ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magic of Love รักนี้ไม่ใช่แค่บังเอิญ

    ลำดับตอนที่ #6 : 4: in Party

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 57




    4

    in Party

                วันต่อมา

                เนื่องจากวันนี้เป็นวันฮาโลวีน หลายๆไฮสกูลจึงพร้อมใจกันเรียนครึ่งวันเพื่อจัดเตรียมงานฮาโลวีน

                และตอนนี้ทุกคนก็พากันกรูออกจากห้องเรียนทันทีที่ได้ยินเสียงออดเลิกเรียน

                แต่แม้ว่าทุกคนจะรีบ  ก็ยังมีคนที่มายุ่งวุ่นวายกับคนอื่นอยู่ดี

                “โชคดีนะเพรมิส กลับบ้านดีๆล่ะ”แพทเทียพูดกับเพรมิสที่นั่งอยู่หน้าประตูเข้าตึก

                เป็นการส่งที่อบอุ่นจริงๆเพรมิสประชดในใจ “เธอก็เหมือนกัน”เพรมิสตอบออกมา

                “ไปเถอะแพทเทีย เราต้องรีบแต่งตัวนะ”มัสลินเตือน

                “รู้แล้วนะ”แพทเทียพูดกับมัสลินด้วยความรำคาญก่อนจะเดินนำมัสลินกับแซลลี่ไป

                “คนอื่นรู้นิสัยกันทั่วแล้วยังจะเสแสร้งอีก”เสียงบ่นอย่างหมั่นไส้ทำให้เพรมิสหันไปมองอัตโนมัติ

                เวอเนียยืนกอดอกด้วยสีหน้าท่าทางที่แสดงออกมาว่าหมั่นไส้อย่างชัดเจน

            “ไหนว่างานยุ่งไง”เพรมิสถามก่อนจะลุกขึ้น

                “ออกมาซื้อกาแฟให้พวกข้างในน่ะ  แล้วเธอจะไม่มางานจริงๆหรอ”

                “ไม่หรอก”เพริสส่ายหน้า

                “ว้า~น่าเสียดายจัง”

                “ก็มันไม่ว่างนี่”เพรมิสตอบพลางยิ้มกับท่าทางของเวอเนีย

                “โอเคๆ งั้นฉันไปก่อนนะ”

                “อืม แล้วอย่าหักโหมมากล่ะ”

                “จ้า”

     

                10.13PM- หอประชุม

                “สวัสดีทุกคน ฉันเวอเนีย  ตอนนี้ฉันจะบอกกำหนดการอีกครั้งนะ”เวอเนียพูดก่อนจะหยิบเอกสารขึ้นมา “ช่วงเวลานี้ถึง4ทุ่มครึ่งเป็นช่วงพูดคุยกับเพื่อน 4ทุ่มครึ่งถึง4ทุ่ม50หาคู่เต้น  นอกนั้นก็เวลาปาร์ตี้นะคะ  สำหรับคนอยากโสดก็ไม่ต้องหาคู่ก็ได้นะคะ  ส่วนประกาศผลรางวัลก็เริ่มตอนเที่ยงคืน ตามนี้นะ”

     

    10.30PM

                “เอาล่ะทุกคน ตอนนี้ก็4ทุ่มครึ่งแล้ว เป็นช่วงเวลาหาคู่ของตัวเองเพื่อการจองสำหรับงานพรอมไว้ล่วงหน้า  คนที่ม่ต้องการคู่ก็คุยกับเพื่อนได้ตามสบาย”พูดจบ เวอเนียก็เปิดเพลง

                พรึ่บ

                สปอร์ตไลท์ที่ส่องตรงบันไดเผยให้เห็นหญิงสาวสามคน ซึ่งคนตรงกลางอยู่ในชุดราตรีแขนตุ๊กตาสีขาว-แดง ผมสีน้ำตาลทองประดับด้วยที่คาดผมมุก ทาปากสีแดงสด

                และอีกสองคนอยู่ในชุดเรียบๆที่ดูเหมือนนางฟ้า ผมของทั้งคู้ถูกเกล้าขึ้นไปข้างบน  แต่สาวผมน้ำตาลดูเด่นกว่าในชุดสีเขียวที่เหมือนภูตต้นไม้

                เวอเนียเบะปากอย่างหมั่นไส้ ซึ่งโชคดีที่ทุกคนกำลังมุ่งความสนใจไปที่แพทเทีย

                “และนั่นคือว่าที่ราชินีงานพรอมค่ะ  แพทเทียได้รับรางวัลPrincess of Halloween Partyมา2ปีซ้อนแล้วนะคะ  ส่วนอีกสองคนคือแซลลี่และมัสลิน เพื่อนสนิทของแพทเทีย”

                “สวัสดีทุกคน”แพทเทียยิ้มพลางโบกมือทักทายตามฉบับกุลสตรีก่อนจะเดินลงบันได

                “เอ่อ...แล้วพี่แพทเทียแต่งเป็นอะไรคะ?”รุ่นน้องคนหนึ่งถาม

                “สโนว์ไวท์จ้ะ”แพทเทียตอยยิ้มๆ

                “ส่วนพี่เป็นนางฟ้าของแพทเทีย”แซลลี่บอก(โดยที่ไม่มีใครถาม)

                “แล้วพี่มัสลินล่ะคะ?”รุ่นน้องคนเดิมถาม

                “ภูตแห่งป่าน่ะ”มัสลินตอบยิ้มๆ

                “ไม่อยากเชื่อเลยว่ามัสลินจะทนอยู่กับคนอย่างแพทเทียได้”เวอเนียบ่นกับดิแวนที่กำลังเดินขึ้นมา

                “ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆนี่  แพทเทียเองก็ไม่ค่อยวุ่นวายกับมัสลินเท่าไหร่”ดิแวนบอก

                แล้วทั้งคู่ก็หันไปมองที่บันไดพร้อมๆกับคนอื่นอีกครั้ง

                เด็กสาวในชุดราตรีสีดำดูพลิ้วไหวกำลังค่อยๆก้าวลงบันไดมา

                “นี่ล่ะ แย่งซีนของจริง”เวอเนียพูดอย่างสะใจ

                ใบหน้าสวยได้รูปภายใต้หน้ากากสีดำไม่ได้สนใจใครเลย

                เธอหยุดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินไปทางซ้าย

     

                บาร์เครื่องคื่ม

                “ขอชาเอิร์ลเกรย์หนี่งถ้วย”เด็กหนุ่มผมทองในชุดสีขาวเต็มยศแบบเจ้าชายสั่ง

                “ได้เลย รอก่อนนะ”เด็กสาวที่ทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเนอร์รับก่อนจะหันไปต้มน้ำ

                “ชาพีชหนึ่งค่ะ”เด็กสาวคนหนึ่งสั่ง

                “ได้ครับ”บาร์เทนเนอร์ชายรับคำก่อนจะหันไปบอกเอนผู้หญิงว่า “ต้มน้ำเผื่อด้วยนะ”

                พอเด็กหนุ่มในชุดเจ้าชายได้ยินเสียงคนสั่งชา เขาก็ชะเง้อมองอย่างสงสัย

                นอกจากสมาชิกสภานักเรียนแล้ว ยังมีคนอื่นสั่งชาอีกหรอ

     

                ขณะที่เพรมิสกำลังจิบชา ก็มีเด็กหนุ่มชุดท่านเคาท์เดินเข้ามาขอเธอให้เป็นคู่เต้นรำ

                “คุณคือฟา...หรอคะ?”

                “ฟา? ไม่ใช่หรอกครับ”เขาบอกงงๆ

                “งั้นก็ขอโทษด้วยค่ะ ฉันมีคู่แล้ว”

                “ไม่เป็นไรครับ”เขาบอกยิ้มๆก่อนจะเดินออกไป

                “เพร”เสียงเรียกข้างหลังทำให้เพรมิสหันมามอง

                “พีท!”

                “เป็นคนดังนี่ไม่ดีเลยนะ  ผมว่าเป้นแบบคุณคงจะดีกว่าใช่ไหมครับ เพร แมค”คำเรียกนั้นทำเอาคิ้วเพรมิสขมวดเป็นปม

                “อะแมน ฟา?”

            “ใช่ครับ  ผมว่าตอนนี้เราไปที่ฟลอร์กันดีกว่านะครับ จะถึงวลาแล้ว”พีทบอกแล้วแบมือเป็นเชิงให้เพรมิสเดินไปด้วย

            เพรมิสมองมือนั้นอยู่พักหนึ่งก่อนจะยอมวางมือตัวเองลงไป

     

                ภาพเด็กสาวในชุดราตรีสีดำกับเด็กหนุ่มในชุดสีขาวที่เดินไปด้วยกันดูน่าประทับใจไม่น้อย  เพราะอาจารย์คาทิเล็จที่เป็นผู้อำนวยการและอาจารย์ใหญ่ที่เห็นถึงกับยิ้มด้วยควาชื่นชมแล้วเขียนลงไปในแฟ้ม

                “แพทเทีย เธอดูนั่นสิ”แซลลี่ชี้ แพทเทียมองตาม

                “ดูเหมือนเขาจะไม่ง้อเธอนะ”มัสลินบอกด้วยน้ำเสียงธรรมดา

                “ไม่ต้องพูดก็ได้นะมัสลิน ฉันเห็นแล้ว”แพทเทียกัดฟันพูด

                “ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ตัว”มัสลินพูดก่อนจะหันมาสบตาแพทเทีย “หรือเธอจะไม่รับความหวังดีจากฉัน”แพทเทียเงียบ แซลลี่มองอึ้งๆ “เอาเถอะ...ฉันเข้าใจ^^”

     

            10.50PM

                “ทำไมคุณใช้ชื่อว่าอะแมน ฟาล่ะ?”เพรมิสถามขณะที่เพิ่งเริ่มเต้นรำกับพีท

                “อะแมน(a man)ก็แปลตรงตัวว่าผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนฟาก็มาจากนามสกุลผมไง”พีทตอบ “แล้วคุณล่ะ?”

                “ก็...มาจากชื่อฉันอีกที”

                “คุณไม่คิดจะบอกชื่อจริงกับผมบ้างเลยหหรอ”

                “ยังดีกว่า”เพรมิสยิ้ม

                “แล้วแต่คุณเถอะครับ”พีทพูดอย่างผิดหวัง “แล้วนี่คุณแต่งเป็นอะไร”

                “หงส์น่ะ  แล้ว...คุณล่ะ?”

                “เจ้าชายในเรื่องนางเงือกน่ะ  ผมไม่รู้ว่าจะแต่งตัวเป็นอะไร นอกจากเจ้าชาย”

                “ก็พวกแวมไพร์กับมนุษย์หมาป่าไง”

                “ซ้ำเยอะเกินแล้วล่ะ”

                “แล้วเจ้าชายนี่ไม่ซ้ำเลยนะ”เพรมิสประชดเมื่อเห็นคนข้างๆแต่งเป็นเจ้าชาย

                “อย่างน้อยก็คนละเรื่องกันไง”

                “แล้วทำไมฮาโลวีนถึงต้องมีเต้นรำล่ะ?”

                “ก็เหมือนซ้อมงานพรอมมากกว่า  อีกอย่าง...อาจารย์คาทิเล็จชอบงานเต้นรำมากแต่ก็เอาใจเด็กเลยแบ่งช่วง จะได้ไม่น่าเบื่อ”พีทอธิบาย “แล้วคุณได้เลือกผมเป็นประธานนักเรียนหรือเปล่า?”

                “เปล่าหรอก”เพรมิสส่ายหน้าน้อยๆ

                “แล้วคุณเลือกใครล่ะ?”

                “ก็...ไม่ได้เลือกใคร”

                “ไม่โหวตหรอ”

                “ประมาณนั้น...”

                “ทำไมล่ะ?”

                “ก็...ไม่รู้จะเลือกใครดี”

                แล้วก็เงียบ...

                “คุณดูไม่เหมือนคนอเมริกันเลยนะ”พีทพูดขึ้น

                “ฉันเป็นลูกครึ่งน่ะ”

                “ลูกครึ่ง? เชื้อสายอะไรหรอ?”

                “เอ่อ...อิตาลีน่ะ”

                “งั้นหรอ...”พีทสบตาเพรมิสอย่างสงสัย

                แล้วก็เงียบ...

                I see the light; see the party, the ball gowns.

            I see you make your way thorugh the crowd

            You say hello, little did I knew…

            “เวอเนียเข้าใจเลือกเพลงนะ”เพรมิสพูดขึ้นเมื่อบรรยากาศเริ่มเงียบ

                “นั่นสิ...แต่อาจจะไม่ใช่”

                “?”

                “อาจจะเป็นดิแวน”พีทบอกก่อนจะเหลือบมองไปทางดีเจ เพรมิสมองตาม

                ดิแวนกำลังขอเวอเนียเต้นรำ

                แล้วทั้งคู่ก็เงียบอีกครั้ง...

                “เพร...”

                เพรมิสละสายตาจากเวอเนียไปที่พีท  แต่เขากลับไม่พูดอะไรต่อนอกจากสบตาเธอตรงๆจนเธอต้องหลบตา

                “ตาเธอสวยดีนะ”อยู่ๆเขาก็พูดขึ้นจนเพรมิสแปลกใจ “ตาคุณมองไกลๆเป็นสีดำแต่ดูดีๆออกเป็นสีฟ้านะ”

                เมื่อได้ยินอย่างนั้นเพรมิสก็ยิ้มออกมา

                “มีอะไรหรือเปล่าครับ?”พีทถามงงๆ

                “ก็แค่...คุณเป็นคนแรกที่บอกว่าตาฉันสวย”

                “คงเพราะไม่มีใครมาจ้องนัยน์ตาคุณขนาดนี้ล่ะมั้ง”พีทพูดติดตลก

                ก็เคยมีคนมาจ้องนะ...แต่ไม่ได้พูดอะไรเพรมิสคิด “ตาคุณเองก็สวยนะ”

                “ยังไงครับ?”

                “ก็...ตาสีน้ำตาลทองดูอ่อนโยนแต่ก็มีอำนาจ มันดู...มีเสน่ห์ดี”

                “อย่างนั้นหรอ”พีทยิ้ม

            I love you, and that’s all I really know.

            I talked to your dad-you’ll pick the white dress

                พีทค่อยๆโน้มตัวลงมา

            It’s a love story, baby just say…yes.

            ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่กี่เซนต์

                We were both young when I first saw you.

            แล้วริมฝีปากของทั้งคู่ก็แตะกันพอดี

                เพรมิสเผลอหลับตาลงรับสัมผัสเพราะนุ่มละมุนอย่างห้ามไม่รู้ตัว

                พีถอนริมฝีปากออกแต่ก็ยังสบตาเพรมิสอยู่เหมือนโดนสะกด

                แล้วพีทก็ค่อยๆเอื้อมมือไปที่หน้ากากสีดำตรงหน้า

                “อะแฮ่ม”เสียงจากลำโพงทำเอาหลายคู่สะดุ้งแล้วหันไปมองต้นเสียง

                “ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ ดูเหมือนเวอเนียจะเพลินไปหน่อย”ซีซัสยิ้ม

                เวอเนียรีบดันดิแวนออกก่อนจะไล่ซีซัสให้ลงไป

                “หลังจากสบตากันในบรรยากาศโรแมนติกไปแล้ว เราก็มาเอาใจชาวโสดกันดีกว่าค่ะ”

            Back door, cracked we don’t need a key

            We did it for free

            No b after sleaze

            “เราไปนั่งคุยกันดีไหม”

                เพรมิสพยักหน้าก่อนจะเดินไปกับพีท
    _________________________________________________________________________________________________
    ขอโทษที่อัพช้านะ หลายวันที่ผ่านมาภูมิแพ้กำเริบจนปวดหัวเพราะข้างบ้านเผาหญ้าทั้งอาทิตย์แถมการบ้านก็เยอะ
    พยายามแต่งและพิมให้เร็วที่สุดแล้วนะ

    แล้วก็งานฮัลโลวีนเนี่ยเราคิดไม่ออกว่าจะเอางานอะไรมาก่อนงานพรอมน่ะ  พอดีไม่ค่อยรู้ช่วงเวลาของนักเรียนเมืองนอกเลยเดาๆเอา

    ขอบคุณคนที่แวะมาอ่าน เม้น โหวตนะจ้ะ 
    รักรีดเดอร์ทุกคนนนน~
    ________________________________________________
    แก้สีอักษร

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×