เรื่องเล่าจบไปนานแล้ว แต่ฉันยังคงยืนมองคนร่างหนาอยู่ตรงนั้น เขาเองก็ยังคงไม่ละสายตาจากเบื้องหน้า ความเงียบเหงาจากน้ำเสียงทุ้มลอยเอื่อยในอากาศ มันค่อยๆ แทรกซึมเข้าไปกระทบใจของฉัน
"ทำไมนางไคลทีต้องอดทน รอคอยขนาดนั้นนะ" ถามออกไปแล้วก็อดนึกถึงตัวเองไม่ได้ ก่อนหน้านั้นฉันเองก็ยังอดทนรอคอยเพื่อจะกลับมาแก้ไขในสิ่งที่ทำร้ายจิตใจมอคค่า แม้ว่าจุดหมายของเราจะต่างกัน แต่เราก็ต้องอาศัยเวลาเป็นสิ่งทดสอบความอดทนไม่ใช่หรอกหรือ
"ความรักไง นางไม่ขออะไรมากไปกว่าการที่คนที่นางรักมองเห็นนาง สัมผัสถึงความมีอยู่ แม้ว่าจะห่างเกินกว่าจะเอื้อมถึง แต่อย่างน้อยคนที่นางรักยังรับรู้และรู้สึกถึงนางอยู่ตลอดเวลา แต่ความหวังของไคลทีก็ยังไม่สำเร็จ เพราะทานตะวันยังคงมีอยู่บนโลก ต่อให้นางจะสร้างทานตะวันกี่ล้านล้านต้นก็ตามที" น้ำเสียงหม่นกระทบใจฉันอย่างแรง ฉันสะกดความรู้สึกแล้วฉีกยิ้มก่อนจะโพล่งความคิดของตัวเองออกไป
"ใครบอกนายกัน บางทีพวกเขาอาจจะสมรักกันไปนานแล้วก็ได้ ทั้งคู่อาจจะเก็บทานตะวันไว้เป็นอนุศรณ์ความรัก" เขาหันกลับมามองฉัน มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แต่มันกลับไม่สดใสกว่าที่เคย แววสับสนกังวลยังปรากฏร่องรอยให้เห็น "ถ้าเป็นอย่างเธอว่า นางไคลทีก็สมหวังไปแล้ว.... ถ้าอย่างนั้นก็เหลือฉัน" คำสุดท้ายขาดหายไปกับสายลม แต่ฉันก็ยังทันที่จะได้ยินและสัมผัสถึงความสิ้นหวังจากน้ำเสียงนั้น
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น