หน้าต่างชีวิตอีกบาน
บนเส้นทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีทั้งความทุกข์ ความสุข เสียงร้องไห้ เสียงหัวเราะปะปนกันไป ในแต่ละวันของการดำเนินชีวิตนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะจัดการนานาอุปสรรคที่ต่อคิวกันเข้ามาอย่างไร นี่เป็นคำถามที่แต่ละคนล้วนมีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว...
ผู้เข้าชมรวม
160
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บนเส้นทางชีวิตของแต่ละคนล้วนมีทั้งความทุกข์ ความสุข เสียงร้องไห้ เสียงหัวเราะปะปนกันไป ในแต่ละวันของการดำเนินชีวิตนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า เราจะจัดการนานาอุปสรรคที่ต่อคิวกันเข้ามาอย่างไร นี่เป็นคำถามที่แต่ละคนล้วนมีคำตอบให้กับตัวเองอยู่แล้ว...
น้ำข้าวเก็บเสื้อตัวสุดท้ายลงในกระเป๋าและรูดซิปต์ปิด เธอถอนหายใจเบาๆแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ เธอยิ้มให้กับเตียงที่เคยนอน ทีวีเครื่องเล็กที่ตั้งบนหัวเตียง กระจกบานใหญ่ที่พอตื่นขึ้นมาก็จะมองเห็นเงาของตัวเองทุกวัน หลังจากนี้ทุกอย่างก็จะกลายเป็นอดีต เพราะเธอได้ตัดสินใจทิ้งบางอย่างและเลือกบางอย่าง มันเป็นสัจธรรมของโลกอยู่แล้ว ไม่มีใครได้ทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันหรอก เธอคิดอย่างนี้ เธอเลือกที่จะเดินบนเส้นทางของตัวเอง เลือกเดินบนถนนที่ไม่มีใครบอกเธอได้ว่าระหว่างทางจะพบอะไรบ้าง และปลายทางจะสิ้นสุด ณ ที่ใด
“เรียบร้อยยังแก” เสียงของเพื่อนฉุดให้เธอกลับมาสู่ปัจจุบันอีกครั้ง เธอเดินไปเปิดประตูแล้วก็ส่งยิ้มให้กับเพื่อนทั้งสองที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่หน้าห้อง
เธอรู้ว่าเพื่อนทั้งสองรักและหวังดีต่อเธอ พวกเขาพยายามทัดทานความคิดของเธอ นานาเหตุผลที่ยกขึ้นมาพูดเพื่อโน้มน้าวใจเพื่อให้เธออยู่ต่อ แต่ก็นั่นแหละ เมื่อทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วแม้เพียรจะผลัดอย่างไร ท้ายที่สุดก็จะต้องเลือกอยู่ดีอาจจะต่อรองกับเวลาได้ แต่จะต่อรองได้นานเพียงใดกันเล่า หนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี หรือมากกว่านั้นแต่ท้ายที่สุดมันก็ต้องเดินมาถึงอยู่ดี
แล้วเธอก็ทิ้งความหวังของคนที่เธอรักไว้เบื้องหลัง หลายคนมองว่าเธอเห็นแก่ตัว ไม่คำนึงถึงความรู้สึกคนอื่น ละทิ้งอนาคตของตัวเอง เธอไม่เคยเถียงและไม่คิดที่จะแก้ตัว เพราะทุกอย่างที่พวกเขาพูดมันล้วนแต่เป็นความจริง เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ใครฟัง เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเพิ่มความเห็นแก่ตัวขึ้นไปอีก เธอทำได้แค่เพียงยิ้มรับกับคำตัดสินของคนส่วนใหญ่ ยิ้มรับกับเส้นทางใหม่ของตัวเอง เส้นทางที่ไร้ซึ่งคนรู้จัก มีเพียงตัวเองกับใจที่มั่นคงเท่านั้นที่จะประคองกันไปให้ถึงจุดหมาย จุดหมายที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไร กี่วัน กี่เดือน กี่ปี หรือบางทีอาจจะไม่มีเลยก็ได้
ณ จุดเริ่มต้นของเส้นทางใหม่ น้ำข้าวพยายามเรียนรู้ทุกอย่าง ซึมซับ เก็บเกี่ยวความรู้จากคนรอบข้างเพื่อมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิต ทั้งวัฒนธรรม ภาษา อาหาร ทุกอย่างล้วนอยู่ในความสนใจของเธอทั้งสิ้น เธอรู้สึกสนุกกับความรู้ใหม่ๆ ความรู้ที่ไม่ได้มีแต่ในห้องเรียนเท่านั้น และที่สำคัญบรรดาอาจารย์ก็ไม่ได้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิมาจากที่ไหน เป็นเพียงผู้ชำนาญทางศาสตร์อาชีพที่ตนถนัดเท่านั้น ทำให้เธอเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิดว่า ความรู้หาได้ทุกที่ และผู้รู้ก็มีทุกที่เช่นกัน
พอทุกอย่างเริ่มลงตัวก็ทำให้เธอตระหนักถึงคำกล่าวที่ว่า “มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด” เธอเริ่มเผชิญกับลมปากของคนอีกครั้ง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง เธอถูกมองว่าเป็นบุคคลอันตรายสำหรับเพศเดียวกันแต่เป็นบุคคลที่น่าสนใจสำหรับเพศตรงข้าม เธอไม่ได้ใส่ใจกับคนพวกนั้นแต่เธอใส่ใจความรู้สึกของคนใกล้ตัว เพื่อความสบายใจของเธอและคนที่เธอรัก เธอจึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เขาฟัง เมื่อเขาเข้าใจเธอก็มีกำลังใจอยู่ต่อไป เธอยอมให้ตัวเองเป็นประเด็นให้พวกเขานำมาถกเถียงกันอย่างสนุกปาก เธอแอบหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาคงจะพบเหยื่อรายใหม่แล้วเรื่องของเธอก็จะถูกลืมเลือนไป
และแล้วน้ำข้าวก็ได้โลกที่สงบสุขของเธอกลับมาอีกครั้ง เมื่อความหวังของเธอเริ่มเป็นจริง พวกเขาละความสนใจจากเธอ แต่กลายมาเป็นมิตรแทน แต่ละวันของเธอไม่เงียบเหงา เพราะคนรอบข้างไม่คลางแคลงเธอ เริ่มเปลี่ยนมุมมองต่อเธอ ดังนั้นเมื่อเธอไปที่ไหนก็จะได้รับเสียงทักทาย ร้องถาม เธออดไม่ได้ที่จะอมยิ้มให้กับโชคชะตาของตัวเอง เธอใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ปราศจากสีสันต์ เธอปล่อยให้เวลาเป็นผู้นำพาทุกอย่างมาสู่ชีวิตของเธอ
ไม่นานเลยไม่นานจริงๆ เมื่อเวลาได้นำพาบางอย่างมาสู่ชีวิตเธอ บางอย่างซึ่งมันจะทำให้เธอจะต้องละทิ้งทุกอย่างอีกครั้งเพื่อแลกกับความปลอดภัยของเธอเอง เมื่อคนที่เธอคิดว่าเป็นคนดี เป็นผู้มีพระคุณได้เสนอเงื่อนไขบางอย่างที่ทำให้เธอต้องกลับมาทบทวนการมองคนของตัวเองอีกครั้ง “มนุษย์ คน” ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากเสียนี่กระไร
เธอกลับมานั่งทบทวนเงื่อนไขพร้อมกับตั้งคำถามแต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบ เธอไม่คิดว่าผู้มีพระคุณของเธอจะตีคุณค่าความเป็นคนของเธอเพียงเงินไม่กี่บาท เพื่อแลกกับการให้ความสุขทางกายกับเขา เธอจำได้ว่าพอเขาพูดจบเธอรู้สึกชา ช็อค ตกใจ โกรธ รังเกียจ หลากความรู้สึกที่ประเดประดังเข้ามา แต่เธอก็ทำได้เพียงนิ่งและรับฟังอย่างสงบ เธอปล่อยให้เขาพร่ามไปเรื่อยๆ เธอไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว เพียงรอ และก็รอให้เขาพร่ามจบก็เท่านั้น
“ตกลงไหม” นี่เป็นคำถามของเขา เธอยิ้ม และก็ยิ้ม
“ไม่... คุณค่าของฉันมันไม่แพง บางครั้งมันอาจจะไม่เท่าราคาที่คุณเสนอมาด้วยซ้ำ แต่มันขึ้นอยู่กับความพอใจของฉันเอง ที่สำคัญ ฉันยังมีสำนึกที่ดีอยู่ และฉันไม่คิดที่จะทำร้ายคนที่ฉันรักด้วย เพราะคงไม่ใจร้ายพอที่จะทำอย่างนั้น” เธอตอบพร้อมกับปิดการรับรู้ทุกอย่าง
เธอกลับมาบ้านพร้อมกับความรู้สึกที่หนักอึ้ง สมองงดการสั่งงาน เธอเพียรถามตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันในสายตาของคนรอบข้าง แรด ร่าน หรือหิวเงิน ปล่อยเนื้อปล่อยตัวหรือ ทำไมเขาถึงกล้าเสนอซื้อเธอ เธอให้ความเคารพเขาดุจพี่แต่เขากับเห็นเธอเป็นอะไร หญิงขายบริการหรือ เธอดูจนตรอกขนาดนั้นหรือไร ไม่นะเธอมีเงินเก็บพอตัวอยูนี่นา ที่แย่ไปกว่านั้นเธอรู้สึกสงสารผู้หญิงของเขาจับใจ จะเป็นอย่างไรเมื่อคนรักของตนทิ้งเกียรติของความเป็นคนเพียงเพื่อต้องการความสุขทางกาย เที่ยวเสนอซื้อความสุขจากผู้หญิงไปทั่ว ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งหดหู่ นี่หรือชีวิต
หลังจากที่เธอปฏิเสธเธอก็ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง อึดอัด ยิ่งเห็นผู้หญิงของเขาเธอก็อยากจะร้องไห้ จนในที่สุดเธอทนความอึดอัดไม่ไหวจึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้ผู้หญิงของเขาฟัง เธอไม่สนใจว่าจะถูกมองอย่างไร ขอเพียงเพื่อได้ทำอะไรสักอย่างก่อนจากมา ยิ่งเห็นนางร้องไห้เธอก็ทวีความรังเกียจในตัวเขา น้ำตาพรั่งพรูราวทำนบแตก นางกอดเธอแล้วก็ร้องไห้ ร้อง ร้อง แล้วก็ร้องอยู่อย่างนั้น
ด้วยคำขอร้องของผู้หญิงของเขาเธอจึงยังไม่ได้ไปไหน แต่เธอก็ตอบไม่ได้ว่าจะอยู่ได้นานเพียงใด เธอยังคงพยายามทำตัวให้ปกติที่สุด ทั้งๆ ที่ในใจรู้สึกขยักแขยง เพื่อนเคยตั้งคำถามกับเธอว่า
“ระหว่างช่วยเขากับตัวเองปลอดภัยแกจะเลือกอะไร” เธออยากบอกมันเหลือเกินว่าเธอเลือกความปลอดภัยซิ แต่เธอก็สงสาร เธอใจไม่แข็งพอที่จะละทิ้งได้เหมือนกัน ผู้หญิงของเขานางก็ดีกับเธอ เข้าใจเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจมากกว่าตัวของเธอเอง แต่ ณ เวลานี้เธอจะต้องรอรับความคุ้มครองจากนาง
แล้วเธอจะทำอย่างไรดีล่ะ จะมีใครตอบเธอได้บ้างไหม ว่าเธอควรจะทำอย่างไร ทำอย่างไร ... ทำอย่างไร
ผลงานอื่นๆ ของ ไอเวอรี่ ชมพูเนกษ์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ไอเวอรี่ ชมพูเนกษ์
ความคิดเห็น