th smile Blue label กวนดีนัก...จะรักกันไหม!!! 11 ความต้องการ(โง่ๆ)
100 per. ตกเย็น ผมกับแอลและไอ้ขุนทอง เอ้ย ขุนพลน้องรัก นั่งล้อมวงกินเหล้ากัน กินไปกินมาไอ้บ้าขุนดันหัวหมอ บอกจะเล่นเกมส์ ชื่อเกมส์ The Truth แค่ชื่อเกมส์ผมก็ไม่อยากเล่นแล้วครับ ความจริงเนี่ยนะ!!! ตอนนี้ไอ้ความกล้าที่จะบอกรักแอลมันหล่นหายไปหมดแล้วครับ เหลือแต่ความปอดที่มากมายย~ ป๊อด มากมาย~ ไม่มีหน่วยวัดได้หรอกความป๊อดนี้~ ไอ้คำว่าป๊อดมันมากมาย ล้นปอดซ้ายที่ฉันมี~ ป๊อดเท่าไหร่ไม่รู้ รู้แต่ยังป๊อดทุกนาที ที่ใกล้เธอ~ (แปลงจาก มากมาย บี้ เดอะสาตร์) “กติกาก็คือ ผลัดกันหมุนขวดแชมเปญ ถ้าปากขวดไปหยุดที่ใคร เป็นตาคนนั้นตอบคำถาม ถ้าคนที่ตอบตอบได้หรือทำตามคำสั่งได้ คนที่ตอบก็มีสิทธิ์ได้ถาม แต่ถ้าตอบไม่ได้หรือไม่อยากตอบ หรือไม่ทำ ก็ตั้งกินหมดแก้ว นับเป็นหนึ่งตา....” “หมดแก้ว? นี่มันวอดก้าเพียวนะขุนพล ถึงจะแก้วเล็กๆก็เถอะ...” แอลพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งๆ “พี่ไม่กล้าหรอครับ J” มาแล้ว มุกนี้ของไอ้ขุน แล้วขอบอกว่าได้ผลทุกที =_= “กล้าสิ...เริ่มเลยดีกว่า เสียเวลา...” นั่นไง! ทีพนันไม่ถูกอย่างนี้มั่งฟระ T^T ขุนพลเริ่มหมุนปากขวด และโชคร้ายสุดๆที่มันมาหยุดที่ผม TOT มองจากสายตาไอ้น้องเวรแล้วรู้สึกเสียวๆ อ๊ากกกกกกกกก “หึ หึ เอาล่ะ ผมขอถามพี่จอม....พี่แอลใช่เสป็คของพี่หรือเปล่า” เยดดดดดดดด ฆ่ากูเถอะ T[]T ผมได้แต่ทำหน้า >> TOT อยู่สิบนาที เพราะแอลก็คือเสป็คนั่นแหละ ผมชอบเขามาสามปีแล้วนะ แต่จะให้พูดออกไปเนี่ยนะ!!! “ถ้าพี่ไม่ตอบ พี่ต้องหมดแก้วนะ” “เออ...เป็น!!!” แอลหันควับมามองผมอย่างตกใจขณะที่ผมได้แต่นั่งหน้าร้อน ไอ้ขุนยิ้มมุมปาก ก่อนจะผายมือให้ผมเป็นคนหมุนขวดเหล้า และมันได้เวลาแห่งการแก้แค้น เมื่อปากขวดไปหยุดที่ไอ้น้องชายตัวแสบพอดี “หึ หึ หึ =_=+++” “-_- ถามมาซักทีพี่ ผมไม่กลัวหรอก...” “โทรไปบอกนานาว่ามึงอยากกินพิซซ่าหน่อยซิ!” ผมยักคิ้วจึกๆ ห้าทุ่มแล้ว ถ้าผมจำไม่ผิด พรุ่งนี้นานาของเรา เรียนเช้าซะด้วย มึงโดนด่าเละแน่ไอ้ขุน ปากนานาเป็นไงเขารู้กันทั้งบาง มันไม่กล้าหรอกเหอะ! “ได้....” =[]= ง่ะ! ผมประเมินขุนทองของเราต่ำไป ขุนทองบินได้แล้ว!!! ขุนทอง เอ้ย ขุนพล หยิบไอโฟนสีดำของตัวเองขึ้นมา แล้วกดโทรหาใครบางคนอย่างเนิบๆ สักพักก็เหมือนจะมีคนรับสาย ผมกับแอลมองหน้ากันทันที “นา....ผมอยากกินพิซซ่า...” ราวกับกะเวลาเอาไว้แล้ว จบประโยคนี้ไอ้ขุนก็เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูแล้ววางไว้บนโต๊ะแทน ผมสามคนยกมือขึ้นมาปิดหู เพราะเจ้าป้าแกวีนแตก!!! “ไอ้เด็ก เป-รด มึงตายแน่!!! พิซซ่าบ้านหน้ามึงสิตอนห้าทุ่มน่ะหา!!! ไอ้เด็กบ้าพี่ชายไม่สั่งสอนเอ้ย!!! ไอ้บ้าขุนทอง!! ไอ้งี่เง่า!@##$%^$%^%” ติ๊ด! แล้วคุณชายก็วางไปหลังจากด่าจนหนำใจ ผมสามคนมองหน้ากัน “เฮ้ย! มึงทำได้เออ! กูยอม” ไอ้ขุนยิ้มแสยะแล้วหมุนขวดเหล้าต่อไปพอหลายเกมส์เข้า มีหลายๆคำถามที่พวกผมสามคนต่างตอบไม่ได้ และมันดูจะเยอะกว่าที่ตอบได้ ผมสามคนเลยเมาแอ๋ ตาที่สามสิบ ขุนพลเริ่มหมุนขวดแชมเปญอีกครั้ง “อ่า....พี่แอลลลลล ตอบ...หน่อยยย ก็ดี.....” “อือ ว่ามาสิ...” แอลดูจะมีสติสุดแล้วในนี้ ผมหัวเราะเหมือนคนบ้า “ว่าไรจ๊ะ *0*” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆแอล แลล้วเขาก็ผลักผมออก “ถ้าพี่จะมีแฟน พี่ชายผมจะมีโอกาสนั้นไหมอ่ะ” แค่นั้นแหละ!!! ผมตาสว่างขึ้นมาทันที!!! แอลหน้าร้อนวาบ เสียงเบาๆพูดขึ้น แต่ทำเอาใจผมเต้นรัวๆๆๆๆ “อาจจะ....” “นับคะแนนดีกว่า...อือ พี่จอมมมมปลวก.....ห้า คะแนน พี่แอลลว่า คนสวยยยย เจ็ด ผม....ขุนพลสุดหล่ออออ สิบแฮะ! อ่า...ผมชนะ งั้นผม...” “....” “ผมสั่งให้พี่จอมกับพี่แอล จูบกัน J”
ผมยิ้มแล้วชี้หน้าไอ้บ้าน้องชาย หัวเราะร่า ก่อนจะหันไปหาคนข้างๆตัว ผมขอยืนยันว่าสติผมครบถ้วน ถึงจะเมาแต่ผมรู้ตัวว่าผมทำอะไร ผมรั้งท้ายทอยแอลเข้ามา ก่อนที่ริมฝีปากผมกับริมฝีปากเล็กๆนั่นจะแนบสนิทกัน ผมใช้ริมฝีปากผมขบริมฝีปากเล็กๆนั่นเบาๆ ไล้ลิ้นไปตามริมฝีปากสีสดนั่นอย่างทะนุถนอม บดเบียดเชื่องช้าและเนิ่นนาน “โครม!!!!” กว่าจะรู้ตัว ผมกับแอลก็ล้มลงไปนอนแผ่ที่พื้นบ้านเพราะเมาซะแล้ว ผมถอนริมฝีปากออกแล้วคลี่ยิ้มกว้างๆก่อนจะหัวเราะออกมา ไม่หน้าเชื่อว่าแอลจะยิ้มมุมปาก ก่อนจะเริ่มหัวเราะออกมาเหมือนกัน “ฮ่าๆๆๆๆ” ผมยิ้มก่อนจะดึงร่างบางข้างๆมากอดไว้แนบอก ร่างเล็กซุกศีรษะลงที่อกผม แล้วผมกับแอลก็นอนหลับไปที่พื้นกลางบ้านอย่างนั้นทั้งคืน...
L-VA PART ผมตื่นขึ้นมาอีกทีเพื่อพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นบ้านในห้องนั่งเล่นหน้าโซฟา ผมนอนตะแคงข้างขณะที่มีมือหนาวาดโอบรอบเอวอย่างแน่นหนา ผมขยับยุกยิก แล้วลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะหันไป มองข้างตัว นายจอมทัพ....อีกแล้ว? หวังว่าสักวันผมคงไม่ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเป็นเมียหมอนี่ไปแล้วหรอกนะ -*- ระหว่างที่ผมกำลังอึนและกวาดสายตาไปรอบๆ ร่างสูงข้างๆก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆผม จอมทัพขยี้หัวยุ่งๆของตัวเองสองสามที ผมหันไปมองหน้าหมอนั่นที่ยังมึนๆอยู่เพราะยังไม่ตื่น จอมทัพยิ้มหวานมาให้ผม “อรุณสวัสดิ์แอลว่า ^O^”
“ทำไมฉันมานอนกับนายได้ล่ะเนี่ย...” ผมรู้สึกอิจฉานิดๆ ที่จอมทัพเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากๆทั้งยามหลับและยามตื่น นายจอมเอนศีรษะมาซบลงที่ไหล่ผมอย่างเนียนๆ ผมยกมือศีรษะเขาออกไป แต่เขาก็ยังเอนมาเหมือนเดิม ผมเลยผลักออกไปอีก พอหมอนี่จะเอนมาอีกผมเลยไหวไหล่หลบ แต่ร่างสูงล้มลงนอนตักผมอย่างหน้าด้านๆ ผมเขย่าแขนแกร่งที่เต็มไปด้วยรอยสักนั่นด้วยสีหน้าเรียบๆ “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะจอมทัพ
.นอนตักฉันได้ยังไง ใครอนุญาตนาย...” “กูง่วงจัง....” ร่างสูงอมยิ้มที่มุมปาก แล้วจับมือผมพาดไปที่คอเขาแล้วมือหนานั่นก็จับมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย แม้ร่างสูงจะไม่ได้ทำอะไรที่หนักหนา แต่ผมกลับรู้สึกว่าหน้ามันร้อนเกินไป.... ผมเป็นอะไรล่ะเนี่ย....?! “นี่....ลุกออกไปฉันหนัก...” “หนักอะไร....หนักใจ?” “....” ผมไม่ตอบแต่แค่ผลักหัวร่างสูงเบาๆ หนักใจบ้าอะไรล่ะ แต่จะว่าไป ผมก็ควรจะหนักใจอย่างมากกับผู้ชายคนนี้ “จอมทัพ...” “หืม....” “ฉันอยากถามนาย....” “ถามสิ....” “ก่อนขุนพลจะมา...นายจะบอกฉันว่าอะไร....” สิ้นคำพูดผม ก็เหมือนมีคนไปกดปุ่ม Mute ยังไงอย่างนั้น ทั้งห้องเงียบสนิท ผมรอ รอว่านายจอมจะพูดอะไร ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังหวังว่าจะได้ยิน...อะไรบางอย่าง จากปากร่างสูง “คือ...กู....กู....กู....กูยังบอกไม่ได้อ่ะ!!” แล้วนายจอมก็ลุกพรวดขึ้นมาจากตักผมเลย ผมเองก็ยืนขึ้นอย่างหงุดหงิดเหมือนกัน ผมจะเดินหนี แต่จอมทัพก็รั้งแขนผมไว้แน่น “จะไปไหน..หา? ไหนบอกกูซิ มึงจะไปไหน?” “ฉันไม่อยากจะคุยกับคนปากอย่างนายแล้ว ถอยไป” “หรอออ แล้วไง ก็ปากนี้แหละ ที่จูบกับมึงเมื่อคืน จ๊วบบบ ^3^ แบบนี้เลย” “วะ...ว่าไงนะ...จอมทัพ...” ผมพูดอึกๆอักๆไม่เป็นคำ นี่มันไปกันใหญ่แล้วนะ! ผมกับนายจอม ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย! แต่ผมโดนไอ้หมอนี่จูบสามครั้ง สามครั้งแล้ว!!! “เราจูบกัน กูจูบมึง!! มาทบทวนความทรงจำกันอีกรอบดีกว่ามา!!!” มือหนาคว้าเข้าที่เอวผมหมับแล้วออกแรงลากเข้าไปใกล้ตัว หน้าผมห่างกันแค่คืบ ผมเบิกตานิดๆอย่างตกใจ “นี่...ปล่อยฉันนะ...” “ไม่ปล่อยได้ไหม...” เสียงเข้มถาม ผมอึ้งไปนิดกับคำถามนั้น
“อะไรนะ....” “กูถามว่า กูไม่ปล่อยมึงไป ได้หรือเปล่า....” “....” ผมเงียบกริบ หลบตาร่างสูงนั่น ก่อนจะพยายามดึงแขนหนาที่โอบเอวไว้แน่นออกไป แต่ก็ไม่มีประโยชน์ จอมทัพเลิกคิ้วใส่ผม ร่างสูงยิ้มยียวนมา “ไม่ได้” ผมตอบเสียงเรียบ “หา!!! หมายความว่าไงแอลว่า -*-+++” “หึ...นายต้องปล่อย เพราะฉันมีแฟนแล้ว...” “ว่าไงนะแอลว่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
นายจอมแหกปากลั่น หมอนั่นปล่อยมือจากร่างผม และค่อยๆทรุดลงไปนั่งที่พื้นข้างๆโซฟา เสียงเข้มถามขึ้นเหมือนคนหมดแรง “มึง...มีแฟนแล้วจริงๆหรอ TOT” “...พี่ต้นไผ่ ปีสี่คณะเดียวกัน ที่เคยเป็นพี่เทคฉันตอนอยู่ปีหนึ่ง นายก็รู้จัก...” ผมตอบเสียงเรียบ หน้านายจอมซีดเป็นไก่ต้ม “แอลว่า.....” “....” “มึงเป็นแฟน เป็นแฟนกับมันจริงๆหรอ...” “ฉัน...” ผมกำลังจะพูดแต่นายจอมก็ยงมือขึ้นมาปิดหู “ให้ตายเถอะ ฮือออ กูทนฟังไม่ได้ TTOTT” ผมทำหน้าเอือมนิดๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆร่างสูง จอมทัพลดมือลงจากหูสองข้าง “มึงทำ....มึงทำจริงๆหรอ” ผมมองหน้าเขานิ่งๆและไม่ตอบ “....” “โถ่....แอลว่า...ไม่ๆๆๆ แอลว่า ไม่...” ร่างสูงส่ายหน้าไปมา “เปล่า....ยัง ฉันโกหกนายเฉยๆ -_-”
“TTTOTTT” “มึงเล่นเหี้ยไรเนี่ยใจกูหายวาบเลย!!!!” ร่างสูงเขย่าร่างผม “นายใจหายทำไมล่ะ....นายชอบฉันหรอ....” ผมถามเขาตรงๆ “....ชอบ....” “....O_O” “กูอยากบอกอะไรมึงสักอย่าง....”
“คือ จอมทัพ....ฉันยังไม่อยากฟัง....” ผมรีบสวนทันที “=[]=” “เรื่องแบบนี้...มันต้อง....ค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่หรอ....” “=_= อือ....” “นาย....รอฉันได้ไหมล่ะ....” ผมถามเขาไปตรงๆ ร่างสูงยิ้มกว้างๆออกมา “รอได้ ^O^” ผมเลยยิ้มบางๆออกมา จอมทัพเองก็ยิ้มกว้างๆออกมาให้ผมเหมือนกัน ผมคิดว่าบางทีผมอาจจะชอบเขาเข้าแล้ว แล้วก็คิดว่า เขาคงชอบผม เพียงแต่ผมยังไม่อยากจะเร่งตัวเองขนาดนั้น...เราคุยๆกันไปก่อนมันก็ได้นี่ใช่ไหม... ผมไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อกี๊ก่อนผมจะบอกให้เขารอ...เขาจะพูดคำว่าอะไร แต่ผมไม่อยากให้เขาขยายความว่าเขาชอบผมแค่แบบเพื่อน หรือแบบน้อง อะไรแบบนี้คงเจ็บพิลึก...ในเมื่อผมถามเขาตรงๆ ว่าเขารอได้ไหม ในเมื่อเขาบอกว่าเขารอได้... งั้นก็รอฉันไปอีกนิดนึงแล้วกันนะ.... * จอมทัพยืนรดน้ำต้นไม้ ขณะที่ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ แม้ว่าตาผมจะจ้องอยู่ที่หนังสือ แต่มันไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะร่างสูงที่ยืนรดน้ำต้นไม้ เอาแต่แอบมองผมอยู่นั่นแหละ พอผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาเขา... จอมทัพก็จะยิ้มกว้างๆมาให้ ทำเอาผมหลบตาพรวดเลย... อะไรกันล่ะเนี่ย? ทำไมรู้สึกเหมือนหน้ามันร้อน
จอมทัพหันหลังให้ผมร่างสูงเอาเฮดโฟนมาใส่ เฮดโฟนที่จอมทัพใช้อยู่มันแพงมาก ประมาณสองหมื่นกว่าบาท แค่หูฟัง แต่ผมเคยเอามายืมฟัง มันให้ความรู้สึกเหมือนคุณหลุดไปอีกห้วงหนึ่งที่มีแต่โลกของคุณกับเสียงเพลง จอมทัพเริ่มส่ายก้นดุ๊กดิ๊กอย่างกวนโอ๊ย =_= เขาร้องเพลงออกมา แล้วรดน้ำต้นไม้ไปเรื่อยเปื่อย “ก็รู้ให้ได้เท่านี้ก่อน ก็เธอนะให้ฉันได้เท่านี้ก่อน ให้ไว้ส่วนหนึ่งของใจ.... ก็รู้ไม่ง่ายต้องคิดหน่อย เรื่องรักไม่ง่ายสักนิดต้องคิดหน่อย ถ้าจะให้ใจทั้งใจ” ร่างสูงทำมือทำไม้ไปเรื่อย แล้วหันมามองผม ก่อนจะยิ้มน่ารักแล้วร้องท่อนต่อไปออกมา
“ไม่ถือไม่สาถ้าอยากให้คอยยังไงก็คอย ปล่อยมันค่อยเป็นค่อยไป ก็ยอม
.โว้ โอ๊ะ โอ...” ผมหัวเราะเมื่อร่างสูงทำท่าเต้นกวนโอ๊ยๆอีกครั้ง
“ทีละนิดทีละน้อย รักทีละหน่อย ทีละนิดทีละน้อย ค่อยๆ รักฉัน ให้เธอทยอยๆ แบ่งความรักให้กัน ค่อยรัก ค่อยเป็น ค่อยไป นะเธอ....” รู้สึกว่าพักนี้ตัวเองยิ้มบ่อยขึ้นยังไงก็ไม่รู้ จอมทัพเดินเข้ามาใกล้ ร่างสูงโน้มหน้าลงมาใกล้ผมแล้วยิ้มให้ รอยยิ้มของเขามันน่ารักจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม ผมยกหนังสือที่ถืออยู่ขึ้นมาคั่นระหว่างใบหน้าเขากับใบหน้าผม จอมทัพเลยเห็นผมแค่ครึ่งหน้า แต่เขาก็ยิ้มให้ผมแล้วพูดขึ้น “กูรู้นะว่ามึงยิ้มอยู่...” ร่างสูงทำเหมือนรู้ทัน แต่ผมก็ยิ้มอยู่จริงๆนั่นแหละ มือหนาลดหนังสือผมลง เขาถึงได้เห็นผม ว่าผมไม่ใช่แค่ผมอมยิ้ม แต่ผมกำลังยิ้มจนตาหยี...
“อย่าไปยิ้มอย่างนี้ให้คนอื่นล่ะ เดี๋ยวกูฆ่าคนตาย ^O^” “ใครจะทำฉันยิ้มบ่อยเท่านายล่ะ....” ผมพูดเบาๆ นายจอมทำหน้าอึ้ง ผมเลยหยิบหนังสือจากมือหนาแล้ววิ่งเข้าบ้าน แย่แล้ว...ใจเต้นแรงขนาดนี้กับผู้ชายคนนี้อีกแล้วน่ะสิ...เฮ้อ! |
ความคิดเห็น