Chapter 3 แม่ศรีเรือน
เอาไงดีล่ะ ฉันจะทำมันจริงๆ เหรอ
ความคิดที่จะปรึกษาสเป็คหนุ่มกับแฟนเพื่อใช้จีบผู้ชายอีกคนนั่นน่ะ -_-; ฉันกระแทกหลังกับพนักพิงโซฟา ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่มือถือ นิ้วชี้กำลังทาบเบาๆ ตรงปุ่มเตรียมเปิดเครื่อง ทว่าใจยังไม่กล้าพอที่จะกดลงไป และสุดท้ายฉันก็กด ¯~ เฮือก! กลั้นใจเปิดเครื่องไม่ทันไร ผีเจ้ากรรมนายเวรก็ตามคิดบัญชีแล้วเหรอ ‘Chin’ ตายล่ะ ฉันเพิ่งแช่งแฟนตัวเอง U_U ฉันสะบัดหน้าไล่ความคิดชั่วร้าย ก่อนจะกดรับสาย “ฮัล
” [ทำไมเพิ่งติดต่อได้เอาป่านนี้ฮะยัยหลี!!] กรี๊ด! ฉันสะดุ้งโหยงกับเสียงห้าว รีบเลื่อนมือถือออกห่างหูทันที ขณะที่เสียงแว้ดๆ ยังลอยออกมาไม่ขาดสาย ฮือ หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้นะชินจัง ลำโพงฉันแตกหมดแล้ว T^T [ฉันรู้จากป๊าม้าเธอละว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
นี่งานพี่เลี้ยงเด็กบ้าบอนั่นกักขังหน่วงเหนี่ยวพนักงานรึไง ถึงได้ไม่มีเวลาแม้จะโทรกลับน่ะฮะ ฉันพยายามโทรหาเธอตั้งหลายทีก็ติดต่อไม่ได้!] “
” [เป็นห่วงแทบตายอยู่แล้ว!] “ชิน
” คำต่อว่าเหล่านั้นทำฉันหงอยไปเลย ใจมันอดเจ็บแปลบไม่ได้พอรู้ว่าเขากำลังเป็นห่วง โอ๊ย รู้สึกผิดจัง แถมเมื่อกี้เขาจะต้องตะโกนอย่างสุดเสียงแน่ๆ ขนาดฉันถือมือถือโดยเหยียดแขนแบบนี้ ยังได้ยินชัดมากอ่ะ [เธอพล่ามงุงิหงุงหงิงทำไมฮะ พูดดังๆ หน่อยได้มั้ย!!] “กรี๊ด” ฉันเผลอกรีดร้องออกมา ซึ่งภาวนาว่าเจ้าของห้องจะไม่ได้ยินเพราะมัวแต่กล่อมหมาหลับ ก่อนที่ฉันจะค่อยๆ เลื่อนมือถือแนบหูเหมือนเดิม “นายใจเย็นๆ ก่อนนะ” [เย็นทำบ้าอะไรล่ะ!] โฮ TOT~ ตะโกนเอาโล่ตลอดค่ะพ่อคนนี้ ฉันกลอกตาขึ้นมองเพดานเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ประเด็นคือฉันตั้งใจจะถามเขาเรื่องสเป็คผู้หญิงน่ะ แต่ไหงทุกอย่างกลับตาลปัตรเป็นแบบนี้กันเล่า ฮือ อนาถค่ะ ยังไงท่านไฟนีออนหลอดนั้นช่วยส่งกำลังใจให้ลูกน้อยด้วยเถิดนะคะ ช่วยให้ลูกน้อยพ้นจากวิกฤตการณ์แฟนโหดนี้ไปได้ด้วยดีที ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ “ชินจัง คือเรื่องปิดมือถือน่ะฉันอธิบายได้” [อธิบายสิ!] “แต่นายจะต้องตอบมาก่อนว่านายชอบผู้หญิงนิสัยแบบไหน” เขาแค่นหัวเราะออกมาด้วยล่ะให้ตาย แสดงว่ามันจะต้องเป็นคำถามที่ดูโง่มากแน่ๆ T^T [ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง] เขาพูดอย่างรู้ทัน ทำให้มือชื้นเหงื่อของฉันกำโทรศัพท์แน่นขึ้น
ยังไม่เปลี่ยนเลย ตั้งแต่คบกันมาชินก็เป็นแบบนี้ ตราบใดที่เขายังไม่ได้รับคำตอบที่ตัวเองต้องการ เขาจะชอบถามบี้อยู่เรื่อย [ตอบมาซะดีๆ ทำงานแล้วจำเป็นต้องปิดเครื่องหนีด้วยหรือไงฮะ!!] ฉันสะดุ้งอีกครั้งเกือบทำโทรศัพท์หลุดมือ ฮือ เขาทำฉันตกใจกี่รอบต่อวันกันนะ [หรือเธอแอบซ่อนกิ๊กไว้?] ไปกันใหญ่แล้ว “แม่เด็กแค่ไม่อยากให้ฉันอู้ระหว่างทำงาน” ฉันโกหก ส่วนศีลห้านั้นขอวางบนหิ้งก่อน
งานนี้นรกไม่กลัวหรอกค่ะ กลัวมัจจุราชชินจังดับชีวันฉันมากกว่า “และถ้าแม่เด็กรู้ว่าฉันไม่สนใจลูกเขาอย่างที่ควร ฉันจะต้องถูกหักเงินเดือนแน่ อีกอย่างพักนี้นายเองก็ดูยุ่งๆ กับโปรเจคจบด้วยไม่ใช่เหรอชิน ฉันเลยไม่คิดน่ะว่านายจะว่างโทรมา จึงปิดเครื่องไปโดยไม่ได้ส่งเมสเซจบอกล่วงหน้าอ่ะ” [
] ร่ายซะยาวจนอีกฝ่ายเงียบกริบ ฮือ พูดบ้างสิ ฉันอึดอัดนะ “ไม่เชื่อฉันเหรอชิน T^T” [
] กริบอีก หรือปลายสายจะวางหูไป? ฉันลองเลื่อนโทรศัพท์มาดู ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อพบว่าสายไม่ได้หลุดสักหน่อย “นี่ ฮัลโหล” [คุยกับเธอแล้วหงุดหงิดว่ะ!] “หือ?” ติ๊ด! ฉันรีบส่องหน้าจอทันที และคราวนี้ชินวางหูไปแล้วจริงๆ! โอ๊ย ฉันอดไม่ได้ที่จะเอาหลังกระแทกกับโซฟา พลางใช้โทรศัพท์ทุบเบาะรัวๆ ให้หายเจ็บใจ ฮือๆ เขาทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง เขาวางหูใส่ฉันทั้งที่ยังไม่ได้ตอบคำถามฉันแบบนี้ได้ยังไง หมดกัน! สเป็คสาวส่วนใหญ่ที่ชายหนุ่มทุกวัยต่างฝันถึง T^T “เดี๋ยวมือถือพังหมดนะครับ” ฉันชะงักกึกกับเสียงทุ้ม ปล่อยโทรศัพท์ตามคำเตือนพร้อมกับเบือนสายตาขึ้นมอง ก่อนที่ฉันจะน้ำลายเฝื่อนคอกะทันหัน เมื่อเห็นคุณสามียืนพิงประตูหน้าห้องนอนหมา เขาเห็นฉัน? ได้ยินฉัน? แล้วถ้าเกิดเขารู้ว่าฉันมีแฟน มันจะทำให้ฉันทำงานยากขึ้นมั้ยนะ “นะ
นายออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” ฉันโพล่งถามออกไป โดยไม่สามารถควบคุมอาการเสียงสั่นได้เลย และพอถามจบ ไซอัลก็ผงะเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานจนตาหยีตามแบบฉบับของเขา ซึ่งฉันรู้สึกไม่ไว้ใจอย่างแรง “ได้ยินตอนฉันคุยกับเพื่อนรึเปล่า?” เขาเลิกคิ้ว เอียงคอ แล้วก็
ฉีกยิ้มเหมือนเดิม! ให้ตายสิ “ยิ้มแบบนี้มันแทนคำพูดแบบไหนเหรอคะ?” “^_^” ฮือ ช่วยด้วยค่ะ ฉันกำลังคุยกับคนเสียสติ แถมแทนที่คนเสียสติจะตอบ เขากลับหุบยิ้ม ดีดไหล่หนาออกจากประตู ก่อนจะสาวเท้าผ่านหน้าฉันเข้าห้องนอนไป
อ้าว
ทำไมผู้ชายในชีวิตฉันทุกคนถึงทำแบบนี้! เมินคำถามฉันตลอดเลยอ่ะ ใจร้าย T^T ว่าแต่
ตกลงมันจะเป็นอะไรมั้ยนะถ้าเขารู้เรื่องชิน ¯~ เสียงเพลงพร้อมแรงสั่นสะเทือนจากเบาะเรียกฉันหันขวับ มองหาต้นตออย่างรวดเร็ว จากนั้นฉันก็พบว่ามันกำลังนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น ฉันบ่นขมุบขมิบถึงความโง่เขลาของตัวเองที่ทำมันตกนิดหน่อย ก่อนจะหยิบมันขึ้น และพอรู้ว่าใครเป็นฝ่ายโทรมา ฉันก็กดรับสายทันที “สวัสดีค่ะ ท่านผู้บริหาร”
นอกจากฉันจะต้องปิดเรื่องมีสามีกับแฟนแล้ว ฉันยังต้องปิดเรื่องมีแฟนกับสามีด้วย อาจฟังดูตลกนะ แต่เมื่อคืนนั่นล่ะค่ะ ท่านผู้บริหารได้โทรเข้ามาพอดีเพื่อถามไถ่ความคืบหน้า พร้อมกับไขข้อข้องใจให้ฉันอีก ว่าลูกชายเขาไม่ชอบรักคนมีเจ้าของสักเท่าไหร่ โดนฉันเข้าเต็มๆ -_-; ดังนั้นเรื่องไม่โสดจะต้องไม่ถูกเปิดเผยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม อย่างน้อยๆ ฉันจะต้องลดการติดต่อกับชิน
ซึ่งยากมาก แต่เอาล่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า คือตอนนี้ฉันรู้แค่
หนึ่ง เขาไม่ชอบรักคนมีเจ้าของ สอง เขาเคยอกหัก สาม ไม่มีข้อนั้นค่ะ เพราะฉันหมดปัญญา T^T ความจริงข้อมูลสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับการจีบคุณสามี นั่นคือสเป็คสาวที่เขาชอบ ซึ่งถ้ารู้จะเท่ากับฉันมีชัยไปกว่าครึ่งเลย แต่สถานะปัจจุบันของคำตอบนั้นกลับ
บ๋อแบ๋แบะๆ ฉันจึงนอนคิดแทบทั้งคืน และผลของมันก็ไม่ได้สูญเปล่า ฉันคิดออกแล้วค่ะ ว่าเราจะเติมเต็มสเป็คเขาลงในช่องว่างเหล่านี้ยังไง ทดลองไงล่ะ ในเมื่อไม่รู้คาแรคเตอร์สาวที่เขาชอบสักอย่าง ฉันก็จะเปลี่ยนตัวเองเป็นสินค้าชนิดต่างๆ ไปซะ โดยวันนี้ฉันจะลองเป็นสาวเรียบร้อยคนหนึ่งดู
ดูไม่ใช่ฉันแม้แต่นิด
เป็นแม่ศรีเรือน อารมณ์แม่ของลูกนั่นน่ะไม่ใช่ฉันเลย -_-; แต่การทดลองจะต้องดำเนินต่อไป ฉันคว้าไม้กวาดกับที่โกยผงตรงไปยืนอยู่หน้าประตูห้องไซอัล ถ้าให้เดาเขาคงยังไม่ตื่น ทั้งๆ ที่ฉันอาบน้ำ ตลอดจนเตรียมอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว (เป็นภรรยาหรือคนใช้ อันนี้ไม่แน่ใจค่ะ) อ้อ ขอเล่าย้อนนิดหนึ่งดีกว่า
เชื่อมั้ยคะว่าห้องน้ำในห้องนอนนั่นเกือบไม่ใช่ห้องอาบน้ำสำหรับคน โอ๊ย ตอนเช้าแทบกรี๊ดค่ะ เพราะฉันเจอแต่ยาฆ่าเห็บ หรือไม่ก็แชมพูหมาเรียงรายเต็มไปหมด ดีที่ฉันรอบคอบพกของใช้ส่วนตัวมาด้วย ไม่งั้นฉันได้กรี๊ดใส่หมาจริงๆ แน่ ฉันกลอกตาสักพักก่อนจะเคาะประตู แล้วหนึ่งนาทีก็ผ่านไปอย่างเงียบงัน คุณสามียังไม่ตื่นสินะ เฮ้อ
ฉันตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป และเตียงขนาดสามคนนอนได้สบายก็ปรากฏให้เห็นเป็นสิ่งแรก อดแปลกใจไม่ได้นิดหน่อย คือห้องนี้มันเล็กกว่าที่จินตนาการไว้อีกค่ะ เล็กแบบอีกสามก้าวฉันก็จะเดินถึงตัวคนใต้ผ้าห่มแล้วนะเนี่ย เขานอนคว่ำอยู่ทำให้เห็นผมน้ำตาลไหม้ ส่วนหน้าตะแคงออกมา ขณะที่มือทั้งสองนั้นกำลังกอดหมอนแน่น ท่านอนอย่างกับเด็กอนุบาล =O= “นี่นาย” ฉันเรียกพลางใช้ไม้กวาดเขี่ยบริเวณผ้าห่มเพื่อปลุก รู้สึกนูนๆ ด้วยล่ะ สงสัยจะเป็นขามั้ง “ตื่นได้แล้วค่ะ ฉันจะได้พับผ้าห่ม” เอ๊ะ จะว่าไปแม่ศรีเรือนที่ดีต้องพับผ้าห่มรึเปล่า? หรือนั่นเป็นหน้าที่ของแม่บ้าน T^T “อืม
” ไซอัลครางเบาๆ ขัดความคิด แต่ไม่ยอมลุกขึ้น ไม่ได้การ
ขืนชักช้าแบบนี้โจ๊กฉันต้องเย็นชืดหมดแน่เลย ว่าแล้วฉันก็ชักไม้กวาดกลับมายืนนิ่ง สมองกำลังคิดหาวิธีปลุกคนขี้เซา ผู้หญิงเรียบร้อยจะปลุกผู้ชายแบบไหนนะ? “กินข้าวค่ะ” ฮือ ฉันพูดแบบนั้นออกไปเพราะคิดไม่ออกแล้วจริงๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะพลิกตัวกลับมานอนหงาย หลับตาพริ้ม “ให้ที่รักกินไปก่อน”
อีกละ ชอบสะดุ้งทั้งๆ ที่เข้าใจความหมายผิดอยู่เรื่อย ต้องย้ำตัวเองสักกี่ร้อยครั้งว่าที่รัก เท่ากับ หมา T^T ฉันถอนหายใจพลางปล่อยมือออกจากที่โกยผง ก่อนจะหันหลังเพื่อวางไม้กวาดพิงกับผนัง จากนั้นก็หมุนตัวกลับมาจ้องคนบนเตียง “ไม่มีหมาบ้านไหนเขากินโจ๊กหรอกนะ” “บ้านฉันนี่ล่ะ” ต่อปากต่อคำได้เป็นวรรคเป็นเวรขนาดนี้
“นายตื่นแล้วใช่มั้ย?” “ใช่” ไซอัลลืมตาพร้อมกับฉีกยิ้มหวาน ฉันยิ้มกลับ “งั้นลุกค่ะ” “ไม่เอา” คราวนี้เขานอนคว่ำหันหัวน้ำตาลเข้มให้เฉยเลย โอ๊ย! TOT ฉันมองค้อนใส่คนใต้ผ้าห่มตั้งนานสองนาน ทว่าไซอัลกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรนอกจากเสียงกรนเบาๆ แน่นอนว่าเขาแกล้งทำ และทั้งๆ ที่รู้อย่างนั้น ฉันก็ยังคิดวิธีจัดการเขาไม่ออกอยู่ดี ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไปเตรียมชุดสำหรับวันนี้ให้เขาก่อน ตามด้วยหยิบผ้าขนหนูออกมาจากตู้ แล้ววางทั้งหมดลงบนเตียง ส่วนคนบนเตียง
“(-_-)zZ” หลับปุ๋ย ให้ตายเถอะ
งั้นถ้ามันไม่มีตัวเลือกอื่น ฉันคงต้องใช้วิธีนี้ ฟึ่บ! “เฮ้ย!” ไซอัลอุทานดังลั่นพร้อมกับตาลีตาเหลือกลุกขึ้นนั่งกอดเข่า เมื่อฉันเพิ่งดึงผ้าห่มออกไปจากร่างเขาแหมบๆ ก่อนที่ฉันจะยิ้มมุมปากให้เสื้อยืดตัวบาง และกางเกงบ็อกเซอร์สีส้มตรงหน้า มือก็พลางพับผ้านวมหนาเป็นทบๆ “นี่เกิดฉันแก้ผ้าอยู่จะว่ายังไงฮะ” “กรี๊ดมั้งคะ” “เธอตอบได้หน้าตายมาก” “ค่ะ” “=_=” ทำไมต้องทำหน้าเอือมแบบนั้นด้วยเล่า ในเมื่อฉันแค่ทำตัวเป็นผู้หญิงเรียบร้อยเท่านั้นเอง หรือว่าฉันยังเรียบร้อยไม่พอ หรือเป็นเพราะ
อ่อ
ฉันเพิ่งกวนเขาไปสินะ ขอโทษ T^T ฉันหลบตาอีกฝ่ายพลางวางผ้าห่มตรงปลายเตียง เป็นอันว่าสภาพเตียงตอนนี้สวยงามในระดับหนึ่ง หวังว่าคงชดเชยการกวนประสาทเขาเมื่อกี้ได้นะ ฮือ ฉันเดินอ้อมเตียงไปยืนข้างเขาเพื่อจะทำหน้าที่แม่ศรีเรือนที่ดีต่อ ซึ่งนั่นก็คือการจัดหมอนกับดึงผ้าปูที่นอนนั่นเอง แต่ฉันคงทำไม่ได้อย่างที่พูดแน่ๆ ถ้าคุณสามียังนั่งแช่ก้นอยู่แบบนี้ แถมนั่งทับหมอนด้วย ตายล่ะ ขอโทษในใจอีกครั้งนะ ฉันช้อนตามองไหล่ไซอัล ก่อนจะใช้มือทั้งสองจับหมอนและ
ฟึ่บ! “เฮ้ยๆๆๆ!” แค่กระชากมันออกนิดๆ หน่อยๆ ร้องโวยวายอย่างกับเจ็บริดสีดวง แถมเขายังหันขวับมาถลึงตาใส่อีก ส่วนฉันทำเป็นไม่สนใจใบหน้าเหมือนยักษ์นั่น มือพลางถอดปลอกหมอนออก ก่อนจะโยนใส่ตะกร้า แล้วหันหลังกลับมาก้มหน้า ดึงผ้าปูที่นอนให้ตึง
ยากนิดหน่อยค่ะ เพราะคนตัวโตกว่ามัวแต่นั่งกอดเข่าอยู่ ไม่ยอมลุกไปไหนสักที ถ้าไม่ติดว่าหล่อนี่ ฉันคงเดินไปคว้าไม้กวาดมาฟาดเขาไปแล้ว พอเห็นบรรยากาศชักเงียบจนเริ่มแปลก ฉันเลยเงยหน้าขึ้น ก่อนจะพบว่าคุณสามีกำลังโปรยยิ้มหวาน
เพิ่งสังเกตเอาชัดๆ ก็ป่านนี้
ว่าเขาไม่ใช่คน เพราะถ้าเป็นคน สภาพตอนตื่นนอนคงไม่ดูดีขนาดนี้หรอกค่ะ โอ๊ย อิจฉา T^T ว่าแต่จู่ๆ เขาจะยิ้มทำไมนะ แอบคิดแผนการชั่วร้ายอยู่รึเปล่า และมันก็จริง “อยากจัดมากนักก็เอาเลย!” ไซอัลยักคิ้ว ก่อนจะเตะหมอนข้าง โยนหมอนทั้งขนาดเล็กและใหญ่ไปคนละทิศคนละทาง แล้วคงยังไม่สะใจพอเพราะเขากำลังคลานสี่ขาไปปลายเตียง ต่อด้วยการคลี่ผ้านวมผืนใหญ่ออก และขยำมันจนยับยู่ยี่ไม่เหลือเค้าเดิม ตรงหน้าฉันคือเด็กอนุบาลงั้นเหรอ =O= “นาย
” เขาเอียงคอ “ทนไม่ไหวก็ล้มเลิกงานแม่ฉันตอนนี้ได้เลยนะ” “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ฉันทนได้” พอฉันตอบตามฟอร์มแม่พระมาโปรดจบ คุณสามีก็ทำปากขมุบขมิบล้อเลียนทันที ก่อนที่เขาจะเมินฉันด้วยการยืนขึ้นบนเตียง และกระโดดเพื่อทำลายผ้าปูที่นอน กรี๊ด หมดกัน ย่นหมดแล้ว ฉันอุตส่าห์ดึงตั้งนานนะ กว่ามันจะเรียบตึงขนาดนี้ “โกรธสิ” ฉันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วเดินไปหยิบบรรดาหมอน ผ้าห่มบริเวณพื้นมาวางบนเตียงดีๆ ดังเดิม ทว่าไม่นานไซอัลก็หยุดกระโดด ก่อนจะย่ำเท้ามาหยิบและโยนมันลงไปใหม่ ฉันมองเขาอย่างทึ่งๆ ส่วนเขากำลังยิ้มมุมปาก “โกรธได้นะ ฉันไม่ถือ” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเป็นคนใจเย็น” ตุ้บ! ให้ตาย หน้าผากฉันเอนไปด้านหลังเข้าให้เมื่อโดนหมอนกระแทกหัว ตามด้วยได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของเขา ฉันกลอกตาสักพัก แล้วเดินไปเก็บมันมาวางบนเตียงอีกรอบ อ้อ ต้องอย่าลืมเก็บหมอนข้างกับผ้าห่มด้วย
จะว่าไป
ใช้เวลาแค่แป๊บเดียวห้องก็เละตุ้มเป๊ะ
สงสัยชาติก่อนเขาคงเกิดเป็นลิงเป็นแน่แท้ ช่างเถอะ ฉันต้องใจเย็นค่ะ การเป็นผู้หญิงเรียบร้อยต้องใจเย็น TT_TT ฉันกำลังจะเดินไปหยิบไม้กวาด “ถามจริง” ทันใดนั้นเสียงทุ้มจากด้านหลังก็ทำให้ขาฉันหยุดชะงัก “ตั้งใจทำงานขนาดนี้เป็นเพราะกลัวทำมันไม่สำเร็จแล้วต้องคืนเงิน หรือคิดจะทำให้ฉันรักเธอเข้าจริงๆ เพื่อหวังฮุบสมบัติครอบครัวฉันกันแน่ฮะ?” ฮุบสมบัติ! โอ๊ย คิดได้ไง ฉันเกือบหลุดขำก๊าก “เปล่าค่ะ” “งั้นเธอจะบอกว่าที่ลงทุนกวาด เช็ด ถูแบบนี้ ทำด้วยใจรักงั้นสิ” “ค่ะ” รักเงินน่ะนะ ตั้งหกแสนแน่ะ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ก่อกวนฉันอีก ซึ่งมันดี ดีมากๆ เลยล่ะ ฉันลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะสาวเท้าเพื่อไปหยิบไม้กวาดต่อ พอคว้ามันได้และพลันกลับหลังหัน ฉับก็สะดุ้งสุดตัวเกือบโยนไม้กวาดทิ้ง เมื่อเห็นไซอัลกำลังยืนล้วงกระเป๋าขวางทางอยู่ตรงหน้า ฉันขมวดคิ้ว “มีอะไรหรือเปล่า?” “เอ๊ะ ตอนนั้นเธอบอกว่าไงนะ” หา =O= “ฉันพูดอะไรคะ?” “สามีที่ดีจะต้องมีทัศนคติที่ดีต่อการใช้เงิน รู้จักเก็บออมและรู้จักใช้เมื่อต้องใช้ใช่มั้ย” “ใช่
” “งั้นดีเลย!” ฉันอ้าปากอย่างเหวอๆ ส่วนคนตรงหน้าคลี่ยิ้มหวาน “ฉันจะได้ไปยกเลิกแม่บ้านที่จะเข้ามาทำความสะอาดรายสัปดาห์ เพื่อตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ในเมื่อเรามีแม่บ้านประจำห้องแล้วนี่เนอะ” “คะ?” ใครเป็นแม่บ้านประจำห้องกัน! คงไม่ใช่
T_T “แต่ยังไงเราก็ต้องถามความสมัครใจของเจ้าตัวก่อน” ไซอัลว่าพลางดึงมือออกจากกระเป๋าบ็อกเซอร์ แล้วสาวเท้าเข้ามาใกล้ ฉันลุกลี้ลุกลนถอยหลัง ก่อนจะชาไปทั้งร่างเพราะแผ่นหลังเพิ่งชนกับผนังแข็งๆ เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวแตะปลายคางฉันให้เชิดขึ้น “ว่าไง ตกลงมั้ย?” ฉันกลืนน้ำลายอึก พยายามเบือนหน้าหนีดวงตาดำสนิท “นายจะให้ฉันเป็นแม่บ้านงั้นเหรอ” “ใช่ครับ ตกลงมั้ยล่ะ?” ฉันใจหล่นวูบทันที รีบส่ายหน้าพัลวัน “มะ
”
! เฮ้ย!! จู่ๆ มือหนาก็เลื่อนขึ้นจากคางมาปิดปากฉันซะงั้นล่ะ! “อ้าว เงียบเลย” เขาเลิกคิ้ว ทว่าริมฝีปากกลับขยับเป็นรอยยิ้มบาง “ชอบทำนักไม่ใช่เหรอ งานบ้านเนี่ย” “ไอ้อ่ายอ๊อบบบ! TOT” ฮือ ฉันอยากตอบใจจะขาดว่าไม่ได้ชอบสักหน่อย ที่ตรากตรำลำบากทำอยู่เนี่ย เป็นเพราะฉันกำลังทดลองสเป็คสาวเขาอยู่ต่างหากเล่า กรี๊ดดด! ปล่อยมือออกจากปากฉันสักทีสิ “ไม่ปฏิเสธ” “
” “งั้นเอาเป็นว่าตกลง J” “OxO!” พูดไม่ด้ายยย! “สู้ๆ นะครับคุณภรรยา” มะ
ไม่นะ! TTOTT
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ตอนนี้มาอย่างล่าช้า อิอิ วันนี้จะได้ดูพ่อเลี้ยงต่อแล้ว!! TOT โอเค กลับมาเม้านิยายกันก่อน ชินอย่างดุอ่ะ ฟิลแบบถ้าไม่ได้ตะโกนสักประโยคจะขาดใจตาย -_-; ส่วนพ่อพระเอกไซอัลของเรา ก็ชอบแกล้งนางเอกจริงๆ ล่าสุด...ถึงกับได้แม่บ้านประจำห้องกันเลยทีเดียว! เอาล่ะ ไม่มีอะไรจะเม้าละนอกจากจะบอกว่า ตอนหน้าหมวยลี่จะแปลงร่าง (?) เป็นสาวประเภทไหนกันน้า~ เอาใจช่วยนางกันต่อไป และไรท์เตอร์จะได้ขอตัวไปนั่งจ้องทีวีรอละครต่อ 5555555.
1 เม้น = 1 กำลังใจ รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ จุ้บจ๊าบ (??)
Matesoul my |
ความคิดเห็น