เครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น - เครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น นิยาย เครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น : Dek-D.com - Writer

    เครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น

    โดย >..MINNE..<

    เครื่องแต่งกายของคนญี่ปุ่น

    ผู้เข้าชมรวม

    2,721

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    2.72K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 พ.ย. 49 / 13:44 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      สาระพันเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น ๆ

      kimono กับ yukata แตกต่างกันอย่างไร
      ตอบ kimono มีหลายชั้นเวลาใส่ต้องมีความชำนาญ เนื้อผ้าทำจากผ้าไหมราคาแพง ส่วน yukata ส่วนใหญ่ทำจากผ้าฝ้าย และสามารถสวมใส่ได้ในฤดูร้อนมักใช้ในงานเทศกาล มาดูเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่น ๆ กันว่าแต่ละอันเรียกว่าอะไรจะได้เรียกกันได้ถูกต้องนะคะ


      kimono

      shiro maku

      uchikake

      obi

      yukata

      nagajugan

      gi

      hakama

      haori

      michiyuki

      samue

      geta

      Kimono ถ้าแปลตามตัวอักษรคันจิจะแปลว่า "เครื่องนุ่งห่ม,เสื้อผ้า,เครื่องอาภรณ์" และมีวิวัฒนาการความเป็นมาที่ยาวนานคู่กับประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่สมัยโบราณ และเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายจนกระทั่งกลยเป็นภาพติดตาเมื่อกล่าวถึงประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องนึกถึงภาพคนญี่ปุ่นในชุดกิโมโนที่สวยงาม Kimono มีหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันแล้วแต่โอกาสในการใส่ และเปลี่ยนรูปแบบไปตามฤดูกาล รวมถึงการสวมใส่ของแต่ละคน แต่ละเพศ แต่ละวัยก็ทำให้ Kimono เปลี่ยนรูปแบบไปต่าง ๆ

      Kimono - กิโมโน

      ปัจจุบันผู้ที่สวมใส่ Kimono ไม่ได้มีเพียงแต่คนแก่เท่านั้น วัยรุ่นก็ต้องใส่ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น วันฉลองอายุครบ 20 ปี , วันจบการศึกษา (ในบางโรงเรียน) เป็นต้น Kimono เป็นชุดที่มีราคาค่อนข้างสูง จึงนิยมมอบให้เป็นมรดกตกทอดแก่ลูกหลานอีกด้วย แต่ก็มีคนรุ่นใหม่ไม่น้อยที่ไม่สามารถสวมกิโมโน หรือผูกโอบิได้ถูกต้อง จึงได้มีโรงเรียนสำหรับสอนการสวมใส่กิโมโนเกิดขึ้น เนื้อผ้ากิโมโนนั้นมีทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหมแต่ถ้าเป็นไหมก็จะสวยงามมาก และราคาอาจจะสูงถึง ล้านเยน เลยก็มี

      ส่วนประกอบของกิโมโน

      yuki - แขนเสื้อ doura - ซับในส่วนบน sodetsuke - แนวตะช่องแขนเสื้อ
      ushiromigoro - เส้นแบ่งส่วนหลัง fuki - ชายกิโมโน sode - แขนเสื้อ
      uraeri - ปกเสื้อด้านใน okumi - แผ่นคอเสื้อด้านหน้า miyatsukuchi - ช่องเปิดใต้แขน
      furi - ชายใต้แขนเสื้อ tomoeri - ปกเสื้อ eri - ปกเสื้อ
      susomawashi - ตะเข็บ maemigoro - สาบเสื้อด้านหน้า tamoto - โพลงใต้แขนเสื้อ

      Nagajugan - ชุดชั้นในสำหรับกิโมโน ใช้สวมใต้กิโมโน ส่วนใหญ่จะเป็นสีขาวเนื้อผ้าบางเบา

      Uchikake - ใช้สวมทับกิโมโนเมื่อต้องทำพิธีรีตองอย่างเป็นทางการ เช่น พิธีแต่งงาน เป็นต้น

      Shiro-maku - (shiro = ขาว , maku = บริสุทธิ์) กิโมโนสำหรับใส่ในงานแต่งงาน

      เมื่อพูดถึงเครื่องนุ่งห่มของชาวญี่ปุ่น หลายคนต้องนึกถึงชุด กิโมโน (KI MONO) แต่ชาวญี่ปุ่นจะสวมชุดกิโมโน ในโอกาสสำคัญบางโอกาส คือ พิธีบรรลุนิติภาวะ, งานแต่งงาน และพิธีเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษา เท่านั้น นอกจากนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่นิยมใส่กิโมโนไปในพิธี แต่โดยทั่วไปแล้วมักใส่ชุดเช่นเดียวกับชาวยุโรปทั่วไป ซึ่งชุดต่าง ๆ เหล่านี้ ถูกนำเข้าที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคสมัยเมจิ (MEIJI ERAS) นับจากนั้นมาเสื้อผ้าแบบฝรั่งกลับเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่นมากกว่ากิโมโน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่วัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง จะนิยมใส่ยีนส์กันมาก กิโมโน ถือว่าเป็นชุดญี่ปุ่น (WAFUKU) เป็นเสื้อผ้าที่ตัดเป็นเส้นตรงเย็บจากผ้ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่ว่าจะเป็นคนสูง - เตี้ย - อ้วน - ผอม สามารถใส่ชุดกิโมโนได้สบายได้สบาย ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นข้อดีของกิโมโนเพราะตัดเพียงขนาดเดียวสามารถนำมาใส่ได้หมาะสมกับรูปร่างคนใส่ได้ทั้งหมด

      ชุดกิโมโนอาจมีกำเนิดมาเช่นเดียวกับ ผ้า FUROSHIKI ซึ่งนำมาใช้ห่อของ แต่กลับนำมาห่อหุ้มร่างกาย แต่ชุดกิโมโนชุดใหญ่ที่นำมาใส่ในพิธีสำคัญ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีบรรลุนิติภาวะ เป็นชุดที่มีราคาแพงมากบางชุดมีมูลค่าสูงเป็นหลายล้านเยนทีเดียว ดังนั้นการเลือกสีและลายจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก เนื่องจากว่าต้องสามารถนำชุดที่มีราคาแพงมาใส่ได้แม้ว่าเวลาผ่านไปหลายปี และผู้ใส่มีอายุสูงขึ้นแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันนี้กิโมโนแทบจะไม่มีผู้ใส่แล้วเนื่องจากใส่ยาก, ใส่แล้วอึดอัด ต้องคอยระมัดระวังไม่สามารถทำตัวตามสบายได้ รวมถึงราคาสูงมาก เป็นต้น แต่ชุดกิโมโนที่ยังมีอยู่นิยมใส่อยู่คือ ชุด YUKATA

      ชุด YUKATA เป็นชุดกิโมโนประเภทหนึ่งทำด้วยผ้าฝ้ายสำหรับใส่ในฤดูร้อน เมื่อเทียบกับชุดกิโมโนอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ตัดเป็นผ้าไหมแล้ว ชุดยูกาตะมีราคาถูกสามารถซักทำความสะอาดได้ง่าย จึงมีผู้นิยมใส่กันอยู่ โดยเฉพาะเด็ก ๆ แทบจะทุกคนเคยสวมชุดยูกาตะ รำวงญี่ปุ่นที่เรียกว่า "BON ODORI" ในตอนสวมชุดกิโมโน ต้องสวมถุงเท้าที่เรียกว่า "ZORI" และรองเท้าเกี๊ยะ ที่เรียก "GETA" "สวมใส่ยูกาตะต้องสวม GETA" ในอดีตจนถึงราวทศวรรษที่ 1950 ชาวญี่ปุ่นสวมรองเท้าเกี๊ยะกับเสื้อผ้าทั่วไป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาแม้ในเมืองจะพบเห็นร้านขายรองเท้าเกี๊ยะ และมีคนขายนั่งทำรองเท้าเกี๊ยะอยู่ในร้านด้วยแต่ในปัจจุบันนี้ร้านรองเท้าเกี๊ยะแทบจะไม่ได้พบเห็นหลังจากวัฒนธรรมจากตะวันตกเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ได้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นให้หายไปทีละน้อย จนแทบจะไม่สามารถพบเห็นกันได้ง่าย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่หน้าเสียดายมาก

      Yukata - กิโมโนสำหรับใส่ในฤดูร้อน หรือใส่ลำลอง


       

      อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โอบิ, รองท้อง (geta) , ถุงเท้า ฯลฯ

      Haori - เสื้อแจ๊คเกตสำหรับสวมทับกิโมโน ใส่ได้ทั้งชายและหญิง มักจะสวมเมื่อต้องออกไปข้างนอก เนื่องจากกิโมโนราคาแพงจึงต้องสวม Haori เพื่อป้องกันกิโมโนเปื้อน สาบเสื้อด้านหน้าจะไม่ผูกให้ชนกัน แต่จะมีเชือกสำหรับผูกอยู่ด้านหน้า

      Haori - เสื้อแจ๊คเกตสำหรับสวมทับกิโมโน

      Michiyuki - เป็นเสื้อสำหรับสวมด้านนอกเช่นกัน ลักษณะการใช้งานจะคล้ายกับ Haori จะแตกต่างกันตรงคอเสื้อจะเป็นรูปสี่เหลี่ยม

      gi - เสื้อที่ใส่คู่กับ hakama สำหรับผู้ชาย gi นั้นใช้สวมเป็นเสื้อเมื่อเล่นกีฬาต่าง ๆ
      ไม่ว่าจะเป็น kendo, judo, ยิงธนู, akido เป็นต้น

      Hakama - กางเกง สามารถใส่ได้ทั้งหญิงและชาย ใช้สวมใส่ลำลอง หรือพิธีการ
      หรือแม้แต่ใช้ในการแข่งขันกีฬาไม่ว่าจะเป็น kendo, ยิงธนู ฯลฯ

      Link of Hakama :: kendo uniform

      Samugi (Samue) เป็นเครื่องแต่งกายที่ทำจากผ้าฝ้าย สวมใส่สบาย ใช้สวมใส่ขณะทำงานที่อาจจะต้องมีเหงื่อ เช่น งานเสิร์ฟอาหาร, ทำสวน, ออกกำลังกาย หรือบางคนก็ใส่อยู่บ้านก็ได้ ในสมัยก่อนเป็นเครื่องแต่งการของพระแต่ปัจจุบันนิยมสวมใส่ในคนทั่วไป

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×