ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GUESS WHO? #คนไหนแฟนเรา | CHANBAEK & HUNBAEK

    ลำดับตอนที่ #21 : CHAPTER 20 :: ซวยจนต้องท่องนโมสามจบ (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.72K
      83
      28 พ.ค. 59

    (c) Chess theme

     

     

    CHAPTER 20

    ซวยจนต้องท่องนโมสามจบ

     
     

     

     

    วันนี้อากาศดีไหม

    ไม่ มันแย่ไปหมดเลย อาจเป็นเพราะผมกำลังรู้สึกไม่ดีอยู่ล่ะมั้ง ผมเลยคิดว่าทุกอย่างมันดูแย่ไปหมด

    ทำไมถึงคิดว่าแย่ อะไรบอกคุณแบบนั้น?

    ความรู้สึกของผม

    ครับ

    มันบอกว่าผมประหลาด โรคจิต หมอไม่คิดแบบนั้นเหรอ?

    ถ้าบอกว่าไม่ คุณจะเชื่อผมไหม?

    ไม่

    อะไรที่ตัดสินว่าคุณเป็นโรคจิตครับ?

    มีคนปกติที่ไหนชอบน้องชายฝาแฝดตัวเองบ้างล่ะหมอ? สังคมก็ตัดสินแบบนั้น และผมก็เหมือนกัน

    ทุกคนต่างมีความชอบ ทำไมคุณถึงคิดว่ามันไม่ปกติล่ะแบคฮยอน?

    หมอ นั่นน้องชายผม เราออกมาจากท้องแม่เดียวกัน เขาออกไปดูโลกก่อนผมแค่ห้านาที

    ความชอบของคุณอาจจะเป็นความห่วง ความเอ็นดูหรือเปล่า? มันมีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกเป็นกังวล หรือสิ่งที่ทำอยู่ว่ามันไม่ปกติ?

    มันถูกที่ผมเป็นห่วงน้อง แต่ที่น่ากังวลคงเป็นเรื่องที่เราเกือบเกินเลยกัน เหมือนที่ผมเคยเล่าให้หมอฟังเมื่อตอนนั้น เราใช้มือกับปากทำอย่างว่าให้กันตอนอาบน้ำ

    เพราะคุณเป็นฝาแฝด เลยมีความไว้วางใจกัน ถูกต้องไหม? หลายเรื่องที่คุณกับน้องคุยกันสองคน หรือทำอะไรอื่น ๆ ด้วยกัน มันคือเรื่องปกติ เพราะความไว้วางใจ

    ...

    ในกรณีที่คุณบอก ก็ใช่ที่ไม่ควร แต่มันก็ไม่ผิดที่จะทำเช่นกัน ถ้าอีกฝ่ายมีความไว้ใจ และต้องการปลดปล่อยอารมณ์ของวัยรุ่น ซึ่งคุณก็มี

    แล้วถ้าผมมีความคิดอยากทำมากกว่านั้น มันหมายความว่าผมเริ่มจะเกินขอบเขตแล้วใช่ไหม? ผมควรเลิกทำทุกอย่าง เลิกจูบ เลิกกอด เลิกข้ามไปนอนเตียงเดียวกับน้องใช่หรือเปล่าหมอ?

    เพราะคุณหวงน้องหรือเปล่าครับ มันมีอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้น หรือน้องคุณไม่ปลอดภัย?

    ไม่รู้สิ

    คุณกลัวว่ามันจะเกินเลย แต่คุณกลับมากังวลในช่วงระยะนี้ ผมคิดว่ามันอาจจะมีเหตุผลอื่นหรือเปล่าแบคฮยอน?

    อาจจะ -- ผมคิดว่าคงเป็นอย่างนั้น เขากำลังชอบคน ๆ หนึ่งอยู่ ที่จริงผมก็รู้สึกมาสักพักแล้ว แต่ครั้งนี้มันรุนแรงที่สุด อาจเป็นเพราะป๋ายเซียนมันจริงจัง

    คุณกลัวอะไรอยู่?

    ผมไม่รู้

    คุณกลัวว่าป๋ายเซียนจะไม่ปลอดภัยจากความรู้สึกของคุณ หรือจากคนอื่นที่จะมาแย่งความรักความห่วงใยที่เคยมีให้คุณไป?

    ทั้งสองอย่าง

    แบบไหนมากกว่ากันครับ?

    ...

    ถ้าแบบหลัง คำตอบเป็นเพราะความรักของฝาแฝด ความสนิทที่มี คุณหวงน้อง น้องก็คงหวงคุณ แต่คนเราแค่แสดงความหวงออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน จนบางทีเราเลือกปฏิเสธและโยนความผิดไปให้ความรู้สึกอื่น เช่นการที่คุณคิดว่าตัวเองกำลังคิดเกินเลยกับน้อง

    ผมกลัวเขาเสียใจ ทั้งจากตัวผมเองและคนอื่น ที่ไม่รู้ว่าถ้าคบกันไปแล้วจะเบื่อน้องผมเมื่อไหร่

    คุณเคยปั่นจักรยานไหมแบคฮยอน?

    ...

    ไม่เคยมีใครปั่นฉิวตัวเบาได้ในครั้งแรกหรอก มันต้องมีล้มกันบ้าง

    ...

    ถ้าป๋ายเซียนไม่ได้ลองเจอกับสิ่งแปลกใหม่ เรียนรู้กับประสบการณ์ชีวิตด้วยตัวเอง เขาจะเข้มแข็งได้ยังไง

    มันหมายความว่าผมต้องปล่อยให้เขาเสียใจดูสักครั้งเหรอ?

    ไม่ใช่อย่างนั้น

    ...

    แต่คุณควรเรียนรู้ที่จะยืนดูอยู่ห่าง ๆ มองเขาปั่นจักรยาน และเข้าไปช่วยตอนเขาล้มเป็นแผล

    มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ

    ทำไมคุณไม่คิดว่าป๋ายเซียนจะสมหวังและมีความสุขกับความรักครั้งนี้ล่ะครับ?

    ...

    มือเรามีสองด้าน ถ้าเอาแต่ยันมันลงกับโต๊ะ คุณก็จะไม่รู้เลยว่าฝ่ามืออาจจะเจ็บและแดงอยู่ เพราะตอนนั้นคุณกลัวแค่ว่าจะมีอะไรในโลกที่จะมาทำให้ฝ่ามือคุณเป็นรอย คุณเลยให้หลังมือป้องกันมัน

    ...

    สุดท้ายมันก็เจ็บทั้งคู่นะแบคฮยอน

    ...

    แต่ถ้าคุณเลือกปล่อยมือบ้าง กำมือบ้าง คุณกับน้องอาจจะสบายใจมากกว่านี้ก็ได้นะครับ

    แล้วความรู้สึกของผมล่ะ ทำยังไงมันถึงจะหายไป?

    ใช้ความเชื่อของคุณ เพื่อเรียนรู้ที่จะให้โอกาสตัวเองและคนอื่นสิ พอถึงตอนนั้นความกลัวของคุณอาจจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มก็ได้นะ

     

     

     
     

     

    มึงขึ้นมาบนนี้บ่อยไหม?

     

    อืม ตอนเป็นเด็กน่ะ

     

    ขึ้นมาทำอะไร นับดาวเหรอ ถ้าใช่คือมึงจะสาวมากนะ

     

    ตลกละ กูแค่ชอบอากาศตอนกลางคืน ทันทีที่พูดจบ เซฮุนก็หันไปมองคนข้างตัวที่นอนเคี้ยวขนมกลั้วหัวเราะอยู่บนฟูกนุ่มตัวใหญ่ที่สามารถทำให้เราทั้งคู่นอนด้วยกันได้โดยไม่ต้องเบียดกัน

     

    คนตัวเล็กยังคงจดจ้องอยู่กับความมืดในยามค่ำคืนบนดาดฟ้าของบ้านเซฮุน แบคฮยอนยังคงไม่มีท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม หลังจากตัดสินใจเล่าความลับให้ฟังโดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ

     

    ผ่านพ้นจากวันนั้นมาได้แค่สองอาทิตย์ ที่ชายหนุ่มตัวผอมคอยติดตามอีกฝ่ายอยู่ห่าง ๆ ทั้งในแบบที่ให้รู้ตัวและไม่รู้ตัว มันอาจเป็นเรื่องบ้าในสายตาคนอื่นที่เขาไม่สามารถปล่อยวางได้ ชายหนุ่มไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลก กับการให้คนที่ชอบอยู่ในระยะสายตาตลอด เพื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยังสบายดี

     

    การสอบปลายภาคของแบคฮยอนสิ้นสุดที่วันนี้ ในขณะที่เขามีเวลาว่างหลังปิดเทอมแล้วถึงสองวัน คนตัวเล็กตัดสินใจหอบกระเป๋าเป้มาค้างด้วยกันมากกว่าไปฉลองกับเพื่อนในร้านเหล้า ในทีแรกเขาคิดว่าแบคฮยอนมาเพื่อชวนดื่มโดยเฉพาะแต่เจ้าตัวกลับบอกว่า

     

     

    ถ้าให้เล่าตอนมีสติอยู่คงดีกว่า ถ้าเมาแล้วพูด กูกลัวมันจะเยอะเพราะอินเนอร์

     

     

    ทั้งเรื่องพบจิตแพทย์ เรื่องความรู้สึกเกินเลยที่มีต่อน้องชายฝาแฝด ความผิดปกติทางจิตใจตนเอง และความรักของบยอนป๋ายเซียนกับปาร์คชานยอลที่ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นไปตามลำดับ

     

    จะทำไงต่อ

     

    ไม่รู้ แต่คืนนี้ขอค้างด้วยก่อน ห้ามไล่กูด้วย ไอ้เตี้ยเบอร์หนึ่งยังคงปากดีได้ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้โอเซฮุนคงหลงเชื่อแล้วคิดไปว่าอีกฝ่ายคงไม่เป็นอะไร แต่ต้องไม่ใช่ตอนที่เขารู้ความจริงทั้งหมดแล้ว

     

    พรุ่งนี้ล่ะ?

     

    เห็นว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน ถ้าไอ้ป๋ายมันโทรมาบอกว่าจะค้างบ้านไอ้ชานยอลกูถึงจะกลับบ้าน คำตอบของอีกฝ่ายเหมือนคนสิ้นไร้หนทาง ซึ่งเขาพอจะเข้าใจความรู้สึกนั้น ที่ต้องทนนั่งอยู่บนพื้น ช่วยป๋ายเซียนทำโมเดลชิ้นสุดท้ายก่อนปิดเทอม โดยมีปาร์คชานยอลเข้าไปช่วย

     

    แบคฮยอนเล่าว่าสองคนนั้นไม่ได้สวีทหวานจนออกนอกหน้า กลับกันแล้วยังดูกระอักกระอ่วนและขลาดอายต่อกันขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเคยไปค้างบ้านไอ้ชานยอลจนเกือบได้เสียกัน และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คนพี่ทนมองสายตาที่เอาแต่ลอบมองกันและกันไม่ได้ เจ้าตัวจึงตัดสินใจมาหาเขาหลังจากส่งงานของน้องชายเรียบร้อยแล้ว

     

    มะรืนก็จะถึงวันเกิดมึงแล้วสิ?

     

    พูดแล้วเครียด คนตัวเล็กยกท่อนแขนขึ้นก่ายหน้าผาก กูควรบอกมันไปฉลองกับไอ้ชานยอลให้รู้แล้วรู้รอดเลยดีไหมวะ

     

    มึงอยากให้เป็นแบบนั้นเหรอ?

     

    เปล่า กูอยากอยู่กับมันสองคนเหมือนทุกปี คนตัวเล็กหันมาสบตากัน และเขาเชื่อว่าคงไม่มีอะไรจริงไปกว่าเรื่องที่พูดออกมาอีกแล้ว

     

    งั้นก็พูดไปเลยสิ ใช้สันดานความเอาแต่ใจของพี่ชายฝาแฝดเข้าสู้ เซฮุนพูดหน้าตาเฉย ซึ่งแบคฮยอนก็ดูจะชั่งใจอยู่ไม่น้อย

     

    ไม่ทันแล้ว ก่อนหน้านี้ไอ้ชานยอลถามกูว่าขอมาเสือกวันเกิดด้วยได้ไหม อารมณ์คงอยากอยู่กับไอ้ป๋ายในวันเกิด แต่มาขอกูก่อนเพราะเสือกอยากเป็นคนมีมารยาทขึ้นมา ตอนนั้นสมองฝ่ายดีบอกว่าถ้ากูปฏิเสธไปไอ้ป๋ายต้องหงอยแน่ ๆ แล้วมันก็จะย้อนแย้งกับที่กูพยายามให้มันสองคนกลับมาคุยกัน

     

    สรุปมึงก็เลยผายมือให้มันเข้ามาร่วมปาร์ตี้วันเกิดด้วย?

     

    ก็ไม่ถึงกับปาร์ตี้ ก็แค่ไปกินข้าว เที่ยวเล่นขำ ๆ จนกว่าจะหมดวันเกิดกันสองคน

     

    ก็ลองคิดดูว่าถ้ามีไอ้ชานยอลเพิ่มไปอีกคน มึงจะรู้สึกกร่อยหรือเปล่า?

     

    แหงดิ

     

    แล้วให้มันมาด้วยทำไม

     

    ก็กูอยากให้ไอ้ป๋ายมีความสุขอะ กูรู้ว่าลึก ๆ มันก็คงอยากอยู่กับแฟนในวันเกิดบ้างสักปี แบคฮยอนกำขนมในซองแล้วยัดเข้าปากคำใหญ่ เจ้าตัวนิ่งไปพร้อมเคี้ยวขนม ก่อนจะหันมาสบตากับเขาอีกครั้ง ใครมันจะอยากอยู่กับพี่ชายฝาแฝดพี่ตลอดชีวิต มีแฟนก็ต้องอยากอยู่กับแฟนเปล่าวะ กูพูดถูกไหม

     

    เลอะเทอะ

     

     “หล่อเลยดิ

     

    ถุย

     

    โห ไม่ปลอบใจแล้วยังซ้ำเติมอีกเหรอ มึงนี่มันชั่วจริง ๆ โอเซฮุน แบคฮยอนกำขนมในซองแล้วเขวี้ยงใส่ผู้ชายหน้านิ่งที่หลับตาลงเพียงครู่เดียว ก่อนจะปัดเศษขนมที่ติดอยู่ปลายจมูกตัวเองอย่างใจเย็น

     

    ถ้าอยากให้ปลอบ มึงคงไม่พูดเหมือนไม่รู้สึกอะไรแบบนี้หรอกมั้ง

     

    เพราะกูรู้ว่าถ้าเป็นไปได้ มึงก็ไม่อยากปลอบกูไง ชายหนุ่มตัวผอมมองคนข้าง ๆ ที่เหยียดตัวนอนลงไปพร้อมเอาขาก่ายขาเขาด้วยท่าทีสบาย ๆ ซึ่งมันก็ใช่ โอเซฮุนอยากเห็นแบคฮยอนสบายใจมากกว่าต้องมานั่งคิดว่าต้องทำยังไงอีกฝ่ายถึงจะรู้สึกดีขึ้น

     

    เคี้ยวให้หมดก่อนเถอะ สกปรกจริง ๆ ชายหนุ่มผลักหัวคนข้าง ๆ อย่างรังเกียจ เขาพอใจกับแก้มบวม ๆ ซึ่งอัดไปด้วยขนมที่มาพร้อมสายตาคาดโทษ ซึ่งมันดีกว่าแววตาหงอย ๆ ที่ไม่เข้ากับใบหน้าซน ๆ นั่นเอาเสียเลย

     

    ตอนเป็นเด็กพ่อซื้อของขวัญให้แค่กล่องเดียว เพราะอยากให้กูกับน้องรู้จักแบ่งกันใช้ แล้วมึงอะ ตอนเด็ก ๆ ได้อะไร

     

    ของเล่น เกม เครื่องบินบังคับยันเทดดี้สีน้ำตาลที่ตัวเท่ากูตอนอายุห้าขวบ

     

    โห น่าร๊ากอ้า มึงต้องตั้งชื่อให้ตุ๊กตาหมีแล้วคุยกับมันก่อนนอนด้วยแน่ ๆ กูรู้ แบคฮยอนปั้นหน้าปั้นตาอ้อร้อ ยกมือขึ้นตั้งการ์ดพร้อมรอยยิ้มทันทีที่เห็นว่าเซฮุนจะผลักหัวเขาอีกครั้ง

     

    มึงไม่เคยมีตุ๊กตาหรือไง กูคิดว่าหลายคนคงเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว

     

    ไอ้ป๋ายน่ะใช่ แต่กูไม่เคย อย่างมากแค่เอาไปเป็นสัตว์ประหลาดตอนเล่นกันดั้ม คนตัวเล็กหรี่ตาพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ น่ารักนะเราอะ

     

    มันเป็นเรื่องที่ทำให้รู้ว่ากูเคยมีวัยเด็ก ทุกคนก็เคยไร้เดียงสามาก่อน ถ้ามึงไมได้เกิดมาแล้วโตเลยน่ะนะ? เซฮุนสบตากับคนตัวเล็กที่ดูเหมือนว่ามีแผนจะแกล้งเขาเพื่อดึงเอาความสนุกไปกลบทับความเศร้าในใจตัวเอง ซึ่งคราวนี้เขาเต็มใจ ถ้าหากว่ามันจะช่วยอะไรอีกฝ่ายได้

     

    แหม่ พูดเหมือนตอนนี้กร้านโลกแล้ว ในสายตากู มึงคือผู้ชายไร้เดียงสาคนนึงที่แสดงออกให้เห็นว่าโอเคกับความรู้สึกตัวเอง ทั้งที่จริง ๆ มึงก็คงเซ็งที่กูเป็นแบบนี้ แบคฮยอนผิวปากปิดท้าย แล้วกลับไปนั่งดี ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

     

    ชายหนุ่มปล่อยให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างนั้นโดยที่ไม่พูดอะไร ซึ่งมันก็คงเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขานั้นไร้เดียงสาต่อเรื่องความรักจริง ๆ หากเป็นคนอื่นคงล้มเลิกและหันไปมองคนที่พร้อมจะรับความรู้สึกของเราไว้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น โอเซฮุนก็รู้สึกดีกับการเป็นคนแบบนี้ แต่ที่ทำให้หัวเสียก็คงเป็นประโยคหลังของแบคฮยอน เพราะเขาไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด

     

    ถนัดนักล่ะเรื่องคิดแทนคนอื่นคนตัวเล็กหันไปมองเจ้าของคำพูดที่อยู่ ๆ ก็นึกคว้าขวดเบียร์ขนาดเหมาะมือขึ้นมากระดก ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ดื่มแค่โคล่า

     

    โกรธกูเหรอ เอ่เอ๊ หยอกเล่นเอง

     

    สิ่งเดียวที่ทำให้กูเซ็งคือเรื่องที่มึงคิดว่ากูรู้สึกอย่างอื่นมากกว่าชอบมึง จำใส่กะโหลกไว้ด้วย

     

    อ๊า โดนสารภาพรักอีกแล้ว คันหูเลย แบคฮยอนขมวดคิ้ว แกล้งเอานิ้วก้อยแคะหูพลางพึมพำก่อนจะชำเลืองมองคนตัวผอมที่ยกเบียร์ดื่มอึก ๆ ราวกับย้อมใจ

     

    เขาปล่อยให้อีกฝ่ายดื่มอยู่อย่างนั้น ก่อนจะยื่นมือเข้าไปหวังจะจี้คอให้จั๊กจี้จนสำลักเล่น แต่มือเล็กก็หยุดชะงักเมื่อเซฮุนละขวดเบียร์ออกแล้วหันมาสบตากับเขา โอ้... ไอ้เวรนี่ล่อไปจนเกือบหมดขวดเลยเหรอ วันนี้คนที่อยากเมาคือเขาหรือมันกันแน่วะ

     

    ถ้ามึงรู้สึกไม่ดีที่ปาร์คชานยอลเข้าไปแทรกในวันเกิดมึงสองคน

     

    คนตัวเล็กเลิกคิ้ว ก่อนจะหลุบสายตามองมือตัวเองซึ่งถูกไอ้คนใสซื่อในเรื่องความรักคว้าเอาไว้ มันก็ไม่แน่นมาก แต่ก็คงดึงออกไม่ได้ง่าย ๆ ในตอนนี้แน่

     

    ชวนกูสิ

     

    ...

     

    วันนั้นคนไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกแถมโง่อย่างกูน่ะว่างเพื่อมึงอยู่แล้ว

     

     

     

    50%
     

     

    สำหรับเด็กสถาปัตย์ที่ทุ่มเทเวลากับงานไปเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ในชีวิต และที่เหลือแบ่งให้การนอนและสิ่งรอบตัว เขาจึงค่อนข้างตื่นเต้นกับวันหยุดปิดเทอมที่มีนัดออกไปข้างนอกมากกว่าการฝังตัวอยู่ในห้องแล้วก้มหน้าก้มตาเดทกับโมเดล

     

    แม้จะอยากถามความเห็นพี่ชายเรื่องการแต่งตัว หรือถามอะไรโง่ ๆ ให้อีกฝ่ายหลอกด่าเล่น แต่ป๋ายเซียนก็ทำได้แค่มองเตียงว่างเปล่าฝั่งตรงข้าม แม้จะกังวลด้วยเหตุผลที่ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ความรู้สึกเหล่านั้นก็จางลงเมื่อเซฮุนส่งข้อความมาบอกว่าแบคฮยอนยังคงหลับอยู่

     

     

    อย่างน้อยไอ้ขี้เมาก็อยู่กับคนที่ไว้ใจได้

     

     

    สองขาเดินไปตามทางเนิน วันนี้ทุกอย่างโดยรอบดีไปหมด ยกเว้นหัวใจของบยอนป๋ายเซียนที่มันเต้นแรงจนน่าหงุดหงิด จริงอยู่ที่วันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวกับชานยอล แต่หลังจากที่กลับมาคุยกันอีกครั้ง คนตัวเล็กก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

     

    ผู้ชายคนนั้นก็ยังคงเป็นปาร์คชานยอลนั่นแหละ แต่ที่ต่างออกไปก็คงเป็นแววตาคู่นั้นที่มองมาอย่างมีความหมาย การเอาใจใส่ซึ่งมันต่างจากเมื่อก่อนตรงที่เป้าหมายเคยมีแค่เรื่องเซ็กซ์

     

    เราไม่ค่อยได้เจอกัน แต่จะโทรคุยแช่สายกันไว้เสียมากกว่า มีบ้างที่ชานยอลขอมาช่วยทำโมเดลหลังจากเจ้าตัวเคลียร์งานของตนเองเสร็จ แต่มันก็น่าเป็นกังวลอยู่ดี ป๋ายเซียนกลัวอีกฝ่ายเบื่อที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้

     

    ชานยอลอ่อนโยนมากกว่าเมื่อก่อน จากที่เคยถึงเนื้อถึงตัวอย่างง่ายดาย ก็เปลี่ยนเป็นรักษายะยะห่างแต่เพียงพอดี ไม่ให้ใกล้เกินไป แต่ก็ไม่ห่างจนรู้สึกอึดอัด

     

    ผู้ชายที่เคยหลงตัวเองจนดูบ้าบอ เปลี่ยนเป็นคนขี้เขินที่แค่เดินจับมือกันก็เหงื่อออกจนชุ่มไปหมด ป๋ายเซียนไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้ชานยอลเป็นแบบนั้น กระทั่งอีกฝ่ายให้เหตุผลมาว่า

     

     

    ตั้งแต่รู้ตัวว่าอยากจริงจังกับป๋าย ร่างกายมันก็แสดงออกมาแบบนี้เอง ขนาดตอนจับมือกันแบบนี้ เรายังคิดเลยว่าป๋ายจะอึดอัดไหม?

     

     

    เป็นเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ปาร์คชานยอลเคยบอกกับตัวเองว่าจะเห็นแก่ตัวยังไงก็ได้เพราะอีกไม่นานก็เปลี่ยนไปควงคนใหม่อยู่ดี ผู้ชายคนนั้นไม่กล้าจริงจังกับใคร และพอได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง ป๋ายเซียนจึงเข้าใจคำว่าเริ่มต้นใหม่เป็นยังไง

     

    คนตัวเล็กหยุดยืนหน้าป้ายรถเมล์พลางมองนาฬิกาข้อมือ ซึ่งการไปถึงที่หมายก่อนเวลาคงเป็นเรื่องดีกว่าปล่อยให้ชานยอลต้องรอ เมื่อคืนเฟซไทม์คุยกันจนดึก รู้ตัวอีกทีตื่นมาแบตก็หมดแล้วเพราะเผลอหลับไป ไม่รู้ป่านนี้อีกฝ่ายจะตื่นหรือยัง

     

    ...!!”

     

    ป๋ายเซียนสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ ๆ ก็รู้สึกถึงมืออุ่น ๆ ที่คาดตาเขาเอาไว้ พอแกะออกก็หันไปเห็นใบหน้าหล่อของคนตัวสูงที่โน้มมาจากด้านหลัง พร้อมกลิ่นหอมประจำตัวที่ทำให้เขินทุกครั้งที่อยู่ใกล้

     

    ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ เรานัดกันสิบเอ็ดโมงที่หน้าโรงหนังนี่

     

    เซอร์ไพรส์ไงป๋าย ใจเต้นแรงเลยล่ะสิ

     

    หูย เอาอะไรมาเต้น คนตัวเล็กผละออก ก่อนจะชกอกแกร่งเบา ๆ ไปหนึ่งที ชานยอลแสร้งนิ่วหน้าเจ็บ กุมอกตนเองไว้ก่อนจะหลุดขำออกมาขณะมองใบหน้าน่ารักของแฟนจะมารับเราก็ต้องเซอร์ไพรส์เหรอ จอดรถไว้ตรงไหนอะ

     

    ชายหนุ่มมองอีกคนที่ชะโงกมองหาน้องพอร์ชคู่ใจ ก่อนที่เขาจะส่ายหน้าเป็นคำตอบเราไม่ได้เอามา

     

    เอ้า แล้วมาหาเรายังไง?

     

    แท็กซี่ครับ

     

    แท็กซี่? ป๋ายเซียนเลิกคิ้ว ก่อนจะก้มลงมองมือตัวเองที่ถูกอีกคนจูงให้เดินขึ้นรถเมล์ด้วยกัน ทั้งคู่ยังคงเลือกนั่งเบาะด้านหลังอย่างเช่นเคย

     

    พอไม่ขับรถแล้วก็ทำแบบนี้ได้ถนัดหน่อย คนตัวสูงยักคิ้ว สอดประสานมือกับเรียวนิ้วจนแทบไม่เหลือช่องว่างให้อากาศวิ่งผ่าน

     

    มือของเราทั้งคู่มีพลาสเตอร์แปะตามนิ้วลายเดียวกัน หลังจากได้แผลเพราะนั่งทำโมเดลชิ้นสุดท้าย ป๋ายเซียนย่นจมูกแก้เขิน เอนศีรษะซบลงกับไหล่กว้างของเขา

     

    ชานยอลไม่ได้แกะออกก่อนอาบน้ำเหรอ

     

    เกือบแล้ว แต่พอคิดว่าป๋ายแปะพลาสเตอร์อยู่คนเดียวเราเลยยอมซกมกเป็นเพื่อนก็ได้ อ๊า!” ชายหนุ่มนิ่วหน้า ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเพราะถูกคนตัวเล็กงับแขนเข้าให้

     

    เรามีอันใหม่ เป็นไปได้เหรอที่คนเราจะยิ้มออกมาได้เพียงเพราะมองศีรษะทุยของคนข้าง ๆ ที่กำลังค้นหาซองพลาสเตอร์ในกระเป๋า แล้วค่อย ๆ แกะอันเก่าออกเพื่อแปะอันใหม่ให้เขาอย่างเบามือ 

     

    แบ่งบ้างสิ เดี๋ยวติดให้

     

    โลกกำลังเป็นสีชมพูเหรอ ปาร์คชานยอลรู้สึกเหมือนทุกอย่างโดยรอบมันฟุ้งไปหมด เพียงเพราะอีกฝ่ายยื่นมือมาอย่างว่าง่าย อีกทั้งยังดึงแผ่นเก่าออกเองอย่างไม่กลัวเจ็บ เขาชักจะเมื่อยแก้มแล้ว ป๋ายเซียนยังคงทำให้เขายิ้มมาจนถึงวินาทีนี้

     

     
     

     

     

    เดทวันหยุดช่วงปิดเทอมเป็นไปอย่างเรียบง่าย ทั้งดูหนัง กินข้าว ป๋ายเซียนยังคงกินเก่งและเขาชอบที่จะนั่งมอง เราเล่นเกมตู้ด้วยกันอย่างออกรส แม้ชานยอลจะแอบหันไปสังเกตสีหน้าคนตัวเล็กอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอึดอัดหรือฝืนใจอยู่เลย

     

    หนำซ้ำป๋ายเซียนยังพูดอย่างออกรสว่าสมัยเรียนมัธยมเคยเล่นเกมนี้ แต่ชานยอลมีทั้งแผ่นเกมและการ์ตูนทุกเล่ม ชายหนุ่มเห็นแววตาทอประกายของอีกฝ่ายที่คาดว่าคงไม่ใช่การแสดงออกเวอร์ ๆ เพื่อเอาใจพวกบ้าการ์ตูนอย่างเขา ดังนั้นชานยอลจึงใช้เรื่องนี้อ้างให้ป๋ายเซียนไปที่บ้านด้วยกัน

     

    โห นี่มันคลังแสงชัด ๆ อะ

     

    คนตัวเล็กเบิกตากว้าง ลูบมือไปตามชั้นหนังสือการ์ตูนขนาดใหญ่ซึ่งทำจากไม้ชั้นดี บ่งบอกถึงความใส่ใจของชานยอลที่มีต่อสิ่งของเหล่านี้

     

    ชายหนุ่มคิดว่าเป็นจังหวะดีถ้าเขาจะทำอะไรสักอย่างในขณะที่ป๋ายเซียนกำลังให้ความสนใจหนังสือการ์ตูนแล้วนั่งจมปุกลงกับพื้น ก้มหน้าก้มตาอ่านอย่างจริงจัง เขาจึงค่อย ๆ เดินออกไปข้างนอกเพื่อโทรหาเพื่อนสนิทที่คาดว่าตอนนี้คงเร่ร่อนอยู่ข้างนอก

     

    พอคุยกันได้ใจความก็เดินกลับเข้ามาในห้องซึ่งมีทั้งโซนหนังสือการ์ตูนและโซนหนังสือเชิงวิทยาศาสตร์ มนุษย์ต่างดาว รวมถึงฟิกเกอร์มากมายที่อยู่ในตู้กระจกที่เขาสะสมไว้ตั้งแต่เด็ก

     

    เอามานั่งอ่านตรงนี้สิ ชานยอลนั่งลงบนโซฟาเบดสีน้ำตาล ตบเบาะปุ ๆ ซึ่งป๋ายเซียนก็หอบการ์ตูนสี่ห้าเล่มแนบอกไปหาอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย

     

    ชายหนุ่มเหยียดแขนลงกับพนักวาง ปล่อยให้คนตัวเล็กบดเบียดตัวเข้าหาเขาพร้อมซบศีรษะลงมา คงไม่ต้องกังวลแล้วว่าป๋ายเซียนแกล้งทำเป็นชอบสิ่งเดียวกับเขาเพื่อเอาใจอะไรแล้ว เพราะจนถึงตอนนี้สายตาของอีกฝ่ายยังคงไม่ยอมละห่างจากการ์ตูนในมือขึ้นมามองเขาเลยสักวินาทีเดียว

     

    เอาไปอ่านที่บ้านไหม

     

    อ่านที่นี่แหละ

     

    มันเยอะนะ ป๋ายคงต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะอ่านครบทุกเล่ม

     

    เราจะได้หาเรื่องอ้างมาบ้านชานยอลบ่อย ๆ ไง

     

    งั้นคงได้มาอีกเป็นสิบปีแน่ ๆพูดจบก็จูบขมับแช่ไว้ แต่ดูเหมือนว่าความมันเขี้ยวที่มีต่อแฟนตัวเล็กจะไม่จางหายไป เมื่ออีกฝ่ายบดเบียดศีรษะเข้าหาราวกับว่าไม่อยากให้เขาถอนริมฝีปากออก มันเขี้ยวจัง

     

    กอดเราด้วย ป๋ายเซียนไม่ควรพูดจาออดอ้อนในเวลาแบบนี้ พ่อแม่ยิ่งไม่อยู่บ้าน ห้องก็เงียบ แอร์เย็น ๆ มันเหมาะแก่การคิดเรื่องลามกมากไม่รู้เลยหรือไง ชานยอลถอนหายใจหนัก ๆ พลางสอดแขนเข้าเอวคนตัวเล็ก ประคองให้ขยับเข้ามานอนตรงหว่างขาเขาพร้อมหลับตาลงเพื่อสงบสติอารมณ์

     

    แม้ว่าจะหื่นแค่ไหน แต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้เพราะอยากให้ความสัมพันธ์กับป๋ายเซียนมันต่างจากคนอื่น ๆ แล้วดู... ไม่ช่วยแล้วยังจุดไฟอีก ต้นคอขาว ๆ นี่ก็น่าซุกไซ้เหลือเกิน อยากขบให้เป็นรอยแต่ก็กลัวโดนฝั่งพี่ชายฝาแฝดฆ่าเอา

     

    วันนี้ตัวเองเบื่อไหม?

     

    ไม่อะ จะเบื่อได้ไง แต่เดี๋ยวนะ -- เมื่อกี้ชานยอลเรียกเราว่าอะไร? คนตัวสูงเบิกตาค้าง เมื่ออีกฝ่ายหันหน้ามาพร้อมคำถามประมาณว่า ชานยอลพูดส้นตีนอะไรออกมาอะ ชายหนุ่มมอง ๆ หลบ ๆ สายตาคนตัวเล็กซึ่งดูเหมือนว่าจะโคตรผวากับสรรพนามแทนตัวที่เขาเพิ่งลั่นออกไปเมื่อครู่

     

    ก็เค้ากับตัวเองไง แฟนกัน

     

    อะไรเนี่ย ขนลุกอะ ชานยอลคิดว่าป๋ายเซียนไม่ได้พูดกลบเกลื่อนความเขิน เพราะคนตัวเล็กถึงกับปล่อยการ์ตูนเล่มนั้นแล้วทำท่าลูบแขนตนเอง อีกทั้งยังมองมาราวกับจะย้ำว่าคิดจริง

     

    ย่าห์! คนเป็นแฟนกันก็แทนตัวแบบนี้กันทั้งนั้นนั่นแหละป๋าย!” คนอุตส่าห์รวบรวมความกล้าพูดคำเลี่ยน ๆ ออกไปเพราะอยากจี๋จ๋ากันในห้องคลังแสงสุดโรแมนติก แล้วดูสิ!!!!

     

    ก็มันขนลุกนี่ ชานยอลเหมือนตุ๊ดสาวเลย

     

    หยิกปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะป๋าย!” ชายหนุ่มถลึงตาคาดโทษแฟนตัวเล็ก แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมทำตามคำสั่งแถมยังมองราวกับจะไล่เขาไปเกิดใหม่ยังไงอย่างนั้น

     

    ทำไมเราต้องทำร้ายตัวเองด้วย – อื้อ!!!!” ป๋ายเซียนนิ่วหน้าเพราะถูกคนตัวโตบีบปาก เขาจึงใช้สองมือตีแขนแกร่งรัว ๆ แต่ชานยอลกลับไม่ยอมปล่อย คนตัวเล็กจึงบีบปากคืนบ้าง

     

    อื้อ!”

     

    อื้ออ!!”

     

    ทั้งคู่ต่อสู้กันด้วยเสียงอู้อี้ในลำคอ บวกกับสายตาที่ถลึงคาดโทษอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่สุดท้ายปาร์คชานยอลก็เป็นฝ่ายยอมปล่อยก่อน เพราะคนที่นั่งอยู่ตรงหว่างขาดิ้นแรงจนทับไอ้นั่นของเขาเข้าเต็มเปา

     

    อ๊าาาา!!!”

     

    ขอโทษ ว่าแล้วอะไรแข็ง ๆคนตัวเล็กทำตาปริบ ๆ มองแฟนตัวโตที่งอตัวลงพร้อมกุมชานยอลน้อยไว้ด้วยสีหน้าคิดว่าคงเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรดี เป็นห่วงจังอะ แต่จะใช้มือจับตรงนั้นก็ไม่ได้

     

    เดี๋ยวเถอะ!”

     

    ป๋ายเซียนทำปากยื่น ปล่อยให้อีกคนโอ๋น้องชายจนกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ชานยอลไม่ชอบแทนตัวว่าเราเหรอ

     

    ไม่ชอบแล้ว เท พาลซะเลย ทำไมเข้าใจอะไรยากแบบนี้ มองตากลม ๆ นั่นแล้วก็มันเขี้ยวชะมัด ถ้าไม่ติดว่าสัญญากับตัวเองไว้จะจับกดลงกับโซฟา ฟัดจูบแรง ๆ แล้วทำเรื่องที่ค้างคาเมื่อคืนนั้นให้รู้แล้วรู้รอด

     

    เอางั้นก็ได้อะ ดู บทจะเข้าใจก็ไม่ถามอะไรสักคำ น่าหยิกไหมล่ะ -_-

     

    ไม่เรียกแล้ว อยู่ดี ๆ ก็ขนลุกขึ้นมา

     

    ปวดอึล่ะสิ

     

    คนละเรื่องแล้วป๋าย ทำไมชอบต่อล้อต่อเถียงด้วยสีหน้าแบบนี้ น่าหยิกจริง ๆ เดี๋ยวมา ชายหนุ่มขยับตัวออก พลางคว้าเอามือถือที่กำลังสั่นสะเทือนติดมือไปด้วย

     

    ไปไหน งอนเราเหรอ ไม่นะ จนถึงตอนนี้ยังจะทำตัวน่ารักได้อีก ชานยอลยกมือปรามคนตัวเล็กพร้อมชี้นิ้วบอกให้นั่งอยู่ที่เดิม ก่อนจะกุมขมับเดินออกไปจากห้องแล้ววิ่งลงบันไดไปด้วยความเร็วทั้งหมดที่เขามี

     

    ป่ายเซียนเกาศีรษะมองประตูที่เพิ่งปิดลง อะไรอะ ชานยอลจะน้อยใจเพราะเรื่องคำว่าเค้ากับตัวเองไม่ได้นะ มันกะโหลกกะลาอะ ถ้าหลุดปากด่าไปว่าอีเหี้ยก็จะไม่ว่าสักคำเลย หรือว่าชานยอลจะปวดอึจริง ๆ แต่ไม่กล้าบอกเพราะเขิน ถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่แซวก็ได้

     

    เวลาผ่านไปหลายนาทีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ป๋ายเซียนวางหนังสือการ์ตูนที่เพิ่งอ่านต่อได้แค่ไม่กี่หน้าไว้บนโซฟา ก่อนจะเดินไปเปิดประตู เพื่อพบว่าใครอีกคนกำลังถือเค้กก้อนโต พร้อมเทียนสามดอกที่จุดไฟเรียบร้อยแล้ว

     

    เที่ยงคืนตรงเป๊ะ หลับตาอธิษฐานเร็วเข้า คนถูกเซอร์ไพรส์มองแฟนตัวโตที่กำลังยืนหอบหายใจ ป๋ายเซียนทำตาปริบ ๆ มองหน้าชานยอลสลับกับเค้กอยู่ในที

     

    เขาไม่สามารถกลั้นยิ้มไว้ได้ แม้แต่ตอนหลับตาอธิษฐาน เสียงหอบหายใจของชานยอลบ่งบอกถึงการวางแผนซึ่งดูเหมือนว่าจะเฉียดฉิวกับการเซอร์ไพรส์

     

    เทียนถูกเป่าในวินาทีถัดมา พร้อมหัวใจที่กำลังพองโตกับการมีเค้กให้เป่าอยู่ตรงหน้าในวินาทีแรกเมื่อเข้าสู่วันคล้ายวันเกิด ป๋ายเซียนไม่เคยอยู่กับแฟนในวันพิเศษแบบนี้ เขาทั้งรู้สึกดีและใจหวิวอย่างน่าประหลาด เมื่อนึกไปถึงพี่ชายที่ออกปากว่าคืนนี้ก็คงยังค้างกับโอเซฮุน

     

    เป็นอะไร

     

    เปล่า ขอบคุณนะ เราดีใจมากเลย เจ้าของวันเกิดหัวเราะแหะ ป้ายนิ้วชี้ชิมครีม ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าสบตากับอีกฝ่ายที่ยังคงจ้องเขาไม่ละสายตาไปไหน

     

    เราว่าเราไม่ได้คิดไปเองหรอก ป๋ายกำลังคิดอะไรอยู่

     

    เรา คนตัวเล็กถอนหายใจ พลางนึกไปถึงพี่ชายฝาแฝดที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะนึกถึงเขาเหมือนที่เขารู้สึกอยู่ไหมคิดถึงแบคฮยอน

     

    พอได้ยินคำตอบ ชายหนุ่มก็หลุดยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือข้างหนึ่งไปยีหัวแฟนเบา ๆ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คนมีฝาแฝดจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปเมื่อไม่มีพี่ชายอยู่ข้าง ๆ ในการทำเรื่องต่าง ๆ ซึ่งครั้งหนึ่งแบคฮยอนเคยบอกกับเขาว่า

     

     

    กูสองคนตัวติดกันไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก มันต้องมีสักวันที่เราต้องแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเอง เพราะงั้นเริ่มทำให้มันชินเป็นเรื่อง ๆ ไปตั้งแต่ตอนนี้ก็คงดี อย่างน้อยก็เริ่มจากการมีแฟนก่อน

     

     

    เราว่าตอนนี้แบคฮยอนก็คงคิดถึงป๋ายเหมือนกัน

     

    ไม่ใช่กินเหล้าตั้งแต่หัววันจนเมาแอ้ไปแล้วเหรอ ป๋ายเซียนแค่นหัวเราะ ขยับปากบ่นกับความน้อยใจแล้วใช้ช้อนพลาสติกตักเค้กเข้าปากคำโต

     

    “ถ้าอยากรู้เดี๋ยวพาไปดูกับตาเลยดีไหม? คนตัวเล็กค้างอยู่ท่านั้น พลางเงยหน้าสบตากับแฟนตัวโตที่พยักหน้าย้ำเป็นเชิงบอกว่าพูดจริง

     

    วันนี้ชานยอลตามใจเราเยอะแล้วอะ

     

    ใครบอก ป๋ายต่างหากที่ตามใจเรา

     

    ชานยอลต่างหาก

     

    ป๋ายนั่นแหละ

     

    เอ๊ะ

     

    โอ๊ะ?

     

    ทั้งคู่สบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่คนขี้คิดมากจะยืนนิ่งเมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าลงมาจูบริมฝีปากที่เลอะไปด้วยครีมสีขาวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ป๋ายเซียนค้างอยู่ในท่าถือช้อน ส่วนชานยอลก็ยังคงถือเค้กปอนด์ใหญ่ไว้ ขณะที่เขาค่อย ๆ เปิดริมฝีปากเพื่อปล่อยให้อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้ามาชิมเค้ก

     

    อร่อยเหมือนที่ไอ้ลู่หานโม้ไว้จริง ๆ ด้วย

     

    ชานยอลใช้เพื่อนไปซื้อมาเหรอ คำถามแก้เขินอาจจะดูโง่ไปสักหน่อย กับเค้กสดใหม่ที่คิดว่าคงไม่ได้แช่ตู้เย็นไว้ตั้งแต่เช้าเพราะวันนี้เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน คนตัวสูงไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ พยายามทำเหมือนว่าบรรยากาศตอนนี้มันยังคงปกติ และเราไม่ได้รู้สึกขลาดเขินกับจูบครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

     

    จริง ๆ ว่าจะไปซื้อเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าวันนี้ป๋ายจะอยากมาบ้านเราหรือเปล่า กลัวเก้อ กลัวอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด

     

    กลัวอะไรกัน ถ้าไม่ติดธุระอะไรเราก็ไปกับชานยอลได้ทุกที่อยู่แล้ว

     

    ก็เผื่อป๋ายติดธุระไง แต่มันก็คงไม่ซึ้งเท่าเราไปซื้อให้เองอยู่ดีสินะ คนตัวเล็กเห็นว่าสีหน้าอีกฝ่ายดูสลดไป จึงเอื้อมมือไปดึงแก้มเบา ๆ เพื่อให้สบตากันอีกครั้ง

     

    ซึ้งจนน้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย

     

    เวอร์ ชายหนุ่มถลึงตามอง

     

    เห็นไหม พอเราพูดความจริงชานยอลก็ชอบหาว่าเราโกหก เวลาเขินแล้วชอบใส่ร้ายเหรอ

     

    เราเนี่ยนะเขินป๋าย พูดผิดพูดใหม่ได้เลย คนอย่างปาร์คชานยอลไม่เคยหน่อมแน้มกับเรื่องหงิม ๆ แบบนี้หรอก ชายหนุ่มแทรกเข้าไปในห้อง วางเค้กลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปปิดประตูพร้อมล็อกกลอน ชอบหรือเปล่า?

     

    ชอบ!”

     

    เราหรือเค้ก? พูดพร้อมเท้ามือลงกับผนังเพื่อกักกั้นไม่ให้คนช่างพูดเดินหนีไปไหนได้

     

    ชอบเค้ก! แล้วก็ชอบชานยอลด้วย!” มันเขี้ยวไม่ไหวแล้ว ทำไมต้องมาตะเบ็งเสียงพร้อมสีหน้าแบบนี้

     

    ชอบแล้วทำยังไง? ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง ก่อนคนตัวสูงจะหลับตาลงเมื่ออีกฝ่ายเขย่งขาขึ้นมาจูบเขา

     

    ชายหนุ่มตวัดแขนรั้งเอวคนตัวเล็กเข้าหาอ้อมกอดพร้อมเอียงใบหน้าเพื่อปรับองศาการจูบ ป๋ายเซียนกอดรอบคอแกร่งไว้เป็นหลัก บดเบียดริมฝีปากรับจูบครั้งที่สองในวันเกิด ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อร่างของเขาถูกอุ้มขึ้นจนต้องเกี่ยวขาเข้ากับเอวหนา

     

    ชานยอลยิ้มขำทั้งที่ยังไม่ถอนริมฝีปากออก กดจูบริมฝีปากสีเชอร์รี่ซ้ำ ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นฟัดแก้มจนได้ยินเสียงหัวเราะของคนตัวเล็ก

     

    เป้ากางเกงดันก้นเราด้วยอะ

     

    เออน่า ทำไมต้องพูดด้วยเนี่ย ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เบือนหน้าหลบไปอีกทางอย่างขลาดอายทันทีที่ถูกจับได้

     

    ชานยอลมีอารมณ์แล้ว

     

    อือ ขอโทษ คนตัวโตซบหน้าลงกับไหล่อีกฝ่าย ก่อนจะเงยหน้าเพราะถูกสองมือเล็กช้อนขึ้นมาให้สบตากัน

     

    เพราะอะไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนชานยอลคงทำไปแล้วไม่ใช่เหรอ

     

    ก็ตอนนั้นมันเมื่อก่อน ชายหนุ่มตอบโดยสัจจริง ทั้งคู่สบตากันพร้อมกระชับร่างคนตัวเล็กให้ขึ้นสูงกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงส่วนพองนูนใต้เข็มขัด ตอนนี้เราอยากพาป๋ายไปหาแบคฮยอนก่อน ไม่มีแฝดอยู่ในวันเกิดคงเหงาใช่ไหมล่ะ ส่วนเรื่องนั้นไว้วันหลังก็ได้

     

    จากตอนแรกก็แทบสาหัสที่ต้องหักห้ามใจ แต่พอเห็นรอยยิ้มกับจมูกรั้นที่กำลังยู่ลงขณะสบตากัน ปาร์คชานยอลจึงคิดว่าทำถูกแล้วที่ไม่อุ้มป๋ายเซียนไปบนโซฟาเบดแล้วจับฟัดโดยที่ยังแก้ผ้าไม่หมด

     

    เคยคิดไหมว่าบางทีคนที่ชานยอลชอบอาจจะเป็นแบคฮยอนก็ได้

     

    เคยสิ ชายหนุ่มตอบอย่างไม่โกหก แม้จะรู้ดีว่าคนตัวเล็กจะผิดหวังกับคำตอบแค่ไหน แต่มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าปาร์คชานยอลเคยสับสนและปวดหัวกับมันมากในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ตอนนี้เรารู้แล้ว

     

    ทั้งที่เรากับแบคฮยอนก็หน้าตาเหมือนกันน่ะเหรอ

     

    แต่บยอนป๋ายเซียนมีคนเดียว

     

    ...

     

    มันจะมีสักกี่คนที่อยู่กับเราได้โดยไม่มีข้อแม้ คนที่เข้าใจเพราะเข้าใจจริง ๆ ไม่ใช่คนที่บอกว่าเข้าใจเพื่ออยากให้เราสบายใจ

     

    ป๋ายเซียนนิ่งไประหว่างฟังอีกฝ่ายพูดความในใจ ก่อนจะเลื่อนสองมือขึ้นโอบใบหน้าคมไว้พร้อมใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ

     

    พอรู้ว่าป๋ายเซียนคือคนนั้น เราก็บอกกับตัวเองว่าเราจะอยู่กับคนนี้ จะรัก จะดูแล จะไม่ยอมเสียไปให้ใครทั้งนั้น

     

    ...

     

    เพราะงั้นอย่ากังวลในเรื่องที่มันจะไม่เกิดขึ้นเลยนะ ชานยอลจะรักแค่ป๋าย

     

    ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมองอย่างจริงจัง ราวกับจะบอกให้รู้ว่าปาร์คชานยอลนั้นรักบยอนป๋ายเซียนมากแค่ไหน คนตัวเล็กอมยิ้มพร้อมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเลื่อนลงไปจูบย้ำอีกครั้งเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง

     

     

    ซึ่งตอนนี้บยอนป๋ายเซียนยอมเชื่อทั้งใจแล้ว

     

     

     

     

     

     

    TBC
     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×