข้างกระเป๋าเป้ขึ้นมาดื่ม ระหว่างนั้นก็ชำเลืองมองคนข้าง ๆ ที่นั่งชันเข่าขึ้นข้างหนึ่งพลางเคาะปลายนิ้วลงบนหน้าขาอีกข้างที่เหยียดออกมาแล้วก็ได้แต่คิดว่าเพราะอะไรกันนะที่ทำให้เราสองคนได้คุยกันอย่างจริงจังอีกครั้ง ทั้งที่เซฮุนคิดว่าเมื่อเช้ามันอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วแท้ ๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกดีกับการที่คิมจงอินนั่งอยู่ตรงนี้ แม้ว่าจะยังประหม่าอยู่ก็ตาม

     

    กว้างเอาเรื่องนะเนี่ย อยากรู้จริง ๆ ว่าตอนทางโรงเรียนตกลงเรื่องงบประมาณสร้างห้องซ้อมเต้นนี่ต้องระดมทุนกันสักเท่าไหร่ เหมือนจะถามแต่ก็ดูเหมือนว่าจงอินจะพูดกับตัวเองเสียมากกว่า

     

    หลายคนบอกว่ามันไร้สาระ แต่สำหรับฉันมันคือข่าวดีนะ

     

    ก็คงงั้น นี่กลิ่นยังใหม่อยู่เลย สร้างมานานแค่ไหนแล้ว?

     

    เกือบปีแล้ว วันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนหน้าก็ครบหนึ่งปีพอดี

     

    จำได้ด้วย? จงอินหันมาเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย ซึ่งคนถูกถามเพียงแค่อมยิ้มแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ

     

    ถ้าเป็นเรื่องที่ชอบมาก ๆ ฉันก็จะใส่ใจกับมันเป็นพิเศษน่ะ

     

    แสดงว่าไม่ค่อยได้ใช้งานบ่อย ทุกอย่างยังดูใหม่มากจริง ๆ

     

    ฉันใช้อาทิตย์ละสี่วัน ส่วนเด็กในชมรมก็มาบ้าง แต่พวกเราช่วยกันดูแลของน่ะ เพราะถ้ามันโทรมไม่น่าอยู่ก็กลัวจะถูกยุบชมรม

     

    บรรยากาศดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ เซฮุนมองรองเท้าผ้าใบสีขาว-ดำของอีกคนแล้วก็หันมามองรองเท้าของตัวเองซึ่งเป็นสีดำล้วน และที่น่าสนใจคือสีขาวที่ควรจะสกปรกมันกลับดูสะอาดเกินกว่าเด็กผู้ชายคนนึงจะดูแลได้ แต่พอเห็นว่ามันเป็นรองเท้าของคิมจงอิน คนที่ดูแลหูฟังสีขาวเป็นอย่างดีเซฮุนเลยโยนความคิดนี้ทิ้งไป

     

    เมื่อก่อนซ้อมเต้นที่ไหน

     

    อาคารสี่ ในห้องเก็บของยังมีพื้นที่ว่างอยู่เลยซ้อมเต้นได้ เด็กหนุ่มนึกไปถึงเมื่อก่อนตอนที่เริ่มหัดเต้นใหม่ ๆ ตอนนั้นมีกระจกแค่บานเดียวเอง กว้างเท่านี้ เซฮุนยืดแขนออกมาทำท่าประกอบ

     

    ชอบเต้นมากถึงขั้นยอมทนอยู่ในที่อับ ๆ แบบนั้นได้นี่สุดยอดจริง ๆ

     

    นายไม่เคยพยายามเพราะชอบสิ่งนั้นมาก ๆ เหรอ? เซฮุนหันไปถามซึ่งจงอินไม่ได้ตอบทันที เด็กหนุ่มผิวแทนนิ่งไปราวกับว่ากำลังใช้ความคิดก่อนที่เขาจะหันมาส่ายหน้าช้า ๆ งั้นนายก็คงไม่เข้าใจ

     

    ไม่เข้าใจหรอก โทษที

     

    อย่าทำเหมือนมันเป็นเรื่องใหญ่สิ เด็กตัวผอมทำมือปัด ๆ แบบขอไปที

     

    และหลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ถูกความเงียบเล่นงาน ซึ่งดูเหมือนว่าจงอินก็คงรู้สึกได้เช่นกัน แอบรู้สึกแย่อยู่นิด ๆ ที่เป็นคนคุยไม่เก่ง เพราะพอเป็นแบบนี้ก็รู้สึกเห็นใจจงอินที่ต้องมานั่งอยู่กับคนใบ้พูดได้นิดหน่อยอย่างเขา

     

    ที่บอกว่าเคยได้ยินเรื่องฉันกับเพื่อนน่ะ เคยได้ยินมาแบบไหนล่ะ ครั้งที่สองแล้วที่ผู้ชายคนนี้เป็นฝ่ายชวนคุยก่อน เซฮุนเลียริมฝีปากพลางหมุนขวดน้ำในมือเล่นคลายความอึดอัด

     

    กลุ่มพวกผู้หญิงในห้องกรี๊ดกัน พวกเธอบอกว่านายสามคนมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกัน

     

    งั้นเหรอ ยกตัวอย่างเช่น? พอเป็นเรื่องนี้จงอินก็ดูสนใจขึ้นมาทันที ผู้ชายคนนี้หันหน้าเข้าหาเขาราวกับจะกดดันให้เล่ายังไงอย่างนั้น

     

    ฉันไม่รู้ แค่บังเอิญได้ยินมานิดหน่อยเซฮุนชำเลืองมองคนข้าง ๆ ที่ยังไม่ละสายตาไปไหน นายก็รู้ว่าฉันไม่ค่อยมีเพื่อน

     

    แต่ฉันไม่รู้ว่านายกั๊กอะไรไว้หรือเปล่านี่?

     

    ...

     

    บอกมาเถอะน่า ถ้าไม่มีใครติดกล้องวงจรปิดไว้ ที่นี่ก็มีแค่ฉันกับนาย

     

    ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่เด็กหนุ่มผิวแทนจะพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เล่าเถอะ ซึ่งเหตุผลที่เซฮุนไม่อยากเล่านั้นไม่ใช่อะไร เขาก็แค่ไม่อยากรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจนเก็บมาประติดประต่อเป็นเรื่องเป็นราวได้ก็เท่านั้นเอง

     

    พวกเธอบอกว่าชอบคนถ่อย ๆ แบบปาร์คชานยอล ปากดีแต่เท่ชะมัด

     

    ผู้หญิงชอบแบบนั้นกันเหรอ ให้ตายสิ จงอินเบ้หน้าก่อนจะยิ้มขำ

     

    ส่วนจื่อเทาดูท่าจะป๊อปปูล่าที่สุดเพราะเขาเล่นกีฬาเก่ง หุ่นดี ฉันเห็นพวกผู้หญิงในห้องชอบเอารูปในเฟซบุ๊คของเขามาเปิดดู แถมเป็นรูปใส่กางเกงในว่ายน้ำตัวเดียวด้วย

     

    โทษนะ ที่เล่า ๆ มานี่ไม่ใช่แค่บังเอิญไปได้ยินแล้วมั้ง? จงอินหรี่ตามองคนข้าง ๆ ที่กำลังปั้นหน้านิ่งทำตาปริบ ๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขินพลางยิ้มแห้ง ๆ

     

    ก็ฉันนั่งใกล้กลุ่มนั้น

     

    อ่าฮะ แล้วฉันล่ะ?

     

    เซฮุนรู้ว่าคำถามนี้ตอบยากที่สุด หรือความจริงแล้วเขาไม่อยากตอบเพราะส่วนหนึ่งที่เคยได้ยินมามันค่อนข้างที่จะตรงข้ามกับสิ่งที่เขาเห็น ผู้หญิงพวกนั้นบอกว่าจงอินเป็นผู้ชายหุ่นดีน่ากอด เป็นคนเงียบ ๆ ชอบดุคนอื่นทางสายตาแต่นั่นแหละคือเสน่ห์ ยิ่งตอนเวลาถอนหายใจหงุดหงิดก็ยิ่งเท่ พวกเธอบอกว่าอยากเป็นเหตุผลที่ทำให้คิมจงอินยิ้มได้บ้าง เพราะผู้ชายคนนี้ยิ้มแค่ตอนคุยกับเพื่อนถ่อย ๆ อีกสองคนเท่านั้น ซึ่งเขาคิดว่ามันไม่ใช่เลย

     

    พวกเธอบอกว่า... เซฮุนหันเข้าหาอีกฝ่ายที่กำลังมองมาระหว่างรอคำตอบ จงอินชอบดุคนอื่นทางสายตาที่ไหน พวกผู้หญิงคิดไปเองทั้งนั้น นายเป็นคนน่าค้นหา

     

    หืม?

     

    ก็...เธอบอกว่าเห็นนายเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ต่างจากเพื่อนอีกสองคนน่ะ

     

    แค่นี้?

     

    ใช่ เซฮุนยิ้มเจื่อนแล้วลุกขึ้นไปเปิดเพลงเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตากับอีกคน ผิดหวังเหรอที่ไม่ป๊อปเท่าเพื่อนอีกสองคน

     

    เฮ้ ฉันถามเพราะอยากรู้ว่ายังมีอีกหรือเปล่า ไม่ได้ถามซ้ำเพราะผิดหวัง แล้วที่มองแบบนั้นคืออะไร แอบสมน้ำหน้าฉันในใจเหรอโอเซฮุน? เขาเห็นว่าเจ้าของชื่อยิ้มตาหยีหลังจากที่เขาคาดโทษไป พ่อคนป๊อปปูล่า หล่อเหลือเกินตอนเต้นเนี่ย สาวคงกรี๊ดสลบ

     

    งั้นมาเต้นด้วยกันไหม นายจะได้หล่อขึ้น เด็กหนุ่มผิวแทนเบือนหน้าไปอีกทางแล้วแค่นหัวเราะ นี่โอเซฮุนคิดว่าตัวเองหล่อมากนักใช่ไหมเนี่ย

     

    จงอินมองอีกคนที่กำลังเต้นเพลง Move Like Jagger ทั้งจังหวะและสีหน้าของหมอนั่นดูเข้ากันได้ดีอย่างไม่มีจุดบกพร่อง ร่างกายที่พลิ้วไหวบ่งบอกได้ว่าคนตรงหน้าชอบการเต้นมากจริง ๆ เพราะจากที่เคยเห็นไอ้เทาเต้นท่าโง่ ๆ หน้าแสตนด์เชียร์ในงานกีฬาสีปีที่แล้วเขากับไอ้ชานยอลก็พากันลงความเห็นเหมือนกันว่าแข็งทื่อเหมือนท่อนซุงไม่มีผิด และเขาก็ได้รู้ว่าการเต้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

     

    เต้นเป็นไหม?

     

    ฉันไม่คิดว่ามันจำเป็นสำหรับชีวิตน่ะ ถึงคำตอบจะไม่น่าฟังแต่เซฮุนก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเพราะจังหวะดนตรีที่ยังคงเล่นไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

     

    แต่ลองสักหน่อยก็ไม่เสียหายนะ

     

    ไม่เอาล่ะ คนเต้นไม่เป็นให้ลุกไปยืนเก้ ๆ กัง ๆ คงตลกตาย

     

    ก็ไม่ได้ให้เต้นเป็นท่าสักหน่อย ลุกเร็ว เซฮุนกวักมือเรียกคนที่ยังคงนั่งชันเข่าพิงกับผนัง แต่จงอินกลับปั้นหน้านิ่งไม่สนใจ ในห้องนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด ตรงนี้มีแค่ฉันกับนาย เด็กหนุ่มผิวแทนแค่นหัวเราะเมื่อโอเซฮุนเอาคำพูดของเขามาบีบกันซะได้

     

    จงอินวางมือถือที่ยังคงเสียบกับหูฟังไว้กับพื้นก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างเนือย ๆ สาบานเลยว่าถ้าโอเซฮุนทำให้เขาต้องอายงานนี้ได้มีคนตายแน่ มนุษย์ตาสระอิยิ้มพอใจแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะจับแขนทั้งสองข้างให้กางออก

     

    อะไร

     

    จะสอนให้เวฟแขน คนตัวผอมปล่อยมือออกแล้วกางแขนท่าเดียวกันกับเขาก่อนจะเวฟแขนให้ดู อย่างนี้

     

    ฉันทำไม่ได้หรอก ดูสิ อย่างกับหุ่นไล่กา จงอินมองตัวเองผ่านกระจกแล้วก็เวทนาเหลือเกิน

     

    ได้อยู่แล้ว เริ่มจากกำนิ้วลงก่อน เซฮุนทำท่าประกอบขณะมองมือหนาที่ยังเหยียดออกตรงแข็งทื่อเหมือนในทีแรก กำสิกำ

     

    นี่ฉันกำลังทำบ้าอะไรอยู่เหรอ

     

    เถอะน่า... ตั้งแต่รู้จักกันมาได้ไม่กี่วัน พูดคุยกันไม่กี่ประโยค คิมจงอินก็เพิ่งรู้ตอนนี้แหละว่าโอเซฮุนก็อ้อนเป็นเหมือนกันเวลามันต้องการอะไรสักอย่าง ใช่ แล้วก็หักข้อมือลง อ่า...อย่างนั้น แล้วก็งอศอกลง ใช่ ๆ คราวนี้ยกไหล่ขวาขึ้นนะ

     

    เด็กหนุ่มได้แต่คิดในใจว่าถ้าเกิดเพื่อนรักทั้งสองมาเห็นฉากนี้คงได้มีล้อกันยันชาติหน้าเป็นแน่ นี่คิมจงอินกำลังหัดเต้นอยู่งั้นเหรอ มันคือเรื่องตลกในรอบปีชัด ๆ ยิ่งกับคนที่ไม่รู้จักแม้แต่เพลง Good Boy ที่ใครเขาก็รู้จักนั่นน่ะ ถ้าไอ้เทาไม่เปิดกรอกหูอยู่บ่อย ๆ ป่านนี้คิมจงอินคงได้ขายหน้าไปแล้ว

     

    เห็นไหมว่าทำได้ คราวนี้ลองเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นนะ

     

    คิมจงอินควรจะกลับบ้านได้แล้วเขาบอกตัวเองอย่างนั้น แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มเพียงแค่ยืนนิ่ง ๆ แล้วปล่อยให้อีกคนจับแขนเพื่อจัดท่าทางที่ถูกต้องให้จนกว่าการเวฟแขนจะเป็นที่น่าพอใจ มันยากในทีแรกแล้วก็ไม่สนุกเหมือนตอนรัวนิ้วกับเปียโนเลยสักนิด แต่พอคิดว่าไม่อยากเสียฟอร์ม จู่ ๆ คิมจงอินก็เสือกมีความพยายามขึ้นมาเสียอย่างนั้น

     

    เซฮุนกำลังยิ้มอย่างพอใจ บอกให้รู้ไว้ตรงนี้เลยนะว่าเขาหมั่นไส้ตาสระอิของหมอนี่อยู่ไม่น้อยเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ปั้นหน้านิ่งเพราะทำตัวไม่ถูก แต่พอเป็นเรื่องเต้นแล้วเจ้าตัวก็ยิ้มแป้นจนปากแทบฉีกถึงใบหู แต่ที่บ้าไปกว่านั้นคือเขาเสือกลุกขึ้นมาเต้นด้วยนี่แหละ

     

    เซฮุนถามว่ารู้จักเพลงไหนบ้างนอกจากเพลงของ Yiruma ซึ่งมันเป็นคำถามที่ค่อนข้างกวนตีนนะ แต่จากสายตาที่มองมานั่นแหละที่ทำให้คิมจงอินรู้ว่าไอ้หมอนี่มันถามเพราะไม่รู้จริง ๆ

     

    เด็กหนุ่มผิวแทนตอบไปส่ง ๆ ว่ารู้จักกังนัมสไตล์ เพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นแหละคนตัวผอมก็เดินไปเปิดเพลงแล้วพาเขาเต้นท่าควบม้ากันอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนเก็บกด ความกระดากอาย...ฟอร์มจัดที่เคยมีหายไปชั่วเวลาหนึ่งเมื่อสนุกอยู่กับเสียงเพลง จนกระทั่งเราสองคนนอนแผ่หลากลางห้องซ้อมพลางหอบหายใจอย่างหนักนั่นแหละทุกอย่างถึงได้สงบลง

     

    รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

     

    การเต้นไม่ใช่เรื่องน่าอายนะ

     

    นั่นมันสำหรับนาย ไม่ใช่สำหรับฉันไง

     

    อย่าคิดมาก บอกแล้วว่าห้องนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด

     

    ทั้งคู่นอนเหยียดขาไปคนละฝั่ง แต่ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน และที่ทำให้รู้สึกเหมือนเวลาหยุดหมุนก็ตอนที่หันหน้าเข้าหากัน ระยะห่างเพียงน้อยนิดช่างน่าอึดอัดแต่ก็ทำให้ใจเต้นแรงแปลก ๆ

     

    เราควรจะสบตากันแบบนี้ต่อไปไหม หรือควรหันหน้าหนีไปเพื่อหยุดความรู้สึกประหลาด ๆ ในตอนนี้ จงอินไม่ยอมถอยและเซฮุนเองก็ไม่ต้องการอย่างนั้น ถ้าจะมองหน้าผู้ชายคนนี้ต่อไปมันจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ?

     

    นอกจากเพลงของ Yiruma แล้วนายฟังของนักเปียโนคนอื่นบ้างไหม

     

    ฟังสิ

     

    ใครบ้าง

     

    ถ้าบอกแล้วจะรู้จักหรือไง

     

    ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้หรอก แต่ถ้านายบอกฉันก็จะได้รู้จงอินมองแววตาคู่นั้นที่ยังคงไม่ละห่างไปไหนก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบเอามือถือพร้อมหูฟังแถมสมุดปากกามาด้วย เซฮุนลุกขึ้นนั่งแล้วมองคนตรงหน้าด้วยความสนใจเมื่อจงอินยื่นหูฟังอีกข้างมาให้

     

    ของ Frank Mills ชื่อเพลง Music Box Dancer”

     

    เซฮุนทำตาโตก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่นั่งมองราวกับจะรอดูผลว่าเขารู้สึกยังไงกับเพลงนี้ คนตัวผอมอมยิ้มแล้วโยกตัวไปตามจังหวะเหมือนกับเด็ก

     

    ฟังแล้วปากมันก็ยิ้มเอง ยังไงดีล่ะ รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกเทพนิยายเลย ประโยคนี้ทำให้คนตรงหน้ายิ้มตาม เซฮุนพอจะรู้แล้วว่ามีเรื่องไหนในโลกบ้างที่ดูดรอยยิ้มของคิมจงอินได้ ซึ่งก็คงไม่พ้นเรื่องเปียโน

     

    เขาเป็นนักเปียโนชาวแคนนาดา ตอนเพลงนี้เกิดฉันกับนายยังเป็นวุ้นอยู่เลย

     

    รู้ด้วยว่าเขาเป็นคนที่ไหน นายคงชอบเปียโนมากเลยสินะ ได้ยินอย่างนั้นจงอินไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ แล้วเล่นเป็นหรือเปล่า?

     

    นิดหน่อย

     

    ไว้สอนบ้างได้ไหม

     

    ไม่ล่ะเสียเวลา

     

    เด็กตัวผอมทำตาโตอ้าปากหวอทันทีที่ถูกปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย จงอินดึงปลอกปากกาออกแล้วจดอะไรบางอย่างลงไปในสมุดก่อนจะฉีกกระดาษออกมาแผ่นหนึ่งแล้วยื่นให้คนตรงหน้า

     

    ไปนอนฟังเพลงทั้งหมดที่ฉันจดให้แล้วก็แยกให้ได้ว่าเพลงไหนชื่อเพลงอะไร พอถึงตอนนั้นแล้วจะพิจารณาดูอีกทีว่าจะสอนให้ดีหรือเปล่า เซฮุนรับกระดาษมาถือไว้แล้วดูลิสต์รายชื่อเพลง

     

    แค่สี่เพลงเองเหรอ? เด็กตัวผอมมองตามอีกคนที่เดินไปคว้ากระเป๋าเป้ขึ้นมาสะพายก่อนจะกระชับปกเสื้อ

     

    ง่ายไปหรือไง

     

    หรือนายจะบอกว่ามันยาก...ฉันไม่ได้จะอวดเก่งนะแต่แค่สี่เพลงวันเดียวก็แยกออกแล้วเซฮุนตะโกนไล่หลังอีกคนที่ตอนนี้เดินไปหยุดอยู่หน้าประตูแล้ว เด็กหนุ่มผิวแทนหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะดึงประตูเข้าหาตัว

     

     
     

    จำได้เร็วเท่าไหร่ก็จะได้สอนเร็วขึ้นเท่านั้น อย่าให้ฉันต้องรอต้องพิจารณานานเกินไปล่ะ

     

     

     

     

    TBC

     

     

    สุขสันต์วันเกิดคิมจงอิน <3

     

     

    โถ เขียนบทจงอินเป็นคนเต้นไม่เป็นแล้วก็ขรรม 55555555555555555

    หลังจากหายหน้าไปหลายวัน ตอนนี้จะกลับมาเขียนฟิคแล้วนะคะ เรียกแรงบันดาลใจกลับมาได้แล้ว ขออภัยที่ห่างหายไป แล้วก็ขอบคุณทุกท่านที่ยังติดตามฟิคของเราอยู่นะคะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×