Wolf company
หน่วยทหารที่พยายามกำจัดลัทธิที่มีผู้นำบ้าสงครามและอยากขึ้นมาเป็นใหญ่ พวกเขาจะต้องเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากแค่ไหน แล้วพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ รอติดตามได้เลย!!!
ผู้เข้าชมรวม
106
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Wolf company
ในปี ค.ศ. 2004 ณ สนามบินเชียงใหม่ ประเทศไทย
มีกลุ่มคน 4 คนแต่งชุดตำรวจเดินขึ้นบันได เพื่อเข้าไปตรวจภายในเครื่องบิน ซึ่งเป็นเครื่องบินลำใหญ่มีทั้งหมด 4 ห้อง โดย 2 คนเข้าไปตรวจหนังสือเดินทางของผู้โดยสาร และอีก 1 คนเดินฉีกออกไปยังห้องนักบิน ส่วนคนสุดท้ายยืนประกบอยู่ที่หน้าประตูเครื่องบิน
จนกระทั่งมีพนักงานสายการบินสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ จากตำรวจที่ติดอาวุธหนักขึ้นมาบนเครื่องบิน
เพราะโดยปกติตำรวจจะไม่พกอาวุธหนักขึ้นมาเพื่อตรวจบนเครื่องบิน จนกระทั่งหอควบคุมได้สังเกตเห็นจึงเกิดความสงสัยว่า ทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงไม่ขึ้นไปสักที และมีความล่าช้าผิดปกติโดยไม่แจ้งให้ทราบก่อน
ทันใดนั้น ตำรวจที่อยู่บนเครื่องบินก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงทั้ง 4 คน
คนแรกมีชื่อว่า วินสุ และ คนที่สองมีชื่อว่า มังกร ทั้งสองคือทหารรับจ้างมือดีที่รับใช้พวกนายจ้างใต้ดิน เพื่อทำภารกิจสกปรกและป่าเถื่อน ส่วนอีกสองคนลูกน้องที่ตามติดมาด้วย
แล้ว วินสุ ก็ได้ประกาศกับผู้โดยสารบนเครื่องบินว่า
[ วินสุ ] : “ตอนนี้เครื่องบินถูกพวกเรายึดไว้แล้ว พวกเราต้องการให้พวกคุณให้ความร่วมมือกับพวกเรา หากใครไม่ให้ความร่วมมือได้ลงไปเจอบรรพบุรุษของพวกแกแน่นอน’’
เมื่อรู้ตัวว่าเครื่องบินถูกปล้นแล้ว ทางการจึงส่งทหารและตำรวจไปปิดล้อมเครื่องบินของผู้ก่อการร้าย ผู้ก่อการร้ายจึงประกาศบอกกับฝ่ายตำรวจว่า
[ วินสุ ] : “มาเจรจากันบนเครื่องบินและต้องขึ้นมาคนเดียวไม่อย่างนั้นจะฆ่าตัวประกันโชว์ให้ดูแน่นอน’’
ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก ทางการจึงต้องหาตัวนักเจรจามา และต้องส่งเขาขึ้นเครื่องบินลำนั้นไปคนเดียว เมื่อขึ้นไปถึงก็โดนกลุ่มผู้ติดอาวุธ 2 คนเข้ามาล็อกตัวไว้และเตะขาของเขาทำให้นักเจรจาทรุดลง
หลังจากนั้น วินสุ เดินออกมาพร้อมยื่นแฟลชไดร์ฟให้กับนักเจรจา แล้วเขาก็รับมันมาด้วยความประหม่า เมื่อนักเจรจาตั้งสติได้แล้วจึงถาม
[ นักเจรจา ] : “พวกคุณต้องการอะไร?’’
มังกร ย่อลงแล้วจ้องตานักเจรจาคนนั้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย
[ มังกร ] : “เอาไอนั่น(พร้อมชี้นิ้วไปที่แฟลชไดร์ฟบนมือของนักเจรจา) ไปให้ผู้พันของแก ง่าย ๆ’’
แล้วผู้ก่อการร้ายทั้งสองคน พานักเจรจาลุกขึ้นแล้วเดินไปส่งที่หน้าประตูทางออก และปล่อยตัวนักเจรจาออกมาจากเครื่องบิน โดยการผลักนักเจรจาคนนั้นตกบันไดลงมา ทำให้เขาได้รับการบาดเจ็บเป็นอย่างมาก
[หลังจากนั้นได้มีรถหุ้มเกราะคันใหญ่ของหน่วยรบพิเศษ เข้ามายังพื้นที่]
[แมททิว] น้องเล็กสุดในหน่วยรบพิเศษนี่ ที่พึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เข้าร่วมหน่วย และทำภารกิจนี้
ทุกคนเดินลงจากรถหุ้มเกราะ 6 คน พร้อมกับชุดเกราะและอาวุธปืนครบมือ
[ ร้อยเอก วิวเลี่ยม ] : “เป้ โอม บุกจากท้ายลำขึ้นมา แมท ฟิลิป ตามผมมา’’
[ ร้อยเอก วิวเลี่ยม ] : “ภารกิจครั้งนี้ คือการช่วยตัวประกัน ระวังกระสุนทุกนัดที่ยิงออกไป— บาส!
รายงานสถานการณ์มา!!’’
บาส ที่เป็นมือ sniper ส่องมาจากอาคารข้างๆ ตัวเครื่องบิน ซูมเข้าไปยังหน้าต่างเครื่องบิน
[ บาส ] : “ยังมองไม่เห็นศัตรู ตัวประกันทุกคนนั่งอยู่นิ่งๆ’’
บาส รายงานด้วยความใจเย็น
หลังจากนั้น บาส ได้เหลือบไปเห็นระเบิดที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ติดตั้งไว้บนตัวประกัน
[ บาส ] : “พวกมันติดตั้งระเบิด c4 ไว้ที่ตัวประกัน 3 คน โดยอยู่คนละห้องของเครื่องบิน’’
เมื่อกล้องส่องไปที่ห้องส่วนหัวของเครื่องบิน บาส ได้สังเกตเห็นพนักงานบนเครื่องบินยืนอยู่เฉยๆเหมือนพยายามทำตัวให้นิ่งมากที่สุด เป็นจุดๆ และได้สังเกตพนักงานคนนึงถืออาวุธ เป็นปืนสั้น ขู่พนักงานคนอื่นอยู่
[ บาส ] : “ศัตรูปลอมตัวเป็นพนักงานแอร์โฮสเตส พวกเขากำลังทำอะไรบางอย่างกับพนักงานคนอื่นๆ ระวังตัวไว้ด้วย’’
[ วิวเลี่ยม ] : “รับทราบ— ทุกคนไปประจำตำแหน่ง ไป ๆๆ!!!!’’
“Yes sir!!’’ ทุกคนขานตอบ และรีบวิ่งไปประจำตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย
ภารกิจนี้เป็นภารกิจที่ช่วยตัวประกันที่สำคัญมากๆ เพราะว่ามีตัวประกันทั้งหมด 190 คน
แมททิว ฟิลิป และวิลเลี่ยม กำลังเดินขึ้นบันไดทางประตูหน้าของเครื่องบิน เมื่อขึ้นไปถึงได้ครึ่งทาง
ผู้ก่อการร้ายได้ผลักศพตัวประกันตกบันไดลงมา พร้อมกับตระโกนลงมาจากในเครื่องบินว่า
[ ผู้ก่อการร้าย 1 ] : “ฮ่า ๆๆ ดูไอหมาล่าเนื้อน่าสมเพชพวกนี้สิวะ พวกแกไม่มีทางเข้าใจหรอกโว้ย!!’’
[ ฟิลิป ] : “ไอสารเลว”
จนทั้งสามคนขึ้นบันไดไปถึงประตูเครื่องบิน วิวเลี่ยมได้แปะระเบิดเพื่อที่จะพังประตูเข้าไป
ตู้ม!! ประตูระเบิดกระเด็นเข้าไปข้างใน ควันจากระเบิดฟุ้งไปทั่วบริเวณนั้น และเริ่มจางลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งสามคน บุกเข้าไปในเครื่องบินหลังระเบิดประตูอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นเอง
จู่ ๆ ตัวประกันในห้องแรกที่อยู่ข้างหน้าต่างได้ยืนขึ้น และชักปืนขึ้นมาหวังยิงทั้งสามคน
ปัง!! คนร้ายโดนพลสไนเปอร์ยิงจากทางหน้าต่าง ทำให้ทั้งสามคนตกใจและรีบหลบหลังที่กำบัง
[ บาส ] : “ดูเหมือนว่าจะมีพวกมันหลบซ่อนในกลุ่มตัวประกัน งานนี้ยากมาก ระวังด้วย!!!” บาสเตือนทุกคน
[ วิวเลี่ยม ] : “เฉียบมากบาส!!”
วิวเลี่ยมหันหน้ามาหาทุกคนพร้อมหยิบระเบิดแฟรชแบงออกมา
[ วิวเลี่ยม ] : “เตรียมบุกนับ 3 — 3…2…1”
วิวเลี่ยมโยนระเบิดแฟลชเข้าไปในห้องผู้โดยสาร
ปัง!! เสียงระเบิดแฟลชดังขึ้นทั้งสามคนรีบบุกเข้าไปในห้อง
เจอผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มตัวประกันอีก 7 คนที่ลุกขึ้นมาเพื่อจะยิงทั้งสามคน
หนึ่งในนั้นจับตัวประกันตัวจริงมาใช้เป็นโล่มนุษย์ แต่ด้วยไหวพริบที่ดีของแมททิวนั้น ได้ยิงเข้าไปที่ศรีษะของผู้ก่อการร้ายคนนั้นอย่างแม่นยำ จนทั้งหมดโดนทั้งสามคนเก็บเรียบ
หลังจากนั้น แมททิวได้เหลือบไปเห็นผู้หญิงที่เหมือนกับพนักงานบนเครื่องบิน ยืนก้มตัวลง ตัวสั่นมาก และกำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว
[ ฟิลิป ] : “ตอนนี้พวกคุณทุกคนปลอดภัยแล้ว ประตูหน้าสามารถออกไปได้ ให้ทุกคนค่อยๆทยอยออกได้เลย”
ตัวประกันห้องแรกบนเครื่องบินหนีรอดออกไปได้ 57 คน
เมื่อตัวประกันหนีออกไปกันจนหมด จึงเผยให้เห็นว่า เหลือแต่พนักงานที่ยืนนิ่งบนห้องเครื่องบินโล่งๆ พร้อมกับระเบิด C4 ที่ติดอยู่บนตัวของพนักงาน และยังมีเวลานับถอยหลังที่เหลืออีกแค่ 45 วินาทีอีกด้วย
[ แมททิว ] : “กัปตัน! ดูนี่สิครับ”
วิวเลี่ยมรีบเดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้น และจับไปที่ระเบิด C4 ที่ติดอยู่บนตัวของพนักงาน เพื่อตรวจสอบ
[ วิวเลี่ยม ] : “บ้าเอ้ย!!”
วิวเลี่ยมหันมาหาทั้งสองคน
[ วิวเลี่ยม ] : “พวกนายช่วยเขาได้มั้ย!!??”
แมททิวเดินเข้าไปตรวจสอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือ (เหลือเวลาอีก 25 วินาที)
[ วิวเลี่ยม ] : “นายช่วยเขาได้หรือป่าว?!”
แมททิวที่พยายามหาทางช่วยอย่างร้อนรน เพราะระเบิด C4 มีการป้องกันที่หนาแน่มาก จึงไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ
[ แมททิว ] : “ผมกำลังพยายามอยู่!!”
วิวเลี่ยมเห็นท่าไม่ดี เขาทำหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็คิดว่า แมททิวไม่สามารถช่วยเธอได้ทันเวลาแน่นอน เมื่อเป็นแบบนั้น วิวเลี่ยมจึงตัดสินใจ ผลักแมททิวออกจากตัวพนักงานคนนั้น และดันตัวแมททิวและฟิลิปออกจากเครื่องบิน
แต่แมททิวพยายามขัดขืนเพราะเขาอยากช่วยพนักงานคนนั้นให้ได้
[ แมททิว ] : “ไม่…ไม่! ท่านจะทำอะไร เราต้องช่วยเธอนะ”
ขณะที่พูดร่างกายก็โดนวิวเลี่ยมและฟิลิปดันออกไปเรื่อย ๆ
[ ฟิลิป ] : “เสียใจด้วยนะเพื่อน นายช่วยเธอไว้ไม่ทันแล้ว เราต้องรีบออกไปตอนนี้ ก่อนที่ระเบิดจะเอาแกไปเยี่ยมยมโลก”
หลังจากนั้นทั้ง 3 คนวิ่งไปถึงประตูหน้าได้สำเร็จ แต่ไม่สามารถลงบันไดได้ทัน เครื่องบินก็ระเบิดขึ้น ตู้ม ๆ !!!!! ระเบิดทำงานต่อเนื่องตั้งแต่หัวเครื่องบินไปจนถึงท้ายเครื่องบินเกิดความเสียหายวงกว้างที่รุนแรงมาก
ซากเครื่องบินกระจายไปทั่วบริเวณนั้น
ทั้ง 3 คนโดนแรงระเบิดผลักกระเด็นตกจากเครื่องบิน ตุบ!
หลังจากนั้นสักพัก แมททิวเริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆลืมตาขึ้น เขาได้ยินเสียง วิ้ง~ สักพัก จนกระทั่งได้ยินชัดขึ้น
เขาได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาลและเสียงของผู้คนที่ชุลมุนทั้งทหารและประชาชน
สายตาของเขาพล่ามัว และมึนงง แต่ก็พอเห็นกลุ่มทหารพยาบาลที่กำลังช่วยเหลือพวกเขา
[ ทหาร 1 ] : พาเขาขึ้นรถพยาบาลด่วน !!
[ ทหาร 2 ] : พวกเขายังมีชีวิต รีบพาตัวไปเร็วเข้า !!
แล้วแมททิวก็สลบไปอีกครั้งถูกพาขึ้นรถพยาบาล……
ผลงานอื่นๆ ของ Mattymattjai ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mattymattjai
ความคิดเห็น