Wolf company - นิยาย Wolf company : Dek-D.com - Writer
×

    Wolf company

    หน่วยทหารที่พยายามกำจัดลัทธิที่มีผู้นำบ้าสงครามและอยากขึ้นมาเป็นใหญ่ พวกเขาจะต้องเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากแค่ไหน แล้วพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ รอติดตามได้เลย!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    106

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    106

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.ย. 66 / 17:48 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

     Wolf company  

    ในปี ค.ศ. 2004 ณ สนามบินเชียงใหม่ ประเทศไทย 

    มีกลุ่มคน 4 คนแต่งชุดตำรวจเดินขึ้นบันได เพื่อเข้าไปตรวจภายในเครื่องบิน ซึ่งเป็นเครื่องบินลำใหญ่มีทั้งหมด 4 ห้อง โดย 2 คนเข้าไปตรวจหนังสือเดินทางของผู้โดยสาร และอีก 1 คนเดินฉีกออกไปยังห้องนักบิน ส่วนคนสุดท้ายยืนประกบอยู่ที่หน้าประตูเครื่องบิน

     

    จนกระทั่งมีพนักงานสายการบินสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ จากตำรวจที่ติดอาวุธหนักขึ้นมาบนเครื่องบิน 

     

    เพราะโดยปกติตำรวจจะไม่พกอาวุธหนักขึ้นมาเพื่อตรวจบนเครื่องบิน จนกระทั่งหอควบคุมได้สังเกตเห็นจึงเกิดความสงสัยว่า ทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงไม่ขึ้นไปสักที และมีความล่าช้าผิดปกติโดยไม่แจ้งให้ทราบก่อน 


     

    ทันใดนั้น ตำรวจที่อยู่บนเครื่องบินก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงทั้ง 4 คน 

    คนแรกมีชื่อว่า วินสุ และ คนที่สองมีชื่อว่า มังกร ทั้งสองคือทหารรับจ้างมือดีที่รับใช้พวกนายจ้างใต้ดิน เพื่อทำภารกิจสกปรกและป่าเถื่อน ส่วนอีกสองคนลูกน้องที่ตามติดมาด้วย

    แล้ว วินสุ ก็ได้ประกาศกับผู้โดยสารบนเครื่องบินว่า

    [ วินสุ ] :  “ตอนนี้เครื่องบินถูกพวกเรายึดไว้แล้ว พวกเราต้องการให้พวกคุณให้ความร่วมมือกับพวกเรา หากใครไม่ให้ความร่วมมือได้ลงไปเจอบรรพบุรุษของพวกแกแน่นอน’’


     

    เมื่อรู้ตัวว่าเครื่องบินถูกปล้นแล้ว ทางการจึงส่งทหารและตำรวจไปปิดล้อมเครื่องบินของผู้ก่อการร้าย ผู้ก่อการร้ายจึงประกาศบอกกับฝ่ายตำรวจว่า

    [ วินสุ ] :  “มาเจรจากันบนเครื่องบินและต้องขึ้นมาคนเดียวไม่อย่างนั้นจะฆ่าตัวประกันโชว์ให้ดูแน่นอน’’

     

    ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก ทางการจึงต้องหาตัวนักเจรจามา และต้องส่งเขาขึ้นเครื่องบินลำนั้นไปคนเดียว เมื่อขึ้นไปถึงก็โดนกลุ่มผู้ติดอาวุธ 2 คนเข้ามาล็อกตัวไว้และเตะขาของเขาทำให้นักเจรจาทรุดลง 

     

    หลังจากนั้น วินสุ เดินออกมาพร้อมยื่นแฟลชไดร์ฟให้กับนักเจรจา แล้วเขาก็รับมันมาด้วยความประหม่า เมื่อนักเจรจาตั้งสติได้แล้วจึงถาม 

    [ นักเจรจา ] : “พวกคุณต้องการอะไร?’’

    มังกร ย่อลงแล้วจ้องตานักเจรจาคนนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย 

    [ มังกร ] : “เอาไอนั่น(พร้อมชี้นิ้วไปที่แฟลชไดร์ฟบนมือของนักเจรจา) ไปให้ผู้พันของแก ง่าย ๆ’’
     

    แล้วผู้ก่อการร้ายทั้งสองคน พานักเจรจาลุกขึ้นแล้วเดินไปส่งที่หน้าประตูทางออก และปล่อยตัวนักเจรจาออกมาจากเครื่องบิน โดยการผลักนักเจรจาคนนั้นตกบันไดลงมา ทำให้เขาได้รับการบาดเจ็บเป็นอย่างมาก

    [หลังจากนั้นได้มีรถหุ้มเกราะคันใหญ่ของหน่วยรบพิเศษ เข้ามายังพื้นที่]

    [แมททิว] น้องเล็กสุดในหน่วยรบพิเศษนี่ ที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เข้าร่วมหน่วย และทำภารกิจนี้

    ทุกคนเดินลงจากรถหุ้มเกราะ 6 คน พร้อมกับชุดเกราะและอาวุธปืนครบมือ

     

    [ ร้อยเอก วิวเลี่ยม ] : “เป้ โอม บุกจากท้ายลำขึ้นมา แมท ฟิลิป ตามผมมา’’

    [ ร้อยเอก วิวเลี่ยม ] : “ภารกิจครั้งนี้ คือการช่วยตัวประกัน ระวังกระสุนทุกนัดที่ยิงออกไป— บาส! 

    รายงานสถานการณ์มา!!’’

     

    บาส ที่เป็นมือ sniper ส่องมาจากอาคารข้างๆ ตัวเครื่องบิน ซูมเข้าไปยังหน้าต่างเครื่องบิน

     

    [ บาส ] : “ยังมองไม่เห็นศัตรู ตัวประกันทุกคนนั่งอยู่นิ่งๆ’’

     บาส รายงานด้วยความใจเย็น
     

    หลังจากนั้น บาส ได้เหลือบไปเห็นระเบิดที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ติดตั้งไว้บนตัวประกัน


     

    [ บาส ] : “พวกมันติดตั้งระเบิด c4 ไว้ที่ตัวประกัน 3 คน โดยอยู่คนละห้องของเครื่องบิน’’

     

    เมื่อกล้องส่องไปที่ห้องส่วนหัวของเครื่องบิน บาส ได้สังเกตเห็นพนักงานบนเครื่องบินยืนอยู่เฉยๆเหมือนพยายามทำตัวให้นิ่งมากที่สุด เป็นจุดๆ และได้สังเกตพนักงานคนนึงถืออาวุธ เป็นปืนสั้น ขู่พนักงานคนอื่นอยู่


     

    [ บาส ] : “ศัตรูปลอมตัวเป็นพนักงานแอร์โฮสเตส พวกเขากำลังทำอะไรบางอย่างกับพนักงานคนอื่นๆ ระวังตัวไว้ด้วย’’

     

    [ วิวเลี่ยม ] : “รับทราบ— ทุกคนไปประจำตำแหน่ง ไป ๆๆ!!!!’’

    “Yes sir!!’’ ทุกคนขานตอบ และรีบวิ่งไปประจำตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย
     

    ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ช่วยตัวประกันที่สำคัญมากๆ เพราะว่ามีตัวประกันทั้งหมด 190 คน
     

    แมททิว ฟิลิป และวิลเลี่ยม กำลังเดินขึ้นบันไดทางประตูหน้าของเครื่องบิน เมื่อขึ้นไปถึงได้ครึ่งทาง 

    ผู้ก่อการร้ายได้ผลักศพตัวประกันตกบันไดลงมา พร้อมกับตระโกนลงมาจากในเครื่องบินว่า 
     

    [ ผู้ก่อการร้าย 1 ] : “ฮ่า ๆๆ ดูไอหมาล่าเนื้อน่าสมเพชพวกนี้สิวะ พวกแกไม่มีทางเข้าใจหรอกโว้ย!!’’
     

    [ ฟิลิป ] : “ไอสารเลว”

     

    จนทั้งสามคนขึ้นบันไดไปถึงประตูเครื่องบิน วิวเลี่ยมได้แปะระเบิดเพื่อที่จะพังประตูเข้าไป

    ตู้ม!! ประตูระเบิดกระเด็นเข้าไปข้างใน ควันจากระเบิดฟุ้งไปทั่วบริเวณนั้น และเริ่มจางลงอย่างรวดเร็ว
     

    ทั้งสามคน บุกเข้าไปในเครื่องบินหลังระเบิดประตูอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นเอง 

    จู่ ๆ ตัวประกันในห้องแรกที่อยู่ข้างหน้าต่างได้ยืนขึ้น และชักปืนขึ้นมาหวังยิงทั้งสามคน
     

    ปัง!! คนร้ายโดนพลสไนเปอร์ยิงจากทางหน้าต่าง ทำให้ทั้งสามคนตกใจและรีบหลบหลังที่กำบัง
     

    [ บาส ] : “ดูเหมือนว่าจะมีพวกมันหลบซ่อนในกลุ่มตัวประกัน งานนี้ยากมาก ระวังด้วย!!!” บาสเตือนทุกคน

    [ วิวเลี่ยม ] : “เฉียบมากบาส!!”

     

    วิวเลี่ยมหันหน้ามาหาทุกคนพร้อมหยิบระเบิดแฟรชแบงออกมา

    [ วิวเลี่ยม ] : “เตรียมบุกนับ 3 — 3…2…1” 

     

    วิวเลี่ยมโยนระเบิดแฟลชเข้าไปในห้องผู้โดยสาร

    ปัง!! เสียงระเบิดแฟลชดังขึ้นทั้งสามคนรีบบุกเข้าไปในห้อง 


     

    เจอผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มตัวประกันอีก 7 คนที่ลุกขึ้นมาเพื่อจะยิงทั้งสามคน 

    หนึ่งในนั้นจับตัวประกันตัวจริงมาใช้เป็นโล่มนุษย์ แต่ด้วยไหวพริบที่ดีของแมททิวนั้น ได้ยิงเข้าไปที่ศรีษะของผู้ก่อการร้ายคนนั้นอย่างแม่นยำ  จนทั้งหมดโดนทั้งสามคนเก็บเรียบ
     

    หลังจากนั้น แมททิวได้เหลือบไปเห็นผู้หญิงที่เหมือนกับพนักงานบนเครื่องบิน ยืนก้มตัวลง ตัวสั่นมาก และกำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว

     

    [ ฟิลิป ] : “ตอนนี้พวกคุณทุกคนปลอดภัยแล้ว ประตูหน้าสามารถออกไปได้ ให้ทุกคนค่อยๆทยอยออกได้เลย”

    ตัวประกันห้องแรกบนเครื่องบินหนีรอดออกไปได้ 57 คน

     

    เมื่อตัวประกันหนีออกไปกันจนหมด จึงเผยให้เห็นว่า เหลือแต่พนักงานที่ยืนนิ่งบนห้องเครื่องบินโล่งๆ พร้อมกับระเบิด C4 ที่ติดอยู่บนตัวของพนักงาน และยังมีเวลานับถอยหลังที่เหลืออีกแค่ 45 วินาทีอีกด้วย
     

    [ แมททิว ] : “กัปตัน! ดูนี่สิครับ” 
     

    วิวเลี่ยมรีบเดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้น และจับไปที่ระเบิด C4 ที่ติดอยู่บนตัวของพนักงาน เพื่อตรวจสอบ
     

    [ วิวเลี่ยม ] : “บ้าเอ้ย!!”

    วิวเลี่ยมหันมาหาทั้งสองคน

    [ วิวเลี่ยม ] : “พวกนายช่วยเขาได้มั้ย!!??”

    แมททิวเดินเข้าไปตรวจสอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือ (เหลือเวลาอีก 25 วินาที)

    [ วิวเลี่ยม ] : “นายช่วยเขาได้หรือป่าว?!”

    แมททิวที่พยายามหาทางช่วยอย่างร้อนรน เพราะระเบิด C4 มีการป้องกันที่หนาแน่มาก จึงไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ

    [ แมททิว ] : “ผมกำลังพยายามอยู่!!”

    วิวเลี่ยมเห็นท่าไม่ดี เขาทำหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็คิดว่า แมททิวไม่สามารถช่วยเธอได้ทันเวลาแน่นอน เมื่อเป็นแบบนั้น วิวเลี่ยมจึงตัดสินใจ ผลักแมททิวออกจากตัวพนักงานคนนั้น และดันตัวแมททิวและฟิลิปออกจากเครื่องบิน 

    แต่แมททิวพยายามขัดขืนเพราะเขาอยากช่วยพนักงานคนนั้นให้ได้

    [ แมททิว ] : “ไม่…ไม่! ท่านจะทำอะไร เราต้องช่วยเธอนะ”

    ขณะที่พูดร่างกายก็โดนวิวเลี่ยมและฟิลิปดันออกไปเรื่อย ๆ

    [ ฟิลิป ] : “เสียใจด้วยนะเพื่อน นายช่วยเธอไว้ไม่ทันแล้ว เราต้องรีบออกไปตอนนี้ ก่อนที่ระเบิดจะเอาแกไปเยี่ยมยมโลก”
     

    หลังจากนั้นทั้ง 3 คนวิ่งไปถึงประตูหน้าได้สำเร็จ แต่ไม่สามารถลงบันไดได้ทัน เครื่องบินก็ระเบิดขึ้น ตู้ม ๆ !!!!! ระเบิดทำงานต่อเนื่องตั้งแต่หัวเครื่องบินไปจนถึงท้ายเครื่องบินเกิดความเสียหายวงกว้างที่รุนแรงมาก 

    ซากเครื่องบินกระจายไปทั่วบริเวณนั้น

    ทั้ง 3 คนโดนแรงระเบิดผลักกระเด็นตกจากเครื่องบิน ตุบ!

    หลังจากนั้นสักพัก แมททิวเริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆลืมตาขึ้น เขาได้ยินเสียง วิ้ง~ สักพัก จนกระทั่งได้ยินชัดขึ้น 

    เขาได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาลและเสียงของผู้คนที่ชุลมุนทั้งทหารและประชาชน 

    สายตาของเขาพล่ามัว และมึนงง แต่ก็พอเห็นกลุ่มทหารพยาบาลที่กำลังช่วยเหลือพวกเขา

    [ ทหาร 1 ] : พาเขาขึ้นรถพยาบาลด่วน !!

    [ ทหาร 2 ] : พวกเขายังมีชีวิต รีบพาตัวไปเร็วเข้า !! 

    แล้วแมททิวก็สลบไปอีกครั้งถูกพาขึ้นรถพยาบาล……









     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น