สงครามอำมหิตยาธิปไตย ปะทะ ประชาธิปไตยเสื้อแดง ตอนที่ 04
เรื่องนี้ยังไม่จบมีตอนต่อไปอีกนานกว่าแสนนานอย่าไปสนใจเถอะครับจบเรื่องแค่รำคาญเท่านั้นเองจบเรื่องต่อไปมีอีกแน่นอนครับไม่ต้องห่วงแล้วน่ะครับอย่างนั้นไม่มีปัญหาแน่นอนครับ แต่แน่นอนเหมือนกันหมดเท่านี้ครับ
ผู้เข้าชมรวม
1,691
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตอนที่ 4 : ทำเนียบรัฐบาล/นางเลิ้ง
วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2552 : วันอำมหิตยาธิปไตย**
ภายในเที่ยงวันที่ 13 เมษายน ที่บริเวณพื้นที่รอบนอกของเวทีศูนย์กลางการชุมนุมมีผู้พบเห็นชายสองคนแต่งกายคล้ายคนเสื้อแดงกำลังพยายามกระตุ้นเร้าอารมณ์โกรธให้คนเสื้อแดงออกไปต่อสู้กับเจ้าหน้าที่แต่มวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันขัดขวางและควบคุมตัวส่งสถานีตำรวจนางเลิ้ง รายงานเพิ่มเติมแจ้งว่าตำรวจตรวจพบบัตรประจำตัวข้าราชการทหารในตัวบุคคลที่พยายามสร้างสถานการณ์ดังกล่าวซึ่งบุคคลที่ถูกควบคุมตัวอ้างว่ายังไม่ต้องรีบดำเนินคดีกับตนเพราะ “นาย” กำลังจะมา “เคลียร์” ให
ภายในวันเดียวกัน มีผู้ก่อเหตุการณ์รุนแรงที่บริเวณตลาดนางเลิ้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองราย รายงานข่าวโทรทัศน์ ช่อง 3 เปิดเผยในเวลาต่อมาว่าผู้ถูกยิงเสียชีวิตรายหนึ่งเป็นประชาชนที่มารอมุงดูเหตุการณ์ที่ตลาดนางเลิ้งในช่วงเวลาตึงเครียดหลังการสลายมวลชนสามเหลี่ยมดินแดง โดยมีญาติผู้เสียชีวิตเห็นเหตุการณ์และยืนยันว่าผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายเป็นชายสวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำนั่งมอเตอร์ไซค์เข้ามาจ่อยิงขณะเกิดเหตุชุลมุน (สถานที่เกิดเหตุอยู่ไกลเลยแนวแผงเหล็กกั้นที่สะพานขาวออกไปทางหลานหลวง) ก่อนหลบหนีไป
ภายในเวลา 14.30 น. วันที่ 13 เมษายน 2552 กรุงเทพฯตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงที่ใครก็ยากจะคาดการณ์ล่วงหน้าว่าการนองเลือดที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงจะขยายตัวบานปลายต่อไปเพียงใดหรือจะจบลงด้วยการจลาจลเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือลุกลามไปในต่างจังหวัด หรือไม่ เพียงใด หรือจะคลี่คลายต่อไปอย่างไรในเวลาวินาทีต่อวินาที
ถนนหน้าสำนักงานมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 จากหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ถึงสะพานขาวโล่งว่างไม่มีมวลชนเสื้อแดงหรือการ์ด นปช. เฝ้าระวังแล้วหลังจากข่าวลือแพร่สะพัดว่ามีกลุ่มสมาชิกพันธมิตรฯปะปนอยู่กับไทยมุงที่อีกฟากหนึ่งของสะพานขาวคอยก่อกวนทำร้ายใครก็ตามที่สวมเสื้อสีแดงเดินผ่าน
เลขานุการมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 แจ้งให้ทุกคนที่ทำงานในมูลนิธิออกจากอาคารเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายก่อนหน้าเวลา 14.30 แล้ว ภายในมูลนิธิเหลือเพียงพนักงานดูแล 2 คน เฝ้าระวังทรัพย์สินของมูลนิธิ
ผู้เขียนเดินจากที่ชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลไปยังอาคารมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อตรวจสอบข้อมูลว่าสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ยังคงปรึกษาประชุมกันอยู่หรือไม่และได้รับแจ้งจากผู้เฝ้าระวังอาคารมูลนิธิว่าทุกคนได้รับแจ้งให้ออกจากอาคารหมดแล้ว
ผู้วิเคราะห์เดินเท้ากลับไปที่เวทีชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลหลังจากช่วงเวลาที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเผยแพร่การให้สัมภาษณ์ของประธานวุฒิสภาถึงความกังวลต่อสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลาย ผู้วิเคราะห์เดินเท้าไปถึงเวทีทำเนียบรัฐบาลขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสงกำลังปราศรัยเรียกร้องรัฐบาลให้พิจารณาดำเนินมาตรการต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นนาย สุธรรม แสงประทุมขึ้นเวทีปราศรัยต่อ
เวลา 15.25 ผู้วิเคราะห์ได้พบและสอบถามข้อมูลสถานการณ์ทั่วไปจากนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. คนหนึ่ง ระหว่างนั้นนายณัฐวุฒิขัดจังหวะการปราศรัยด้วยการประกาศด่วนผ่านเครื่องขยายเสียงเรียกการ์ด นปช. ทุกคนให้ถอนตัวจากทุกจุดเข้ามารวมตัวป้องกันรักษาพื้นที่เวทีชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อการสร้างสถานการณ์รุนแรงของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่รวมตัวกันอยู่รายรอบพื้นที่ชุมนุมที่เวทีหน้าทำเนียบรัฐบาล
เวลา 17.30 น. กองกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือเคลื่อนพลเข้าปิดล้อมประชิดบริเวณที่ชุมนุมในระยะห่างด้านหนึ่ง (ด้านถนนเลียบคลองข้างวัดเบญจมบพิตรฯ) ไม่เกิน 100 เมตรเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงกลางวัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ผู้วิเคราะห์มองเห็นกลุ่มควันเผาไหม้ลอยคลุ้งขึ้นสูงบนท้องฟ้าอย่างน้อย 2 ด้านจากเวทีปราศรัย แต่เป็นร่องรอยการเผาไหม้ที่อยูในระยะไกลออกไปจากปริมณฑลการชุมนุมขณะนั้น
เวลา 17.50 น. มีผู้มาแจ้งกับผู้วิเคราะห์ว่าเห็นทหารใช้อาวุธปืนยิงเป็นระยะ ๆ ที่บริเวณใกล้เคียงกระทรวงศึกษาธิการที่ถนนราชดำเนินและเห็นอาคารที่มี “ตัววิ่ง” ถูกไฟเผาไหม้บางส่วน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นมีสตรีสวมเสื้อแดงอายุประมาณ 30 ปีเศษเดินเข้ามาหาผู้วิเคราะห์ อ้างว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนเสื้อแดงที่พยายามแย่งศพแท็กซี่จากทหารที่สามเหลี่ยมดินแดงแต่ได้มาแค่กางเกงเปื้อนเลือด ทั้งยังกล่าวต่อไปว่าอยากให้ ”อาจารย์” ช่วยไปบอกแกนนำนปช.ว่าทหารโหดมาก อยากให้ส่งการ์ดนปช.ไปสู้กับพันธมิตรฯ ที่ยมราช ผู้วิเคราะห์รับฟังไว้ แต่ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนสตรีคนดังกล่าว ไม่ปรากฏว่าพกบัตรประชาชนแต่พกใบอนุญาตขับขี่จักรยานยนต์ชั่วคราว ฉบับที่ 3 1009XXXXXXXX วันที่อนุญาต 2 พฤษภาคม 2551
เวลา 13 เมษายน 2552 เวลา 19.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เนื้อหาคำแถลงที่สำคัญเป็นการกล่าวหาแกนนำ นปช. อย่างน้อย 2 เรื่อง คือ การยิงอาวุธสงครามใส่อาคารศาลรัฐธรรมนูญ และ (สันนิษฐานเชิงกล่าวหาล่วงหน้า) ว่าคืนนั้น นปช. อาจก่อจลาจล นอกเหนือไปจากข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้ว นายสุเทพอธิบายต่อประชาชนว่าการดำเนินมาตรการของทหารและรัฐบาลจนถึงขณะนั้นยังไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
การเผชิญหน้าอย่างตึงเครียดระหว่าง นปช. กับกองกำลังทหารฝ่ายรัฐบาลดำเนินต่อไปตลอดคืนวันที่ 13 ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 14 เมษายนแต่ยังไม่มีการจู่โจม
000
ผลงานอื่นๆ ของ Hyper Blossom ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Hyper Blossom
ความคิดเห็น