Fic snsd : In the Rain (Yuri) - Fic snsd : In the Rain (Yuri) นิยาย Fic snsd : In the Rain (Yuri) : Dek-D.com - Writer

    Fic snsd : In the Rain (Yuri)

    โดย Meena-san

    ก็แค่คนๆหนึ่งที่มีอาการ 'หล่นหลุมรัก' !! --70%-- ไม่เป็นไรแล้วนะ....แทจะให้ฟานี่กอดทั้งคืนเลย

    ผู้เข้าชมรวม

    1,637

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    1.63K

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    7
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.ค. 54 / 20:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


     
    เหอๆ สงสัยว่าจะมีคนแอบกร่นด่าในใจว่าอินี่มันเปิดเรื่องใหม่อีกแล้วเหรอวะ!!
    เอาน่ะ....จบแน่เรื่องนี้ ไม่ค่อยยาวเท่าไหร่(มั้ง)
    ขอแค่มีคนเมตตามาอ่านก็พอ T^T

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
        

       

      ฮ่าๆๆ

      ฉันเผลอจิกมือลงบนหนังสือเล่มหนาอย่างลืมตัว เพียงแค่มีเสียงหัวเราะจากใครคนนึง...ใครคนนั้นที่ฉันรักมานาน เพื่อนสาวเจ้าของตายิ้มอันงดงาม รอยยิ้มหวานถูกแจกจ่ายไปทั่วอย่างคนอัธยาศัยดี

      ก็รู้อยู่.....ก็คิดได้นี่ว่าเธอเป็นคนอารมณ์ดี จะยิ้มจะหัวเราะให้คนอื่นบ้างก็ไม่แปลก แล้วแกจะมานั่งไม่พอใจอยู่ตรงนี้ทำไม คิมแทยอน!

      เธอเตือนตัวเองแล้วถอนหายใจ หลายครั้งเหลือเกินที่เธอต้องระงับอารมณ์แบบนี้ เธอเกลียดๆๆ เกลียดตัวเองเกลียดคนที่มายุ่งเกี่ยวกับเพื่อนของเธอ….จะเรียกว่าเพื่อนเธอยังไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ

      ก็ในเมื่อเราไม่เคยคุยกันเลยน่ะสิ.....

      เป็นเธอเองที่ทำเมินไม่พูดคุยแม่ว่าเธอคนนั้นจะชวนคุยยังไงก็ตาม และไม่ว่า ฮวังทิฟฟานี่ จะส่งสายตาไม่พอใจอยู่กลายๆ เธอก็ยังทำเป็นไม่สนใจให้ตัวเองช้ำเล่นๆ

      .....เพราะถ้าฉันคุยกับเธอ....แล้วเธอก็คุยกับฉัน

      ฉันคงจะเป็นบ้าตายแน่ๆ.....

      และการกระทำทั้งหมดนั่นก็ทำให้ฉันไม่มีเพื่อนสนิทเลยสักคน ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่มีคนมาคุยกับฉันเลย แถมปัญหาก็มีอยู่ว่า....

      เธอ....ชอบผู้หญิงจึงไม่กล้าเข้าใกล้ให้ใจสั่นเล่นๆ

      และเธอ....ไม่ชอบพวกผู้ชายที่ชอบมาสงสายตาน่าขนลุกให้บ่อยๆ

      ผลเลยเอวังตรงที่เธอคบใครไม่ได้เลยสักคน....

       

      เย็นวันนี้ฉันก็เดินกลับบ้านตัวเองเช่นเคย แล้วจู่ๆฝนก็โปรยกระหน่ำลงมาไม่ทันให้ตั้งตัว ฉันจึงรีบหลบฝนในทันที แต่ก็ไม่ได้ปักหลักเลยหรอกนะ เพราะวันนี้ฉันเอาร่มมาด้วยพอดี 

      แทยอนเดินเร่งฝีเท้าอย่างไม่ต้องการเปียกฝนมากไปกว่านี้ แต่แล้วสิ่งที่ไม่น่าจะเจอก็เจอไม่ให้ได้ทันตั้งตัว เมื่อทางเปลี่ยวๆที่มีหลังคาให้หลบฝนน้อยมีร่างบางๆของใครคนนึงที่เธอคิดถึงอยู่ตลอดเวลานั่งตัวสั่นๆหลบฝนอยู่ข้างทาง

      แทบจะเรียกไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าสามารถกันฝนได้หน่อยนึง!

      แทยอนจึงทิ้งความกลัว แล้วหยิบความกล้าใส่ลงไปในเท้าที่ต้องกลั้นใจก้าวไปหาใครคนนั้น

      ....ที่ชื่อว่าทิฟฟานี่

      เธอเงยหน้าขึ้นมองฉันอย่างประหลาดใจเมื่อพบว่าฝนที่สาดใส่ตัวเธอหายไปเสียเฉยๆ

      บ้านอยู่ไหน.....เดี๋ยวไปส่ง

      เธอยิ้มกว้าง......พลางคิดในใจว่าคนที่ชอบตีหน้ายุ่งยอมมาคุยกับเธอแล้ว

      ส่วนฉัน....หัวใจก็พองโตคับอก

      แทยอนเบือนหน้าหนีไปอย่างเขินเกินระงับ ในเมื่อภาพที่เธอได้เห็นมันช่าง....พาให้เธอคิดอกุศลเหลือเกิน เสื้อนักเรียนสีขาว กับชุดชั้นในสีชมพูแนบเนื้อ.....แล้วยังใบหน้าพราวน้ำนั่นอีก

      รวมๆแล้วสามารถเรียกได้เต็มปากว่า

      โค ตะ ระ เซ็กซี่!!

      เมื่อเห็นว่าคนนั่งไม่ยอมลุกมองเธอด้วยสายตาแปลกใจ แทยอนก็รีบฉุดทิฟฟานี่ขึ้นเดินอย่างเกรงว่าจะเปียกโชกไปทั้งตัวมากกว่านี้

       

      ตลอดการเดินในช่วงสั้นๆนั้น ไม่รู้ทำไมมันช่างยาวนานนัก....

       

      เมื่อถึงบ้านทิฟฟานี่เธอก็เอ่ยเสียงแข็ง

      วันหลังพกร่มมาด้วยนะ....เดี๋ยวไม่สบาย

      อื้อ....ขอบคุณแทมากๆเลยนะ

      ทิฟฟานี่เดินเข้าบ้านไปแล้ว.....แต่ในใจของเธอยังวนเวียนอยู่แค่คำว่า

       

      แท......แท.....แท....แท

       

      ตึก....ตัก....ตึก.....ตัก

       

      เสียงนั้นก้องอยู่ภายในหัวของเธอซ้ำๆ ประกอบกับอัตราเต้นหัวใจเต้นถี่ให้เลือดสูบฉีดเลือดในร่างกายวิ่งพรวดพราด ปากสั่นเพราะความตื่นเต้น(ปนหนาวหน่อยๆ)อย่างห้ามไม่อยู่

       

      ก็บอกแล้ว.....ว่าเธอไม่อยากคุยเลยจริงๆ

      เพราะมันกำลังทำให้เธอคลั่งตาย....

        

       

      เป็นอีกวันที่ฝนตกกระหน่ำลงมาราวกับฟ้ารั่ว บางคนเขาก็ไม่ชอบฝนเท่าไหร่ เพราะมันทำให้ทั้งเปียกแถมยังไปไหนลำบากอีกต่างหาก ส่วนแทยอนนั้นก็ไม่อยากเลียนแบบนิยายทั่วไปเท่าไหร่นักหรอก แต่เธอนั้นกลับคิดว่าฝนนี่มันดีจริงๆ ฝุ่นควันมันจะได้ลดหายไปกับสายน้ำเสียบ้าง คำนิทราของคนรอบข้างก็ถูกเสียงฝนกลบไปหมดอีกต่างหาก.....

      คุณคิดเหมือนฉันมั๊ย?.....ฝนนี่มันดีเป็นบ้าเลย

      แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้นอีกเมื่อวันฝนตกมีเรื่องดีๆให้คุณได้ใจเต้นตลอดเวลาเหมือนฉัน

      นึกครึ้มอะไรไม่รู้ แทยอนเอามือไปรองน้ำฝนจนล้นมือ จากนั้นก็ปล่อยให้มันไหลลงพื้น

      ถ้าความรักเหมือนน้ำฝนในมือนี้.....ก็หมายถึงรักที่จางหายไปตามกาลเวลาสินะ

       

      คงจะดีไม่น้อยหากเธอมีแก้วสักใบมาช่วยเก็บน้ำฝนนี้ไม่ให้หายไป....

      เพราะมันจะหมายถึงความรักที่ยั่งยืนและยาวนาน.....

       

      มันไม่สกปรกเหรอ

      จู่ๆเสียงหวานๆเหมือนเจลลี่ของใครบางคนก็ผลักให้แทยอนหยุดความคิดอันเพ้อเจ้อของตัวเองได้

       

      นี่แหละ.....คือสิ่งที่ฉันจะบอกว่าทำไมฉันถึงชอบวันฝนตกนัก

       

      ที่จริงแล้วทิฟฟานี่มองแทยอนตั้งแต่ยืนเหม่ออยู่คนเดียวแล้วแหละ ยืนอยู่คนเดียวเลยพาลให้เธอคิดไปเองว่าวันนี้คงมีคนให้เธอไปส่งบ้านซะแล้วสิ

       

      มะ....ไม่รู้แหะ คงงั้นแหละ

       

      น่าน ยังถนอมคำไม่เปลี่ยน

       

      เค้าว่าฝนเมืองกรุงฝุ่นเย๊อะ

       

      ทิฟฟานี่พูดเปรยๆคล้ายว่าจะไม่ได้คุยกับคนข้างๆ

      เคยคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้ยินเสียงเพื่อนสาวคุยนี้แล้วเป็นแน่ คงต้องขอบคุณเจ้าฝนนี่แหละ ที่ทำให้เธอได้รู้จักเพื่อนคนนี้ไปอีกขั้น หากเป็นเพื่อนคนอื่นเธอคงกล้าเข้าไปคุยไปทักตามปกติ หรือถ้าใครไม่คุยด้วยเธอก็จะไม่วอแวให้รำคาญหู

       

      แต่แทยอนกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป....แต่จะแตกต่างตรงไหนนั้น เธอเองก็ไม่อาจทราบเช่นกัน

       

      อือ...แล้ววันนี้เอาร่มมารึเปล่า

      เอามาแล้ว แหะๆ ไม่อยากเปียกเป็นลูกหมาเหมือนเมื่อวานน่ะ แทอ่ะ ไม่ได้เอามาเหรอ

       

      เอามาสิแทยอนเกือบจะหลุดพูดออกไปแล้วเชียว พลางคิดถึงเจ้าร่มสีฟ้าที่นอนแน่นิ่งอยู่ในกระเป๋า

       

      ถ้าได้กลับบ้านในร่มคันเดียวกับทิฟฟานี่คงดีไม่น้อย.....

      เริ่ดค่ะ!!

       

      ไม่อ่ะ ไม่ได้เอามา

       

      ช่างตอบได้แบบไม่อายปาก!

       

      งั้นกลับกับฟานี่ก็ได้นะ บ้านใกล้กัน ไปส่งแทก่อนก็ได้

       

      เธอพูดพลางฉีกยิ้มกว้างอันเป็นอาวุธพิฆาตสำหรับคนมอง

      จะละลายอยู่แล้วโว้ยยยยยยยย

      แทยอนคิดในใจคนเดียวเงียบๆ

       

      เราสองคนเดินเรื่อยๆอย่างไม่รีบนัก แม้ว่าฝนนั้นจะไม่ยอมซาลงสักนิดเลยก็ตาม แต่แทยอนก็ยังใจระรื่นได้ตลอดเวลา แค่หัวไหล่ชนกันนิดๆหน่อยเจ้าตัวก็ออกอาการหน้าแดงอยู่คนเดียวให้ทิฟฟานี่มองงงๆ

      แปลกจริงเพื่อนคนนี้....

      บรืน.....

      ซ่า!!

      แต่แล้วภาพโรแมนติคที่แทยอนหวังไว้ก็เป็นพังทลายลงเมื่อจู่ๆรถคนหนึ่งวิ่งเหยียบน้ำสาดกระเด็นใส่ตัวเธอเต็มไปหมด.....อันที่จริงแล้วมันเกือบจะโดนทิฟฟานี่แล้วแหละ เพียงแต่ว่าเธอดันแมนเกินไปดันบ้าไปรับน้ำโคลนนั่นมาให้โชก เธอจึงได้แต่ยิ้มอายๆให้กับทิฟฟานี่โดยไม่รู้ตัว

      และนั่น.....คือรอยยิ้มแรกที่สาวอัธยาศัยดีได้เห็นเป็นครั้งแรก พลันความคิดซึ่งโผล่มาอันดับแรกเลยก็คือ

       

      ......น่ารักจัง

       

      ทิฟฟานี่จ้องร่างเล็กนิ่งอยู่นาน เมื่อรู้ตัวว่าเผลอยิ้มออกไปแล้วเจ้าก็รีบหุบฉับทันที

      ทั้งอายทั้งเขินเลยวุ้ย

       

      แทน่าจะยิ้มบ่อยๆนะ น่ารักดี

      เมื่อเจอคำพูดตรงๆแบบนี้แทยอนก็เกิดอาการเขินหน้าแดงลามไปถึงหูให้ได้อายอีกรอบ

      บ้าเอ๊ย!! อยู่กับเธอทีไรต้องได้เขินพร่ำเพรื่อทุกทีเลยสิน่า

      พลันบรรยากาศที่เกือบดีก็ถูกฉุดลงมาด้วยสภาพเปียกโชกปานไปดำนามาของแทยอนนั่นเอง

      แต่ฟานี่ว่า....แทน่าจะรีบไปอาบน้ำที่บ้านได้แล้วนะ

      เออ นั่นดิ

      เพราะฟานี่เดินไม่ระวังแท้ๆเลยแทถึงเปียกแบบนี้ ขอโทษจริงๆนะ

      มะ...ไม่เป็นไรๆ

      แทยอนก้มมองสภาพตัวเอง เวรกรรม!

      ทำไมทิฟฟานี่ต้องมาเห็นเธอสภาพนี่ด้วย ขายหน้าชะมัด!

       

      บรืน...........ซ่า!!!!!

      .....เอ่อ

      ทันใดนั่นรถสีดำคนเก่าเจ้าเดิมก็วกรถกลับมาทำพิษอีกครั้ง แถมคราวนี้ผู้เคราะห์เพิ่มเป็นสองคนเสียอีก! ทิฟฟานี่สำรวจตัวเองด้วยใบหน้าแหยๆ ส่วนแทยอนนั้นกลับหัวเราะพรืดอย่างกลั้นขำไม่อยู่ ดังนั้นทั้งสองคนจึงได้เปียกมะล่อมะแล่กทั้งคู่ให้ยืนขำกันเองอย่างไม่รังเกียจ

      ฮ่าๆๆ

      ฮ่าๆๆ ซวยชะมัดเลยเนอะ เราสองคนนี่

      สาวตายิ้มพูดไปหัวเราะไป จากนั้นเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน

      คะแม่? ค่ะๆ อ๋อ....อยู่ได้ค่ะอยู่ ค่ะ บาย

      เธอหันมามองร่างเล็กด้วยสายตาเกรงๆเล็กน้อย

       

      คือแทจะว่าอะไรมั๊ย.....ถ้าฟานี่จะขอค้างบ้านแทสักคืน

       

       

      แม่เจ้า......เข้าทางหมาน้อยเลยงานนี้!!



      หลังจากที่ทั้งสองคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แทยอนที่ไม่รู้จะทำอะไรแก้เขินดี จึงอาสาขอไปทำอาหารประจำบ้านให้กินก่อน(มาม่านั่นเอง) เพราะยิ่งอยู่ตามลำพังยิ่งเก็บอาการไม่ค่อยอยู่

      ทางด้านทิฟฟานี่ก็เออๆออๆแจกยิ้มไปเรื่อยเปื่อย หากสาวเจ้าไม่รู้เลยว่าหัวใจใครบางคนกำลังเต้นแรงเพราะรอยยิ้มนั้นเป็นประจำ

      เฮ้อ....อยากจะชินซะที แต่ก็ทำไม่ได้เสียนี่

      แททำอะไรมาก็กินทั้งนั้นแหละ

      ถ้าทำกบย่างมาจะกินมั๊ยล่ะ

      เหอะๆ ทำเป็นกวนประสาทปากดีไปงั้นแหละ

      โอ้โห.....ไม่อยากให้ฟานี่นอนบ้านใช่ม้า เออ กลับก็ได้ เชอะ

      พอสาวตายิ้มทำท่าจะลุกขึ้นจริงๆ แทยอนก็รีบไปคว้าข้อมือหมับอย่างลืมตัว

      ไม่ให้กลับ ฝนยังไม่หยุด

      แทยอนบอกเลี่ยงๆ ทั้งที่ความหมายมันก็มีแค่ อยากให้อยู่แค่นั้นเอง

      ล้อเล่นน่า แค่นี้ทำหน้าจริงจังไปได้ อ่ะแหน่ะ กลัวเค้าจะไปจริงใช่มั๊ยล่ะ

      ทิฟฟานี่พูดแบบล้อๆพลางจิ้มแก้มคนปากแข็งไปด้วย แทยอนทำได้เพียงแค่ยิ้มอย่างขบขัน

       เย้ๆ แทแทยิ้มแล้ว

      ทิฟฟานี่เอ่ยอย่างดี๊ด๊าประหนึ่งสามรถทำสไตร์โบลลิ่งได้ยังไงยังงั้น ส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอ? ก็ยิ่งเขินหนักปากพึมพำประมาณว่า ไม่เห็นแปลก ก่อนที่จะได้เขินไปมากกว่านี้เสียงวี้ๆของหม้อต้มน้ำในครัวก็ดังขึ้นให้ร่างเล็กนึกขึ้นได้ว่ามาม่ายังไม่ได้เอาลงจากเตา

      เดือดแล้วๆ

      จากนั้นทั้งสองคนคล้ายกับว่าหมดความสนใจกับคู่สนทนา หันไปสวาปามมาม่าแสนอร่อยที่เครื่องปรุงมีแค่กระหล่ำปลีกับไข่คนใบละใบ เอาน่า.....แก้ขัดไปก่อน

      สักพักทิฟฟานี่ก็พูดแหวกความเงียบขึ้นมา

      แท แทว่ามาม่าที่ต้มแล้วเนี่ย เรียกว่ามาม่าน้ำหรือมาม่าต้ม

      ถามทำไมเนี่ย มาม่าต้มมั้ง

      เธอขมวดคิ้ว

      อ้าว มันไม่ใช่มาม่าน้ำเหรอ

      ไม่รู้ดิ มาม่าน้ำกับต้มก็เหมือนๆกันนั่นแหละ

      จู่ๆเรื่องไร้สาระก็กลายเป็นจริงจังทันทีเมื่อทิฟฟานี่สาวใสซื่อบื้อยังไม่หายข้องใจ ถามต่อให้อีกคนอึนมึนว่าตกลงคนน่ารักตรงหน้านี่จะบ๊องหรือจะต๊องกันแน่

      ไม่เหมือน เพราะชื่อมันไม่เหมือนกัน

      เฮ้อ.....เอาเหอะ น้ำก็น้ำ

      พูดเสร็จทิฟฟานี่ก็กลับมายิ้มเหมือนเดิม แล้วก้มหน้าก้มตากินไปอย่างไร้ข้อข้องใจ ส่วนแทยอนนั้นก็แอบอมยิ้มขำเงียบๆ บางทีการก้าวไปในที่ๆเคยกลัวก็สุขใจไม่น้อยเหมือนกัน สาวน้อยที่เคยคาดไว้ว่าจะเข้าถึงตัวยากกลับทำให้เธอเขินและยิ้มบ่อยแบบที่ไม่เคยเป็น แม้ว่าบางมุมจะดูเอ๋อๆไปหน่อยก็ตาม รวมๆแล้วก็ยังน่ารักอยู่ดีล่ะนะ

       

      นอนไหนๆ

      ฟานี่นอนเตียง เดี๋ยวฉันนอนโซฟาแล้วกัน

      ทำไมอ่ะ เตียงตั้งกว้าง นอนด้วยกันไม่เห็นเป็นไรเลย

      เป็นสิ....เพราะมันจะอันตรายต่อหัวใจฉันไงล่ะ

      แต่ว่าแทเป็นเจ้าของบ้านนะ

      ทิฟฟานี่พูดหน้าบึ้ง มารบกวนคนอื่นก็แย่พอแล้วยังจะนอนเตียงสบายอีกต่างหาก ถึงเจ้าตัวจะเต็มใจ แต่เธอกลับรู้สึกผิดมากกว่า ยิ่งช่วงนี้แทยอนยังลำบากเพราะเธอหลายเรื่อง อย่างเช่นว่าวันฝนตกครั้งนั้น รวมถึงการให้ยืมใส่เสื้อของตัวเองอย่างไม่รังเกียจ

      ถ้าใครมาว่าแทยอนเย็นชาล่ะก็.....เธอเถียงขาดใจเลย แม้ว่าภายนอกคนตัวเล็กจะดูเฉยๆ ไม่สนใจใคร ออกจะเป็นแนวหยิ่งๆด้วยซ้ำ หากเมื่อได้ลองมาใกล้ชิดแล้วเธอกลับรู้สึกอบอุ่นเสียมากกว่า รอยยิ้มนั่นก็ดูจริงใจกว่าใครๆ มั่นใจได้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆเขาว่ากัน

      ....ฟานี่นอนไปเหอะ ฉันชินแล้ว

      เฮ้อ....ตามใจแทแล้วกัน อย่ามาบ่นเมื่อยทีหลังน้า นอนแหละ

      อือ

      เป็นอันว่า เจ้าของบ้านนอนโซฟา แขกนอนเตียง อืม...ช่างเหมาะสมดีแท้

       

      แต่นอนได้ไม่นาน เสียงฟ้าร้องครืนๆก็ไปกระตุกต่อมกลัวของสาวตายิ้มเข้าอย่างจัง

      เปรี้ยง!!

      ว้ายยยยยยยยยยย

      แทยอนลุกขึ้นมาตามเสียงร้อง พลันร่างบางๆของใครบางคนก็โผเข้าสวมกอดทันที ตามด้วยเสียงฮือๆที่คล้ายว่าคนในอ้อมแขนอยากจะร้องไห้เต็มแก่

      เป็นไรๆ

      ทิฟฟานี่ส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่อยากตอบคำถาม แทยอนปล่อยให้อีกคนกอดด้วยใจเต้นตึกตัก ดีที่ฝนตกหนักไม่งั้นร่างบางคงจะรู้ไส้รู้พุงไปหมดแล้ว

      กอด....กอดหน่อย

      เธอพึมพำออกมาเบาๆ ร่างเล็กกอดตอบไปโดยอัตโนมัติ พร้อมรู้สึกวาบหวิวในท้องแปลกๆ  ไม่ต่างกันกับทิฟฟานี่ที่เพิ่งเคยรู้สึกถึงสัมผัสแบบนี้ กอดเพื่อนมาก็เยอะ แต่ทำไมกอดเพื่อนคนนี้แล้วไม่เหมือนกันนะ แปลกจริงๆ

      ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนกอดแล้วอุ่นขนาดนี้มาก่อนเลยแหะ....

       

      ชั่วขณะที่ทั้งสองจมอยู่กับความรู้สึกแปลกใหม่ เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้นอีกครั้งจนทิฟฟานี่ต้องซุกตัวกอดแทยอนแน่น ร่างเล็กอยากจะบอกเหลือเกินว่าให้ถอยไปห่างๆ แต่ก็เกรงว่าจะดูแย่เกินไป จึงต้องกอดด้วยจำยอม เพราะรู้ดีว่าอาการวาบหวิวนี้เกิดจากอะไร หากทิฟฟานี่ยังไม่ถอยออกไปอาจจะไม่ใช่แค่กอดก็เป็นได้

       

      ไม่เป็นไรแล้วนะ....แทจะให้ฟานี่กอดทั้งคืนเลย

       

      แม้ว่าถ้อยคำนั้นอาจจะไม่ได้น่าฟังอะไรมากมาย......หากมันก็ช่วยผ่อนคลายความหวาดกลัวในใจได้มากโข จนไม่นานร่างบางก็ผล็อยหลับไปทั้งอย่างนั้น....

       

       +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      มาม่าต้มกับมาม่าน้ำ.....บางคนเค้าเรียกไม่เหมือนกันนี่เนอะ 555+
                      ยิ่งแต่งยิ่งชอบหมีขึ้นมาทุกทีๆ > <


      .....

       .

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×