คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro (ตอนหายค่ะ เลยมาแก้ใหม่)
PROLOGUE
ถ้ารู้ว่าโตขึ้นมาแล้วเป็นอย่างนี้
บางทีการเป็นเด็กที่ไม่รู้อะไรมากไปกว่าการกิน
เล่น นอนกลางวันก็อาจจะดีกว่า
มนุษย์เติบโตมาในสังคมที่ต่างกัน
บางคนถูกเลี้ยงเหมือนไข่ในหินจนไม่รู้ว่าโลกใบนี้มีปีศาจที่เรียกว่าความเจ็บปวดอยู่ด้วย
แต่บางคนที่ถูกเลี้ยงมา-- ไม่สิ ต้องเรียกว่า ‘โตมาด้วยตัวเอง’ คนเหล่านั้นจะมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนปกติทั่วไป
ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเก่ง
แต่มันเป็นข้อบังคับที่ทำให้ต้องเก่งกับปีศาจบนโลกใบนี้ที่คุกคามชีวิตอยู่ตลอดเวลา
‘ปาร์คชานยอล’ เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ
ฟังดูสับสนดีใช่ไหม? แต่นั่นแหละคือชีวิตของเขาหลังจากที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะหนี้สินบานตะไทที่พ่อและแม่ได้สร้างไว้
เด็กชายจำได้ว่าตอนนั้นบรรยากาศที่บ้านตึงเครียดแค่ไหน
ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน เป็นอย่างนั้นอยู่ซ้ำ ๆ
จนเขาแทบลืมไปแล้วว่าสิ่งที่เรียกว่ารอยยิ้มซึ่งเกิดจากความสุขเป็นอย่างไร
บนโต๊ะกินข้าวตอนเย็นที่เคยมีแต่เมนูดี
ๆ ได้เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อพักหลังมีแต่กิมจิ
และน้ำซุปเป็นกับเพี่อเพิ่มรสชาติให้กับข้าวเปล่าที่ต้องจบภายในถ้วยเดียว
พ่อกับแม่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้งจนหูฟังกลายเป็นเพื่อนสนิทของเขาไปโดยปริยาย
แต่นั่นก็ไม่แย่เท่ากับเสียงทุบประตูบ้านจากเจ้าหนี้ซึ่งดูเหมือนว่ามันพร้อมจะพังเข้ามาได้ทุกเมื่อถ้าฝั่งนั้นนึกเอาจริง
เด็กอายุสิบสี่อย่างชานยอลทำได้เพียงแค่กอดน้องสาวอยู่ในตู้เสื้อผ้า
จับศีรษะของเธอกดลงกับอกของตนแม้รู้ดีว่าหากประตูบานนั้นพังเข้ามาเขาคงไม่สามารถปกป้องเธอไว้ได้
หลังจากที่พ่อกับแม่ตัดสินใจหนีไปอย่างไร้ร่องรอยเพราะถูกเจ้าหนี้ตาม
ท่านไม่ได้ทิ้งเขากับน้อง
แต่ก็เหมือนทิ้ง สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทุกอย่างออกมาเป็นแบบนี้ เพราะถ้าพ่อกับแม่อยู่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเจ้าหนี้ทวงเงินด้วยวิธีใด
ซึ่งมันคงสาหัสกว่าเสียงทุบประตูบ้านที่ข่มขวัญเขาและน้องสาวจนไม่กล้าออกไปไหน
เด็กอายุสิบสี่ที่ชีวิตมีเพียงการเรียนและเล่นดนตรี
เขาต้องทิ้งความฝันไปเพื่อประคองความจริงให้อยู่รอด ด้วยการเก็บไม้กลองไว้ในตู้
ลาออกจากวงดนตรีแล้วหันหน้าเข้าหามินิมาร์ทเพื่อทำงานพิเศษในช่วงหลังเลิกเรียน
สำหรับเด็กที่ไม่เคยลำบากมาก่อน
และไม่รู้ว่าจะต้องพาตัวเองและน้องสาวเดินไปในทิศทางไหนกับเงินที่เหลืออยู่น้อยนิด
แต่นับว่าเป็นโชคที่คนข้างบ้านอย่างอาจงแดคอยทำกับข้าวเผื่ออยู่ตลอด
เขาและน้องสาวเลยรอดตายไปได้ในแต่ละวัน
‘ปาร์คซูยอง’ ยังเด็ก ไม่ว่ายังไงชานยอลก็ไม่อยากให้น้องสาวต้องปวดหัวไปกับเรื่องนี้
แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง เพราะเงินจากการทำงานพิเศษก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก
ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ต้องยัดเกรงใจเข้าปาก และอีกไม่นานก็ต้องจ่ายค่าเทอมแล้ว
ซึ่งเขาคงไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายให้ครบทั้งของตัวเองและน้องสาว
แต่จะให้ขอยืมคนข้างบ้านอย่างอาจงแดก็คงจะเกินไป
ชานยอลรู้ว่าตนเองกำลังลำบาก
แต่การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็ต้องอยู่ในความพอดี ไม่ให้มากเกินไป
มนุษย์เราชอบทำอะไรโง่ ๆ ตอนรู้สึกสิ้นหวัง
ใช่ ปาร์คชานยอลเชื่อแล้วว่าเป็นอย่างนั้น
เมื่อเขาเอาแต่นั่งจ้องจอสี่เหลี่ยมพร้อมวางมือไว้บนคีย์บอร์ดในคาบคอมพิวเตอร์
สีหน้าของเขาอิดโรยเนื่องจากนอนไม่พอ เด็กชายวัยสิบสี่จ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะเขียนเรื่องราวบัดซบในชีวิตตนเองลงไปในเวปบอร์ดที่มีคนเข้าเล่นวันละไม่ต่ำกว่าสามล้านครั้ง
ชานยอลจำไม่ได้ว่าเขาพิมพ์อะไรลงไปบ้าง
มันอาจเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต
หรือความเศร้าทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในใจ รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือลม ๆ แล้ง ๆ
ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีใครยื่นมือเข้ามาช่วย กับเด็กที่เป็นใครก็ไม่รู้
และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในชีวิต
แต่มันก็ไม่แย่ถึงขนาดนั้น
เมื่อพระเจ้าได้กระซิบบอกเขาว่า ‘ปาฏิหาริย์มีจริง’
หลังจากนั้นได้ไม่นานอาจารย์ที่ปรึกษาก็เรียกเขาไปพบ
พร้อมบอกว่ามีใครคนหนึ่งเห็นข้อความของเขาในเวปบอร์ด
และต้องการให้ความช่วยเหลือเรื่องค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
มันอาจจะไม่มากนัก แต่ฝ่ายนั้นก็ยินดีช่วยอย่างเต็มใจ
จึงขอให้ชานยอลเอาเลขที่บัญชีมาให้ครูที่ปรึกษา
เด็กชายไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
เขาอยากตบหน้าตัวเองสักครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ฝันไป
มันเป็นไปได้จริงหรือกับการที่คน ๆ หนึ่งจะยื่นมือเข้ามาช่วยเด็กอย่างเขาที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ชานยอลนั่งเงียบไปพักใหญ่ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาก็ไม่ได้ว่าอะไร
ถ้าหากเขาอยากใช้เวลาไปกับการตั้งสติ
ชานยอลยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
จนกระทั่งมียอดเงินเข้าบัญชีจริง ๆ นั่นแหละถึงได้รู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่ปีศาจที่อยู่รอบตัวเขา
คน ๆ นั้นเป็นใครกัน? ต้องเป็นเทวดาแน่ ๆ เขาเชื่ออย่างนั้น
เด็กชายยังจำความตื้นตันใจในวินาทีแรกได้เป็นอย่างดี
รวมไปถึงขอบตาที่แดงก่ำจนน้องสาวต้องเข้ามากอดปลอบ
เพื่อให้พี่ชายคนนี้ได้เข้มแข็งต่อไป
วันรุ่งขึ้นชานยอลเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาอีกครั้ง
หลังจากนอนก่ายหน้าผากครุ่นคิดมาตลอดคืนว่า‘เพราะอะไร?’ เขาอยากรู้จริง ๆ
ว่าคนใจดีที่ดึงเขาและน้องสาวออกมาจากฝูงปีศาจเหล่านั้นเป็นใคร
และเพราะอะไรถึงได้ตัดสินใจช่วย ทั้งที่ในโลกอินเทอร์เน็ตมันเต็มไปด้วยความฉาบฉวย
คน ๆ นั้นไม่กลัวว่าข้อความที่เขาโพสต์ลงไปมันจะเป็นเรื่องโกหกหรืออย่างไร
และสุดท้าย อาจารย์ที่ปรึกษาก็ยิ้มบาง ๆ พร้อมบอกกับเขาว่า...
“ผู้ชายคนนั้นเขาชื่อ
บยอนแบคฮยอน”
ความคิดเห็น