Chapter 4 ฟิชโช่
“โฮ่ง!” ยังไงฉันคงไม่มีวันชินกับการกินข้าวพร้อมหมาแน่ๆ แค่สบตามันวาวของมัน
ฉันก็ขนลุกซู่ซ่าแล้ว บรื๋อ! ส่วนคุณสามีนั้นนั่งข้างมันนี่ล่ะค่ะ ว่าง่ายๆ คือเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับฉัน แต่สองตาเขาดันไม่แลฉันสักนิด กลับหันใบหน้าด้านข้างให้และเหลือบมองที่รักเป็นระยะมากกว่า ไม่รู้จะอธิบายยังไง ในเมื่อโจ๊กนั่นเป็นฝีมือฉัน ดังนั้นคนที่เขาควรใส่ใจก็คือฉันสิ โอ๊ย ตอนแรกกะจะหน้าด้านหน้าทนป้อนเขานิดหน่อย ทว่ามาเห็นแบบนี้ชักหมดอารมณ์จะอ่อย พอพวกเรากินเสร็จ จู่ๆ ไซอัลก็วางช้อนลง “นั่งอยู่ทำไมครับ” “คะ?” อะไรวะ งง T^T “ดูที่รักซะบ้างสิ เก่งจะตาย กินเสร็จยังรู้จักทำความสะอาด” เขาไม่ได้มองหน้าฉันตอนพูดแม้แต่นิด เขามองหมาค่ะ ฉันถึงไม่มั่นใจไงว่าเมื่อกี้เขาพูดกับใคร มันเป็นไปได้สูงออกนะที่เขาจะพูดกับมัน “โฮ่ง!” แถมมันยังชูคอเห่าอีกต่างหาก สรุปเขาพูดกับฉันแน่ใช่มั้ยเนี่ย? ทีนี้เขาเอาศอกเท้าโต๊ะ มือกุมขมับ ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “ฉันล่ะเหนื่อยใจกับเธอจริงๆ” แต่ฉันงง T_T “หมายความว่าไง?” ฉันทนไม่ไหวอ้าปากถามออกไปในที่สุด ก่อนที่เขาจะค่อยๆ เบือนหน้ามา และวินาทีนั้นล่ะฉันแทบกรี๊ด ฮือ กว่าจะยอมหันใบหน้าหวานๆ มาสบตากันได้นะคะ ปล่อยให้ฉันนั่งอึดอัดอยู่ตั้งนาน ไซอัลเอียงคอแล้วยิ้มบางๆ “ไหนตอนเช้าเธอบอกว่าอยากเป็นแม่บ้าน” “=O=” โห อยากเป็นงั้นเหรอ
ช่างกล้าอ่ะ! ทั้งๆ ที่นายเป็นคนยัดเยียดตำแหน่งนั้นให้ฉันแท้ๆ เลยนะ “ไปล้างจานไป
อีกอย่างแม่ฉันอุตส่าห์จ้างเธอมาตั้งแพง จะให้เธอนั่งกินนอนกินแบบนี้คงไม่คุ้มเท่าไหร่” เขาสั่งพลางยกชามหมาขึ้นซ้อนชามตัวเอง จากนั้นก็เลื่อนมันมาทางฉัน ฉันก้มมองชามว่างเปล่าตรงหน้าสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วให้เขา “ไปสิ” “คือ
” “ลุกครับ” คือฉันถูกจ้างมาให้จีบนาย ไม่ได้เป็นคนรับใช้นายกับหมาแบบนี้สักหน่อยนี่! แต่เพราะฉันยังคงคอนเซ็ปความเป็นสาวผู้เรียบร้อยอยู่หรอกนะ ฉันถึงยอมก้มหน้ารับคำสั่ง พยายามไม่เถียง ไม่จิกตาใส่ แม้จะเพิ่งรู้ตัวทีหลังว่าตัวเองเผลอค้อนเขาไปวงใหญ่แล้วก็เถอะ ซึ่งไซอัลไม่เห็น เขาลุกขึ้นพอดี ก่อนจะเดินนำหน้าที่รักไปยังโซฟาตัวยาว แล้วนั่งลง ต่อด้วยการเปิดทีวีดูกับมันอย่างสบายใจเฉิบ ทิ้งฉันไว้กับภาระอันหนักอึ้งอย่างชามเปล่าอีกสามชามตรงหน้า ชัดเจนค่ะ สำหรับไซอัล
หมาสำคัญกว่าเสมอ แล้วฉันล่ะ? T^T เป็นได้แค่แม่บ้านประจำห้อง คอยให้เขาปั่นหัวเล่นไปวันๆ งั้นเหรอ
ไม่เอาหรอก! ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงไม่มีทางสนใจอะไรนอกจากหมาสักทีแน่ และสุดท้ายฉันก็จะแพ้ ต้องจ่ายค่าชดใช้ให้แม่เขาทั้งหมด กลายเป็นว่าฉันจะเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาตอนอยู่ที่นี่กับเขาไปฟรีๆ ถ้าไม่อยากให้ทุกอย่างจบลงแบบนี้ เห็นทีฉันคงต้องจริงจังหน่อยแล้วล่ะ! ฉันรีบล้างชามจนเสร็จ จากนั้นก็หันหลัง ตั้งใจจะเดินไปหาคุณสามีบนโซฟาโน่น เขากำลังดูทีวีอยู่ รู้สึกจะเป็นข่าวล่ะมั้ง ช่างเถอะ ไม่ว่ายังไงฉันก็จะทำให้เขาเบนความสนใจมายังฉันให้ได้! ทว่าพอขาฉันก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว สัมผัสนูนๆ ตะปุ่มตะป่ำก็เรียกให้ฉันชักเท้ากลับ ตามด้วยก้มมองวัตถุแปลกปลอมบริเวณพื้นทันที เส้นฟิชโช่ นั่นก็เส้นฟิชโช่! O_O กรี๊ด ทำไมยิ่งเดินเข้าใกล้ไซอัลมากเท่าไหร่ จำนวนปลาเส้นพวกนั้นดันเกลื่อนพื้นเต็มไปหมดเลยล่ะ! ฉันเม้มปากพลางช้อนตามองคนผมน้ำตาลเข้ม ก่อนที่ฉันจะเห็นเขาโยนฟิชโช่ประมาณสองสามเส้นขึ้นฟ้าต่อหน้าต่อตา! นะ
นี่มันเรียกแกล้งกันชัดๆ! โอ๊ย ฉันเกือบถลาตัวไปคว้ารีโมทบนโต๊ะแล้วปิดทีวีทิ้งแล้ว ถ้าความคิดหนึ่งไม่ยั้งปลายเท้าเอาไว้ซะก่อน หรือบางทีคุณสามีอาจจะชอบผู้หญิงเรียบร้อย? แต่เมื่อกี้คือการยั่วโมโหเพื่อทดสอบความอดทน เพราะผู้หญิงเรียบร้อยจะต้องสงบเสงี่ยม เจียมตัว ไม่เถียง ใจเย็น ไม่ปรี๊ดแตกเอาง่ายๆ ใช่มั้ยล่ะ ดังนั้นเขาอาจจะชอบผู้หญิงแบบนั้นอยู่ก็ได้ งั้นฉันจะไม่หลุดบทเด็ดขาด! เมื่อตัดสินใจเสร็จสรรพฉันก็คว้าไม้กวาดแถวนั้นมาถือไว้ แล้วเดินข้ามกองขนมด้านหลังโซฟาไปยืนตรงหน้าไซอัล ก่อนกวาดมันใส่ที่โกยผงให้เขาเห็น แม้เอาเข้าจริงๆ จะกวาดไม่ไปสักเส้นเลยก็ตาม หวังว่าเขาจะสังเกตที่ความพยายามฉันนะ T^T “หมวยลี่” กรี๊ด ในที่สุดเขาก็สนใจฉันแล้ว! ฉันละสายตาจากพื้น ค่อยๆ เงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าหวานด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ “คะ?” “เธอบังทีวีที่รักน่ะ” อ้าว
“โฮ่ง!” เจ้าพุดเดิ้ลบ้า! ดูสิ ขนาดหมายังโก่งคอเห่าขณะที่ฟิชโช่เต็มปากตอกย้ำความหน้าแตกเลยค่ะ ทำเอาหน้าฉันร้อนผ่าว รีบโน้มตัวลงนั่งยองๆ กวาดฟิชโช่บริเวณพื้นต่อเพื่อหลบสายตาทั้งคนทั้งหมาแทบไม่ทัน และเช่นเดิมแหละ กวาดโดนซะที่ไหน เอ๊ะไม่สิ อันที่จริงกวาดโดนนะ แต่เหมือนมันไม่ไปอ่ะ T_T ฮือ ฉันจึงหยิบฟิชโช่ขึ้นทีละเส้น แล้วดีดมันใส่ที่โกยผงแทน ทว่าใครบางคนยังไม่ยอมจบ เพราะพอฉันเก็บได้หนึ่งเส้น คนบนโซฟากลับโยนมันลงมาสองเส้น สามบ้างล่ะ บางทีหล่นใส่หัวด้วยซ้ำ
จนฉันชักทนไม่ไหว แบบนี้เมื่อไหร่มันจะสะอาดกัน! ก่อนที่ฉันจะใช้มือกวาดเศษขนมรอบตัวมาสะสมเป็นกองภูเขา หยิบมันแล้วกำไว้แน่น พร้อมกับยืนขึ้น ส่วนไซอัลเลิกคิ้ว ไล่สายตามองฉันหัวจรดเท้า จากนั้นก็
ฟิ้ววว~ โยนฟิชโช่อีกแล้วค่ะ! กรี๊ด ฉันจะไม่ทนละนะ “นี่นาย!” “( -_-)” ไซอัลเบือนหน้าหนีไปหาหมาทันที โอ๊ย ได้
อยากให้เก็บมากใช่มั้ย ได้! ฉันจงใจถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะโน้มตัวลง แล้วใช้มือข้างที่ไม่ได้กำเศษขนมอยู่เก็บปลาเส้นที่เขาเพิ่งทำหล่น ถึงจะยอมก้มเก็บเหมือนครั้งก่อน ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนเดิมซะทีเดียวนะ ไม่เหมือนตรงที่ฉันลงทุนใช้ความสาวเข้าล่อ
หรือถ้าจะให้ขยายความอีกที ก็คือวันนี้ฉันใส่เสื้อชีฟองเว้านิดๆ หน่อยๆ นั่นเองค่ะ ดังนั้นเวลาก้ม มันก็จะ
-.,- กรี๊ด นี่แหละเรียกว่าเซ็กซี่ทีเผลอ “
” เงียบเชียว
อึ้งล่ะสิอึ้ง ฉันมีของดี ต้องมีความจำเป็นพอถึงจะโชว์หรอกนะ “ที่รักอย่าไปมอง เสียสายตาหมด” เสียงทุ้มของเขาเรียกให้ฉันเหยียดตัวตรงอย่างรวดเร็ว เขายังเบือนหน้าไปหาหมาอยู่ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับเมื่อกี้เขาเพิ่งดูถูกฉันว่า
เสียสายตางั้นเหรอ =O=! บ้าน่ะ เรื่องสัดส่วนนี่ฉันมั่นใจมากเลยนะ เล่นพูดงี้ฉันก็เสียเซลฟ์หมดสิ โอ๊ย งั้นล้มเลิกค่ะ! แค่นี้มันก็ชัดเจนละว่าผู้หญิงเรียบร้อยอย่างผ้าพับไว้นั้นไม่ใช่สเป็คของเขาแม้แต่นิด ซึ่งนั่นหมายความการทดลองครั้งนี้ล้มเหลว
ล้มเหลวไม่ว่า กลับถูกเขาฉีกหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถมยังตอบโต้อะไรไม่ได้อีก ไม่เอาแล้วแม่สาวกุลสตรี เข็ดค่ะ! เห็นทีฉันคงต้องพลิกแผ่นดินหาคาแรคเตอร์ใหม่ๆ อีกรอบซะแล้ว แต่จะเป็นสาวแบบไหนดี? “หมวยลี่” ฉันสะดุ้งโหยงกับเสียงเรียก มือพลางกำเศษขนมไว้แน่น แล้วช้อนตามองคนบนโซฟา ไซอัลกำลังหรี่ตาลงพร้อมกับระบายยิ้มหวาน เหอะ อยากละลายอยู่หรอกค่ะ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ท่าทางจะเป็นรอยยิ้มอันตรายมากกว่า “คะ?” “ตรงนี้ยังไม่สะอาดเลยนะ” ฟิ้ววว~ -_-! แหมะ โยนฟิชโช่ลงพื้นต่อหน้าต่อตา แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่ามันยังไม่สะอาด! เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะแสร้งทำตาโต “อ้อ” “อะไรอีกคะ?” “อย่าบังทีวีด้วย” กรี๊ด! ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ
ไม่สิ ความจริงมันหมดไปตั้งนานละล่ะ! ในเมื่อตอนนี้ฉันสลัดคราบผู้หญิงเรียบร้อยออกไปหมดแล้ว ดังนั้นขอแกล้งคืนหน่อยเถอะ อยากให้เป็นแม่บ้านนักเหรอ อยากให้ทำความสะอาดมากใช่เปล่า กลัวไม่คุ้มเงินหกแสนใช่มั้ย จัดไป! มือฉันรีบคว้าไม้ขนไก่ข้างทีวี ขณะที่คุณสามียังนั่งเอ้อระเหยอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายหลังจากวินาทีนี้เป็นต้นไป! ก่อนที่ฉันจะสาวเท้ายาวๆ ไปยืนตรงหน้าเขา จากนั้นก็ใช้อาวุธ (ไม้ขนไก่นั่นแหละ) ปัดหัวน้ำตาลไหม้ทันที “เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย?!” “ขนมเลอะ” “จะบ้าเหรอ!” ไซอัลพยายามเงยหน้าขึ้น แต่เสียใจที่มันไม่สำเร็จ เพราะฉันกำลังใช้ไม้ขนไก่โจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหัวรับกรรมท่าเดียว โอ๊ย สะใจค่ะ มือเขานั้นลอยเคว้งไปมา เนื่องจากกำลังตามจับไม้ขนไก่ฉันอยู่ ซึ่งไม่มีวันจับได้หรอก ถ้าเขายังมัวแต่ก้มหัวหลบมันอยู่แบบนี้ “พอได้แล้ว!” “ไม่” โอกาสเอาคืนอยู่ตรงหน้า มีเหรอที่ฉันจะปล่อยให้มันหลุดลอย ทันใดนั้นไซอัลก็โพล่งขึ้น “ที่รักช่วยด้วย!” อ้าว O_O! ทำไมนายถึงต้องขอความช่วยเหลือจากหมาบ้าด้วยเล่า ขี้โกงนี่นา ทว่าฉันก็โล่งอกไป
หมาไม่สนใจค่ะ มันกำลังง่วนกับการกินขนมนานาชนิดบนโซฟาอยู่ ดังนั้นอย่าหวังว่า
“กรี๊ด!” มือไซอัลคว้าข้อมือฉันได้แล้วให้ตาย! ไม่น่าสนใจแต่หมาเลย U_U “เรียบร้อย” ทีนี้เขาแหงนหน้าขึ้นสบตาพร้อมยิ้มหวาน เล่นเอาฉันปั้นหน้ากลับไปไม่ถูก ได้แต่ยืนตัวเกร็ง ขณะที่ทุกๆ อย่างมันรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด โดยเฉพาะมือข้างขวา
นิ้วเขาอุ่นมากจริงๆ นะ ชะ
ชัก
หัวสมองชักตื้อแล้วสิ ฉันพยายามสะบัดมือออก “ปล่อยค่ะ” “ไม่ปล่อย” “T_T” พะ
พูดเฉยๆ ก็ได้นี่ ไม่เห็นจะต้องยิ้มมุมปากแบบนั้นเลย “หึๆ” หัวเราะทำไมอ่ะ TOT แล้วทำไมต้องเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ ด้วย! รู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันเห็นดวงตาสีดำเขาชัดขึ้น แถมจมูกเขายังโด่งมากอีกต่างหาก ส่วนปาก
อ๋า ไม่สิ ฉันจะต้องสะบัดมือเขาออก ตะ
แต่ทำไมมันไม่ออกสักทีล่ะ? ออกสิ! ฮือ ตัวฉันสั่นจนไม้ขนไก่เกือบจะหลุดมืออยู่แล้วนะ ดังนั้นถ้าเขายังไม่เลิกแกล้งกันล่ะก็ สาบานได้ว่าฉันจะ
! “กรี๊ดดด!” ทันใดนั้นข้อมือฉันก็ถูกเขากระชากไปหา ใจฉันเต้นรัวไปพร้อมๆ กับร่างกายที่กำลังเซไปข้างหน้า ไม่นะ! ด้วยความตกใจ ฉันเลยตัดสินใจใช้มือที่กำลังกำฟิชโช่อยู่เต็มเหนี่ยว มาใช้เป็นเครื่องมือทรงตัวทันที ทว่ามันเกิดการผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยค่ะ เอ่อ
คือว่าเมื่อกี้ฉันเพิ่งเอามือข้างนั้นกระแทกใส่ปากเขาเต็มๆ “แค่กๆๆ” ฮือ ไซอัลสำลักใหญ่เลย สำลักออกมาเป็นปลาเส้นซะด้วย ตายล่ะ U_U ฉันรีบเด้งตัวกลับมายืนตรง มือก็โยนไม้ขนไก่ทิ้งไปที่ไหนสักแห่ง “ขอโทษ” ไม่รู้จะเอ่ยคำไหนออกมาแล้วจริงๆ ก่อนที่ไซอัลจะหยุดสำลัก พลางจ้องฉันตาเขียวปัด ส่วนปลายจมูกกับใบหูนั้นแดงแปร๊ดเชียว สงสัยคงเป็นเพราะสำลักมากแน่ๆ ฮือ ขอโทษ แม้ความจริงเขาเองจะมีส่วนผิดเหมือนกันก็เถอะ อยากแกล้งกันก่อนทำไมล่ะ “
” เงียบจัง T^T ชวนคุยดีกว่า “คือ
” พอฉันเริ่มเกริ่น ดวงตาน้ำตาลจากคนบนโซฟาก็ตวัดมองอย่างรวดเร็ว ฉันกลืนน้ำลายอึก รีบหลบตาเขาไปจ้องเล็บตัวเอง “คือถ้านายอยากกินอะไรเป็นข้าวเที่ยง บอกฉันได้เลยนะ” “เธอล่ะ” ฉันเงยหน้าทันที “คะ?” งงอ่ะ มาย้อนถามทำไมเนี่ย เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นเช็ดมุมปากนิดหน่อย “เธอล่ะอยากกินของตกพื้นบ้างมั้ย?” โอ๊ย เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆ เลย TOT “คะ
คือฉันไม่ได้ตั้งใจ” “สรุปว่าเธออยากกินมั้ย?” จะอยากรู้อะไรนักหนา “นายจะคายออกมาให้ฉันกินหรือไงเล่า!” เขากระตุกมุมปากแทนคำตอบ และแม้มันจะไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ ในเมื่อหน้าเขาออกหวานซะขนาดนั้น แต่ยังไง
ฉันขอถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างหน่อยดีกว่า อารมณ์เขาตอนนี้เป็นอะ
ติ๊งต่อง~ “ว้าย!” “แค่เสียงออดยังตกใจ เธอนี่นะ
” ฉันเบ้ปากมองไซอัล เขากำลังชะเง้อคอมองข้างหลังซึ่งเป็นประตูอยู่ ส่วนฉันถอนหายใจออกมายาวๆ พลางทอดสายตามองตาม โอ๊ย ใครมากดออดตอนนี้กันนะ เล่นเอาตกอกตกใจหมด “เธอไปดูสิว่าใครมา” ฉันขมวดคิ้วนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้ารับทราบ “ค่ะ” ตกลงฉันอยู่ในฐานะภรรยาเขาจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย T^T ใช้เวลาไม่นาน เท้าทั้งสองข้างก็พาฉันมาหยุดยืนตรงหน้าประตูได้ในที่สุด ฉันยืนคิดสักพัก ก่อนจะตัดสินใจได้ว่าตัวเองควรจะต่อความสูงด้วยการเขย่งขาขึ้นเพื่อส่องตาแมว เผื่ออีกฝ่ายเป็นโจรหรือผู้ร้ายฉันจะได้หนีทันไง ถึงแม้มันจะเป็นไปได้ยากมากก็ตาม ก่อนที่ฉันจะพบว่าคนหลังประตูนั้นมีอยู่สองคน และใส่แว่นกันแดดทั้งคู่ ซึ่งฉันรู้ทันทีว่าพวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสักนิด หลังจากนั้นฉันก็ปิดประตู “โย่ว!” และนั่นคือคำแรกที่ฉันได้ยินจากแม่สาวฮิพฮอฟ “เที่ยงนี้ขอฝากท้องด้วยได้มั้ยฮะ” ส่วนนี่คือคำทักทายจากแฟนหนุ่มหน้ามึนของเธอ ฉันกลอกตาไปมา พลางเปิดประตูให้กว้างมากกว่าเดิม ก่อนจะผายมือเป็นเชิงให้เพื่อนไซอัลเข้าไปด้านใน “เชิญค่ะ” “โย่ว” “ขอบคุณฮะ” ให้ตายสิ
รู้สึกเหมือนมีลางยังไงไม่รู้ว่าต่อจากนี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ห้องมันจะต้องเละ! เละ! เละ! จนฉันรับไม่ได้แน่ๆ มือฉันขยุ้มผ้าเช็ดตัวบริเวณหัวเพื่อซับน้ำหลังจากที่เพิ่งสระผมเสร็จไปหมาดๆ เฮ้อ เหนื่อยจริงๆ ค่ะ พวกเขาทั้งสามคนทำห้องรกซะจนฉันต้องเสียเวลาจัดเกือบครึ่งวันแน่ะ -_-; ไม่รู้ร้องคาราโอเกะอีท่าไหนกัน หมอนอิง ไมค์ และขนมถึงได้ลอยตลอดเวลา นี่ดีนะที่ยังมีสติพอที่จะไม่โยนถ้วยกาแฟ ไม่งั้นฉันจะ
เฮ้อ! ถอนหายใจก่อนจะจำใจกวาดมันล่ะมั้ง ทำได้แค่นั้นแหละ T_T ตอนนี้คุณสามีอยู่ในห้องเขาเรียบร้อยค่ะ ส่วนที่รัก
แน่นอนว่าหลับปุ๋ยตั้งหลายชั่วโมงก่อนหน้าแล้ว โอ๊ย อิจฉา สุดท้ายคนอย่างฉันก็คงต้องนอนโซฟาต่อไป U_U แม้ไซอัลจะยื่นข้อเสนอให้ฉันไปนอนกับเขาก็เถอะ แต่จะบ้าเหรอ! พูดอะไรไม่คิดเลย ฉันทิ้งตัวลงนั่งโซฟา กำลังจะหยิบรีโมทเปิดทีวีดูนิดหน่อย ทันใดนั้น
¯~ เสียงเรียกเข้าทำฉันสะดุ้งเบาๆ วางรีโมท ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าหลุยส์เก๊คู่ใจมาควานหาโทรศัพท์ เอ๊ะ? แปลกจัง ชินจังไม่น่าโทรเข้าเอาป่านนี้นี่นา ในเมื่อเขาได้โทรหาฉันตอนบ่ายแล้ว (ต้องหนีไปคุยกันข้างล่างเลยทีเดียว) หรือจะเป็นป๊าม้า? แต่ว่าฉันเพิ่งวางสายท่านไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเองนะ และเมื่อฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ตัวอักษรบนจอก็ไขความข้องใจทุกอย่าง ‘ท่านผู้บริหาร’ คงโทรมาถามความคืบหน้าเช่นเคย ฉันเอนหลังพิงเบาะพลางกดรับสาย “สวัสดีค่ะ” [เป็นไงบ้างจ๊ะ?] อยากจะตอบจริงๆ ว่าเกือบตาย “สบายดีค่ะ” [สถานการณ์เป็นปกติดีใช่มั้ย? หมายถึง
ไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยเอ่ย?] ฉันกลอกตาไปมา “ค่ะ” ความจริงมันไม่ปกติตั้งแต่ลูกคุณแล้วล่ะ [ไซอัลมีทีท่าว่าจะปิ๊งหนูบ้างหรือยัง?] ท่านผู้บริหารยิงคำถามเสียงนุ่ม เล่นเอาฉันเงียบไปอึดใจ เพราะตอบคำถามข้อนั้นได้ไม่ค่อยเต็มปากเท่าไหร่
รู้สึกคำตอบมันช่างห่างไกลกับคำว่า ‘ปิ๊ง’ เหลือเกิน Y^Y [ว่าไงจ๊ะ?] ฉันกลั้นใจก่อนตอบ “ยังค่ะ” [แล้วหนูจะทำยังไงต่อ?] “ก็
” ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ชื่อตอนแบบว่าสิ้นคิดได้ใจอ่ะ 5555555 แต่ไซอัลแสบจริงๆ นะ -_- โตยังวะ ไม่มั่นใจ. เล่นโยนขนมเล่นแบบนั้น เสียดายของตายเลย และสุดท้ายก็ต้องมาลุ้นกันต่อเนอะว่าสุดท้ายหมวยลี่จะเป็นสาวอะไร -..- ตอนนี้มาช้าหน่อย ไม่ใช่อะไรหรอก...เพราเราต้องเรียนพิเศษแล้ว แต่วันนี้โดดมาเพื่อปั่นโดยเฉพาะ ฮ่าาา เชื่อมะ? เชื่อเถอะ รถมันติด T_T สุดท้ายนี้เกลียดรีดเดอร์ทุกคน เช่นเคย ก่อนจากกันอย่าลืมคอมเม้นต์นะ >_< [สุขสันต์วันโกหก ❤] แต่ที่บอกว่าเรียนพิเศษนั่นของจริงนะ Matesoul my |
ความคิดเห็น