fanfic [kihae] Rainny - fanfic [kihae] Rainny นิยาย fanfic [kihae] Rainny : Dek-D.com - Writer

    fanfic [kihae] Rainny

    โดย the_racky

    การพบเจอกันในวันฝนตกของเขาทั้งสอง จะเป็นอย่างไรต่อไปนะ คิบอมคนดัง ทงเฮคนเงียบ

    ผู้เข้าชมรวม

    1,109

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.1K

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 ธ.ค. 53 / 02:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    ฟิคชันเรื่องแรก
    ฝากติชมกันด้วยนะคะ




    ยังไม่ได้ทำรูปเลย อิอิ





    เมาส์จาก 
    ยัย หมวย บ๊อง ขอบคุณมากๆนะคะ

    search-
    free theme . howto } rhythm

    ขอบคุณธีมสวยๆจาก


    ❥ Free theme & How to : }

    .
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      Rainy  

                  ตอนเย็นที่แสนวุ่นวาย แล้ววันนี้ก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากฝนที่ตกอย่างกะทันหัน
              “เฮ้ย!...มีใครว่างบ้างวะ” ฮีซอลตะโกนถามเพื่อนๆที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการปั่นรายงานฉบับด่วนจี๋ ที่มีเส้นตายภายในเที่ยงคืนของวันนี้
                  “แหกตาดูหน่อยสิวะ ก่อนที่จะถามน่ะ” เจย์คิม เพื่อนรักคู่กัดของคิมฮีซอลตอบขึ้นมาอย่างเซ็ง พร้อมรีบปั่นรายงานต่อทันที
                  “เออ...กูขอโทษที่กูถาม ไอ้คุณเพื่อน” เสียงตอบกลับที่ประชดประชันเหลือเกิน
              “นายทำไมถาม” เสียงแปร่งๆของคนจีน ที่พูดไม่ค่อยจะเถือก เอ้ย! ถูก ถามขึ้นมาอย่างสงสัย
              “ฮันคยอง นายต้องพูดว่า  ‘นายถามทำไม’ น่ะ”  เสียงหวานๆของลีทึก นางฟ้าประจำกลุ่ม แก้ประโยคที่ผิดให้ถูกต้อง ที่เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ต้องมาร่วมชะตากรรมในการปั่นรายงานฉบับนี้หัวแทบขวิด
                  “ขอบใจนะ” คนจีนที่พูดผิดเมื่อสักครู่ขอบคุณเพื่อนตาหวาน ก่อนที่จะหันไปหาคำตอบจากคนที่ถามหาคนว่างงานเมื่อสักครู่
                  ฮีซอลมองฮันคยองด้วยสายตาที่เอือมระอา แล้วคิดในใจว่า

                 เมื่อไรไอ้แป๊ะนี้มันจะพูดถูกซักทีวะ อยู่เกาหลีมาก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว แมร่งยังพูดไม่ถูกอีก
                  “ก็ไอ้ยุนโฮน่ะสิ บอกให้ฉันไปรับไอ้หมวยแทนมัน” ฮีซอลตอบกลับก่อนที่จะนึกถึงบทสนทนาเมี่อสักครู่นี้
                  
       
      ‘ฮัลโหล’
                 ‘ฮีซอล...นายช่วยไปรับทงเฮแทนฉันหน่อย ฉันยังมีสอบอีกวิชานึง แกช่วยฉันหน่อยนะเว่ย เฮ้ย! ฉันต้องเข้าสอบแล้ว ขอบใจมากเพื่อนรัก...   ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด...’ เมื่อยุนโฮพูดจบก็รีบวางสายพร้อมเปิดเครื่องมือสื่อสารทันที
             เฮ้ย...ฉันก็ไม่ว่างนะโว้ย ไอ้บ้านี่ปิดเครื่องเลยหรอวะ ’ ฮีซอลโวยออกมา พร้อมกับกระหน่ำโทรหายุนโฮอีกหลายสิบรอบ (จะโทรทำไมในเมื่อพี่หมีของเราปิดเครื่องไปแล้ว ไม่เข้าใจเจ๊จริงๆ)
                  
                
                  
      “ตอนนี้ทงเฮเป็นไงบ้างเนี่ย ฝนตกหนักมากเลยจะกลับมายังไง” ลีทึกพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วง
                  “นายก็ซีวอนโทรหาสิ” ฮันคยองเสนอความคิดขึ้นมาแต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดผิด
                  “นายก็โทรหาซีวอนสิ” ลีกทึกเอ่ยแก้ประโยคของฮันคยองอีกรอบ
                  หลังจากฟังข้อเสนอของเพื่อนแล้วก็รีบทำตามที่เพื่อนบอกทันที มือที่ถือโทรศัพท์ยกขึ้นมากดหาชื่อของคนที่คิดว่าต้องว่างงานแน่นอน รอเสียงสัญญาณไม่กี่ครั้งก็มีคนรับโทรศัพท์
                  “ซีวอน นายไปรับทงเฮให้หน่อยสิ” 
       
       
                  ตอนนี้ฝนตกหนักมาก ร่างเล็กร่างหนึ่งเปียกฝนไปหมด ยืนตัวสั่นอยู่ที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัย ทั้งที่พยายามหลบฝนแล้วแต่หลังคาของป้ายรถเมล์นั้นไม่ได้ช่วยกันฝนสักเท่าไรเลย
                  “เมื่อไรพี่ยุนโฮจะมารีบเนี่ย หนาวจะตายอยู่แล้ว” เสียงสั่นๆ ออกมาจากเรียวปากบาง ที่ปกตินั้นเป็นสีแดงราวกับลูกเชอรี่  แต่ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นสีเขียวซีด 
                  หนุ่มหน้าตาดี ฐานนะดี เป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน กำลังขับรถยนต์คันหรูออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะกลับบ้าน พลันสายตาของเขานั้นก็หันไปเห็นคนตัวเล็กยืนตัวสั่นที่พยายามหลบฝนที่ตกหนักอยู่ที่ป้ายรถเมล์
      เขาเริ่มชะลอรถ แล้วจอดรถตรงหน้าคนที่กำลังหลบฝนอยู่ แล้วจึงเปิดกระจกรถยนต์ถามคนตัวเล็ก   
                  “คุณไม่กลับบ้านหรอ ฝนตกหนักนะ” 
              “เอ่อ...ผมรอคนอยู่ครับ” ร่างเล็กที่กำลังหลบฝนอยู่นั้นยอมคุยกับคนที่ถามเค้าเพราะรู้สึกคุ้นหน้า เหมือนจะเป็นคนดังในมหาวิทยาลัย แต่ไม่แน่ใจเท่านั้นเองว่าใช่คนดังคนนั้นหรือไม่ ยิ่งพูดปากก็ยิ่งสั่น ทำให้เสียงหวานๆนั้นสั่นไปด้วย
                  “ให้ผมไปส่งมั้ย ใกล้ค่ำแล้วด้วย มันอันตราย”   คนในรถถามอีกครั้งทั้งๆที่ไม่ค่อยจะสนใจใคร ไม่ค่อยอยากจะพูดคุยกับคนแปลกหน้าเท่าไรนัก แต่ทำไมถึงได้เข้าไปคุยกับคนตัวเล็กคนนี้นะ
                   ร่างบางยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ชะเง้อคอมองหาพี่ชายที่บอกว่าจะมารับ ไม่มีท่าทีที่จะขึ้นรถเลยแม้แต่น้อย
                  “นี่คุณขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง ฝนตกหนักกว่าเดิมแล้วนะ” คิบอมเรียกคนตัวเล็กอีกครั้ง พลางคิดในใจว่าทำไมคนตัวเล็กถึงได้ดื้ออย่างนี้ ตัวเองก็คงหนาวมากสินะถึงได้ยืนสั่นขนาดนั้น คนอื่นๆที่คิบอมเจอมาแทบจะมายืนดักรอหน้ารถเขาทุกวัน จนทำให้เขารำคาญ แล้วทำไมฉันต้องมารอเธอด้วยเนี่ย พอคิดมาถึงตอนนี้ก็ถอนหายใจ
                  “เฮ้อ...นี่คุณจะไปมั้ย ฝนตกหนักขนาดนี้ ฟ้าก็แรงด้วย” พูดยังไม่ทันขาดคำ
              เปรี้ยง!!!
      ทันทีที่คิบอมพูดจบเสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้น ได้ยินดังนั้นร่างบางกระโดดตัวลอยพร้อมทั้งเปิดประตูรถของคิบอม แล้วรีบดันตัวเองเข้ามาในรถอย่างรวดเร็วแล้วก็ปิดประตูอย่างเรียบร้อย มานั่งตัวสั่นอยู่ในรถคันหรูแทน
      ส่วนเจ้าของรถนั้นกลั้นยิ้มจนแก้มแทบแตก อยากจะหัวเราะแต่อีกใจหนึ่งก็สงสาร ก็ท่าทางตอนที่คนตัวเล็กเข้ามาในรถอย่างกะทันหันเหมือนเด็กตกใจ มันตลกแต่ดูๆไปก็น่ารักน่าเอ็นดู แต่ตอนนี้คนที่เข้ามานั่นในรถนั้นตัวสั่นเลย ไม่รู้ว่าสั่นเพราะหนาวหรือว่ากลัว แต่เจ้าของรถก็ใจดีหยิบเสื้อแขนยาวของตนเองที่อยู่หลังรถยื่นให้คนที่นั่งข้างๆ
      “ใส่ไปก่อนจะได้ไม่หนาวไปมากกว่านี้” พูดพร้อมส่งยิ้มบางๆให้อย่างเป็นมิตร
      “เอ่อ...เดี๋ยวเสื้อของคุณจะเปียก” ด้วยความเกรงใจจึงพูดออกไปอย่างนั้น ทำเอาเจ้าของเสื้ออยากจะตีคนตัวเล็กคนนี้จริงๆ
      “เดี๋ยวค่อยเอามาคืนก็ได้ เรียนที่เดียวกันนี่ ใส่ไปก่อน” เจ้าของเสื้อพยายามยัดเยียดเสื้อให้คนตัวเล็กใส่
      ทงเฮไม่ขัดแล้วเพราะตัวเองนั้นหนาวมาก เลยรับเสื้อมาใส่ทันที
      “ขอบคุณนะ” กล่าวคำขอบคุณ พร้อมส่งยิ้มหวานๆไปให้เจ้าของเสื้อทีนึง
      “จะให้ผมไปส่งที่ไหนล่ะ” กว่าจะได้ออกรถ กินเวลาไปนานเหลือเกิน
      "ร้าน 129 coffee shop ฮะ" ทราบจุดมุ่งหมายแล้วจริงรีบขับรถออกไป แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ดีนักทำให้รถติดกินเวลานานเลยทีเดียว
       
       
       ทางด้านซีวอนที่รีบบึ่งรถมารับทงเฮตามคำสั่งของฮีซอลทันที เขาขับรถไปรอทงเฮที่หน้าคณะก็ไม่เจอเลยจอดรถรออยู่ตรงนั้น เมื่อเวลาผ่านไปนานมากแล้วทงเฮยังไม่มาซีวอนเลยขับรถไปวนรอบๆมหาวิทยาลัยเพื่อตามหาทงเฮ แต่ก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจขับรถออกมาดูข้างหน้ามหาวิทายาลัยเผื่อว่าทงเฮจะมายืนรออยู่ แต่ก็ไม่มีวี่แววของทงเฮเลย
                   “งานเข้าแล้วกู หมวยมันหายไปไหนเนี่ย” เขาสบถกับตัวเอง






      “วันนี้รถติดจังเลยเนอะ” ทงเฮชวนคิบอมคุย
      “ครับ คงเป็นเพราะฝนตกหนักด้วย” ตอบกลับมาเรียบๆ
      “เอ่อ // เอ่อ” สองเสียงดังขึ้นมาพร้อมกัน
      “คุณพูดก่อนเลย” ทงเฮเปิดโอกาสให้เจ้าของรถพูดก่อน
      “เรียกผมว่าคิบอมแล้วกันนะ แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ” แนะนำตัวเองพร้อมกับถามคนตัวเปียกกลับ
                   "ผมทงเฮครับ ลีทงเฮ บัญชี ปี 2 ครับ แล้วคุณ  เอ่อ... คิบอมเรียนคณะอะไรหรอ" ตอบพร้อมส่งยิ้มให้อย่าเป็นมิตร ทำเอาคนเป็นสารถีใจสั่นไปกับยิ้มหวานๆนั้นเลยทีเดียว
      “บริหาร ปีเดียวกัน” ตอบกลับสั้นๆ ตามแบบฉบับคิบอม
                  "เห...ตึกเรียนก็ใกล้กันนี่นา ทำไมทงเฮไม่เคยเจอคิบอมเลยล่ะ ซองมินก็อยู่บริหารนี่นา" นั่งบ่นกับตัวเองเบาๆ แต่ทว่าเสียงบ่นคงจะดังเกินไป ทำให้คนที่นั่งข้างๆได้ยินเสียงบ่นนั้น
      “อ้าว ทงเฮเป็นเพื่อนซองมินหรอ” เสียงบ่นคงจะดังไปจริงๆ ไม่อย่างนั้นคนข้างๆคงคงไม่หันมาถามคนบ่นหรอก
      “ฮะ เพื่อนสนิทเลยล่ะ”ตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้อีกรอบ
      อย่ายิ้มมากได้มั้ยทงเฮ เดี๋ยวผมจะใจสั้นไปมากกว่านี้
      “งั้นเราคงจะได้เจอกันบ่อยๆแล้วล่ะทงเฮ ผมก็สนิทกับซองมินนะ” ซองมินมีเพื่อนน่ารักขนาดนี้ไม่ยอมแนะนำให้รู้จัก เดี๋ยวต้องไปเคลียกันซะแล้ว
      ระหว่างทางทั้งสองคนก็คุยกันไปเรื่อยๆตลอดทาง ถ้ามีคนที่รู้จักสองคนนี้อย่างผิวเผินมาเห็นคงจะต้องตกใจเลยทีเดียว จะอะไรซะอีกล่ะ ในเมื่อคิมคิบอมคนพูดน้อยกว่าจะพูดทีนึงเนี่ยยากเสียเหลือเกิน เหมือนกลัวว่าดอกพิกุลจะร่วงจากปาก ยิ่งรอยยิ้มที่ยิ้มให้กับทงเฮเนี่ยไม่ต้องพูดถึงสามารถนับครั้งได้เลย ส่วนอีทงเฮนั้นคนที่เพิ่งจะรู้จักกันอย่าได้หวังว่าจะได้คุยกับทงเฮเกินสามประโยค นอกนั้นก็จะมีแต่คำว่า ครับ อืม และการพยักหน้า
      ทำไมนะเมื่อทั้งสองได้เจอกันเพียงครั้งแรกแต่กลับคุยกันได้อย่างสนิทใจขนาดนี้ หรือเพราะมีเส้นใยบางๆที่เชื่อมถึงกันอยู่
       
       
       
      กรี๊งงงงงง !!!
      [นี่นายไปรับหมวยมันถึงไปเนี่ยหา]  ทันทีที่ซีวอนรับโทรศัพท์ เสียงจากปลายสายก็ดังขึ้นมาทันที
      “เอ่อ คือว่า...” ซีวอนอ้ำอึงไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี
      [รีบๆตอบมาสิฉันไม่ว่างมานะโว้ย เร็วๆ]  ฮีซอลเริ่มกดดันทำเอาซีวอนเหงื่อตก จะให้บอกได้ยังไงล่ะว่าเขาหาทงเฮไม่เจอ ขืนบอกไปอย่างนั้นคงโดนเฮียยุน แล้วก็คนที่คุยกับเขาตอนนี้ฉีกออกเป็นชิ้นๆแน่ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว
      [รีบๆตอบมาสิ ไอ้วอน]  ปลายสายขึ้นเสียง เริ่มมีอารมณ์โมโหแล้ว ไอ้เด็กนี่มันยังไงกันเนี่ย
      ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ...
      ซีวอนได้ทำการตัดสายทิ้งพร้อมปิดเครื่องเป็นที่เรียบร้อย ทำไงได้ล่ะก็ผมยังไม่อยากโดนฉีกเป็นชิ้นๆนี่นา จากนั้นก็รีบตามหาทงเฮต่อ
       
       
       
      "เฮ้ย! ฮัลโหล ฮัลโหล ไอ้เด็กบ้านี่ ฮึ่ย" ทางด้านที่ถูกตัดสายทั้งสบถออกมาเสียงดัง ทำเอาคนข้างสะดุ้งกันเลยทีเดียว
      “สงสัยคงจะแบตหมดมั้ง ซอลลี่” อีทึกออกความเห็น พร้อมลูบหลังฮีซอลให้ใจเย็นลง
      “อื้อๆ รีบทำต่อเหอะ งานใกล้เสร็จแล้ว เจย์เตรียมตัวไปส่งงานนะเว่ย” ฮีซอลบอกคนทำหน้าที่ส่งงาน แล้วก้มลงทำงานต่ออย่างเร่งรีบ
      “เออ รู้แล้วน่า” ตอบฮีซอล พร้อมรีบปั่นงานต่อไป
       
       
      “ถึงแล้วล่ะคิบอม เข้าไปในร้านกัน” เมื่อถึงที่หมายทงเฮก็ชวนเพื่อนใหม่เข้าไปในร้านของพี่สาว
      คิบอมก็พยักหน้าแล้วเดินตามคนตัวเล็กเข้าไปในร้าน ขออยู่มองนายอีกซักหน่อยแล้วกันนะทงเฮ
      ภายในร้านบรรยากาศดูอบอุ่น ร้านเป็นโทนสีน้ำตาล เก้าอี้เป็นสีขาว มีต้นไม้สีเขียวเล็กๆประดับตามจุดต่างๆของร้านให้ดูสดชื่นขึ้น
      “คิบอมนั่งตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวทงเฮหาอะไรมาให้ดื่ม” เจ้าของร้านรีบทำหน้าที่ กุลีกุจอเตรียมทำเครื่องดื่มอุ่นๆให้คนที่นั่งอยู่
      “ทงเฮไปเปลี่ยนชุดก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา ผมรอได้” คิบอมรู้สึกเป็นห่วงคนตัวเล็กนี้ซะแล้วสิ ตัวสั่นขนาดนั้นยังจะมาทำอะไรให้เข้าดื่มอีก
      “ก็ได้ เดี๋ยวจะรีบมานะ” ทงเฮซึ่งหนาวอยู่แล้ว เลยรีบวิ่งเข้าไปทางหลังร้านแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดธรรมดาอย่างรวดเร็ว พี่สาวคนสวยยอนฮีเห็นน้องชายตัวดีรีบวิ่งไปวิ่งมาก็ได้แต่สงสัย แล้วก็เดินตามน้องชายออกมาที่เคาท์เตอร์ ก็เห็นน้องชายกำลังตั้งอกตั้งใจชงโกโก้ร้อนอยู่
      “วันนี้วันอะไรเนี่ย ด๊องถึงได้ลงมือเองเลย” เข้าไปถามน้องชายพร้อมกับลูบหัวทีชื้นๆ
      “ไม่มีอะไรหรอกฮะ เพื่อนใหม่ของด๊องเอง นั่งตรงนั้นไงฮะ” หลังพูดจบก็พยักเพยิดหน้าไปทางที่คิบอมนั้งอยู่
      “เอ๊ะ ยังไงกันล่ะเนี่ย พี่ชักจะสงสัยแล้วล่ะสิ” พี่สาวเริ่มสงสัย มีซะที่ไหนที่ทงเฮจะพาคนแปลกห้ามาที่ร้าน ถึงจะบอกว่าเพื่อนก็เถอะนะ ยอนฮีไม่อยากจะเชื่อ เพราะเธอรู้จักเพื่อนของทงเฮทุกคน แต่คนนี้ไม่เคยเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ
      “เสร็จแล้ว เดี๋ยวด๊องมาเล่าให้ฟังแล้วกันนะฮะ” แล้วก็รีบเดินเอาโกโก้ร้อนไปให้คิบอมทันที
                  พี่สาวคนนี้คอยแอบมองทงเฮที่นั่งคุยกับเพื่อนใหม่อย่างสนิทสนม แปลกแฮะ ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะนั่งคุยกับคนที่เพิ่งจะรู้จักขนาดนี้เลย เอ๊ะ! หรือจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นนะ น้งเราก็ออกจะน่ารัก เพื่อนคนนั้นของด๊องก็ดูดีไม่หยอกแฮะ ท่าทางดูเรียบร้อยดีด้วย น่าลุ้นนะเนี่ย






      โต๊ะที่คิบอมนั่งรอทงเฮอยู่
      “อ่ะ โกโก้ร้อน อากาศเย็นๆอย่างนี้เหมาะกับโกโก้ร้อนที่สุดเลยล่ะ” วางโกโก้ร้อนลงตรงหน้าคิบอมพร้อมกับหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
      “ขอบคุณครับ” คิบอมยกโกโก้ร้อนขึ้นดื่ม แล้วก็ส่งยิ้มให้ทงเฮ
      “เป็นไงบ้าง รสชาติพอได้มั้ย” ทงเฮคนชงโกโก้ลุ้นตัวโก่งเลย นานๆทีจะได้ชงเครื่องดื่มให้คนอื่น
      “อร่อยนี่ครับ” ชมจากใจจริง ฝีมือทงเฮค่อนข้างดีเลยทีเดียว
      “ฟู่...นึกว่าจะใช้ไม่ได้ซะแล้ว ไม่ค่อยได้ชงให้ใครดื่มเลยไม่ค่อยมั่นใจ” ทงเฮเปล่าลมออกจากปากอย่างโล่งอก
      คิบอมได้ยินทงเฮพูดถึงกับยิ้มแก้มแตกเลยทีเดียว นี่เขาเป็นคนสำคัญหรือเปล่านะ ได้ดื่มโกโก้ที่ทงเฮชงให้ คงไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอกนะ ยิ่งคิดหัวใจยิ่งพองโต
      “นี่คิบอม รอฝนหยุดก่อนสิแล้วค่อยกลับนะ กลับตอนนี้อันตราย” ทงเฮชวนคิบอมอยู่ที่ร้านอีกซักพัก ก็เขาเป็นห่วงนี่นาขับรถกลับตอนนี้อันตรายจะตายไป ฝนยังตกอยู่เลย
      “ได้ครับ ผมกวนทงเฮหรือเปล่า” คิบอมยิ่งได้ใจใหญ่เลย ทงเฮน่ารักจัง
      “ไม่หรอก เดี๋ยวทงเฮนั่งเป็นเพื่อนคิบอมแล้วกัน” เจ้าของร้านบริการลูกค้าคนนี้เป็นพิเศษจริงๆ
       
       
       
      ทางด้านพี่สาวยอนฮีแอบมองอยู่ที่เคาท์เตอร์ถึงกับยิ้มแก้มปริ น้องชายของเธอเริ่มเอนเอียงแล้วแน่ๆเลย
      ขณะที่พี่สาวยอนฮีกำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับน้องชาย เจย์คิมก็รีบวิ่งผ่านหน้าออกอย่างรวดเร็ว
      “เจย์ รีบไปไหนน่ะ ฝนกำลังตกนะ” เป็นห่วงน้องชายข้างบ้านที่จะวิ่งออกไปตากฝน
      “ไปส่งงานฮะ เดี๋ยวจะรีบไปรีบมา” เจย์รีบบอกแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
      “ขับรถดีๆล่ะ” ยอนฮีรีบตะโกนไล่หลังเจย์คิมไป ส่วนคนที่กำลังวิ่งไปที่รถก็ยกมือขึ้นเป็นการตอบรับว่าเข้าใจแล้ว
       
       


      “ทงเฮ ผมต้องรีบกลับแล้วล่ะ” คิบอมบอกทงเฮเมื่อฝนหยุดตก
      “อื้อ กลับบ้านดีๆนะ เดี๋ยวจะเอาเสื้อไปคืนให้นะคิบอม” ทงเฮเดินออกมาส่งคิบอมที่รถ
      คิบอมพยักหน้าพร้อมกับขับรถออกไปด้วยร้อยยิ้มที่หาได้ยากเหลือเกิน นานๆทีจะได้มีคนเห็น แต่รอยยิ้มนี้กลับมอบให้ทงเฮตลอดเวลาเลยทีเดียว
       
       
       
      ฮีซอลเดินลงมาจากด้านบนของร้านกาแฟก็มาเจอกับทงเฮเข้าพอดี
      “อ้าวด๊องกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย แล้วไอ้ซีวอนล่ะ” เจอคนที่เขาเป็นห่วงอยู่พอดี เลยถามหาคนที่ไปรับด้วย
      “เอ๋ พี่ซีวอนหรอ ไม่รู้สิฮะ ด๊องมากับคิบอม” ทงเฮทำหน้าสงสัยว่ามาถามหาซีวอนกับตนเองทำไม ทั้งที่ปกติไม่ค่อยได้คุยกับซิวอนเท่าไรนัก
      “ไม่มีไรหรอก” ปากบอกอย่างนั้น แต่ตอนนี้คิมฮีซอลได้หาเรื่องแกล้งซีวอนได้แล้ว ก็อยากไปรับทงเฮช้าทำไมล่ะ อย่างนี้ต้องสั่งสอนสักหน่อย แล้วก็รีบเดินไปโทรศัพท์ทันที
      “ซีวอนทงเฮอยู่กับนายมั้ย รีบพามาไวๆหน่อย มีเรื่องด่วนมากเลย” ทำเสียงจริงจัง
                  [เอ่อ...คือ...] ซีวอนอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไง
      “ฮึกๆ ซีวอนทงเฮอยู่มั้ย” ฮีซอลเริ่มร้องไห้ เสียงขาดหาย พอได้ยินอย่างนั้นซีวอนตกใจที่ฮีซอลร้องไห้ออกมา
                 [เดี๋ยวผมรีบไปหานะ อยู่ที่ร้านใช่มั้ย] ซีวอนเป็นห่วงฮีซอลจริงๆ เค้ากำลังจะกลับรถไปที่ร้าน 129 coffee shop
      “แล้วทงเฮล่ะ ทงเฮจะมาพร้อมนายมั้ย” หึ นายยังจะปากแข็งอีกนะซีวอน
      ซีวอนไม่ตอบ แต่เขารู้สึกกังวลใจมาก อยากจะรู้ว่าฮีซอลเป็นอะไร จะกลับไปตอนนี้ก็ไม่ได้เพราะยังหาทงเฮไม่เจอ ตอนนี้ซีวอนหัวเสียอย่างมากเลย
      “งั้นนายรีบกลับมานะ ฮึก” ทำเสียงเศร้าๆ แต่ไม่วายลืมเสียงสะอื้นลงท้ายไปด้วย หึหึ เชวซีวอนกลับมาแม่จะฟาดกระบานให้ หาด๊องไม่เจอก็ไม่ยอมบอก มันน่านัก
       
       
       
      เวลาไม่นานซีวอนก็รีบขับรถเข้ามาที่ร้าน 129 coffee shop แล้วก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในร้านจนเกือบจะชนประตูร้าน
                 “ฮีซอล ผม มะ...” เสียงหายไปในทันทีที่เห็นทงเฮนั่งอยู่กับฮีซอล ขนแขนลุกซู่เลยทีเดียว
      “หึ ถ้าด๊องยังไม่กลับมาจะทำยังไงฮะ หาไม่เจอแล้วทำไมไม่บอก” ฮีซอลใส่ทันที ทำเอาซีวอนหน้าเสีย
      “ขอโทษครับ” ซีวอนก้มหน้าขอโทษฮีซอลทันที
      “ไม่ต้องมาขอโทษฉันเลยนะ ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าสองอาทิตย์ นี่โทษสถานเบานะ ดีนะที่ด๊องกลับมาปลอดภัยน่ะ ไปได้แล้ว” พูดจบฮีซอลก็หันหลังขึ้นไปชั้นบนทันที ยิ้มด้วยความสะใจ ส่วนซีวอนก็ยืนทำตาละห้อยอยู่ตรงที่เดิมที่วิ่งเข้ามา
                 "ยังไม่ไปอีก!!" เสียงของฮีซอลตะโกนลงมาจากข้างบน ทำให้ซีวอนจำใจเดินออกมาจากร้านด้วยท่าทีเซื่องซึม
      แล้วผมจะทำยังไงผมอยากเจอคุณทุกวันนี่นา ผมคิดถึงคุณนะฮีซอล ผมอยากจะบ้า อย่าทำร้ายผมอย่างนี้เลยครับ ตีผมเลยดีกว่า ซีวอนเครียด 
       





      วันรุ่งขึ้นทงเฮรีบไปยืนรอคิบอมที่ตึกคณะ เพราะจะเอาเสื้อไปคืนคิบอม แล้วบังเอิญไปเจอซองมินพอดีทั้งสองคนเลยนั่งคุยกันเพื่อรอคิบอมอยู่ที่นั่งประจำ
      “อ้าว ทงเฮ สวัสดีครับ” พูดพร้อมส่งยิ้มหวานให้ทงเฮ ทำเอาซองมินถึงกับอึ้ง ตะลึงตาค้างเลยทีเดียว
      “สวัสดีฮะคิบอม ทงเฮเอาเสื้อมาคืน ซักให้เรียบร้อยแล้วนะ” อีกคนก็ยิ้มหวานกลับไปไม่แพ้กัน ซองมินเกือบจะตกเก้าอี้ที่เห็นทงเฮพูดยาวๆกับคนที่เพิ่งจะรู้จักกันเป็นด้วยแฮะ
      โอ้ว...วันนี้วันอะไร ทำไมเพื่อนของเขาทั้งสองคนถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ คิบอมไม่ยิ้ม ไม่เคยทักใครก่อน แต่วันนี้กลับตรงกันข้ามกับความเป็นจริง พอๆกับทงเฮที่จะพูดกับคนที่เพิ่งจะรู้จักได้หลายประโยคขนาดนี้ โอ๊ย ซองมินงง แต่ก็ดีแล้วล่ะ แอบเชียร์อยู่ตั้งนานแต่ไม่กล้าพาสองคนนี้ไปเจอกัน นี่คงเป็นพรหมลิขิตสินะ
      “ทงเฮเดี๋ยววันนี้กลับด้วยกันนะ ผมอยากไปดื่มโกโก้อีก” คิบอมหาโอกาสที่จะอยู่ใกล้ชิดทงเฮอีกครั้ง ก็โกโก้ฝีมือทงเฮอร่อยจริงๆนี่นา อยากเห็นหน้าคนน่ารักด้วย
      “ได้สิ เดี๋ยวทงเฮมารอที่นี่แล้วกันนะ” ทงเฮรีบรับปากทันที อยากให้คิบอมไปนั่งที่ร้านบ่อยๆ อีกอย่างพี่สาวยอนฮีให้ทงเฮมาชวนคิบอมไปที่ร้านบ่อยๆด้วย บอกว่าถูกชะตา
      “เดี๋ยวผมไปรับทงเฮดีกว่า งั้นเอาตามนี้นะ ตั้งใจเรียนนะครับ” ส่งยิ้มน้อยๆให้คนตัวเล็ก คิบอมเดินมาส่งทงเฮที่ตึกคณะบัญชีแล้วก็นัดแนะกันไว้ ทำเอาคนที่นั่งอยู่ถึงกับอึ้งที่คิมคิบอมเดินมาส่งอีทงเฮ แล้วยังมีส่งยิ้มให้อีก
      “อื้อ ก็ได้ แล้วเจอกันนะ บ๊ายบาย” ทงเฮยกมือขึ้นโบกให้คิบอมแล้วก็รีบเดินขึ้นไปเรียน ท่าทางน่ารักของทงเฮทำคิบอมยิ้มอีกแล้ว
       
       

      หลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็เป็นที่รู้กันว่าคิบอมเด็กบริหารต้องเดินมาส่งทงเฮเด็กบัญชีทุกวันในตอนเช้า แล้วตอนเย็นถ้าทงเฮเลิกเรียนเร็วก็จะนั่งรอคิบอมที่โต๊ะม้าหินที่ประจำ หรือไม่ก็จะมีคิบอมมานั่งรอทงเฮ จนคนที่อยู่บริเวณนั้นแล้วก็กลับบ้านเห็นเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
      นี่แหละนะพรหมลิขิต

                  "ก็บอกแล้วว่าคู่นี้น่าลุ้น (จริงก็จะทำหน้าที่กามเทพแล้วนะเนี่ย)" เสียงของพี่สาวยอนฮีลอยมาตามลม


      end. 

      ...............................................
      จบง่ายไปไหมคะ 
      แหะๆ  
      เดี๋ยวจะไปปรับปรุงกับเรื่องใหม่แล้วกันนะคะ
      เรื่องนี้เขียนๆไปเริ่มจบไม่ลง
      เลยขอจบแบบนี้แล้วกันนะคะ

      ติได้นะคะ
      แล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์มากๆเลยนะคะ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×