ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร คุณจะไม่ควรมองข้ามที่แน่นอนครับ - ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร คุณจะไม่ควรมองข้ามที่แน่นอนครับ นิยาย ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร คุณจะไม่ควรมองข้ามที่แน่นอนครับ : Dek-D.com - Writer

    ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร คุณจะไม่ควรมองข้ามที่แน่นอนครับ

    อ่าน่ะเราพูดเรื่องมาใหม่คือ ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร จะเอามาให้ดูกันว่าเรื่องนี้มาจากไหนบ้างคงต้องเข้าใจเรื่องนี้ให้ได้ก่อนว่าจะทำอย่างไรของการใช้ยาสมุนไพรที่ถูกต้องบ้าง

    ผู้เข้าชมรวม

    2,177

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    15

    ผู้เข้าชมรวม


    2.17K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  31 มี.ค. 53 / 13:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร โดย แพทย์หญิงนันทพร นิลวิเศษ และคนอื่นๆ
                ๑. ไม่ควรใช้ยาสมุนไพรนานเกินความจำเป็น ถ้าใช้ยาสมุนไพรแล้ว ๓-๕ วันอาการยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้อาจเนื่องจากใช้ยาไม่ถูกกับโรค
                ๒. เมื่อใช้ยาสมุนไพรควรสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น  ถ้ามีอาการผิดปรกติควรรีบปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบัน
                ๓. ควรใช้ยาตามหลักการรักษาของแพทย์แผนโบราณอย่างเคร่งครัด  เพราะการดัดแปลงเพื่อความสะดวกของผู้ใช้อาจทำให้เกิดอันตรายได้
                ๔. อย่าใช้ยาเข้มข้นเกินไป เช่น ยาที่บอกว่าให้ต้มกิน  อย่านำไปเคี่ยวจนแห้งเพราะจะทำให้ยาเข้มข้นเกินไปจนทำให้เกิดพิษได้
                ๕. ขนาดที่ระบุไว้ในตำรับยามักเป็นขนาดของผู้ใหญ่ ในเด็กจะต้องลดขนาดลง
                ๖. ควรระวังความสะอาดของสมุนไพรสมุนไพรที่ซื้อมาจากร้านบางครั้งอาจเก่ามากถ้าสังเกตเห็นราหรือแมลงชอนไช ไม่ควรใช้ ทั้งนี้เนื่องจากสารสำคัญอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ทำให้ใช้ไม่ได้ผล และยังอาจได้รับพิษจากแมลงหรือเชื้อรานั้นอีกด้วย

                การนำสมุนไพรมาผลิตเป็นยามีวิวัฒนาการจากการใช้ในครัวเรือน มาเป็นการผลิตขั้นอุต-สาหกรรมเพื่อสนองความต้องการของตลาด ในช่วงแรกของวิวัฒนาการเป็นการนำสมุนไพรมาทำเป็นยาสำเร็จรูป  โดยไม่ได้มีการแปรรูปหรือมีการแปรรูปแต่เพียงเล็กน้อย ได้แก่ การผลิตยาแผนโบราณต่างๆ เช่น ยาหอม ยาดองเหล้า ยาขม เป็นต้น ซึ่งผู้ผลิตได้ผลิตขึ้นโดยอาศัยตำรายาของครอบครัว บางรายผลิตเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน  บางรายก็ผลิตเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่  แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้กฎหมายยาแผนโบราณมีการควบคุมรูปแบบวิธีการผลิตและการใช้สารกันบูด ทำให้ยาแผนโบราณบรรจุเสร็จไม่สามารถพัฒนารูปแบบให้น่าใช้เหมือนยาแผนปัจจุบัน  ความนิยมจึงลดลงโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ  นอกจากนี้แล้ววัตถุดิบบางชนิดก็หาได้ยากขึ้นเนื่องจากป่าถูกทำลายและขาดการเพาะปลูกเพิ่มเติม  วัตถุดิบบางอย่างก็มีราคาแพงขึ้นมาก  ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถผลิตโดยใส่ตัวยาให้ครบตามตำรับเดิมได้ คุณภาพของยาจึงลดลง เป็นผลให้ความนิยมลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตามยาแผนโบราณบางตำรับก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน เช่น ยาหอม ยาขม  ยาเหล่านี้ได้มีการพัฒนารูปแบบโดยทำเป็นยาเม็ดบ้าง เป็นสารสกัดบ้าง จึงยังคงรักษาความนิยมอยู่ได้ ขณะนี้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญ และได้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อยกมาตรฐานการผลิต ตลอดจนแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค
                ยาแผนโบราณบางขนานที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเป็นยาสามัญประจำบ้าน  ได้แก่ ยามหานิลแท่งทอง ยาเทพมงคล ยาเขียวหอม ยาประสะกะเพรา ยาเหลืองปิดสมุทร ยาอัมฤควาที ยาประสะมะแว้ง ยาตรีหอม ยาจันทลีลา ยาประสะจันทน์แดง ยาหอมอินทจักร์ ยาหอมนวโกฐ ยาวิสัมพญาใหญ่ ยาประสะไพล ยาธาตุบรรจบและยาประสะกานพลู
                สมุนไพรนอกจากจะมีบทบาทในอุตสาหกรรมยาแผนโบราณแล้ว ยังมีบทบาทในอุตสาหกรรมยาแผนปัจจุบันอีกด้วย เดิมทียาต่างๆ  ล้วนได้มาจากธรรมชาติทั้งสิ้น โดยอาจได้มาจาก พืชสัตว์ หรือแร่ธาตุก็ได้ ในเวลาต่อมายาเหล่านี้จึงถูกแทนที่ด้วยยาสังเคราะห์ อย่างไรก็ตาม ยังมีสมุนไพรบางชนิดที่ยังคงใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตยาแผนปัจจุบันอยู่ เช่น ซิงโคนาใช้ผลิตควินินซึ่งใช้เป็นยารักษามาลาเรีย แพงพวยฝรั่งใช้ผลิตวิงคริสทีน (vincristine)  และวินบลาสทีน (vinblastine) ซึ่งใช้รักษามะเร็งของเม็ดโลหิตเป็นต้น สมุนไพรบางชนิดแม้จะไม่ใช้ผลิตยาโดยตรง แต่ก็เป็นวัตถุดิบในการผลิตสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ยา เช่น น้ำมันพืช เป็นวัตถุดิบในการผลิตบีตาซิโตสเตียรอล  ซึ่งใช้สังเคราะห์ฮอร์โมนและยาต้านการอักเสบ เป็นต้น สารจากสมุนไพรบางชนิดก็เป็นต้นแบบในการสังเคราะห์ยาใหม่ๆ เช่น โคเคนจากใบโคคาเป็นต้นแบบในการสังเคราะห์ ยาชาเฉพาะที่ต่างๆ  เป็นต้น ความสำคัญของสมุนไพรตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้มักจะถูกคนทั่วไปลืม เนื่องจากสารที่สกัดได้มีรูปแบบเช่นเดียวกับยาสังเคราะห์ จึงมักทำให้เข้าใจว่ากันว่าเป็นยาสังเคราะห์ทั้งสิ้น
                เนื่องจากสมุนไพรยังมีบทบาทในอตุสาหกรรมยาดังกล่าว  จึงยังมีการซื้อขายสมุนไพรกันในตลาดโลกประเทศไทยมีการส่งออกสมุนไพรหลายชนิด แต่เป็นการส่งออกสมุนไพรที่เก็บจากธรรมชาติซึ่งมีจำนวนจำกัด จึงทำให้ไม่สามารถขยายตลาดได้  รัฐบาลจึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกพืชสมุนไพรขึ้น แต่การจะเพาะปลูกพืชสมุนไพรให้มีคุณภาพนั้น จำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่เหมาะสมดังนั้นในช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๖ จึงได้กำหนดให้มีการศึกษา
                วิจัยเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสม ในการเพาะปลูกพืชสมุนไพร ๑๒ ชนิด คือ เร่ว กระวาน กานพลู ดีปลี พริกไทย พลู มะขามแขก จันทน์เทศ ชะเอมเทศ เทียนเกล็ดหอย ดองดึง และขมิ้น รวมทั้งมีการศึกษาหาลู่ทางในการขยายตลาดของพืชสมุนไพรเหล่านี้ออกไป โดยคาดหวังว่าจะสามารถส่งพืชสมุนไพรออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น
                จากที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าสมุนไพรเป็นทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของชาติ ที่ปู่ย่าตายายของเราได้ใช้รักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมานานหลายชั่วคน จนนับได้ว่าสมุนไพรและการรักษาโรคแบบพื้นบ้านของเรานั้นเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนไทย  ซึ่งสมควรที่จะอนุรักษ์ไว้และสร้างค่านิยมให้เกิดขึ้นกับอนุชนรุ่นหลังต่อไป แต่การสร้างค่านิยมให้กับประชาชนและเยาวชนจะสำเร็จได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการศึกษาและพัฒนาสมุนไพรให้มีมาตรฐานเป็นที่เชื่อถือ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคอย่างแท้จริง  มีรูปแบบสำหรับการใช้ที่เป็นที่ยอมรับ ปลอดภัยและราคาถูก  จึงจะสามารถโน้มน้าวให้ประชาชนยอมรับยาสมุนไพร และสามารถทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบันบางชนิดที่ต้องนำเข้ามาจากต่าง-ประเทศได้ ขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดเป็นนโยบายของชาติให้มีการเร่งรัดการพัฒนาสมุนไพรให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และส่งเสริมให้มีการใช้เป็นยาอย่างแพร่หลายทั้งในสถานบริการและรัฐและในงานสาธารณสุขมูลฐาน อุตสาหกรรมยาแผนโบราณ  ตลอดจนอุตสาหกรรมยาแผนปัจจุบันรวมทั้งส่งเสริมให้มีการส่งออกสมุนไพรหลายชนิด  ซึ่งผลการสำรวจพบว่าสมุนไพรบางชนิดสูญพันธ์ หรือขาดแคลนไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถหาสมุนไพรที่มีคุณภาพได้เพียงพอ    และสมุนไพรที่หาได้ก็ยังมีราคาแพงอีกด้วย การอนุรักษ์สมุนไพร การปลูกและการกระจายพันธุ์สมุนไพรจึงจำเป็นจะต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×