SF [YeRyeo] Love of Death 1
คนนึงเกิดมาเพื่อ ฆ่ า คนนึงเกิดมาเพื่อ รั ก แล้วความรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร?
ผู้เข้าชมรวม
447
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
สวัสดีค่ะรีดเดอร์ที่รักของไรเตอร์
ช่วงนี้ตรงกับปิดเทอมของไรเตอร์เลยอยากจะมาลงSFให้อ่านกัน
ขอบคุณทุกคนที่ยังแวะเข้ามานะค่ะ
อาจไม่ได้มาบ่อยเหมือนไรเตอร์คนอื่น แต่เลือดเยเรียวยังไม่เปลี่ยนแปลงน้า ^^
ลองอ่านแล้วก็ติชมกันได้ในคอมเม้นค่า
เรื่องนี้คงไม่เกิน5ตอน จะพยายามให้เสร็จก่อนเปิดเทอมนะจ๊ะ
รักรีดเดอร์ทุกคนเหมือนเดิม จุ้บ <3
KimMeenWook
ด้วยรักและคิดถึง....YeRyeo
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
SF : Love of death 1
เช้าวันอาทิตย์วันสุดสัปดาห์ที่ทุกคนต่างรอคอยช่างดูเป็นวันที่สดใสประกอบกับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังมาเยือน ดอกซากุระสีชมพูอ่อนเบ่งบานสะพรั่งท่ามกลางผู้คนมากมายที่ออกมาเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ณ สวนสาธารณะใจกลางเมืองแห่งนี้ รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าผู้คนมากมายช่างเป็นภาพที่ดูแล้วมีความสุขกับผู้พบเห็นเหลือเกิน ก้าวเล็กๆที่กำลังยกกล้องถ่ายรูปคู่ใจในมือกดชัตเตอร์ถ่ายรูปก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มกับภาพที่เห็น
“มีความสุขจัง” ร่างเล็กพูดกับตัวเองอย่างพอใจ ก่อนจะเดินสำรวจมุมสวยๆเก็บภาพที่ประทับใจไปทั่วสวนสาธารณะ
“สายๆแบบนี้ถ้าได้กาแฟอร่อยๆซักแก้วก็คงจะดีสินะ” เจ้าของก้าวเล็กตัดสินใจเดินออกจากสถานที่แห่งความสุขไปยังซอยเล็กๆอีกฝากถนน ร่างเล็กเดินมาหยุดหน้าร้านกาแฟร้านโปรดที่เมื่อมีเวลาว่างหรือวันหยุดเมื่อไหร่เขาต้องมานั่งจิบกาแฟและฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์ทุกที
กริ๊งงง
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเผยให้เห็นผู้มาเยือนที่เจ้าของร้านเห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มในใจไม่ได้ เจ้าของร่างเล็กหน้าตาสดใสกับเสื้อเชิ้ตสีขาวลายยีราฟและกล้องถ่ายรูปที่ห้อยคออยู่ช่างเป็นภาพที่น่ามองซะจนไม่อาจละสายตาได้ เยซองไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่าตัวเองเผลอมองไปนานเท่าไหร่จนตอนนี้คนที่โดนเขาแอบมองมายืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์ซะแล้ว
“ขอลาเต้เย็นแก้วนึงฮะ” เสียงสดใสเอ่ยออกมาจากร่างเล็ก
“….”
“คุณฮะ คุณฮะ” ร่างเล็กสะกิดคนตรงหน้าที่เอาแต่เหม่อจนไม่ได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูด
“คะ…ครับ โกโก้ร้อนที่นึงใช่มั้ยครับ” เยซองเหมือนถูกปลุกจากความฝันหลุดทำท่าทีเก้ๆกังๆ จนคนตรงหน้าอดยิ้มไม่ได้
“ลาเต้เย็นฮะ” ร่างเล็กพูดทวนอีกครั้ง
“ครับ ซักครู่นะครับ” เยซองพูดจบหันไปจัดการกับเครื่องทำกาแฟเครื่องโตตรงหน้า ใช้เวลาไม่นานลาเต้เย็นสุดอร่อยของร่างเล็กก็เสร็จ
“ขอบคุณฮะ” ร่างเล็กรับแก้วเครื่องดื่มเดินไปนั่งมุประจำที่เขามานั่งทุกครั้งเวลามาทีนี้ ร้านกาแฟสีขาวสะอาดตาตกแต่งภายในเรียบหรู กลิ่นกาแฟหอมๆโชยมาบวกกับเสียงเพลงบัลลาดที่เปิดคลอตลอดทั้งวันช่างผ่อนคลายจริงๆกล้องถ่ายรูปถูกหยิบขึ้นมาใช้งานทันที ร่างสูงเจ้าของร้านแอบมองด้วยสายตาอ่อนโยนกับพฤติกรรมน่ารักๆของร่างเล็ก ทุกครั้งที่เขาเจอคนๆนี้ความสุขจะก่อตัวขึ้นในใจโดยที่เขาไม่รู้ตัว
************************************************************************
แต่ร้านกาแฟนี้มันก็เป็นแค่เพียงฉากบังหน้าบดบังเบื้องหลังอันดำมืดของคิม จงอุนคนนี้ ชีวิตของเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อความสุขแต่เขาเกิดมาเพื่อความตาย ลูกชายคนเดียวของแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ตำแหน่งที่เขาไม่เคยคิดที่จะอยากได้มันมาครอบครอง ชีวิตที่ถูกบังคับมาตั้งแต่เด็กเขาถูกสั่งสอนมาเพื่อทำลายความสุขและฆ่าเท่านั้น
ตื๊ดด ตื๊ดดด
เสียงโทรศัพท์เครื่องสวยดังขึ้นชื่อที่ปรากฏตรงหน้าจอโทรศัพท์มักจะนำมาซึ่งความตายเสมอ
“สวัสดีครับพ่อ ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านครับ” เยซองรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแววตาเปลี่ยนไปเป็นจริงจังอย่างเห็นได้ชัด
“ตอนเที่ยงแกเข้ามาหาพ่อที่บ้านหน่อย พ่อมีงานจะให้แกทำ” ปลายสายตอบกลับมาทำให้คนที่ฟังต้องลอบถอนหายใจ เพราะเขารู้ดีว่าคำว่างานของพ่อเขาหมายถึงอะไร
“ครับ” เยซองจัดการเก็บโทรศัพท์เครื่องสวยหันกลับมามองยังมุมเดิมแต่ปรากฏว่าร่างเล็กได้หายไปแล้ว ได้เวลาที่เยซองต้องกลับสู่โลกความเป็นจริง สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าตอนนี้มันก็เป็นแค่ละคร เยซองเดินออกทางหลังร้านถอยรถสปอร์ตคันหรูขับออกจากร้านด้วยความรวดเร็ว เขาใช้เวลาบนท้องถนนไม่นานรถก็แล่นมาจอดอยู่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โตที่ที่เขาอาศัยมาตั้งแต่เด็กและเพิ่งย้ายออกไปซื้อคอนโดเป็นของตัวเอง
“คุณท่านรออยู่ที่ห้องทำงานครับ” บอดี้การ์ดในชุดสีดำเดินมาหาเยซองทันทีที่ก้าวลงจากรถ ร่างสูงเดินขึ้นบันไดมาหยุดหน้าห้องสุดทางเดินก่อนตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปรับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อ
“มาแล้วหรอจงอุน นั่งก่อนสิ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยด้วยท่าทีสบายๆ
“ขอบคุณครับ”
“พ่อจะไม่อ้อมค้อมละนะ พ่ออยากให้แกไปจัดการกับคนๆนี้” พูดจบซองสีน้ำตาลก็ถูกยื่นให้กับเยซอง เยซองรับซองมาเปิดดูเอกสารด้านในเมื่อเห็นรูปที่อยู่ในมือก็รู้ได้ทันทีว่างานนี้มันไม่ง่ายเลย
“นี่มันท่านประธานาธิบดียองฮวา”
“ใช่ พ่อไว้ใจแกถึงได้วางใจให้แกทำงานสำคัญครั้งนี้”
“ทำไมต้องเป็นประธานาธิบดีคนนี้ครับ”
“เพราะว่ามันไงละที่ทำให้ลุงของแกต้องตาย พ่อจะไม่ยอมให้ลุงของแกตายฟรีหรอกนะ ตราบใดที่มันยังไม่ตายพ่อจะตามทำลายมันทุกวิถีทาง” ผู้เป็นพ่อพูดออกมาด้วยความโกรธแค้น
“อำนาจที่มันได้มาล้วนได้มาจากการแย่งชิงจากลุงของแก คนที่ทรยศแม้กระทั่งเพื่อนรักอย่างมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ”มาเฟียใหญ่กล่าวขึ้นอีกครั้ง เยซองรับคำสั่งเก็บเอกสารเข้าซองเดินออกมาขับรถกลับไปยังคอนโดของตัวเอง
ตั้งแต่เขาโตมาก็โดนผู้เป็นพ่อสั่งสอนให้รู้จักแต่ความโกรธแค้นและความเกลียดชัง เยซองถูกส่งไปโรงเรียนที่ฝึกเขาเพื่อรับหน้าที่สืบทอดตระกูลมาเฟียตั้งแต่เด็ก จนลุงของเยซองที่กำลังจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีถูกลอบสังหาร พ่อของเยซองจึงขึ้นมารับตำแหน่งแทนพร้อมแบกความแค้นมาตลอดเวลา20ปี
ภายใต้คฤหาสน์หลังโตเสียงพูดคุยดังเจื้อยแจ้วเล็ดลอดออกมาจากห้องรับประทานอาหาร ชายสูงวัยนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะหันมาคุยกับลูกชายสุดที่รักด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางบอดี้การ์ดและแม่บ้านที่ยืนอยู่ในห้องอาหาร
“วันนี้เป็นไงบ้างรยออุคของพ่อ ได้เจอสุดหล่อในดวงใจรึเปล่า” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู
“คิคิ เจอฮะวันนี้เขาน่ารักมากเลยฮะ” รยออุคพูดจบรับรู้ได้ถึงความร้อนที่จับไปทั่วไปหน้าของเขาทันที
“พ่อก็เห็นเราบอกว่าน่ารักทุกวันแหละ พ่อชักอยากเจอหนุ่มหล่อนี้ซะแล้วสิ”
ถึงแม้พ่อของรยออุคจะมีตำแหน่งทางการเมืองที่ใหญ่โตเป็นถึงประธานาธิบดีแต่ท่านก็ไม่เคยต่อว่าหรือขัดขวางในความสุขของลูก ด้วยความที่รยออุคเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเล็กจึงต้องอยู่กับพี่เลี้ยงผู้หญิงมาตลอดเขาก็เข้าใจในความอ่อนโยนในตัวลูกชาย
ภายนอกคฤหาสน์หลังใหญ่รถสปอร์ตคันหรูจอดเทียบอยู่ในมุมมืดของถนน ร่างสูงเจ้าของรถมองเข้าไปภายในอย่างพินิจพิจารณาแววตาจริงจังจนหน้ากลัวถูกส่งออกมาภายใต้แว่นกันแดดสีดำ ภาพในอดีตอันแสนเจ็บปวดเหมือนถูกนำมาฉายซ้ำอีกครั้งวนไปวนมาในสมองเพราะคนๆนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียลุงไป
“ฉันจะชดใช้ทุกอย่างด้วยมือฉันเอง” เยซองพูดกับตัวเองด้วยความแค้นก่อนจะสตาร์ทรถและขับออกไป
กลิ่นไอของทะเลพัดพาความเศร้าให้จางหายรยออุควางดอกไม้ลงหน้าหลุมศพของมารดาผู้เป็นที่รักที่จากเขาไปตั้งแต่เขายังเด็ก รยออุคมักจะมาหาแม่เสมอเมื่อเขามีเวลาว่างการใช้เวลาอยู่เงียบๆบริเวณริมทะเลกับแม่แบบนี้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นมากกว่าการที่ต้องอยู่กับบอดี้การ์ดนับร้อยในคฤหาสน์หลังนั้น
“แม่ฮะวันนี้ผมมีอะไรจะบอกฮะ ผมคิดว่าผมกำลังรักใครซักคนเข้าแล้วแหละ ผมควรจะทำไงดีฮะ” เด็กหนุ่มนั่งพูดกับป้ายชื่อหน้าหลุมศพรอยยิ้มสดใสเผยขึ้นบนใบหน้าหวานนั้น
“ผมควรจะไปบอกเขาให้รู้ใช่มั้ยฮะ ตลกจัง คิคิ”
“แม่ต้องช่วยผมด้วยนะฮะ ผมรักและคิดถึงแม่ที่สุดเลยฮะ” รยออุคพูดจบก้มคำนับหลุมศพและเดินออกมาด้วยแววตาอิ่มเอมใจก่อนจะขับรถออกมา ถนนข้างทางเปลี่ยนจากทิวทัศน์ริมทะเลเป็นตึกสูงใหญ่มากมาย ค่ำคืนในกรุงโซลนี่มันช่างสวยงามจริงๆนานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้ออกมาขับรถเล่นตอนกลางคืนแบบ ร่างเล็กขับรถชมเมืองจนลืมไปว่าตอนนี้รถบนถนนนั้นมีจำนวนมากเท่าไหร่
เอี๊ยดดด!!
“โอ๊ยยย” ผลจากการเหยียบเบรกกะทันหันทำให้หัวของรยออุคโขกเข้ากับพวงมาลัยอย่างจัง ร่างเล็กสะบัดหัวพยายามไล่ความเจ็บปวด
ก๊อก ๆ
เสียงดังขึ้นจากกระจกรถชายหนุ่มภายใต้แว่นตาดำกำลังยืนจ้องมองร่างเล็กที่นั่งสะบัดหัวอยู่ในรถ รยออุคลดกระจกลงก่อนจะปรับสายตาให้ดีขึ้นภาพรยออุคที่เห็นตรงหน้าทำเอาคนที่ยืนมองตกใจอยู่ไม่น้อย
“ตัวเล็ก…เป็นอะไรรึเปล่า” เยซองพยายามเคาะกระจกให้คนในรถรู้สึกตัว
“มะ…ไม่เป็นไรครับ ” รยออุคเงยหน้าจากพวงมาลัยก่อนจะเปิดปลดล็อคและเปิดประตูรถคันสวยออก
“ให้ผมช่วยนะ” เยซองจัดการเปิดประตูอุ้มร่างเล็กออกมาจากรถคนที่ถูกอุ้มหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนสีเป็นสีชมพูอ่อนๆ ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้แว่นสีดำช่างทำให้เขาดูดีขึ้นมาทันตา รยออุคไม่คิดเลยคนที่จะมาช่วยเขาคือคนที่เขาแอบชอบมาตลอด ร่างเล็กแอบลอบมองคนที่อุ้มเขาตลอดจนเยซองรู้สึกได้เลยนึกสนุกอยากแกล้งขึ้นมา เยซองค่อยๆวางรยออุคลงบนเก้าอี้บริเวณฟุตบาทก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้รยออุคจนหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ หน้าที่แดงแจ๋ก้มหน้าหนีนั้นทำให้เยซองพอใจในผลงานอย่างยิ่งก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างมีชัย
“เดี๋ยวผมจัดการให้นะ” เยซองพูดจบเดินออกไปกดโทรศัพท์เพื่อให้ลูกน้องมาเคลียร์สถานการณ์ ไม่นานเหตุการณ์ก็ดีขึ้นรถของรยออุคถูกยกไปซ่อมที่อู่ภายใต้เสียงโวยวายของร่างเล็กที่จะเป็นคนจัดการเอง
“ผมจัดการเองได้จริงๆนะฮะ”
“เราเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ว่าแต่เจ็บมากรึเปล่า” เยซองถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย ก่อนจะจิ้มลงบนหน้าผากโนๆของคนที่นั่งตาแป๋วอยู่
“อะ…โอ๊ย!! เจ็บนะ” ร่างเล็กโวยวายออกมาเรียกเสียงหัวเราะให้เยซองได้เป็นอย่างดี
“หึหึ มาเดี๋ยวพาไปหาหมอ”
หลังจากพารยออุคไปหาหมอที่คลินิกใกล้ๆก็อาสาจะพาร่างเล็กไปส่งที่บ้านรยออุคก็จำนนเพราะรถเสียและเวลาก็ดึกมากถ้ากลับเองมีหวังโดนคุณพ่อดุทั้งคืนแน่เลย จะว่าไปคนๆนี้ก็อ่อนโยนกว่าที่เขาคิดนะเนี่ย
“ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลยฮะคุณ….”
“เยซอง”
“ฮะ..ผมชื่อรยออุคฮะ ขอบคุณมากนะฮะคุณเยซอง ว่าแต่เมื่อกี้ตอนที่ผมอยู่ในรถคุณเรียกผมว่าอะไรนะ”รยออุคเอ่ยถามขึ้น
“ปะ…ป่าวนิ สงสัยหัวกระแทกแล้วหูฟาดแน่ๆนาย อีกอย่างเรียกเยซองเฉยๆก็ได้ไม่ต้องเรียกคุณหรอก” เยซองแก้ตัวที่เผลอหลุดเรียกสรรพนามที่ตัวเองแอบใช้เรียกรยออุคออกไป
“สงสัยคงจะหูฟาดไปจริงๆด้วย”
“ว่าแต่บ้านนายหลังไหนเนี่ย”เยซองเอ่ยถามหลังจากขับรถเข้ามาในหมู่บ้านได้ซักพัก
“อ๋อ.. ข้างหน้านี้ไงฮะ” มือเล็กๆชี้ไปยังบ้านหลังโตที่อยู่ถัดไปอีกสองหลัง
บ้านนี้หลังนี้มัน….
********************************************************************
จบไปหนึ่งตอนเป็นไงบ้างเอ่ย
ปกติจะเขียนแนวดราม่าตามฟิลเพลง
เรื่องนี้แหวกแนวหน่อยมาโหดๆ55555
คอมเม้นต์ให้ชื่นใจหน่อยนะคนดี
ผลงานอื่นๆ ของ Kim MeenWook ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kim MeenWook
ความคิดเห็น