#ฟิคเด็กเลี้ยงวัว
[เพื่อความอรรถรส กรุณาฟังเพลงประกอบด้วยนะคะ]
ความเย็นของลมหลังจากที่ฝนตกไปหมาดๆช่วยให้เกิดความสดชื่นไม่น้อย
ไอดินที่กลิ่นหอมของหญ้าที่เหมือนเพิ่งถูกตัดจนเกลี้ยงชวนให้รู้สึกดีนัก
ท้องฟ้าที่โปร่งใสประกอบกับนกกาบินสลับกันไปมาจนต้องเผลอแหงนมองจนได้ สองเท้าย่ำไปกับคันนาที่หญ้าโดนตัดจนเกลี้ยงด้วยระยะห่างเท่าๆกัน
กระเป๋าถูกลากด้วยความทุลักทุเล เนื่องด้วยพื้นที่ไม่ได้ราบเรียบดังในกรุง
ตั้งแต่ลงจากรถยนต์กระเป๋าใบโตตอนนี้ดูชุ่มไปด้วยหยาดน้ำฝน
แถมถูกเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน แขนอีกข้างอ้าออกไปเพื่อรับลมที่เข้ามากระทบใบหน้าหวาน
“สดชื่นดีจริงๆ”
.
.
.
.
ตุ๊บบบบ!!
พูดไม่ทันได้หุบปากเท้าข้างซ้ายก็ดูเหมือนจะตกลงไปในหลุมที่ถูกขุดขึ้นจากชาวไร่นาที่มาหาขุดหอยขุดปู
ยูยองแจเสียหลักหน้าคะมำลงพื้นหญ้าที่ถูกตัดใหม่ๆ
ใบหน้าสวยก่อนหน้านี้ที่แลดูสดใสกลับมีรอยประดับประดาด้วยเศษใบหญ้าแห้งและเขียวสลับกันไป
มันน่าโมโหนักที่กำลังจะรู้สึกดีกับธรรมชาติตรงหน้าแต่ก็ต้องโดนขัดขึ้นกับอะไรซักอย่างที่ดูเหมือนหลุมที่โดนขุดไว้ได้ไม่นาน
‘ใครมันบังอาจมาขุดหลุมตรงนี้กัน!!’
“ฮ่าๆๆๆ ย่างกะบ่แนมทางน้อคุณหนู”
เสียงทุ้มหัวเราะดังขึ้นจากอีกฟากของทุ่งนาเขียวขจีที่ตอนนี้กำลังเติบโตขึ้นพร้อมเพรียงกันอย่างสวยงาม
เด็กหนุ่มผิวสีแทนโผล่ขึ้นมาพร้อมกับหมวกงอบใบเก่าๆ
ไอ้ใบหน้าที่กลั้นขำไว้ดูเหมือนคุณหนูคนนี้ไม่ขำด้วย ใบหน้าสวยตอนนี้ดูงอง้ำเริ่มขึ้นสีด้วยความอับอาย
เสตามองไปที่มือของอีกคนจึงเห็นว่าถือจอบอยู่ด้วย ไม่ผิดแน่คนตรงหน้านี่แหละที่มาขุดหลุมไว้เป็นเหตุให้เขาตกลงไป
ไม่น่าจะพ้นหมอนี่..
“ไอ้บ้านนอก นายเองใช่มั้ยที่มาขุดหลุมไว้”
มือเล็กปัดใบหน้าที่เลอะไปด้วยเศษดินออกพร้อมยันตัวลุกขึ้น
‘ปากคอเราะร้ายเหมือนเดิมเลยนะยองแจ’
“ป๊าดด เกิดมาจากท้องอิพ่ออิแม่ยังบ่เคยมีไผเอิ้นจั่งซี่เลย ดั๋ยๆ
มาเบิ่งปากแหน่สิพอดีกับปากเฮาบ่”
“หมายความว่ายังไง”
“คั่นหากมันประกบกันสิพอดีบ่”
‘ได้แต่มองแล้วเดินผ่านไป...ไม่รู้โต้ไดได้บอกให้ฟัง
ว่าใครคนหนึ่งชอบเธอจัง...แต่ภาพของฉันไม่น่ามอง’
ยองแจถึงกับเดือดดาลเต็มอัตราถึงเขาจะพูดภาษาถิ่นของที่นี่ไม่เป็นแต่ก็พอเดาความหมายได้ว่าอีกคนพูดว่ายังไง
เจอกันครั้งแรกนอกจากทำให้เขาเจ็บตัวไม่พอยังมาทำให้เจ็บใจกว่าเดิมอีก
หัวเราะเยาะเขาไม่พอยังจะมาพูดจาหยาบคายอีก
ไม่รู้ซะแล้วว่าคุณหนูยองแจคนนี้เป็นใคร
นี่ถ้าคุณย่าไม่ขอให้เขากลับมาเยี่ยมบ้างคงไม่ต้องเจอกับคนบ้าตรงหน้าตอนนี้
“ชักจะเกินไปแล้วนะ!! ถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะไปฟ้องคุณย่าให้เอาเรื่องนายแน่”
“โอ้ยยย คือย่านแท้หนอ คนงามเอ้ย ย่างจังซี่มื้ออื่นสิฮอดเฮือนบ่น้อ”
แดฮยอนเผยรอยยิ้มให้อีกคนเห็นชัดๆ
‘จะว่าไปหมอนี่ก็หน้าตาดีไม่น้อย’
จริงๆเขาเห็นคนตัวเล็กเดินชมวิวมาตั้งแต่ลงจากรถแล้ว
ได้แต่นั่งมองความน่ารักของอีกคน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เจอหน้า
ก็ยังขี้โวยวายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“มันเรื่องของชั้น ระวังตัวไว้ให้ดีเหอะนาย!”
พูดจบก็ปัดตูดถือกระเป๋าเตรียมจะเดินไปบ้านต่อแต่ก็แทบจะล้มลงอีกครั้งเมื่อขาเจ้ากรรมดูเหมือนจะแพลงพยายามกัดฟันอดทนเดินกะเผลกกลับบ้านไม่อยากร้องโวยวายให้อีกคนมาช่วย
แดฮยอนเห็นท่าว่าไม่ปกติจึงเดินมาดูปล่อยวัวที่เลี้ยงไว้กินหญ้าแถวๆบริเวณนั้นไปก่อนค่อยกลับมาดูก็ได้
เพราะพื้นที่บริเวณนี้ใครๆก็รู้จักเขา
“เป็นหยังบ่” คุกเข่าลงจับข้อเท้าข้างที่เจ็บอีกคนอย่างเบามือ
“โอ้ยย ไอ้บ้าเจ็บนะเว้ย” ยองแจกัดริมฝีปากล่างอย่างเคยตัว
พยายามกลั้นความเจ็บปวดไว้สุดท้ายก็ต้องหลุดออกมา
เจอเรื่องบ้าๆยังไม่พอยังมาเจอกับคนบ้าๆอีก อยากจะหนีกลับเมืองกรุงให้พ้นๆ
ทำไมคุณย่าไม่ให้คนไปรับเขานะ
นี่ต้องลำบากเข็นกระเป๋ามายังไม่พอขากลับมาแพลงอีกยองแจอยากจะร้องไห้
“คั่นย่างบ่ดั้ย กะขึ้นหลังมา”
“ไม่มีทาง! สกปรก”
“อยากให้งัวควยซนลงคันแทนากะยางเอาเด้อ”
พูดจบเตรียมจะลุกขึ้นเดินหนีแกล้งอีกคน
กลับมีความรู้สึกหนักอึ้งที่กลางหลังแขนเล็กโอบกอดรอบคอไว้แน่น
กลิ่นหอมอ่อนๆลอยตามกระแสลมมาติดจมูก
แก้มอิ่มที่อยู่ห่างจากจมูกแค่ไม่กี่เซนต์หันไปคงได้สูดกลิ่นหอมๆนั่นอีกครั้งเป็นแน่
“เมื่อไหร่จะลุกไปล่ะ ฉันปวดขาจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
“กระเป๋าไว้นี่ก่อน เดี๋ยวเอิ้นหมู่มาเอาให้”
แขนแกร่งกระชับท่อนขาเล็กไว้แล้วลุกเดินตามคันนาพาอีกคนกลับบ้าน ร่างบางรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเขาคุ้นกับแผ่นหลังนี้เหลือเกินเหมือนครั้งหนึ่งเคยแบกเขาวิ่งเล่นไปด้วยกัน คนที่แบกเขาอยู่ตอนนี้ไม่ได้มีกลิ่นสาปเหงื่อคนทำงานหนักอย่างที่คิด กลับกันหากแต่ว่ากลิ่นตัวอีกคนมันชวนให้รู้สึกดี กลิ่นตัวของผู้ชายที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หน้าอกข้างซ้ายถูกกระตุ้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ส่ายหัวปัดความคิดในหัวที่ตอนนี้กำลังตีกันวุ่นไปหมด
เดินไปได้พักใหญ่ก็ถึงบ้านของคุณย่า
ยองแจไม่ได้บอกทางอีกคนซะด้วยซ้ำแต่ไหงมาถูกซะได้ แน่ล่ะคุณย่าเป็นที่รู้เคารพของคนแถวนี้ก็ไม่แปลกหรอกที่ทุกคนจะรู้จัก
บริเวณบ้านเปลี่ยนไปเล็กน้อยต้นไม้ลดลงไป
ตอนเขาเด็กๆจำได้ว่าต้นไม้ค่อนข้างเยอะทำให้รู้สึกร่มรื่นไม่น้อย
ตอนนี้ลานหน้าบ้านดูกว้างออกไปซะหน่อย แต่ก็ยังรู้สึกดีเช่นเดิม
“วางฉันลงได้แล้ว”
คนตัวเล็กที่อยู่บนหลังของจองแดฮยอนยังปากดีไม่เลิก
คำแรกที่ควรพูดคือ ‘ขอบคุณ’ ไม่ใช่หรอ
มันน่าแกล้งให้เจ็บตัวอีกซักรอบเป็นไง
“เอาซั่นติ”
“ก็ใช่น่ะสิ หลังนายมันสกปรกไม่รู้ไปมุดอะไรมาบ้าง”
ผลักไหล่คนแบกไปทีนึง
ก่อนที่แดฮยอนจะปล่อยแขนตัวเองจนสะโพกร่างบางหล่นไปที่พื้นได้ยินเสียงดังอุ๊ก
เวรกรรมของคุณหนูคนเก่งอีกแล้วที่ต้องมาเจอแต่เรื่องเจ็บตัว
นี่มันปีชงของเขารึยังไงกัน
อุ๊กกก!!
“ไอ้บ้านี่! วางฉันดีๆไม่เป็นรึไงห๊า!” หน้าแดงขึ้นสีอีกตามเคยความโกรธและน้อยใจผุดขึ้นมา ไม่เคยไปทำอะไรให้ด้วยซ้ำแต่ทำไมยังชอบมาทำร้ายเขาอยู่เรื่อย
หน้าเล็กเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น น้ำตาไหลอาบแก้มไปข้างนึงก่อนจะใช้มือปาดออกอย่างรวดเร็วกลัวอีกคนจะเห็น
แต่ไม่ทันแดฮยอนเห็นแล้ว..
เขาแกล้งแรงไปจริงๆด้วย อดสงสารไม่ได้เห็นน้ำตาของอีกคนเมื่อไหร่หัวใจที่แข็งกระด้างกลับอ่อนขึ้นมาทุกที
‘แพ้อีกตามเคย...’
“มาถึงแล้วหรอยัยหนู” คุณย่าของยองแจเดินออกมาเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาจากข้างนอก
เห็นร่างบางนั่งอยู่ที่พื้นกลับกันขณะที่แดฮยอนที่ชวยประคองยองแจให้ลุกขึ้นได้แล้ว
“คุณย่าหมอนี่เขา...”
“ขอบใจมากที่พายองแจมาส่ง เข้ามาในบ้านก่อนสิแดฮยอน”
“แดฮยอน..”
ยองแจดูแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินชื่อที่คุณย่าเรียกคนตรงหน้าที่คอยแกล้งเขาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก
พี่ชายข้างบ้านเมื่อตอนเด็กๆเคยเล่นด้วยกัน ก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่ที่โซล กี่ปีแล้วนะที่ไม่เจอกัน
แต่ทำไมเขาไม่เหมือนตอนเด็กๆเลยซักนิด เมื่อก่อนเป็นพี่ชายที่คอยปกป้องยองแจมาตลอด
ตอนนี้ทำไม...
“บ่เป็นหยังดอกขับ ผมสิไปเบิ่งงัวนำ” แดฮยอนเอ่ยขึ้นก่อนที่จะโค้งแล้วเดินกลับไปทางที่ตัวเองได้เดินมาส่ง
ยองแจก่อนหน้านี้
ความรู้สึกของยองแจตอนนี้คืออยากเดินไปกอดแดฮยอนไว้ให้หายคิดถึง
แต่ความรู้สึกผิดต่อแดฮยอนก็มีมากเช่นกัน ขาเจ้ากรรมที่ทำเอาเขาเดินไม่ได้นี่อีก
‘เจ้างั่งยองแจ... ร้องเรียกพี่เขาไว้สิ
เหมือนตอนเด็กๆที่เคยงอแงให้พี่เขาตามใจไง...’
มันจุกอกเต็มไปหมด
‘พี่แดฮยอนอย่าลืมยองแจนะครับ’
‘เดี๋ยวยองแจก็กลับมาเล่นกับพี่แดฮยอนอีก’
‘ยองแจชอบพี่แดฮยอนที่สุด..’
กลายเป็นเขาเองที่แทบลืมไปซะทุกอย่าง
ขอโทษ...
หัวใจพี่เปลี่ยนไปรึยังนะ แดฮยอน
กว่าขาของยองแจจะหายก็ปาไปหลายวัน แดฮยอนมาที่บ้านของคุณย่าบ้างแต่พอยองแจจะออกไปเจออีกคนก็กลับไปซะก่อน ถ้าขาไม่เจ็บป่านนี้คงได้วิ่งแจ้นไปตามง้อตั้งแต่วันแรกแล้ว ดีหน่อยที่วันนี้ขาหายดีจนเดินได้คล่องแล้ว พอดีกับที่คุณย่าบอกให้เขาข้าวกล่องไปให้แดฮยอนด้วย โอกาสนี้แหละจะได้คุยกับอีกคนให้รู้เรื่องซะที
เดินลัดทุ่งไปทันทีเมื่อออกจากบ้านแล้วเห็นแดฮยอนจากท้องทุ่งไกลๆ ไม่ผิดแน่
นั่นไงพี่แดฮยอนของเขากำลังตัดหญ้าให้วัวอยู่ ท่าท่างเท่ๆแบบนั้นเป็นใครไม่ได้หรอก
เดินเข้าไปใกล้หน่อยจึงเห็นว่าแดฮยอนคุยธุระกับผู้ชายอีกคน
“บ่เป็นหยังดอกขับ วันก่อนผมกลบให้เบิ่ดล่ะ” แดฮยอนบอกลุงบังเรื่องที่แกมาขุดปูไว้แล้วลืมกลบดินให้อยู่ดังเดิม
บังเอิญเมียแกโทรมาให้รีบกลับเลยไม่ทันได้กลบดินไว้ทำให้ยองแจเดินมาตกหลุมนั้น
เขาที่กำลังเอาดินถมคันดินที่พังลงมาจากพายุที่ตกหนักตั้งแต่เมื่อคืน
บังเอิญเห็นยองแจเดินมาก็จำได้ นั่งมองซะเพลินเห็นอีกทีก็ตกหลุมไปแล้ว
“ลุงไปดูควยล่ะเด้อ ก่อนมันซิกินข้าวหมู่อื่น”
"โอ้ยยย เข่าตายเบิ่ดแล่วคุณนายเอ้ย" แดฮยอนเอ่ยขึ้นและยงกุกหันไปมองอีกคนที่ตรงดิ่งเดินลัดทุ่งนาของตัวเองมาหาแดฮยอนอย่างกับจะรีบไปไล่ควายที่กำลังกินป่าพริกยังไงอย่างนั้น
ยงกุกบอกลาแล้วเดินไปทำธุระของตนเองก่อนที่ยองแจจะเดินมาหาแดฮยอนที่ตัดหญ้าต่อ
แสร้งทำไม่เห็นคนตัวเล็กที่ตรงดิ่งมาหา
ดูท่าทางอ้อนแอ้นนั่นสิมันน่าจับตีก้นซะให้เข็ด
“ฉันเอาข้าวมาให้ พักแล้วมากินข้าวก่อนสิ”
“บ่อยาก ตัดหญ่าให้งัวอยู่ ตาบ่มืนติ” (กรุณาอ่านให้เป็นภาษาอีสานค่ะ
555555)
ยอมรับว่าปากแข็งไม่น้อยเลยล่ะผมน่ะ
ใจจริงอยากจะกระโจนไปให้อีกคนป้อนด้วยซ้ำ แต่ฟอร์มไว้ก่อนครับเดี๋ยวคนดื้อตรงหน้าจะได้ใจ
แต่หน้าง้ำงอนั่นทำให้ผมใจสั่นอีกตามเคย
“พี่แดฮยอน ยองแจยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลยนะ ว่าจะมากินข้าวกับพี่ทำไมใจร้ายกับยองแจนักนะ”
นั่นไง..
แดฮยอนโดนเล่นซะแล้วครับ โดนลูกอ้อนที่ไรเป็นต้องระทวยทุกที
ผมนี่แทบจะคลานไปหาน้องยองแจคนงามเลยครับ มือไม้สั่นไปหมดทุกที
หัวใจตอนนี้สั่งการสมองให้รีบไปรับห่อข้าวอีกคนซะแล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน..ใจเย็นๆไว้แดฮยอน เขาทิ้งแกไปเมืองกรุงนานขนาดนี้ ไม่ง่ายไปหน่อยหรอ
“ถ่าสำนี่บ่ได้เลยติ คั่นอ้ายถ่าเจ้าหลายปียังถ่าได้ บ่เคยลืมเจ้าเลย”
“……”
ยังรอเขามาตลอดเลยหรอ อยู่ๆพวงแก้มก็แดงขึ้นมาซะดื้อๆ ไม่ใช่ความโมโหเดือดดาลเหมือนทุกครั้ง
แต่ตอนนี้รู้สึกดีจนตื่นตันใจไปหมด
ไม่เคยลืมยองแจเลยซักครั้งรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกยังแคร์เขามาตลอด
แดฮยอนหันหลังให้อีกคนแล้วลงมือตัดหญ้าต่อ ไม่กล้าแม้จะสบตาด้วยซ้ำกลัวจะใจอ่อนไปซะก่อน
อยู่ๆมือเล็กก็สอบเข้ามาระหว่างเอวทั้งสองข้างกอดเขาไว้แน่น
หน้าเล็กซุกไว้ที่กลางหลังพร้อมส่ายไปมาอ้อนคนที่เป็นพี่
.
.
.
พัง... ความพยายามในการกลั้นความใจแข็งไว้กลับละเอียดย่อยยับเพราะแค่อ้อมกอดเดียวเท่านั้น หัวใจที่พยายามขืนไว้กลับกระดอนไปหาอีกคนซะแล้ว ความขี้อ้อนของยองแจมันสำเร็จเสมอเวลาทำกับเขา
“ยองแจหิวข้าวแล้ว
พี่แดฮยอนไปกินข้าวกับยองแจนะ...”
ผมนี่วางเครื่องตัดหญ้าแทบไม่ทันเลยครับพี่น้อง
วัวที่ว่ารักยังน้อยว่าคนร่างบางคนนี้ซะอีก พอๆ หญ้าเญ่ออะไรไม่ตัดแล้ว จะกินข้าว
หิว!!
“เบิ่ดคำสิเว่า ป่ะๆ ไปกินข้าวกันเถาะ” แดฮยอนทิ้งเครื่องตัดหญ้าไว้แบบนั้น
ไม่สนใจอะไรอีกแล้วนอกจากใบหน้าหวานตรงหน้า ขนาดน้ำเปล่าที่ว่าจืดเมื่อดื่มทุกครั้ง
พอวันนี้กลับหวานชื่นใจอย่างกับมีใครเอาน้ำเชื่อมมาเติมอย่างนั้นแหละ
รักแรกเป็นความรักที่น่าจดจำเสมอ
ไม่ว่าอดีตมันจะเจ็บปวดยังไง แต่รักแรกของเราก็ยังสวยงามสำหรับผมเสมอ..
Happy
Ending
#ตั้ลล๊ากกกกก 555555555555555
#ฟิคเรื่องนี้มีพล็อตไว้นานแล้ว แต่ยังไม่กล้าแต่งซะที ;-;
#เรานึกถึงคู่แด้แจ้ทันที จริงๆนึกถึงหน้าแดฮยอนคนแรกอ่ะ ขำจนท้องแข็ง 555555555
#ขอบคุณทุกคนจริงๆนะคะที่หลงเข้ามาอ่านกัน เยิฟฟ <3
นึกภาพอีตาแด้เวลาเว่าออกเลย 555
อ่านเข้าใจทะลุปลุโปร่ง ขำก็ขำ เขินก็เขิน แงงงง พี่แดฮยอนผู้มั่นคงในความรักของเค้าาา
นุ้งแจเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยตอนรู้ว่านั่นคือพี่ดอนคนโก้ พี่ชายข้างบ้านในวัยเด็ก
ชอบมากเลยค่าาาา รอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ
ไหนๆ ก็เป็น sf แล้ว มีพาร์ทต่อเถอะค่ะ อยากอ่าน งอแง
ฝากติดตามด้วยนะคะ