แด่เธอผู้สนิทนิทรา (เรื่องสั้น ส่งจารย์น้อยนะน้องๆ )
ห้ามลอกนะคะ เอาไปเป็นไกด์ไลน์ ได้อย่างเดียวนะ ^^
ผู้เข้าชมรวม
481
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
คำสั่ง : ให้นิสิตเขียนเรื่องสั้น 1 เรื่อง โดยมีความยาว 1 หน้ากระดาษ โดยให้มีคำต่อไปนี้ ช็อคโกแลต
แมวศรีสวาท ตะกร้าหวาย ต้นกระดังงา รถยนต์สีขาว
นายญัฐวุฒิ สุขษาเกษ
51054019 วิศวกรรมศาสตร์
ร่วมด้วย
นางสาวเมธาพร ศรีชาติ
52100103143 ครุศาสตร์
สาขาวิชาทัศนศิลป์(ศิลปกรรม)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
+- Diary -+
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมอยู่ ม.6
ขณะที่ผมกำลังนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่หน้าร้านมินิมาร์ทของโรงเรียน
รถยนต์สีขาวคันโตวิ่งมาจอดที่หน้าร้านมินิมาร์ทที่พวกเรานั่งอยู่ สาวน้อยหน้าตาน่ารักในชุดนักเรียนที่เรียบร้อยก้าวลงมาจากรถเบนซ์คันนั้น และวันนั้นผมก็ได้รู้จักกับคำว่ารักแรกพบ
อาจจะเป็นโชคดีหรืออาจจะเป็นพรหมลิขิตอันใดผมก็ไม่ทราบเพราะเธอกลายเป็นนักเรียนใหม่ของห้อง 6/1 เหมือนกับผม แต่ว่าผมก็ไม่ได้เป็นแฟนเธออย่าที่ตั้งใจไว้ แต่กับกลายเป็นเพื่อนสนิทของเธอแทน ผมชอบเล่าความลับของผมให้เธอฟัง ผมชอบที่เธอเป็นคนเงียบ ๆ คอยนิ่งฟังเวลาที่ผมเล่าโน่นนี่ แต่บางทีเธอก็จะเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟังบ้างเหมือนกัน เช่นว่า เธอบอกว่าเธอรักแมวศรีสวาทของเธอมากขนาดที่ว่ายอมเลิกไปเเล่นเรือใบกับครอบครัวเพราะว่าแมวเธอมันกลัวน้ำทั้งๆที่การนั่งดูวิวทะเลขณะที่เรือกำลังเเล่นเป็นสิ่งที่เธอโปรดปราณมากก็ตาม และทุกครั้งที่คุยกันผมก็จะมีมุขตลกฮาๆมาทำให้เธอหัวเราะได้เสมอ เราสามารถคุยกันได้ทุก ๆ เรื่อง แต่ผมก็ยังมีความลับที่ผมไม่เคยเล่าให้ใครฟัง...และผมก็ยังไม่เคยบอกเธอ
......วันนั้นผมเจอเธอนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆต้นกระดังงา ดูเธอเสียใจมาก เธอแทบไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าหญิงสาวที่ผมแอบรักโดนหักอกมา ผมได้แต่ปลอบเธอว่าใครบ้างหละจะไม่เคยอกหักผมเองยังเคยอกหักแต่ซักพักมันจะดีขึ้นเอง.....
เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรื่อยมาจนถึง ม.6 เทอม 2
เราสนิทกันมาก แม้ผมจะคิดเสมอว่า เราเป็นแค่เพื่อน
แต่ลึก ๆ แล้ว...ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่
ในคืนวันนั้นหลังจากเสร็จงานกีฬาสีของโรงเรียนเพื่อนๆนัดปาร์ตี้กัน
เมื่องานเลิกทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมเลยถือโอกาสชวนเธอไปเดินเล่นกัน
เพื่อที่ผมจะได้บอกว่าเธอว่าอยากจะขอคบเธอเป็นแฟน
อือ ... นั่นดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองของผมทีเดียว แต่ที่สุดแล้วเราก็แค่นั่งดูดาวและ
ผลัดกันเล่าแผนการชีวิตของกันและกัน...
เธอจ้องตาผมขณะฟังเขาเล่าแผนการในชีวิตของผม ผมบอกเธอว่า สักวันผมจะเป็นวิศวกรที่ยิ่งใหญ่ มีกิจการเป็นของตัวเอง ผมจะต้องร่ำรวยและประสบความสำเร็จในชีวิต เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมก็จะแต่งงานวางหลักปักฐานกับใครสักคนที่ผมรัก....
....ผมหันหน้ามาหาเธอและยิ้มให้กับเธอ เธอยิ้มตอบ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรและคืนนั้นเธอก็นั่งคุดคู้อยู่ข้าง ๆ ผมจนเกือบเที่ยงคืน....
คืนนั้นผมกลับบ้านพร้อมความรู้สึกอันปวดร้าว
ด้วยเหตุที่ไม่ได้พูดออกไปดังใจปรารถนา
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่หัวใจผมเจ็บปวด
.....เวลาก็ล่วงเลยมาจนเราใกล้จะจบ ม.6 ผมอยากจะสารภาพรักให้เธอฟังใจจะขาด
แต่ทุกครั้งจะต้องมีใครสักคน อยู่ตรงนั้นด้วยเสมอ
....หลังจากผลสอบโควต้าเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยประกาศผล
ผมสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์หลายมหาวิทยาลัย ส่วนเธอก็สอบติดคณะทันตแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เธอฝันไว้เช่นกัน ผมยินดีกับอนาคตอันสดใสนั้น แต่ยังคงเก็บงำความรู้สึกของตัวเองไว้เช่นเดิม
....จนกระทั่งถึงวันปัจฉิมนิเทศที่เราจะต้องจากกันเพื่อเดินตามความฝันของแต่ละคน เธอกอดผมแล้วร้องไห้ ผมคิดว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะมีเธออยู่เคียงข้าง
คืนนั้นผมร้องไห้จนตาบวม และยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น
เมื่อนึกถึงว่า ที่สุดแล้ว ผมก็ยังไม่ได้เล่าความในใจให้เธอฟัง
......จนคืนนั้น ก่อนที่เธอจะต้องเดินทางไปเรียนเราคุยโทรศัพท์กันจนถึงเที่ยงคืน ก่อนที่เธอจะวางสายผมได้บอกกับเธอว่าผมสัญญาว่าพรุ่งนี้ผมจะไปส่งเธอขึ้นเครื่องบินอย่างแน่นอน และเธอก็บอกว่าเธอ
มีบางอย่างเตรียมไว้ที่จะให้ผม......
......ผมตื่นสายมากเพราะเมื่อคืนนอนดึกมัวแต่คิดว่าจะต้องทำอย่างไรดีเพราะตอนนี้เธอกำลังจะไปจากชีวิตผมแล้ว...ผมจะต้องบอกความในใจอย่างไรให้เธอรู้ว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อน ......อีก 15 นาที เครื่องก็จะออกแล้วผมคงไปไม่ทันแน่ๆ ผมจึงหยิบโทรศัพท์โทรหาเธอ เธอบอกว่าตอนนี้อยู่บนรถใกล้จะไปถึงแล้ว ผมขอโทษเธอที่ผมไปไม่ทันส่งเธอขึ้นเครื่องบิน เสียงเธอเศร้าและสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ ผมจึงบอกเหตุผลที่ทำให้ผมตื่นสาย.... และผมก็บอกไปว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกวันทุกเวลา ทุกวินาที ช่วงเวลาที่อ้นมีความสุขที่สุดคือตอนที่ได้อยู่ใกล้ๆโบว์......
.....เรารักเธอนะโบว์.....
เสียงเบรกรถและเสียงกระแทกกันอย่างแรง ดัง โครมมมมมมมมม!!!! ลอดผ่านโทรศัพท์ของผมออกมา ผมตะโกนเรียกชื่อเธอ แต่ว่าผมกลับไม่ได้ยินเสียงใดๆตอบกลับมา...................................
ผมรีบขับรถไปที่สนามบิน ก่อนจะถึงสนามบินอีกเพียงแค่ 10 กิโลเมตร ภาพที่ติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ รถพ่วงสิบล้อ ประสานงากับรถเบนซ์สีขาวที่ผมคุ้นตา แต่ว่าวันนี้มันกลายเป็นเพียงแค่เศษเหล็กไม่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ ผู้คนมุงดูกันเต็มสองฟากถนนส่งเสียงคุยกันเสมือนหนึ่งนกกระจากก็ไม่ปาน ผมวิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไป ตำรวจหลายนายวิ่งเข้ามากันผมไว้ ไม่ให้ผมเข้าใกล้รถของเธอ น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาเป็นสายอย่างที่ไม่เคยเป็น พ่อของเธอเดินเข้ามาเเตะไหล่ผม ท่านฝืนยิ้มแล้วพูดว่า....ก่อนสิ้นใจโบว์ฝากสิ่งนี้ไว้ให้ผม
ท่านยื่นตระกล้าหวายผูกโบว์สีชมพู ซึ่งข้างในมีช็อกโกแลตรูปหัวใจ และสมุดไดอารี่ของเธอให้ผม
....ผมเปิดสมุดบันทึกออกอ่าน
สมุดบันทึกนั้นเริ่มบันทึกขึ้นจากวันแรกที่เราได้พบกัน
อ่านไปชั่วขณะหนึ่งผมก็เริ่มร้องไห้
เมื่อพบข้อความว่า
เธอได้ตกหลุมรักผมในวันที่เธอถูกหักอก แต่เธอก็ขลาดเกินไป
ที่จะบอกผมว่าเธอรู้สึกอย่างไร
นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมวันนั้น.... เธอจึงนิ่งเงียบและคอยแต่จะเป็นผู้ฟัง
จากบันทึกทำให้ผมรู้ว่า เธอพยายามจะบอกผมหลายครั้ง
แต่เธอก็ไม่มีความกล้าหาญพอ.......
เวลาที่เธอรู้สึกดีใจที่สุด
จึงเป็นโอกาสที่เธอได้พบผม และวันนี้ก่อนที่เธอจะไป เธอจะสารภาพความในใจของเธอออกมา
ในที่สุดสมุดบันทึกก็จบลงด้วยข้อความว่า
"แล้วก็มาถึงวันนี้ ...วันนี้แล้ว....ที่ฉันจะได้บอกรักเธอ ... "
แต่มันกลับเป็นวันที่เธอต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
....และผมก็ได้แต่เฝ้าโทษตัวเองตลอดมา ที่ไม่กล้าบอกรักเธอ
.......
ผิดพลาดติชมได้ที่
http://my.dek-d.com/me-modsom13/
หรือ
ผลงานอื่นๆ ของ Leopold ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Leopold
ความคิดเห็น