ROV Story น้องกิตของพี่เจมส์ [ภาคมาเฟีย]
เส้นทางที่มาบรรจบกัน ณ จุดๆเดียว พบกับนายที่มาคู่กับเขา ด้วยกันตลอดไป...
ผู้เข้าชมรวม
2,163
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สวัสดีทุกคนนะครับ
ก่อนอื่นเลยขออนุญาตพี่เจมส์กับพี่กิตนะครับรวมถึงแฟนพี่เจมส์กับแฟนในอนาคตของพี่กิตด้วยนะครับรวมทั้งแฟนคลับของพี่เจมส์พี่กิตแฟนคลับBaconทุกคนด้วยนะครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเองไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงเลย
ถ้าพวกพี่คนไหนไม่พอใจหรือไม่ชอบอย่างไรก็ตามสามารถทักมาบอกได้เลยนะครับผมยินดีและยอมรับทุกอย่างและจะลบเรื่องนี้ทันทีครับ
ขอบคุณครับ
ขอเชิญชวนทุกคนเป็นกำลังใจในกับทีมBaconไปแข่งที่LAด้วยนะครับ Thailandสู้ๆ ร่วมเชียร์เป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยที่ไปแข่งในตัวแทนประเทศด้วยนะครับ ขอให้ได้ที่1ของโลกไปเลย เบคลุย!
<3
คำเตือน : ต้องขอโทษล่วงหน้าจริงๆถ้าอัพไม่เป็นเวลาเพราะอยากให้นิยายเป็นเนื้อเรื่องที่สนุกจริงๆอาจจะอัพช้าอัพเร็วไปบ้างต้องขอโทษนะครับ ยอมรับความคิดเห็นทุกคนเลยครับ
#เมื่อเบค่อนอยากเป็นมาเฟีย
บทนำ
เช้าวันที่สดใสของใครหลายๆคนแต่ไม่ใช่คนในกรุงเทพแต่นอนครับเพราะฝนที่ตกมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ยังไม่หยุดเลยครับแล้วคนที่อยู่เหนือสุดอย่างผมเข้ามาศึกษาต่อในตัวเมืองหลวงของประเทศสิ่งแปลกใหม่ที่บอกได้เลยว่ามันแปลกใหม่สำหรับผมมากการเปลี่ยนแปลงต่อจากนี้มันต้องเกิดขึ้นกับผมอย่างแน่นอนทั้งการอยู่อาศัยการใช้ชีวิตของผม
ซ่า ซ่า ซ่า
ฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งไม่รู้ว่าจะตกลงมาทำไมหนักกว่านี้คงน้ำท่วมแล้วละครับอยู่เชียงใหม่ไม่เคยเจอฝนตกหนักขนาดนี้แถมยังเป็นการเรียนวันแรกของผมด้วยแล้วทำไมการเรียนวันแรกของผมในรั้วมหาวิทยาลัยทำไมฝนต้องตกหนักขนาดนี้ด้วยแล้วคนที่ชวนผมมาสอบมาเรียนดันหลับอยู่ที่เบาะข้างๆ
ผู้คนมากมายที่ต่างก็มาทำงานเช้ากันทุกวันโดยเฉพาะวันที่มหาลัยเปิดเรียนอย่างนี้คนยิ่งหนาแน่นเข้าไปอีกเพราะทั้งคนวัยทำงานและนักศึกษาทั้งใหม่และเก่าที่ต้องตื่นมาพบกับความจริงของการเรียนมหาลัยว่าการเรียนวันแรกมันไม่ได้สวยงามอย่างที่ทุกคนคิด
ซ่า ซ่า ซ่า
ลมฝนที่พัดเข้ามาจากหน้าต่างรถที่ผมเปิดเอาไว้นิดหน่อยเพราะถ้าทั้งรถปิดหน้าต่างกันหมดคงหายใจกันไม่ออกพอดีกลิ่นฝนในเมืองกรุงที่ต่างกับเชียงใหม่อย่างสิ้นเชิงคนที่มาจากภาคเหนืออย่างผมโอเคกับอากาศหนาวแบบนี้ครับแต่ไม่โอเคกับฝนที่เทลงมาเหมือนใครไปเทโอ่งของเทวดา
อีกไม่มีกี่ป้ายก็จะถึงมหาลัยแล้ว...ชีวิตมหาลัยของผมจะได้เริ่มขึ้นซักที
“คร่อก...”
(-.-)
แต่คนที่นอนมาตั้งแต่หน้าคอนโดจนถึงมหาลัยก็ยังนอนอยู่อย่างนั่นแถมหัวยังจะมาพิงที่ไหล่ผมอีกแต่ถือว่ายังดวงดีที่ผมตัวเตี้ยกว่ามันมันก็เลยพิงไหล่ของผมไม่ได้
สงสัยกันใช่ไหมว่าผมคือใคร...แทน...แท่น...แท๊น
สวัสดีทุกคนครับผม ‘กิตงาย’ เองครับมาเรียนมหาลัยที่กรุงเทพเป็นวันแรกตามคำชวนของคนที่นอนอยู่ข้างๆผมรู้จักมันได้ยังไงยังไม่รู้เลยครับอยู่ดีๆก็รู้จักตามเพื่อนเล่นเกมส์นี่แหละทุกคนคงรู้จักผมกันอยู่แล้วเนอะเหมียวเหมี๊ยว
“กายตื่น”
“คร่อก...”
(-.-) (-.-)
คนที่รู้ทางดันหลับน้ำลายยืดอยู่ข้างๆหลับไม่รู้เรื่องมาตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงตอนนี้มือของผมที่จับที่ไหล่ของ
‘กาย’ ไอ้ร่างกล้ามที่ไม่รู้ว่าจะเล่นเยอะไปทำไมเล่นจนตัวเองตัวใหญ่กล้ามแน่นๆที่มันชอบเทียบกับร่างของผมที่ผอมมากถึงมากที่สุดอยู่กับกายต้องทำใจหน่อยครับซึ่งผมกำลังทำใจอยู่
“มีใครลงป้ายหน้าไหมครับ”
กายตื่นเถอะผมนั่งอยู่ริมหน้าต่างคนก็เต็มรถออกก็ออกไม่ได้ถ้ากายมันไม่ลุกออกไปกายที่ยังคงหลับโคตรลึกยังนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ข้างๆ
ถ้าไม่เกรงใจผมนี่ถีบไปแล้วครับแต่นี่มันบนรถโดยสารไงเรียกเสียงดังก็ไม่ได้บรรยากาศข้างนอกที่เสียงดังเพราะฝนผิดกับในรถที่เงียบนิ่งเหมือนพึ่งตื่นนอน
“ไอ้กาย”
ตบแมร่ง!
ตุ้บ
“โอ้ยยยยยยยเจ็บ”
กว่าจะตื่นได้ต้องใช้วิธีที่รุนแรงไม่งั้นไอ้คนข้างๆนี่ไม่ตื่นหรอกครับใครจะไปคิดละว่าการที่เป็นเพื่อนกับกายมันมาพร้อมกับความลำบากขนาดนี้ทั้งซักผ้า
ทำกับข้าว เรื่องเรียน ที่พัก
อะไรของมันก็ไม่รู้ผมก็ดันหลวมตัวมาเรียนกับกายในเมืองแล้วด้วยแล้วผมมีทางเลือกอะไรได้อีกละครับ
“เจ็บนะกิต”
“ชู่วเบาๆ”
เสียงที่ตะโกนออกมาเพราะความเจ็บที่ผมตีมันไปแล้วก็หันหน้ามาหาพร้อมกับดุผมที่ไปตีมันอย่างเรียกตีเลยเรียกตบเถอะ
“จะถึงแล้วหรอ”
“ป้ายหน้าแล้ว”
“เอ้า
ก็ลุกสิว่ะ”
(-.-) (-.-)
(-.-)
ไม่ได้มองรอบๆเลยเนอะหาว่าผมไม่ลุกถามว่าเอาที่ตรงไหนให้ผมลุกจะง่ายกว่านะครับเพราะมันแน่นไปหมดทั้งตามทางเดินทั้งที่นั่งคับแคบไปด้วยผู้คนที่ต้องอาศัยรถประจำทางอย่างนี้
ถามว่ากายมีรถไหมมันมีครับแต่มันบอกว่าวันนี้ฝนตกเหมาะกับการนอนบนรถประจำทางมากๆแล้วมันก็พาผมมาขึ้นโดยที่ไม่ได้ถามอะไรผมเลย
ก็บอกแล้วไงครับว่าผมไม่มีทางเลือก
“ขอทางหน่อยครับๆ”
กายที่ใช่ร่างกายที่แข็งแรง(มีแต่กล้าม)ของทางคนที่ยืนตามทางเดินเพื่อที่จะลงป้ายข้างหน้าจำเป็นต้องไปรอที่หน้าประตูเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของคนวัยทำงานที่ต้องเข้างานตรงเวลาแค่ฝนตกแค่นี้ก็ทำให้เวลาช้าลงมากแล้วครับแล้วยิ่งคนเยอะเข้าไปอีก
มาคิดอีกทีผมคิดถูกหรือคิดผิดที่เข้ามาเรียนในเมืองเนี่ยครับทั้งคนเยอะรถก็เยอะฝนตกอีก(อันนี้ไม่น่าเกี่ยว)ผมที่ติดหลุมพรางของกายมันแล้วก็ทำได้แค่เดินตามมันออกไปตรงไปยังประตูรถที่กำลังจะเดินออกนักศึกษามากมายต่างก็เดินออกมาที่ประตู
“ขอโทษนะครับ”
แค่ผ่านคนบนรถก็เหนื่อยไม่มีแรงเรียนแล้วครับกว่าจะเดินตามกายทันเพราะมันเล่นเดินแหวกคนไปก่อนผมอีกทำให้ผมต้องใช้ร่างน้อยๆแทรกผู้คนออกมาเหนื่อยในเหนื่อยจริงๆ
“กิตพอประตูเปิดแล้ววิ่งเลยนะ”
“ห่ะ”
พรืบ
“ไป!”
ไอ้กาย!!!!!
อ่าส์
เรียบร้อยครับพอประตูเปิดออกเท่านั่นแหละครับกายนี่พุ่งออกจากรถไปเลยส่วนผมที่ยืนอึ้งๆกับคนพูดของมันอยู่พอรถจอดประตูเปิดทุกคนที่รอลงก็วิ่งกันลงไปอย่างรวดเร็วเหลือผมอยู่คนสุดท้ายที่มองตาค้างอยู่เพราะฝนที่ตกลงมาทำให้ทุกคนต้องวิ่งผ่าฝนลงไปที่ที่มีร่มของที่รอรถ
“เอาก็เอาว่ะ”
จังหวะสุดท้ายที่ผมตัดสินใจกระโดดลงมาจากรถก่อนที่รถจะออกตัวไปป้ายต่อไป...แต่ก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจลงไป
บรี๊นนนนนนนนนนนนนนนน
“เห้ย!!”
รอขาลงจากรถเท่านั่นแหละครับเสียงเบรกของรถที่ดังขึ้นมาจากข้างๆของผมพอผมหันไปมองก็พบกับเสียงไฟที่ส่องผ่านสายฝนออกมาเสียงเบรกที่ดังไปทั่วท้องถนนเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะเพราะรถที่แล่นมาด้วยความเร็วที่ไม่สามารถเบรกได้ทันอย่างแน่นอน
สติที่เหมือนจะดับวูบลงไปที่พื้นถนนแสงไฟที่สาดเข้าตาของผมเข้าอย่างจังถนนที่ลื่นทำให้ขาอีกข้างที่ก้าวตามลงมาลื่นไปตามท้องถนนตัวที่ไถลไปกับพื้นถนนตัวที่ล้มลงมาสายตาที่หลับลงเพราะความกลัวเสียงเครื่องยนต์รถคันใหญ่เข้ามาใกล้เรื่อยๆชีวิตของผมคงจบแค่นี้...
ความหวังที่แบกรับมาจะมาเรียนมหาลัยเรียนจบแล้วจะได้ไปทำงานหาเงินมาให้พ่อกับแม่ความรู้สึกคิดถึงบ้านคิดถึงครอบครัวของผมสายฝนที่เทลงมาบนตัวของผมจนเปียกความรู้สึกก่อนที่สติที่หายไป
พรืบ
เอี๊ยด!
“นายท่าน!”
“มิกรีบโทรเรียกรถพยาบาล”
“นายท่านจะไปไหน!”
“ไปดูคนที่นายเกือบจะชนน่ะสิ!”
ชายที่ใส่ชุดสูทสีเข้มที่เตรียมตัวจะไปประชุมแต่เช้าแต่ต้องมาเจอกับฝนตกหนักทั่วเมืองทำให้ต้องเลื่อนประชุมเป็นช่วงฉายของวันนี้แทนตอนนี้คงจำเป็นต้องเลื่อนประชุมออกไปอีกสะแล้วเพราะชายคนที่นั่งเบาะหลังกำลังอ่านรายงานเรื่องการประชุมมีคนขับรถที่กำลังเบลอๆและง่วงเพราะอากาศขับรถไม่ได้ดูทางทำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้
ทำให้ชายในชุดสูทต้องรีบเปิดประตูลงจากรถคันสวยเพื่อไปดูคนที่ลงมาจากรถประจำทางอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่หวงว่าชุดสูทที่ต้องใส่ไปประชุมจะเปียกแค่ไหนเพราะเขาได้เห็นร่างบางในชุดนักศึกษาถ้าเกิดเป็นอะไรไปละก็...เขานี่แหละที่จะซวยแทน
ผลงานอื่นๆ ของ s an d e e ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ s an d e e
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น